Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Severus Snape ที่ มิถุนายน 27, 2016, 11:20:33
-
ผมเป็นคนที่ชอบรถแบบ Hatchback มากครับ โดยเฉพาะรุ่นสปอร์ตหรือ Hot Hatch นี่จะยิ่งชอบไปใหญ่เลยครับ รู้สึกว่าเป็นรถที่ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า มีความอเนกประสงค์เวลาต้องขนของชิ้นใหญ่ สะดวกในการขับการจอด และสัดส่วนดูน่าหลงไหลมาก ชอบมากกว่าซีดานด้วยซ้ำ น่าจะต่างจากคนไทยส่วนใหญ่ที่นิยมรถซีดานมากกว่า โดยเฉพาะ VW Golf เนี่ย ชอบมาตั้งแต่ตัว MK5 แล้วครับ เคยเห็นตอนไป Work and Travel เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน จนตัว GTI MK6 ก็เคยไปทดลองขับที่เมืองทองธานีมาแล้วตอนมอเตอร์โชว์เมื่อ 3-4 ปีก่อน แต่ราคาตอนอยู่ไทยนี่เกินเอื้อมจริง ๆ ครับ จำได้คร่าว ๆ ว่า 2.8 ล้านบาท ตอนนั้นผมเพิ่งจบ ป ตรีใหม่ ๆ เงินเดือนก็ไม่ถึง 2 หมื่น ดูเป็นความฝันที่เกินเอื้อมมาก ๆ เลยได้แต่มองอยู่ห่าง ๆ
-
จนกระทั่งได้มีโอกาสมาเรียนต่อที่ USA และเมื่อเรียนจบก็ได้งานทำที่นี่ สิ่งแรกที่ผมคิดเลยตอนได้งานใหม่นี่ก็คือตั้งใจจะซื้อรถใหม่นี่แหละครับ เพราะรถมือสองคันที่ใช้อยู่ตอนนั้นสภาพก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่แล้วด้วย (Lancer EX) โดยตั้งใจไว้เลยว่าจะซื้อ GTI MK7 นี่แหละ เพราะเป็นความฝันมานานมากแล้ว และราคาที่นี่ไม่ได้แพงเลย $30-35k ก็น่าจะประมาณ Civic RS, Corolla Esport ในไทยนี่เอง ยิ่งถ้าเป็น VW Golf ธรรมดานี่ราคา 20-30k เองครับ พอคำนวณค่าผ่อนรถแล้วก็แทบจะราคาประมาณเมืองไทยเลย เดือนละหมื่นกว่าบาท แต่รายได้ที่นี่สูงกว่าทำงานที่ไทย เลยถือว่าไม่ได้เป็นอะไรที่ดูเกินเอื้อมแบบตอนอยู่เมืองไทย
-
ภายนอก
Golf เจเนอเรชั่นนี้เป็นรุ่นที่ดูดีที่สุดในความรู้สึกผมแล้วนะครับ เส้นสายเฉียบคมและเรียบง่ายมาก ๆ ทำให้สัดส่วนดูลงตัว และน่าจะดูดีไปอีกนาน เทียบกับสองรุ่นที่แล้วอย่าง MK5-6 มันดูโค้ง ๆ มน ๆ น่ารัก ๆ จนมาถึงตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่ามันดูล้าสมัยไปบ้างแล้ว
-
ไฟหน้าและไฟท้ายก็มีความเฉียบคมเหมือนกับดีไซน์ตัวถังเลยครับ ผมเลือกรุ่นรองท็อปเลยมี DRL มาให้ด้วย รุ่นล่าง ๆ จะเป็นหลอดฮาโลเจนธรรมดา ไม่มีขีดแดงจากกระจังหน้าคาดผ่านเข้ามาในโคมไฟ ผมว่าดีไซน์ขีดแดงนี้ทำให้รถดูแพง ดูโหดขึ้นพอสมควรเลยกัดฟันเอารุ่นนี้ (SE) ส่วนรุ่นท็อปสุดจะเป็นรุ่น Autobahn ซึ่งมีแรงม้าเพิ่มมาอีกไม่กี่สิบตัว และมี Navigation แต่ยังไงรุ่นนี้ก็มี Android Auto / Apple Carplay อยู่แล้ว เลยไม่ได้สนใจรุ่นท็อปเลยครับ
-
รุ่น GTI นี้มาพร้อมกับล้อ 18 นิ้วเป็นมาตรฐาน เป็นแบบ 5 ก้านและมีการตัดขอบสีดำด้วย โดยรุ่นท็อปจะมีแบบ 19 นิ้วให้เลือกด้วยแต่จะเป็นลายอื่นแทน ส่วนยางที่ได้มานั้นคือ Bridgestone Potenza แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเลือกใช้ยางญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นยางยุโรปอย่าง Michelin/Continental
-
อีกสิ่งหนึ่งที่ชอบของแบรนด์ VW คือการเปิดฝากระโปรงท้าย ที่เปิดและมือจับก็คือโลโก้ VW นั่นเอง ดีไซน์ได้ลงตัวมาก ๆ ไม่ต้องมีมือจับมาแปะไว้ให้เกะกะสายตา ประกอบกับไฟท้ายแบบคาดในแนวนอน ทำให้ด้านท้ายดูกว้างขึ้นไปอีก
-
ภายใน
ดีไซน์ภายในของค่าย VW ไม่เคยเน้นหวือหวาอยู่แล้ว โดยจะเน้นการออกแบบเพื่อการใช้งานที่ง่ายและการเลือกใช้วัสดุชั้นดี พอดูจากในรูปเลยดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษ แต่พอมาเห็นของจริง มาได้ใช้เองแล้วรู้สึกประทับใจมาก ๆ ในการจัดวางของปุ่มที่ง่ายต่อการใช้งาน ผมชอบตรงที่ยังให้ปุ่มมาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ได้เยอะเกินไปจนดูรก และก็ไม่ได้ยัดทุกอย่างแม้กระทั่งควบคุมแอร์ใส่มาในทัชสกรีนแบบแบรนด์ยุโรปหลาย ๆ แบรนด์ในตอนนี้ และพลาสติกบนคอนโซลและประตูส่วนบนล้วนแต่เป็นแบบนิ่ม และนิ่มมากจริง ๆ
-
ตรงคอนโซลกลางมีหน้าจอขนาดกำลังดี รู้สึกว่าจะ 8 นิ้ว และมีปุ่มลัดสำหรับแต่ละเมนูอยู่ด้านข้างของจอด้วย ทำให้ไม่ต้องใช้ทัชกรีนกดหาแต่ละฟังก์ชั่น การตอบสนองดีพอสมควร ไม่มีอาการ lag แบบน่าเกลียด
อีกเรื่องหนึ่งคือความรู้สึกของการใช้ปุ่ม ปุ่มกดและหมุนในรถคันนี้ให้ความรู้สึกแน่นหนาดีครับ เทียบกับ Mitsubishi คันก่อนของผมแล้วเวลาหมุน เวลากดรู้สึกได้ถึงความเป็นพลาสติค มีเสียงแก๊กแบบพลาสติค แต่ VW มีหลายปุ่มที่มีชิ้นส่วนเป็นโลหะจริง ๆ ด้วย เวลาจับจะรู้สึกได้ เลยยิ่งทำให้ภายในดูมีความพิเศษกว่ารถในระดับเดียวกัน
-
รุ่นที่ผมซื้อเป็นรุ่นเกียร์ DSG อัตโนมัติ และมีปุ่มกดสตาร์ทอยู่ใกล้ ๆ กับประปุกเกียร์เลย มองเห็นง่ายดี ดีกว่าอยู่หลังพวงมาลัยแบบรถส่วนใหญ่ ถ้าซื้อรุ่นเกียร์ธรรมดาจะได้หัวเกียร์แบบลูกกอล์ฟครับ ผมว่าน่ารักดี แต่บังเอิญขับเกียร์ธรรมดาไม่เป็น
-
เรือนไมล์ไม่มีอะไรหวือหวาแต่อ่านข้อมูลได้ง่ายมาก มีจอสีขนาดเล็กอยู่ตรงกลาง เราสามารถเปลี่ยนให้แสดงความเร็ว อัตราสิ้นเปลือง หรือระยะทางได้
-
เอกลักษณ์ของ Golf GTI คือสีดำตัดแดงภายในห้องโดยสาร โดยในรุ่นนี้มี LED สีแดงคาดอยู่บนคอนโซลและขอบประตู ส่วนตรงเบาะหนังก็เก็บดีเทลด้วยการเย็บด้ายสีแดง หากเลือกแบบเบาะผ้าจะได้ผ้าลายสก็อต
-
การขับขี่
VW เป็นรถยุโรปคันแรกที่ผมขับแบบจริงจังนะครับ และเป็นรถที่ขับสนุกมากจริง ๆ ครับ เทียบกับ Lancer คันเก่าของผมซึ่งผมว่าขับสนุกแล้ว แต่ติดว่าเป็นเกียร์ CVT เลยอืด ๆ เร่งไม่ค่อยขึ้น แต่ GTI ตัวนี้มาพร้อมกับเครื่อง 2.0 turbo 220 แรงม้า และเกียร์ DSG สิ่งที่ประเสริฐมากจริง ๆ คือเกียร์ DSG มันไวมาก! แทบไม่รู้สึกถึงอาการ lag ใด ๆ เลย คือฟีลลิ่งมันไม่ได้แรงถึงขั้นว่าเหยียบคันเร่งแล้วหลังติดเบาะแบบที่คิดไว้ แต่ความเร็วมันไต่ขึ้นแบบเร็วมาก และช่วงล่างก็นิ่งมากเช่นกัน จนบางทีเผลอเหยียบเพลินจนความเร็วเกือบแตะ 100 mph แบบไม่รู้ตัว ทำให้ผมคิดว่านี่ขนาดแบรนด์ mass แบบ VW ยังขับสนุกขนาดนี้ แล้วพวกแบรนด์หรูอย่าง Audi/ Benz/ BMW ความรู้สึกจะขนาดไหน
-
สรุป
รู้สึกว่าคิดถูกมากจริง ๆ ที่เลือกรถคันนี้และยอมเป็นหนี้ผ่อนไปอีกหลายปี ปัจจุบันใช้มาได้เกือบครึ่งปีแล้วยังไม่เจอข้อเสียแบบที่รับไม่ได้ สิ่งที่ไม่ชอบตอนนี้ก็มีแค่เรื่องแอร์ไม่เย็นฉ่ำเย็นเร็วเหมือนรถญี่ปุ่นที่เคยใช้ในไทย(ผมอยู่โซนเมืองร้อนของอเมริกา) แต่ในขณะเดียวกันก็เสียดายเหมือนกันว่าแบรนด์ VW ยังไม่ไปตั้งโรงงานในไทยซะที คนไทยจะได้ใช้รถยุโรปในราคาระดับรถญี่ปุ่นซักที ราคารุ่นที่ผมซื้ออยู่ประมาณ $32k คิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 1.12 ล้านบาท ลองนึกดูว่าถ้า GTI ขายราคาเดียวกับ Civic RS จะกระเทือนตลาดเมืองไทยได้ขนาดไหน
-
มีที่ให้ซัดคันเร่งบ้างป่ะครับ เข้าใจว่ากฏหมายค่อนข้างแรง
แล้วราคาเทียบกับมัสแตง eco boost ห่างกันแยอะไหมครับ
-
มีที่ให้ซัดคันเร่งบ้างป่ะครับ เข้าใจว่ากฏหมายค่อนข้างแรง
แล้วราคาเทียบกับมัสแตง eco boost ห่างกันแยอะไหมครับ
ยังไม่มีโอกาสขับไปต่างเมืองแบบไกล ๆ เลยครับ แต่คงไม่กล้าซัดโหดมากเพราะมีตำรวจขับเช็คความเร็วอยู่บนทางด่วนตลอด ใบสั่งโดนทีนี่ก็ 5-6 พันบาทเลยครับ
ส่วนราคา Mustang - Camaro ก็ประมาณรุ่นนี้แหละครับ ที่นี่ไม่ได้จัดว่าเป็นรถแพงมาก ถ้าขยับขึ้นไปอีก 30k ปลาย ๆ ก็พวก 3-Series / C Class แล้ว
-
ขอบคุณนะครับ น่าใช้มากกกก เสียดายที่ตัวแทนจำหน่ายในไทย ก็ไม่มีโอกาสนำรุ่นนี้กลับเข้ามาขายได้
-
มีที่ให้ซัดคันเร่งบ้างป่ะครับ เข้าใจว่ากฏหมายค่อนข้างแรง
แล้วราคาเทียบกับมัสแตง eco boost ห่างกันแยอะไหมครับ
ยังไม่มีโอกาสขับไปต่างเมืองแบบไกล ๆ เลยครับ แต่คงไม่กล้าซัดโหดมากเพราะมีตำรวจขับเช็คความเร็วอยู่บนทางด่วนตลอด ใบสั่งโดนทีนี่ก็ 5-6 พันบาทเลยครับ
ส่วนราคา Mustang - Camaro ก็ประมาณรุ่นนี้แหละครับ ที่นี่ไม่ได้จัดว่าเป็นรถแพงมาก ถ้าขยับขึ้นไปอีก 30k ปลาย ๆ ก็พวก 3-Series / C Class แล้ว
OMG มัดแตง ราคาล้านสอง
-
อยู่ florida น่าจะเอา รุ่น เปิดประทุน นะครับ
-
ช่องจอดรถ ตี ยาว ดีจัง 8) 8) 8)
-
เข้ามาอิจฉา และ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
-
ว้าว เยี่ยมเลย
-
ลองไปเที่ยวอุทยาน ที่ทางคดเคี้ยวนะครับ แล้วเล่นแพดเดิ้ลชิพ ขึ้นลง นี่จะได้ฟิล wrc เลย ครับ
-
จริงๆ เรื่องการขับขี่สนุก Golf GTI ไม่เป็นรองค่ายพรีเมียมนะครับ
GTI vs A-Class vs 1-series vs A3
ส่วนมาก การขับขี่สนุก GTI กับ A3 จะเด่นเรื่องความคล่องตัว และเกียร์ DSG ของเครือนี้เด่นมากๆ เปลี่ยนไว เร้าใจ ถ้าเกียร์ DSG ของเครือนี้ไปเทียบ 8/9 speed ของ MB, BMW ผมว่า DSG ของ VW เหนือกว่าด้วยซ้ำครับ
เพราะฉะนั้น ขึ้นชื่อว่า Golf GTI การขับขี่ไม่เป็นรองค่ายพรีเมียมเยอรมันแน่ๆ สมรรถนะก็ไม่เป็นรอง เพียงแต่ระดับแบรนด์มันกำหนดราคา รวมถึงอาจจะเรื่องวัสดุภายในและออพชัน ที่ค่ายพรีเมียมดูเหลื่อมแบบนิดๆ เอง
-
ขับสนุกกว่า benzและbmw แน่นอนครับ จากคนที่เคยมีมาแล้วทั้ง 2 รุ่น ทั้ง 328และgti mk6
-
มีที่ให้ซัดคันเร่งบ้างป่ะครับ เข้าใจว่ากฏหมายค่อนข้างแรง
แล้วราคาเทียบกับมัสแตง eco boost ห่างกันแยอะไหมครับ
ยังไม่มีโอกาสขับไปต่างเมืองแบบไกล ๆ เลยครับ แต่คงไม่กล้าซัดโหดมากเพราะมีตำรวจขับเช็คความเร็วอยู่บนทางด่วนตลอด ใบสั่งโดนทีนี่ก็ 5-6 พันบาทเลยครับ
ส่วนราคา Mustang - Camaro ก็ประมาณรุ่นนี้แหละครับ ที่นี่ไม่ได้จัดว่าเป็นรถแพงมาก ถ้าขยับขึ้นไปอีก 30k ปลาย ๆ ก็พวก 3-Series / C Class แล้ว
OMG มัดแตง ราคาล้านสอง
ไม่ต้องตกใจครับ รถที่ประเทศนี้ราคาถูกจริงแต่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถไม่ถูกเลยนะครับ ต่อให้เข้าอู่ขั้นต่ำหลักร้อยเหรียญ (3,000-4,000บาท) เป็นปกติ คนในประเทศนี้ส่วนใหญ่เลยซ่อมรถแบบง่ายๆกันเป็นเพราะค่าซ่อมโหดนี่แหละ ชนิดเข้าอู่ข้างทางจ่ายหลักร้อยบาทแบบบ้านเรานี่แทบจะไม่มีเลย
-
:-* :-* :-*
-
ร้อนนี่ร้อนเท่าเมืองไทยหน้าร้อนปะครับ