Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto ที่ สิงหาคม 14, 2016, 15:00:44
-
ผมถามเฉย ๆ นะครับไม่ได้จะซื้อเองหรอก
เห็น Mini ออกโปรมาผ่อนเดือนล่ะ 9900 บาท หลายคนร้องว้าว แต่ไม่ได้ดูเงื่อนไขให้ดี
คือดาวน์ 37% ผ่อน9900 / เดือน 36 เดือน งวดสุดท้าย 50%
ผมยังงงอยู่งวดสุดท้ายถ้าต้องจ่ายมันจะคุ้มกับราคารถที่เหลืืออยู่เหรอ
คนที่เคยผ่อนแบบนี้คิดว่าเงื่อนไขแบบนี้คุ้มค่าไหม กับผู้ซื้อ
-
การผ่อนแบบบอลลูนเหมาะสำหรับคนเงินผ่อนต่อเดือนไม่เยอะครับ
และพอถึงงวดสุดท้ายก้อนใหญ่ ส่วนมากก็จะรีไฟแนนซ์ก้อนนั้นแตกย่อยไปอีกครับ
อย่างเช่นรถกระบะ ถ้าผ่อนแบบธรรมดา
ดาวน์ขั้นต่ำ จะส่งต่อเดือนประมาณหมื่นกว่า
ถ้าเป็นคนที่กินเงินเดือนเดือนละหมื่นห้าถึงหมื่นแปด
ผ่อนตามจำนวนนี้มีเหนื่อยแน่ๆ
แต่พอผ่อนแบบบอลลูน จะเหลือผ่อนเดือนละหกถึงเจ็ดพันบาท
ช่วยให้สามารถผ่อนได้แบบไม่เหนื่อยและหนักตัวเองจนเกินไป
แต่การผ่อนแบบนี้ต้องยอมรับจำนวนดอกที่เยอะกว่าแบบปกติครับ
และงวดสุดท้ายค่อยมารีไฟแนนซ์อีกที
รวมๆแล้วอาจใช้เวลาผ่อนนานกว่าปกติ
และดอกเบี้ยเยอะขึ้นมาก
ซึ่งคนที่จะผ่อนแบบบอลลูน เขายอมรับเงื่อนไขนี้อยู่แล้ว
ถามว่าคุ้มมั้ย
ถ้ามีเงินเยอะผ่อนได้สบายๆโปรนี้ก็จะไม่คุ้ม
ส่วนคนมีเงินผ่อนไม่เยอะก็ไม่คุ้มครับ
แต่เขาเลือกบางอย่างไม่ได้..
-
ไม่คุ้มครับ
สถาบันการเงินเขาคำนวณ อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันและอนาคตกระทบยอดกันกับดอกเงินฝาก ค่าเสื่อม และบวกกำไรไว้เรียบร้อย
-
สมัยก่อนผมคิดเล่นๆ ว่า
ถ้าใช้อรรถประโยชน์รถหาเงินได้ และพร้อมเปลี่ยนรถบ่อยๆ
สำหรับแบรนด์เจ้าตลาดระดับ C-Seg หรือกระบะที่ราคาไม่ตกมาก
ผมว่ามันอาจจะเหมาะก็ได้ เพราะมันทำให้ผ่อนงวดนึงลดลงไปครึ่งๆ
ขอให้ดาวน์งวดแรกพอดีๆ ไม่น้อยเกินไป ก้อนปิดที่เหลือ อาจจะพอๆ กัน
หรือขาดทุนราคาปล่อยมือสองไม่มาก เท่ากับใช้เงินพอๆ กะดาวน์รถปกติ
แล้วได้รถใหม่ตลอดและอาจถูกกว่าเช่าในบางกรณี
คิดไปคิดมา เอ เดี๋ยวนี้ราคารับซื้อมือสองโหดขึ้นทุกวันๆ เพราะเศรษฐกิจชะลอตัว
แบบนี้ใครหวังปล่อยกลบงวดบอลลูนนี่ เกือบๆ จะเหมือนเสียเงินดาวน์สองรอบเลยแฮะ
รีไฟแนนซ์ก็ไม่ต่างอะไรกับผ่อนรถมือสองที่แพงกว่าความเป็นจริงอีกรอบหนึ่ง เอ แล้วตอนนั้นรถก็เสื่อมสภาพแล้ว
ประมาณส่วนต่างค่าผ่อนจากปกติ ก็ต้องเอามาโปะอยู่ดี โปะก้อนเหลือในอัตราดอกที่โหดกว่าปกติด้วย บลาๆ
เหมือนจะไม่คุ้มละ
//
วันก่อน ผมคุยกะข้างบ้าน ซึ่งเพิ่งออก Civic FC 1.8 EL มา
เขาใช้ "เช่า 5 ปี" ระหว่างนี้ไม่ต้องเสียอะไรเลย นอกจากเติมน้ำมัน
เข้าศูนย์ก็ไม่ต้องเสีย เปลี่ยนยางเปลี่ยนอะไหล่บริษัทเช่าจ่ายให้หมด
เช่าตกเดือนละหมื่นหกได้มั้ง พร้อมประกัน มีรถทดแทนหรือสำรองระหว่างซ่อม มีช่วยเหลือฉุกเฉิน
คิดไปคิดมา เช่ายาวๆ จะคุ้มกว่าอีกนะเนี่ย โดยเฉพาะถ้าใช้ในนามนิติบุคคล
(ตีเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ถ้าจำไม่ผิดไม่เกิน 36,000 บาท/เดือน)
และถ้าวิ่งเยอะมากๆ อย่างคุ้มเลย ต่างกันอย่างเดียวคือ "ห้ามดัดแปลงรถ" เท่านั้นเอง
ดูแล้วแบบไหนคุ้มกว่ากันครับ
-
ดอกแพงกว่าปกติประมาณเกือบ 2% ที่เคยถามโตต้าลิสซิ่ง
-
ผมคำนวนจากโตต้าลิสซ่ิง ไม่รู้ดอกเท่าไรนะครับ
ยอด 1ล้าน ผ่อน 48 เดือน ถ้าผ่อนธรรมดา ดอกประมาณ 1 แสนบาท ถ้าแบบบอลลูน เกือบ 2 แสน
แสดงว่าดอกแพงกว่าปกติถึงเท่าตัว :-X
-
วันก่อน ผมคุยกะข้างบ้าน ซึ่งเพิ่งออก Civic FC 1.8 EL มา
เขาใช้ "เช่า 5 ปี" ระหว่างนี้ไม่ต้องเสียอะไรเลย นอกจากเติมน้ำมัน
เข้าศูนย์ก็ไม่ต้องเสีย เปลี่ยนยางเปลี่ยนอะไหล่บริษัทเช่าจ่ายให้หมด
เช่าตกเดือนละหมื่นหกได้มั้ง พร้อมประกัน มีรถทดแทนหรือสำรองระหว่างซ่อม มีช่วยเหลือฉุกเฉิน
คิดไปคิดมา เช่ายาวๆ จะคุ้มกว่าอีกนะเนี่ย โดยเฉพาะถ้าใช้ในนามนิติบุคคล
(ตีเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ถ้าจำไม่ผิดไม่เกิน 36,000 บาท/เดือน)
และถ้าวิ่งเยอะมากๆ อย่างคุ้มเลย ต่างกันอย่างเดียวคือ "ห้ามดัดแปลงรถ" เท่านั้นเอง
ดูแล้วแบบไหนคุ้มกว่ากันครับ
ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับเรื่อง เช่ารถ หน่อยสิครับ ว่ามีของเจ้าไหนบ้าง ชักสนใจฮะ เพราะจะหารถมาวิ่งงานเซลล์ตจว. พอดีเลย :D
-
การผ่อนแบบบอลลูนเหมาะสำหรับคนเงินผ่อนต่อเดือนไม่เยอะครับ
และพอถึงงวดสุดท้ายก้อนใหญ่ ส่วนมากก็จะรีไฟแนนซ์ก้อนนั้นแตกย่อยไปอีกครับ
อย่างเช่นรถกระบะ ถ้าผ่อนแบบธรรมดา
ดาวน์ขั้นต่ำ จะส่งต่อเดือนประมาณหมื่นกว่า
ถ้าเป็นคนที่กินเงินเดือนเดือนละหมื่นห้าถึงหมื่นแปด
ผ่อนตามจำนวนนี้มีเหนื่อยแน่ๆ
แต่พอผ่อนแบบบอลลูน จะเหลือผ่อนเดือนละหกถึงเจ็ดพันบาท
ช่วยให้สามารถผ่อนได้แบบไม่เหนื่อยและหนักตัวเองจนเกินไป
แต่การผ่อนแบบนี้ต้องยอมรับจำนวนดอกที่เยอะกว่าแบบปกติครับ
และงวดสุดท้ายค่อยมารีไฟแนนซ์อีกที
รวมๆแล้วอาจใช้เวลาผ่อนนานกว่าปกติ
และดอกเบี้ยเยอะขึ้นมาก
ซึ่งคนที่จะผ่อนแบบบอลลูน เขายอมรับเงื่อนไขนี้อยู่แล้ว
ถามว่าคุ้มมั้ย
ถ้ามีเงินเยอะผ่อนได้สบายๆโปรนี้ก็จะไม่คุ้ม
ส่วนคนมีเงินผ่อนไม่เยอะก็ไม่คุ้มครับ
แต่เขาเลือกบางอย่างไม่ได้..
+1 เห้นด้วยเลยครับ เพราะความคุ้มของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
-
ถ้าไม่มีเงินไปปิดบอลลูน แล้วต้องรีไฟแนนซ์ต่อดอกเบี้ยในการรีไฟแนนซ์รอบนี้สูงนะตรับ
ไม่จำเป็นอย่าเลยครับ
-
ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับเรื่อง เช่ารถ หน่อยสิครับ ว่ามีของเจ้าไหนบ้าง ชักสนใจฮะ เพราะจะหารถมาวิ่งงานเซลล์ตจว. พอดีเลย :D
เดี๋ยวถามให้นะครับว่าเค้าเช่ากะเจ้าไหน เงื่อนไขคงดีเพราะแกเขี้ยวอยู่
เช่าระยะยาวมีหลายเจ้ามากเลยเท่าที่ทราบ
-
คุ้มของคุณหมายถึงอะไรละ ขยายความหน่อย
-
เหมือนจะสบาย แต่ไม่คุ้มครับ
ผมชอบดาว์น 50 % ดอกน้อย ๆ ครับผ้ม 8)
-
ไม่คุ้มครับ
สถาบันการเงินเขาคำนวณ อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันและอนาคตกระทบยอดกันกับดอกเงินฝาก ค่าเสื่อม และบวกกำไรไว้เรียบร้อย
+2
-
ถ้าเลือกผ่อนแบบบอลลูน แสดงว่ารายได้ยังไม่พร้อม สรุป... ยังไม่ควรซื้อตอนนี้
ยกเว้น ซื้อแบบนิติบุคคล เอาค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษี พ้น 5 ปีก็ปล่อยเวียนเอารถใหม่
-
วันก่อน ผมคุยกะข้างบ้าน ซึ่งเพิ่งออก Civic FC 1.8 EL มา
เขาใช้ "เช่า 5 ปี" ระหว่างนี้ไม่ต้องเสียอะไรเลย นอกจากเติมน้ำมัน
เข้าศูนย์ก็ไม่ต้องเสีย เปลี่ยนยางเปลี่ยนอะไหล่บริษัทเช่าจ่ายให้หมด
เช่าตกเดือนละหมื่นหกได้มั้ง พร้อมประกัน มีรถทดแทนหรือสำรองระหว่างซ่อม มีช่วยเหลือฉุกเฉิน
คิดไปคิดมา เช่ายาวๆ จะคุ้มกว่าอีกนะเนี่ย โดยเฉพาะถ้าใช้ในนามนิติบุคคล
(ตีเป็นค่าใช้จ่ายลดหย่อนภาษีได้ถ้าจำไม่ผิดไม่เกิน 36,000 บาท/เดือน)
และถ้าวิ่งเยอะมากๆ อย่างคุ้มเลย ต่างกันอย่างเดียวคือ "ห้ามดัดแปลงรถ" เท่านั้นเอง
ดูแล้วแบบไหนคุ้มกว่ากันครับ
ขอข้อมูลเพิ่มเติมกับเรื่อง เช่ารถ หน่อยสิครับ ว่ามีของเจ้าไหนบ้าง ชักสนใจฮะ เพราะจะหารถมาวิ่งงานเซลล์ตจว. พอดีเลย :D
เพื่อนผม เช่าmu x 3.0มาเหมือนกันครับเดือนล่ะ16kทำสัญญา5ปีคับ ตามข้างบนเลยคับเป็นรถป้ายแดงใหม่ๆเลือกรุ่น สี ได้ มันเอามาเป็นรถวิ่งหาลูกค้าปีนึงแสนโล+-ดูๆก็น่าจะคุ้มนะคับ
-
อะไรที่ทำให้เสียเงินมากกว่าปกติมันไม่มีคำว่าคุ้มหรอกครับ
ยกเว้นคุณจะมีความสามารถเอาเงินที่เหลือจากค่างวดที่จ่ายน้อยลงไปลงทุนให้ได้มากกว่าดอกเบี้ยที่เสียเพิ่ม แบบนี้เรียกว่าคุ้มครับ
-
การผ่อนแบบบอลลูนเหมาะสำหรับคนเงินผ่อนต่อเดือนไม่เยอะครับ
และพอถึงงวดสุดท้ายก้อนใหญ่ ส่วนมากก็จะรีไฟแนนซ์ก้อนนั้นแตกย่อยไปอีกครับ
อย่างเช่นรถกระบะ ถ้าผ่อนแบบธรรมดา
ดาวน์ขั้นต่ำ จะส่งต่อเดือนประมาณหมื่นกว่า
ถ้าเป็นคนที่กินเงินเดือนเดือนละหมื่นห้าถึงหมื่นแปด
ผ่อนตามจำนวนนี้มีเหนื่อยแน่ๆ
แต่พอผ่อนแบบบอลลูน จะเหลือผ่อนเดือนละหกถึงเจ็ดพันบาท
ช่วยให้สามารถผ่อนได้แบบไม่เหนื่อยและหนักตัวเองจนเกินไป
แต่การผ่อนแบบนี้ต้องยอมรับจำนวนดอกที่เยอะกว่าแบบปกติครับ
และงวดสุดท้ายค่อยมารีไฟแนนซ์อีกที
รวมๆแล้วอาจใช้เวลาผ่อนนานกว่าปกติ
และดอกเบี้ยเยอะขึ้นมาก
ซึ่งคนที่จะผ่อนแบบบอลลูน เขายอมรับเงื่อนไขนี้อยู่แล้ว
ถามว่าคุ้มมั้ย
ถ้ามีเงินเยอะผ่อนได้สบายๆโปรนี้ก็จะไม่คุ้ม
ส่วนคนมีเงินผ่อนไม่เยอะก็ไม่คุ้มครับ
แต่เขาเลือกบางอย่างไม่ได้..
+1 เห็นด้วยทุกประการครับ
บางครั้งคนเราก็ไม่ได้มีเงินเยอะแยะ ที่จะดาวน์ระดับ 30 - 40 หรือ 50%
ผู้ซี้อบางท่านก็เป็นพ่อค้า แม่ค้า หาเช้ากินค่ำ ใช้รถเพื่อหาเงิน ก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังอะไร
การเช่าซี้อแบบบอลลูนถึงจะแพงก็จริง แต่นั้นก็ทำให้รายจ่ายต่อเดือนไม่เหนือยมากจนเกินไป
ใช้รถอย่างมีความสุข วันนึงก็ผ่อนหมดเองละครับ
-
สำหรับผมให้เต็มที่ ดอกเบี้ยไม่เกิน 1.99% ครับ ถ้าจะซื้อรถซักคัน เพราะผมเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
ฉะนั้นบอลลูนยิ่งไม่ต้องคิดเลยครับ ออกดอกบานเลยครับ ดีที่สุดคือดอกเบี้ย 0% มากสุดไม่เกิน 1.99% ถ้ามากกว่านี้ หรือบอลลูนตรงๆเลยคือเรากำลังซื้อรถเกินกำลังเงินตัวเองครับ
-
หาความคุ้มไม่เจอครับ
เรียกว่าเป็นการผ่อนที่เสียเปรียบที่สุด
ซื้อรถ ไม่เงินสด ก็ต้องดอกต่ำกว่า1% ไม่งั้นผมไม่ซื้อครับ ปกติสดตลอด ชีวิตไม่เคยผ่อนรถ
แต่คันหน้า กะว่าจะหาพวกผ่อน 0% ดูมีกำไรดี ;D
-
ถึงมีเงินโปะบอลลูน ดอกก็ยังสูงอยู่ดีครับ
-
ไม่คุ้มครับ
สำหรับผมถ้าจะซื้อรถคันใหม่ต้องเงินสดหรือถ้าผ่อนก็ต้องดอก 0% เท่านั้นครับ
-
ไม่คุ้มสำหรับคนปกติ ที่ดอก 2-3%
แต่สำหรับบริษัทคุ้ทครับ บอลลูน 5-6%
รถบริษัท ถ้าจัดปกติ หักค่าเสื่อมได้ 1ล้าน จบ (สมมุติรถ 2 ล้าน )
ดาว์20% 4 แสน จัด 1.6 ล้าน 5 ปีผ่อนประมาณ 3หมื่นต่อเดือน
ครบ 5 ปี รถหักค่าเสื่อมได้ 1 ล้าน กับค่ามช้จ่ายเช่น ค่าซ่อม น้ำมัน
บอลลูน ดาว์ 15% 3 แสน จัดบอลลูน 9 แสน ปิด 9 แสน
ผ่อน 5 ปี 19,000 ต่อเดือน หักภาษีบริษัทได้อีก เพราะถือว่าเช่า
หักค่าเสื่อมได้อีก 1 ล้าน ยอดสุดท้าย 9 แสน ใครจะเอาก็ซื้อไปใช้เพราะบริษัทหัก
ค่าใช้จ่ายพอแล้ว ได้มากกว่าซื้อแบบแรกอีก ซึ้ง เท่าที่ทราบ หักได้สูงสุดเดือนล่ะ 35,000 น่ะ
เพราะฉนั้นถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัทหริอคณะกรรมการ บอลลูนคุ้มที่สุด หักเข้าบริษัทได้หมด
ทั้ง 5 ปี แถมถ้าครบ 5 ปีทคุณจะซื้อใช้เองก็จ่ายงวดสุดท้าย จะรีไฟแนนท์หรือจ่ายสดก็ว่าไป
คุณจะเห็นว่าพวกบอลลูนนั้นจะเป็นรถที่ราคาเกิน 2 ล้านไปซ่ะส่วนใหญ่ จะให้คุ้มเจ็มก็จัดรถราคา 3 ล้าน
พวก benz bmw. Mini volvo. Rover เขาจะทีมให้เลย ผ่อนเดือนล่ะ 35,000 ยอดปิด ยอดดาว์เท่าไหร่
-
ผ่อนธรรมดาเถอะครับ ถูกสุดแล้ว
-
ผมว่าผ่อนแบบบอลลูน จะเหมาะกับคนที่จำเป็นต้องใช้รถเพื่อหาเลี้ยงชีพครับ
เพราะเขาไม่สามารถจะหาเงินเพื่อรวบรวมไปออกรถได้ ต้องได้รถมาก่อนถึงจะหาเงินได้
การผ่อนแบบบอลลูนก็จะทำให้พวกเขาได้รถออกมาทำมาหากินได้ไม่ยาก และหาเงินได้มากกว่าตอนไม่มีรถอีกด้วย
แต่หากเป็นการออกรถเพื่อใช้งานทั่วไป ผมแนะนำให้ผ่อนแบบปกติครับ (ยกเว้นออกในนามนิติบุคคล)
เพราะดอกบานมากครับ ความเลือกรถที่เราผ่อนแบบปกติได้แบบไม่ลำบากจะดีกว่าครับ
-
ขอบคุณทุกคำตอบมากครับ เข้าใจวิธีคิดแล้วครับ
-
คุ้มแต่ละคนไม่เท่ากัน
คนมีเงิน ย่อมต้องการเสียดอกน้อยที่สุด
แต่คนแม้จะเริ่มซื้อยังไม่ไหวแต่จำเป็งเอามาใช้หากิน ก็ต้องยอมจ่ายยาวดอกสูง
แต่ถ้าเอามาหาเงินได้มากกว่าดอกที่เสียไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร
-
ไม่คุ้มสำหรับคนปกติ ที่ดอก 2-3%
แต่สำหรับบริษัทคุ้ทครับ บอลลูน 5-6%
รถบริษัท ถ้าจัดปกติ หักค่าเสื่อมได้ 1ล้าน จบ (สมมุติรถ 2 ล้าน )
ดาว์20% 4 แสน จัด 1.6 ล้าน 5 ปีผ่อนประมาณ 3หมื่นต่อเดือน
ครบ 5 ปี รถหักค่าเสื่อมได้ 1 ล้าน กับค่ามช้จ่ายเช่น ค่าซ่อม น้ำมัน
บอลลูน ดาว์ 15% 3 แสน จัดบอลลูน 9 แสน ปิด 9 แสน
ผ่อน 5 ปี 19,000 ต่อเดือน หักภาษีบริษัทได้อีก เพราะถือว่าเช่า
หักค่าเสื่อมได้อีก 1 ล้าน ยอดสุดท้าย 9 แสน ใครจะเอาก็ซื้อไปใช้เพราะบริษัทหัก
ค่าใช้จ่ายพอแล้ว ได้มากกว่าซื้อแบบแรกอีก ซึ้ง เท่าที่ทราบ หักได้สูงสุดเดือนล่ะ 35,000 น่ะ
เพราะฉนั้นถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัทหริอคณะกรรมการ บอลลูนคุ้มที่สุด หักเข้าบริษัทได้หมด
ทั้ง 5 ปี แถมถ้าครบ 5 ปีทคุณจะซื้อใช้เองก็จ่ายงวดสุดท้าย จะรีไฟแนนท์หรือจ่ายสดก็ว่าไป
คุณจะเห็นว่าพวกบอลลูนนั้นจะเป็นรถที่ราคาเกิน 2 ล้านไปซ่ะส่วนใหญ่ จะให้คุ้มเจ็มก็จัดรถราคา 3 ล้าน
พวก benz bmw. Mini volvo. Rover เขาจะทีมให้เลย ผ่อนเดือนล่ะ 35,000 ยอดปิด ยอดดาว์เท่าไหร่
ผมว่าผ่อนแบบบอลลูน จะเหมาะกับคนที่จำเป็นต้องใช้รถเพื่อหาเลี้ยงชีพครับ
เพราะเขาไม่สามารถจะหาเงินเพื่อรวบรวมไปออกรถได้ ต้องได้รถมาก่อนถึงจะหาเงินได้
การผ่อนแบบบอลลูนก็จะทำให้พวกเขาได้รถออกมาทำมาหากินได้ไม่ยาก และหาเงินได้มากกว่าตอนไม่มีรถอีกด้วย
แต่หากเป็นการออกรถเพื่อใช้งานทั่วไป ผมแนะนำให้ผ่อนแบบปกติครับ (ยกเว้นออกในนามนิติบุคคล)
เพราะดอกบานมากครับ ความเลือกรถที่เราผ่อนแบบปกติได้แบบไม่ลำบากจะดีกว่าครับ
ตาม 2 ท่านนี้เลยครับ
-
ต้นทุนชีวิตคนเรา มันไม่เท่ากันครับ
บางคนที่บ้านมีฐานะดี มีรถขับ ตั้งแต่ยังขอเงินพ่อแม่ใช้
บางคนฐานะปานกลาง เรียนจบทำงานหาเงินได้ ก็ไม่ต้องส่งให้พ่อแม่ใช้ หาเอง ใช้เอง
บางคนฐานะยากจน หาเงินได้ ก็ต้องส่งให้พ่อแม่ใช้
ดังนั้นการสร้างหนี้ เพื่อสร้างตัว สร้างฐานะ มันก็เป็นเรื่องจำเป็น
แต่บางคนก็สร้างหนี้ เพราะความฟุ้งเฟ้อครับ