Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤศจิกายน 06, 2016, 20:01:17
-
อยากให้เพื่อนๆ ช่วยกันแชร์ครับ ว่าใน เฟส 2 สำหรับ eco car
ทุกท่านอยากให้บริษัทรถเอาเครื่องแบบไหนมาลง (เน้นที่ NA นะครับ)
โดยส่วนตัวผมอยากได้เครื่อง 3 สูบครับ เพราะเครื่อง 3 สูบแรงบิดรอบต่ำดี เสียงเครื่องเพราะ ไม่หนักรถเพราะ
เครื่องยนต์เบามาก
ถึงจะสั่น เดินไม่เรียบเท่า 4 สูบ ก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญ คือ ได้ความประหยัดมากกว่า 4 สูบ
ที่รู้เพราะ จขกท ใช้ March วิ่งในเมืองรถติดๆ ยังได้ 12-13 โลลิตรเลยครับ เฟส 2 น่าจะทำได้ดีกว่าอีกเยอะ
ค่าดูแล 3 สูบมันถูกกว่าเยอะเลยครับ อย่าง HR12DE ใน march ใช้น้ำมันเครื่องแค่ 3 ลิตร
ราคาเครื่องก็ไม่แพง ของใหม่ 35,000 โอเว่อร์ฮอลก็ไม่แพงเท่า 4 สูบ
ผมอยากเห็น Yaris เอาเครื่อง 1.0 1KR-FE มาลง น่าจะประหยัดดี แต่อาจลงในรุ่น J ก็ได้ครับ รุ่น E G เอาเครื่อง 4 สูบลงตามปกติ
(http://toyota-engine.ru/images/engines/1KR-FE/1kr-fe-003.JPG)(http://s2.paultan.org/image/2014/08/perodua-axia-engine-bay.jpg)
รบกวนแลกเปลี่ยนกันด้วยครับ ขอบคุณครับ
-
จขกท. เป็นคนขับรถแบบไม่ค่อยกังวลรายละเอียด ไม่ขับเร็ว ไม่ออกต่างจังหวัด ฯลฯ เลย
ใช้รถเป็นรถจ่ายกับข้าว ขับในเมือง ทำให้ประสิทธิภาพช่วงปลายของ 4 สูบ
ไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย ก็เหมาะกับ 3 สูบ ตามที่เขียนมาเป๊ะๆ นั่นล่ะครับ
การออกแบบเครื่องสามสูบให้ดี แม้จะประหยัดพื้นที่ แต่ก็ต้องออกแบบเพลาถ่วงสมดุล
หรือไม่ก็ต้องออกแบบให้ฉลาดแบบเครื่อง 1.0 Ecoboost ที่วางเยื้องๆ
ดังนั้นกลายเป็นเทคโนโลยีในการพัฒนาหรือต้นทุนจริงๆ อาจจะต่างไม่มาก
แค่ทำให้ห้องเครื่องเล็กลงได้โดยไม่ต้องออกแบบเกียร์ให้เล็กเกิน อะไรแบบนี้
ส่วนตัวผมสนใจแต่ว่า ถ้ามีรถคันต่อไป อาจจะไม่เน้นซีซีน้อยแล้ว จะกี่สูบช่างมัน แต่ต้อง 1.5 ลิตร ขึ้น
เพราะ 1.2 ลิตร เอาจริงๆ วิ่งทางไกลเค้นมากไปนิดหนึ่ง คือ ขับเร็วได้ ช่วงล่างดี แต่แซงไม่ขึ้น ยังต้องลุ้นมากไปนิด
ผมอยากได้ 80-120 สัก 8 วิ กำลังเซฟ 1.5 เจนหน้า น่าจะเป็นคำตอบให้ผมได้มากกว่าเครื่องเล็กๆ
แต่ถามว่า 1.2 มีดีไหม ดี รถติดก็ยังประหยัด วิ่งไม่เกิน 120 ประหยัดมาก ทำยังไงก็เกิน 10 โล/ลิตร
-
ผมกี่สูบก็ได้ ขอแค่ขับดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
-
มันจะกี่สูบ จะกี่ซีซี ผมไม่สนครับ จะ 2 สูบ 3 สูบ 4สูบ 6 สูบ หรือ จะสูบครึ่งก็ได้ ....
สนแค่ว่า ประหยัดน้ำมันเท่าไร 25-26 กม/ลิตร ได้ป่าว
กำลังแรง แรงบิดมีเพียงพอหรือเปล่า ....
ผลลับ สำคัญกว่ารูปแบบครับ ....
-
เจ้าของ มีนา ปัจจุบันนี้ ผมเชื่อว่าเกินครึ่ง ยังไม่รู้เลยว่ารถตัวเองมี 3 สูบ
-
6สูบครับ ล้อเล่น อยากได้แบบ 2 ได้ทั้งประสิทธิภาพและความประหยัดหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
-
กี่สุบผมยังไงก็ได้ แต่ตอน ใช้ attrage 1.2 MT พอใจครับ เร่งดีทีเดียว นั่งเยอะก็ไม่มีปัญหา แต่ไม่รู้ถ้าเป็น cvt ผมอาจจะ ขอไปใช้ 1.5L แทนก็ได้ เช่น vios 1.5 cvt
แอททราจแค่เปลี่ยนแต่หัวฉีดเท่านั้น นอกนั้นเดิม และเติม e85ตลอด รถผมมันก็ทะลุ 185 km/hr เลยไม่ยาก ขับทางไกลตลอด ครบ3ปี แสนโลนิดๆ ยังปกติ ก็ยังประทับใจอยุ่ครับ
สรุป ขอให้อัตราเร่งเพียงพอ และประหยัดน้ำมันครับ กี่สูบกี่cc ก็ได้
-
เลือกให้ตรงกับการใช้ชีวิต :-*
-
+1 ตามท่าน แมวดราม่า กล่าวครับ
-
3 สูบ อารมณ์แนวแบบเบาๆ ดิบๆ ดีครับ
-
กับรถอีโคคาร์ที่ซื้อมานี่ ผมไม่เคยคิดเรื่องสูบเลยสิครับ
ถ้าจะเลือกได้ก็4สูบที่ประหยัดกว่า3สูบแล้วกัน เพราะ มันน่าจะเดินเรียบกว่า ขับเหนื่อยน้อยลงหน่อยนึง ทางไกลคงได้ขับบ่อยขึ้น
ปัจจุบัน 4สูบมันกินกว่าสามสูบมากกว่า10%เลยครับ ทางเดียวกันคนขับเดียวกันยาริสเติม350 แต่March เติม 280บาท
-
3 สูบ 1,500 cc น่าจะดีนะครับ ได้ทั้งประหยัดค่าบำรุงรักษา ได้ทั้งความแรง
( แต่เครื่องอาจจะเดินเรียบสู้ 4 สูบไม่ได้บ้าง ) :-* :-* :-*
-
ถ้า 3 สูบ แล้วแรงแบบ Mazda 2 diesel ก็เอานะ
-
ผมขอสี่สูบดีกว่า ที่สำคัญวิ่งใช้งานจริงให้ได้เกินยี่สิบโลลิตร
-
กี่สูบก็ไม่สำคัญครับ สำคัญที่ Output ที่มันให้มากกว่า
-
ที่บ้านมีอีโคคาร์สองคัน คือมาร์ช (3 สูบ) กับสวิฟท์ (4 สูบ) ให้ขับในชีวิตประจำวัน ผมแทบนึกไม่ออกเลยครับว่าคันไหนมีสามหรือสี่สูบ มันคล้ายกันมาก โอเคแหละอาการบางจังหวะ รถสามสูบอย่างมาร์ชอาจมีขโยกๆเบาๆบ้าง แต่ไม่ถึงกับรับไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้นถ้าออกแบบซับแรงเขย่าเครื่องมาดีๆ ผมก้รับได้ครับ
-
เรียนถามท่านผู้รู้....(ไม่เคยศึกษา)
เครื่อง 3 สูบนี่ แต่ละสูบ ข้อเหวี่ยงแต่ละสูบ เยื้องกัน 120 องศาหรือเปล่า
ถ้าใช่ก็น่าจะดี นะ...
-
เรียนถามท่านผู้รู้....(ไม่เคยศึกษา)
เครื่อง 3 สูบนี่ แต่ละสูบ ข้อเหวี่ยงแต่ละสูบ เยื้องกัน 120 องศาหรือเปล่า
ถ้าใช่ก็น่าจะดี นะ...
หลักการคือ เอา 1 รอบ 360องศา มาหารจำนวนลูกสูบ เพื่อให้ได้ความต่อเนื่องของการจุดระเบิด
แต่จะมีบางยี่ห้อ จัดองศาการจุดแตกต่างไป เพื่อเสียงหรือลักษณะเฉพาะของแบรนด์ตัวเองครับ
-
ผมหัวโบราณครับ 4 สูบ ของ Mazda2 1.3
-
จริง ๆ จำนวนสูบ ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ครับ
ถ้าพูดถึง Eco car ผมอยากให้ ประหยัดน้ำมันกว่านี้อีกสัก 30-50% นะครับ
ด้วยความความเคารพ ถ้าขับประมาณ 90-100 ได้สัก 30 up ผมว่า จะเป็นอะไรที่สุดยอดมากครับผม
อื่นๆ พวกเทคโนโลยีผมไม่ค่อยสนใจนะ เอาทน เอาราคาไม่แรงก็พอครับ
จริงๆ ประทับใจ M2 มาก แต่ว่าตัวดีเซล ก็ราคาไปไกลเกิน Eco car ไปแล้ว
-
จริง ๆ จำนวนสูบ ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ครับ
ถ้าพูดถึง Eco car ผมอยากให้ ประหยัดน้ำมันกว่านี้อีกสัก 30-50% นะครับ
ด้วยความความเคารพ ถ้าขับประมาณ 90-100 ได้สัก 30 up ผมว่า จะเป็นอะไรที่สุดยอดมากครับผม
อื่นๆ พวกเทคโนโลยีผมไม่ค่อยสนใจนะ เอาทน เอาราคาไม่แรงก็พอครับ
จริงๆ ประทับใจ M2 มาก แต่ว่าตัวดีเซล ก็ราคาไปไกลเกิน Eco car ไปแล้ว
อ่านย่อหน้าแรกนี่ M2 ลอยมาเลยครับ
พอปิดท้าย ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆด้วย
-
เครื่อง 3 สูบ turbo 1.5 ของ BMW ที่อยู่มน mini กับ x1 น่าจะตรงที่สุด
แรงและประหยัดมาก เอามาต่อ Pulgin hybrid ต่อได้อีก
-
118 ยังใช้ 3 สูบเลยครับ
คงไม่มีปัญหาถ้าเครื่องไม่สั่นเกิน
-
4 สูบครับ ถ้า NA
-
4สูบสิเดี๋ยวแพ้ไบค์เกอร์ 55+
-
ขอ 4 สูบครับ ดีเซลเทอร์โบแบบ 2
สัก 130-150 ม้า
หรือ 2 สูบเทอร์โบ TwinAir 105 ก็น่าใช้ครับ ;D
-
ดูประสิทธิภาพเป็นหลักครับ เพราะเชื่อด้วยเทคโนโลยี ทำให้ความต่างไม่ห่างมากเหมือนแต่ก่อน