Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: arya ที่ สิงหาคม 25, 2016, 12:33:47
-
เป็นรถสำหรับคุณแม่ใช้ ใช้ยาว 10ปี+ ใช้รถปีละ 10,000 km เลือกตัวไหนดีระหว่าง 3 ตัวนี้ครับ
1. 2.5G ราคา 1.599 ลบ
2. 2.5 ตัวออส ราคา 1.639 ลบ
3. hybrid navigator ราคา 1.659 ลบ
ราคาไม่ใช่ประเด็น คิดถึงระยะยาว ค่าดูแล และ เวลาขายต่อครับ
แม่แกชอบ ช้อย 2 กับ 3 พอๆกัน
ข้อ 2 ชอบภายนอก แตไม่ชอบภายใน +เบาะสปอรต แข็งไปนิด
ข้อ3 ภายนอกโอเค ภายในชอบ แต่ห่วงระบบไฮบริด เวลาซ่อมบำรุง
ข้อ1 มาในตัวเลือก เพราะ ภายในนั่งสบาย แต่ภายนอกสวยสู้ตัวไฮบริดไม่ได้
ขอบคุณทุกความเห็นครับ
-
2.0 G ก็พอน่าจะพอนะครับ คุณแม่คงไม่ขับเร็วอยู่แล้ว รถก็ใช้ไม่เยอะ เลือก 2.5 ดูจะเปลืองงบไปนิด กลัวไม่คุ้มเท่าไหร่ครับ
-
ถ้าให้ดูภูมิฐาน ก็น่าจะ 2.5G Hybrid นะครับ
-
2.0 น่าจะพอ แต่ 2.5 ดีกว่าครับ ออกตจว.ขับสบายๆ
ไฮบริด ระยะยาวยังไม่น่าไว้วางใจ ขายต่อคนซื้อก็กลัวครับ
-
ถ้าไม่ถือเรื่องสีดำ ตัวแต่งของ 2.0 ก็สวยดีนะครับ ส่วนเรื่องระบบไฮบริด น้องข้างบ้านใช้อยู่ครับ เข้าปีที่ 5 ละ ก็ไม่เคยซ่อมอะไรเกี่ยวกับระบบ เวลา start หรือออกตัว เสียงก็เงียบดี (นอกเหนือจากเรื่องความประหยัด)
ถ้าเลือกระบบไฮบริดผมคงเลือกตัว TOP เพราะเรื่องถุงลม ... ตัวอื่น ๆ ไม่เห็นปรับอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
-
ตามตัวเลือก 2.5 ก็พอแล้วครับ
ผู้หญิงขับน่าจะชอบ accord มากกว่าเพราะพวงมาลัยเบาขับในเมืองง่ายครับ
-
ข้อ 2 ครับแปลกๆดี ใช้ยาวสบายๆครับ
-
ค่าดูแลเมื่อปีที่สิบ ไฮบริดหนักสุด ระบบแอร์เป็นแสน เครื่องเกียร์แพงถ้าผ่า
2.5g จ่ายเบาแต่เครื่องโบราณมาก ได้เกียร์ลูกใหม่พอประหยัด ปรับแต่งได้ง่าย
ทั้งเปลี่ยนหัวฉีด แต่งกล่อง เพื่อเติมe85
2.0g เครื่องล่าสุดจากเล็กซัสls460 ฉีดตรงประหยัด แรงกว่า2.0รุ่นเก่า ซ่อมอยู่ตรงกลาง
ดูแลไม่ยากถ้าไม่ขับ แบบรถสนามบินที่ขาดการดูแล อะไหล่เทียบเริ่มเข้ามา
เครื่องใหม่จัด ปรับแก้อะไรไม่ได้มาก ต้องรอให้ช่างเคยมือก่อน แต่อนาคตจะมีแต่เครื่องแบบนี้
ขายต่อรถน้ำมันได้เปรียบ ไม่ติดแก๊ส 2.0g ติดแก๊ส2.5g
อยู่ที่คนซื้อว่าชอบแบบเดิมๆ หรือเอาไปดัดแปลง เดาใจกันยาก ยังไงก็ตกเยอะ
ส่วนรอบคันไม่ถูกใจ รอให้เปลี่ยนโฉมก่อนซื้อก็ได้ ขายไม่ออกก็เปลี่ยนเอง ส่วนลดก็เยอะ
2.0 กับ2.5 แอร์ระบบเดียวกัน อะไหล่ไม่แพงมาก ซ่อมง่าย รื้อง่าย แบบรถทั่วไป
-
ผมเลือกภายในสีดำ จะมีเฉพาะรุ่น extremo
2.0 G ภายในสีเบจ
ตัวนอกไม่แนะนำ
-
เอาแค่ 3 ตัวนี้ ผมว่าไป 3 เถอะครับ คุณแม่ก็ชอบด้วย Toyota ใช้ 10 ปีเปลี่ยน ผมว่าไม่น่าห่วง พอถึงเวลาจะเปลี่ยนรถ ไป turn ที่ toyota sure ก็ยังได้
-
ซื้อตอนนี้ ขับได้ไม่ถึง 2 ปี ก็ Model Change แล้ว
ดูไม่ค่อยคุ้ม แต่ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยน ซื้อรถมาใช้งานเป็นหลัก ก็ไม่ต้องรอ เลือก 2.0 ก็พอ
แต่ถ้าออฟชั่นไม่พอ ก็คงต้องไป 2.5 ตัวบ้านเรา
-
เชียร์ 3 แล้วกันครับ
ถ้าพอใจทั้งภายนอกภายใน กังวลแค่เรื่องระบบ hybrid
Camry hybrid ตัวแรกอายุพอใช้ได้แล้วยังไม่มีเชื่อเสียเรื่องการบำรุงรักษาออกมาเท่าไหร่
น่าจะไว้ใจได้ระดับนึง
-
ซื้อตอนนี้ ขับได้ไม่ถึง 2 ปี ก็ Model Change แล้ว
ดูไม่ค่อยคุ้ม แต่ถ้าจำเป็นต้องเปลี่ยน ซื้อรถมาใช้งานเป็นหลัก ก็ไม่ต้องรอ เลือก 2.0 ก็พอ
แต่ถ้าออฟชั่นไม่พอ ก็คงต้องไป 2.5 ตัวบ้านเรา
...+1..... :D :D
-
ตอนแรกผมกะจะออก Camry 2.5G
แต่พอ Camry Hybrid 2.5HV Navigator ลดราคาเหลือ 1,659,000 บาท
ราคาต่างกันแค่ 60,000 บาทเท่านั้นเอง
ผมเลยตัดสินใจจอง Camry Hybrid 2.5HV Navigator ไปแล้วครับ
ปล.ใช้รถน้อยเหมือนกันเลย ปีละ 10,000โล
-
ข้อ.3
-
ได้ไปทดลองขับมา 2 รุ่น
1. extremo my 2015 ก่อนตัวล่าสุด ขับแล้วไม่ประทับใจอย่างแรง รถมันสะเทือนมากเกินไป อย่างกับไม่ใช่รถ d segment
2. HV Premium my 2016 ตัวล่าสุด ขับระยะทางสั้นๆ แต่ค่อนข้างประทับใจ เพราะรถซับแรงสะเทือนดีมาก และ เวลาขับให้ความรู้สึกดีมาก พวงมาลัยเบา ควบคุมง่าย
ผมเข้าใจว่า ช่วงล่าง น่าจะเซ็ตมาไม่เหมือนกัน ใช่มั้ยครับ
แล้ว ไม่ทราบว่า ตัว 2.5G และ 2.5 ตัวออส เซ็ตช่วงล่างมาแบบไหน (กระเดียดไปทาง extremo หรือ HV)
เพราะไม่รู้ว่าจะไปหารถเทสต์ ได้ที่ไหน ครับ
หากใครเคยลอง รบกวนแนะนำ ทีครับ
-
ผมว่า ถ้าไม่ 2.5G ก็กระโดดไป Hybrid Premiem เลยครับ ได้ระบบความปลอดภัยเพิ่ม
-
ได้ไปทดลองขับมา 2 รุ่น
1. extremo my 2015 ก่อนตัวล่าสุด ขับแล้วไม่ประทับใจอย่างแรง รถมันสะเทือนมากเกินไป อย่างกับไม่ใช่รถ d segment
2. HV Premium my 2016 ตัวล่าสุด ขับระยะทางสั้นๆ แต่ค่อนข้างประทับใจ เพราะรถซับแรงสะเทือนดีมาก และ เวลาขับให้ความรู้สึกดีมาก พวงมาลัยเบา ควบคุมง่าย
ผมเข้าใจว่า ช่วงล่าง น่าจะเซ็ตมาไม่เหมือนกัน ใช่มั้ยครับ
แล้ว ไม่ทราบว่า ตัว 2.5G และ 2.5 ตัวออส เซ็ตช่วงล่างมาแบบไหน (กระเดียดไปทาง extremo หรือ HV)
เพราะไม่รู้ว่าจะไปหารถเทสต์ ได้ที่ไหน ครับ
หากใครเคยลอง รบกวนแนะนำ ทีครับ
ไปลองได้ที่ สนามของโตโยต้าที่บางนาเลยครับ มีทั้ง 2.5G และ 2.5Esport
จากที่ผมเคยขับ ผมให้ฟีล ตัวEsport ดีกว่าครับ ย้วยน้อยกว่า พวงมาลัยคมกว่า
แต่ภายในไม่ไหว ดูแล้วไม่คุ้มราคา ล้านหก
ถ้าเป็นแคมรี่ ผมจะเอาแค่ 2.0G พอครับ แต่ถ้าเท้าหนัก อยากเล่น 2.5 ก็ไป 2.5G เลยครับ ยอมขับแย่กว่าEsportนิดนึง แต่ภายในดูดีกว่า และอะไหล่ตัวถังหาง่ายกว่าครับ แถมราคารถถูกกว่า
ที่สำคัญผมว่า อนาคต รุ่น2.0 2.5 และ ไฮบริด ราคามือสองไม่ต่างกันมากครับ นั่นหมายความว่า 2.0 ราคาตกน้อยสุด
-
หากราคาไม่ใช่ประเด็นไป HV Navi แบบไม่ลังเล จ่ายทีเดียวแบบจบๆ ออฟชั่นล้นๆ ความปลอดภัยครบ
ยิ่งเป็นรถให้แม่ใช้สำหรับผมความปลอดภัยมาก่อนอันดับแรก ซึ่งข้อนี้ HV Navi ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สุด
-
ข้อ 3. ครับ ใช้ยาวๆ 10ปี
-
ถ้าเป็นตัวถังนี้ ผมว่าเอา 2.0 ประหยัดแล้วฉีดตรงเกียร์ 6speed เหลือๆครับ
ถ้าเอาตามตัวเลือก ผมชอบรถออพชั่นน้อย คันไหนน้อยสุดเอาคันนั้น
เห็นคนซ่อมรถรุ่นออพชั่นเยอะๆแล้วเบื่อแทน NAV VSC Keyless start ฯลฯ เริ่มซ่อมกันแล้วกับACV40 เป็นตัวอย่างครับ
-
2.5 G ครับ
-
ใช้ 10+ ปี ในบรรดาสามตัวเลือกที่ว่ามาตัว 2.5G ดูดีสุดคับ
-
ถ้าราคาไม่ใช่ประเด็น คิดถึงค่าบำรุงกับราคาขายต่อ
จิ้ม 2.5G ครับ
หรือเอา 2.0G อย่างที่ท่านอื่นว่าก็ไม่เลวครับ ถ้าเท้าไม่หนัก
-
ตามตัวเลือกเอา 2.5G ครับ
ตัว Esport ตัดทิ้งไปก่อนเลย ผมดูหลายทีละ
วัสดุภายในด้อยกว่ารุ่นประกอบในมาก กระจกก็พับมือ ไฟหน้าไฟหลังก็ธรรมดา
หรือจริงๆเลือก 2.0G ก็เพียงพอ
-
ใช้ยาว กลัวเรื่องขายต่อราคาตก ถ้าเป็นผม ออก 2.5G ครับ
เพราะ ความซับซ้อนเครื่องยนต์เกียร์ น้อยสุด อะไหล่body part เป็นรถประกอบในนี้ หาง่าย
อนาคต ถ้าน้ำมันแพงอีก ติดแก๊ซ ง่ายสุด
-
2.5Gครับ เหมาะสมสุดแล้ว
-
เชียร์ 2.5G อีกเสียงครับ
โจทย์คล้ายๆคุณแม่ผม แต่เป็น Harrier 2.0 กับ 2.5 hybrid
เลือกไปเลือกมาเอา 2.5 ดีกว่า ไม่ได้ขับเร็วมากก็จริง แต่แรงเหลือไว้ดีกว่าแรงไม่พอครับ
-
ผมเชียร์ ตัวออส ครับ
ใช้น้อย ไฮบริดไม่คุ้มราคาส่วนต่าง
ใช้นาน เครื่องธรรมดา น่าจะทนทานกว่าค่าดูแลต่ำกว่า
เวลาขาย ตัวออสมีน้อย จะกลายเป็นของหายาก ได้ราคาขายต่อมากกว่าตัวธรรมดาครับ
-
จริงๆ ไม่ 1 ก็ 2
1 เอาตัว 2.5 ไทย ไปแปลงเป็นไฮบริดรอบคันก็ได้
2 ไม่ซ้ำดี เด่นด้วย จัดสีแดง แรงๆไปเลย
กลัวระยะยาว ไฮบริดซ่อมแพง
-
2.5 ออส ครับผม 8)