Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Yamaha ที่ กันยายน 05, 2016, 11:30:30
-
รบกวนสอบถามความเห็น 2 ข้อดังนี้
1. Mazda2 Diesel ณ วันนี้ถือว่าสำเร็จ หรือล้มเหลว ในมุมมองของท่านสมาชิกเอง ทั้ง กองเชีย กองเเช่ง กองเฉย ว่า หลังจากที่มาสด้านำเสนอตอนเปิดตัว
ท่านๆ คิดว่าจะเป้นอย่างไร เเละ ตอนนี้ถือว่า สำเร็จ หรือล้มเหลว
2.ในแง่ ข้อมูล จริง ว่าเป้าหมายมาสด้า ตั้งเป้ากับดีเซลตัวนี้ เทียบกับยอดขายจริง มันถือว่าเป้นไปตามเป้าหมายหรือไม่อย่างไร ข้อนี้ ท่านๆสมาชิกที่มี ข้อมุล ที่ เชื่อถือได้ สามารถนำมาแสดงกันหน่อยนะครับ หากข้อมูล มโน ลองไปตอบข้อ 1 นะครับ
-
ถ้าอิงข้อมูลจริงปีที่แล้ว ก็ตามภาพเลยครับ คุณหมูรวบรวมซอยละเอียดไว้แล้ว
จะเห็นได้ว่า ตัวเลขเบนซินกับดีเซลถือว่าแทบจะใกล้เคียงกันเลย
ก็ถือว่าประสบความสำเร็จในด้านการนำเสนอต่อประชาชนแล้วหล่ะครับ แต่จะตรงเป้ามาสด้ามั้ย ไม่ทราบ
ส่วนข้อมูลมโน จากที่ไปสิงในคลับ จะมีเข้ามาเปรียบเทียบระหว่างเบนซินกับดีเซลบ้าง
ส่วนมากแน่นอนว่าแนะนำเบนซินกัน ส่วนคนที่แนะนำดีเซลมักยกในด้านอัตราเร่งเข้ามาแล้วให้ไปลองขับเอง จะพบได้ถึงความต่าง ซึ่งคนที่งบไม่มาก อยากได้รถประหยัด อัตราเร่ง Eco car ก็จบที่เบนซินตัวสูงๆ ถ้าคนที่งบไม่มาก แต่ไม่เน้นออพชั่น เน้นแรง ก็จบที่ดีเซลตัวล่าง ถ้ามีงบพอ ก็จบที่ดีเซลตัวสูงๆ
สรุปคือ จากที่ส่องๆ ในคลับ รวมถึงตามท้องถนน 2 ดีเซลแจ้งเกิดได้ตามที่สมความต้องการของเหล่ากองเชียร์แล้วหล่ะครับ
ส่วนในมุมมองผม ไม่รู้แหละว่าสำเร็จมั้ย แต่ที่รู้คือใช้มาเดือนนึง คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดเลยที่เลือกมาครับ แม้จะยังไม่เคยลองก่อนซื้อมาก่อนก็ตาม
-
ผมให้ประสบความสำเร็จครับ นี่เป็นแค่ก้าวแรก ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพเครื่องยนต์ดีเซลตัวนี้ แถมประหยัดมากมาย
ราคาไม่ถุูกไม่แพง เครื่องตัวนี้ลากขายสิบปีได้สบายๆ
-
ยอดขายล่าสุดชนะ jazz แล้ว แม้ไม่ถึงปีละ 3 หมื่นแบบที่บริษัทตั้งเป้า(อ่านจากข่าวตอนที่เปิดตัวนะ) แต่ยอดรวมช่วงนี้ก็ตกกันหลายยี่ห้อ
(ถ้าเอา city + jazz ก็แพ้อยู่ดี)
ทำยอดได้ดีกว่าสองตัวเดิม ที่สำคัญคนเห็นถึงความเจ๋งของ skyactiv ทั้งที่ประโยชน์ใช้สอย/ออพชั่น/ความกว้างน้อยกว่า b-seg ด้วยกัน (สำหรับผมไม่มองว่ามันเป็นกลุ่ม eco car)
-
ที่เหลือเน้นให้ปรับปรุงศูนย์ให้ดีขึ้น ปัจจุบันถือว่าโอเคละ
อยากให้กวดขัน อย่าให้ศูนย์บริการ เอาเปรียบคนซื้อ ด้วยกันยัดยาวิเศษให้ เหมือนหลายๆยี่ห้อละกัน
ใช้บริการมาหลายปี ยังไม่เคยเจอ อย่าได้เจอเลยนะ เดี๋ยวจะเสียกว่าเดิมอีก
เรื่องตัวรถ ถือว่าดี เรื่องยอด ถือว่าได้
สุดท้ายก็ผ่าน (ยอดอาจจะไม่หวือหวา แต่ขายได้เรื่อยๆก็ดีละ)
-
รุ่นต่อไปอยากให้มาสด้าเน้นเรื่องความกว้างขวางของห้องโดยสารด้วย ไม่ใช่หน้ายาวแต่ห้องโดยสารเล็ก + จัดออพชั่นมาเยอะๆแบบค่ายอื่นบ้าง
-
เรื่องยอดไม่แน่ใจ รู้แต่ว่าในคลับหลายๆคนโดนเด็กปั๊มเติมน้ำมันผิดกันบ่อยครับ 555
ส่วนตัวผมว่าสำเร็จ เปิดโลก sky ให้คนได้รู้จักกัน คือไม่ได้มีดีแค่ชื่อครับ
ที่เหลือก็ 0 บริการ เวลาผมไปเข้าก็จะแจ้งตลอดว่าไม่เอาน้ำยาอะไรเลยน่ะพี่ เอาเท่าที่จำเป็นพอ
เจนหน้าถ้ามันทำได้กว้างเท่าแจ๊ส ผมก็จะซื้อมาใช้อีกครั้งครับ...
-
รุ่นนี้ผมว่าขายดีกว่ารุ่นเดิมนะ ส่วนตัวว่าประสบความสำเร็จครับ ถ้าเทียบจากยอดขายช่วงเดือนปกติ ...ถ้าไม่นับยอดขายรุ่นเดิมจากนโยบายรถคันแรก ที่บางคนไม่ได้อยากซื้อ แต่ค่ายอื่นรอรถนานเลยโยกมาซื้อมาสด้าสอง
รุ่นเก่าผมก็ใช้อยู่แต่ซื้อก่อนรถคันแรกจะมา แต่ถ้าให้ถามรุ่นใหม่คุ้มไหม สวยไหม... คันเก่า 5d MT ขับอร่อยกว่าเยอะ
-
ผมคิดว่าประสบความสำเร็จนะครับ ดูจากยอดขายและการเข้าไปเป็นหนึ่งในตัวเลือกเวลาพิจารณาในการซื้อรถ
รวมถึงความกล้าที่ะบุกเบิกตลาดดีเซลเก๋งเล็กที่ค่ายญี่ปุ่นค่ายอื่นยังไม่กล้าทำ ;)
-
ดีเซล ขายได้ปีละเกือบหมื่นกับ ราคา ที่ ไม่ถูก ถือว่าผ่านครับ
-
ผมไปหาข้อมูลในคลับ NEW MAZDA2 CLUB คนในคลับส่วนใหญ่จะใช้ตัวดีเซลกันนะครับ ถือว่าประสบความสำเร็จ สำหรับMAZDAนะ
ปล.มีคนถามหาติดแก๊สในตัว1.3ด้วยละครับ (เหนียวสุดๆ)(คุ้มทุนตอนกี่กิโลดีครับเนี่ย ^^" เครื่องมันจะไปก่อนคุ้มทุนไหมครับเนี่ย)
-
ผมว่า mazda2 ดีเซลประสบความสำเร็จมาก
ใครจะซื้อ b-segment ต้องมี mazda2 อยู่ในตัวเลือกลำดับต้นๆแน่
แต่ต้องเป็นกลุ่มลูกค้าที่เน้นการขับขี่ที่สนุก ไม่มีผู้โดยสารนั่งหลังบ่อยๆ เพราะถ้ามีคนนั่งบ่อย หรือเน้นอเนกประสงค์เสร็จ jazz เรียบ
แต่ศูนย์บริการ mazda กลับปิดตัวสวนทางกับยอดขายจริงๆ ศูนย์ถ.กาญจนาที่เคยเข้าประจำก็ปิดตัวเฉย ไม่รู้เพราะอะไร
อีกแบรนที่อยากพูดถึง (จะโดนด่ามั้ยมาพูดในกระทู้มาสด้า)
แบรน MG ที่ cp เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะขยายศูนย์บริการเผลอแป๊ปเดียวผ่านไป 1 ปีมีศูนย์ผุดขึ้นมา 50 ศูนย์แล้วสุดยอดจริงๆ
-
MZ2 D ตัวท้อป น่าเล่นครับ 8) 8) 8)
-
โคตรจะสำเร็จแล้วครับ เกลื่อนเมืองเหลือเกิน
-
ผมว่า completed นะครับเพราะก้ยอดโอเคเลย ก้เป็นตัวทำเงินของค่ายนะครับ
-
ตอบข้อ 1 อย่างเดียว ว่าน่าพอใจยอมรับว่าเห็นบ่อยในพื้นที่ ขับไปไม่เหงา ขนาดโดนตำหนิมาจากกองแช่งตลอดว่า แคบ แพง (ก็จริงนะ) ไม่แรง (ข้อนื้แล้วแต่บุคคล) สำหรับผมและแฟนใช้มาปึกว่า โดนสอยตูดไป1ครั้ง ชอบครับ แฟนชอบที่ค่าน้ำมันหายไปเกินครึ่ง ผมชอบที่เป็นรถเล็กที่ขับสนุก(ไม่ได้บอกว่าแรงนะครับ) ตั้งใจว่าถ้าผมเปลี่ยนรถจะเอา cx3 อีกคัน(คันนี้ของแฟน) แต่สู้ราคาตัวดีเซลไม่ไหวเลยกะว่าคงเป็น 2 ดีเซล ท็อป สีแดง ซีดานแทน
ผมว่า cx3 1.5d น่าจะล้มเหลวนะ เอารถเครื่องประหยัด ขายเฉพาะตัวท็อป ใครจะซื้อด้วยเหตุผลนี้ลองเปิดตัวริ่มต้นไม่เกินเก้าแสนน่าจะทำยอดได้ดีเลย (จะมีโอกาสมั้ยเนี่ย)
-
ผมว่า mazda2 ดีเซลประสบความสำเร็จมาก
ใครจะซื้อ b-segment ต้องมี mazda2 อยู่ในตัวเลือกลำดับต้นๆแน่
แต่ต้องเป็นกลุ่มลูกค้าที่เน้นการขับขี่ที่สนุก ไม่มีผู้โดยสารนั่งหลังบ่อยๆ เพราะถ้ามีคนนั่งบ่อย หรือเน้นอเนกประสงค์เสร็จ jazz เรียบ
แต่ศูนย์บริการ mazda กลับปิดตัวสวนทางกับยอดขายจริงๆ ศูนย์ถ.กาญจนาที่เคยเข้าประจำก็ปิดตัวเฉย ไม่รู้เพราะอะไร
อีกแบรนที่อยากพูดถึง (จะโดนด่ามั้ยมาพูดในกระทู้มาสด้า)
แบรน MG ที่ cp เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะขยายศูนย์บริการเผลอแป๊ปเดียวผ่านไป 1 ปีมีศูนย์ผุดขึ้นมา 50 ศูนย์แล้วสุดยอดจริงๆ
จริง ศูนย์มาสด้ากลายเป็นศูนย์ MG ทั้งที่ยอดมาสด้าก็ดีอยู่ งงเลย แต่อาจจะเป็นศุนย์ที่คนไม่นิยมอยู่แล้วมั้ง
-
ถ้ามาเร็วกว่านี้นะครัช ผมก็คงจะไป 2 ดีเซล แน่นอน
-
ข้อ2 นี่ถามคุณหมูละกันนะครับ
ขอมโนข้อ1 ในฐานะกองเชียร์มาสด้า2 ว่า
ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ เทียบกับความคาดหวังตอนเปิดตัว
คือคิดว่ามันจะบูมเหมือนjazzยุคนึง แต่เหมือนจะแปเก
อย่างไรก่อตาม คงต้องดูว่า มาสด้าจะเข็นดีเซลตัวนี้อีกนานแค่ไหน
เพราะมันน่าจะมีcriteria ที่จะให้มาสด้าเคาะกันว่า จะไปต่อหรือเน้นเบนซิลดีกว่า
และส่วนตัวผมไม่มีปัญหาเรื่องความคับแคบ เพราะขับคนเดียว
ผมว่าดีไซนฺไฟท้ายกับไฟหน้าไหม่ น่าจะลงตัวเลย
-
เกิดได้จากโครงสร้างภาษี ถ้านโยบายไม่มีไปต่อ เชื้อก็คงมอดดับไปเอง..............
ปล. ผมมองว่าไม่ได้สำเร็จด้วยตัวเอง แต่ได้จากโอกาสที่มีคนหยิบยื่นมา
ซึ่งมันไม่จีรังยั่งยืน และคงค่อยๆ ลดลงๆ ไปตามกาลเวลา หากไม่มีการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ
ง่ายๆ ดู cx3 ในเคสเดียวกันได้เลยครับ พอไม่มีภาษีมาช่วยเป็นยังงัย
-
แค่เสมอตัวครับ
เครื่อง-เกียร์ตัวนี้ผมว่ามันยังไม่แรงพอครับ
-
ผมให้ประสบความสำเร็จครับ เพราะคนสนใจมากกว่าตัวเก่าแถมยังขายดีกว่าเดิม ขนาดตัวเก่าจับมาโฆษณาโปรโมทกันสุดยอด
-
ถ้าในมุมมอง คนมาสด้า จะบอกว่า สำเร็จครับ
เพราะยอดขายโตขึ้นมาก จากปีก่อน ยอดขายแต่ละรุ่น ทะลุเป้า
ยอดจองในงานใหญ่ๆ เช่นงานมอเตอร์โชว์ ก็ ได้อันดับ 1ใน3 ตลอด
สำเร็จ ไม่จำเป็นต้องขายได้มากกว่าวีออส หรือ ซิตี้ เพราะ ถ้ามองกันจริงๆ ยอดขายมาสด้ามาจากโชว์รูม ใน กรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งนั้น ... ไม่มียอด Advance เหมือนเจ้าตลาด ...
ไม่สงสัยกันหรอ วีออสป้ายแดงวิ่งในถนน หายากมาก แต่ยอดขายที่ 1 ซะงั้น .... ขายได้ขนาดนี้ รถมันไปวิ่งที่ไหนหมด ....
-
ผมมองว่าประสบความสำเร็จคับ
-
จำได้ช่วงออกใหม่ๆ กูรูชาวโซเซี่ยวปรามาสไว้คงขายนับคันได้ ใครจะซื้ออีโคคาร์คันละเกือบแปดแสน
มาสด้าพิสูจน์แล้ว เอามาขับเดิมๆก็ประหยัด แต่งนิดหน่อยก็แรงเกินตัว
-
สำหรับผมถือว่าล้มเหลวสำหรับ eco car ครับ
คือมันควรจะขายดีกว่านี้มาก ของแบบนี้ความสำเร็จวัดกันที่เปรียบเทียบครับ
ถ้าวันนึง toyotaขาย vios ได้พันคัน ผมว่าเค้าคงกุมขมับแน่ แต่ทุกวันนี้toyotaยังเฉยๆกับยอดขาย
-
ผมว่าสำเร็จครับ
เพราะเป็นแบรนด์รอง และราคาค่อนข้างสูง
ยังมีคนยอมซื้อตัวดีเซล เท่าที่ผมเห็นบนถนนปริมาณ ครึ่ง/ครึ่ง กับเบนซินเลย
แถมที่เจอบ่อยคือรุ่นไฟ DRL อีกต่างหาก
-
สำหรับผมถือว่าล้มเหลวสำหรับ eco car ครับ
คือมันควรจะขายดีกว่านี้มาก ของแบบนี้ความสำเร็จวัดกันที่เปรียบเทียบครับ
ถ้าวันนึง toyotaขาย vios ได้พันคัน ผมว่าเค้าคงกุมขมับแน่ แต่ทุกวันนี้toyotaยังเฉยๆกับยอดขาย
ผมขอถามครับว่าสำหรับ Eco car ต้องขายได้กี่พันคันครับ ถึงจะเรียกว่าสำเร็จ
เพราะดูยอดทุกวันนี้ มีแค่ยาริสรุ่นเดียวที่ถึง 2000 กว่าคัน
รุ่นอื่นอย่างดีก็พันต้นๆครับ
ส่วนหัวข้อกระทู้ ผมขอตอบว่าประสบความสำเร็จครับ รถขนาดเล็กเท่ามิราจ ขายราคาเกือบเท่า C-Segment ตัวล่าง ยอดแตะพันคันได้ ถ้าไม่สำเร็จ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ
เอาจริงๆ ถ้ามาสด้า2 รุ่นนี้ไม่มีดีเซล ผมว่ายอดไม่ดีขนาดนี้หรอกครับ เพราะคนรอบตัวผมที่ออกรุ่นเบนซินกัน ก็เกิดจากตอนแรกสนใจรุ่นดีเซล แต่อยากเซฟเงิน เลยไปลองขับเบนซิน และพบว่ามันเพียงพอแล้ว ดังนั้นรุ่นดีเซลผมว่ามันเป็นเหมือนตัวเรียกแขกครับ ส่วนจะเอาไม่เอาก็ว่ากันอีกที
-
ไม่รู้ว่าอุปทานหรือเปล่า แต่ไปห้างไหนในเมืองกรุงเทพ
เจอ Mazda2 แทบทุกชั้นที่วนขึ้นไป แถมเจอ 1.5 XDL ไม่ก็ 1.3 High connect นี่เยอะสุดๆ
-
สำหรับผมถือว่าล้มเหลวสำหรับ eco car ครับ
คือมันควรจะขายดีกว่านี้มาก ของแบบนี้ความสำเร็จวัดกันที่เปรียบเทียบครับ
ถ้าวันนึง toyotaขาย vios ได้พันคัน ผมว่าเค้าคงกุมขมับแน่ แต่ทุกวันนี้toyotaยังเฉยๆกับยอดขาย
ผมขอถามครับว่าสำหรับ Eco car ต้องขายได้กี่พันคันครับ ถึงจะเรียกว่าสำเร็จ
เพราะดูยอดทุกวันนี้ มีแค่ยาริสรุ่นเดียวที่ถึง 2000 กว่าคัน
รุ่นอื่นอย่างดีก็พันต้นๆครับ
ส่วนหัวข้อกระทู้ ผมขอตอบว่าประสบความสำเร็จครับ รถขนาดเล็กเท่ามิราจ ขายราคาเกือบเท่า C-Segment ตัวล่าง ยอดแตะพันคันได้ ถ้าไม่สำเร็จ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ
เอาจริงๆ ถ้ามาสด้า2 รุ่นนี้ไม่มีดีเซล ผมว่ายอดไม่ดีขนาดนี้หรอกครับ เพราะคนรอบตัวผมที่ออกรุ่นเบนซินกัน ก็เกิดจากตอนแรกสนใจรุ่นดีเซล แต่อยากเซฟเงิน เลยไปลองขับเบนซิน และพบว่ามันเพียงพอแล้ว ดังนั้นรุ่นดีเซลผมว่ามันเป็นเหมือนตัวเรียกแขกครับ ส่วนจะเอาไม่เอาก็ว่ากันอีกที
ผมบอกแล้วว่าเชิงเปรียบเทียบ vios มันมีข้อดีอะไรบ้างนอกจากตรายี่ห้อโตโยต้า ส่วนยาริสล่ะ มีดีตรงไหน
ส่วนมาสด้า eco car ข้อดีเพียบ เข้าโครงการeco car ภาษีถูกกว่า แต่ขายดีได้แค่นี้
ผมมองว่า eco car hatchback + sedan รุ่นนี้ควรขายดีกว่านี้ หากตั้งราคาสมเหตุสมผลกว่านี้ และจะเห็นว่ามีการปรับอุปกรณ์มันขายได้เรื่อยๆขึ้น ต้องย้อนถามว่าขายได้3000mazda ก็ดีใจมากมาย ส่วนขายได้2000ก็ดีใจมากมาย แต่ยอดขายหายไปพันคันจากที่ควรเป็น แค่เค้าไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
สำหรับผมล้มเหลวสำหรับสิ่งที่ควรเป็นครับ
ทำของที่ควรขายได้3000คันแต่มาขายได้2000คัน แบบนี้น่าดีใจตรงไหน แค่รถมันดี และมาสด้าไม่เคยขายได้เท่านี้แค่นั้นเอง
แต่ถ้ามาสด้าขายรถที่ไม่ควรจะขายได้เลย มีข้อเสียเพียบ แต่ยังขายได้ หรือเรื่อยๆได้ แบบนี้ผมนับว่าเก่ง และประสบความสำเร็จครับ
-
1 ผมถือว่าประสบความสำเร็จในระดับนึงครับ แต่จะประสบความสำเร็จมากกว่านี้ ถ้าคิดให้ฉลาดกว่านี้ พื้นที่ห้องโดยสาร และพื้นที่เก็บของจะน้อยไปไหน ? ดูยี่ห้ออื่นเค้าซะบ้าง ไล่ตั้งแต่ mazda2 / mazda3 / cx3 / cx5 แพ้ชาวบ้านเรื่องพื้นที่ในห้องโดยสารนี่ละ เครื่องยนต์น่ะพัฒนามาถูกทางแล้วสำหรับเครื่อง diesel ความแรงเหมาะสมกับขนาด อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็ทำได้ดี แต่มาตกม้าตายเรื่องเดียวนี่ละ ไม่งั้นจะขายดีกว่านี้อีกเยอะ
-
สำหรับผมถือว่าล้มเหลวสำหรับ eco car ครับ
คือมันควรจะขายดีกว่านี้มาก ของแบบนี้ความสำเร็จวัดกันที่เปรียบเทียบครับ
ถ้าวันนึง toyotaขาย vios ได้พันคัน ผมว่าเค้าคงกุมขมับแน่ แต่ทุกวันนี้toyotaยังเฉยๆกับยอดขาย
ผมขอถามครับว่าสำหรับ Eco car ต้องขายได้กี่พันคันครับ ถึงจะเรียกว่าสำเร็จ
เพราะดูยอดทุกวันนี้ มีแค่ยาริสรุ่นเดียวที่ถึง 2000 กว่าคัน
รุ่นอื่นอย่างดีก็พันต้นๆครับ
ส่วนหัวข้อกระทู้ ผมขอตอบว่าประสบความสำเร็จครับ รถขนาดเล็กเท่ามิราจ ขายราคาเกือบเท่า C-Segment ตัวล่าง ยอดแตะพันคันได้ ถ้าไม่สำเร็จ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ
เอาจริงๆ ถ้ามาสด้า2 รุ่นนี้ไม่มีดีเซล ผมว่ายอดไม่ดีขนาดนี้หรอกครับ เพราะคนรอบตัวผมที่ออกรุ่นเบนซินกัน ก็เกิดจากตอนแรกสนใจรุ่นดีเซล แต่อยากเซฟเงิน เลยไปลองขับเบนซิน และพบว่ามันเพียงพอแล้ว ดังนั้นรุ่นดีเซลผมว่ามันเป็นเหมือนตัวเรียกแขกครับ ส่วนจะเอาไม่เอาก็ว่ากันอีกที
ผมบอกแล้วว่าเชิงเปรียบเทียบ vios มันมีข้อดีอะไรบ้างนอกจากตรายี่ห้อโตโยต้า ส่วนยาริสล่ะ มีดีตรงไหน
ส่วนมาสด้า eco car ข้อดีเพียบ เข้าโครงการeco car ภาษีถูกกว่า แต่ขายดีได้แค่นี้
ผมมองว่า eco car hatchback + sedan รุ่นนี้ควรขายดีกว่านี้ หากตั้งราคาสมเหตุสมผลกว่านี้ และจะเห็นว่ามีการปรับอุปกรณ์มันขายได้เรื่อยๆขึ้น ต้องย้อนถามว่าขายได้3000mazda ก็ดีใจมากมาย ส่วนขายได้2000ก็ดีใจมากมาย แต่ยอดขายหายไปพันคันจากที่ควรเป็น แค่เค้าไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
สำหรับผมล้มเหลวสำหรับสิ่งที่ควรเป็นครับ
ทำของที่ควรขายได้3000คันแต่มาขายได้2000คัน แบบนี้น่าดีใจตรงไหน แค่รถมันดี และมาสด้าไม่เคยขายได้เท่านี้แค่นั้นเอง
แต่ถ้ามาสด้าขายรถที่ไม่ควรจะขายได้เลย มีข้อเสียเพียบ แต่ยังขายได้ หรือเรื่อยๆได้ แบบนี้ผมนับว่าเก่ง และประสบความสำเร็จครับ
อย่างที่ผมบอกครับว่า สิ่งที่ทำให้มันไม่ถึง 3พันคันแบบที่คุณพูดมา คือขนาดตัวรถครับ แคบสุดๆ ซึ่งมันขัดกับรสนิยมคนส่วนใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอบให้คุ้มค่าครับ
ทำให้ขายได้แต่คนที่ชอบจริงๆ ตรงนี้จะต่างจากวีออสตรงที่ วีออสเป็นตัวเลือกมาตรฐานของรถ B-segment ครับ คนทั่วไปเข้าถึงง่าย พื้นที่ใช้สอยกว้าง ใช้เป็นคันเดียวขนเพื่อน พ่อแม่พี่น้องก็ได้สบายครับ
-
สำหรับผมถือว่าล้มเหลวสำหรับ eco car ครับ
คือมันควรจะขายดีกว่านี้มาก ของแบบนี้ความสำเร็จวัดกันที่เปรียบเทียบครับ
ถ้าวันนึง toyotaขาย vios ได้พันคัน ผมว่าเค้าคงกุมขมับแน่ แต่ทุกวันนี้toyotaยังเฉยๆกับยอดขาย
ผมขอถามครับว่าสำหรับ Eco car ต้องขายได้กี่พันคันครับ ถึงจะเรียกว่าสำเร็จ
เพราะดูยอดทุกวันนี้ มีแค่ยาริสรุ่นเดียวที่ถึง 2000 กว่าคัน
รุ่นอื่นอย่างดีก็พันต้นๆครับ
ส่วนหัวข้อกระทู้ ผมขอตอบว่าประสบความสำเร็จครับ รถขนาดเล็กเท่ามิราจ ขายราคาเกือบเท่า C-Segment ตัวล่าง ยอดแตะพันคันได้ ถ้าไม่สำเร็จ ผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ
เอาจริงๆ ถ้ามาสด้า2 รุ่นนี้ไม่มีดีเซล ผมว่ายอดไม่ดีขนาดนี้หรอกครับ เพราะคนรอบตัวผมที่ออกรุ่นเบนซินกัน ก็เกิดจากตอนแรกสนใจรุ่นดีเซล แต่อยากเซฟเงิน เลยไปลองขับเบนซิน และพบว่ามันเพียงพอแล้ว ดังนั้นรุ่นดีเซลผมว่ามันเป็นเหมือนตัวเรียกแขกครับ ส่วนจะเอาไม่เอาก็ว่ากันอีกที
ผมบอกแล้วว่าเชิงเปรียบเทียบ vios มันมีข้อดีอะไรบ้างนอกจากตรายี่ห้อโตโยต้า ส่วนยาริสล่ะ มีดีตรงไหน
ส่วนมาสด้า eco car ข้อดีเพียบ เข้าโครงการeco car ภาษีถูกกว่า แต่ขายดีได้แค่นี้
ผมมองว่า eco car hatchback + sedan รุ่นนี้ควรขายดีกว่านี้ หากตั้งราคาสมเหตุสมผลกว่านี้ และจะเห็นว่ามีการปรับอุปกรณ์มันขายได้เรื่อยๆขึ้น ต้องย้อนถามว่าขายได้3000mazda ก็ดีใจมากมาย ส่วนขายได้2000ก็ดีใจมากมาย แต่ยอดขายหายไปพันคันจากที่ควรเป็น แค่เค้าไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง
สำหรับผมล้มเหลวสำหรับสิ่งที่ควรเป็นครับ
ทำของที่ควรขายได้3000คันแต่มาขายได้2000คัน แบบนี้น่าดีใจตรงไหน แค่รถมันดี และมาสด้าไม่เคยขายได้เท่านี้แค่นั้นเอง
แต่ถ้ามาสด้าขายรถที่ไม่ควรจะขายได้เลย มีข้อเสียเพียบ แต่ยังขายได้ หรือเรื่อยๆได้ แบบนี้ผมนับว่าเก่ง และประสบความสำเร็จครับ
อย่างที่ผมบอกครับว่า สิ่งที่ทำให้มันไม่ถึง 3พันคันแบบที่คุณพูดมา คือขนาดตัวรถครับ แคบสุดๆ ซึ่งมันขัดกับรสนิยมคนส่วนใหญ่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอบให้คุ้มค่าครับ
ทำให้ขายได้แต่คนที่ชอบจริงๆ ตรงนี้จะต่างจากวีออสตรงที่ วีออสเป็นตัวเลือกมาตรฐานของรถ B-segment ครับ คนทั่วไปเข้าถึงง่าย พื้นที่ใช้สอยกว้าง ใช้เป็นคันเดียวขนเพื่อน พ่อแม่พี่น้องก็ได้สบายครับ
เดี๋ยวๆๆ มาสด้า2 คลุม eco car และ b segment นะครับ และยังรวมทั้ง hatchback และซีดาน
ถ้าอยู่ใน eco car นี่คือ b segment ในเครื่อง eco แบบยาริสเลย แต่มีซีดานให้เลือก และคนไทยดันชอบซีดาน แต่yaris มีแต่ hatchback ส่วนvios เป็น b segment
นี่แหละที่ผมว่าจริงๆ มาสด้าพลาดมาก คือควรขายได้เยอะกว่านี้อยู่ดีครับ
เหมือนที่หลายๆคนพูดแหละ ขายดีเซลดีกว่า แสดงว่า ราคานี้ eco car ดับ แต่คนที่ซื้อคือยอมจ่ายเพราะมันมีดีไงครับ และคู่แข่งอื่นให้ไม่ได้เลย
พูดง่ายๆ ผมว่าลดราคาลงมาสักนิด หรือเพิ่มอ๊อฟชั้นบางอย่างอีกสักหน่อย ไปสวยกว่านี้มากครับ
ผมมองว่าลูกค้ามองภาพรวมมากกว่า
1. ยี่ห้อชื่อชั้นความเชื่อถือ 2. สิ่งที่ให้(ความแคบที่ว่าก็อยู่ในนี้แหละ แต่เป็นข้อด้อย) 3. ราคา
ในเมื่อ1แก้ไม่ได้ ก็แก้2กับ3 มันจะช่วยได้
อันนี้เป็นมุมมองผมครับ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยก็ได้ แต่ผมเชื่อลึกๆว่าหลายๆคนไม่ซื้อมันเพราะราคามันสูงไปสักหน่อย เมื่อมองในภาพรวม3ข้อที่ผมบอกมา
แต่ถ้ามาสด้าเค้าพอใจกับยอดตรงนี้ ก็ไม่เป็นไร ก็ดีใจกันไป ไม่ว่ากัน ส่วนตัวผมก็ไม่ได้รังเกียจหรือมองว่ามันไม่คุ้มค่าอะไร หรือคิดว่าคนที่ซื้อมา ซื้อมาได้ไง แต่ผมคิดว่ารถมันมีดี และมันมีคุณค่ากับคนบางคนจนยอมจ่ายแพงกว่าหน่อยเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เค้าอยากได้มากกว่า
นั่นแหละที่ทำให้บางคนยังลังเล มาสด้าสามารถดึงคนที่ลังเลให้ไปซื้อมากกว่านี้ได้รึเปล่า หรือนี่คือเต็มที่แล้ว
แต่ทำไม เพิ่มไฟ Drl ขายดีขึ้นล่ะ มันน่าคิด
-
ก้าวแรกพลาด แต่พลาด คนก็ยอมรับในสิ่งก้าวที่พลาด
1.ก้าวแรกพลาดเพราะ อะไร ?
ไม่ยอมยัดออฟชั่นเต้มๆๆมา ราคาเลยจุดคำว่า อีโก้คาร์ 799000 บาท
2.พลาดแล้วก็ยอมรับในสิ่งก้าวพลาด
ดันทะลึงยัดออฟชั้นมาให้เต็ม หลังขายครั้งแรก 1 ปี
ผมคิดว่า มาสด้าต้องขอบคุณลูกแรกล็อตแรกด้วยช้ำ !!! ดีที่รถมีปัญหา istop เอย โชีตรั่ว เอย ยังเข้าไปดูแลให้เคลมของใหม่ให้ไม่งอแง
ถ้ากดราคาลงกว่านี้ ตัดที่ยัดมาให้ใหม่ ราคาน่าครบน่าจะขายได้มากกว่านี้นะ พื้นที่ภายในดันแคบกว่าชาวบ้านเขา(โดนตัดในตัวเลือกไปเยอะ)
ถือว่า ผ่าน ในระดับนึง
-
ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เห็นตามท้องถนนเห็นเยอะ ญาติๆกันเปลี่ยนจากViosไปMazda2 Sedan เครื่องดีเซลครับ
-
ไม่รู้ว่า Diesel ประสบความสำเร็จแค่ไหน
แต่ลำพัง Mazda 2 และ Mazda เอง ประสบความสำเร็จในการรับรู้ของแบรนด์ มากๆ
ขนาดเพื่อนในกลุ่ม (ที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รู้จักรถยนต์หรือสนใจรถยนต์) ถ้าเอ่ยถึงรถ จะพูดถึง Mazda ก่อนเสมอ
นี่ขนาดคุณป๋อมแป๋มเทยเที่ยวไทย ที่ไม่ได้สนใจรถยนต์อะไรเลย ยังเอ่ยถึง Mazda 2 กลางช่วงพ่อค้าแซ่บได้ (ไม่รู้ว่าไทอินไหม แต่เนียนเกิ๊น)
-
ผมอยากรู้ว่า ภายในห้าปี มันจะขายได้ตามเงื่อนไข ECO CAR ไหม
จำไม่ได้ ว่า ทั้งหมดต้อกี่คัน
ไม่เอาขาย ต่างปรเทศน เพราะ ราคา นี้ ขายบ้านเรา เพื่อ สิทธิทางการลงทุนหลายๆอย่าง
-
ถ้า mazda แก้ปัญหาเรื่องความแคบของห้องโดยสารได้นี่ผมว่า ซัดกับ เจ้าตลาดอย่าง honda toyota ได้สบายๆ
-
ถ้ามองว่าตอบโจทย์คนรักในการประหยัดน้ำมัน
ก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะครับ
ถ้าคนซื้อเน้นช่วงล่างเดิมๆ ของรถด้วย คุ้มเลย
-
ถ้าในมุมมอง คนมาสด้า จะบอกว่า สำเร็จครับ
เพราะยอดขายโตขึ้นมาก จากปีก่อน ยอดขายแต่ละรุ่น ทะลุเป้า
ยอดจองในงานใหญ่ๆ เช่นงานมอเตอร์โชว์ ก็ ได้อันดับ 1ใน3 ตลอด
สำเร็จ ไม่จำเป็นต้องขายได้มากกว่าวีออส หรือ ซิตี้ เพราะ ถ้ามองกันจริงๆ ยอดขายมาสด้ามาจากโชว์รูม ใน กรุงเทพฯ และปริมณฑลทั้งนั้น ... ไม่มียอด Advance เหมือนเจ้าตลาด ...
ไม่สงสัยกันหรอ วีออสป้ายแดงวิ่งในถนน หายากมาก แต่ยอดขายที่ 1 ซะงั้น .... ขายได้ขนาดนี้ รถมันไปวิ่งที่ไหนหมด ....
วีออสป้ายแดงไปจอดอยู่ตามดาดฟ้า ของศูนย์บริการครับ โดนบังคับให้ไปสต็อคไว้่ เพื่อดันยอด........Opps!!!
ผมถือว่าประสบความสำเร็จครับ สำหรัยรถที่เป็น Ecocar แต่ราคาเกือบเท่า C segment แล้วขายได้ขนาดนี้
จริงๆ มันควรขายได้น้อยกว่านี้เยอะครับ โดยเฉพาะดีเซล ผมก็ยังมองว่าแพงมากกก
เพราะถึงแม้ตัว 1.3 มันจะขับดีกว่ายาริสมาก (ไม่ได้หมายถึงแรงกว่านะครับ) แต่การบริหารจัดการพื้นที่ภายในก็ย่ำแย่ครับ
ยิ่งตัว HB นี้มองเผินๆ ผมนึกว่าตัวเก่า เพราะขนาดมันไม่ต่างกันเลย แต่ตัว Seadan ผมมองว่าสวยสุดใน Eco carล่ะ
-
ถ้ามองว่าตอบโจทย์คนรักในการประหยัดน้ำมัน
ก็ถือว่าประสบความสำเร็จนะครับ
ถ้าคนซื้อเน้นช่วงล่างเดิมๆ ของรถด้วย คุ้มเลย
ผมว่าส่วนใหญ่ที่ซื้อป้ายแดง ก็ไม่อยากยุ่งกับช่วงล่างเท่าไหร่หรอกครับยิ่งรถขนาดเล็ก ต้องจ่ายเงินเพิ่มเป็นหมื่นคิดเยอะ แล้วเรื่องกลัวเป็นข้ออ้างให้ประกันรถจะหมดไปอีก ใครที่ชอบบอกว่า ช่วงล่างแค่เปลี่ยน โช๊คกับสปริงดีๆสักชุดก็จบ ผมไม่ค่อยเชื่อครับ ง่ายขนาดนั้นคงไม่ยุ่งยากตั้งแต่ออกแบบการวางตำแหน่ง ฐานล้อ อื่นๆอีกเพื่อให้การทรงตัวที่ดีตั้งแต่ออกจากโรงงานแล้ว
-
คือคุณYamaha เน้นถามเรื่องdiesel mazda2นะ
หากถาม2 เฉยๆผมว่าผ่าน
แต่ดีเซลผมกล้าฟันธง. ว่าgenหน้าไม่มี2ดีเซล
-
ผมว่าสำเร็จทุกรุ่นเลย สำหรับ skyactive ของ Mazda
คนยอมรับมาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ต่อไปจะออกรุ่นไหนมา ก็สบายแล้ว
-
วันนี้สำเร็จ แต่ความเห็นผม trend อนาคต มันไปทางขับเคลื่อนไฟฟ้า เรื่อง carbon tax ก็เกี่ยว ทำให้ดีเซลเสียเปรียบเครื่องยนต์ไฟฟ้า