Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: JONNY ที่ ตุลาคม 05, 2016, 11:41:56
-
ผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมรถยนต์ จับตาการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ของค่ายรถยนต์ โฟล์คสวาเกน ในงานแสดงรถยนต์ ปารีส มอเตอร์ โชว์ 2016 อย่างใกล้ชิด เพื่อทำนายอนาคตของรถยนต์ดีเซล ซึ่งก็เป็นไปตามความคาดหมายคือค่ายโฟล์กฯ หันไปทำรถพลังงานไฟฟ้า (อีวี) อย่างเต็มตัว โดยการเปิดตัวรถ I.D.วิ่งได้ 249-373 ไมล์ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง แข่งกับรถไฟฟ้าของเทสลา จีเอ็มและเบนซ์
อย่างที่ทราบอยู่แล้วว่า บริษัทโฟล์คสวาเกน มีความเชี่ยวชาญเรื่องเครื่องยนต์ดีเซลอย่างมาก และก่อนที่จะมีคดี ดีเซลเกท หรือการจับโกหกค่าวัดระดับไอเสีย จากรถยนต์ดีเซลของโฟล์กสวาเก้นและแบรนด์รถในเครือ รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลของค่ายนี้และค่ายรถอื่น ๆ ยังสามารถขายได้ในตลาดโลก
เหตุที่เกิดการโกงค่าระดับมลพิษในไอเสียในรถของรถโฟล์กสวาเก้น ก็เพราะว่าผู้บริหารที่ยังไม่มีการระบุตัวว่าเป็นใคร ต้องการขายรถเครื่องดีเซลใน ตลาดสหรัฐอเมริกา แต่ติดความเข้มงวดในเรื่องเกณฑ์ควบคุมการปล่อยไอเสียของเครื่องยนต์ ซึ่งแม้จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซลไปจนสุดทางแล้ว แต่ไอเสียก็ยังไม่ผ่านเกณฑ์จึงต้อง ใช้วิธีการโกง
ซึ่งหมายความว่ารถเครี่องยนต์ดีเซลจะไม่สามารถขายได้ในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป ซึ่งมีเกณฑ์การคุมไอเสียรถยนต์ เข้มงวดและเพิ่มความเข้มงวดขึ้นทุกปี และด้วยเหตุนี้เองที่ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จะต้องหยุดพัฒนาและผลิตเครื่องยนต์ดีเซลอย่างแน่นอน
ผู้บริหารของบริษัทโตโยต้า ได้ประกาศที่งานแสดงรถยนต์ที่ปารีส ว่าบริษัทโตโยต้า ได้ตัดสินใจในช่วง 6-12 เดือนที่ผ่านมาว่าจะไม่เสนอรถยนต์เครื่องดีเซลในงานแสดงรถและรถรุ่นใหม่ในอนาคตก็จะไม่มีรถเครื่องยนต์ดีเซล ขณะเดียวกันผู้บริหารบริษัทเรโนลต์ให้สัมภาษณ์นักข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ในอนาคตคงไม่มีรถยนต์ดีเซลวิ่งในยุโรปเพราะจากการคำนวณของบริษัทพบว่า หากจะทำรถดีเซลให้สามารถควบคุมการปล่อยไอเสียได้ตามเกณฑ์ของยุโรป รถยนต์จะมีราคาแพงมาก ถึงมากที่สุด
ดูทิศทางของบริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกแล้วเห็นได้ชัดว่า เครื่องยนต์ดีเซลและน้ำมันดีเซลคงจะหมดอนาคตไปด้วยกัน
ประเด็นที่ควรใคร่ครวญต่อไป คือผลกระทบต่อประเทศไทยจะเป็นอย่างไร อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยจะต้องปรับตัวอย่างไร กระทรวงศึกษาจะปรับการเรียนการสอนของโรงเรียนอาชีวะต่าง ๆ หันไปหาเทคโนโลยีรถไฟฟ้าเลยหรือไม่ โรงกลั่นน้ำมันของไทยจะต้องปรับตัวอย่างไรเพี่อรับมือกับความต้องการใช้น้ำมันดีเซลที่ลดลงทั่วโลก
ที่สำคัญมีบางคนคิดว่า ค่ายรถยนต์ต่าง ๆ จะมีการโละรถยนต์ดีเซลจากสต็อก เพี่อขายให้กับประเทศโลกที่ 3 ประเภทที่รัฐบาล มีความสนใจห่วงสุขภาพประชาชนน้อยกว่ารายได้จากอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือฟังเสียงประชาชนน้อยกว่าเสียงของนักอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือไม่
ประเทศไทยจะเป็น 1 ในประเทศโลกที่ 3 ที่พูดถึงนี้หรือเปล่า น่าจับตาดู
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
http://www.thansettakij.com/2016/10/04/102736
-
ยังไงบ้านเราคงอีกนานแน่นอน เพราะตลาดบ้านเราเป็นรถกระบะซะส่วนใหญ่ ยังไงก็ต้องดีเซล
-
รถกระบะ รถบรรทุก รถไฟ ผมว่าเหมาะกับดีเซลบ้านเรา
-
ถ้ายังมองว่า ต้องทำต้นทุนให้ต่ำที่สุด เพื่อสร้างผลกำไรมากที่สุด
การนึกถึงสุขภาพจะเพียงแค่พูดขึ้นมาเพื่อสร้างภาพเฉยๆครับ
-
แค่โตโยต้าพูดอยู่เจ้าเดียวสรุปอะไรไม่ได้
แค่ขายในยุโรปไม่คุ้มเพราะภาษีแพง มลพิษไม่ผ่าน
ระดับ Benz Bmw Audi เสียงบพัฒนาดีเซลมาถึงขั้นใส่ในรถธงตั้งเท่าไหร่ ไม่มีผลหรอก
สรุปง่ายๆเลย โตโยต้าถ้าจะขายดีเซลจะทำตลาดสู้คู่แข่งไม่ได้เพราะคุมต้นทุนไม่อยู่ ทำไปกำไรน้อยหรือขาดทุน โตโยต้าเน้นขาย ผลเป็นแบบนี้ไม่ขายก็ได้ไม่คุ้ม
-
ว่าแต่ประเทศโลกที่ 1 กับโลกที่ 3 พอนึกออก
แล้วประเทศโลกที่ 2 นี่มันมีมั้ยครับ เห็นที่ได้ยินมามีแค่ 1 กับ 3
อันนี้ถามนอกเรื่องนะ
-
แค่โตโยต้าพูดอยู่เจ้าเดียวสรุปอะไรไม่ได้
แค่ขายในยุโรปไม่คุ้มเพราะภาษีแพง มลพิษไม่ผ่าน
ระดับ Benz Bmw Audi เสียงบพัฒนาดีเซลมาถึงขั้นใส่ในรถธงตั้งเท่าไหร่ ไม่มีผลหรอก
สรุปง่ายๆเลย โตโยต้าถ้าจะขายดีเซลจะทำตลาดสู้คู่แข่งไม่ได้เพราะคุมต้นทุนไม่อยู่ ทำไปกำไรน้อยหรือขาดทุน โตโยต้าเน้นขาย ผลเป็นแบบนี้ไม่ขายก็ได้ไม่คุ้ม
น่าจะตั้งชื่อว่า อวสานรถดีเซลโตโยต้าในยุโรป มากกว่า
-
น่าจะเป็นแค่ ดีเซลใช้ในรถยนต์นั่งนะครับ ยังไงรถเชิงพาณิชย์คงต้องเป็นดีเซลเหมือนเดิม อาจจะเป็น ดีเซลไฮบริด
-
ผมว่าก็มีความเป็นไปได้นะที่ดีเซลจะไปก่อนเพื่อน (สำหรับรถยนต์นั่ง)
เพียงแต่ว่าใครจะเลิกก่อนเลิกหลังต้องคอยดูกันไป ผมว่าพวกยุโรปที่ทำดีเซลเก่งๆ คงยื้อต่อได้นาน
-
้อามาขายเอเซียราคาเท่าๆยุโรปสิผู้ผลิตทั่งหลายครับ กระบะควันดำ สิบล้อควันโขมงมีเยอะอยู่แล้วมาตรฐานอะไรก็ไม่แน่นหนา มีไว้แค่ตอนขาย ตอนใช้ไม่ตรวจ
-
ถ้าไม่นับยุโรป ตลาดทั่วโลก ยังต้องการใช้ระบบเครื่องยนต์ดีเซลอยู่ครับ
-
ตราบใดที่ยังมีเชื้อเพลิงให้เติม ก็ยังไม่ถึงตอนจบง่ายหรอก
-
ว่าแต่ประเทศโลกที่ 1 กับโลกที่ 3 พอนึกออก
แล้วประเทศโลกที่ 2 นี่มันมีมั้ยครับ เห็นที่ได้ยินมามีแค่ 1 กับ 3
อันนี้ถามนอกเรื่องนะ
ประเทศโลกที่ 2 คือประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ครับ
-
ในยุโรป ดีเซลทั้งนั้น ครับ ถ้าจะให้เปลี่ยนยุคที่ไม่มีดีเซลเลย คงอีกนานมากๆ ถึงจะได้เห็น
-
ว่าแต่ประเทศโลกที่ 1 กับโลกที่ 3 พอนึกออก
แล้วประเทศโลกที่ 2 นี่มันมีมั้ยครับ เห็นที่ได้ยินมามีแค่ 1 กับ 3
อันนี้ถามนอกเรื่องนะ
ประเทศโลกที่ 2 คือประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ครับ
ขอบคุณมากครับ
-
แล้วพวกรถบรรทุก รถขนส่งทั่วๆไปในยุโรปกับอเมริกามันจะใช้เครื่องยนต์อะไรกันถ้าไม่ใช้เครื่องดีเซล หรือว่าใช้เครื่องเบนซินความจุสูงๆแทน ??
-
ถ้ามาเร็วก็เปลี่ยนระบบในรถคันเก่าคนไทยทำได้ผมไม่กลัว
-
อยากรู้ว่่า Skyactiv 2 จะได้ไปต่อหรือไม่
-
รถกระบะ รถบรรทุก รถไฟ ผมว่าเหมาะกับดีเซลบ้านเรา
รถไฟเปลี่ยนเป็นไฟฟ้าได้เมื่อพร้อม ทุกวันนี้ ดีเซลไม่ใช่ตัวขับเคลื่นรถ แต่เป็น พลังงานให้เครื่องปั่นไฟในหัวลากต่างหาก
-
แล้วพวกรถบรรทุก รถขนส่งทั่วๆไปในยุโรปกับอเมริกามันจะใช้เครื่องยนต์อะไรกันถ้าไม่ใช้เครื่องดีเซล หรือว่าใช้เครื่องเบนซินความจุสูงๆแทน ??
tesla truck ในชื่อ Nikola
https://nikolamotor.com/one (https://nikolamotor.com/one)
จองล่วงหน้ากันยาวๆแล้วนะครับ
-
เทคโนโลยี เครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน ผมว่า ผู้ผลิตรถยนต์หลายๆค่ายในโลก ยังกั๊กของดี ไว้อยู่เยอะครับ
แค่ยังไม่ถึงเวลาเปิดตัวแค่นั้นเองครับ ของมีพร้อม เพียงแค่รอเวลาเหมาะสมของราคา ค่อยเอามาขาย
-
ถ้าตราบใดที่เทรนการลดมลพิษยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เครื่องยนต์สันดาปก็ต้องดิ้นรนจนหยดสุดท้าย พอถึงที่สุดก็จะต้องเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ เดาว่ารถไฟฟ้าจะเป็นคำตอบสำหรับอนาคตจากการที่มีข่าวว่าผู้ผลิตทั้งหลายมุ่งหน้าไปทางนี้ หวังว่าความฝันในอนาคตจะได้ใช้รถไฟฟ้าเต็มตัวทั่วบ้านทั่วเมืองทั้งโลกจะมาให้เห็นในชาตินี้
-
ไม่ไปง่ายๆหรอกดีเซล ภาคขนส่งยังพึ่งอยู่เยอะ ดีเซลใช้น้ำมันคุ้มค่ามากๆด้วย
ส่วนที่จะลูกผีลูกคน รถไฟฟ้านี่แหละ สัดส่วนมันคือใช้แค่ในเมืองอยู่ดี
-
เคยอ่านบทความของวอลโว่ ก็พูดคล้ายๆกันนะครับว่า จะหยุดพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลแล้ว เพราะเหตุผลเรื่องอุปกรณ์ควบคุมคุณภาพไอเสีย จะมีราคาสูงมาก จนทำให้ต้นทุนรถยนต์นั่งที่ใช้เครื่องดีเซล ไม่คุ้มค่าการผลิต
ที่ผ่านมารถยนต์นั่งในยุโรปเกินครึ่งเป็นเครื่องดีเซล ผมไม่แน่ใจว่ากฎหมายควบคุมมลพิษที่ไหนเข้มงวดกว่ากันระหว่าง ยุโรปกับอเมริกา ที่ผ่านมาเมกันไม่ใช่ตลาดใหญ่ของเครื่องดีเซล เพราะงั้นถ้ากฎของยุโรปเข้มขึ้น อันนี้น่าจะเป็นหมัดน้อคตัวจริงของรถยนต์นั่งดีเซล
-
ว่าแต่ประเทศโลกที่ 1 กับโลกที่ 3 พอนึกออก
แล้วประเทศโลกที่ 2 นี่มันมีมั้ยครับ เห็นที่ได้ยินมามีแค่ 1 กับ 3
อันนี้ถามนอกเรื่องนะ
ประเทศโลกที่ 2 คือประเทศที่เป็นคอมมิวนิสต์ครับ
ขอบคุณมากครับ
ระบบเศรษฐกิจ+การเมือง
ของประเทศในโลกนี้น่าสนใจมาก มีอะไรที่ดูดำมืดตามโฆษณาของประเทศโลกที่ 1
แต่พอทำแล้วดี จนต้องหันไปมอง ว่ามันทำอย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่
-
บ้านเรายังมีใช้อีกนานครับ ผมไม่ห่วงเลย
-
ของมันยังต้องมีใช้ครับ กระบะฟูลไซด์ ต้องใช้แรงบิดเยอะเพื่อลากเทลเลอร์
http://www.thaicarlover.com/gm-%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-duramax-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B9%84%E0%B8%8B%E0%B8%AA%E0%B9%8C/84582
-
เมืองนอก ยุโรป สำหรับรถเก๋งอาจจะอวสาน
แต่รถปิคอัพ หรือ รถทรัค คงไปต่อ
แต่ที่แน่ๆ บ้านเรา ปิคอัพยังขายได้อีกหลานเจน เพราะที่ขายอยู่ตอนนี้ ยังเป็น คอมมอนเรียล Gen ที่ห่างชั้นกับรถยุโรปอยู่แล้ว
ขายได้ราคาเฉยเลยด้วย
-
ไม่แปลกครับ วันนึงก้ต้องหมดไปแต่น่าจะอีกนานครับ
-
คงจะหมดในกลุ่มของรถนั่ง "เพียงกลุ่มเดียว" หละมั้งครับ
Diesel มันใช้ผลิตไฟฟ้า , ขนส่งทางบก , ทางน้ำ , ทางราง , ทางการทหาร อีกเยอะแยะมากมาย
-
เมื่อวานคัมรี่ไฮบริดของผมแบตลูกใหญ่หมดอายุ
โชคดีที่อายุรถไม่ถึง 5 ปี จากประกันแบต 10 ปี
ยังมีเครื่องยนต์ไว้พึ่งพาได้ถึงแม้แบตจะเดี้ยง
แต่ที่ถอนหายใจคือ รอแบตเดือนกว่าครับ :(
รถเร่งตี๋งหนืดมากๆ :'(
หวังง่ารถไฟฟ้าในอนาคตคงจะมีการเตือนก่อนแบตเสื่อมนะครับ
ไม่งั้นจอดไม่แจวกันเลย
-
ถ้าหกปีที่แล้วคุณกู้แท่น DW Horizon ได้ ไม่ปล่อยให้จม ใช้สกิลพระเอก เราคงมีน้ำมันให้ขุดอยู่เยอะครับ
-
ดีเซลไฮบริด?
-
ลดขนาดซีซีลงเป็น 3.0 + มอเตอร์ไฟฟ้า วางใน MU X
(ขอมโนแพร้พพพพ)
-
http://www.autospinn.com/2016/10/mercedes-benz-still-believe-in-diesel/ (http://www.autospinn.com/2016/10/mercedes-benz-still-believe-in-diesel/)
-
ตั้งหัวข้อกระทู้เกินจริงครับ ดีเซลยังไม่ตายง่ายๆหรอกครับ เพราะใช้งานหลากหลายและทั่วโลกใช้ยังเครื่องดีเซลกันเป็นปริมาณมาก ที่น่าห่วงมากกว่าคือ ยุครถไฟฟ้าต่างหาก กลุ่ม OPEC ยังปวดหัวเรื่องราคาน้ำมันตกต่ำเพราะว่าแห่กันปั๊มขึ้นมาเทขาย เพราะความเป็นไปได้ที่เทคโนโลยีรถไฟฟ้าจะมาเร็วกว่าที่คิด ปัญหาหลักคือราคาแบตเตอรี่ยังสูงอยู่ และประสิทธิภาพยังไม่ดีนัก และภายใน 10-20ปีนี้ ผมคิดว่าปัญหาเรื่องแบตความจุต่ำและราคาแพง น่าจะถูกแก้ไขได้ภายใน20ปีนี้ ซึ่งถ้าแบตมีประสิทธิภาพสูงและราคาถูกเมื่อไร ก็จะถึงเวลาเปลี่ยนแปลงของวงการรถยนต์โลกแน่นอนครับ น้ำมันที่ขายๆกันอยู่จะราคาดิ่งเหว พอถึงเวลานั้นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ที่มีเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันก็จะขายไม่ออก ลองไปศึกษาประวัติชายคนนี้นะครับ Elon musk ผู้เปลี่ยนโลกวงการรถยนต์และวงการอื่นๆของโลก
-
รถนั่งไม่แน่ แต่พวกรถทรั๊ค เอสยูวี พวกนี้มันเหมาะกว่าจริงๆ
-
ขำๆ
(http://cdn.bgr.com/2016/03/tesla-model-p.jpg?w=624&quality=98&strip=all&h=370)