Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto ที่ เมษายน 10, 2016, 08:53:28
-
ถ้าอย่างTOYOTA ผมเคยเห็นมาแล้วเพราะเคยฝึกงานอยู่ที่นั่น สำนักงานใหญ่สมัย 20 กว่าปีก่อนโน้นเขาก็จะส่งช่างประจำดีเลอร์เข้ามาอบรมตลอดมีอาจารย์สอนช่างเทคนิค มีคู่มือแจกจ่ายเพื่อให้ทันการเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ ถ้ามีการออกนวัตกรรมใหม่ ๆ เป็นหน้าที่ของศูนย์ที่ต้องส่งช่างเข้ามาเรียนอบรมที่สำนักงานใหญ่มีที่พักโรงแรมให้ อาหารฟรี ส่วนตามวิทยาลัยเทคนิคก็จะไม่อบรมแต่จะแจกเอกสารความรู้เบื้องต้นให้พร้อมบริจาคสื่อให้ตามความเหมาะสมในแต่ละแห่งและตามงบประมาณขณะนั้น รวมถึงทำโฆษณาในรุ่นที่ขายไม่ดีเพื่อให้นักศึกษารู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ต่อมาทางTOYOTA เล้งเห็นการขาดแคลนช่างเทคนิคที่มีความรู้เฉพาะด้าน ด้วยสถาบันอาชีวที่เปิดสอนช่างเทคนิคไม่สามารถผลิตช่างเทคนิคที่มีความรู้เพียงพอได้และไม่รงกับความต้องการของบริษัท ไม่สอดรับกับเทคโนโลยที่เปลี่ยนแปลงไป ทางTOYOTA จึงเปิดสอนโรงเรียนเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้าขึ้นที่สุวินทวงศ์เพื่อผลิตช่างเทคนิคที่ตรงความต้องการของผลิตภัณท์ที่ผลิตออกไปสู่ตลาดและรองรับตำแหน่งงานที่เกิดขึ้นในศูนย์บริการในอนาคต โดยนักศึกษาที่จบไปแล้วมีงานทำทันทีกับศูนย์บริการ โดยTOYOTA เลือกที่จะไปลงทุนเปิดโรงเรียนที่นั่นแทนที่จะสนับสนุนทางกรมอาชีวศึกษาแบบเดิม ที่ได้ผลน้อยกว่า
อยากรุ้ทางฟอร์ดทำอย่างไรกับการอบรมช่าง เทคโนโลยีของฟอร์ดค่อนข้างไปไกลแต่บ่อยครั้งที่ช่างในศูนย์ไม่สามารถวิเคราะห์อาการของรถได้ ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้นเป็นประจำรวมถึงการสื่อสารระหว่างลูกค้า ซึ่งผมมองว่าฟอร์ดควรต้องแก้ปัญหาที่ตัวเองก่อนให้ได้
ถ้าเป็น GM จะมีศูนย์ Power Trainประเทศไทย คอยสอนช่างเทคนิคแต่ปัญหาคือศูนย์นี้ยังแก้ปัญหาให้ลูกค้าไม่ได้ เกียร์ออโตที่ดูในเนตศูนย์นี้ก็ไม่ซ่อม ลูกค้าซ่อมเองข้างนอกดีกว่า ทำให้ GM ยากที่จะกลับมายืนในตลาดนี้อีก
-
คิดว่าน่าจะมีครับ แต่ความต่อเนื่องมีหรือไม่อันนี้คิดว่ายังไม่มีครับ รวมถึงการรักษาบุคลลากรช่างที่เชี่ยวชาญไว้ให้อยู่นานๆไม่แน่ใจทำได้ขนาดไหนเพราะเกี่ยวข้องกับสวัสดิการ
-
มีครับ แต่ปัญหาที่เจอมันไม่ได้มีในตำรานี่สิ
ประมาณว่าคนสอนยังไม่รู้มันเป็นอะไร
อีกอย่างคนที่บอกอู่นอกเก่งกว่า ผมว่าก็ไม่เสมอไปหรอกครับ
แต่อู่นอกถูกกว่าแน่นอนและมีรถมาให้ทดลองมากกว่า. ถ้าอู่นอกเจอเคสหนักๆงงๆก็ไล่ไปเข้าศูนย์อยู่ดี
-
ผมว่าอาจจะเป็นที่รักษาคนไว้ไม่ได้ส่วนหนึ่ง
จะว่าไป เทคโนโลยีที่ใช้ก็ใช่ว่าจะใหม่ทั้งหมด
ฟอร์ดควรทำได้ดีกว่านี้ครับ
-
วันนี้ไปโตโยต้านนท์สาขารัตนา เช็คระยะ ช่าง ทำอะไรหกใส่ฝาครอบเครื่องรีโว่ผมเป็นรอยด่างเลย กลับมาบ้านพึ่งเห็นเดี๋ยวฟ้อง TMT ซะหน่อย
-
สำหรับที่ใช้งานมาหลายยี่ห้อผมไม่ได้มองว่าเทคนิคการซ่อมโตโยต้าจะดีกว่ายี่ห้ออื่นเลยครับ แต่ผมกลับมองว่าตัวรถปัญหาน้อยมากกว่า ลำพังตอนนี้แค่เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกับเช็คระยะที่ศูนย์โตโยต้า เค้าก็ทำกันไม่ไหวแล้วครับรถเยอะงานแยะ ถ้าเค้ามาเจอรถมีปัญหาแบบยี่ห้ออื่นผมว่ามันก็คงไม่ต่างกัน
-
การเรียนรู้ผมว่าฝึกฝนให้ทัดเทียมกันได้ ระบบที่ซับซ้อนกว่าและฝึกฝนช่างจนชำนาญก็ถือว่าเก่งแล้ว บางเรื่องตอนสอนไม่รู้หรอกครับว่าจะต้องทำยังไง บางทีก็ต้องอาศัยหน้างานเพื่อเรียนรู้ต่อเนื่อง
เคยสงสัยกันไหม บางทีแค่เครื่องใช้ไฟฟ้าเสีย เรามองหาแทบตายไม่รู้ว่าอะไรเสีย แต่พอยกซ่อมร้านช่างมองหรือฟังเสียงแป๊บเดียว ซ่อมเสร็จใช้งานได้เลย นี่แหละความสามารถเชี่ยวชาญเฉพาะตัวที่อะไรก็สอนกันไม่ได้ง่ายๆ
-
ทุกที่จะต้องมีนั่นแหละครับ แต่ผมมองเรื่องความสม่ำเสมอมีไหม ในสมัยผมเป็นวิศวกร รับวิศวกร รับช่างมาทำงาน ผมจะต้องให้มีการอบรมจากวิทยากร ในแทบทุกกรณีที่เกี่ยวกับงาน รวมถึงบางอย่างที่มองว่าต้องมี รวมทั้งทัศนคติการทำงาน ผมก็ต้องยัดให้ และที่สำคัญเลยคือ เราสามารถรักษาบุคลากร ที่มีคุณภาพเหล่านี้ให้อยู่กับเราได้ไหม กว่าจะ เจียรไน เพชรเหล่านี้ได้สักเม็ดหนึ่งแทบพลิกแผ่นดินหา แล้วไอ้เพชรเหล่านี้ใครๆก็อยากได้ จะรักษาเขาให้อยู่กับองกรณ์ได้หรือไม่นี่ก็สำคัญมาก ผมมองว่าฟอร์ดเล็งเห็นความสำคัญในด้านประสิทธิภาพของบุคลากรนี้มากแค่ไหน เพราะคนข้างนอกอย่างพวกเรายังบอกว่าช่างฟอร์ดไม่เก่ง แก้ปัญหาไม่ตก หรืออะไรต่างๆนานา ผมบอกเลยช่างเริ่มแรกไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง แต่ประสบการณ์ และพื้นฐานที่ถูกต้องที่เราป้อนให้ไปจะสั่งสมให้เขาเป็นคนเก่งในแบบของเขาเอง คำถามคือฟอร์ดจริงจังที่จะทำมันหรือยัง เพราะผมชอบรถฟอร์ดมากและเชื่อว่าหลายๆคนในที่นี้ชอบ แต่ปัญหาเดียวที่ผมไม่ซื้อรถฟอร์ดคือการแก้ปัญหาของศูนย์บริการ แค่นั้น
-
ถามเชฟด้วยสิ เจอแต่ช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง วิเคราะห์อาการไม่เป็น
-
ช่างโตโยต้าไม่ได้พิเศษกว่าช่างฟอร์ดเลย แต่สิ่งที่ผมคิดว่าต่างคือระบบการทำงาน ของโตโยต้าจะเป็นระบบกว่า รัดกุมกว่า พนักงานรู้หน้าที่ตัวเอง และการทำงานร่วมกันคนอื่นมากกว่า แต่เรื่องช่างไม่เก่งกว่ากันเลย คอมพิวเตอร์ก็มีเหมือนกัน เสียบคอมเข้าเช็ค เบื้องต้นก็ไม่ต่างกัน รุ่นฟอร์ดที่มีขายในไทย ก็มีแค่ไม่กี่รุ่น หลักๆ แค่ Fiesta, Focus, Ranger แค่นี้ไม่ได้เยอะเลย ผมว่าคุณกังวลไปเองด้วยส่วนนึงครับ ข่างฟอร์ดไม่ใช่ไม่รู้เรื่อง เพียงแต่คุณภาพของ Ford มันไม่สม่ำเสมอเท่าโตต้า
-
คำถามคือฟอร์ดจริงจังที่จะทำมันหรือยัง เพราะผมชอบรถฟอร์ดมากและเชื่อว่าหลายๆคนในที่นี้ชอบ แต่ปัญหาเดียวที่ผมไม่ซื้อรถฟอร์ดคือการแก้ปัญหาของศูนย์บริการ แค่นั้น
แทงใจดำครับ
-
มีแน่นอนครับ ศูนย์อยู่แถวบางนา ถ้าผมจำไม่ผิด
ช่าง เปลี่ยนบ่อย ทำให้ไม่มีคนรู้จริงซะที
-
ฟอร์ดก็มีอบรมตามมาตราฐานแหล่ะ แต่ผมว่าคู่มือต่างๆ ที่แจกให้ช่างไปศึกษาเองด้วยคงอ่านยากจนช่างขี้เกียจอ่านจนกลายเป็นการซ่อมบำรุงที่ต่ำกว่ามาตราฐานหน่อย ขนาดคู่มือประจำรถที่แจกให้กับลูกค้ายังอ่านยากสุดๆ เลย ผมนี่อ่านซ้ำแล้วซ้ำอีกก็ไม่เข้าใจว่ามันตั้ง auto lock ให้กับ ranger ยังไง จนต้องไปหาความรู้เพิ่มเติมเองในคลับ - -"
-
ผมก็สงสัยว่าอบรมมายังไงครับ จากที่เคยเจอพูดเป็นอยู่อย่างเดียวว่าเสียบคอมแล้วไม่เจออาการ ทั้งที่ดูเห็นอาการอยู่ต่อหน้า
เช่น เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเสีย แสดงอาการว่าอุณหภูมิหนาวมาก(เมืองไทย -10 องศา) เห็นอยู่ชัด ๆ ช่างบอกเสียบคอมแล้วไม่เจออาการสุ่มเปลี่ยนสารพัดอย่างทั้งทีอาการมันดูก็รู้ว่าเซ็นเซอร์เสีย บอกให้เปลี่ยนก็ดื้อไม่ยอมเปลี่ยนสักที
-
ถามเชฟด้วยสิ เจอแต่ช่างเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง วิเคราะห์อาการไม่เป็น
เชฟอย่างที่ผมบอกไปด้านบน อ่านในเนตถึงการแก้ปัญหาของศูนย์อบรม GM Power Train ผมยังหมดศรัทธาเลยกับศูนย์ฝึกอบรมศูนย์ใหญ่ยังแก้ปัญหาไม่ได้แถมไม่ซ่อมเกียร์ให้ลูกค้าเพราะไม่มีนโยบายซ่อมเกียร์รุ่นนี้อีกแล้ว ยังไงลูกค้าก็ไม่มีความมั่นใจจะซื้อรถอีกรวมถึงการบริการที่จะมีต่อต่อไปด้วย
-
น่าจะเรียนรู้เท่ากัน
แต่ toyota มีแบบฝึกหัดคือรถให้เรียนรู้มากกว่า. คันแรกเสียมาก็อาจจะต้องเปิดตำรา พอคันที่10 เสียแบบเดิมก็ไม่ต้องเปิดตำราแล้ว ส่วน ford. มีแบบฝึกหัดให้ทำน้อย คนซื้อรถน้อย เจอทีเดียวโจทย์หินเลยเปิดตำราไม่ทัน 555
-
ดูจากเงินเดือนช่างสิครับ เงินเดือนก็แสดงถึงแรงจูงใจในการหาคนเก่งมาทำงาน
เงินเดือนช่างแบบนี้แต่จะให้ความสามารถเก่งแบบวิศวกรแนวหน้าก็ยากครับ ความสามารถสูงขนาดนั้นจะยอมมาทำงานเดือนน้อยทำไมครับ
-
ผมเองก็เคยฝึกงานอยู่ดีลเลอร์โตโยต้าสมัยเรียน ปวช. พอตอนป.ตรี มีเหตุต้องไปอบรมเรื่อง formula Student ที่จุฬาฯ ก็ได้มีโอกาสเห็น workshop ของสาขาวิศวกรรมยานยนต์ ซึ่งทางจุฬาได้บริจาคเครื่อง รถยนต์ที่ใช้ฝึก รวมทั้งวางแนวทางให้เป็นต้นแบบของโรงเรียนอาชีวศึกษา เลยกลายเป็นว่า เด็กช่างยนต์ตั้งแต่ ปวช.หรือแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยที่มีสาขาวิศวกรรมยานยนต์ จะมีแต่เครื่องโตโยต้าใช้สอน อาจารย์ก็จะได้รับการอบรมจากโตโยต้า รวมทั้งการเปิดหลักสูตรทวิภาคี(ซึ่งแต่ก่อนเบนซ์เองก็เคยทำ แต่เลิกไปแล้ว ปัจจุบันน่าจะเหลือโตโยต้าและมีแค่บางสถาบันที่ร่วมมือ) ก่อนที่โตโยต้าเองจะตัดสินใจเปิดโรงเรียนของโตโยต้าเองในระดับ ปวส. ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำที่ฉะเชิงเทรา เลยโรงงานที่เกตเวย์ไปนิดเดียว เพื่อตอบสนองการขยายตัวของดีลเลอร์ และทางดีลเลอร์เองถ้าต้องการเด็ก ก็สามารถทำข้อแลกเปลี่ยนเป็นทุนการศึกษาตลอดหลักสูตรแลกกับสัญญาจ้างงานกี่ปีก็ว่าไป ซึ่งบริษัทอื่นๆแทบไม่ได้ทำในส่วนนี้ หรือถ้าช่วย ก็ช่วยแค่เรื่องอะไหล่ในการฝึกสอน แต่ลืมให้ Know How กับอาจารย์ตามโรงเรียน เลยกลายเป็นว่า เครื่องใหม่ๆที่บริจาคไป ก็ได้แต่สอนในส่วนของภาคทฤษฎี ไม่ได้ถูกรื้อเพื่อสอนและวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ถูกบริจาคมา ซึ่งภาระของเด็กที่จบไปก็ตกไปอยู่กับฝ่ายฝึกอบรมของบริษัทรถยนต์นั้นๆ ผมมองว่าฟอร์ดเองมาเจอวิกฤติการณ์คลัตช์คู่บรรลือโลกก่อน เลยทำให้ชื่อเสียหนักมาก ประกอบกับช่างแก้ปัญหาไม่จบ เนื่องจาก defect ประจำตัวซึ่งบริษัทแม่เองก็แก้ไม่ได้ เลยกลายเป็นหนักเลย เลยกลายเป็นว่าต้องเอาใจช่วยว่า โฟกัส Ecoboost ที่มานั้น จะกอบกู้ความั่นใจคนได้ไหม อย่างน้อยๆจะได้มีเงินเอามาปรับปรุงด้านการบริการที่ดี รวมทั้งฝ่ายอบรมทางเทคนิค ถ้าเก๋าเกมส์กว่านี้ ผมว่าฟอร์ดจะกลายเป็นรถที่น่าใช้ทันที ไหนๆก็พูดซะยาว ถ้าใครทำงานอยู่ฝ่ายฝึกอบรม ยังไงก็อย่าแค่บริจาคเครื่องมือหรือเพียงแค่เครื่องฝึกสอนให้โรงเรียนอาชีวะข้างนอกอย่าเดียว ให้ความรู้อาจารย์สอน เปิดอบรมเทคโนโลยีใหม่ๆได้อาจารย์ที่สอนเด็กกลุ่มนี้เรื่อยๆด้วยเถอะครับ อย่างน้อยๆของที่ท่านบริจาคไป จะได้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เด็กจบออกมามีความรู้เรื่องรถรุ่นใหม่ๆ ปัญหาแบบนี้จะได้ไม่เกิด ขอบคุณครับ
-
ผมก็ไม่ทราบว่าช่างฟอร์ดเขาอบรมกันอย่างไร
แต่เอาเคสเพื่อนผมมาให้ดู สดๆร้อนๆ เมื่อ 2 วันก่อน
แล้วลองอ่านความในใจของเขาดู
ผมเห็นแล้วผมยังแค้นแทน ขนาดไม่ใช่รถผม
นี่คือรถที่ผู้หญิงคนนึงซื้อรถมาใช้ ระยะเวลาไม่ถึง 2 ปี ทำไมมันถึงได้พังขนาดนี้
ผมคงไม่ต้องไปเทียบกับช่างยี่ห้ออื่น เพราะผลงานมันบ่งบอกทุกอย่าง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผมเห็นรถเพื่อนผมพังแล้วพังอีก ได้แต่ระบายลง facebook
ได้แต่ตัดพ้อถึงขนาดจะไปให้อู่นอกดู แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะมันจะหมดประกันทันที
เลยต้องทนซ่อมที่ศูนย์ที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แล้วมันจะฝากอนาคตไว้ได้อย่างไร
ผมเคยบอกหลายทีแล้วรถมีดีเฟคได้ เสียได้ แต่ต้องซ่อมให้จบให้ได้
(http://www.uppic.org/image-5251_570B3B46.jpg)