Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: aod ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 19:55:19

หัวข้อ: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: aod ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 19:55:19
ตามความคิดของผมคือ รถยี่ปุ่นจะใช้ชิ้นส่วน หัวฉีด Denso กล่อง ecu ก็น่าจะมาจากบริษัทเดียวกัน เกียร์ก็ Aisin เหมือนกัน ทำไมความทนทานมันจึงต่างกันครับ ขอความคิดเห็นจากสมาชิกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:00:22
ของที่ใช้มันมีหลายเกรดหลายราคานะสิครับ ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกวัสดุอุปกรณ์แบบไหนมาใช้ ความคงทนมันต่างกัน

บางอุปกรณ์กำหนดให้ใช้งาน 3-4 ปี ต้องเปลี่ยน ไม่ใช่ให้ลากใช้ 6-7 ปี ถ้าไม่แสดงอาการอะไรก็ใช้จนกว่าจะเสียนั้นละครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:03:01
ตามความคิดของผมคือ รถยี่ปุ่นจะใช้ชิ้นส่วน หัวฉีด Denso กล่อง ecu ก็น่าจะมาจากบริษัทเดียวกัน เกียร์ก็ Aisin เหมือนกัน ทำไมความทนทานมันจึงต่างกันครับ ขอความคิดเห็นจากสมาชิกครับ

นิสสันไม่ได้ใช้ Denso และ Aisin นะคับ

ดังนั้นนิสสัน จึงไม่ทนเท่า Toyota และไม่เหมือนเจ้าอื่นแน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:18:02
เกียร์ออโต้ ไอชิน ที่ใส่ใน รีโว่ กับ ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ก็ใช่ว่าจะดี ตอนนี้ตามแก้กันอยู่นะ :P :P :P

(มีคนบอกว่าเกียร์ลูกเดียวกับ ดีแม็ก กับ มิวเอ็กซ์ แต่ไม่ยักกะมีปัญหา)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:19:26
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:32:33
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)

ใช่คับ ตามนั้นเลย

ส่วนตัวผมชอบ CVT7 นะ มันทดละเอียดดี แต่จะดูยานๆ หน่อยแต่รอบต่ำมาก ค่อยๆ วิ่งไปมันก็วิ่งได้ไวนะคับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:35:49
 ต่อให้เป็นเกียร์ Aisin  เหมือนกันแต่อยู่ในรถคนละรุ่นคนละยี่ห้อก็อาจมีปัยหาต่างกัน      ทั้งนี้มันขึ้นกับการเซทเกียร์ด้วย
 นอกจากนี้แล้วชนิดของรถ แลัะขนาดของรถก็เป็นการกำหนดอายุที่แตกต่างกัน   รถเล็กใช้งานเหมือนกับรถใหญ่แต่ความทนทานของรถเล้กจะน้อยกว่ารถใหญ่ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 20:40:14
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)
555 เกียร์จั๊ดง่าวจริงๆครับ ผมชอบ cvtนะ แต่พอใช้ jatco เกลียดเลย
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 21:30:23
AISIN ที่ใส่ฟอร์จูนเนอร์ กับ MU-X เกียร์ลูกเดียวกัน อาการยังต่างกันเลยครับ ฮ่าๆ

Jatco CVT แต่ละลูก อาการไม่เท่ากัน

CVT-8/CVT-8 Hybrid วิ่งดี๊ดี รอบเด้งได้ด้วย CVT-7 เอ๋อนิดๆ มีตัดรอบ
CVT-M6 ลื่นสมูธรับแรงบิดได้เยอะ CVT-011 ตัวที่ใส่ Teana ต้นอื๊ดอืด...

ส่วน Honda ก็ไม่ได้ใช้ของใครในนี้เลย ไม่เหมือนใครทั้งนั้น...

หัวฉีด Denso ก็ไม่ใช่ คอมแอร์ก็มิใช่ Denso หมด ลูกปืนยังคนละยี่ห้อเลย
โช้คมาคนละทวีป เทียบได้บ้างไม่ได้บ้าง สุดแต่บุญแต่กรรม
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: vachirapoly ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 22:23:14
จากที่ใช้ honda toyota มาแล้ว รวมๆแล้ว toyota ทนกว่า...เพราะการออกแบบที่เรียบง่ายกว่า
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น การถอดคอนโซลหน้ารถ(2DIN) ถ้าเป็น honda นี่ต้องไขสกรู นู่นก่อน ตามด้วยนี่ แล้วก็นั่น
แต่ toyota เอามือดึงเข้าหาตัว กิ๊ฟล็อคก็หลุดทั้งหน้ากากแล้ว แต่ก็มีข้อเสียเพราะถ้า toyota ถอดเข้าออกอาจจะหลวมได้
ทำให้เกิดเสียงต่างๆ แต่ honda สกรูยึดแน่นเหมือนเดิม

ทุกอย่างล้วนมีข้อดีและเสียครับ อย่าง CVT กับ ทอร์ค ... CVT ประหยัดกว่า ทอร์คทนกว่า
ส่วนเกียร์ลูกเดียวกันแต่อยู่ในรถคนละรุ่น มันก็ใช่จะเหมือนกันนะครับ เพราะเครื่องยนต์ที่ต่างกัน
มันก็มีลักษณะเฉพาะของตัวมันเอง การเซ็ตให้เกียร์ที่ใช้ร่วมกัน ทำงานกับเครื่องของตัวเอง
มันก็ยากเช่นกัน อีกค่ายเซ็ตวิ่งดีแต่กินน้ำมัน อีกค่ายเซ็ตประหยัดแต่เกียร์ออกอาการนู่นนี่
แม้จะเซ็ตมาดีที่ต่างประเทศ แต่จะเข้ากันได้กับผู้ใช้งานในประเทศหรือเปล่า ก็อีกเรื่องนึง
แต่โดยรวมแล้ว กลับเป็นโตโยต้าที่ "ตอบโจทย์" คนในประเทศส่วนใหญ่ได้ดีกว่าเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 22:58:13
ต้นทุนต่างกัน คุณภาพของก็ต่างกันไปด้วย หรือถ้ายี่ห้อไหนลด spec ของไปมากๆ เพื่อจะลดต้นทุน คุณภาพก็ต้องแย่ไปด้วยนะครับ

ของถูก+ดี หายากมากๆๆๆๆๆครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: TorTy ที่ พฤศจิกายน 07, 2016, 23:36:47
เกียร์ออโต้ ไอชิน ที่ใส่ใน รีโว่ กับ ฟอร์จูนเนอร์ใหม่ ก็ใช่ว่าจะดี ตอนนี้ตามแก้กันอยู่นะ :P :P :P

(มีคนบอกว่าเกียร์ลูกเดียวกับ ดีแม็ก กับ มิวเอ็กซ์ แต่ไม่ยักกะมีปัญหา)
แก้ไปแล้วครับเป็นที่ตัวซอฟแวร์เกียร์ครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 00:14:44
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)


มันอ่านอย่างนี้จริงๆหรือครับ ผมเรียกว่า จั๊ทโค่ มาตลอด
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 09:08:32
จากที่ใช้ honda toyota มาแล้ว รวมๆแล้ว toyota ทนกว่า...เพราะการออกแบบที่เรียบง่ายกว่า
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น การถอดคอนโซลหน้ารถ(2DIN) ถ้าเป็น honda นี่ต้องไขสกรู นู่นก่อน ตามด้วยนี่ แล้วก็นั่น
แต่ toyota เอามือดึงเข้าหาตัว กิ๊ฟล็อคก็หลุดทั้งหน้ากากแล้ว แต่ก็มีข้อเสียเพราะถ้า toyota ถอดเข้าออกอาจจะหลวมได้
ทำให้เกิดเสียงต่างๆ แต่ honda สกรูยึดแน่นเหมือนเดิม
แต่วิออสกับซิตี้ที่บ้าน รุ่นปีไล่ๆกัน ซิตี้ดังกว่าเยอะเลยครับ คอนโซลหน้าถอดล้างแอร์ไม่รู้กี่รอบแล้วทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 09:54:40
อะไหล่ Densoก็ไม่ได้ทนทุกรุ่น

คอมแอร์Camry มีวาวล์ไฟฟ้าพอแสนกว่าโลก็เสียละ
Aisinใน Volvo S60 มันเอาน้ำมันเกียร์ไหลผ่านHeaterตลอดเวลา แถมแผงกันความร้อนออกเพื่อต้มน้ำมันให้ร้อนออกเพื่อลุยหิมะ เอามาไทยมันก็ไม่ทนครับ

หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Polonium ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 10:12:16
กระทั่งช้อนกินข้าวเป็นเหล็กปั๊มธรรมดาๆ ยังมีหลายเกรดหลายราคาเลยครับ

เรื่องอะไหล่แต่ล่ะค่ายทำไมทนไม่เท่ากันอันนี้ก็คือตามเสปกที่บริษัทรถยนต์กำหนดน่ะแหละครับ เสปกสูงอะไหล่ก็แพงแต่ทน
ทีนี้ต้นทุนทำรถคันนึง สมมติ C segment นะ แต่ละค่ายรถก็มีต้นทุนพอๆกันหมดครับ เค้าถึงจะขายได้ราคาใกล้ๆกัน ทีนี้อย่างโตโยต้าเค้าก็เน้นให้ทนๆไม่จุกจิก งบด้านอื่นก็น้อยลง ออพชั่นก็เลยไม่จัดเต็ม ช่วงล่างก็กลางๆ แต่มาสด้าเค้าเน้นเรื่องการขับขี่มากกว่า ความทนทานก็เลยน้อยลง เพราะต้องคุมต้นทุน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 10:46:59
กะเพรา ต้นซอย กับท้ายซอย ยังอร่อยไม่เท่ากันเลยครับ ทั้งๆที่ราคาเท่ากัน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: No Trespassing ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 11:09:46
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)
555 เกียร์จั๊ดง่าวจริงๆครับ ผมชอบ cvtนะ แต่พอใช้ jatco เกลียดเลย

ชอบๆๆๆ

55555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555555

หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: Darkart ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 12:05:46
ยี่ห้อ Denso ก็ไม่ได้ทนมายนัก
หัวฉีดมาบริษัทเดี่ยวกัน นำมาใส่รถแต่ละยี่ห้อของญี่ปุ่นเหมือนกัน รูหัวฉีด องศาการฉีด เบอร์หัวฉีดยังแตกต่างกันเลย
กล่องECU และเกียร์ บริษัทเดี่ยวกัน นำมาใส่รถแต่ละยี่ห้อ ยังแตกต่างกันเลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 13:19:05
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)


มันอ่านอย่างนี้จริงๆหรือครับ ผมเรียกว่า จั๊ทโค่ มาตลอด
ผมว่า ออกเสียงผิด ทั้ง จาโตโกะ และ จั๊ดง่าว นะครับ
มันย่อมาจาก jtekt automotive corporation  ออกเสียงว่า เจเทคโตะ นะครับ
รง อยู่เส้นบางนา ทำเกียร์ให้ Eco car หลายรุ่น รวมทั้งชุดคอพวงมาลัยด้วยนะครับ จาก company profile
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: h0661036 ที่ พฤศจิกายน 08, 2016, 14:21:48
ต้องดูที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนเป็นหลัก  โรงงานบางแห่งยิ่งทำยิ่งรวย  บางแห่งยิ่งทำยิ่งเจ๊ง โดนฟ้องร้อง  Recall สินค้า

รถบางยี่ห้อก็ให้ลูก หลานไปคุมโรงงานผลิตชิ้นส่วนของตัวเอง  ได้คนดีก็ดีไป ได้คนไม่ดีก็เละ  ... พวกบริษัทฝรั่งอย่างพวก wall mart ให้มืออาชีพเป็นคนดูแล  เจ้าของก็คือผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่มาก้าวก่ายบริหาร 

   
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: champyadme ที่ พฤศจิกายน 09, 2016, 09:50:39
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)


มันอ่านอย่างนี้จริงๆหรือครับ ผมเรียกว่า จั๊ทโค่ มาตลอด
ผมว่า ออกเสียงผิด ทั้ง จาโตโกะ และ จั๊ดง่าว นะครับ
มันย่อมาจาก jtekt automotive corporation  ออกเสียงว่า เจเทคโตะ นะครับ
รง อยู่เส้นบางนา ทำเกียร์ให้ Eco car หลายรุ่น รวมทั้งชุดคอพวงมาลัยด้วยนะครับ จาก company profile

อันนี้มุกหรือจริงจังครับ

ถ้าจริงจัง JATCO กับ Jtekt นี่คนละบริษัทครับ
JATCO ทำเกียร์ Nissan ถือหุ้นอยู่
http://www.jatco.co.jp/ENGLISH/index.html
Jtekt ทำพวงมาลัย แร็ค ครับ
http://www.jtekt.co.jp/e/

ส่วนการออกเสียง ภาษาญี่ปุ่นมันออกเสียง จั๊ตโค่ไม่ได้ เลยออกเสียงเป็น จะโตะโคะ
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: bonss2 ที่ พฤศจิกายน 09, 2016, 10:04:58
/////// บริษัท จาโตโค (ประเทศไทย) จำกัด ครับโรงงานอยู่ที่อมตะนครชลบุรี
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: rapee001 ที่ พฤศจิกายน 09, 2016, 10:13:39
นิสสันใช้จาโตโกะครับ เป็นบริษัทย่อยในเครือ ซึ่งจาโตโกะทำเกียร์ให้รถอีโค่คาร์หลายยี่ห้อ คนไทยเรียกว่าเกียร์จั๊ดง่าว (JATCO)


มันอ่านอย่างนี้จริงๆหรือครับ ผมเรียกว่า จั๊ทโค่ มาตลอด
ผมว่า ออกเสียงผิด ทั้ง จาโตโกะ และ จั๊ดง่าว นะครับ
มันย่อมาจาก jtekt automotive corporation  ออกเสียงว่า เจเทคโตะ นะครับ
รง อยู่เส้นบางนา ทำเกียร์ให้ Eco car หลายรุ่น รวมทั้งชุดคอพวงมาลัยด้วยนะครับ จาก company profile

อันนี้มุกหรือจริงจังครับ

ถ้าจริงจัง JATCO กับ Jtekt นี่คนละบริษัทครับ
JATCO ทำเกียร์ Nissan ถือหุ้นอยู่
http://www.jatco.co.jp/ENGLISH/index.html
Jtekt ทำพวงมาลัย แร็ค ครับ
http://www.jtekt.co.jp/e/

ส่วนการออกเสียง ภาษาญี่ปุ่นมันออกเสียง จั๊ตโค่ไม่ได้ เลยออกเสียงเป็น จะโตะโคะ

JTEKT เป็นบริษัทลูกของโตโยต้าเค้าครับ ดังนั้นไม่เกี่ยวกับ JATCO แน่นอน
หัวข้อ: Re: ทำไมรถยี่ปุ่นด้วยกันความทนทานจึงต่างกัน
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ พฤศจิกายน 09, 2016, 23:56:22
ไม่แปลกครับ เพราะรถแต่ละคัน ใช้อะไหล่เกรดต่างกัน ถ้าเคยอยู่ในวงการชิ้นส่วนรถยนต์จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีครับ