Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Nikle_pk ที่ สิงหาคม 21, 2016, 19:38:11

หัวข้อ: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ สิงหาคม 21, 2016, 19:38:11
ทำไมหลังหมด BSI
หรือหลังหมดประกัน 5 ปี
ทำไมมีแต่คนยี้ BMW ครับ
บอกว่า 5 ปีใช้ไปเลย สบายใจ
หลัง 5 ปี มีหนาว อย่างนั้นอย่างนี้
ทั้งเรื่องซ่อม แก้ไม่จบ และราคาขายต่อ

ในความเป็นจริงแล้ว หลังจาก 5 ปี
BMW มันเลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ
มันเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ ???

อยากได้ประสบการณ์จริงจากผู้ใช้งานจริงครับ

ผมไม่เคยมีประสบการณ์ กับแบรนด์นี้
แต่กำลังหาข้อมูลอยู่ ท่านใดมีประสบการณ์ตรง
ขอรบกวนแชร์ประสบการณ์ด้วยครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:02:25
BSI มันหมดแล้วไงครับ ต้องจ่ายค่าซ่อมเองแล้ว 100% ซ่อมบางทีเจอบิลหลักหมื่นก็หนาวเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าเทียบกับ Benz รุ่นใหม่ๆผมว่าพอกันทั้งคู่ มีโอกาสซ่อมแพงและซ่อมไม่จบพอๆกัน แถม Benz จะหนักกว่าตรงที่ต้องจ่ายเองทุกอย่างตั้งแต่ปีแรกเลยด้วย
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: chinjung ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:14:45
คิดง่ายๆใช้งาน5ปีแรกก็คุ้มแล้ว
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: JDM ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:17:27
เรื่องค่าบำรุงรักษามันก็เป็นปกติของรถทุกคันครับ ยิ่งใช้เยอะ เลขไมล์เยอะ ก็ต้องซ่อมแซมมากกว่า
พอฟรีค่าซ่อม 5 ปี คนส่วนนึงก็เลยคุ้นชิน เลยรู้สึกว่าซ่อมแพงพอหมดประกัน แต่เล่นขับกันทะลุแสนโลจะไม่ซ่อมได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: onnonn ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:22:31
ก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นครับ แค่พยายามเข้าไปเช็คไปเคลมเจรจาต่อรองให้ได้เยอะๆให้ได้มากที่สุดก่อนหมด BSI ต้องเอาคุ้มๆหน่อย ตอนนี้ผมหมดมาแล้วปีกว่าๆ ก็ยังใช้อยู่ได้ทุกวันนะครับไม่มีปัญหาอะไร
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:41:02
ถ้ามีอู่นอกดีๆ ได้รถมาสภาพดี ไม่น่ากลัวหรอกครับ สเปกผมถ้า Benz BMWมือสอง ต้อง 7ปี วิ่งเกือบๆแสนโล ราคาจะไม่แพง แต่ซ่อมแล้วเอามาใช้ได้อีกนานครับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: meeuwarn ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:44:11
ข้ออ้างของคนอยากเปลื่ยนรถครับ

เอาเข้าจริง ใช้ต่อยังไงก็ถูกกว่าซื้อใหม่ ต่อให้ซ่อมปีละ 200000 ซึ่งยังไงก็ไม่ถึง
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: FlyMe ที่ สิงหาคม 21, 2016, 20:58:07
ผมใช้ E90 LCI 320d มือแรกตั้งแต่ 2009 ขายไปเพื่อเปลี่ยน F10 ตอนต้นปี 2015 ใช้รถรเกือบ แสนสี่หมื่นโล รถยังขับดี ค่าดูแลช่วงเกินแสนกิโล ก็ไม่หนักหนา  เปลี่ยนน้ำมันเกียร์พร้อมกรองเบิกศูนย์ ก็แพงหน่อยแต่ก็รับได้ แบตเตอรี่เปลี่ยนตอนเกินแสนโล ใช้ bosch maintenance free แพงแต่ทน เคยใช้กับ w203 4 ปีเกือบแสนโล ก็ถือว่าคุ้มค่าตัว
สรุป ราคาอาจสูงกว่า แต่อายุยาวกว่า ก็พอใจและไม่ถือว่าแพง โดยทำเองกับอู่นอกศูนย์ที่มีมาตรฐานไว้ใจได้ 
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: kenny523 ที่ สิงหาคม 21, 2016, 21:01:37
รถผม ปี 2000  ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่เงียบกว่า แน่นกว่า w205 จมเลย ซ่อมเหรอก็อู่นอกราคาไม่แพงหรอก แต่....ถ้าซ่อมศูนย์มันก็ธรรมดาที่ต้องบ่นเพราะไม่เคยซ้อมการจ่ายเลยนี่ตั้ง 5 ปี
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: เต๋า AV ที่ สิงหาคม 21, 2016, 21:48:40
ใช้รถค่าย ยุโรป ต้องมีเงินติดบัญชีไว้อย่างต่ำ 2 แสน สมาชิก ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้...
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Tonge ที่ สิงหาคม 21, 2016, 22:05:11
ผมขอตอบแบบดิบๆเลยนะครับ
ไม่หนักหนามากหรอกครับ เพราะคนที่ซื้อมือสองมาใช้ต่อ ไม่ได้มีตังค์อะไรมากมายหรอก เขายังซ่อมและขับใช้งานกันไหวเลยครับ
เชื่อได้ว่าคนที่มีตังค์ซื้อมือหนึ่ง ไหวแน่นอน แต่ที่จะทนไม่ได้เพราะเสียเวลาซ่อมเนี่ยแหละ
จากคนรอบตัวเลยนะ ไม่มีใครเสียเวลาเอารถไปซ่อมหรอก เขาเอาเวลาไปทำงาน เก็บตังค์ซื้อรถใหม่คันต่อไปครับ :-X
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: nest@cm ที่ สิงหาคม 21, 2016, 22:59:51
อะไหล่บางชิ้น รถญี่ปุ่น แพงกว่า bmw นะครับ ดังนั้น ไม่ต้องซีเรียสมากนัก แต่สิ่งสำคัญ คือ ต้องหาอู่ที่ไว้ใจได้มากกว่า
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Sarayut ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:01:00
ส่วนตัวที่ผมเคยเจอคนที่ยี้ BMW ส่วนใหญ่
จะเป็นคนที่ฟังเค้ามาทั้งนั้นไม่มีไว้ใช้งานเองจริงสักคน
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Teera ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:03:45
ส่วนตัวที่ผมเคยเจอคนที่ยี้ BMW ส่วนใหญ่
จะเป็นคนที่ฟังเค้ามาทั้งนั้นไม่มีไว้ใช้งานเองจริงสักคน

โดนใจมากๆ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Tedjung84 ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:37:35
ผมคนนึงล่ะที่มีแผนจะออก bmw ในปีนี้ และก่ะว่าจะใช้ยาวเกิน 5 ปีครับ
กำลังศึกษาหาอู่นอกแต่เนิ่นๆเหมือนกัน :)
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: yourturle ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:38:23
น่าจะเป็นผลมาจากอดีตที่ติดตา ติดหูมาว่า ซ่อมแพง พังง่าย จุกจิก ขายทิ้ง หนีไปแบรนดอื่นแทน

ปัจจุบัน มีbsi ดีขึ้น แต่ก็มีเดทไลท อีกว่า ห้ามเกินระยะประกัน จะได้หล่อแบบไม่ต้องเจ็บ

ตอนนี้ MB ก็ออก SERVICE PLUS มาชน bsi
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: InBkk ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:38:39
ส่วนตัวที่ผมเคยเจอคนที่ยี้ BMW ส่วนใหญ่
จะเป็นคนที่ฟังเค้ามาทั้งนั้นไม่มีไว้ใช้งานเองจริงสักคน

ยืนยันว่าเป็นความจริงครับ

ยกเว้นคนที่ไปซื้อรถย้อมแมวมา ไม่ทำการบ้าน ไม่ศึกษา ปล่อยให้อู่ฟันหัวแบะกับค่าอะไหล่ที่ไม่ได้เสีย
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: rokrok ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:48:21
ก็ไม่เรียกว่าเลวร้ายนะครับ รับได้

มันไม่ได้จุกจิกมากมายแล้วนะสมัยนี้

ค่าซ่อมก็แพง แต่แล้วยังไงดีหละ ก็รถมันราคาสูงกว่า รถญี่ปุ่น 3เท่าหนิ (เทียบsegment เดียวกัน)
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: CookiE ที่ สิงหาคม 21, 2016, 23:53:56
ของผมสมัยใช้ E60 สองคัน คันแรกพออายุเริ่ม 6 ปีก็ซ่อมมาเรื่อยๆ ครับ อีกคันก็เริ่มซ่อมตอน 6 ปี แต่ด้วยนิสัยผมคือ กลัวรถจะเสียกลางทางแล้วเสียเวลา ประกอบกับใช้รถวิ่งต่างจังหวัดทางเปลี่ยวๆ เลยชอบจับเปลี่ยนอะไหล่ก่อนตลอด

ใช้ E60 จนคันแรกอายุ 10 ปี คันที่ 2 อายุ 9 ปีขายไป

เสียค่าอะไหล่ เบิกศูนย์ทั้ง 2 คันไปรวมกัน 1.4 ล้านบาท

คิดไปคิดมาไม่คุ้ม ขายซื้อใหม่ดีกว่า ก่อนขายก็เปลี่ยนอะไหล่ไปอีกเกือบ 1.5 แสนบาท

ป.ล บางท่านอาจจะบอกว่า E60 ค่าซ่อมไม่แพง มันใช่สำหรับตอนนี้ครับ แต่ตอนที่ผมใช้นู้นนน เกียร์ยังแทบไม่มีอู่ซ่อมเท่าไหร่เลย

อีกอย่างอะไหล่ผมก็เบิกศูนย์ดีกว่า มั่นใจได้มากกว่า แล้วรถก็ไม่เคยเสียกลางทางเลยสักครั้งเดียวจนขายไป
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.Joe ที่ สิงหาคม 22, 2016, 01:00:44
ดูแลตามระยะ
ก็ไม่ได้จุกจิกอะไรนะครับ ยิ่งถ้าตัวดีเซลแล้ว งอแงน้อยกว่า FD2.0 ที่บ้านซะอีก
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: earrt ที่ สิงหาคม 22, 2016, 07:52:33
ดูจากราคาขายต่อครับ มันสะท้อนทุกอย่าง
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Untouchable ที่ สิงหาคม 22, 2016, 08:15:33
ที่ผมเจอมามันไม่เลวร้ายหรอกครับก็ตามอายุมัน บ้านผมก็หาอู่เก่งๆข้างนอกเข้าเอาก็ไม่มีปัญหาอะไรน่ะครับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ สิงหาคม 22, 2016, 08:38:26
คนที่ไม่เคยเจอก้อไม่รุ้หรอกครับ  ส่วนคนที่ฟังเขามาอาจจะเข้าใจแต่ไม่รู้ซึ้ง

ใช้Bmw ปีกว่า ไม่รอให้หมดBSIก็ขาย. แน่นอนว่าขาดทุนเยอะในมึมของผม. 

ค่ายนี้ทำรถดี  แต่การ. คาดหวัง. อะไรมากเกินไปจากคำอวยที่รุ้จริงบ้าง เขาเล่ามาบ้าง ก้อทำไห้ผิดหวังได้

ผมย้ายมาค่ายคุ่แข่ง  สบายใจกว่าเยอะ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Starplatinum35 ที่ สิงหาคม 22, 2016, 08:52:06
ส่วนตัวที่ผมเคยเจอคนที่ยี้ BMW ส่วนใหญ่
จะเป็นคนที่ฟังเค้ามาทั้งนั้นไม่มีไว้ใช้งานเองจริงสักคน

+100 ข้างบ้านผม E60 520d ออกป้ายแดงมา ใช้มา 8 ปีละ ทุกวันนี้ก็เห็นเค้าใช้ทุกวัน สีเนียนกริ้บ   ;D
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: john ที่ สิงหาคม 22, 2016, 08:52:51
มันก็ไม่ได้เลวร้ายมากครับ ถ้ามีงบซ่อมก็ไม่ใช่ปัญหา  แต่ถ้าจะคาดหวังให้เหมือนรถญี่ปุ่นคงไม่ใช่
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: !note! ที่ สิงหาคม 22, 2016, 10:22:29
ของผมประสบการณ์จริงนะ E46 ซื้อมือสองตอนหมด BSI พอดี
ค่าซ่อมจะเลวร้ายหรือไม่มันอยู่ที่เงินในกระเป๋าแต่ละคน เทียบชิ้นต่อชิ้นไม่ต่างจากรถญี่ปุ่นมากหรอกครับ แต่อะไหล่แต่ละชิ้นส่วนใหญ่มันไม่ถึกทนเท่ารถญี่ปุ่นและช่วงเวลามันเสียมันเหมือนอะไหล่มันหมดอายุพร้อมๆกัน มันมาทีเป็นชุด ใครโดนช่วงนั้นพอดีก็จุก

แต่ที่ผมขายทิ้งไปเพราะเสียเวลาเอารถไปทิ้งให้ช่างซ่อม และ ที่สำคัญมากๆเวลาขับไปต่างจังหวัดไกลๆไม่เคยมีความมั่นใจเลยว่ามันจะพาผมไปได้ตลอดลอดฝั่ง (อาจเป็นจังหว่ะที่ผมเจอมาหลาย Case)
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: aekoy ที่ สิงหาคม 22, 2016, 10:57:50
ค่าอะไหล่รถยุโรปผมว่าแพงพอรับได้ แต่ค่าแรงศูนย์แพงมาก หมดประกันศูนย์ก็หาอู่ข้างนอกเอาของ BMW มีเยอะครับรุ่นใหม่ๆก็ซ่อมได้แต่ต้องรอบางทีหลายวัน อู่ที่ดีลูกค้าเยอะขนาดผมใช้ E30 ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องยังรอคิวหลายวันเลย เพื่อนฝรั่งยังเบิกอะไหล่ศูนย์ไปให้อู่นอกเปลี่ยนให้ ผมว่าหมด BSI ต้องหาอะไหล่เก่งๆสั่งของจากนอกได้ทุ่นไปมากครับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ สิงหาคม 22, 2016, 11:13:09
ในความคิดผม มันก็เป็นความคิดหลังจากติดกับดักการตลาดคำว่า BSI ครับ

ลูกค้าแทบจะทุกคนก็ว่าได้ (ในความคิดผมนะ) เมื่อตอนซื้อรถได้รับเงื่อนไขเรื่อง BSI แล้วก็รู้สึกว่าได้เปรียบ คุ้มทั้งๆที่จากประสบการณ์ส่วนตัวผมเองที่ได้ใช้รถยี่ห้อนี้ บนเงื่อนไขนี้ ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันวิเศษสุดอะไร เพราะเชื่อว่าด้วยราคารถยนต์แบรนด์พรีเมี่ยมที่ขายในประเทศไทยเรานี้ บวกเอาไว้จนเกินคุ้มหมดแล้ว ครอบคลุมยอดขายเพียงพออยู่แล้ว โดนคันนั้นมาก ก็ไปเอาจากคันอื่นได้

ที่อ่านๆเจอกันว่า โห ก่อนหมด BSI เคลมโน่นได้ นี่ได้ ผมมองจากคนใกล้ตัว ตัวเอง ไม่เคยได้ตามนั้น เพราะขนาดสารหล่อลื่นต่างๆ ก็ยังเห็นมีเคสเยอะแยะ ที่ทำตามเงื่อนไขการเปลี่ยนถ่าย ก็บ่นว่ามีปัญหากันเยอะแยะ รวมทั้งรถผมด้วย

เห็นด้วยกับเม้นท์ด้านบนที่ว่า เป็นการตลาดเรื่องหาเรื่องเปลี่ยนรถใหม่ เพราะกิเลสความอยากใช้ของใหม่ซะมากกว่า 555

ผมซื้อเพราะผมพอใจในคุณภาพการใช้งานตอนไม่เจ๊งของมัน แล้วรับได้ หาทางดูแลให้สบายใจในงบค่าซ่อมที่โอเค แล้วมีความสุขกับคุณภาพของตัวรถมากกว่าครับ ดีกว่ายังไม่ทันซื้อ คิดตอนจะขายแล้ว ทุกข์เปล่าๆ

เสียดายค่าซ่อมก็หารถที่ซ่อมน้อยๆ เสียดายค่าตัวที่แพงก็หามือสอง หรือซื้อยี่ห้ออื่นที่มันประหยัดเงินกว่า ง่ายๆ แค่นั้นไม่ดีกว่า??

ไม่อยากโดนอู่ต้ม โดนศูนย์ฟัน ก็ต้องขยันทำการบ้านครับ ไม่มีของถูก กับอู่ดีๆ ที่ได้ค่าตอบแทนการซ่อมไม่คุ้มค่าหรอกครับ

มีแต่ว่าอู่ดี ที่ราคาเหมาะสมและไม่หลอกลวงเรา เค้าอยู่ได้ เรามีทางเลือก น่าจะดีกว่าในความคิดผม

ก็ขอมาแชร์ความเห็นนะครับ ผิดถูกขออำไพล่วงหน้า
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: oatekung ที่ สิงหาคม 22, 2016, 11:20:27
ถ้าไม่ได้เครื่องฮีท มา ผมว่าไหวแน่นอน ตอนนั้นเพื่อนออกป้ายแดงมา และยังอยู่ในยนตรกิจ สยองมาก
ถอดเครื่องเฉยๆ 3-4 หมื่น
แต่มองย้อนกลับไป ถ้า เปลี่ยนไหวก็เปลี่ยน ดีกว่า ผ่อนวันละ พันนิดๆ พอๆกับฟอจูฯ ได้รถใหม่ด้วย > <
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ สิงหาคม 22, 2016, 13:16:58
คนทั่วไปไม่ค่อยรู้จักอู่นอกดีๆถูกๆกันนะสิครับ มีอะไรก็พึ่งศูนย์ ยิ่งมี BSI ด้วย แสดงว่าห้ามไปไหนเลย ต้องเข้าศูนย์ตลอด ซึ่งมันสร้างความสบายใจให้ผู้ใช้รถมากกว่า

ถ้าคนรู้จักอู่นอกดีๆ เค้าก็เฉยๆ ไม่กลัว
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: NineKlao ที่ สิงหาคม 22, 2016, 13:25:11
เห็นด้วยกัน ด้านบน BSI มันเหมือนเป็นกับดัก

จริงๆเริ่มแรก BSI ออกมาเพื่อให้ลูกค้าหมดกังวลเรื่องค่าซ่อม

ที่เมื่อก่อนพี่ยนตกระทำไว้ และเป็นการรักษาราคา BMW มือสอง

ไม่ให้ตกต่ำมากหลังจากเปลี่ยนเป็น BMW TH

และก็เหมือนที่ว่าไว้ เร่งการซื้อรถใหม่ คือ ใช้ 5 ปีขายให้ BMW User แล้วออกคันใหม่

หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: StrawHat ที่ สิงหาคม 22, 2016, 14:56:12
E60 520D ที่บ้าน 200,000 km ละครับ หลังจากหมด BSI นี่โดนค่าซ่อมรวมๆประมาณ 3-4 แสนครับ (ยังไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ซึ่งเผื่อใจไว้อีก 2 แสน) ความเห็นส่วนตัวผมว่าช่างศูนย์ค่อนข้าง tricky ในช่วง BSI นี่ซ่อมแบบขี้เหนียวมาก พอหมด BSI นี่ยุให้เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่แทบจะเกินความจำเป็น (ลองไปให้อู่ที่ซ่อม BMW โดยตรงประเมิณมา) แถมศูนย์ไม่ค่อยจบด้วยครับ ต้องเข้าไปรอบ 2 เกือบทุกครั้ง (แล้วก็โดนตอดเงินอีกทุกครั้งเช่นกัน)

โดยรวม ผมว่าสิ่งที่ห่วยคือศูนย์ ยุให้เปลี่ยนอะไหล่เกินความจำเป็น ค่าแรงแพง รอคิวนาน แต่ตัวรถผมชอบมาก ยังขับดีเหมือนที่ออกมาใหม่ๆ ไม่ทำให้กังวลในเรื่องความปลอดภัยเลยครับ

สรุป ค่าซ่อมที่ศูนย์โขกสับซื้อ city car ได้คันนึง แต่รถเราหล่อ ปลอดภัย มั่นคง กว่า city car เยอะครับ ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องซ่อมบำรุงก็จัดไปครับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ สิงหาคม 22, 2016, 15:00:59
E60 520D ที่บ้าน 200,000 km ละครับ หลังจากหมด BSI นี่โดนค่าซ่อมรวมๆประมาณ 3-4 แสนครับ (ยังไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ซึ่งเผื่อใจไว้อีก 2 แสน) ความเห็นส่วนตัวผมว่าช่างศูนย์ค่อนข้าง tricky ในช่วง BSI นี่ซ่อมแบบขี้เหนียวมาก พอหมด BSI นี่ยุให้เปลี่ยนโน่นเปลี่ยนนี่แทบจะเกินความจำเป็น (ลองไปให้อู่ที่ซ่อม BMW โดยตรงประเมิณมา) แถมศูนย์ไม่ค่อยจบด้วยครับ ต้องเข้าไปรอบ 2 เกือบทุกครั้ง (แล้วก็โดนตอดเงินอีกทุกครั้งเช่นกัน)

โดยรวม ผมว่าสิ่งที่ห่วยคือศูนย์ ยุให้เปลี่ยนอะไหล่เกินความจำเป็น ค่าแรงแพง รอคิวนาน แต่ตัวรถผมชอบมาก ยังขับดีเหมือนที่ออกมาใหม่ๆ ไม่ทำให้กังวลในเรื่องความปลอดภัยเลยครับ

สรุป ค่าซ่อมที่ศูนย์โขกสับซื้อ city car ได้คันนึง แต่รถเราหล่อ ปลอดภัย มั่นคง กว่า city car เยอะครับ ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องซ่อมบำรุงก็จัดไปครับ

ตอนนี้รถอายุกี่ขวบและซ่อมประจำที่ศูนย์ไหนครับ ผมขอเก็บข้อมูลหน่อย
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: chaithawat ที่ สิงหาคม 22, 2016, 15:33:05
ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไรหรอกครับ ถ้าซ่อมเป็นรู้จักซ่อมให้ถูกจุดรู้จักศึกษาความรู้ในคลับและมีอู่รองรับเล่นได้เลย ถ้าไม่มีสองอย่างนี้อย่าเล่นเลย ละลายเงินปีนึงเป็นแสนเปลืองเงินจิตตกไม่มีความสุขครับ ไปถอยดีเซกเมนต์ป้ายแดงนั่งสบายกว่า ขับไปไหนไกลได้ไม่ต้องกังวลคอยเช็คบ่อยๆ จากประสบการณ์สองคันหลังห้าถึงเจ็ดปีเจอทุกคันเฉลี่ยปีละ1-2แสนรวมๆจากบิล0นะครับมากน้อยเช่น แบต ท่อทางที่เยอะ ระบบไฟ ระบบช่วงล่างที่เยอะ รุ่นหลังๆนี้ไม่ค่อยเท่าไรหรอกครับแก้จุดบกพร่องมาเยอะแล้ว
รู้จักซ่อม เช่นอะไหล่พวกที่เป็นยางหรือพลาสติกเช่น แท่นเครื่องแท่นเกียร์ ท่อทาง ประเก็น โอริงแบบนี้ เข้าศูนย์ยังพอทำได้แพงกว่าข้างนอกไม่มากแต่ได้ประกันปีนึงรั่วมะไหร่เข้าเคลมได้เลย หรือประหยัดหน่อยก็เบิกศูนย์แล้วให้อู่ทำดีสุดราคาอะไหล่แท้ไม่หนีข้างนอกแต่ทนกว่ากันบาน อย่าเล่นวัดโสมไม่ทนครับ แล้วจะมาบ่นจุกจิกเช่น ยางแท่นเครื่องวัดโสมตัวละพันกว่าทรุดมันทุกปี เบิกศูนย์ตัวละสี่พันใช้จนลืม  หรือชุดช่วงล่างยกชุดของเทียบสิบชิ้นหมื่นกว่าบาท แต่3-4หมื่นโลหลวมหมดแล้ว ใช้ของแท้วิ่งได้เกือบแสนสบายๆ
และที่สำคัญมีอู่รองรับ รู้จักเลือกอู่ที่ไม่ฟัน ช่างมีประสบการณ์ แบบนี้ก็น่าเล่นครับไม่มีอะไรน่ากังวล
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Dr.Jones ที่ สิงหาคม 22, 2016, 17:25:10
E60 520D ที่บ้าน 200,000 km ละครับ หลังจากหมด BSI นี่โดนค่าซ่อมรวมๆประมาณ 3-4 แสนครับ

----- >>> ในความคิดของข้าพเจ้า คิดว่าถ้าใช้เกิน 100000 กิโลควรเปลี่ยนได้แล้วล่ะครับ
ซ่อมค่อนข้างแพง ปั๊มติ๊ก ไดชาร์จ ช่วงล่าง เผลอๆเกียร์เสีย ยกเว้นว่าซ่อมไหวและสนิทกับอู่ ก็ไปได้ต่อนะ
ถึง 200000 สบายๆ

ปล. กระซิบแบบ Final ว่า
ถ้าจะซื้อ 5 Series ราคาประหยัดวันนี้ ซื้อ 520d M sport นะครับ
ราคาเท่าๆกับ Elite แต่ option มาเต็ม (แล้วใครจะไปซื้อของตัด option ฟะ)
ยกเว้นไม่มีไฟหน้า LED  (มันน่านะ เหมือนไปเที่ยว "...." แล้วไม่ได้จับ "..." อ่ะ)
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Hadoken Shoryuken ที่ สิงหาคม 22, 2016, 18:25:04
E60 520D ที่บ้าน 200,000 km ละครับ หลังจากหมด BSI นี่โดนค่าซ่อมรวมๆประมาณ 3-4 แสนครับ

----- >>> ในความคิดของข้าพเจ้า คิดว่าถ้าใช้เกิน 100000 กิโลควรเปลี่ยนได้แล้วล่ะครับ
ซ่อมค่อนข้างแพง ปั๊มติ๊ก ไดชาร์จ ช่วงล่าง เผลอๆเกียร์เสีย ยกเว้นว่าซ่อมไหวและสนิทกับอู่ ก็ไปได้ต่อนะ
ถึง 200000 สบายๆ

ปล. กระซิบแบบ Final ว่า
ถ้าจะซื้อ 5 Series ราคาประหยัดวันนี้ ซื้อ 520d M sport นะครับ
ราคาเท่าๆกับ Elite แต่ option มาเต็ม (แล้วใครจะไปซื้อของตัด option ฟะ)
ยกเว้นไม่มีไฟหน้า LED  (มันน่านะ เหมือนไปเที่ยว "...." แล้วไม่ได้จับ "..." อ่ะ)

Elite "พับมือ"
M Sport "พับไฟฟ้า"
ราคาเท่ากัน  5555+
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: kasuya ที่ สิงหาคม 23, 2016, 08:57:53
คนใช้หลายคนที่ไม่ออกมาบ่นเพราะมันจุกอยู่ในอก เลยแน่นอกมันพูดไม่ออกผ่านสื่อได้
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ สิงหาคม 23, 2016, 10:49:15
ผมเป็นคนโชคดี ใช้BMWมาหลายคันเจอปัญหาซ่อมง่ายซ่อมถูก

แต่ถ้าให้ไปบอกคนอื่นว่ามันไม่มีอะไรหนักหนาผมก็ไม่กล้าพูด เพราะรถBMWผมที่ใช้เองก็ไม่เคยเกียร์พัง เครื่องระเบิด น้ำแห้งฝาโก่ง หัวฉีดตัน พวงมาลัยเพาเวอร์เดี้ยง เทอร์โบเสีย น้ำมันเครื่องรั่ว เครื่องดับกลางอากาศเพราะระบบไฟฟ้ารวนหนักๆ  กดสตาร์ทเงียบเพราะกล่องพัง แอร์ตัน คอมแอร์พัง  DSCเสีย ฯลฯ แบบที่ลูกค้าและคนรู้จักผมต่างก็เจอกันมาแล้วคนละอย่างสองอย่าง

การจะแนะนำคนให้ซื้อรถสักคัน ผมเลยมักจะดูพื้นฐานของคนก่อนว่า รู้เรื่องรถแค่ไหน ฐานะเป็นอย่างไร อาชีพอะไร มีเวลาว่างหรือมีลูกน้องขับรถไปซ่อมให้  ใช้รถอะไรมาก่อน นิสัยจุกจิกรึเปล่า

ความหลากหลายของพื้นฐานความรู้ ฐานะ ความคิด อาชีพ ทำให้การตอบสนองต่อปัญหาไม่เท่ากัน บางคนแค่เสียงคอนโซลดังก็แก้ไม่ได้ หรือรับไม่ได้แล้ว ในขณะที่บางคนเกียร์พังก็วิ่งหาเซียงกงหาช่างยกใส่เองได้

ถ้าตอบคำถามนี้แบบสั้นๆ ก็ต้องบอกว่า ใช่ครับ หนักหนาสำหรับประชากรไทยมากกว่า80%แน่นอน หลังหมดBSI ไปอุดร อุบล สามจังหวัดชายแดน เอาแค่หม้อน้ำแตก คอยล์เย็นรั่ว ก็ตาเหลือกแล้วกับคนที่ไม่ถนัด
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: wersocute ที่ สิงหาคม 23, 2016, 11:23:00
ส่วนตัวที่ผมเคยเจอคนที่ยี้ BMW ส่วนใหญ่
จะเป็นคนที่ฟังเค้ามาทั้งนั้นไม่มีไว้ใช้งานเองจริงสักคน

โดนใจมากๆ
เห็นด้วยครับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: firstime911 ที่ สิงหาคม 23, 2016, 13:46:18
คือ จาก ที่เจอมา นะครับ 525LCI คือ เวลา bmw มันเสีย มันไม่ได้ โดนเป็น ชิ้น มันเสียทั้งระบบอะครับ
เช่น ไฟหน้า xenon เสีย มันไม่ได้ เสียเฉพาะ หลอด มันลามไป กล่อง ไป สายไฟ คือ โดนทีทั้งระบบ มันเลยแพงมากครับ

แต่บอกเลย ตอนนี้ benz ก้ไม่ได้ถูกนะครับ .. หลัก แสนเหมือนกัน ค่าซ่อม ..
รถยุโรป ช่วงหลังๆ ยิ่งไม่มี เกรย์ market มาแข่งแล้ว ค่าซ่อม แพงๆจิงๆ ไม่รู้ว่า อะไหล่ ทำไม มันแพงจังเลย ทั้งๆที่ มันก็ขายทั่วโลก ผลิตทีก็จำนวนมากๆ ต้นทุนก็ต่ำ แต่ ค่าอะไหล่ จะแสนโหดร้ายไปไหน ....
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: Monn ที่ สิงหาคม 23, 2016, 22:27:33
ถ้าถามคนที่ใช้ bmw จริง แล้วมีอู่นอกที่ไว้ใจได้ หรือรู้จักอู่นอก ก็จะตอบเหมือนกันว่า ไม่มี bsi ก็สบายๆ
แต่รถใหม่ ราคาเกือบ 3 ล้าน จะให้ซ่อมถูกเท่า city car 6-7 แสน คงไม่ใช่ ราคารถอาจจะเหลือ ล้านเดียว แต่อะไหล่ มันราคาเดิมนะคับ
ค่าซ่อมก็เผื่อๆ ไว้เลย ปีละ แสน คร่าวๆ นะ หลังหมด bsi ผมว่าหากไม่ซวยจริง คงไม่ใช้ถึงแสนต่อปีหรอก รถญี่ปุ่น หรือรถอะไรก็ตาม ก็เห็นมีปัญหากันหมด ทุบรถก็เยอะแยะ จะบอกว่า อะไรดีที่สุดคงไม่มี

ผมใช้มา เหลืออีก 500 โล หมด bsi เข้าเคลมตลอดช่วงอายุการใช้งาน 3 ปี 9 เดือนไม่มีอะไรต้องซ่อมใหญ่ ไม่เคยมีอะไรเสีย เข้า service ปกติ แล้วก็ไม่เคยต้องจ่ายเงินสักบาท ช่วงที่ผ่านมา หลังจากนี้ ก็จะรู้ละ เป็นไง กะว่าจะใช้ไปอีกสัก 2-3 ปี แล้วว่ากันใหม่ แต่ผมรู้จักอู่ bmw อยู่บ้าง เพื่อนๆ ในกลุ่มมีอู่ที่รู้จักกันทุกคน ยังไงก็ถูกกว่า 0 แต่จะหวังซ่อมหลักร้อยหลักพันต้นๆ คงไม่มี ใช้รถแบบนี้ ก็ต้องทำใจ เตรียมซ่อม

คุยกับคนอื่นๆ ส่วนใหญ่จะบอกว่า หมด bsi เดี๋ยวก็รู้สึก แต่คนเหล่านั้น 99% ไม่เคยใช้ BMW ขนาดน้องเมีย ใช้ ตราดาว ก็พูดแบบนี้ ในขณะที่เค้าเอง เสียค่าบำรุงไปแล้วมากกว่าแสนบาทในช่วงที่เข้าเซอร์วิสรถตัวเอง ทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงแสนโล แต่ไม่คิดว่าแพง ของเราไม่ต้องจ่าย บอกให้ระวัง ก็ไม่เข้าใจนะ

ปล. ผมเข้าเช็คก่อนหมด bsi เคลมไปรวม 130000 บาท โดยที่จริงๆ รถไม่มีปัญหาใดๆ แต่ 0 ก็เปลี่ยนชิ้นที่ไม่ค่อยโอเคให้ อันนี้ บอกเลย ไม่รู้ว่า ที่บอกเคลมยากๆ มันยังไง อาจจะขึ้นกับ 0 ด้วย แต่กลุ่มผมที่ใช้ ไม่มีใครมีปัญหาการเคลมใดๆ ส่วนตัวผม happy มากๆ ก็คงใช้ต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: หลัง 5 ปี BMW มันเลวร้ายมากเลยเหรอครับ ??
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ สิงหาคม 24, 2016, 07:31:55
ก็ไม่ได้ถึงกับเลวร้ายครับ ถ้าทำใจได้ว่าค่าซ่อมบำรุงจะเยอะนิดนึงหรือบางครั้งอาจจะต้องเข้าอู่หรือใช้บริการรถยกถ้าเจอแจ็คพ็อต เช่นE65ของน้องผมตอนป้ายแดงยังไม่เท่าไหร่แต่พอหมดBSIมาเป็นชุดทั้งรถล็อคไม่ได้บ้าง ไฟติดแบบปิดไม่ได้บ้าง โช้คไฟฟ้าพังบ้าง ทำนองนี้ครับ ส่วนตราดาวก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันเท่าไหร่เพียงแต่ตราดาวจะมีอะไหล่นอก0รองรับเยอะกว่า ขนาดเพื่อนในหน่วยงานดูแลการServiceยังบอกกับผมว่าทั้ง2ค่ายก็มีปัญหาพอกันครับ