Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Mike ที่ กันยายน 30, 2016, 13:02:04
-
กระทู้เก่าที่ 1 ตอนเจออาการครั้งแรก
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=52651.msg909513#msg909513
กระทู้เก่าที่ 2 ตอนช่างประเมินราคาซ่อม 45,000 แต่พอซ่อมจริงเกือบ 60,000
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=52881.msg913891#msg913891
รถคันนี้คือ Ford Ranger Hi Rider Double Cab XLT 2.2 TDCi AT ปี 12 ล็อตแรกๆ หลังจากรอ 8 เดือน ตั้งแต่ พ.ย. 2011 ได้รถ ก.ค. 2012 เนื่องจาก Supplier โดนน้ำท่วม การใช้งานวิ่งกรุงเทพและปริมณฑล เป็นส่วนใหญ่บนถนนลาดยาง ไม่เคยบรรทุกหนัก กระบะท้ายติด ฝา Top up เข้าศูนย์บำรุงรักษาตามตารางปกติ เจออาการ แผงอินเตอร์ และท่ออินเตอร์ แตก 2-3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น part ตัว MC แล้ว http://community.headlightmag.com/index.php?topic=50190.msg859895#msg859895
เข้าเรื่องเกียร์พัง ผมตกลงปลงใจ ซ่อมกับศูนย์ฟอร์ด นารา สุวินทวงศ์ เพราะขับไปไกลๆไม่ไหว มันจะพังกว่านี้ และศูนย์ที่ใช้ประจำเช่น พลปิยะ อยุธยา หรือลำลูกกา คิวยาว ข้าม 2 เดือน ;D
บังเอิญเจอช่าง คนลำปางบ้านเดียวกัน เลยอู้เหนือ กันง่ายหน่อย และหวังว่าช่างจะจริงใจ (ซึ่งตั้งแต่ต้นจนจบก็จริงใจมากมาย :) )
ช่างออกตัวก่อนเลยว่า ไม่เคยซ่อมอาการนี้ ไม่มีประสบการณ์ เป็นคันแรกของศูนย์ ยังไงจะลองปรึกษาอาจารย์ ผมเดาว่าคือ Ford power train แถวบางนา มั้ง
เริ่มแรกช่างก็เอา เครื่องมือมาวัด ก็ไม่เจออาหารผิดปกติอะไร แต่ลองขับแล้วถึงจะเจอ ก็สรุปส่งอาจราย์ไป
อาการคือ เกียร์วืด เกียร์ไม่เปลี่ยนเกียร์สูงให้ เหมือนคลัชต์ ไม่จับ บางทีก็กระตุก ส่วน S ใช้งานไม่ได้ รถเข้า safe mode ขับได้แค่ 70-80 km/hr มีไฟเตือนขึ้น
สรุปผ่าเกียร์ออกมาดู จากภาพช่างอธิบายว่า ฟันของเฟืองเกียร์ 4-5-6 มันหมด นี่คือสาเหตุของการวืด
จากรูปผมก็ดูไม่ออกหรอกว่า ฟันเฟือง หมดยังไง เพราะไม่เคยเห็นของ ตัวปกติ
แต่แอบสงสัยคือ ที่ระยะ 26x,xxx km นี่เป็นระยะปกติ ที่เรายอมรับได้ไหมว่า นี่คืออาการสึกหรอ จากการใช้งานปกติ
ถ้าไม่ใช่ แล้วเทียบกับ Vigo ของ สมช ท่านอื่นที่มาตอบในกระทู้เก่า บางคันวิ่งไป 5xx,xxx km ก็ยังปกติ
ถ้าอย่างงั้น แสดงว่า เทคโนโลยีโลหะวิทยา ของ Ford+Supplier (DANA Spicer® AdvanTEK®) นี่มันยังห่างชั้น กับของ Toyota Vigo มากมาย หรือป่าว
(http://upic.me/i/p5/12644.jpg) (http://upic.me/show/59471320)
พอซ่อมเสร็จ ประกอบเกียร์กับ ช่างเอารถไปทดลองขับ อยู่หลายวัน หลาย km อาการเกียร์วืด ไม่มีแล้ว โหมด S ใช้ได้ปกติ เกียร์เปลี่ยนขึ้นสูง 4-5-6
แต่ดันเจออาการใหม่ :-X และเป็นเหตุให้เสียเงินเพิ่มจาก 45,000 เป็นเกือบ 60,000
คือมีอาการกระตุก กระชาก รุนแรง ตอนเปลี่ยนเกียร์ 4 ไป 5 ช่างก็วิเคราะห์ งม อยู่หลายวัน ไม่เจอต้นตอ ต้องผ่าเกียร์อีกรอบ
และตามสูตรเดิม Escalate หาอาจารย์ คราวนี้ มุ่งไปที่ชุด Vale body ก็ถอดมาล้าง ประกอบกับ ไม่หาย อาการกระตุกจาก 4 ไป 5 ยังมี
ช่างเลยโทรมาขออนุมัติ เบิก Vale body ใหม่พร้อมส่วนควบ จุกจิก สิริรวม 18,000 :(
ผมก็อนุมัติ แต่มีข้อแม้ว่า ชัวร์นะ ต้องหาย ไม่ใช่เปลี่ยนหว่าน ซึ่งช่างก็กล้าให้คำมั่น พร้อมบอกว่า ถ้าไม่หายก็ไม่เก็บเงินอะไหล่ชิ้นนี้
สุดท้ายมันก็หาย เกียร์ทำงานปกติทุกอย่าง รับรถกลับมา ใช้งานมาอีก 2 สัปดาห์ ก็ยังปกติ
สรุป
1.ใช้เวลาทั้งหมด 28 วัน สำหรับงานซ่อม ทั้ง 2 อาการ และรออะไหล่ ซึ่งผมว่าไม่นานสำหรับ Ford แต่เร็วมากต่างหาก (แต่ Honda City ป.1 ซ่อมห้าง รออะไหล่กันชน แผ่นปิดท้องเครื่อง แผ่นปิดซุ้มล้อ มา 4 เดือน ยังไม่ได้เลย ซึ่งปกติไม่นานขนาดนี้)
2.ช่างไม่มั่นใจ ไม่เคยทำ แต่ก็พยายามมาก และก็พยายามช่วยเรา มากกว่าคำว่าช่างกับลูกค้า โทรรายงานความคืนหน้าตลอด สงสัยเป็นเพราะคนบ้านเดียวกัน ประทับใจครับ
3.น้ำมันเกียร์ ตามคู่มือเปลี่ยนที่ 195,000 km อาจจะเป็นสาเหตุให้ ฟันเฟืองสึกหรอสูง ซึ่งน้ำมันเฟืองท้ายก็เปลี่ยน 195,000 km เช่นกัน ผมเลยสั่งช่างเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายอีกรอบ 1,782 บาท
4.รับประกันงานซ่อมและอะไหล่ 1 ปี หรือ 20,000 km
5.รวมทุกอย่าง ~60,000 บาท หักส่วนลดอะไหล่ 10% เหลือ 55,005.64 บาท
6.Vale body นี่หลายคันพังแต่ตั้ง ODO น้อยๆในระยะประกัน 3 ปีแรก ก็โชคดี เปลี่ยนฟรีไป ของผมดันอึดซะงั้น เสียตังค์เองเบย ::)
7.ท่านเจ้าของ BT50-Pro AT & Everest คงต้องระวังกันหน่อย ด้วยนะครับ
ข้างล่างคือรูปอะไหล่ Vale body มั้งผมไม่แน่ใจ และรายละเอียด ค่าอะไหล่ ค่าบริการ
(http://upic.me/i/hh/12645.jpg) (http://upic.me/show/59471319)
(http://upic.me/i/sm/12646.jpg) (http://upic.me/show/59471318)
เกิดมาแกร่ง แต่ไม่แข็งแรงตอนโต เอ๊ะหรือจะแก่แล้ว
(http://upic.me/i/v8/ford_-_built_tough.jpg) (http://upic.me/show/59471573)
-
ยินดีด้วยครับ ขอให้หายขาดใช้จนลืม
-
ราคา แพงกว่า overhaul gear แบบทั้งระบบ อีก
ถ้าเข้า อู่ ซ่อมเกียร์ ดีๆ น่าจถูกกว่านี้นิดนึงครับ
ผมก็พึ่ง เคยเจอ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ 190000 โลนี่ละ
ผมว่า ถ้าเปลี่ยน ทุก 40000 นี่ คงใช้กันยาวๆ เลย
อีกสัก สอง สาม ปี คงมี ขบวน Ranger AT เดินสายครับ ถ้ายังเปลี่ยน นมก ตาม มาตราฐาน Ford
-
ดีใจด้วย ขอให้ซ่อมแล้วจบ ใช้ไปนานๆเลยครับผม
-
หายก็ดีแล้วครับ (หวังว่าคงจะไม่เป็นอีก)
อย่าไปเทียบกับพี่โตเลย อันนั้นถึกเกินชาวบ้าน
เพิ่งไปอ่านในคลับ innova มา มีคนมาโชว์ วิ่งไป 9 แสนกว่าในระยะ 11 ปี โหดมาก
ไม่เคยเปิดฝาสูบ มีแค่รักษาตามอาการ
(https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-0/s480x480/14445972_1268631263170646_6099196156416598866_n.jpg?oh=be21eb9e6408e8069739f5aa9810b79f&oe=5867FCF9)
-
ราคา แพงกว่า overhaul gear แบบทั้งระบบ อีก
ถ้าเข้า อู่ ซ่อมเกียร์ ดีๆ น่าจถูกกว่านี้นิดนึงครับ
ผมก็พึ่ง เคยเจอ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ 190000 โลนี่ละ
ผมว่า ถ้าเปลี่ยน ทุก 40000 นี่ คงใช้กันยาวๆ เลย
อีกสัก สอง สาม ปี คงมี ขบวน Ranger AT เดินสายครับ ถ้ายังเปลี่ยน นมก ตาม มาตราฐาน Ford
ตอนแรกก็กะจะ Overhual แระครับ ไหนๆก็ผ่าแล้ว อยากจะเปลี่ยนเฟือง 1-2-3 ด้วยเลย แต่อู่ที่สอบถามมา เบ็ดเสร็จ 60,000-70,000 ก็เลยคิดว่า งั้นจบศูนย์ที่ 45,000 ดีกว่า แต่สุดท้ายงอกเงย 555 :-X
ก่อนหน้านี่ก็ถาม อาจารย์ Tik Tik ในคลับ ว่าอาจจะเปลี่ยนเอา MT มาลง ค่าใช่จ่ายก็ประมาณ 60,000-70,000 แต่ประเด็นคือ เกียร์ MT เชียงกง หายาก
ผมคิดแม้กระทั่ง ยก AT เชียงกง ทั้งลูก ซึ่งอยู่ที่ 30,000-40,000 แต่นั้นละอ่ะ หายาก เช่นกัน
-
ถ้าซ่อมแล้วจบก็คิดว่าเราใช้รถแรง สึกหรอมาก ซ่อมเร็วกว่าปรกติหน่อยก็แล้วกันครับ
เพราะอีกมุมนึงผมมองว่า ความแฮปปี้กับการขับขี่ ใช้งาน ตลอดเวลาตอนมันไม่มีปัญหา น่าจะพอทดแทนความเปราะได้บ้าง (ในกรณีซ่อมจบ)
เพราะผมก็เชื่อว่ามีผู้ใช้รถยี่ห้ออื่นอีกไม่น้อย ที่อาจจะไม่เจอปัญหาแบบของท่าน จขกท. แต่ก็ไม่แฮปปี้กับรถที่ตัวเองใช้มาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ใช้ต่อไปได้ ประมาณนี้ก็แล้วกันครับ
ถ้าฟอร์ดมาอ่านเห็น แล้วให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้บ้าง คงจะดีไม่น้อย
ในความคิดของฟอร์ด (ผมเดาเอานะ) อาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนในประเทศอื่นที่รายได้สูงๆ มองรถเป็นโลหะวิ่งได้ชนิดหนึ่งก็ตามที แต่ในประเทศไทย กว่าผู้ใช้แต่ละคนจะทำงาน หาเงินมาซื้อรถใช้ซักคันไม่ใช่ง่าย แถมเมื่อได้รู้ว่า รถที่ใช้ราคาไม่ใช่ถูกๆ เมื่อเทียบกับรายได้ ความคาดหวังย่อมมีสูง ยิ่งเกิดปัญหาต้องใช้เงินซ่อมมากๆ แถมกับเรื่องที่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น จะแทบไม่เจอเข้าให้ด้วย มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
-
.....ดีใจที่กลับมาปกติ ...
ปกติเกียร์ ซาบ จะประมาณนี้ วืด แถว ๆ สามแสนบวกลบ ยกเว้นคนที่ใช้แบบนุ่มนวล เห็นเกินสี่แสนได้....
ค่าซ่อม 0 ก็ประมาณนั้น ถ้าเป็นอู่ก็คงลดลงอีกหน่อย
***สมองเกียร์ คันนี้ ทำด้วยอะไร รถสมัยก่อนทำด้วยอลูมิเนียม เสียยากมาก หลัง ๆ เปลี่ยนเป็น พวกพลาสติกสังเคราะห์ แข็งจริง แต่พอเจอความร้อนนาน ๆเข้ากรอบ บิ่นเล็ก ๆน้อย ๆ ซึ่งตามองไม่ออก แต่มันออกอาการ....
-
ดีใจด้วยที่ซ่อมจบซักที แต่ราคารวมแล้วก็เล่นเอาจุกเหมือนกัน
ถ้าตอบส่วนตัวผมนะ ผมเองคงเลิกมองแล้วล่ะฟอร์ด คิดว่าไม่เหมาะจะใช้รถยี่ห้อนี้เพราะค่าดูแลกับการซ่อมบำรุงที่มากกว่า TOYOTA รถตลาดที่ใช้อยู่ ซึ่งผมคงไม่เหมาะกับมันแน่นอน ต้องคนชอบอ๊อพชั่นกับการขับขี่่มันแลกข้อดีข้อเสียกันไปถ้ารับได้ก็โอเค
-
ยินดีด้วยครับที่เเก้ปัญหาจบ ฟอร์ดกับช่างที่0เเจ่มใช้ได้เลย
ผมก็พึ่งเปลี่ยนมาใช้at ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จากกระทู้ของท่านนี้เเหละ
ยินดีด้วยครับ
ปล.สรุปกระบะเกียร์atควรจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับ น้ำมันเฟืองท้ายที่กี่กิโลหรือระยะเวลาเท่าไรดีครับ><
-
ยินดีด้วยครับที่เเก้ปัญหาจบ ฟอร์ดกับช่างที่0เเจ่มใช้ได้เลย
ผมก็พึ่งเปลี่ยนมาใช้at ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จากกระทู้ของท่านนี้เเหละ
ยินดีด้วยครับ
ปล.สรุปกระบะเกียร์atควรจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับ น้ำมันเฟืองท้ายที่กี่กิโลหรือระยะเวลาเท่าไรดีครับ><
ผมล่อทุก 2 หมื่น ถี่ไปมั้ย
-
ยินดีด้วยครับที่เเก้ปัญหาจบ ฟอร์ดกับช่างที่0เเจ่มใช้ได้เลย
ผมก็พึ่งเปลี่ยนมาใช้at ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จากกระทู้ของท่านนี้เเหละ
ยินดีด้วยครับ
ปล.สรุปกระบะเกียร์atควรจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับ น้ำมันเฟืองท้ายที่กี่กิโลหรือระยะเวลาเท่าไรดีครับ><
4-6หมื่นกำลังดีนะผมว่า
-
ยินดีด้วยครับที่เเก้ปัญหาจบ ฟอร์ดกับช่างที่0เเจ่มใช้ได้เลย
ผมก็พึ่งเปลี่ยนมาใช้at ก็ได้ความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์จากกระทู้ของท่านนี้เเหละ
ยินดีด้วยครับ
ปล.สรุปกระบะเกียร์atควรจะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับ น้ำมันเฟืองท้ายที่กี่กิโลหรือระยะเวลาเท่าไรดีครับ><
สำหรับน้ำมันเกียร์ AT จริงๆขึ้นอยู่กับเบอร์ และยี่ห้อน้ำมัน เลยครับ จากการสังเกตุ รถคันอื่นๆ หลากหลายรุ่น หลายยี่ห้อ ผมว่าเฉลี่ยๆ Play safe ก็ 40,000 Km ครับ (คหสต)
ขอเสียเดียวของเปลี่ยนบ่อยคือ เปลืองตังค์ ::) ยกเว้นบางรุ่นที่ไม่มีรูให้ถ่าย ต้องเป็นงานใหญ่ถ้าจะเปลี่ยนเช่น CX-5
ส่วนน้ำมันเฟืองท้าย ผมว่าสัก 80,000 km (คหสต อีกแล้ว ;D) เพราะมันไม่ใช่ส่วนที่พังง่ายนะ สำหรับ โตโยต้า อีซูสุ ยุคเก่าที่ผมมีอยู่ 2 คัน แต่สำหรับ Ford ผมไม่รู้จริงๆ :-X
-
ค่า ถ่ายน้ำมันเกียร์ ต่อ ครั้ง มันไม่ได้แพงเลยครับ
40000 โลนี่ คงสัก ปีนึงเต็มที่
แลกกับ อายุ เกียร์เพิ่มขึ้นอีก 2X มั้ง
-
บางยี่ห้อ spec บอกว่า น้ำมันเกียร์ ไม่ต้องเปลี่ยนตลอดอายุการใช้งาน(life time)
พอใช้งานจริงๆ ศูนย์ยังเปลี่ยนให้เลยครับ(เพราะกลัวพัง แล้วเกิดประเด็น)
อย่างที่ท่านบนๆ บอกครับ เปลี่ยนทุกๆ 4-5 หมื่นโล กำลังดี
-
ยินดีด้วยที่ได้รับแก้ปัญหา เอาใจช่วยให้มันจบนะครับ
ที่ จขกท พูดว่า "...ถ้าอย่างงั้น แสดงว่า เทคโนโลยีโลหะวิทยา ของ Ford+Supplier (DANA Spicer® AdvanTEK®) นี่มันยังห่างชั้น กับของ Toyota Vigo มากมาย หรือป่าว..."
ผมว่าไม่เชิง เค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้มันเป็นแบบนี้มากกว่า คือพอใจที่จะทำแค่นี้ ไปเน้นด้านอื่นที่คนมองเห็นง่ายๆดีกว่า
ในความคิดของฟอร์ด (ผมเดาเอานะ) อาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนในประเทศอื่นที่รายได้สูงๆ มองรถเป็นโลหะวิ่งได้ชนิดหนึ่งก็ตามที แต่ในประเทศไทย กว่าผู้ใช้แต่ละคนจะทำงาน หาเงินมาซื้อรถใช้ซักคันไม่ใช่ง่าย แถมเมื่อได้รู้ว่า รถที่ใช้ราคาไม่ใช่ถูกๆ เมื่อเทียบกับรายได้ ความคาดหวังย่อมมีสูง ยิ่งเกิดปัญหาต้องใช้เงินซ่อมมากๆ แถมกับเรื่องที่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น จะแทบไม่เจอเข้าให้ด้วย มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
เห็นด้วยมากๆนะ สังเกตจากในนี้ก็ได้ครับ คนหาเช้ากินค่ำหรือใช้รถคันเดียวก็ไม่ค่อยมีครกล้าซื้อฟอร์ด ส่วนคนใช้ WT จะค่อนข้างมีฐานะกันทั้งนั้น
-
ยินดีด้วยที่ได้รับแก้ปัญหา เอาใจช่วยให้มันจบนะครับ
ที่ จขกท พูดว่า "...ถ้าอย่างงั้น แสดงว่า เทคโนโลยีโลหะวิทยา ของ Ford+Supplier (DANA Spicer® AdvanTEK®) นี่มันยังห่างชั้น กับของ Toyota Vigo มากมาย หรือป่าว..."
ผมว่าไม่เชิง เค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้มันเป็นแบบนี้มากกว่า คือพอใจที่จะทำแค่นี้ ไปเน้นด้านอื่นที่คนมองเห็นง่ายๆดีกว่า
ในความคิดของฟอร์ด (ผมเดาเอานะ) อาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนในประเทศอื่นที่รายได้สูงๆ มองรถเป็นโลหะวิ่งได้ชนิดหนึ่งก็ตามที แต่ในประเทศไทย กว่าผู้ใช้แต่ละคนจะทำงาน หาเงินมาซื้อรถใช้ซักคันไม่ใช่ง่าย แถมเมื่อได้รู้ว่า รถที่ใช้ราคาไม่ใช่ถูกๆ เมื่อเทียบกับรายได้ ความคาดหวังย่อมมีสูง ยิ่งเกิดปัญหาต้องใช้เงินซ่อมมากๆ แถมกับเรื่องที่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น จะแทบไม่เจอเข้าให้ด้วย มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
เห็นด้วยมากๆนะ สังเกตจากในนี้ก็ได้ครับ คนหาเช้ากินค่ำหรือใช้รถคันเดียวก็ไม่ค่อยมีครกล้าซื้อฟอร์ด ส่วนคนใช้ WT จะค่อนข้างมีฐานะกันทั้งนั้น
พูดถึงเรื่องชิ้นส่วน ภายในชุดเกียร์ บริษัทผมผลิตพวกอะไหล่ภายในเกียร์ หลายชิ้นเหมือนกัน ส่งให้ทั้ง dana และ toyota ครับ ชิ้นส่วน NG ก็มีหลุดไปหลายชิ้นเช่นกัน :-X
-
BT-50 คันของผม ศูนย์มาสด้าจับเปลี่ยน น้ำมันเกียร์ตอน 8หมื่น กม. แสดงว่ารู้งานกว่า ศูนย์ฟอร์ดที่เป็นผู้ผลิตด้วยซ้ำ แต่น้ำมันเฟืองท้าย ไม่แน่ใจต้องสอบถามตอนเข้าครั่งต่อไปแล้วล่ะ
-
ยินดีด้วยที่ได้รับแก้ปัญหา เอาใจช่วยให้มันจบนะครับ
ที่ จขกท พูดว่า "...ถ้าอย่างงั้น แสดงว่า เทคโนโลยีโลหะวิทยา ของ Ford+Supplier (DANA Spicer® AdvanTEK®) นี่มันยังห่างชั้น กับของ Toyota Vigo มากมาย หรือป่าว..."
ผมว่าไม่เชิง เค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้มันเป็นแบบนี้มากกว่า คือพอใจที่จะทำแค่นี้ ไปเน้นด้านอื่นที่คนมองเห็นง่ายๆดีกว่า
ในความคิดของฟอร์ด (ผมเดาเอานะ) อาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนในประเทศอื่นที่รายได้สูงๆ มองรถเป็นโลหะวิ่งได้ชนิดหนึ่งก็ตามที แต่ในประเทศไทย กว่าผู้ใช้แต่ละคนจะทำงาน หาเงินมาซื้อรถใช้ซักคันไม่ใช่ง่าย แถมเมื่อได้รู้ว่า รถที่ใช้ราคาไม่ใช่ถูกๆ เมื่อเทียบกับรายได้ ความคาดหวังย่อมมีสูง ยิ่งเกิดปัญหาต้องใช้เงินซ่อมมากๆ แถมกับเรื่องที่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น จะแทบไม่เจอเข้าให้ด้วย มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
เห็นด้วยมากๆนะ สังเกตจากในนี้ก็ได้ครับ คนหาเช้ากินค่ำหรือใช้รถคันเดียวก็ไม่ค่อยมีครกล้าซื้อฟอร์ด ส่วนคนใช้ WT จะค่อนข้างมีฐานะกันทั้งนั้น
พูดถึงเรื่องชิ้นส่วน ภายในชุดเกียร์ บริษัทผมผลิตพวกอะไหล่ภายในเกียร์ หลายชิ้นเหมือนกัน ส่งให้ทั้ง dana และ toyota ครับ ชิ้นส่วน NG ก็มีหลุดไปหลายชิ้นเช่นกัน :-X
ปกติถ้า ชิ้นส่วน No Good หลุดออกไป แล้วจะมีการแจ้งผู้ว่าจ้างผลิตไหมครับ :-X
แล้วส่วนใหญ่ โรงงานรับจ้างผลิต มีนโยบาย Zero defect ไหมครับ
-
ยินดีด้วยที่ได้รับแก้ปัญหา เอาใจช่วยให้มันจบนะครับ
ที่ จขกท พูดว่า "...ถ้าอย่างงั้น แสดงว่า เทคโนโลยีโลหะวิทยา ของ Ford+Supplier (DANA Spicer® AdvanTEK®) นี่มันยังห่างชั้น กับของ Toyota Vigo มากมาย หรือป่าว..."
ผมว่าไม่เชิง เค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้มันเป็นแบบนี้มากกว่า คือพอใจที่จะทำแค่นี้ ไปเน้นด้านอื่นที่คนมองเห็นง่ายๆดีกว่า
ในความคิดของฟอร์ด (ผมเดาเอานะ) อาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนในประเทศอื่นที่รายได้สูงๆ มองรถเป็นโลหะวิ่งได้ชนิดหนึ่งก็ตามที แต่ในประเทศไทย กว่าผู้ใช้แต่ละคนจะทำงาน หาเงินมาซื้อรถใช้ซักคันไม่ใช่ง่าย แถมเมื่อได้รู้ว่า รถที่ใช้ราคาไม่ใช่ถูกๆ เมื่อเทียบกับรายได้ ความคาดหวังย่อมมีสูง ยิ่งเกิดปัญหาต้องใช้เงินซ่อมมากๆ แถมกับเรื่องที่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น จะแทบไม่เจอเข้าให้ด้วย มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
เห็นด้วยมากๆนะ สังเกตจากในนี้ก็ได้ครับ คนหาเช้ากินค่ำหรือใช้รถคันเดียวก็ไม่ค่อยมีครกล้าซื้อฟอร์ด ส่วนคนใช้ WT จะค่อนข้างมีฐานะกันทั้งนั้น
พูดถึงเรื่องชิ้นส่วน ภายในชุดเกียร์ บริษัทผมผลิตพวกอะไหล่ภายในเกียร์ หลายชิ้นเหมือนกัน ส่งให้ทั้ง dana และ toyota ครับ ชิ้นส่วน NG ก็มีหลุดไปหลายชิ้นเช่นกัน :-X
ปกติถ้า ชิ้นส่วน No Good หลุดออกไป แล้วจะมีการแจ้งผู้ว่าจ้างผลิตไหมครับ :-X
แล้วส่วนใหญ่ โรงงานรับจ้างผลิต มีนโยบาย Zero defect ไหมครับ
ชิ้นส่วน ที่ทางบริษัทส่งให้ลูกค้า ก่อนลูกค้าจะนำไปประกอบ จะมีการเทสก่อนครับ ถ้าเจอ NG บริษัทผมก็จะโดนปรับครับ บางเดือนเจอหลักสิบล้านก็มีครับ
นโยบายซัพพลายเออ อย่างบริษัทผมก็มี No claim ครับ แต่ทั้งปีทำได้แค่เดือนเดียว 5555
-
ยินดีด้วยที่ได้รับแก้ปัญหา เอาใจช่วยให้มันจบนะครับ
ที่ จขกท พูดว่า "...ถ้าอย่างงั้น แสดงว่า เทคโนโลยีโลหะวิทยา ของ Ford+Supplier (DANA Spicer® AdvanTEK®) นี่มันยังห่างชั้น กับของ Toyota Vigo มากมาย หรือป่าว..."
ผมว่าไม่เชิง เค้าน่าจะตั้งใจออกแบบให้มันเป็นแบบนี้มากกว่า คือพอใจที่จะทำแค่นี้ ไปเน้นด้านอื่นที่คนมองเห็นง่ายๆดีกว่า
ในความคิดของฟอร์ด (ผมเดาเอานะ) อาจจะมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับคนในประเทศอื่นที่รายได้สูงๆ มองรถเป็นโลหะวิ่งได้ชนิดหนึ่งก็ตามที แต่ในประเทศไทย กว่าผู้ใช้แต่ละคนจะทำงาน หาเงินมาซื้อรถใช้ซักคันไม่ใช่ง่าย แถมเมื่อได้รู้ว่า รถที่ใช้ราคาไม่ใช่ถูกๆ เมื่อเทียบกับรายได้ ความคาดหวังย่อมมีสูง ยิ่งเกิดปัญหาต้องใช้เงินซ่อมมากๆ แถมกับเรื่องที่ถ้าใช้ยี่ห้ออื่น จะแทบไม่เจอเข้าให้ด้วย มันก็เป็นอย่างที่เห็นนี่แหละครับ
เห็นด้วยมากๆนะ สังเกตจากในนี้ก็ได้ครับ คนหาเช้ากินค่ำหรือใช้รถคันเดียวก็ไม่ค่อยมีครกล้าซื้อฟอร์ด ส่วนคนใช้ WT จะค่อนข้างมีฐานะกันทั้งนั้น
พูดถึงเรื่องชิ้นส่วน ภายในชุดเกียร์ บริษัทผมผลิตพวกอะไหล่ภายในเกียร์ หลายชิ้นเหมือนกัน ส่งให้ทั้ง dana และ toyota ครับ ชิ้นส่วน NG ก็มีหลุดไปหลายชิ้นเช่นกัน :-X
ปกติถ้า ชิ้นส่วน No Good หลุดออกไป แล้วจะมีการแจ้งผู้ว่าจ้างผลิตไหมครับ :-X
แล้วส่วนใหญ่ โรงงานรับจ้างผลิต มีนโยบาย Zero defect ไหมครับ
นโยบายพวกนี้น่าจะมีใน supplier tier 1 ครับ ถ้าเป็น sub ลงไปไม่น่าจะมีและถ้าไม่ถึงระดับคอขาดบาดตาย Supplier ไม่แจ้ง Car Maker หรอกครับ
-
ในคู่มือโด้ผม
ตรวจเช็คระดับน้ำมันเกียร์ เเละเติมให้ได้ระดับถูกต้อง ทุกๆระยะ(ทุกๆ15000)
เเละเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ธรรมดาเเละอัตโนมัติที่ 75000 ,150000
เเต่ผมจะเปลี่ยนทุกๆประมาณ 45000 ตามที่เพื่อนสมาชิกเเนะนำ><
-
เจออาการนี้เข้าไปหลายคันในคลับ หรือไปพบตามอู่หรือศูนย์อื่นๆ ที่ไม่ได้ลงเนตอีก ทำให้ผมให้แป๊กไปเหมือนกันครับ รถผมเท่าที่จำได้นี่เคลมไปหลายชิ้น แล้วก็พาไปกินข้าวลิงที่ชุมพรมาที่นึง เสียเวลาอยู่ศูนย์อีกหลายวัน ตอนนี้ ranger ปี 12 ผมใกล้หมดโปรรถคันแรกหล่ะ ใช้มาได้เกือบ 150,000 โล ผมคงโบกมือ บาย บาย กับค่ายนี้แล้วครับ เกิดมาแกร่ง แต่พอโตแล้วอ่อนแอซะงั้น...
-
เสียงจริง จากผู้ใช้ หุหุ
-
ผมใช้ T6 สลับกับ camry อยู่ ปีนึงตก 15000 โลเอง สองปีนี้ยังไม่มีอะไรพัง 8)
แต่คิดว่า ซัก 10 ปี ถ้าเครื่อง เกียร์ เป็นอะไร คงหาทางเอาเครื่องโตโยต้าลงแทน
แต่ถ้าเครื่อง+เกียร์ ของford 3.2(ของใหม่)ราคาไม่แรงมากนัก ซัก100000 ก็อาจจะกัดฟัน :-X :-X :-X
-
ดีใจด้วยครับยังไงแล้วศูนย์Fordไม่น่ากลัวอย่าที่คิดครับยังไงแล้วก็ขอให้มีความสุขนะครับ
-
:)
-
ดีที่เฟียสต้าเปลี่ยนครั้งแรก 4หมื่น เลยพังช้า เดี๋ยว Everest จะเปลี่ยนที่ 4หมื่นด้วย
-
เจ็บแต่จบ ดีกว่า ไม่จบนะครับ
ยินดีด้วยครับ
-
ค่าเกียร์กิโลเมตรละ 25 สตางค์เลยรึ
ฝอดไม่น่าคบ
-
ของพี่ชายผม ถ้าตอนนั้นถ้าชุดวาว์ลบอดี้เสียด้วย ก็คงโดนราคาซ่อมเดียวกับของ จขกท นั่นล่ะครับ
ฝากถึงท่านที่ใช้ Ranger , Bt50 , Everest ยังไงน้ำมันเกียร์ก็ต้องมีการเปลี่ยนถ่ายบ้างนะครับ เกียร์จะได้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ได้น้ำมันเกียร์สะอาดๆไปหล่อลื่น บ้านเราเมืองร้อน พวกของเหลวมันเสื่อมสภาพได้ไวกว่าปกติ
-
วิ่งเยอะเนอะ ผมว่า2แสนโลนี่เยอะมากละนะ
-
ยินดีด้วยนะครับที่แก้จบ เจ็บแต่จบยังไงก็สบายใจ เคสนี้ต้องชื่นชมอาจารย์ช่างด้วยนะและตัวช่างเอง
ส่วนเทียบกับเกียร์วีโก้ ของน้าผมจะสี่แสนละยังปกติดี ของพี่ผมเกือบสามแสนละยังปกติดี
-
ค่าเกียร์กิโลเมตรละ 25 สตางค์เลยรึ
ฝอดไม่น่าคบ
เจอค่าโซ่จักรยาน กิโลเมตรละ 80 สตางค์ ผมนี่ละใช้อยู่ ;D ;D ;D
-
ดีด้วยนะครับ แก้จนจบ เจอตัวสาเหตุ สบายใจกันไป
เจอแบบนี้ อย่าไปเชื่อตามคู่มือมากนักครับ
-
วิ่งเยอะเนอะ ผมว่า2แสนโลนี่เยอะมากละนะ
งั้น คนใช้ T6 ก็ถือเป็นเรื่องปกติสินะครับ
-
วิ่งเยอะเนอะ ผมว่า2แสนโลนี่เยอะมากละนะ
ผมเดาว่าท่านทำงาน AAT or FCM or Sathorn Square ใช่ไหมครับ
ท่านจะบอกเป็นนัยๆว่า ~2 แสน km นี่คืออายุไข ของเกียร์ลูกนี้ ที่วิศวกรฟอร์ด ที่ออสเตรเลีย ตั้งใจออกแบบมาใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็คงแย่จัง เพราะธรรมชาติลูกค้าชาวไทย ดันรับลักษณะแบบนี้ไม่ได้
ถ้าตีความคำว่าเกียร์พัง และหลังจากการซ่อม ของผมมาแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า ตัวเรือนเกียร์ และส่วนควบ อื่นๆ มันไม่ได้พัง แค่ฟันของเฟืองเกียร์ 4-5-6 มันหมด มันเลยรูด ของ 1-2-3 ยังเหลือ เพราะไม่ได้ใช้งานบ่อย (ยกเว้น Vale body ที่เป็น defect แต่ฟอร์ดไม่ยอมรับ)
-
วิ่งเยอะเนอะ ผมว่า2แสนโลนี่เยอะมากละนะ
ผมเดาว่าท่านทำงาน AAT or FCM or Sathorn Square ใช่ไหมครับ
ท่านจะบอกเป็นนัยๆว่า ~2 แสน km นี่คืออายุไข ของเกียร์ลูกนี้ ที่วิศวกรฟอร์ด ที่ออสเตรเลีย ตั้งใจออกแบบมาใช่ไหมครับ
ถ้าเป็นแบบนั้น ก็คงแย่จัง เพราะธรรมชาติลูกค้าชาวไทย ดันรับลักษณะแบบนี้ไม่ได้
ถ้าตีความคำว่าเกียร์พัง และหลังจากการซ่อม ของผมมาแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า ตัวเรือนเกียร์ และส่วนควบ อื่นๆ มันไม่ได้พัง แค่ฟันของเฟืองเกียร์ 4-5-6 มันหมด มันเลยรูด ของ 1-2-3 ยังเหลือ เพราะไม่ได้ใช้งานบ่อย (ยกเว้น Vale body ที่เป็น defect แต่ฟอร์ดไม่ยอมรับ)
ถ้า สมมุติ ฝ่ายออกแบบ Ford คิดแบบนี้ คิดได้แค่นี้
ก็ อยู่ ที่เดิมนั่นละครับ อย่าคาดหวังอะไร กับ ยอดขายประเทศไทย
เชิญ ส่งไปขาย ต่างประเทศ ที่เค้าใช้รถไม่กี่ปี ก็โยนทิ้งเป็นขยะไป
-
ราคา แพงกว่า overhaul gear แบบทั้งระบบ อีก
ถ้าเข้า อู่ ซ่อมเกียร์ ดีๆ น่าจถูกกว่านี้นิดนึงครับ
ผมก็พึ่ง เคยเจอ เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ 190000 โลนี่ละ
ผมว่า ถ้าเปลี่ยน ทุก 40000 นี่ คงใช้กันยาวๆ เลย
อีกสัก สอง สาม ปี คงมี ขบวน Ranger AT เดินสายครับ ถ้ายังเปลี่ยน นมก ตาม มาตราฐาน Ford
+1