Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤศจิกายน 04, 2016, 20:34:13
-
ผมมีข้อสงสัยครับ
เห็นยอดขายของ MG แล้วตอนนี้อยู่ที่อันดับ 11
(http://www.headlightmag.com/hlmwp/wp-content/uploads/2016/10/all_brand2016.jpg)
เป็นที่ 1 ของกลุ่มค่ายรอง กลุ่มเลขสองหลัก
ยอดขายปีนึงประมาณหลักพันคัน
ผมเลยคิดว่าแบบนี้ มันจะคุ้มกับการตั้งฐานการผลิตหรือเปล่า เพราะผมไม่ค่อยได้ยินว่า mg ส่งออกรถไปต่างประเทศเลย คุ้นๆ ด้วยซ้ำว่า เป็นการเอาชิ้นส่วนๆ ใหญ่เข้ามาจากจีน เป็น SKD ไม่ได้มีการลงทุนในกลุ่มชิ้นส่วน
จำได้ว่าก่อนหน้าและข่าวเมื่อไม่นานมานี้ บอกว่าไทยเป็นฐานการผลิตรถ MG พวงมาลัยขวา และซื้อที่ดินที่นิคมเหมราช ชลบุรี
รบกวนทุกท่านที่มีความรู้ช่วยแชร์ด้วยครับ
ปล...จขกท อยากให้ MG ไปรอดนะครับ ส่วนตัวชอบ mg3 และ mg5 ธรรมดา แต่ถ้ามีรถคันเดียวแบบตอนนี้ คงยังไม่กล้าซื้อ เว้นแต่ได้รถมาจากการชิงโชค หรือรถบริษัท
เห็นเขากล้าลงทุน ทำศูนย์ทดสอบรถที่ ศรีนครินทร์ ทั้งที่ยอดขายไม่มาก กล้าขยายศูนย์บริการมากขึ้นแล้ว อยากให้ไปรอดอีกสักยี่ห้อ นอกจาก ford และ GM ครับ
-
เป็นคำถามน่าสนใจ ขอตามอ่านคอมเมนต์ครับ
ส่วนตัวผมขอดูสัก 10 ปี 555 ถ้าคิดจะลองยี่ห้อนี้ :-*
-
อีกอย่างนึง คือ ผมว่า mg วางรุ่นไว้เยอะเกินไปครับ อย่าง mg6 รุ่นย่อยเยอะมากเป็นสิบรุ่นเลย แต่ขายได้หลักสิบถึงร้อยต้นๆ ไม่คุ้มเลย
จริงๆ ผมว่า mg น่าจะเน้นพวก mg3 mg5 มากกว่าครับ mg gs เองทรงสวยมาก แต่ราคาก็สูงไปจริงๆ ยิ่งเครื่อง turbo ไม่ได้แรงกว่าเขาแถมกินดุอีก ไม่ไหวเลยครับ
ขายจริงๆ ผมว่าเน้น mg3 mg5 และ mg zs <http://www.headlightmag.com/mg-small-suv-with-new-design-language/> ตามข่าวก็พอละ ราคาอย่างเกินล้าน เพราะรถพอเกินนั้นตัวเลือกเยอะมากครับ
-
กำลังจะเริ่มต้นผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เพื่อประกอบส่งออกในเร็วๆนี้ครับ
MG น่าจะไม่หนีแน่นอน เพราะกลุ่มทุนจีนที่ถือหุ้นใหญ่ 51% คือ SAIC นี่รวยมากๆครับ แล้วเค้ายังไม่มีฐานผลิตพวงมาลัยขวาสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เลยครับ
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
-
ตั้งโรงงานประกอบ ไม่ได้ลงทุนมากครับ ขายได้เดือนละ600คันก็คุ้มทุนในปีเดียวได้แล้ว ชิ้นส่วนเน้นเอามาจากจีนครับ โรงงานที่ประกอบน้อยคันิใช้พวกแรงงานยังพอได้ กำไรต่อคันมันเยอะครับ
แต่จะส่งออกไหม ผมว่าไม่
-
ตั้งโรงงานประกอบ ไม่ได้ลงทุนมากครับ ขายได้เดือนละ600คันก็คุ้มทุนในปีเดียวได้แล้ว ชิ้นส่วนเน้นเอามาจากจีนครับ โรงงานที่ประกอบน้อยคันิใช้พวกแรงงานยังพอได้ กำไรต่อคันมันเยอะครับ
แต่จะส่งออกไหม ผมว่าไม่
แสดงว่าโรงงานแรก น่าจะประกอบมือนะคับ
เห็นได้ข่าวว่าเช่าพื้นที่เอาด้วย น่าจะคุ้มอยู่ครับ ถ้าตามข้อมูลคุณ jae นะคับ
-
อีกอย่างนึง คือ ผมว่า mg วางรุ่นไว้เยอะเกินไปครับ อย่าง mg6 รุ่นย่อยเยอะมากเป็นสิบรุ่นเลย แต่ขายได้หลักสิบถึงร้อยต้นๆ ไม่คุ้มเลย
จริงๆ ผมว่า mg น่าจะเน้นพวก mg3 mg5 มากกว่าครับ mg gs เองทรงสวยมาก แต่ราคาก็สูงไปจริงๆ ยิ่งเครื่อง turbo ไม่ได้แรงกว่าเขาแถมกินดุอีก ไม่ไหวเลยครับ
ขายจริงๆ ผมว่าเน้น mg3 mg5 และ mg zs <http://www.headlightmag.com/mg-small-suv-with-new-design-language/> ตามข่าวก็พอละ ราคาอย่างเกินล้าน เพราะรถพอเกินนั้นตัวเลือกเยอะมากครับ
ปีแรกที่ขาย MG6 อย่างเดียว ผลิตออกมาสต็อคเยอะมากครับเหมือนว่ามันมีกฏว่าต้องผลิตให้ได้จำนวนเท่านี้ๆ เลยผลิตออกมาทั้งๆ ที่ยังขายไม่ได้เลย ถ้าลองนับๆ ดูเหมือนจะผลิตมาเกือบ 1000 คันได้มั้งเนี่ย ถึงเห็นเหมือนว่ามีเป็นสิบรุ่น แต่จริงๆ แล้วรุ่น MY2014 ขายจะหมดแล้วนะครับ เค้าสุดยอดจริงๆ ตอนนี้เหลือแต่รุ่นท็อปซึ่งตอนแรกนึกว่าจะกลายเป็นขยะค้างสต็อคแล้ว ส่วนตัว MY2015 รุ่น C ไม่ผลิตนะครับตั้งแต่เปิดตัวไม่เคยขายเลย เอาจริงๆ คือมี 4 Model เท่านั้น
เรื่องส่งออกตอนนี้เค้ากำลังรอโมเดลใหม่ครับ ที่แน่ๆ Australia คือตลาดในอนาคตของ MG (เคยเข้าไปขายแต่ MG6 แล้วเจ๊ง) ตอนนี้มีแต่ GS ที่เตรียมเข้าไปเปิดตัว คาดว่ารอโรงงานเสร็จมีโมเดลอื่นๆ คงขายประเทศแถบนี้ครับ
ส่วน GS ผมเชื่อว่าต้องเอาเครื่อง 1.5T เข้ามาแน่ครับ เพราะว่าเป็นเครื่องที่จะเอามาใส่ใน MG3 6 ZS ในอนาคต คือยังไงเค้าก็ต้องทำให้มันผ่านมาตรฐานให้ได้อะ เพราะรอยัดลงไปในหลายรุ่น เราอาจจะได้เห็น MG GS รุ่นราคาไม่เกินล้านครับ
-
อีกอย่างนึง คือ ผมว่า mg วางรุ่นไว้เยอะเกินไปครับ อย่าง mg6 รุ่นย่อยเยอะมากเป็นสิบรุ่นเลย แต่ขายได้หลักสิบถึงร้อยต้นๆ ไม่คุ้มเลย
จริงๆ ผมว่า mg น่าจะเน้นพวก mg3 mg5 มากกว่าครับ mg gs เองทรงสวยมาก แต่ราคาก็สูงไปจริงๆ ยิ่งเครื่อง turbo ไม่ได้แรงกว่าเขาแถมกินดุอีก ไม่ไหวเลยครับ
ขายจริงๆ ผมว่าเน้น mg3 mg5 และ mg zs <http://www.headlightmag.com/mg-small-suv-with-new-design-language/> ตามข่าวก็พอละ ราคาอย่างเกินล้าน เพราะรถพอเกินนั้นตัวเลือกเยอะมากครับ
ปีแรกที่ขาย MG6 อย่างเดียว ผลิตออกมาสต็อคเยอะมากครับเหมือนว่ามันมีกฏว่าต้องผลิตให้ได้จำนวนเท่านี้ๆ เลยผลิตออกมาทั้งๆ ที่ยังขายไม่ได้เลย ถ้าลองนับๆ ดูเหมือนจะผลิตมาเกือบ 1000 คันได้มั้งเนี่ย ถึงเห็นเหมือนว่ามีเป็นสิบรุ่น แต่จริงๆ แล้วรุ่น MY2014 ขายจะหมดแล้วนะครับ เค้าสุดยอดจริงๆ ตอนนี้เหลือแต่รุ่นท็อปซึ่งตอนแรกนึกว่าจะกลายเป็นขยะค้างสต็อคแล้ว ส่วนตัว MY2015 รุ่น C ไม่ผลิตนะครับตั้งแต่เปิดตัวไม่เคยขายเลย เอาจริงๆ คือมี 4 Model เท่านั้น
เรื่องส่งออกตอนนี้เค้ากำลังรอโมเดลใหม่ครับ ที่แน่ๆ Australia คือตลาดในอนาคตของ MG (เคยเข้าไปขายแต่ MG6 แล้วเจ๊ง) ตอนนี้มีแต่ GS ที่เตรียมเข้าไปเปิดตัว คาดว่ารอโรงงานเสร็จมีโมเดลอื่นๆ คงขายประเทศแถบนี้ครับ
ส่วน GS ผมเชื่อว่าต้องเอาเครื่อง 1.5T เข้ามาแน่ครับ เพราะว่าเป็นเครื่องที่จะเอามาใส่ใน MG3 6 ZS ในอนาคต คือยังไงเค้าก็ต้องทำให้มันผ่านมาตรฐานให้ได้อะ เพราะรอยัดลงไปในหลายรุ่น เราอาจจะได้เห็น MG GS รุ่นราคาไม่เกินล้านครับ
เห็นด้วยคับ ควรเน้นตัว 1.5 and 1.5 turbo ใส่ในรถทุกรุ่นเพราะเป็นขนาดที่สามารถใช้ได้ในทุกกลุ่มคับ
-
กำลังจะเริ่มต้นผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เพื่อประกอบส่งออกในเร็วๆนี้ครับ
MG น่าจะไม่หนีแน่นอน เพราะกลุ่มทุนจีนที่ถือหุ้นใหญ่ 51% คือ SAIC นี่รวยมากๆครับ แล้วเค้ายังไม่มีฐานผลิตพวงมาลัยขวาสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เลยครับ
พ่อค้าคำนึงถึงกำไรเป็นหลักครับ ถ้าทำแล้วขาดทุนอีกไม่นานเขาก็เลิก
-
กำลังจะเริ่มต้นผลิตชิ้นส่วนในประเทศ เพื่อประกอบส่งออกในเร็วๆนี้ครับ
MG น่าจะไม่หนีแน่นอน เพราะกลุ่มทุนจีนที่ถือหุ้นใหญ่ 51% คือ SAIC นี่รวยมากๆครับ แล้วเค้ายังไม่มีฐานผลิตพวงมาลัยขวาสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้เลยครับ
พ่อค้าคำนึงถึงกำไรเป็นหลักครับ ถ้าทำแล้วขาดทุนอีกไม่นานเขาก็เลิก
ธุรกิจรถเป็นธุรกิจใหญ่ครับ กว่าจะคืนทุนใช้เวลาเป็นสิบปี ดังนั้นมองที่สายป่านเป็นหลักครับ ถ้าลงทุนหมื่นล้านแล้วผ่านไป 2 ปี ไม่กำไรแล้วปิดหนีนี่เค้าคงไม่มาลงทุนแต่แรกคำว่าไม่นานก็เลิกนี่น่าจะใช้ไม่ได้
เท่าที่ดูสถานการณ์ MG ตอนนี้บางคนบอกว่าลงทุนเป็นหมื่นล้านแต่ขายได้เดือนละ 700 คันจะไปรอดได้ไง แต่ถ้ามองจริงๆ แล้วปี 2014 ทั้งปีขายได้ 220 คัน ปี 2015 ขายได้เฉลี่ยเดือนละ 300 คัน ปีนี้ได้เดือนละ 600 ดูๆแล้วโตขึ้น 2 เท่าจากปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจไม่ดี แบบนี้นักธุรกิจเค้าไม่มองว่าขาดทุนอาการแย่ครับ เพราะมี Growth คนที่กลัวเจ๊งไม่ใช่ MG แต่น่าจะเป็น Dealer มากกว่าเพราะสาขาผุดเป็นเห็ดแต่เค้กไม่ได้ใหญ่ขึ้นหลายเท่าตามจำนวนศูนย์ แต่ยังไงถ้าศูนย์ปิดไป ก็มีศูนย์ใหม่รอเปิดครับ
-
จะตั้งโรงงานใหม่ เพื่อส่งออกด้วยนิ
บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มต้นการก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่นี้จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ MG ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อการผลิตและจำหน่ายทั้งภายในประเทศไทยและการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศทั่วโลก
ซื่อ กั๋ว ย่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด บอกว่า เอ็มจีได้ก่อตั้งมาแล้ว 3 ปีในไทย สำหรับโรงงานใหม่ ได้นำเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยเพื่อให้ได้รถยนต์ที่ดีและมีคุณภาพยิ่งขึ้น เป็นการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์และเศรษฐกิจของไทย
ธนากร เสรีบุรี ประธานกรรมการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด บอกว่า นับตั้งแต่ปี 2556 ที่ CP ร่วมลงทุนกับ เอสเอไอซี มอเตอร์ ในการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ จนถึงปัจจุบัน MG เป็นที่ยอมรับของลูกค้าและมียอดจำหน่ายเพิ่มสูงขึ้นตามลำดับ จึงเพิ่มศักยภาพของการผลิตรถยนต์เพื่อรองรับตลาดรถยนต์ของอาเซียนที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วนับจากนี้ โดยการสร้างโรงงานใหม่แห่งนี้ จะเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ อันเป็นการเสริมภาพลักษณ์ด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไทย
นอกจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม การออกแบบและก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่นี้ยังคำนึงถึงหลัก การยศาสตร์ (ergonomics) เพื่อเอื้อต่อสภาพการทำงานที่เหมาะสมของพนักงานและเจ้าหน้าที่ MG และเมื่อโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่สร้างเสร็จสมบูรณ์จะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวารุ่นต่างๆ ภายใต้แบรนด์ MG เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และส่งออกไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
ทั้งนี้ โรงงานผลิตรถยนต์ เอ็มจี แห่งใหม่จะก่อสร้างบนที่ดินจำนวน 437.5 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด 2 จังหวัดชลบุรี ทดแทนโรงงานในปัจจุบันที่ตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด บนพื้นที่ 17,280 ตารางเมตร ซึ่งเริ่มเดินสายการผลิตครั้งแรกเมื่อต้นปี พ.ศ. 2557
http://www.baan-d.com/mg-%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%A5%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B5/
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของธรรมาภิบาล กับ เรื่องผูกขาดครับ
ธรรมาภิบาล: http://www.thairath.co.th/content/590487
ผูกขาด: http://www.thaitribune.org/contents/detail/327?content_id=10548
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
สิริวัฒนภักดี6.3 แสนไร่
ข้อมูลจากการสำรวจศึกษาระบุว่า ในผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศ ตระกูล "สิริวัฒนภักดี" ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น็อนแอลกอฮอล์ พัฒนาที่ดิน การเกษตร ฯลฯ น่าจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศมากที่สุดกว่า 6.3 แสนไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่าง ๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์ อาทิ ที่ดินในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีรวม 1.2 หมื่นไร่, ที่ดินในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1.5 หมื่นไร่ ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด บุตรเขยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตระกูลสิริวัฒนภักดีมีที่ดินทั่วประเทศอยู่หลายแสนไร่จริง แต่ประเมินจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ โดยหนึ่งในแปลงใหญ่อยู่ที่ชะอำ 1.2 หมื่นไร่ เตรียมแบ่งส่วนแรกกว่า 1 พันไร่พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ สนามกอล์ฟ โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก
"ซีพี-สหอุตสาหกรรมฯ"ที่เพียบ
ขณะที่ "ตระกูลเจียรวนนท์" ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่มซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม บมจ.ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 หมื่นไร่
"บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดิน 4.44 หมื่นไร่ รองลงไปคือ "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ปัจจุบันมีที่ดินรวมประมาณ 3 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้ราว 7% ปล่อยเช่าสร้างรายได้เชิงพาณิชย์
บมจ.ไออาร์พีซี ผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ มีที่ดินรวมประมาณ 1.7 หมื่นไร่ แปลงใหญ่อยู่ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา "ตระกูลมาลีนนท์" กลุ่มทุนธุรกิจสื่อสารถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่ แลนด์ลอร์ดอีกราย คือ "นายแพทย์บุญ วนาสิน" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี มีที่ดินในมือประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1 พันไร่
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576 (http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576)
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
กลุ่มเจียรวนนท์ เป็นเจ้าของเซเว่นอีเลฟเว่น แม็คโคร โลตัส และทำคอนแท็กฟาร์มกับเกษตรกร ธุรกิจค้าปลีกรายย่อยเจ๊งเป็นแสนๆ ล้านๆราย ผู้ค้าส่งในต่างจังหวัดเจ๊ง มีการกักตุนที่ดินเยอะมาก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนที่ดิน เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินบุกรุกป่าเพื่อทำเกษตรกรรมแล้วนำผลผลิตส่งให้ซีพีทำอาหารสัตว์ ยุโรปห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศไทยก็โดยมีข้ออ้างว่าซีพีใช้แรงงานทาส กลุ่มเจียรวนนท์ มีเพาเวอร์สูงมาก ทำให้เกิดการผูกขาด ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจะไม่ยอมให้เอกชนรายใดขยายธุรกิจได้มากขนาดนี้นะครับ
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของธรรมาภิบาล กับ เรื่องผูกขาดครับ
ธรรมาภิบาล: http://www.thairath.co.th/content/590487
ผูกขาด: http://www.thaitribune.org/contents/detail/327?content_id=10548
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
กลุ่มเจียรวนนท์ เป็นเจ้าของเซเว่นอีเลฟเว่น แม็คโคร โลตัส และทำคอนแท็กฟาร์มกับเกษตรกร ธุรกิจค้าปลีกรายย่อยเจ๊งเป็นแสนๆ ล้านๆราย ผู้ค้าส่งในต่างจังหวัดเจ๊ง มีการกักตุนที่ดินเยอะมาก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนที่ดิน เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินบุกรุกป่าเพื่อทำเกษตรกรรมแล้วนำผลผลิตส่งให้ซีพีทำอาหารสัตว์ ยุโรปห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศไทยก็โดยมีข้ออ้างว่าซีพีใช้แรงงานทาส กลุ่มเจียรวนนท์ มีเพาเวอร์สูงมาก ทำให้เกิดการผูกขาด ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจะไม่ยอมให้เอกชนรายใดขยายธุรกิจได้มากขนาดนี้นะครับ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆสำหรับคำอธิบายนะคะ เราได้ความรู้เยอะขึ้นพอสมควรเลย (ไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะ) ถ้าเป็นตามที่คุณ Smith686 เขียนมา อย่างงี้เข้าข่าย Monopoly เลยนะคะเนี่ย เราแอบแปลกใจนิดนึงที่เมืองไทยไม่มีกฏหมายครอบคลุมเรื่องนี้ :-\
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
ผมคิดว่าน่าจะเป็นเรื่องของธรรมาภิบาล กับ เรื่องผูกขาดครับ
ธรรมาภิบาล: http://www.thairath.co.th/content/590487
ผูกขาด: http://www.thaitribune.org/contents/detail/327?content_id=10548
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
กลุ่มเจียรวนนท์ เป็นเจ้าของเซเว่นอีเลฟเว่น แม็คโคร โลตัส และทำคอนแท็กฟาร์มกับเกษตรกร ธุรกิจค้าปลีกรายย่อยเจ๊งเป็นแสนๆ ล้านๆราย ผู้ค้าส่งในต่างจังหวัดเจ๊ง มีการกักตุนที่ดินเยอะมาก ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนที่ดิน เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกินบุกรุกป่าเพื่อทำเกษตรกรรมแล้วนำผลผลิตส่งให้ซีพีทำอาหารสัตว์ ยุโรปห้ามนำเข้าอาหารทะเลจากประเทศไทยก็โดยมีข้ออ้างว่าซีพีใช้แรงงานทาส กลุ่มเจียรวนนท์ มีเพาเวอร์สูงมาก ทำให้เกิดการผูกขาด ถ้าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจะไม่ยอมให้เอกชนรายใดขยายธุรกิจได้มากขนาดนี้นะครับ
ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆสำหรับคำอธิบายนะคะ เราได้ความรู้เยอะขึ้นพอสมควรเลย (ไม่เคยทราบมาก่อนเลยค่ะ) ถ้าเป็นตามที่คุณ Smith686 เขียนมา อย่างงี้เข้าข่าย Monopoly เลยนะคะเนี่ย เราแอบแปลกใจนิดนึงที่เมืองไทยไม่มีกฏหมายครอบคลุมเรื่องนี้ :-\
ประเทศไทยมีกฎหมายป้องกันการผูกขาดครับ แต่เอามาใช้กับเขาไม่ได้ ลองไปดูชื่อที่ปรึกษาบริษัทเขาก่อน
-
ประเทศไทยมีกฎหมายป้องกันการผูกขาดครับ แต่เอามาใช้กับเขาไม่ได้ ลองไปดูชื่อที่ปรึกษาบริษัทเขาก่อน
Google Search ครั้งเดียว เข้าใจแจ่มแจ้งเลยค่ะ :'(
ขอบคุณนะคะ
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
สิริวัฒนภักดี6.3 แสนไร่
ข้อมูลจากการสำรวจศึกษาระบุว่า ในผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศ ตระกูล "สิริวัฒนภักดี" ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น็อนแอลกอฮอล์ พัฒนาที่ดิน การเกษตร ฯลฯ น่าจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศมากที่สุดกว่า 6.3 แสนไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่าง ๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์ อาทิ ที่ดินในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีรวม 1.2 หมื่นไร่, ที่ดินในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1.5 หมื่นไร่ ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด บุตรเขยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตระกูลสิริวัฒนภักดีมีที่ดินทั่วประเทศอยู่หลายแสนไร่จริง แต่ประเมินจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ โดยหนึ่งในแปลงใหญ่อยู่ที่ชะอำ 1.2 หมื่นไร่ เตรียมแบ่งส่วนแรกกว่า 1 พันไร่พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ สนามกอล์ฟ โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก
"ซีพี-สหอุตสาหกรรมฯ"ที่เพียบ
ขณะที่ "ตระกูลเจียรวนนท์" ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่มซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม บมจ.ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 หมื่นไร่
"บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดิน 4.44 หมื่นไร่ รองลงไปคือ "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ปัจจุบันมีที่ดินรวมประมาณ 3 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้ราว 7% ปล่อยเช่าสร้างรายได้เชิงพาณิชย์
บมจ.ไออาร์พีซี ผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ มีที่ดินรวมประมาณ 1.7 หมื่นไร่ แปลงใหญ่อยู่ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา "ตระกูลมาลีนนท์" กลุ่มทุนธุรกิจสื่อสารถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่ แลนด์ลอร์ดอีกราย คือ "นายแพทย์บุญ วนาสิน" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี มีที่ดินในมือประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1 พันไร่
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576 (http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576)
เคสลักษณะนี้เกิดขึ้นกับบริษัทใหญ่ๆในไทยเป็นจำนวนมาก ไม่มีบริษัทไหน clean 100% หรอกครับ บางอย่างก็ดี บางอย่างก็ไม่ดี ต่อให้เป็นบริษัทใหญ่ๆในต่างประเทศก็เป็นลักษณะนี้เช่นกันครับ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก กลุ่มที่โหดกว่านี้ก็ยังมีครับทั้งในไทยและต่างประเทศ
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
รบกวนอธิบายให้เราฟังได้ไหมคะ ว่าทำไมผลิตภัณฑ์ CP ถึงไม่น่าสนับสนุน
เราเพิ่งย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย ไม่ค่อยมีข้อมูลทางด้านนี้เลย อยากได้เป็นความรู้เพิ่มเติมน่ะค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ :)
สิริวัฒนภักดี6.3 แสนไร่
ข้อมูลจากการสำรวจศึกษาระบุว่า ในผู้ถือครองที่ดินรายใหญ่ทั้งประเทศ ตระกูล "สิริวัฒนภักดี" ซึ่งมีเครือข่ายธุรกิจหลากหลายเช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น็อนแอลกอฮอล์ พัฒนาที่ดิน การเกษตร ฯลฯ น่าจะถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินทั่วประเทศมากที่สุดกว่า 6.3 แสนไร่ ทั้งในนามส่วนตัว ครอบครัว และผ่านบริษัทต่าง ๆ โดยหนึ่งในที่ดินแปลงใหญ่ที่ตระกูลสิริวัฒนภักดีครอบครองกรรมสิทธิ์ อาทิ ที่ดินในอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรีรวม 1.2 หมื่นไร่, ที่ดินในอำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1.5 หมื่นไร่ ฯลฯ
ก่อนหน้านี้ นายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด บุตรเขยนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตระกูลสิริวัฒนภักดีมีที่ดินทั่วประเทศอยู่หลายแสนไร่จริง แต่ประเมินจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ โดยหนึ่งในแปลงใหญ่อยู่ที่ชะอำ 1.2 หมื่นไร่ เตรียมแบ่งส่วนแรกกว่า 1 พันไร่พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บ้านพักตากอากาศระดับไฮเอนด์ สนามกอล์ฟ โรงแรม และพื้นที่ค้าปลีก
"ซีพี-สหอุตสาหกรรมฯ"ที่เพียบ
ขณะที่ "ตระกูลเจียรวนนท์" ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ธุรกิจการเกษตรครบวงจร ในนามกลุ่มซีพี ธุรกิจพัฒนาที่ดินในนาม บมจ.ซี.พี.แลนด์ และกลุ่มแมกโนเลียส์ธุรกิจโทรคมนาคม ทรู คอร์ปอเรชั่น ถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 2 แสนไร่ โดยแปลงใหญ่อยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประมาณ 1 หมื่นไร่
"บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม" ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดิน 4.44 หมื่นไร่ รองลงไปคือ "สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์" ปัจจุบันมีที่ดินรวมประมาณ 3 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้ราว 7% ปล่อยเช่าสร้างรายได้เชิงพาณิชย์
บมจ.ไออาร์พีซี ผู้ผลิตปิโตรเคมีรายใหญ่ มีที่ดินรวมประมาณ 1.7 หมื่นไร่ แปลงใหญ่อยู่ที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา "ตระกูลมาลีนนท์" กลุ่มทุนธุรกิจสื่อสารถือครองที่ดินในมือไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่ แลนด์ลอร์ดอีกราย คือ "นายแพทย์บุญ วนาสิน" ประธานกรรมการบริหารกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี มีที่ดินในมือประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิกว่า 1 พันไร่
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576 (http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1403008576)
เคสลักษณะนี้เกิดขึ้นกับบริษัทใหญ่ๆในไทยเป็นจำนวนมาก ไม่มีบริษัทไหน clean 100% หรอกครับ บางอย่างก็ดี บางอย่างก็ไม่ดี ต่อให้เป็นบริษัทใหญ่ๆในต่างประเทศก็เป็นลักษณะนี้เช่นกันครับ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก กลุ่มที่โหดกว่านี้ก็ยังมีครับทั้งในไทยและต่างประเทศ
ในต่างประเทศการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างส่วนมากจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อนำไปใช้พัฒนาสังคมในระดับท้องถิ่นต่อไป โดยการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเกิดขึ้นทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนา
อย่างเช่นในสหรัฐฯแนวทางการจัดเก็บภาษีที่ดินและที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกันไปตามที่แต่ละเขตการปกครองกำหนด อย่างใน Los Angeles จะมีการจัดเก็บภาษีที่อยู่อาศัยในอัตรา 1%ของราคาประเมินของทางราชการ ซึ่งจะต่ำกว่าราคาตลาด และจะมีการประเมินมูลค่าใหม่ทุกปี
ขณะที่ญี่ปุ่นมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในอัตรา 1.4%-2.1% ของมูลค่าที่ประเมินโดยรัฐบาล โดยหากอยู่ในพื้นที่ที่มีแผนพัฒนาเมืองก็จะต้องเสียเพิ่มอีก 0.3% ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าประเทศที่พัฒนาแล้วมีการเก็บอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในระดับสูง เนื่องจากคนในประเทศมีรายได้พอที่จะจ่ายภาษีดังกล่าวโดยไม่กระทบต่อมาตรฐานการครองชีพ ขณะที่ระบบสาธารณูปโภคต่างๆพัฒนาขึ้นชัดเจนเป็นลำดับ
ด้านการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในประเทศกำลังพัฒนาจะมีอัตราการเก็บที่ต่ำและอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยอาจมีการเพิ่มอัตราการเก็บจริงในอนาคต เมื่อเศรษฐกิจขยายตัวและประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น
ตัวอย่างเช่น ที่อินโดนีเซีย มีเพดานอัตราการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ 0.5% โดยลดหย่อนภาษีให้กับที่ดินและบ้านที่มูลค่าต่ำกว่า 1 พันล้านรูเปียห์(ประมาณ 2.5 ล้านบาท)ให้จ่ายเพียง 20%ของเพดานอัตราภาษี หรือประมาณ 0.1% ของมูลค่าประเมิน ในขณะที่ที่ดินและบ้านที่มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านรูเปียห์จะลดหย่อนให้เสียภาษีเพียง 40% ของเพดานอัตราหรือเสียประมาณ 0.2% ของราคาประเมิน
ส่วนที่เวียดนามมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับที่ดินที่ไม่ใช่พื้นที่เกษตรกรรม โดยจัดเก็บในอัตราภาษีตั้งแต่ 0.03% ไปจนถึง 0.2% ของราคาประเมินขึ้นอยู่กับประเภทของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโดยรัฐบาลจะคงอัตราภาษีจัดเก็บจริงไว้ 5 ปี ก่อนจะมีการพิจารณาอัตราภาษีจัดเก็บใหม่อีกครั้ง
http://www.propertytoday.in.th/rising/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3 (http://www.propertytoday.in.th/rising/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3)
-
มาอ่านอีกที ออกนอกเรื่องรถไปซะแล้ว :P
-
จากโรงงาน MG กลายเป็นเรื่องของ CP ซะเเล้ว 555
-
กฎหมายลองหาอ่านดูนะครับ ของเมืองนอกตามหลักการต่อต้านการผูกขาด (Antitrust Law)
หรือการแข่งขันที่เป็นธรรม (Competition Law) ชื่อมันจะวนไปวนมาแบบนี้
ของเมืองไทย ชื่อ พรบ.การแข่งขันทางการค้า (2542) อยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงพาณิชย์
ส่วนเรื่องบอร์ด (คกก.การแข่งขันทางการค้า) คาดว่าคุณ Smith686 จะไม่ได้อัพเดตข้อมูล ผมแปะให้แล้วกัน
http://otcc.dit.go.th/?page_id=140 ชุดล่าสุด 23 ก.พ.2559
บางเรื่อง มันอัพเดตตลอด ระวังการแปะข้อมูลที่ไม่เป็นจริงแล้วจะผิด พรบ. นะครับ
ผมเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตรงนั้น แต่บางครั้งประชาชนสับสนเพราะการคิดว่า Google ทุกอย่างคือคำตอบนี่แหละ
-
กลัวกระทู้จะกลายเป็นคนละอย่างกับหัวข้อนะครับ
ส่วนตัวผมว่า MG คงมีแผนส่งออกครับ ไหนๆตั้งโรงงานแล้ว
-
เมื่อเช้าดูข่าวเกี่ยวกับการค้าชายแดนไทยลาว เห็นรถ MG3 ทะเบียนลาวด้วยครับ แต่เป็นพวงมาลัยขวา
-
ไม่มีข้อมูลในมือว่าเคยส่งออกมั๊ย แต่ผมว่า ยังไงเขาก็ต้องมีแผนส่งออกให้เร็วครับ
ส่วนเรื่อง CP ผมควรคอมเมนท์อะไรมั๊ย ? เอาเป็นว่า ผมว่าไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้หรอก เจ้าสัวไม่ได้มีแต่ด้านแย่ และไม่ได้มีแต่ด้านดี ไม่ต้องให้เครดิตเยอะ และก็ไม่ควรดิสเครดิตเขาเกินไป ความเห็นผมประมาณนี้
-
เรื่อง CP เอาเป็นว่าเมืองไทยมีกฏหมายป้องกันการผูกขาด (Anti-trust Law) อยู่แล้วครับ เพียงแต่ว่าเค้าอาศัยช่องว่างกฏหมายตัวนี้ได้เหมือนกัน แม้แต่ประเทศที่มีกฏหมายป้องกันการผูกขาดเป็นประเทศแรกๆของโลกอย่างอเมริกา ทุกวันนี้คุณก็จะเห็นว่ามหาเศรษฐีของประเทศนี้ก็ครอบครองธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศเช่นกันทั้งที่มีกฏหมายต่อต้านการผูกขาดอยู่แล้ว เพราะมันมีช่องว่างอยู่นั่นแหละครับ
-
เทสโก้ โลตัส ซีพี ยังไม่ได้ซื้อครับมีแต่ข่าวหลอกลวงทั้งนั้น ด้านดีเขาก็มีเยอะแยะ ผมดูแล้วเขาก็ไม่ได้ผูกขาดอะไร แหลมทอง เบทเทอร์ คาร์กริล สหฟาร์ม และบริษัทอื่นๆอีกเขาก็ยังอยู่ได้ บิ๊กซีมินิ ก็ขยายตัวไปแทบทุกอำเภอ คนทำธุรกิจเขามองว่าอะไรที่ทำก่อนคนอื่นแล้วได้ผลดีต่อบริาษัทเขาก็ทำครับ อย่าแอนตี้กันนักเลยครับ
-
เทสโก้ โลตัส ซีพี ยังไม่ได้ซื้อครับมีแต่ข่าวหลอกลวงทั้งนั้น ด้านดีเขาก็มีเยอะแยะ ผมดูแล้วเขาก็ไม่ได้ผูกขาดอะไร แหลมทอง เบทเทอร์ คาร์กริล สหฟาร์ม และบริษัทอื่นๆอีกเขาก็ยังอยู่ได้ บิ๊กซีมินิ ก็ขยายตัวไปแทบทุกอำเภอ คนทำธุรกิจเขามองว่าอะไรที่ทำก่อนคนอื่นแล้วได้ผลดีต่อบริาษัทเขาก็ทำครับ อย่าแอนตี้กันนักเลยครับ
การแอนตี้ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลครับ ซึ่งถ้าบุคคลใดเห็นถึงธรรมมาภิบาลบริษัทนั้นๆ ดูการทำธุรกิจที่ไม่โปร่งใสและผูกขาด ทำให้ธุรกิจรายย่อยในประเทศหายไปทุกวัน ทำให้อนาคตของประเทศนับวันยิ่งถูกผูกขาดกับบริษัทนี้ ต่อไปบริษัทผูกขาดเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทางใดก็ได้ ทั้งหมดนี้บุคคลใดก็สามารถช่วยธุรกิจอื่นๆในชาติด้วยการไม่อุดหนุนสินค้าบริษัทที่ผูกขาดเหล่านี้ครับ
-
ผมสงสัยเรื่องเงื่อนไขของการประกอบในประเทศ ที่ประมาณว่าต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 40 อันนี้ ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ
เพราะเข้าใจว่า MG มีโรงงานที่จีนครบหมดแล้ว หรืออาศัยสั่งซัพพลายเออร์มือปืนรับจ้าง(ให้หลายๆยี่ห้อ)เอา
แล้วทำแต่โรงงานประกอบอย่างเดียว ไม่ทำโรงงานผลิตชิ้นส่วน
-
ผมสงสัยเรื่องเงื่อนไขของการประกอบในประเทศ ที่ประมาณว่าต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศอย่างน้อยร้อยละ 40 อันนี้ ไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ
เพราะเข้าใจว่า MG มีโรงงานที่จีนครบหมดแล้ว หรืออาศัยสั่งซัพพลายเออร์มือปืนรับจ้าง(ให้หลายๆยี่ห้อ)เอา
แล้วทำแต่โรงงานประกอบอย่างเดียว ไม่ทำโรงงานผลิตชิ้นส่วน
ใช่ผมก็สงสัยตรงนี้ครับ
-
อะไรที่เป็น cp ผมขอบาย
แต่ผมชอบไส้กรอกเค้านะ5555 ขำๆนะครับคงจะไม่ว่ากันเนาะ ;D
-
http://classic.saicmg.com/global/
ประเทศที่เป็นเป้าหมายรถ MG ส่วนมากเป็นประเทศกำลังพัฒนาทั้งนั้นเลยนะครับ
แถมประเทศที่พวงมาลัยขวาแบบบ้านเรา มีอยู่ไม่กี่ประเทศเอง เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฮ่องกง แอฟริกาใต้ เคนย่า ศรีลังกา
เลยแอบงงว่า ผลิตรุ่นพวงมาลัยขวา 5 หมื่นคันต่อไป จะขายได้มากขนาดนั้นจริงๆ หรือครับ หรือว่าไทยจะเป็นฐานการผลิตหลักกระบะ (ทั้งพวงมาลัยขวาและซ้าย)