Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กรกฎาคม 28, 2016, 14:17:15
-
จากข่าวนำเข้ารถไฟฟ้าภาษีเหลือ 0% ทำให้ Tesla Model 3 จะเสียภาษีสรรพสามิตแค่ 5% เท่านั้น ซึ่งมีโอกาสมากว่าราคาในไทยจะไม่เกิน 2 ล้าน
คำถามคือ ถ้าคุณเป็นคนมีอันจะกิน คือซื้อรถคันละ 3 ล้านได้สบาย คุณจะซื้อมั้ยครับ
คือบางคนซื้อรถใช้ยาว 20 ปีเพราะไม่ได้เงินเหลือกินเหลือใช้ ก็ต้องมองโตโยต้าเป็นอันดับแรก แต่ถ้าสมมติว่าคุณมีเงินเหลือเฟือพอที่จะซื้อรถคันละ 3 ล้านได้ทุกๆ 5 ปี คุณจะซื้อมันมาใช้มั้ย หรือว่าขอใช้รถสันดาปที่ราคา 3 ล้านดีกว่า
-
ใช้อย่างไม่คิดเลยครับ (ถ้ามีเงินนะ)
-
ขอรอดูคันขายจริงครับ เพราะคัน Prototype ที่เปิดตัว ภายในโล้นมาก แถมพวงมาลัยยังกับรถยุค 70-80 :-\
ปล. จะว่าไป คนไทยหลายคนไม่ซื้อรถ Hybrid/Plug-in Hybrid เพราะกลัว'แบตเสียซ่อมแพง' แต่ทำไมพอเป็นรถไฟฟ้าล้วนๆอย่าง Tesla กลับไม่ห่วงเรื่อง'แบตเสียซ่อมแพง'กันซะงั้น :P :P :P
-
รอดูก่อนครับ รถอเมริกา มันชอบก่อปัญหาในไทยหลายรุ่น แต่พอแรกเห็นก็คิดว่าหน่วยก้านมันดี พอเอาเข้าจริง มันก็อาจจะน๊อคเจ้าของได้
-
ถ้า...
- มีที่ชาร์ตไฟสาธารณะ เยอะเหมือนปั้มน้ำมัน
- แบต 100% วิ่งได้มากกว่า 700 กิโลเมตร
- ชาร์ตไฟจาก 5-10% จน 100% ไม่เกิน 10 นาที
- แบต ใช้งานได้มากกว่า 10 ปี
ถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขนี้ ถึงจะใช้รถไฟฟ้า คับ
*ตราบใดที่แหล่งพลังงาน(แบต) ยังไม่พัฒนา รถไฟฟ้า ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก
-
ถ้า รถดี อะไหล่พร้อม ศูนย์แจ่ม ช่างเก่ง ก็น่าลอง
-
ซื้อครับ ถ้ามีแหล่งเติมไฟให้ผม ไม่ต้องมีทุกปั้ม ขอแค่ ปตท. ใหญ่ๆก็ได้
เติมนานสัก 30 นาทีก็ยอม ไปซื้อกาแฟรอได้
-
ขอรอดูคันขายจริงครับ เพราะคัน Prototype ที่เปิดตัว ภายในโล้นมาก แถมพวงมาลัยยังกับรถยุค 70-80 :-\
ปล. จะว่าไป คนไทยหลายคนไม่ซื้อรถ Hybrid/Plug-in Hybrid เพราะกลัว'แบตเสียซ่อมแพง' แต่ทำไมพอเป็นรถไฟฟ้าล้วนๆอย่าง Tesla กลับไม่ห่วงเรื่อง'แบตเสียซ่อมแพง'กันซะงั้น :P :P :P
เดานะครับ ว่ารถ Hybrid มีส่วนซ่อมบำรุง/เปลี่ยน อะไหล่ตามระยะ เหมือนรถสันดาบภายใน + แถมอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม ทำให้มีส่วนต้องดูแล และ ซ่อมบำรุงเพิ่มขึ้น
ส่วนรถไฟฟ้า ไม่น่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะ ของเหลวต่างๆ สายพาน อะไหล่สิ้นเปลืองอีก ฯลฯ รวมๆค่าใช้จ่ายก็น่าจะชดเชยตรงนี้(ค่าแบตเตอรี่)ไปได้มากพอดูเลยครับ
และถ้าจะมีอะไหล่เสีย ก็จำนวนชิ้นไม่มากมายยุบยับ เท่ารถสันดาบภายใน และ ถ้าจะมีของเสีย น่าจะทำแบบเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ คือ ยกเปลี่ยนอะไหล่เป็นชิ้นๆไป ชิ้นเก่าเอาไปซ่อมบำรุง แล้วมารอเปลี่ยนให้คันอื่นๆ เวลาซ่อมบำรุงอาจน้อยลง อะไหล่น้อยชิ้น สต๊อกน้อยลง ทุนในการจัดหา/เก็บของ ก็น่าจะลดลง (เดาล้วนๆ)
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ยังไปได้อีกครับ ยังดีได้อีก และถูกลงได้อีก ต่างจากสันดาบภายในที่ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ ในช่วงหลังๆที่ผ่านมา ถ้าเทียบกับเครื่องไฟฟ้า ก็น่าจะถูกลงเรื่อยๆ เรื่อง Tesla นี่ เยอรมันก็ยังค้อนควับเลยครับ 55
ไม่รู้ว่าถ้าจะดูการซ่อมบำรุงรถพวกนี้ เทียบกับพวกรถไฟ ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จะได้หรือไม่ว่า ทนทาน ซ่อมบำรุงกันขนาดไหน
-
ผมเพิ่มเงินไปเล่น 330e ดีกว่าครับ เวลาขับทางไกลผ่านภูเขา แบตหมดกลางเขาใช้เครื่องยนต์ต่อได้
-
ซื้อครับ แต่บริษัทแม่ Tesla ต้องเข้ามาเปิดที่ไทยด้วยนะครับ ไม่งั้นเคลมอะไรคงยากมากๆ อารมณ์เหมือนเคลม iPhone กับตัวแทนจำหน่าย 55 ยากกว่าเคลมเองกับร้าน official มาก
ถ้าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับแบตและระบบขับเคลื่อน + ซอฟแวร์ต่างๆ ช่างบ้านๆก็น่าจะซ่อมได้นะครับ แค่เปลี่ยนยางกับโช้คเอง
-
ไม่ครับ ไม่ชอบหน้าตา
-
ราคา 3ล้าน ผมขอ เยอรมัน Handling F30 330e ดีกว่าครับแถมมี BSI ให้ฟรี 5 ปีอีกด้วย(อุ่นใจนิดนึง) แต่ถ้า Tesla Model 3 คันละไม่เกิน 2 ล้านก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย
-
ขอดูค่า Maint หน่อยครับ ถ้าไม่แพงมากน่าซื้อ เพราะชาร์จฟรี
เท่ากับประหยัดค่าน้ำมันปีนึงเป็นแสน
-
ระบบขับเคลื่อนมันเป็นไฟฟ้า คงไม่มีอะไรให้ซ่อมมากนัก เรียบง่ายกว่าเครื่องยนต์ปกติอยู่แล้ว
แต่ก็ไอ้ระบบไฟฟ้านี่แหละ ที่มันเสียกันบ่อยๆ... เอ๊ะ ยังไงดี
-
ท่องไว้ครับ
แบตราคา 4 แสนเอง 55555
นอกจากค่ารถที่แสนแพงแล้ว ยังต้องติดตั้งอุปกรณ์ชาร์ตในโรงรถอีกหลายหมื่นนะครับ
แถมบ้านทั่วไปกระแสอยู่ที่ 10-15 แอมป์
รถ Tesla ต้องการขั้นต่ำ 24 แอมป์
ถ้าต้องการวิ่ง 160 km ต้องชาร์ตเกือบ 6 ชั่วโมง
อยากได้วิ่งไกลๆ ชาร์ตเร็วๆ ต้องใช้แอมป์เยอะ
เอาไปศึกษา คำนวณเล่นๆก่อน
https://www.tesla.com/support/home-charging-calculator
ถ้ารวยจริงๆ ก็จัดไปเลยครับ
แต่บอกได้เลย คนหาเช้ากินค่ำ อดแน่นอน
-
เงินเหลือจริงๆก็น่าลองครับ
-
ถ้ามีเงินคงซื้อแน่นอนครับ
-
นอกจากอัตราเร่ง ความเป็นรถไฟฟ้า .... มันมีอะไรดีกว่ารถในราคาเดียวกันบ้างอะครับ
ขับสนุกไหม ฟีลลิ่งช่วงล่างเป็นไง ความเงียบ ความนิ่ม ความกว้าง ความหรู มีอะไรดีกว่ามั้ยครับ นอกจากใช้ไฟฟ้าได้ !!!
ถ้าตัดเรื่องรักโลกออกไป มันมีอะไรดีกว่าบ้าง :-\
ระบบ AutoPilot ผมเห็นข่าว Model S ชน คนขับตายคาที่ ผมไม่กล้าใช้ ยิ่งถนนเมืองไทยด้วย กับนิสัยขับรถเถื่อนๆแบบคนไทย ตีนผี 150 -160 มุดไปมา กลัวชีวิตจะไม่ยืนยาวอะครับ
ส่วนตัวไม่อยากเป็น "หนูทดลองยา" ให้บางบริษัทรถยนต์ใช้ทดสอบระบบครับ :P
-
เงินพร้อมลองแน่ครับ
-
Model S ตอนนี้ผู้นำเข้าอิสระขายกัน 5 ล้านกลาง ถึง 6 ล้าน
(บริษัทแม่มาเอง ผมลดให้เลยอีก 1 ล้าน เหลือ 4 ล้านกลาง)
Model 3 ก็น่าจะอยู่ที่ 2 ล้านปลาย ถึง 3 ล้านล่ะครับ ผมว่านะ
-
ซื้อครับ ดูรีวิวมาหลายอันแล้ว เชื่อว่ามันมีทุกอย่างที่ผมอยากได้ในรถคันหนึ่ง แต่ขอให้ Tesla มาทำ Supercharge ให้พร้อมละกัน แล้วจะซื้อเลย แต่ผมว่าไม่ใช่ 1.9 ล้านหรอกครับ ราคามันต้องไปล้อกับพวก C Class โน่นแหละมั้งครับ
-
ไม่เคยคิดจะซื้อเลยครับ
ถ้าอีก 10 ปี ต่อไปว่ากัน
ตอนนี้คนไทยกำลังเห่อรถไฟฟ้ากันจริงๆ สู้ๆ แต่หวังว่าโรงไฟฟ้าจะพอใช้นะ
-
เรามันคนไม่มีกะตังค์ คงก้มหน้าก้มตาใช้รถญี่ปุ่นเชื้อเพลิงฟอสซิลต่อไป
-
นอกจากอัตราเร่ง ความเป็นรถไฟฟ้า .... มันมีอะไรดีกว่ารถในราคาเดียวกันบ้างอะครับ
ขับสนุกไหม ฟีลลิ่งช่วงล่างเป็นไง ความเงียบ ความนิ่ม ความกว้าง ความหรู มีอะไรดีกว่ามั้ยครับ นอกจากใช้ไฟฟ้าได้ !!!
ถ้าตัดเรื่องรักโลกออกไป มันมีอะไรดีกว่าบ้าง :-\
ระบบ AutoPilot ผมเห็นข่าว Model S ชน คนขับตายคาที่ ผมไม่กล้าใช้ ยิ่งถนนเมืองไทยด้วย กับนิสัยขับรถเถื่อนๆแบบคนไทย ตีนผี 150 -160 มุดไปมา กลัวชีวิตจะไม่ยืนยาวอะครับ
ส่วนตัวไม่อยากเป็น "หนูทดลองยา" ให้บางบริษัทรถยนต์ใช้ทดสอบระบบครับ :P
...ที่ฟัง ๆ คิดค่าใช้จ่ายต่อ กม./ อยู่ที่ ห้าสิบตังค์....ถูกกว่า แก๊สอีก...
-
มีใครอยากเสี่ยงบ้าง แค่เครื่องยต์ Hybrid ยังกลัวเรื่องแบต ถ้ามาแค่ มอเตอร์กับแบต กับระบบไฟฟ้าล้วนๆ
จะทนกับสภาพอากาศในไทยได้มากแค่ไหนกัน เจอน้ำท่วมก็เหนื่อยแล้ว
-
คงไม่หล่ะครับ ยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ ดังข้างนอกมาดับในไทยเอาก็ให้เห็นหลายรุ่น
-
มีคนใช้อยู่แล้วครับ
ส่วนผมยังตอบไม่ได้ ต่อให้ราคาเท่านี้จริงก็ตาม ตอนนี้มีแต่ข่าวยังไม่เห็นตัวจริงยังไม่ได้ทดลองขับยังไม่ตัดสินใจใดๆทั้งสิ้น มันเหมือนจะซื้อบ้านมีแต่ชื่อโครงการยังไม่เห็นแปลนแบบละเอียดอะไรเลยแล้วมาถามว่าจะซื้อมั้ยที่ราคาเท่านี้
-
ใช้ครับ ถ้าtesla มาทำเองหมด ดูแลเองหมด ไม่ผ่านตัวแทนไทย
ส่วนตัวผมเบื่อวงการน้ำมันมากแล้ว มันทำให้อะไรหลายๆอย่างต้องเป็น ทั้งๆที่ไม่ควรจะเป็น
-
ราคานี้ผมซื้อแน่นอนครับ เอาจริงๆ ถ้าเอาราคาที่ US มาแปลงเป็นบาท เสียภาษีสีก 20% + VAT 7% ผมก็ว่าน่าสนใจนะครับ
-
มีใครอยากเสี่ยงบ้าง แค่เครื่องยต์ Hybrid ยังกลัวเรื่องแบต ถ้ามาแค่ มอเตอร์กับแบต กับระบบไฟฟ้าล้วนๆ
จะทนกับสภาพอากาศในไทยได้มากแค่ไหนกัน เจอน้ำท่วมก็เหนื่อยแล้ว
รถยนต์ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในการขับเคลื่อนซึ่งมีชิ้นส่วนที่นำมาผลิต ตัวอย่างแค่ระบบการขับเคลื่อนซึ่งมีมากกว่า 2,000 ชิ้น ในจำนวนนี้มีผู้ประกอบการ ที่เกี่ยวข้องมากกว่า 2,500 ราย และมีการจ้างงานในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนมากกว่า 600,000 คน ตรงนี้จะได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะเมื่อเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนจะใช้ชิ้นส่วนเพียงไม่กี่ชิ้น เท่านั้น อาทิ ระบบทำความเย็น (Inverter) ระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน (Motor) ระบบชาร์จไฟ (Charger) และแบตเตอรี่ (Lithium-ion Batteries) เท่านั้น
http://www.industrialnew.com/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%996%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%87/ (http://www.industrialnew.com/%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AF%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%996%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%87/)
-
ถ้าหวัง auto pilot ผมรอเบนซ์ดีกว่า
telsa ผมไม่ไว้ใจอ่ะ อย่างน้อยในห้างก้อจอดง่ายกว่าคับ > <
-
ถ้า 1.9 ล้าน ผมซื้อแน่นอนคับ อัตราเร่ง 0-100 ซัดกับลัมโบกินี่ได้สบายๆ เอาไว้ขับเล่นบนทางด่วนตอนดึกๆ
ชีวิตประจำวันใช้รถตลาดทั่วไป
-
ราคานี้ ขอ 320D ดีกว่าครับ บ้านผมใช้รถค่อนข้างนาน เกรงว่าค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาแต่ละชิ้น กดเครื่องคิดเลขมาจะแพงกว่ารถน้ำมันครับ
-
ไม่ซื้อครับ ผมชอบหน้า Elon Musk ซึ่งเป็น CEO เจ้าของรถค่ายนี้ดูหยิ่งจองหอง เคยอ่านข่าวว่าถอนจองรถลูกค้าเพราะไปวิพากษ์วิจารณ์รถตัวเอง
แล้วผมก็ไม่ชอบรถที่เป็นรถไฟฟ้า มันไม่มีเสียงเครื่องเพราะๆหวานๆให้ได้ยินได้ฟัง และผมว่ามันคงไม่สะดวกสบายหรอกกับการใช้รถไฟฟ้าในประเทศนี้เมืองนี้
อีกอย่างผมมองว่ารถไฟฟ้ามันไม่ใช้ทางออกที่แท้จริงและยั่งยืน
-
ถ้าเป็นผมถ้ามองในแง่ประหยัดแล้ว ผมซื้อ รถญี่ปุ่นขนาดกลาง กำเงินส่วนต่าง 5-6แสนไว้เติมน้ำมันสบายใจกว่า สรุปว่าไม่ซื้อครับ
-
ถ้าผมมีเงินซื้อรถ 3 ล้านได้ ผมก็ซื้อครับ รถไฟฟ้าราคา 1.9 ล้านบาท
ถ้าชาร์ตไฟ 1 ครั้งวิ่งได้มากกว่า 200กม ผมไม่แคร์สถานีชาร์ตไฟฟ้าแล้วครับ
ชาร์ตค้างคืนที่บ้าน ตอนเช้าขับไปทำงานในระยะทางไม่เกิน 200กม
แต่หากคิดเล่นๆ ว่าค่าชาร์ตไฟวันละ 100 บาท ก็ตกเดือนละ 3,000 บาท
ถ้ารถเดิมมีค่าน้ำมันที่กม.ละ 2 บาท วิ่งวันละ 200กม ก็ตกเดือนละ 12,000 บาท
5ปี หรือ 60 เดือนจะประหยัดไปเท่ากับ 540,000 บาท ตลอดการใช้งาน 360,000 กม
ก็เหมือนรถราคา 1.36 ล้านบาท แต่หลัง 5 ปีจะขายคืนไปรีไซเคิลได้ไหม ราคาเท่าไหร่ อันนี้ก็ต้องคิดกันต่อไปครับ
-
รอที่จะซื้ออยู่ครับ ถ้าไม่เกิน4m.
-
ซื้อครับ เอาไว้ใช้ในเมือง ถ้าออก ตจว ขอรถน้ำมันดีกว่า
-
ตราบใดที่ไม่มีที่ให้ชาร์จก็ยังไม่ซื้อครับ คนเดืนทางแบบผมไม่ไหวอ่ะ
-
ถ้ารวยก็ซื้อไว้ขับเล่นเป็นรถคันที่2 ขับในกทม. ออกตจว.ก็ใช้รถน้ำมัน
นี่ก็จัดจักรยานไฟฟ้ามาคันนึง 60v 350w ทอร์คมันโหดจริงๆ ใหม่ๆไม่ชินยกล้อได้แผลเลย
ล้อแค่14นิ้ว ท็อปสปีด34
-
ซื้อ เป็นคำตอบสุดท้าย !!!
-
น่าสนใจครับ แต่ขอให้มีที่ชาตไฟรองรับให้เพียงพอก่อนนะ ::) ::) ::)
-
แยก model 3 กับ model S กันก่อนนะครับ
model 3 ไม่ใช่ตัวแรงนะครับ ขนาดก้มาเทียบกับ c-class
0-100 อยู่ที่ 6 วิ
ส่วนที่แรงๆ 0-100 3วินั้น model S P90D ตัวท้อปครับ เทียบกับ e-class
ซึ่งคันสีเทาที่มีอยู่ในเมืองไทย ที่แชร์ๆกันนั้น model s ครับ แต่ไม่ทราบรุ่นย่อย
ตอบคำถาม ไม่ซื้อครับ เพราะ range วิ่งได้แค่ 350 กิโลเมตร หักรถติด แอร์ ไปผมเอาหาร2(คร่าวๆ ครับ ไม่มีหลักการอะไรทั้งนั้น)
เหลือใช้ได้จริงราวๆ 180 กิโลเมตร
ถ้า ณ ตอนนี้ที่อยากได้ model S ตัวกลางครับ (75D) ชาร์จเต็ม วิ่งได้ 490กิโลเมตร
หารครึ่งนึงก้ยังเหลือให้วิ่งได้ 250 กิโลเมตร ไป-กลับ กทม-พัทยาได้
-
ลองดูสักคัน ถ้าพ้น5ปีไปยังดี หรือในตลาดมีรถไฟฟ้ามากขึ้น ก็พิจารณาอีกครั้ง
-
น่าสนใจมากๆครับ 0-100 ได้ 6 วิ นี่ก็แรงแล้วสำหรับผม
ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรที่ถูกกว่าแก๊ส ขับไปทำงานในเมือง คุ้มมากครับ
คาดว่าซื้อมาขับในเมืองไม่นาน พอมีสถานีเติมไฟตามตจว. ผมถึงจะค่อยขับออกตจว. ;)
เป็นสิ่งที่อยากได้มานานแล้ว ขอศูนย์บริการดีๆ โปรโมชั่นดีๆ
-
มีคนใช้แน่นอนครับ
แต่คนที่อาจไม่ใช้คือคนที่เดินทางบ่อยๆไม่มีเวลาชาทแบตมาก
เว้นแต่จะมีสถานีซุปเปอชาท เยอะๆเหมือนปั๊มแก้ส
-ไม่ต้องเติมน้ำมัน
-ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์
-ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
-ไม่ต้องเปลี่ยนวาว ลูกสูบ แหวน ก้าน หัวเทียน คอย ฝาสูบ หัวฉีด 9ล9
ผมว่าคุ้มมาก แบตรับประกันตั้ง10ปี
-
ปตท.มีแผนสร้างโรงไฟฟ้า และสร้างปั้มไฟฟ้า 200 ปั้มทั่วประเทศครับ
อนาคตยังไงรถไฟฟ้าก็มาแน่ๆครับ
-
การตลาดคงทำงานหนักมาก่อนหน้าแล้ว ปลสรุปคือ ยังไม่เอามาดีกว่า ;D
-
มันแน่อยุ่แล้ว แต่ค่าซ๋อมแพงคับ ตัวถังอลูมิเนียม
แต่ของที่จะซ่อมมีไม่กี่ชิ้น แทบทุกอย่างเป็น module ถอดเปลียน...
-
ถูกกว่าเบนซ์ที่ซื้อกันโครมๆ ซะอีก ทำไมจะไม่มีคนซื้อ อัตราเร่งแรง เร็ว ของเล่นคนรวยเลยหล่ะ
ประเด็นก็แค่ ต้องรู้ข้อจำกัดระยะทางและเวลาชาร์จซึ่งปัจจุบันสถานีชาร์จยังมีไม่มาก
ถ้าชาร์จในบ้านตอนนี้ผมบอกได้เลยว่า ถ้าวิ่งวันละ 100 กม ชาร์จที่บ้านวันละ 8 ชม เอาอยู่
แต่ถ้าวิ่งมากกว่านั้น อาจต้องมีบางวันที่ต้องจอดชาร์จทิ้งไว้ ถ้าไม่รวยจริงทำไม่ได้นะเออ
-
ตอนนี้ที่บ้านก็สนใจมากครับ tesla
แต่ขอรอดูอีกซักระยะก่อนว่าจะมีปัญหาอะไรมั้ยถ้ารับได้ก็จัดครับ :)
-
กลับบ้านดึก จอดรถสลบ ตื่นมาไปทำงานไม่ได้ ลืมชาร์ทแบต
งานด่วนเลิกถึงบ้านตี4 ออก 6 โมงเช้า ชาร์ทไม่ทัน แทกซี่ไม่รับ
Wow