Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sengausa ที่ พฤษภาคม 17, 2016, 09:34:53
-
อยากสอบถามกับทุกท่านว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกับการผ่อนรถ 84 เดือนบ้างครับ เหตุผลที่ผมพอจะนึกออกก็มีประมาณนี้ครับ
1. แล้วแต่ความจำเป็นของแต่ละคน มีเงินดาวว์ไม่เยอะ เงินผ่อนต่อเดือนจำกัด ไม่มองที่ค่าดอกเบี้ยที่เสียไป
2. มีงานที่มั่งคงอยู่แล้ว รายได้ต่อเดือนพอที่จะส่ง 84 เดือน ได้แบบสบายๆ ไม่บีบตัวเองด้วยค่าผ่อนที่มากเกินไป
3. เก็บเงินต่ออีกนิด เลือกที่ 48 - 60 เดือน ดีกว่า เพราะถ้าเกิน 5 ปี รถจะเริ่มมีค่าใช้จ่ายซ่อมแซมอีก
4. เห็นว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะเสียดายค่าดอกเบี้ยที่อาจจะเพิ่มขึ้นเกิน 1 แสนบาท
5. อื่นๆ ครับ
ปล. ผมก็กำลังมีความคิดที่จะผ่อน 84 เดือน เพราะ เงินดาวว์ไม่เยอะ เงินผ่อนไม่เกิน 8 พันบาท ครับ
-
ผมผ่อน 72 เดือนก็ว่านานแล้วนะ
-
เต็มที่ 48 เดือนครับ 84 ยาวไปครับ :D :D :D
-
ถ้ามีรถใช้อยู่แล้วอย่ารีบ
โดยให้ใช้หลัก ดังนี้
เปิดปัญชีเก็บเงินดาวน์ที่เรามีไว้ก่อน
เก็บเงินผ่อน เข้าบัญชี(ต้องมีระเบียบวินัยมากๆ) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยทนใช้คันเก่าไปเรื่อยๆ
ถ้าผ่านไป 1 ปี ก็เท่ากับเราลดการผ่อนได้ 1 ปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ทนได้ 3 ปี เป็นเงินดาวน์ก้อนโตเชียวนะ ซึ่งช่วยลดดอกเบี้ยได้อีกโข
จากนั้น ก็ดาวน์เยอะ ส่งงวดน้อย ได้เลย
ถ้าไม่มีรถใช้ และจำเป็นเพราะมีครอบครัวและสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็ไม่ว่ากัน
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ก็คงเป็นหนทางเดียว
-
อยู่ที่กำลังทรัพย์ของคุณครับ คุณวางแผนไว้ 84 แล้วมันสบาย แล้วมีเหตุต้องใช้รถตอนนี้ ก็ทำได้ แต่ถ้าทำแบบ 5 ปีได้ ไม่ติดขัดอะไรก็แนะนำแบบ 5 ปีดีกว่าจะได้ตรงตามเวลาที่อยากจะเปลี่ยนพอดี ถ้าคิดจะเปลี่ยนคันใหม่เราก็สามารถเปลี่ยนได้ในปี ที่ 6 7 8 อะไรประมาณนี้
-
ปัญหาคือดอกเบี้ยที่บานตะไทนะสิครับ ลองคำนวณดูสิครับระหว่าง 72 เดือนกับ 84 เดือน ส่วนต่างของดอกเบี้ยมันเยอะมากๆเลย ถ้าเป็นไปได้เก็บเงินเพิ่มเงินดาวน์เพื่อลดค่างวดแต่ละเดือนลงในที่ส่งไหวหรือลดรุ่นลงมาเคยเห็นบางคนเอารุ่นท็อปแต่ผ่อนยาวๆอย่างนี้เอารุ่นรองๆลงมาดีกว่า
-
48 เดือนเต็มที่ครับ
ผ่อน 84 เดือนนี่นานมาก
เบื่อที่จะจ่าย กว่าจะหมดกว่าจะสบายใจนานไป
ดอก 84 เดือน เยอะมากนะครับ เติมน้ำมันได้เป็นปีๆ
-
84 เดือนนานไปครับ.....นานมาก
- เอาค่าผ่อน 84 เดือน+เงินดาวน์ ลบด้วยราคารถส่วนต่างเท่าไรครับ ตัวเลขน่าจะสูงมากๆ
- เผื่ออนาคตอยากเปลี่ยนคันหรือมีปัญหาที่ผ่อนไม่ได้แล้วเวลาขายรถเพื่อปิดยอด ไฟแนนซ์ท่วมท้นเลยนะครับ
- สำหรับผมผ่อนเต็มที่ 60 ก็พอครับ ถ้าเกินกว่านี้ถือว่าเราต้องไปปรับลดสเป็ครถหรือเก็บดาวน์เพิ่มดีกว่า
-
ผ่อนที่นานที่สุดที่ดอกเบี้ยไม่เกิน3%
84เดือนถ้าดอกไม่เกิน 3% ถ้วน ก็คุ้ม แต่ถ้า 3.1ขึ้นไปบ๊ายบาย
เพราะฉนั้น อย่าผ่อน84 ถ้าดอกไม่น้อยจริงๆ
-
แล้วแต่ความสามารถแต่ละคนครับ บางคนเขามีความจำเป็นต้องมีรถไว้ทำมาหากินแต่เงินมีน้อยจึงดาวน์น้อยและผ่อนนาน บางคนมีเงินเยอะอาจจะผ่อนสั้น ผมว่าเป็นกลยุทธการตลาดของบริษัทรถและไฟแนนซ์ เพราะส่วนมากความยืดหยุ่นของไฟแนนซ์ก็ทำให้คนซื้อรถได้ง่ายยอดขายก็มากตาม ยกตัวอย่างเช่นของโตโยต้าที่มีไฟแนนซ์หลากหลายเงื่อนไขเข้าถึวคนหลายกลุ่ม จะเลือกผ่อนน้อย ดอกน้อยผ่อนสั้น แบบธรรมดา ผ่อนรายปี รายเดือน รายหกเดือน สามเดือนเขาจึงขายได้เยอะ
-
ถ้ามีรถใช้อยู่แล้วอย่ารีบ
โดยให้ใช้หลัก ดังนี้
เปิดปัญชีเก็บเงินดาวน์ที่เรามีไว้ก่อน
เก็บเงินผ่อน เข้าบัญชี(ต้องมีระเบียบวินัยมากๆ) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยทนใช้คันเก่าไปเรื่อยๆ
ถ้าผ่านไป 1 ปี ก็เท่ากับเราลดการผ่อนได้ 1 ปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ทนได้ 3 ปี เป็นเงินดาวน์ก้อนโตเชียวนะ ซึ่งช่วยลดดอกเบี้ยได้อีกโข
จากนั้น ก็ดาวน์เยอะ ส่งงวดน้อย ได้เลย
ถ้าไม่มีรถใช้ และจำเป็นเพราะมีครอบครัวและสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็ไม่ว่ากัน
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ก็คงเป็นหนทางเดียว
+1 เห็นด้วยครับ ของผมขอแค่ 48 เดือนพอครับ นานกว่านี้ไม่ค่อยไหว มันนานไปเป็นหนี้ทีไรอึดอัดทุกที หุหุ
ปล.อนาคตกับงานประจำบางทีมันก็ไม่แน่นนอครับ(นอกจากงานราชการหรือป่าว.. ::) ::)) เราอาจจะไปก่อนหรืองานอาจจะไปจากเราก่อนมันมีทั้งสอง อย่างน้อยๆ ก็ต้่องวางแผนหลีกหนีความเสี่ยงการผ่อนระยะยาวให้มากที่สุด
-
ช่วงที่รายได้ไม่มาก ก็จะผ่อนนานครับ (ส่วนตัวนานสุด 72 งวด ส่วนใหญ่จะ 60 งวด)
ล่าสุดรายได้พอจะมากขึ้น บวกกับโปรโมชั่นดอกเบี้ยของการผ่อน 48 งวดนั้นดีมาก (บางทีได้เกือบจะ 0%) ก็เลยผ่อนแค่ 48 งวดครับ
เพราะ 4 ปีไปแล้วจะเป็นช่วงที่เราเริ่มความคิดที่จะเปลี่ยนรถครับ ผ่อนหมดแล้วก็จะไม่ยุ่งยากเวลาขายครับ
สรุปถ้าต้องใช้แต่ต้องผ่อนยาว 84 งวดบางครั้งก็จำเป็นครับ เอารถมาทำงานหาเงินก่อน
ส่วนตัวตอบข้อ 4 ครับ แต่หากรถทำให้หาเงินได้มากขึ้นและจำเป็นต้องผ่อน 84 งวดก็เลือกตอบข้อ 1 ครับ
-
ผมก็ไม่ชอบ นานไป
แต่ผมก็คิดอีกว่า ก็เรื่องของเค้า เราจะไปเดือดร้อนแทนทำไม เค้ายังไม่เดืออดร้อนเลย
-
บางครั้งก็ขึ้นอยู่ที่ความจำเป็นของแต่ละคนครับ คนที่ผ่อนนาน ใจจริงแล้วเค้าก็คงไม่อยากจะผ่อนขนาดนั้น แต่เพราะจำเป็น
ส่วนตัวผมผ่อน 5 ปี ไม่รุ้เมื่อไหร่มันจะหมดสักที ;D
-
เลือกข้อ 5 ครับ เหตุผลความจำเป้น คนเราต่างกัน บางคนยังไปกู้นอกระบบเลย รู้ทั้งรู้ว่าดอกมันโหดก้ยังต้องกู้
ทั่วๆ ไป ผ่อนรถระยะผ่อนที่เหมาะที่สุดคือ 48 เดือน แต่คงทำกันได้ยาก เพราะยอดจ่ายแต่ละเดือนสูง
ขยับมาที่ 60 เดือน ดอกขึ้นมาไม่เยอะพอไหว คนส่วนใหญ่น่าจะผ่อนตรงนี้เยอะพอควร เกินนี้ไม่แนะนำ
72 หรือ 84 เดือน ดอกมันขยับแบบก้าวกระโดดเลยครับ ไม่คุ้มด้วยประการทั้งปวง
ปล. ผมเคยแนะนำน้องที่รู้จักว่า ดาวน์เยอะ ผ่อนนาน ใช่ว่าจะดีกว่าดาวน์น้อย ผ่อนสั้น
ลองคำนวนดูก็ได้จะพบว่า ถ้าดาวน์ต่ำ ผ่อนไม่เกิน 60 เดือน เอาส่วนต่างเงินดาวน์ที่เหลือ
บวกค่างวดที่จะจ่ายแต่ละเดือน คุ้มกว่า ดาวน์สูงแล้วผ่อน 72 หรือ 84 เดือน
เหตุผลไม่มีอะไรมาก H Loyalty 48 เดือน/ดอก 2.09% 60 เดือน/2.19%
72 เดือน/2.59% ส่วน 84 เดือน/2.89% เห้นมั้ยว่าดอกมันกระโดดเลยเวลางวดเยอะๆ
-
ถ้ายืนยันจะเอาดีแม็กซ์ 1.9 a/t ก็คงต้องยอมล่ะครับ แต่เป็นผมจะเอาอะไรก็ได้ที่ราคาถูกกว่า ดอกเบี้ยต่ำกว่า ส่วนลดเยอะกว่า ค่ายอื่นหรือรถเก๋งขนาดเล็ก ที่ใช้งานได้สบายใจเหมือนกัน ไม่มีปัญหาจุกจิก เรื่องผ่อนนานผมไม่ซีเรียสเท่าไหร่ เพราะบ้านผมใช้รถนาน ยังไงผ่อนหมดก็ใช้ต่อแบบไม่มีกำหนดขาย แต่ผมซีเรียสเรื่องดอกเบี้ยครับ อย่างคันล่าสุดแม่ผมดาวน์เกือบห้าสิบเปอร์เซนต์ผ่อนหกปีดอกเบี้ย 2.09% (เจ็ดปี 2.59% ห้าปี 1.79% สี่ปี 1.39%) เงินเดือนไม่เยอะมาก แต่ไม่ต้องบีบรัดตัวเอง ไม่เดือดร้อนใคร ได้รถที่ตัวเองชอบ(แม้จะไม่ใช่ที่สุด) แบบนี้ผมโอเคครับ
รถคันนี้อาจจะเป็นคันแรกแต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นคันสุดท้ายในชีวิตนะครับ บางทีการเลือกสิ่งที่ไม่ได้ชอบที่สุดอาจเป็นคำตอบที่ดีกว่า
-
ถ้ามีงบจำกัด แล้วดอกไม่สูง ไม่เกิน 3 84 งวด ผมก็ผ่อนน่ะ แต่ถ้าเกินกว่านี้ก็ไม่ไหว คำนวนแล้ว โดนไปหลายหมื่น ไม่คุ้ม
-
4 ปีก่อนแม่ผมซื้อรถผ่อน 84 เดือนครับ ดาวน์ 0% แต่ดอก 3.2 ก็ยอมๆไป เหตุผลเพราะต้องการค่างวดที่น้อยที่สุด
ผ่อนไปได้ 36 งวดเริ่มผ่อนไม่ไหวเลยรีไฟแนนซ์อีกรอบ ผ่อน 84 เดือนอีกครั้ง สรุปถ้าผมผ่อนคันนั้นจนหมดคือผมต้องจ่าย 120 งวด = =
มันไม่ใช่ทางที่คุ้มค่าเท่าไหร่แต่ก็แล้วแต่ความจำเป็นครับ
-
ที่บ้านผมไม่เคยเกิน 60เดือนแต่ก้ไม่เคยซื้อเงินสดกับน้อยกว่า 48 ครับ ถ้าจะผ่อน 84 ถ้าจำเป็นหรือรับได้ผมว่ามันก้โอเคนะครับ แต่ล่ะคนแนวคิดและสถานะไม่เหมือนกัน ผมว่าถ้าผ่อน 72-84 แล้วหาดอกถูกๆได้นี่ยิ่งน่าสนใจนะ เรื่องอะไรต้องเอาเงินเราไปให้ก่อนเพียงแต่ว่าคงหายากล่ะดอกถูกๆระยะเวลาแบบนั้น ต้องเป็นรถตกรุ่นแล้วโปรโหดๆถึงจะมีโอกาสเป็นไปได้
-
ผมเฉยๆนะ ไม่ว่าจะผ่อน 48 60 72 หรือ 84 เดือนมันก็คือผ่อนนั่นแหล่ะ
เพียงแต่ก่อนจะทำสัญญาก็คำนวณค่างวดต่อเดือน คำนวณค่าดอกเบี้ยทั้งหมดให้ดีก่อนตัดสินใจ...... เอาเท่าที่ไหวครับ
ดูดอกเบี้ยให้ดี บางกรณีผ่อนน้อยดอก 0% มันก็รู้สึกคุ้มค่าเพราะไม่ต้องจ่ายดอก บางกรณีผ่อนนานดอกเยอะ แต่คำนวณต่อเดือนแล้วพอไหวก็เอา
วันหนึ่งมีเงินก้อนแล้วก็เอาไปโปะก่อนเวลาเพื่อลดความอึดอัดทางการเงินได้ (ได้ลดดอกนิดๆหน่อยๆ)
-
ผมออกรีโว่มาใช้อีกคันเมื่อปีที่แล้ว ดาวน์ไป 50% ผ่อน 84 เดือน ดอกเบี้ย 2.59 ส่วนลด+ของแถม ประมาณ 1 แสน ส่งเดือนละ 5 พันกว่าบาท รู้สึกดีครับ เหมือนไม่มีภาระอะไรเพิ่มเติม สบายๆ
-
ยอดจัดรถ 1000000 (ดอกโดยปกติ ยิ่งนานยิ่งแพง)
ดอก = .03 84 m = 210000 ต่อเดือนจ่ายดอก 2500 + ค่ารถต่อเดือน 11904.76 = 14404.76
ดอก = .028 72 m = 168000 ต่อเดือนจ่ายดอก 2333.33 + ค่ารถต่อเดือน 13888.88 = 16222.21
ดอก = .026 60 m = 130000 ต่อเดือนจ่ายดอก 2166.66 + ค่ารถต่อเดือน 16666.66 = 18833.32
จ่ายแพงขึ้น 80000 กับระยะเวลาที่ต้องผ่อน นานขึ้นและส่วนต่างกันประมาณ 4400 /เดือน เทียบกับ 60เดือน
ถ้าตัวเลือกไม่มาก คงต้องเอา
แต่ถ้าเลือกมือสองได้ แล้วดาวเท่ากัน กับ มือ 1 หาสภาพดีๆ ผ่อนเบาๆ แล้วอีก 2 ปีขาย ราคาตกไม่มากเท่ามือ1 ถึงตอนนั้นเก็บส่วนต่างที่จะผ่อนมือ1ไปดาวมือ 1 ได้ 60 เดือน น่าจะเป็นหนทางเลือกที่น่าสนแต่จะเจ็บนิดหน่อยตอนขาย แต่ไม่ถึงกับหืดขึ้นคอตอนผ่อน แล้วยังมีโอกาศที่ได้รถ minor หรือ model change อีก
ลองดูครับ ถนนมีหลายเลน
-
ส่วนตัวผมไม่ชอบผ่อนอะไรนานๆ ดูเหมือนไม่จบสักกะที เต็มที่60งวดคับ นี่ขนาดผ่อนมือถือ0%10งวด ส่งไปได้หกงวดสุดท้ายก็โป๊ะหมดเลย ขก.มานั่งผ่อน
-
ก็ดีครับ..เหมาะสำหรับคนจนๆ
-
ผ่อนยาวๆ ดาวน์น้อยๆแบบนี้อย่าให้มีปัญหาระหว่างทางนะครับ
ผมเห็นมาหลายคนแล้วที่ไปมีปัญหาหลังจากผ่อนไปซักพักต้องการจะขายรถ แต่ขายไม่ออก ให้ฟรีไปผ่อนต่อยังไม่มีใครเอาเลย
เพราะยอดคงเหลือมันมากกว่าราคารถมือสองในตลาด
-
มีคนบอกว่า 48 ดีสุด
60 ก็พอไหว
72 84 ไม่แนะนำ
ผมกัดฟัน รากเลือด 48 งวด
-
คนมีเงินอาจจะเกิดคำถามที่ว่าทำไมผ่อนกันนานจัง
แต่ถ้าคนที่มีเงินไม่มากก็จะเลือกผ่อนนานครับ เพราะมันสบายกระเป๋ามากกว่า ตัวดอกเบี้ยบางคนไม่เคยคิดถึงเลยด้วยซ้ำ
อย่างคุณแม่ผมท่านชอบผ่อน 60 กับ 72 งวด เพราะท่านบอกรายเดือนต่ำหน่อย แต่สุดท้ายไม่เกิน 2 - 3 ปี ก็ไปปิดยอดทุกคัน เสียดอดเบี้ยไปเยอะเหมือนกันครับ
แต่บางครั้ง เราผ่อน 72 งวด ตกเดือนละ 30,000 พอผ่อน 36 งวด ยอดมันเด้งขึ้นอีกเกือบๆ 1 เท่า
แบบนี้สู้ผ่อนน้อย แต่พอมีก็ไปโปะจะดีกว่า เพราะธุรกิจมันต้องมีเงินหมุนครับ
เงินสดในมือ ในบัญชีเนี้ยนับยากมาก เพราะเราสำรองเงินให้ลูกค้าไปก่อนเยอะ บางรายกว่าจะจ่ายก็นู่นนนน ครึ่งปี 1 ปี 2 ปี มาทีเป็นก้อนๆ (บางรายก็หายไปเลย)
เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเลือกทางที่ปลอดภัยไว้ก่อนครับ
-
แค่ gimmick เล็กๆครับ ดึงลูกค้า เอาเข้าจริงก็ผ่านยากครับ ดอกเบี้ยแพงมาก ไฟแนนซ์ไม่ค่อยให้ด้วย สุดท้ายอาจจะขอปรับเงินดาวน์ ปรับเทอม สุดท้ายผู้กู้ก็จะเปลี่ยนไปลงเทอมการชำระแบบอื่นครับ
-
ปัญหาอีกอย่างของการผ่อนยาวๆ คือถ้าเกิดอยากขาย (จะด้วยเหคุผลอะไรก็แล้วแต่) ดีไม่ดี ราคาตลาดรถน้อยกว่าหนี้ที่เหลืออยู่นะครับ ... แบบนี้ให้ใครไปผ่อนต่อฟรีๆยังยาก อาจต้องแถมเงิน
แต่คนเราความจำเป็นต่างกัน+ความอยากครับ ... ถ้าจะให้พอดีๆก็คงต้องหาเป้าที่ค่าตัวตำ่มาซักนิดเพื่อลดยอดผ่อน ไม่ใช่ยืดระยะผ่อนครับ
-
ผมมองว่า คนที่พร้อมจะมีรถ และ ผ่อนรถสักคัน ถ้าไม่ได้ซื้อสด จำเป็นต้องผ่อน อย่างน้อย
1)ต้องดาวน์ 25% ได้ เป็นความสามารถขั้นต้น
2)มีศักยภาพในการผ่อน 48 เดือน โดยยอดผ่อนประมาณสัก 20% ของรายได้ (ในกรณีที่คนนั้นบริหารรายจ่ายอื่นๆ ได้เหมาะสมกับรายได้)
ถ้าความสามารถคุณไม่ได้ตามข้างต้น
ผมแนะนำ เป็นรถมือสองราคาไม่สูงมาก ใช้งานได้ ถ้ามันจำเป็นต้องใช้จริงๆ เอาแบบเก็บเงินซื้อสดนะครับ ไม่ผ่อน
ราคามีหลายราคาตั้งแต่ไม่กี่หมื่น ถึง แสน 2 ผมว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับคนที่รายได้ไม่มาก และ จำเป็นต้องใช้รถ
อย่าตามกระแสที่ต้องซื้อรถป้ายแดง ถ้าเรายังไม่พร้อม
-
84นี่นานมากๆเลยครับ 7ปี สำหรับผม60งวดตลอดที่ผ่านมา กำลังดี 48มันบีบเราไปหน่อย
ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรถด้วยว่าราคาเท่าไร เงินดาวน์มีเท่าไร แต่เรื่องเงินดาวน์นี่ตอนหลังๆมา
ผมจะซื้อรถสักคัน ผมดาวน์30%-40%เวลาผ่านมันสบายดีครับ ไม่ลำบากเราในแต่ละเดือน
เพราะรายจ่ายมีทั้งบ้าน รถ บัตรเครดิต บัตรเงินสด บัตรผ่อนสินค้า และ เมีย 5555+
-
ถ้ารวยก็คงซื้อสดไปแล้วล่ะค้าบ
-
ถ้าไม่รีบใช้รถ แนะนำข้อ 3
48 เดือน
ส่วนตัวผมลองมาหมด 36, 48, 60, 72งวด
นานๆน่าเบื่อมากคับ
ปัจจุบันก็ใช้แต่ ดาวน์25%ผ่อน 36งวด
-
ผมคิดคร่าวๆ นะครับ ที่ได้ข้อเสนอมา
84 เดือน ผ่อนน้อยกว่า 72 เดือน ประมาณ 1,000 บาท
ดอกเบี้ยรวม 84 เดือนจะมากกว่า 72 เดือน ประมาณ 40,000 บาท ครับ
-
ถ้าไม่คิดจะขายก่อนผ่อนหมดก็ผ่อนไปเถอะครับ ตามกำลัง
-
ดอกเบี้ยรถยนต์ ดูจากตัวเลข เหมือนจะต่ำ 2.XX %- 3.xx % ( ความจริง ไม่ต่ำ )
เขาคิดดอกเบี้ยแบบ FLAT RATE (ดอกงวดแรก กับดอกงวดสุดท้าย จ่ายเท่ากัน)
เช่น ราคารถ 800,000 ดาวน์ 100,000 ยอดจัด 700,000 ดอกเบี้ย 3% ผ่อน 84 งวด
700,000 x 3% = 21,000 บาท x 7 ปี = 147,000 บาท
ถ้าในกรณี ที่ต้องออกรถมาวิ่งบรรทุกของ เพื่อค้าขาย รับจ้างส่งสินค้า ก็ต้องยอมจ่าย
แต่ถ้าออกรถมาเพื่อขับไปทำงาน ขับไปธุระ ซึ่งสามารถที่จะนั่งรถโดยสารสาธารณะแทนได้ แบบนี้ก็ยังไม่ควรจะออกรถ
ผมเข้าใจว่ารถส่วนตัว ใครๆ ก็อยากมี(ผมก็เคยจน ตอนนี้ไม่จน แต่ไม่รวย) แต่ถ้ามีแล้ว มันสร้างภาระให้เราเกินสมควร ก็ใจเย็นอีกนิด เก็บเงินดาวน์เพิ่มอีกหน่อย ผ่อนไม่ควรเกิน 48 งวดครับ
-
ดอกเบี้ยแพงดีครับ
แต่ถ้าจำเป็นจริงๆก็จัดไปครับ งวดนึงผ่อนน้อยกว่า 48 งวดเยอะเหมือนกัน
-
เก็บเงินอีกนิดดีกว่าครับเสียดายค่าดอกครับ
-
คิดว่า อย่างไรซะก็เป็นสิทธิ์ของท่านครับ รับทราบข้อมูล พิจารณาให้ดี ค่อยเซ็นเป็นหนี้
-
คิดว่าไม่ควรซื้อจ้า
-
ส่วนตัวผมคิดว่าไม่สมควร ไม่สมควรไป....เรื่องของคนอื่น 555+
แต่...ผมเห็นหลายคนตอนจะผ่อนเลือกปีเยอะผ่อนสบาย พอผ่อนไปสักพักชอบบ่นว่าเมื่อไหร่จะหมด เหลืออีกโคตรนาน
ถ้าผ่อนไหวเอาแบบน้อยปี หมดไวๆดีกว่าครับ ไม่ก็ลองลดเซ็กเม้นลงไปหน่อยก็ได้ ยอดผ่อนจะได้พอๆกับคันที่จะซื้อแต่หมดไวกว่า
-
รถยนต์ยังดีคับ ดอกถูก
เจอมอไซค์บ้านๆ เข้าไปเนี่ย สยองเลย ...อย่างรถเวฟ สกูปปี้เนี่ย ดอกร้านทั่วๆ ไปก็ 2% ...ต่อเดือน !! จากคันละ 4 หมื่นกว่า ผ่อน 2 ปี รวมแล้วจ่ายไปร่วม 6 หมื่น
ซื้อสดไปเลยซิ
ใช่คับ แต่ความจนมันน่ากลัว ถ้าลองทำงานได้เดือนละ 9000 พัน ค่ากินค่าที่พักอีก การที่จะหาเงินสด 4 หมื่น มันไม่ง่ายหรอกคับ เห็นแม่บ้านที่ทำงานผ่อนกันแล้ว ก็สงสารอยู่ไม่น้อย
-
ถ้าดอกเบี้ย 0% ก็ OK เลยครับ ผ่อนยาว ๆ ไป
ถ้ามีดอกอยู่ 48 งวดดีที่สุด อย่างมากไม่ควรเกิน 60 งวด
ที่สำคัญต้องเผื่อและคิดให้มาก ๆ ว่า ถ้าเดือนหรือช่วงไหนมันช๊อคขึ้นมา จะทำยังไง
อย่าคิดแค่พอตัวไปเป็นเดือน แล้วไปตายเอาดาบหน้า คิดแบบนี้ตายมาเยอะแล้วครับ
-
ขึ้นกับดอกเบี้ยครับ
-
ผมผ่อนฟรีด ดาวน์ 60% ดอก 0.89% 72 เดือน
ผ่อนเดือนละ 5พันนิดๆ คิดซะว่าเช่าขับครับ
-
ผมทำ 60 เดือนไว้ ผ่อนไปผ่อนมา ถึงเดือนที่ 50 เอาเงินเก็บไปปิดบัญชี ได้ส่วนลดมา ห้าพันกว่าบาท หักค่าดำเนินการเหลือสามพันกว่าบาท
พนักงานแบงค์ยิ้มๆใส่เรา ว่าไม่เกิดประโยชน์เอาเงินก้อนไปทิ้ง
แต่สำหรับผม การไม่เป็นหนี้ "ดี"ที่สุด
ผ่อนบ้านผมก็ส่งโปะต้นมาตลอด สัญญา 30 ปี นี่คาดว่าครบเก้าปีก็คงหมดหนี้ไปอีกหนึ่ง
-
แล้วแต่ความจำเป็นของคนครับ
มันก็จริงครับ ผ่อน 84 งวด มันยาวนานเกินไป ดอกแพง ถ้ามีเงินดาวน์สูง ก็ผ่อนน้อยๆจะดีกว่า
แต่ .....บางคนไม่มีเงิน และจำเป็นต้องใช้รถเพื่อสัมมาอาชีพ เช่น รถขายกับข้าว ส่งของตลาดไท
ครั้นจะผ่อนแพงก็ไม่ไหว เพราะมีภาระเยอะ ก็จำเป็นต้องเลือก 84 งวด เพื่อให้ยอดค่าใช้จ่ายต่อเดือนน้อยที่สุด ไม่มีใครอยากเสียดอกเบี้ยหรอกครับ แม่ค้าในตลาดก็ไม่อยากเสียดอกรายวันให้พวกแขก
แต่ทำยังไงได้ ถ้าไม่มีเงินหมุน ธุรกิจก็ไม่วิ่ง
ถึงแม้จะต้องจ่ายดอกแพง ผ่อนยาวนาน แต่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ก็ต้องยอมครับ
-----------
รถยนต์ยังดีคับ ดอกถูก
เจอมอไซค์บ้านๆ เข้าไปเนี่ย สยองเลย ...อย่างรถเวฟ สกูปปี้เนี่ย ดอกร้านทั่วๆ ไปก็ 2% ...ต่อเดือน !! จากคันละ 4 หมื่นกว่า ผ่อน 2 ปี รวมแล้วจ่ายไปร่วม 6 หมื่น
อันนี้เจอกับตัวครับ ผมเคยดาวน์มอเตอร์ไซค์ 0 บาท จากศูนย์ฮอนด้าแถวบ้าน ตอนนั้นอยากได้มอเตอร์ไซค์ไปทำงาน เพราะที่จอดหายาก
ผ่อน 2870/36 งวด = 103,220 บาท ... แต่ราคารถจริงๆ 53,000 บาท เท่ากับดอกเบี้ยท่วมราคารถไปเลย
พอผ่อนหมด เข็ดจนตายครับ ไม่ซี้ออีกแล้ว
-
ถ้ามีรถใช้อยู่แล้วอย่ารีบ
โดยให้ใช้หลัก ดังนี้
เปิดปัญชีเก็บเงินดาวน์ที่เรามีไว้ก่อน
เก็บเงินผ่อน เข้าบัญชี(ต้องมีระเบียบวินัยมากๆ) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยทนใช้คันเก่าไปเรื่อยๆ
ถ้าผ่านไป 1 ปี ก็เท่ากับเราลดการผ่อนได้ 1 ปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ทนได้ 3 ปี เป็นเงินดาวน์ก้อนโตเชียวนะ ซึ่งช่วยลดดอกเบี้ยได้อีกโข
จากนั้น ก็ดาวน์เยอะ ส่งงวดน้อย ได้เลย
ถ้าไม่มีรถใช้ และจำเป็นเพราะมีครอบครัวและสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็ไม่ว่ากัน
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ก็คงเป็นหนทางเดียว
เงิน 100,000 สามาร สร้างกำไรต่อปีให้ผมมากกว่า 50000 บาท ผมจะไปดาวน์เอาไม พ่อค้าแม่ค้า คิดแบบนี้ครับ
-
ถ้ามีรถใช้อยู่แล้วอย่ารีบ
โดยให้ใช้หลัก ดังนี้
เปิดปัญชีเก็บเงินดาวน์ที่เรามีไว้ก่อน
เก็บเงินผ่อน เข้าบัญชี(ต้องมีระเบียบวินัยมากๆ) ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยทนใช้คันเก่าไปเรื่อยๆ
ถ้าผ่านไป 1 ปี ก็เท่ากับเราลดการผ่อนได้ 1 ปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ
ทนได้ 3 ปี เป็นเงินดาวน์ก้อนโตเชียวนะ ซึ่งช่วยลดดอกเบี้ยได้อีกโข
จากนั้น ก็ดาวน์เยอะ ส่งงวดน้อย ได้เลย
ถ้าไม่มีรถใช้ และจำเป็นเพราะมีครอบครัวและสมาชิกเพิ่มขึ้น ก็ไม่ว่ากัน
ดาวน์น้อย ผ่อนนาน ก็คงเป็นหนทางเดียว
เมื่อถึงตอนนั้ เชื่อสิว่า พอมีเงินก้อนก็จะเอาไปทำอย่างอื่นมากกว่าเอาเงินก้อนมาดาวน์รถ สุดท้ายก็กลับมาดาวน์ที่เท่าเดิมแหละ
และผ่อนระยะเวลาเดิม
สิ่งที่ต้องเปลี่ยน คือ "ความคิด" ครับ ถ้าคิดซื้อรถมาแค่ใช้ ก็แล้วแต่เหตุผล เพราะรถไม่ใช่ สินทรัพย์ แต่กลายเป็น หนี้สิน แทน
ราคารถหดหายไปทุกวัน มีแต่ค่าใช้จ่าย แลกความสะดวกเท่านั้น แต่ถ้าคิดซื้อรถเพื่อไปสร้างรายได้ เช่น การรับจ้าง หรือเป็น
เครื่องมือให้การทำมาหากิน อันนี้ก็เห็นด้วยเลยครับ
-
จขกท เองนะครับ คิดว่าทุกๆ ความคิดเห็นก็คงจะประมาณว่า หากไม่ได้ออกมาเพื่อใช้รถไปหาเงิน ก็ไม่สมควรผ่อน 84 เดือน
ถ้างั้นผมก็คงต้องม้วนเสื่อกลับไปเก็บเงินอีกสักพักใหญ่ๆ เลย ครับ เพราะผมซื้อรถออกมาเพื่อความสะดวกสบายครับ
ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ ทำให้ผมมองไปไกลๆ ได้อีกมากครับ
-
จขกท เองนะครับ คิดว่าทุกๆ ความคิดเห็นก็คงจะประมาณว่า หากไม่ได้ออกมาเพื่อใช้รถไปหาเงิน ก็ไม่สมควรผ่อน 84 เดือน
ถ้างั้นผมก็คงต้องม้วนเสื่อกลับไปเก็บเงินอีกสักพักใหญ่ๆ เลย ครับ เพราะผมซื้อรถออกมาเพื่อความสะดวกสบายครับ
ขอบคุณทุกความเห็นมากครับ ทำให้ผมมองไปไกลๆ ได้อีกมากครับ
คิดเยอะดีแล้วครับเป็นหนี้ทีนานเลย อีกอย่างออกรถเพื่อความสะดวกสบายถ้าออกมาแล้วมันทำให้เราลำบากก็แย่เลย
-
ปกติ 72 งวด ก็ถือว่า นานมากแล้ว รถหลายรุ่น เกิน 5 ปี ก็มีรายการซ่อมแล้ว ยิ่งรถที่ใช้งานหนักๆ นอกจากนี้ ในรถบางรุ่นที่ราคาตกหนักๆ ต่อให้คุณดาวน์ 25% เนี่ย ใช้ไปสักปี สองปี เกิดช้อตขึ้นมา ต้องขายรถ มันขายไม่ได้นะครับ ยอดหนี้ + ดอกเบี้ย ที่ค้างไฟแนนซ์ มันสูงกว่าราคารถที่ขายได้ ณ ตอนนั้นน่ะครับ
กลายเป็นรถโดนยึด โดนฟ้องอีก
ส่วนตัว เห็นด้วยกับท่านอื่นๆว่า ถ้าไม่ได้เอามาทำมาหากิน ที่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรออกเลย ผ่อนยาวขนาดนี้
-
ถ้าใช้รถเยอะ โอกาสที่รถไม่ไหวแล้ว แต่ยังต้องผ่อนสูง
-
84 เดือน คือบางคนเลือกเพราะเหตุผล แต่บางคนเพราะอารมณ์(อยากได้ ทั้งที่ยังไม่พร้อม)ล้วนๆ
-
ผมผ่อน 84 เดือนครับ ดอก 3.29
เหตุผลเพราะ 1. เงินค่ารถคันแรกเท่าดอกเบี้ยพอดี ดังนั้นเหมือนผมซื้อรถ ไม่มีดอก
2.เหลือเงินไว้ใช้อย่างอื่น ท่องเที่ยว เปลียนยางบ่อยๆ
ถ้าไม่มีโครงกาารรถคันแรก ผมก็ไม่เอา 84 เดือนเหมือนกัน เงินต้น 4 แสน ดอก 8 หมื่นอ่ะ
-
ทั้งหลายทั้งปวงก็แล้วแต่สภาวะด้านต่างๆ ของคนๆนั้น แต่สำคัญคือมีสติ และสามารถรับภาระได้
ดอกเบี้ยก็เหมือนค่าใช้จ่ายสำหรับการยืมเงินมาใช้ล่วงหน้า ถ้าเรายินดีรับภาระผมว่าก็ไม่ได้แย่อะไรนัก
แต่
ไม่ใช่เงินเดือน หมื่นสาม จะผ่อนรถแปดพัน อันนี้ก็ดูจะเสี่ยงไปครับ
-
จขกท กะใช้รถกี่ปีครับ ผมว่าถ้าใช้ยาวเกิน10ปีแล้วดูแลดีๆ ผมว่าผ่อน84เดือนก็ไม่เสียหายครับ
-
ผมงบน้อย อยากได้รถดีๆไว้ใช้ ขอผ่อนสบายๆต่อเดือน ถ้ามี 108 งวดผมเลือก 108 งวด หมดตอนไหนก็ช่างมัน
-
ผมงบน้อย อยากได้รถดีๆไว้ใช้ ขอผ่อนสบายๆต่อเดือน ถ้ามี 108 งวดผมเลือก 108 งวด หมดตอนไหนก็ช่างมัน
คุณ ento ความคิดเห็น ได้ใจผมจริงๆ สุดยอดเลยครับ 55555
-
เคยคิดเหมือนกัน
ตัดสินใจเลือก 72 เดือน
แต่ก่อนจะซื้อทำตาราง 48 60 72 84 ครับ ว่าดอกอะไรต่างกันเยอะไหม
หากดอกต่างกัน 0.8 บาท ให้ผ่อนระยะเดือนต่ำลง จะไม่เสียเปรียบดอกมากนัก
ผ่อนยาวครับ มีเงินเติมน้ำมัน ไม่ตึงเกินไป เที่ยว ดูสาว อาบน้ำ สบาย
มีเงินปิดเลย
-
เอาที่สะดวกเลยคับเงินคุณเอง ผมคิดว่าถ้าคุณพร้อมกว่านี้คงจะชื้อสดหรือผ่อนสั้นกว่านี้แน่นอน ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรือเสียดอกเยอะไหรอกคับ แต่ถ้าผ่อนยาว แล้วไม่เดือดร้อน ไม่เบียดเบียนส่วนอื่นๆของชีวิตก็ทำคับ
-
เอาที่สะดวกเลยคับเงินคุณเอง ผมคิดว่าถ้าคุณพร้อมกว่านี้คงจะชื้อสดหรือผ่อนสั้นกว่านี้แน่นอน ไม่มีใครอยากเป็นหนี้หรือเสียดอกเยอะไหรอกคับ แต่ถ้าผ่อนยาว แล้วไม่เดือดร้อน ไม่เบียดเบียนส่วนอื่นๆของชีวิตก็ทำคับ
เอาจริงๆ คนที่ชอบเป็นหนี้ก็มีนะครับ
ผมเห็นมาหลายคนแล้ว เช่น มีเงินในธนาคาร เกินราคาของที่จะซื้อ แต่ก็ชอบผ่อนผ่านบัตรต่างๆ ทั้งที่เสียดอกเบี้ย
เขาบอกว่า ไม่อยากถอนเงิน มันเสียดาย
-
มิควร
ยกเว้นว่าออกเพื่อทำการค้า ธุระกิจ เพื่อจะได้เติบโต
เสียดอกมาก แต่ได้ประโยชนกลับมามากคุ้ม เพราะเงินหาได้ แต่ซื้อเวลากลับมาไม่ได้
ลองชั่งน้ำหนักดูครับ ถ้าเสียดอกเป็นแสนแต่ได้โอกาส ได้อย่างเสียอย่างเสมอ
-
ถ้าไม่รีบใช้รถผมอยากให้เก็บเงินไว้ก่อนผ่อน4ปีก็พอ แต่ถ้ารีบเอามาวิ่งงานทำมาหาเงินก็ไม่ว่ากันครับ
-
ผมคิดว่ายาวไป ยิ่งถ้างบจำกัดจะลำบากยกเว้นว่าอยากผ่อนยาวเพราะมีเงินก้อนใหญ่ไปทำอย่างอื่นที่เสี่ยงน้อยจริงๆ รถอายุเกิน5ปีจะมีค่าซ่อมจุกจิกมาให้เรื่อยๆครับ