Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ์ีNuch ที่ พฤศจิกายน 29, 2016, 16:24:01

หัวข้อ: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ์ีNuch ที่ พฤศจิกายน 29, 2016, 16:24:01
รถ BENZ C180 EXCLUSIVE อายุประมาณ 2 ปี สอบถามตามนี้ค่ะ
1. ยังไม่เคยเปลี่ยนไส้กรองแอร์ // แต่เนื่องจากใช้รถน้อยมาก วิ่งได้ไม่ถึง 12000 ทางศูนย์พระราม 3 แนะนำให้เปลี่ยน แจ้งราคาประมาณ 3800-4000 บาท ตอนนี้ในรถยังไม่มีกลิ่นค่ะ ไม่ทราบว่าเราควรจะเปลี่ยนที่ศูนย์หรืออู่ข้างนอกดีคะ...
2. สอบถามติดกล้องมองหลังค่ะ ...ขับรถจอดเข้าซองไม่เก่ง เลยอยากติดกล้องมองหลังค่ะ ...แต่รถยังอยู่ในประกันของศูนย์ เราควรรอให้หมดประกันของศูนย์ก่อนไม๊คะ // มีร้านไหนที่แนะนำไม๊คะ ( แถวพระราม 3 )
3. ทางศูนย์ แจ้งโปรสำหรับการต่อประกันรถเพิ่มอีก 2 ปี ราคาประมาณแสนกว่า (ตัวเลขที่แน่นอนจำไม่ได้ค่ะ) หารต่อปีก็ 5 หมื่นกว่า ไม่ทราบว่าจะทำประกันเพิ่มดีไม๊คะ
4. เคยมีปัญหาเรื่องพวงมาลัย เวลาเลี้ยวแล้วมีเสียงดัง มันดังมากค่ะ แต่เป็นอยู่ช่วงเวลานึงในการขับรถ แล้วก็หายไป เข้าศูนย์ช่างบอกเคยเจอปัญหากับรถรุ่นนี้ ต้องให้ทิ้งรถไว้ 2-3 วัน ถ้ามีเสียง จะเปลี่ยนอะไหล่ให้ฟรี /// แต่หลังจากวันที่เกิดเสียงจนถึงตอนนี้ ไม่มีเสียงนั้นอีก กล้วว่าถ้าหลังจากหมดประกันแล้วเกิดเสียงขึ้นมา อะไหล่คงจะแพงมาก ไม่ทราบว่าเราควรจะแจ้งศูนย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงคะ
สมาชิกใหม่ โพสต์ครั้งแรกค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ / ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ พฤศจิกายน 29, 2016, 18:26:38
ตอบได้เท่าที่พอทราบนะครับ

1.เท่าที่ใช้รถมา ส่วนมากผมจะเปลี่ยนกรองแอร์ที่ระยะวิ่งประมาณ 20,000 km. ครับ
   (ทั้งเบนซ์และยี่ห้ออื่น)
   ของจขกท.ใช้อีกสักพักก็ได้ครับ นอกจากว่าศูนย์เปิดดูแล้วสภาพควรเปลี่ยนจริงๆ
2.รอให้หมดระยะประกันก็ดีครับ ศูนย์มีเรื่องตุกติกได้ทุกเมื่อ
   ขนาดบางเคสอยู่ในระยะประกัน ศูนย์ยังบิดพลิ้วเอาตัวรอดได้เลยครับ
3.แล้วแต่ครับ
   (โดยส่วนตัวผมไม่เคยต่อครับ คิดว่าค่าประกันคิดๆแล้วถ้ามีอะไหล่เสียก็พอกัน
   รถยังใหม่ๆ ถ้าโชคดีไม่มีอะไรเสีย=ทิ้งเงินเปล่าๆครับ)
4.ถ้ามั่นใจในศูนย์บริการ ทิ้งรถให้เช็ค ให้เจอปัญหาจริงๆแล้วเปลี่ยนจะดีที่สุดครับ
หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ พฤศจิกายน 29, 2016, 18:49:34
1. ถ้าเป็นผมจะรอสัก 3 ปีให้ระยะประมาณ 20,000 กม. หรือสังเกตกลิ่นแล้วถึงจะแจ้งเปลี่ยน
2. ลองอ่านตามคลับ Mercedes มีร้านดังๆ 2-3 แห่งที่รับติดตั้ง ก็กังวลเรื่องประกันศูนย์เหมือนกัน แต่ผมคงแคร์ความปลอดภัยในการขับขี่ของตัวเราก่อน
3. ถ้าใช้แค่ราวๆ นี้ผมคงไม่ซื้อประกันเพิ่ม ยกเว้นภายใน 3 ปีมีการเคลมชิ้นส่วนกลไกหนักๆ อาจมีเขวเหมือนกัน เงินแสนนี่ก็จ่ายค่าซ่อมได้หลายชิ้นอยู่นา
4. มี 2 ทางคือ ใช้ไปจนกว่าเจอเสียงดัง แล้วรีบเข้าศูนย์เดี๋ยวนั้นเลยก่อนเสียงจะเงียบไป บันทึกวิดีโอไว้ยิ่งดี หรือไม่ก็หาศูนย์ที่ไว้ใจได้ ทิ้งรถให้เขาวิ่งทดสอบ วิธีหลังนี่เปลืองน้ำมันแน่ๆ
หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Super hornet ที่ พฤศจิกายน 29, 2016, 18:51:19
1 ไส้กรองแอร์พึ่งวิ่งมาแค่12000ใช้ต่อยาวๆครับถึงประมาณ20,000-25,000โลค่อยเปลี่ยน
เรื่องเปลี่ยนที่ไหน แนะนำเปลี่ยนศูนย์ดีกว่าไส้กรองแอร์ไม่แพง บวกค่าแรงแล้วน่าจะรับไหว ไปอู่นอกต้องไว้ใจได้เท่านั้น ไม่งั้นเห็นเป็นผญจะโดนโขกเอา
2 รอให้หมดประกันก่อนดีกว่า ถ้าไม่อยากเสียเปรียบวารันตีของศูนย์อย่าพึ่งไปดัดแปลงตัวรถหรือยุ่งกับระบบไฟเลย รวนขึ้นมาศูนย์มีข้ออ้างที่จะไม่รับผิดชอบทันที
3 รถยังใหม่มาก สำหรับผมคิดว่ามันเป็นเบี้ยทิ้งเปล่าๆ ถ้าไม่เจอแจ็คพอตรถมีDefectร้ายแรง คิดว่าไม่คุ้มครับ
4 ถ้ามีเวลาพอก็ทิ้งรถไว้ศูนย์ แล้วแจ้งอาการกำชับช่างให้ดูเป็นพิเศษเฉพาะจุดที่คิดว่าเป็นปัญหา ช่วงนี้ก็หาเวลาใช้รถให้เยอะๆหน่อยบางทีวิ่งน้อยๆอาการมันยังไม่ออก แต่เอาเข้าศูนย์ก็ไม่รับประกันว่าช่างจะซ่อมให้จริงรึเปล่า หรือ จะหายขาดรึเปล่า
หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ พฤศจิกายน 30, 2016, 05:26:47
1.ลองเช็คเทียบราคาก่อนครับ อู่นอกถูกกว่าเยอะก็เปลี่ยนอู่นอกก็ได้ ส่วนตัวผมเปลี่ยนทุกปี
2.รอให้หมดก่อนครับ เดี๋ยวมีปัญหาจะโดนโบ้ยแน่นอน ไม่คุ้ม
3.รถยังใหม่ไม่ทำดีกว่าครับ แต่ถ้าเคสแบบประกัน5ปีเพิ่มได้อีก1ปีแบบนี้น่าสนเพราะรถมันเริ่มมีอายุแล้ว
หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ พฤศจิกายน 30, 2016, 07:28:22
1. ลองเช็คอู่นอกเทียบดูก็ได้ครับ รุ่นนี้น่าจะมีกรอง2ตัวคือกรองฝุ่นและกรองถ่านที่จะดูดกลิ่นเก็บไว้ ที่บอกมาน่าจะเป็นกรองฝุ่นนะครับ ถ้ากรองถ่านสะสมมากๆก็จะมีกลิ่นได้ ศูนย์บอกว่าถ้ามีกลิ่นก็เปลี่ยน ถ้ายังไม่มีกลิ่นก็รอก่อนได้ครับ แต่W212ของแฟนผมใช้น้อยเท่าๆกับจขกท. พอครบปีนึงหรือ6พันโลกลิ่นมาเลยครับ กรองของW205จะเป็นแบบนี้ครับ http://www.ebay.com/itm/OEM-GENUINE-MERCEDES-BENZ-C-W205-C400-C300-CHARCOAL-FILTER-AND-PRE-DUST-FILTER-/262559971326
2. ถ้าอยากติดของแท้ก็ให้คุณหนุ่มติดให้เลยครับ คุณหนุ่มใช้พาร์ทแท้และติดตั้งให้ที่ศูนย์ที่จขกท.เข้าอยู่ได้เลยครับ ผมเคยเปลี่ยนพวงมาลัยแท้ของW221 S320 CDI เป็นตัวFaceliftกับเค้าแล้วครับ https://www.facebook.com/Kamikaze.ASA/
3. ถ้าเป็นผมคงไม่ทำ แต่ขึ้นกับจขกท.ครับว่าถ้าห่วงแจ็คพ็อตแตกมาก็ทำไว้ก็ดีครับเพราะอะไหล่Benzแพงเหลือหลายและถ้าหมดWarrantyแล้วเคลมยากมากๆ
4. แนะนำให้ถ่ายคลิปให้ช่างที่ศูนย์ดู และควรที่จะเอาเข้าเคลมเพื่อบันทึกประวัติไว้ก่อนหมดWarrantyครับ น้องสาวผมเคยเอาเข้าเคลมเสียงดังด้านหน้าของA180แต่พอเข้าไปช่างบอกไม่พบอะไร พอหมดWarrantyiถมีปัญหาเสียงดังที่เดิมไม่หายก็เคลมได้ครับเพราะถือว่าเป็นปัญหาต่อเนื่อง
หัวข้อ: Re: รบกวนสอบถาม BENZ C180 EXCLUSIVE ปี2014 ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BenzParagon ที่ พฤศจิกายน 30, 2016, 08:53:46
1.เปลี่ยนที่ศูนย์ครับ เปลี่ยนถ้าสกปรกมากๆ(เน้นว่า สกปรกมากจริงๆ และ มีกลิ่น) เพราะ ยังอยู่ในวารันตี3ปีครับ
ถ้าไม่สกปรกมากๆ ไม่ต้องเปลี่ยนครับ เพราะ กรองแอร์ตัวในรถ ตามคู่มือ เปลี่ยนที่ 20,000 กม. หรือ Service B ครับ

2.ถ้าเป็นไปได้ ควรรอให้หมดวารันตี3ปีครับ เพราะ หากติดแล้วมีปัญหาขึ้นมา ศูนย์ปฏิเสธวารันตี3ได้ง่ายๆครับ
ร้านแนะนำไม่ทราบครับ เทคนิคส่วนตัวเพิ่มเติมสำหรับการถอยจอด นอกจากตัวตรวจจับวัตถุที่คอยเตือน กระจกหลัง กระจกข้างแล้ว
ถ้าไม่มั่นใจใส่เบรคเปิดกระจกออกดูเองครับ ไม่ต้องรีบร้อนครับ

3.ถ้าซื้อเพิ่มแล้วได้ใช้ก็ดีครับ ไม่ใช่พอมีปัญหาเข้าไป แล้วบอกเป็นปกติ
หรือ ถ้าเสีย ก็เปลี่ยนอะไหล่ชิ้นใหม่ให้ ไม่ใช่เอาไปซ่อมก็ดีครับ
ใน1ปี ใช้รถประมาณ 6,000 กม. ใช้รถน้อยครับ
ถ้าไม่เป็นรถ defect 1-2% จากจำนวนรถที่ขายออกไปทั้งหมด
(ถ้าเป็นกันหลายคันเกินกว่านี้ ไม่เรียกdefect แต่รถคุณมีปัญหาที่การผลิตทั้งระบบ)
ถ้าศูนย์ไม่ตุกติกเรื่องการดูแลพวกของเหลวหรือชิ้นส่วนหรืออะไหล่ต่างๆ
ถ้าผมใช้รถประมาณนี้ โดยส่วนตัวคิดว่า ถ้าซื้อไปอาจจะไม่ได้ใช้วารันตีที่ซื้อเพิ่ม
เพราะ 5ปี จะใช้รถไปประมาณ 30,000 กม. ซึ่งถ้ารถมีปัญหาที่ระยะทางขนาดนี้
หรือ สามารถทราบได้ว่ามีหลายคันที่เจอปัญหาทำนองเดียวกัน ไม่ใช่เราที่จะต้องรับผิดชอบครับ
บริษัทรถยนต์ยี่ห้อนี้(หรือยี่ห้อนั้นๆ)จะต้องรับผิดชอบครับ   

4.พอขึ้นรถ เตรียมกล้องเตรียมมือถือไว้ให้พร้อม พอเกิดเสียงอีก ถ้าสามารถ สะดวก และปลอดภัย ถ่ายคลิปเก็บไว้ครับ
แล้วถ้าขณะเกิดเสียงมีศูนย์อยู่ใกล้ๆ ขับเข้าไปเลยครับ ให้เขาดดูทั้งจากคลิปและตัวรถ แล้วให้ศูนย์เปิดเรื่องพิมพ์เอกสารออกมาเก็บไว้ครับ
ว่ารถมีปัญหา ถ้าไม่ถึงขั้นร้ายแรง แต่รถมีปัญหา ถ้าสะดวกเมื่อไรค่อยเข้าไปทำที่ศูนย์นั้นหรือศูนย์ที่สะดวกอื่นๆครับ


Service A 10,000 กม. สำหรับเครื่องเบนซิน เปลี่ยนแค่น้ำมันเครื่องครับ
ตรวจสอบของเหลวต่างๆในระบให้เต็ม
ตรวจสอบจุดต่างๆให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน


น้ำมันเครื่องเบนซินของ MB ประมาณ 4,000 บาท + -
กรองน้ำเครื่องเบนซินของ MB ประมาณ 830 บาท
Service A Package ประมาณ 1,274 บาท
(อาจมี กรองแอร์ตัวนอกรถ กรณี สกปรกมากจริงๆ จนไม่สามารถทำความสะอาดได้ ประมาณ 1,150 บาท)
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด+(ส่วนลด)+VAT โดยประมาณ7,000บาท+-


หากเป็นได้มีลังพลาสติกใส่ไว้ท้ายรถ และบอกเจ้าหน้าที่ที่บริการว่า
กรองต่างๆที่เปลี่ยน ขวดน้ำมันเครื่องของMB ใส่ไว้ในลังพลาสติกท้ายรถ
 
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำส่วนตัวจากข้อมูลและสถิติรวมถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นที่พอจะรวบรวมได้ครับ


สุดท้ายต้องตัดสินใจด้วยตัวเองครับ

ปล.W205