Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: noblet ที่ มิถุนายน 14, 2016, 11:00:37
-
การเปิดฝากระโปรงรถ หลังจากกลับเข้าบ้าน จำเป็นแค่ไหนครับ
สำหรับผมจะเปิดเฉพาะตอนที่กลับเข้ามาในบ้านเท่านั้น ผมว่อย่างน้อยน่าจะช่วยในเรื่องของสายไฟในเครื่องไม่ให้กรอบหรือเสื่อมเร็วครับ
และอีกเรื่องนึงคือช่วยยืดอายุสีของฝากระโปรงด้วย จะเปิดไว้ประมาณ2-3ชั่วโมงละก็ปิด เพราะเป็นรถเบนซิล เติม อี 85 ด้วย เครื่องร้อนไวมากครับ
จริงไหมครับพี่ๆ ว่าไงกันครับ ผมเห็นปัญหานี้เป็นปัญหาโลกแตกพอสมควรครับ
-
ตอนขับรถติดไฟแดงร้อนกว่าเยอะ เพราะเครื่องยังทำงานและเพิ่มความร้อนขึ้นไปอีก
สายไฟ สีกระโปรงรถ ยังรอดมาได้เลย ดังนั้นการจอดดับเครื่องเปิดกระโปรงไม่ส่งผลชัดเจนหรอกครับ
แต่ถ้าอยากให้เย็นเร็วทำไปเถอะครับ มีความสุขที่ทำ ก็ทำไป
ปล. ปิด AC แอร์ เร่งพัดลมไล่ความชื้น ก่อนดับเครื่องผมว่ายังเห้นผลชัดกว่าอีกนะ อยาลืมทำข้อนี้ด้วยหล่ะ
-
ผมว่าช่วยครับแต่น้อยมาก ช่วงที่มันต้องเจอความร้อนระหว่างขับใช้งานมันยาวนานและมีผลเยอะกว่าช่วงเครื่องเย็นตัวมาก
ตัวผมเองถ้าขับ ตจว ก็มีเปิดบ้างตามสดวกทำไปเพื่อความสบายใจครับ
บางทีการเปิดแล้วมันเย็นเร็วมากไก็ใช่ว่าจะดีนะครับ การค่อยๆคายความร้อนมักจะดีกว่าครับ ความคิดส่วนตัวครับ
-
ผมว่า พอจอดแล้วไอร้อนจะลอยขึ้นด้านบน และอบอวล ถ้าเปิดฝากระโปรงแล้วทำให้ระบายความร้อนได้เร็วขึ้น คงจะช่วยก็พวกชิ้นส่วนจำพวกยางและพลาสติก ที่อาจจะกรอบและหมดอายุช้าลงได้ แต่แลกกับกลไกลฝากระโปรงที่ใช้บ่อยขึ้น + แมว หนูที่อาจกระโดดขึ้นไป หรือเข้าไปง่ายขึ้น > มั้งนะครับ
-
ผมว่าไม่จำเป็น แต่ใครจะทำ ผมว่ามันก็ไม่เสียหายนะ
-
สีไม่ได้ซีดจากความร้อนครับ สีซีดจากแสง UV ครับ
ส่วนฝากระโปรงไม่เคยเปิดครับ คิดว่าไม่จำเป็น
-
ผมเปิดครับ ไม่ได้หวังผลเรื่องการยืดอายุอะไรหรอก แต่อย่างน้อย พอเปิดเสร็จ ผมก็กวาดสายตาคร่าวๆ ดูระดับของเหลว ดูรอยรั่วซึม ทั้งหมดน่ะครับ ทำจนเป็นนิสัยแล้ว
ซึ่งมันก็ช่วยให้ผมรอดจากเครื่องพังมาได้ เพราะครั้งนึง เปิดฝากระโปรงแล้ว เจอน้ำในหม้อพักน้ำสูงจนล้น เลยเดินกลับไปสตาร์ทเครืองใหม่ มันก็ลด เป็นอยู่ 2 วัน ไล่หาสาเหตุมาเจอว่า ฝาหม้อน้ำหมดสภาพครับ พอเปลี่ยนก็จบครับ
แต่ถ้าไม่ได้เปิดฝากระโปรง นานๆเปิดที กว่าจะรู้ ก็ความร้อนขึ้น ดับเครื่องไม่ทัน รถก็พังครับ
-
ใครจะว่าอย่างไร ก็ว่าไป
ผมก็ทำมาเป็นสิบปีแล้วครับ
เห็นชัดๆว่า เนื้อพลาสติก เนื้อยาง เนื้อโลหะเสื้อเครื่อง สีสรร ความยืึดหยุ่น ดีกว่าชัดๆๆ
แบตเตอรี่ ไม่เสื่อมเร็ว น้ำ น้ำมันต่างๆ เสื้อเครื่อง คลายความร้อนได้เร็วขึ้น
บ้าเราเมืองร้อน ชื้น อะไรเล็กๆน้อย ช่วยด้าย ผมละคนนึงที่ เห็นคุณค่าแบบนี้
อย่างน้อย อีกเหตุผล ที่ผมเปิดคือ
หนูๆ ได้ไม่เข้าไปซุกหัว หาที่ กิน ฉี่ อึ กัด แทะ
กระเป๋าเงินของเรา ครับ
-
ผมเปิดนะหลังจากเข้าบ้าน บางทีก็ลืมปิด เปิดมันไว้ทั้งคืน สังเกตไว้อย่างนึงคือคันที่เปิดฝากระโปรงไว้แบตเตอรี่ทนกว่าคันที่ไม่ได้เปิด(อันนี้สังเกตเองเล่นๆไม่มีการทดลองอะไรนะ)
-
ผมเปิดไว้เสมอ.ครับ. ระบายความร้อน พลาสติตจะไม่กรอบร่อน ยืดอายุไปได้ไม่มากก้อน้อย
ยิ่งคันก่อนๆทำเครื่องเสียง ใช้แบตลูกนึงหลายตัง ยิ่งต้องระบายความร้อนเสมอๆ เพื่อยืดอายุแบตฯ
-
เมื่อก่อนจอดในบ้านตึกแถวก็เปิดตลอดครับ
แต่ตอนนี้ต้องจอดนอกบ้าน แต่ในรั้วบ้าน ก็ไม่เปิดอีกเลยครับ เพราะกลัวฝนตกครับ สาดเต็มๆ
แต่ส่วนตัวก็ชอบเปิด(ฝา)กระโปรง(หน้ารถ) ครับ :-* :-* :-* :-*
-
ผมใช้มาคันนี้คันที่ 3 เก๋ง 2 คัน กระบะคันแรก ผมเปิดมาตลอดครับ
คันกระบะนี้ ผมไปซื้อโช๊คค้ำฝากระโปรงมาด้วย ทำให้เปิดได้สะดวกยิ่งขึ้น เปิดมือเดียวได้เลย
เวลาวิ่งอยู่มีลมมาระบายความร้อนในห้องเครื่อง แต่เวลาจอดอยู่กับที่นี่สิ ร้อนมากๆ เวลาวิ่งมาไกลๆ กลับเข้าบ้านปุ๊บ ผมเปิดทิ้งไว้ทันที รู้ทั้งรู้ว่าเขาออกแบบเผื่อความร้อนนี้อยู่แล้ว แต่ก็เปิด ผมคิดของผมเอง เช่น แทนที่จะให้มันสู้กับความร้อน 3 ชั่วโมง ก็ให้มันเหลือ 1 ชั่วโมง นานๆ เข้าก็หลายสิบชั่วโมง ผมว่ามันมีผลแน่นอน
ส่วนจะมากหรือน้อยว่ากันอีกที่
และทุกครั้งที่จะปิดก็จะด้อมๆ มองๆ ทุกชิ้นส่วน และ หาผ้ามาเช็ดโน้น นี่ นั่น ประจำครับ (ผลพลอยได้)
-
ผมว่ามีประโยชน์นะครับ รถวิ่งมามีความร้อนสะสม พอดับเครื่องระบบระบายความร้อนก็หยุดทำงานหมด ความร้อนก็อบอยู่ในห้องเครื่อง น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ แบ็ตฯก็เสื่อมไวขึ้น ส่วนตัวอาจจะไม่ได้เปิดฝากระโปรงแต่จะจอดรถแบบไม่ดับเครื่องประมาณสิบนาทีครับ
-
ไม่รู้จะอ้างอะไร ส่วนตัวคิดว่าควรเปิดครับ และผมก็ทำทุกวันที่เข้าบ้าน ไม่ใช่แค่ระบายแต่เป็นการตรวจสอบความเสียหายสิ่งปกติของตัวรถไปในตัวครับ
-
ถึงบ้าน หรือ ที่ทำงาน ผมเปิดฝากระโปรงตลอดครับ (ถ้าเป็นที่ทำงานจะเปิดประมาณ 10 - 15 นาที แล้วค่อยปิด)
หลักๆคือระบายความร้อน อีกทั้งจะได้ดูรอบๆเครื่อง ว่ามีอะไรปิดปกติหรือเปล่า
อย่างล่าสุดน็อตยึดแบตหลวม ตัวแบตไปกระแทกกับกล่องฟิวส์ด้านข้าง ถ้าไม่เปิดฝากระโปรงดู ก็ไม่รู้ครับ
ใครจะว่าอย่างไรก็ช่าง แต่ผมจะเปิดครับ ทั้งกระโปรงสั้น กระโปรงยาว เปิดหมด ;D ;D
-
ผมเปิดเฉพาะตอนวิ่งระยะไกลๆ ติดต่อกันนานๆ 150กิโล+ จอดพักรถตามปั้ม ไม่ดับเครื่อง แต่เปิดฝากระโปรงตลอด ถึงปลายทางก็เปิดค้างไว้ รอเครื่อง cool down แล้วค่อยดับเครื่อง
ถ้าไม่ได้เดินทางไกลติดต่อกันหลายๆ ชั่วโมง ถึงบ้านไม่ต้องเปิดก็ได้คับ
-
ส่วนมากผมเปิดครับ เพราะเมื่อรถหยุดวิ่ง ไม่มีพัดลมหมุนระบายความร้อน ไม่มีลมพัดผ่านเหมือนขณะที่รถวิ่ง
รวมถึงได้สังเกตว่ารถมีอะไรผิดปกติด้วยหรือเปล่าครับ
-
ถึงบ้าน หรือ ที่ทำงาน ผมเปิดฝากระโปรงตลอดครับ (ถ้าเป็นที่ทำงานจะเปิดประมาณ 10 - 15 นาที แล้วค่อยปิด)
หลักๆคือระบายความร้อน อีกทั้งจะได้ดูรอบๆเครื่อง ว่ามีอะไรปิดปกติหรือเปล่า
ถึงที่ทำงานก็เปิดเหมือนกันครับ แล้วสังเกตด้านในว่ามีอะไรผิดปกติไหม เปิดตั้งนาน บางครั้งยันพักเที่ยง
-
ผมเปิดตลอดครับ อาบน้ำเสร็จก็ออกมาปิดมัน อย่างน้อยมันก็ถือเป็นการระบายความร้อน เพราะมันไม่ได้มีลมจากภายนอกพัดเข้ามาช่วยระบายความร้อนเหมือนในขณะที่เรากำลังขับรถ
-
ผมเปิดเฉพาะกลับจากเดินทางไกล หรือใช้งานรถติดต่อกันหลายชั่วโมงครับ
ข้อเสียเดียวที่คิดออกว่าจะไม่เปิดคือ ขี้เกียจครับ ฮ่าๆ
-
ไม่รู้ข้อดีข้อเสียอะไรมากไปกว่าเรื่องระบายความร้อนครับ ผมกลับถึงบ้านจอดแล้วเปิดเลย
ผมว่าระบายร้อนเร็วดี ก่อนนอนก็ค่อยลงมาปิด
-
ถ้ามีระบบเปิดฝากระโปรงหน้าไฟฟ้าคงดีนะครับ จะได้ไม่ต้องยก กดเปิด-ปิดได้เลย สะดวกดี
-
ความร้อนไม่กลัวครับ เพราะเมื่อเราดับเครื่อง ความร้อนมันค่อยๆลดลง แต่ตอนรถติดเป็นชม.ๆความร้อนห้องเครื่องสูงมาก รวมถึงตอนเราจอดรถที่ทำงาน ตอนออกไปกินข้าวเที่ยง เราก็ไม่ได้เปิดฝากระโปรงกันอยู่แล้ว ดังนั้นระยะเวลาที่ฝากระโปรงโดนความร้อนตอนดับเครื่องเมื่อกลับถึงบ้านแล้วเทียบไม่ได้กับความร้อนที่เจอมาทั้งวันครับ
ปกติผมก็เปิดฝากระโปรงตอนกลับบ้านนะ แต่เพราะกันหนูไม่ให้เข้ามาแทะอะไรเล่น
-
ถ้ากลับถึงบ้านและไม่ออกไปไหนแล้วในวันนั้น ผมเปิดตลอด
ลดความร้อนสะสม
-
เปิดบ้างเป็นบางโอกาศ ถ้าไปต่างจังหวัดไกลๆก็เปิดให้เครื่องได้รับลมหน่อย ผมว่าช่วยได้นะสายฟงสายไฟท่อยาง ก็ถือโอกาศเช็คนู่นนี่ไปในตัว สมัยก่อนรถเก่าๆเวลาเดินทางไกลไปจอดพักที่ปั๊มจะมีรถเปิดฝากระโปรงกันแทบทุกคัน (อารมณ์เหมือนอเมริกาเมื่อยุค50)จอดพักรถพักคนที่ถนนroute66เติมน้ำมันกินเบอเกอร์พิซซ่า ว่ากันไป ชีวิตไม่เร่งรีบ ยืนคุยกันเรื่องรถ เรื่องเที่ยว
-
..............ผมเปิดทุกวัน เย็นยันเช้า วันไหนไม่ขับก็เปิดไว้อย่างนั้นแหละ.....ข้อดี ข้างบนบอกไว้แล้ว ข้อเสียมีข้อเดียว ฝุ่นเกาะเยอะขึ้น...
-
ผมนี่ไม่ค่อยเปิดเลย
-
ผมทำประจำครับกลับถึงบ้านจอดรถเสร็จก็เปิดเลย
ทิ้งไว้ก่อนนอนก็มาปิดเอาครับ
เรื่องแบบนี้ใครจะทำหรือไม่ทำก็ไม่ผิดแปลกอะไรหรอกตามสะดวกครับ
แต่ที่แน่ๆระยะยาวมันยืดอายุชิ้นส่วนต่างๆแน่นอนตามแบบที่ความเห็นท่านอื่นๆบอกไว้แน่นอนครับ
ใครรักรถถนอมรถก็จะเข้าใจดีครับ ;)
-
เปิดทิ้งทั้งคืนครับยกเว้นวันฝนตก รำคาญแมวชอบกระโดดจากรั้วลงมานอนที่ฝากระโปรงเพราะมันอุ่น
-
ผมทำประจำเลยครับ
บางทีก็เปิดจนลืม
-
ไม่เคยเปิดเลยสำหรับผมนะ
-
ชาว คาร์ลิซึม ไม่เปิดกระโปรงรถมันงุดงิดหัวใจต้องหันไปเตะเมียระบายอารมณ์ตลอด....
-
ไม่มีผลเสียหาย มีแต่ผลดี ไม่มากก็น้อย
-
เปิดทิ้งไว้ตลอดเหมือนกันครับ เพื่อระบายความร้อน เปิดทุกวันตอนกลับถึงบ้าน พอดึกๆก็ปิดครับ เมื่อก่อนที่บ้านเคยมีหนูเลยต้องเปิดไว้ แต่เด่วนี้ไม่มีแล้วก็ยังเปิดอยู่ครับ
-
ผมเปิดจนโช๊คค้ำไม่มีแรงเปลี่ยนไปรอบนึงแล้วครับ ไม่เคยสังเกตเหมือนกันว่าได้ผลมั้ย แต่ถูกกรอกหูมาตั้งแต่เด็กจากพ่อว่าให้เปิดไว้สายไฟจะได้ไม่กรอบ
-
ผมก็เปิดครับ ถ้ารถใครมีเกจวัดอุณหภูมิหม้อน้ำจะรู้ครับ อุณหภูมิทำงาน 90 ให้ลองดับเครื่องแบบไม่เปิดฝากระโปรงสัก 10 นาทีแล้วบิดกุญแจดูใหม่ อุณหภูมิจะขึ้นไป > 95 เลยครับ แต่ถ้าเปิดฝากระโปรงอุณหภูมิจะตกเหลือ 70-80 เร็วมาก
ถ้าภายในห้องเครื่องไม่อบความร้อนมากพวก สายไฟ พลาสติก จะไม่กรอบ ยืดอายุครับ
ข้อเสียคือเปิดฝากระโปรงบ่อยฝุ่นจะเยอะ ต้องแวะปั้มคอยเป่าให้สะอาดโดยเฉพาะหม้อน้ำ+แผงแอร์
บางทีมีรอยตีนแมวมาปีนเล่นบนฝาครอบเครื่องก็มี 555
-
ถ้าวิ่งเกิน 40 โลจะเปิดครับ ยิ่งวิ่งตอนช่วงกลางวันถ้าเปิดได้จะไม่พลาดเลยผม
-
ผมทำทุกครั้งที่กลับเข้าบ้านครับ อย่างน้อยๆ จะได้เป็นการตรวจสอบรถว่ามีอะไรแปลกไปไหมด้วยน่ะครับ และ ให้ความร้อนระบายออกได้ไว อย่างน้อยๆก็อบร้อนๆมาตลอดที่ใช้งานแล้ว
ผมว่า มันช่วยยืดอายุได้นะครับ ไม่ได้กลัวฝาหรือตัวค้ำพังอะไร เปิดค้างทั้งคืนตลอด
-
รถของผมทุกคันพอเข้าบ้าน ดับเครื่องเสร็จผมจะเปิดฝากระโปรงไว้ทุกคัน จะปิดอีกทีก็ตอนจะขับรถอีกที ทำแบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว มันมีประโยชน์มากๆตามที่ความเห็นก่อนๆว่ามาแหละ
-
สำหรับผมที่ว่า เวลารถติดรถร้อนกว่าเยอะ ฝากระโปรงยังทนได้ ผมว่านั้นคือสถานการณ์ที่เราไม่มีทางเลือกอะครับ รถติดๆเราไปเปิดฝากระโปรงระบายความร้อนกลางถนน คงฮาน่าดู555555 อย่างน้อยๆเมื่อมีโอกาศกลับเข้าถึงบ้านก็จะเปิดเพื่อระบายความร้อนมันหน่อย เคยสังเกตุครับเวลายกฝากระโปรงขึ้นอะ
ความร้อนมันตีขึ้นมาใส่ตัวเราร้อนมาก ถ้าเราปิดคาไว้อย่างนั้นคงจะอบน่าดู อย่างน้อยๆก็ได้ดูสิ่งผิดปกติของเครื่องด้วยครับ
-
ไม่เคยเปิดครับ..มีที่จอดใต้อาคาร ทางลมโกรกๆเลย
-
เปิดบ้างบางครั้ง แต่ก็ดูสถานที่ด้วยครับ เช่นถ้าในบ้านตัวเองก็เปิดแต่เป็นที่ทำงานซึ่งเป็นสถานที่ค่อนข้างเปิด(สาธรณะหรือบุคคลภายนอกเข้าได้) จะไม่เปิดครับ เพราะอาจจะถูกขโมยอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนในห้องเครื่องได้ครับ
-
กลับบ้านเปิดทุกครั้ง ไปถึงที่ทำงานก็เปิดทุกเช้า ใส่รองเท้า เตรียมของ ทิ้งขยะเสร็จ ปิดกระโปรง ล๊อครถ เดินขึ้นลิฟท์ ทำแบบนี้ทุกวันครับ
-
ผมว่าไม่มีประโยชน์นะครับ
ตอนจอดรถติดไฟแดงกลางแดด อากาศในนั้นร้อนกว่ามาก
สำหรับผม ก่อนดับเครื่อง จอดวอร์มดาวน์ให้รอบเดินเบาซัก 1-2 นาที ดีกว่า
-
ถ้าฝนไม่สาด แดดไม่ส่องเปิดไว้ ตลอด เลยครับ
-
โอ้ว ผมนึกว่ามีผมทำคนเดียวซะอีก เวลาผมกลับมาถึงบ้านจะยกฝาโปรงขึ้นตลอดเลยคับ ช่วยระบายความร้อนและเครื่องเย็นเร็วนะคับ บางทีก็ลืมปิดทิ้งไว้ทั้งคืนก็มีคับ :)
-
เปิดเมื่อตรวจเช็คสภาพและอุปกรณ์ ทุกๆวันอาทิตย์ และ ในวันที่อากาศร้อนๆ หรือ วิ่งต่างจังหวัดไกลๆ ครับ
เปิดฝากระโปรงในปั้มหรือสถานที่สาธารณะ ระวังพวกมิจฉาชีพด้วยครับ