Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Miata ที่ สิงหาคม 29, 2016, 20:06:20
-
ซักเมื่อ 20 ปีก่อน เวลารถยนต์มี Minor ทีนึง
หลายๆคนมองหาแต่ตัวก่อน Minor เพราะราคาถูกกว่า
ตัว Minor ก็แค่ เปลี่ยนไฟเลี้ยว (จากส้มเป็นขาว) เปลี่ยนไปท้าย เปลี่ยนกระจัง
แต่งหน้าทาปาก นิดๆหน่อยๆ
เป็นปัจจุบัน รถยนต์เริ่มมีความซัยซ้อนมากขึ้น ระบบต่างๆมากขึ้น
กลายเป็นคนที่ซื้อรถโมเดลใหม่ กลายเป็นคนทดสอบรถให้บริษัท
ในขณะที่ตัว Minor แก้ไขปัญหาต่างๆหมดแล้ว
รวมถึงออฟชั่นที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช้แค่ กระจัง ไฟหน้า ไฟท้าย
ยกตัวอย่างชัดเจนที่สุด ก็น่าจะเป็น Camry
ตัวก่อนกะตัวหลังนี่แตกต่างกันมากเลย
รถคันต่อไปของผม คงมองแต่ตัว Minor แล้วล่ะ
-
ช่วงนี้ตลาดซบเซาเขาก็ต้องหาอะไรมากระตุ้นยอดขายอะครับมีของมีโปรอะไรใส่กันแหลกลานทุกค่ายซึ่งก็เป็นผลดีต่อผู้บริโภคนะครับผมว่างั้น
-
ผมคิดว่าส่วนนึงอาจเป็นเพราะตอนนี้ค่ายรถยนต์แข่งขันกันรุนแรงขึ้นครับ แต่ก่อนในตลาดบ้านเรา(ที่ก็ถือว่าเล็ก)ที่ค่ายรถญี่ปุ่นไม่กี่เจ้าคุมตลาดอยู่ตัวเลือกไม่เยอะ เทคโนโลยีไม่ได้มีอะไรให้มากมาย ระบบความปลอดภัยมีแค่เข็มขัดนิรภัยและเบรค ABS ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรมาก กับปัจจุบันที่แข่งกันรุนแรงและโดยเฉพาะเป็นยุคที่ยิ่งผู้บริโภคเข้าถึงสื่อที่นำเสนอรายละเอียด การเปรียบเทียบ การใช้งานจริง เช่น บ้านหลังนี้ ยิ่งผู้บริโภครู้ยิ่งมากก็ยิ่งทำให้ออฟชั่นต่างๆ เช่น ค่ายรถA ออฟชั่นต่างจากค่ายรถ B ก็นำมาเป็นจุดตัดสินใจเลือกซื้อได้แล้ว เลยทำให้การไมเนอร์ไม่ได้เป็นแค่แต่งหน้าทาปากอีกต่อไป
-
Minor ที่ได้เพิ่มมา อย่าลืมว่าราคาเขาก็ปรับขึ้นเช่นกัน ยิ่งถ้าเป็นรุ่นที่ไม่มีส่วนลดอะไรมาก ยี่ห้อก็ฟันกำไรไม่ต่างกันหรอกครับ บางรุ่นรอปรับ Minor ได้เพิ่มมา+เพิ่มราคาแล้วเจ็บใจก็มี
-
ถ้าเน้นตัว TOP สำหรับพี่โต ก็ใช่ครับ แต่รุ่นล่างบางทีก็ถูกตัดบางอย่างออก
ส่วน MITSU นี่ถูกต้องเสมอครับ ยิ่ง Minor ยิ่งได้ของมากขึ้น น่าใช้ขึ้น
แต่ตอนนี้พี่ ฮอนเหมือนจะตรงข้ามครับ ยิ่งปรับยิ่งลด โดยเฉพาะเครื่องเสียง
-
ไม่ใช่เฉพาะออพชันครับ
ราคาด้วยครับ ไมเนอร์แล้ว ผมว่าแพงเกิน เว่อร์มาก
camry 2.0 g เปิดตัวใหม่ ๆ 1.2x ล้านบาท
2.5 g 1.4x ล้านบาท นะถ้าจำไม่ผิด มีออพชันความปลอดภัยครบ เกียร์ 6 สปีด
ตอนนี้ราคา
2.0 g ขาดอีกไม่บาทก็ 1.4 ล้านบาท แล้ว
ซึ่งราคามันเกือบได้ 2.5 g ตอนเปิดตัวใหม่ๆ
ส่วน 2.5 g หลังไมเนอร์ วิ่งเลย 1.5 ล้านบาทไปมาก
-
อย่าง option 2.0 g camry ราคานี้ผมว่าสมเหตุผลครับ
-
Colorado MCเลยครับ
เป็นMCที่มาดีมากๆ ผมมีโอกาสได้ลองตัวเก่า2.8 เเละต่อด้วยตัวMCเลย
ช่วงล่างดีขึ้นมากๆ อารมย์กระบะหายไปเยอะมาก นุ่มขึ้น20เปอร์เซ็น ตัวเก่าเด้งกว่าเเต่ก็เหนึบกว่านิดนึง เเต่ผมชอบช่วงล่างตัวMCมากๆ
พวกมาลัยตัวMC เบาสบายมือๆที่ความเร็วต่ำ พอวิ่งเกิน100 ก็ตึงมือมั่นใจดีมากๆ ชอบๆ
วัสดุภายใน มันสวยมันดูเเข็งเเรงเเละใช้ง่ายอ่ะ ตัวเก่ามันจะเชยๆหน่อย555+
Coloradoมาดีอ่ะ ถึงตัวเก่าจะลด150K เเต่ผมต้องยอมใจตัวใหม่จริงๆ มันดีเยี่ยมเลย เป็นMCที่มาเต็มจริงๆ :-*
-
มันไม่เสมอไปหรอกครับ ช่วงนี้กำลังผัดใบสำหรับตลาดรถยนต์บ้านเรา ออฟชั่นกับเทคโนโยลีเริ่มเยอะขึ้น รุ่นรถยนต์มีให้เลือกมากขึ้น มีเซ็กเม้นใหม่ๆเกิดขึ้นและเข้ามาในบ้านเรามากขึ้น
มันแข่งขันกันสูง คู่แข่งใส่มาตัวเองไม่ใส่ก็แย่ ยกตัวอย่างกรณีCamry ถ้าAccord Teanaไม่จัดเต็ม มีเหรอที่ตัวไมเนอร์ออฟชั่นจะออกมาเป็นแบบนี้
บางทียังมีบลัฟกันเลย อีโค่คาร์มีคีย์เลสเข้ารถไม่ต้องควักกุญแจรถยุโรปบางคันที่ไม่มีนี่อายนะ เบรกเองก็มีรถ4ล้านบางคันยังไม่มีเลย
-
สมัยนี้ นอกจาก Minor ยังมี MY Model Year ปรับซะออปชั่นกระจาย ราคากระจุย
-
ถ้าตอนออกใหม่ๆ กั๊ก options ไว้เยอะๆ ตอน mc ก็แน่นอนย่อมต้องเพิ่ม options มาค่อนข้างมาก ทำให้น่าสนใจ แต่ราคาก็พุ่ง
บางรุ่นตอนเปิดตัวให้มาเต็มที่เสียแล้ว ตอน mc ก็ยังนึกๆว่าจะให้อะไรมาได้อีก ถ้าได้เพิ่มไม่มากมาก หรือ เพิ่มแล้วไม่ต่างจากเดิมอย่างมีนัยยะ เลือกรับส่วนลดสัก 1 แสนบาท หรือมากกว่านั้น น่าจะคุ้มดีกว่านะครับ ยกเว้น mc แบบเปลี่ยนโฉมค่อนข้างเยอะ เช่น L33 แต่ก็ไม่รู้จะมี mc มาหรือเปล่า
-
mc มาราคาขึ้นนะครับ อย่าง camry mc ขึ้นจากตัวเก่าเป็นแสน
สมมติจะซื้อช่วงที่ตัว mc เพิ่งออก แน่นอนรถเพิ่งออกใหม่ส่วนลดของแถมแทบจะไม่มี
แต่ตัวเดิมที่ค้างสต็อคอยู่ส่วนลดเยอะมากนะ ลองคำนวณแล้วได้ของเพิ่มมา แต่ราคาก็ต่างกันเยอะนะครับ
-
ผมว่าอยู่ที่จังหวะของตลาดช่วงนั้นๆมากกว่าครับ
-
ดูเหมือนคุ้ม แต่ก็ไม่คุ้ม
อย่าง camry mc ตอนนี้ ให้ ออฟชั่นมาเยอะ จนอยากได้
แต่คุณต้องใช้เงินถึง 1.4 ล้านมา ซื้อ แล้วก็เตรียมตกรุ่น ภายในไม่เกิน 1.5-2 ปี
ปากอาจจะบอกว่า ไม่เป็นไร แต่พอรุ่นใหม่มา สวยทันสมัยกว่าเยอะ เห็นแล้วจะเสียดาย
ถ้าจะขายทิ้งซื้อใหม่ รถตกรุ่น ขายทุนเยอะ เหลือ 9 แสนได้เปล่า? (หายไป 5 แสน ภายใน 2 ปี)
แต่ถ้าซื้อหลังจาก ออก model change สัก 1 ปี ยังได้ใช้ซัก 4 ปี แม้ออฟชั่นไม่เยอะ
แต่ก็ยังได้ ขับนาน กว่ามันจะตกรุ่น
กรณี camry ก็เหมือนกับ CX-5 ตัว MC น่าใช้ขึ้นเยอะเลย ออฟชั่นเพียบ
แต่ต้องแลกด้วยว่า มันจะตกรุ่นในไม่ช้า
และ ถ้าจะเอาให้คุ้ม จริงๆ ต้องซื้อ Subaru MC ที่ ถูกกว่า ตอนเปิดตัวเยอะ
-
ซื้อก่อนหล่อก่อน ไมเนอร์หล่อได้สองปีพอโมเดลเชนจ์มาก็หมดท่าละ ผ่อนไม่ทันไรเห็นรุ่นใหม่มาก็เซงแถมดึงราคาร่วงอีกนะ
-
การแข่งขันมันสูงครับ ขายแค่รถกับชื่อเสียงอย่างเดียวไม่พอแล้ว
ต้องมีความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปด้วย หลายๆรุ่น ออปชั่นจัดเต็ม แต่ คุณภาพงานบริการ และ สินค้า แย่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน
-
ถ้ามองในเรื่องความคุ้มค่า มันก็ใช่ตามที่ จขกท ว่ามาครับ แต่ถ้าจะคุ้มกว่านั้นก็คือช่วงก่อนตกรุ่น
-
ถ้าในเรื่องของoptionและของเล่นที่เพิ่มขึ้น อันนี้เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากมากว่าหลังปรับ MC แล้วจะได้อะไรเพิ่มมาบ้าง แล้วราคาจะเพิ่มอีกเท่าไหร่
แต่สิ่งที่กังวลคือ.... ปรับแล้วรูปลักษณ์ภายนอก จะเปลี่ยนแปลงขนาดไหน กันชน ล้อแม็ก ไฟหน้า ไฟท้าย กระจังหน้าจะสวยถูกใจมั้ย นี่แหละเป็นสิ่งที่ต้องลุ้นเอา ผมยกตัวอย่างเป็นบางรุ่นละกัน ระหว่างก่อนปรับMCกับหลังMC
Accord G7 ก่อนMC สวยลงตัวมาก พอMCแล้ว ความสวยลดลง
Camry acv40 ก่อนปรับ มีเครื่อง2.4 option ลงตัวในตอนนั้น พอปรับมากลายเป็น Hybrid แถมหน้าตาสวยสู้ก่อนMCไม่ได้อีก
Teana J32 ก่อน MC ผมก็ว่าสวยกว่าตัว MC
แต่ทั้งหมดทั้งมวลอย่าง Toyota Honda เวลาปรับอุปกรณ์ ยังมีข่าว มีโฆษณา ยังพอเห็นหรือรู้ว่ามีการเพิ่มoptionมาให้
แต่ที่ผมทราบมา มี BMW นี่แหละ โดยเฉพาะตัว F30 ปรับละเอียดยิบย่อยมาก ปรับมาแบบเงียบๆ ไปลองดูตั้งแต่เปิดตัวมาสิ ว่าเค้าปรับไปกี่รอบแล้ว ไม่นับตัว MC นะ เดี๋ยวอันนั้นหายอันนี้ตัดออก คือที่รู้ก็เพราะอ่านจากในเวบนี้แหละครับที่สมาชิกคุยกันในบอร์ด โดยที่ภายนอกไม่มีข่าวใดๆออกมาเลย แล้วสมมุติว่าจะซื้อมือ2สักคันสิครับ โอ้โหเช็คกันตาหูเลือกเลย ว่าคันไหนมีไม่มี แล้วเกิดซื้อป้ายแดงมาขับ พอจะขายบางทียังต้องอธิบายให้คนซื้ออีกนะ ว่ารถมีออฟชั่นอะไรบ้าง ที่มากกว่าคันอื่นเพื่อจะทำให้ขายแพงกว่าคันอื่นได้ ทั้งที่รถBmw Thailandเหมือนกัน ถ้าเป็นรถเกรย์ก็ว่าไปอย่าง
โดยรวมผมว่าอาจไม่คุ้มเสมอไป ต้องดูเป็นยี่ห้อๆไปครับ เพราะบางยี่ห้อเพิ่มออฟชั่นเพิ่มราคา บางยี่ห้อลดออฟชั่นลดราคา
-
จำได้ว่า มีรุ่นนึงของ toyota พอ mc แล้ว ออฟชั่นหายบานเลย แต่สุดท้ายก็ต้องจำใจใส่มาให้ใน my ปีถัดไป เพราะยอดขายแพ้คู่แข่ง
-
มันอาจจะคุ้มในบางแง่ ดีในเรื่องได้อะไรใหม่แต่ก็แพงขึ้น
มันจะราคาถูกลงก็ก่อนตกรุ่นไม่นาน โดยเฉพาะรถยุโรป
แต่โดนส่วนตัวไม่ชอบซื้อรถ minor ถ้าไม่จำเป็น
ผมชอบใช้ให้คุ้มแบบใช้ยาวของ gen นั้นๆ เลย
เวลาตกรุ่นมันถือว่าตกไปพร้อมกัน ทั้ง ก่อน minor และ ตัว minor
-
BMW เท่าที่ทราบ รายการอุปกรณ์ ที่เปลี่ยนหรือไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับ ช่วงการผลิตครับ คือพี่แก่สั่งของมา
ตามจำนวนรถ่นรถที่ปลิตมนตอนนั้นๆ อย่าง F30 ก็จะผลิตซัก 200 คัน
ตั้งเป็นรุ่นอะไร สีอะไร ตามนี้เลย ถ้าใครจองรุ่นที่ผลิตรอไว้ก็มีของ แต่ถ้าสีที่ชอบหมดก็ต้องรอผลิตล๊อตต่อไป
-
ของงี้อยู่ที่จังหวะนะ ว่าจะคุ้มหรือไม่คุ้ม ปกติผมไม่ค่อยตื่นเต้นกับMinor changeเท่าไหร่ ที่เห็นแล้วตกใจก็มีแค่ w212 ตัวก่อนกับหลัง คนละเรื่องเลยทั้งตัวธรรมดาและAMG
-
ผมชอบ minor change ตรงที่ option จัดครบ และแก้ defect มาแล้ว
... บางคนก็ชอบรุ่นใหม่ แต่แลกกับราคาสูงขึ้น ไม่ก็หั่น option
-
สมัยนี้ นอกจาก Minor ยังมี MY Model Year ปรับซะออปชั่นกระจาย ราคากระจุย
เห็นด้วยเลยครับ ตลาดแข่งขันกันดุเดือดจนต้องปรับรายปีเลยทีเดียว
-
บางทีแอบปรับกันระหว่างที่ผลิตก็มีครับ ไม่ใช่ Model Year ใหม่ ไม่ใช่รุ่นปรับโฉมแต่มีการแก้ข้อบกพร่องบางอย่างแบบไม่บอกกล่าว
สมัยนี้รุ่นปรับโฉมนี่แทบจะเป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมอยู่แล้ว เปลี่ยนจนรุ่นก่อนปรับโฉมกลายเป็นโมเดลเก่าไปเลยก็มี
-
ตลาดเปลี่ยนไปครับ
จริงๆ แล้ว ก็มีการปรับเปลี่ยนกันทุกปีครับ
ตอน Full modelcnhage หน้าตาใหม่ ยังไงก็ขายได้ ออฟชั่นเพิ่มนิดหน่อยพอ ก็ขายได้
พอ Minor change ต้องเปลี่ยนหน้าตาหน่อย และ ต้องปรับออฟชั่นด้วย ถึงจะกระตุ้นตลาดให้ขายได้
แต่บางตัวก็โดนคู่แข่ง ถล่มออฟชั่นใส่ตั้งแต่เปิดตัว ทำให้ต้อง Minor change กันเร็วขึ้น อัดออฟชั่นเต็ม
เพราะตอนแรก คิดว่ายังไงก็ขายได้ ไม่ต้องไปอัดออฟชั่นอะไรหรอก แถมยังขึ้นราคาได้สูงๆไว้ก่อนอีก
พอขายไม่ได้ ทำไมลดราคาได้ เพิ่มออฟชั่นได้ล่ะ ก็ตอนแรก เอาเปรียบ เอากำไรไว้เยอะมากกไง
-
บางทีก็แล้วแต่ความพอใจ ความชอบส่วนบุคคลด้วยอ่าคับ ว่าพอใจ option ของเดิม หรือใหม่
ทุกความคิดเห็นก็ถูกนะคับ +1 :')