Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: city552 ที่ กรกฎาคม 16, 2016, 22:42:20

หัวข้อ: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: city552 ที่ กรกฎาคม 16, 2016, 22:42:20
พอดีมีแผนเปลี่ยนรถในช่วงปลายปีนี้ ก็เลยอยากเห็นเทรนด์เกี่ยวกับรถในอนาคต
สมมติรถคันใหม่ที่จะซื้อกะใช้ อีก5ปี ขายทิ้งเปลี่ยนใหม่ คือก็ราวๆปี 2022
ป่านนั้น รถน้ำมันปกติยังจะมีคนซื้อต่อมั้ย ราคาจะดิ่งเหวขนาดไหน
รถที่ควรซื้อในปี 2017 ควรจะเลือกเครื่องยนต์เบนซืล หรือ ดีเซล หรือ Skyactive
โดยงบวางไว้ไม่เกิน 1.4ล้านครับ
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: MystogaN ที่ กรกฎาคม 16, 2016, 23:01:44
ปาปริก้าซักถุงไหมครับ

ปล.อะไรก็เกิดขึ้นได้ถ้ามีปาปริก้า
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: deathsheep ที่ กรกฎาคม 16, 2016, 23:28:51
เรื่องไฟฟ้าคงอีกนานครับ  บ้านเราหลายสิ่งหลายอย่างยังไม่support อีกทั้งไฟฟ้าที่ใช้กันปัจจุบันก็ยังต้องนำเข้าจากเพื่อนบ้าน  เมื่อไรไม่ทราบได้  แต่บอกเลยว่าอีกนาน
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: I-PULSE ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 00:21:47
คงอีกเกือบสิบปีครับ ไม่มีผลในการตัดสินใจตอนนี้หรอก อยากได้คันใหนซื้อเลยครับ
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: onbit40 ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 00:50:33
อาจจะได้เห็นรถไฟฟ้าเกิดชาติหน้า เพราะบ้านเราอุ้ม บ.ผลิต บางราย :)

เรื่องกินไฟ ผมเอาตัวเลขกลมๆมาให้

Tesla model S - จะใช้เวลา charge 2 ชั่วโมง ได้ระยะ 416 กิโลเมตร โดยประมาณ ( supercharger เท่านั้น)

กินไฟ..
Supercharger กินไฟที่ 220v 80amp  , ก็คือ 220*80 = 17,600 watt/hour
เท่ากับว่า เราจะต้องใช้ไฟ charge 416 กิโลเมตร์ 35,200watt

แล้วคนก็ไม่ได้ขับ 416 กิโลกันทุกวันทุกคน ขับน้อยก็ใช้ไฟน้อยเข้าไปอีก
ไฟที่ใช้วิ่ง 1 กิโลราวๆ 84 watt.

เทียบกับ

แอร์บ้าน โดยปกติ 2000watt/hour เปิดวันละ 10 ชม ก็ 20,000watt
ตู้เย็นบ้าน 10 คิว ปกติกินไฟ 1000watt/hour เปิด 24 ชม ก็ 24,000watt
สรุป อยู่บ้านเฉยๆก็ใช้ไฟ 44,000watt ได้

จริงๆไม่ได้อยากให้คิดเรื่องไฟฟ้าไม่พอใช้ มันอยู่ที่นโยบายรัฐล้วนๆ
พลังงานทางเลือกมันมีเยอะมากๆๆ แต่ผลประโยชน์ทีมีอยู่ ทำไมต้องทำให้ไฟฟ้าดูหาง่าย เพราะถ้ามันดูหาง่าย มันก็น่าจะราคาถูก ดีกว่าที่ทำให้คนไทยคิดว่าไฟฟ้าไม่พอ หายากมากมาย :)

แต่รับประกันได้ เมืองไทยรถไฟฟ้ามา 5 -15ปีโน่นแหละ

ฉนั้น 5 ปีนี้ ยังเป็นสงคราม การเอาตัวรอด ของเครื่องควันดำ เหล่า direct injection/down sizing/turbo ทั้งหลาย

จะได้เห็น eco คาร์ ฉีดตรง ก็งานนี้แหละ ก่อนที่ รถไฟฟ้าจะบูม

ถามว่าจะเป็นอย่างไรกับเครื่องยนต์น้ำมัน ลองหาอ่านประวัติเครื่องไอน้ำดูคับ มันก็น่าจะจบเหมือนน้ำมันนี่แหละ ช้าหรือเร็วแค่นั้น
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 08:51:27
เป็นแต่ทางเลือกครับ

Tesla จะไม่บูม

น่ำมันจะคงอยุ่ในอีกนานกีบเครื่องยนตแบบปัจจุบัน
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: PunTam ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 09:02:59
รถน้ำมันยังคงอยู่อีกนานครับ ตราบใดที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์หรือพลังงานสะอาดที่สามารถสร้างกำลังไฟฟ้าได้สูงๆ ยังไม่เกิดในไทยครับ ซื้อได้ครับ ยังไงบ้านเราก็ยังต้องใช้น้ำมันกับรถและเชื้อเพลิงจากใต้พิภพโรงไฟฟ้าอีกนานครับ
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 09:28:35
เนเธอร์แลนด์วางแผนจะใช้รถไฟฟ้า 100% ในอีก 10 ปี

บ้านเรามักจะล้าหลังยุโรป 50-100 ปี แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังให้ได้ทั้งหมดแบบเค้า อย่างน้อยใน 5 ปีนี้ก็ควรจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 10:19:21
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1468660177
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: flybigbear ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 10:32:11
บ้านเรายังอีกนานครับ

พลังงานไฟฟ้าบ้านเรายังอยู่ในช่วงน่าเป็นห่วงแต่ยังไม่วิกฤต
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: bahamu ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 13:44:11
รถไฮบริดออกขายในไทยสิบปีได้ ราคาขายต่ออะไรร่วงมากกว่ากัน
รถใส่ถ่านไฟฟ้า ชะตาคงไม่ต่างจากไฮบริด ซ่อมไม่ยากเปลี่ยนอย่างเดียว
อากาศร้อนชื้น แบตจะโทรมเร็ว ส่วนติดลบไฟจะหมดไว

นิยมแบบไหน จอดแล้วอัดไฟฟรีมีด้วยหรือ เสียตังค์ทีเท่าไหร่
อัดเร็วบ่อยๆแบตโทรมเร็ว แล้วเปิดแอร์เย็นฉ่ำตลอดเวลารถติด
กินไฟขนาดไหน เมืองหนาวเปิดฮีทเตอร์กินเท่าแอร์แบบไทยๆยาก
เกิดไฟหมดระหว่างรถติดทำไงต่อ ลากหรือมีแบตสำรอง เสียเงินเพิ่มอีก

กว่าจะมีที่อัดไฟเกลื่อนแบบปั้มน้ำมัน คิดว่ากี่ปี ขั้นการขอสร้างทำไง
หัวเสียบแต่ละเจ้าต่างกันอีก ตู้ต้องมีกี่หัว หรือจะใช้ไร้สาย ลุยน้ำท่วมในซอยได้เปล่า

ขายต่อทำไมคิดว่าราคาดีกว่า น้ำมัน ตอบหน่อย อะไรทำให้ดีกว่า
ถ้าขายต่อต่ำกว่าไฮบริดยังอยากซื้ออยู่รึเปล่า ตกรุ่นไปอะไหล่ไม่ทำแบบมือถือ
จะมีใครกล้ารับซื้อ ราคาควักไส้เปลี่ยนใหม่คงไม่ถูก แถมระบบosที่รถกับที่กล่อง
ทำยังไงให้คุยกันรู้เรื่อง ค่าจิ้มคิดทีละพัน จ่ายลงไหม รถรุ่นใหม่ส่วนใหญ่คิดค่าจิ้ม

อีกหน่อยรถเก่าถอดหัวฉีด ลงคาร์บูดีกว่าไม่ปวดหัว จูนe100ก็ง่าย
ดีเซลปั้มดิบก็สบาย ไม่ต้องมาจ่ายค่าอะไหล่

ถ้าน้ำมันแตะเหลือสิบบาท รถใส่ถ่านต้องขายเท่าไหร่ ที่แน่ๆเครื่องบิน
บินกันเยอะกว่านี้แน่ เรือเมล์ รถไฟ ลงมีต้นทุนขนส่งต่ำ
กว่าถ่านจะมาแทนน้ำมันบางส่วน น้ำมันก็คงเลิกกั๊ก
รถแท๊กซื่ รถบัส เรือใส่ถ่านแทนแก็สได้ ถึงมีแววเกิดจริง
ถ้าแทนกะบะไทยได้ โลกคงเปลี่ยนไปมาก แล้วคิดว่าคนไทยใช้รถทั่วประเทศแบบไหน

ห้าปีที่ว่าถ้าค่าft แพงกว่าวันนี้อีกจะยังใช้ถ่านอยู่ไหม หรือซื้อน้ำมันถูกๆ
กับแผงโซล่ามาปั่นไฟเอง โรงไฟฟ้าสร้างที่ไหนก็ค้าน แต่อยากได้ไฟถูก น้ำถูก
เพื่อนบ้านเจริญเขาก็คงเก็บไว้ใช้ของเขา ของเราไว้วัวหายล้อมคอกดีกว่า
แบบปานามาที่ต้องเปิดปิดไฟเป็นเวลา เพราะไม่ได้ส่งเสริมทางเลือกต่างๆ

พม่ามีโซล่าตามบ้านนอกแล้ว ดาวเทียมก็มี เน็ตพอมีบางจุด ยังใช้ระบบน้ำมันกันอยู่
ถามคนภูเขา คนดอยก็ได้ว่ารถแรงไม่มี หาเติมยาก ผ่าทางลำบาก อยากใช้รึเปล่า
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: rapee001 ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 13:54:46
รถไฟฟ้ามาแน่ครับถ้า

1.ระบบหัวชาร์จไฟมีพร้อมทุกที่
2.ราคารถไฟฟ้าต้องถูกกว่ารถน้ำมัน

ส่วนเรื่องการใช้ไฟฟ้าในบ้านเราที่ผลิตในประเทศไม่เพียงพอนั้นไม่มีปัญหาแน่ๆเนื่องจากช่วงเวลาที่คนใช้ไฟมากมักเป็นช่วงประมาณ
8 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม เนื่องจากเป็นช่วงที่ทั้งโรงงานอุตสาหกรรม,สำนักงาน และบ้านอยู่อาศัยต่างแย่งกันใช้ไฟเพื่อเปิดแอร์คลายร้อน

ส่วนหลังจากนั้นก็มีแต่โรงงานเท่านั้นที่ใช้ไฟ ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกโรงงานที่เดินเครื่อง 24 ชั่วโมง  ส่วนบ้านพักอาศัยแค่ใช้ไฟเปิดแอร์นอน
ซึ่งในช่วงนี้เป็นช่วงที่มีปริมาณไฟฟ้าส่วนเกินเป็นจำนวนมากจนการไฟฟ้าต้องหาวิธีใช้ไฟส่วนเกินเช่นใช้ไฟฟ้าสูบน้ำกลับเข้าเขื่อน

ดังนั้น การไฟฟ้าจึงได้ดันโครงการรถใช้พลังงานไฟฟ้าขึ้นเพื่อให้มีคนซื้อไฟส่วนเกินนี้ เพราะโรงปั่นไฟไม่สามารถสตาร์ทหรือหยุดเครื่องปั่นไฟ
แบบทันทีได้เหมือนรถเก๋ง
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Mike ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 14:11:35
รถยนต์ไฟฟ้า มาช้าเร็ว ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐ ล้วนๆเลย
ต่อให้ตลาดโลก ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ขายในราคาถูก แต่ Infrastructure พื้นฐานประเทศไทย ไม่รองรับก็ จบเห่

พลังงานฟอสซิล หมดลงทุกวัน
แต่นโยบายด้านพลังงานประเทศไทย...

ทุกวันนี้ไฟฟ้า ที่เราผลิตได้ ยังไม่พอใช้นะครับ และรัฐก็เลือกที่จะไม่ซื้อไฟฟ้า ของเอกชนบางรายที่ผลิตเกิน และอยากขายให้เรา

ปล.ผมเคยทำงานออกแบบโรงไฟฟ้า
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: city552 ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 15:55:04
ขอบคุณทุกๆ ความคิดเห็นครับ
จริงๆๆผมก็คิดคล้ายๆกันว่าประเทศไทยคงยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกเยอะ
แต่พอดีเห็นอย่าง C class sedan ก็มีแต่รุ่น Plug in hybrid ไม่เหลือน้ำมันล้วนแล้ว
จิงๆก็แอบบเสียดาย เพราะชอบ W205 มาก ถ้าซื้อยังอยากใช้นำ้มันล้วนอยู่ด้วยซ้ำ
แต่คงต้องหลังจากคันนี้ เพราะตอนนี้งบยังไม่ถึงระดับ 2.5M ป่านนั้นขอให้ยังมีรุ่นน้ำมัน100% ให้ซื้อนะ
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Darkart ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 20:06:51
รถใช้พลังงานไฟฟ้า ยังอีกนาน อยู่ที่ภาครัฐบาลและภาคเอกชน พร้อมจะจับมือพัฒนาเต็มรูปแบบหรือป่าวเท่านั้นครับ
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: promt ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 22:16:47
รถไฟ้ฟ้าเสียบปลั๊ก อาจจะไม่ใช่คำตอบสุดท้ายด้วย

รถฟิวเซลล์ คืออนาคตกว่า แต่วันนี้รถไฟฟ้านำฟิวเซลล์ไป 1 ก้าว
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: lacked ที่ กรกฎาคม 17, 2016, 22:50:29
ถ้าจะกังวลขนาดนั้นซื้อรถเล็กๆ ตลาดล่างไว้ครับ
กว่ารถไฟฟ้าจะลงมาถึงระดับล่างก็คงนานมาก
แต่ไทยเรานี่กว่ารถไฟฟ้าจะมากกว่ารถน้่ำมันคงนานมากครับ คงตามฝรั่งเค้าเป้นสิบๆปี
จะดูเทรนก็ดูต่างประเทศเอาก็ได้ครับ ยังไงเราก็ตามๆเค้าไปนั่นแหละ
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 18, 2016, 09:58:32
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1468660177
อึ้งครับ เอะอะอ้างเรื่องตกงาน ประเทศถึงไม่พัฒนาซะที
จะมีรถไฟความเร็วสูง พวกรถทัวร์ก็โวยวาย
จะมีรถไฟฟ้าพวกเครื่องยนต์เดิม น้ำมันก็โวยวาย
....
นี่ถ้าบ้านเราผลิตโนเกียคงห้ามเอาไอโฟน แอนดรอยด์เข้ามาขายด้วยป่ะ

ยังมีอีกหลายเรื่องนะที่คนไทยเรามัวแต่ขัดแข้งขัดขากันเอง กลุ่มผลประโยชน์ อิทธิพล เยอะแยะไปหมด  :'(
ปล. พวกอ้างค่าไฟขึ้น ตอนน้ำมันแพง ข้าวปลาอาหารแพงตาม เคยออกมาบ่นกันบ้างมั้ย
หัวข้อ: Re: อนาคตของรถยนต์ น้ำมัน or ไฟฟ้า เมืองไทยจะเปลี่ยนเร็วช้าขนาดไหน
เริ่มหัวข้อโดย: city552 ที่ กรกฎาคม 18, 2016, 22:00:01
http://m.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1468660177
อึ้งครับ เอะอะอ้างเรื่องตกงาน ประเทศถึงไม่พัฒนาซะที
จะมีรถไฟความเร็วสูง พวกรถทัวร์ก็โวยวาย
จะมีรถไฟฟ้าพวกเครื่องยนต์เดิม น้ำมันก็โวยวาย
....
นี่ถ้าบ้านเราผลิตโนเกียคงห้ามเอาไอโฟน แอนดรอยด์เข้ามาขายด้วยป่ะ

ยังมีอีกหลายเรื่องนะที่คนไทยเรามัวแต่ขัดแข้งขัดขากันเอง กลุ่มผลประโยชน์ อิทธิพล เยอะแยะไปหมด  :'(
ปล. พวกอ้างค่าไฟขึ้น ตอนน้ำมันแพง ข้าวปลาอาหารแพงตาม เคยออกมาบ่นกันบ้างมั้ย

อ่านข่าวนั้นแล้ว บอกความรู่สึกไม่ถูกจริงๆๆ ว่าประเทศจะเดินหน้าได้ยังไง