Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ ธันวาคม 18, 2016, 07:33:00
-
ผมมีญาติที่ใช้รถฟอร์ดโฟกัสปี2005 จนทุกวันนี้สองแสนโล ก็ไม่มีอะไรทำให้ดับใหัพังกลางทางแบบเงินซ่อมไม่ได้ เสียเปลี่ยนจบทุกรายกาา
แต่ตอนนี้ดูเหมือนรถรุ่นหลังๆ มีเงินก็ซ่อมไม่จบเท่าไหร่ละ
เป็นเพราะอัดเทคโนโลยีไร้สาระต่อการขับขี่มากไป? หรือ ใช่วัสดุคุณภาพต่ำ? หรือเป็นนโยบายใช้ปีเดียว?
อะไรกันครับ?
-
อยากรู้เหมือนกันครับ
-
ผมว่า พยายามยัดเทคโนโลยีเป็นจุดขายเยอะๆ แล้วไปลดต้นทุนจนมันเอาไม่อยู่เลยสักอย่าง
โฟกัสเก่านี่ ป้าผมใช้ 1.8 E20 ก็ยังอยู่ยงคงกระพันมาแปดปีละ
-
จากที่ใช้มา fiesta ผมมองว่าเรื่องคุณภาพต่ำ บางจุดไม่ควรเสียด้วยซ้ำ
ส่วนเทคโลโลยี่ ผมยังไม่เสียนะ
แต่ผมว่ากล่องควบคุม โปรแกรมการขับขี่ จุดระเบิด ทำงานไม่ดี
เสมือนคนทำมือถือมา โทรเข้าโทรออกได้ แต่มีแฮงบ้าง จับสัญญาณโทรศัพท์ได้ไม่ดี กินแบต ไม่เสถียร ประมาณนี้ ต่อให้อัฟเฟริมให้ตายก็เอาดีไม่ได้
-
เข้ามาอ่านครับ
แต่หลังๆนี่ กระบะกับ PPV ขายดีอยู่นะ
-
ใส่เทคโนโลยีมาก ช่างที่เก่งอยู่ที่ศูนย์ใหญ่ ช่างตามศูนย์ทั่วไป หรือ ตจว. ซ่อมไม่ได้
Everest ป้ายแดงบางคัน ก็ขึ้นยานแม่กันแล้ว
-
ปัญหา Ford ยังไม่จบซักที
คงมีข่าวรวมตัวประท้วงกันอีกเรื่อยๆ ในอนาคต
-
ระบุรุ่นได้ไหมครับ เผื่อจะได้ตามถูก ;D
เท่าที่ประสบมา เห็นจะเป็นเพราะการออกแบบเริ่มต้นส่วนนึงครับ คือให้คนเมืองหนาว (เยอรมัน) ออกแบบกับเซ็ตระบบเกือบทั้งหมด (ช่วงล่าง, drivetrain, ระบบไฟฟ้าหลัก)
เน้นใช้ไม่นาน ใช้ในสภาวะของเขาเป็นหลัก ทิ้งคุ้มกว่าซ่อม 5 ปี ทิ้ง เปลี่ยนใหม่
เทคโนโลยีก็ส่วนนึงครับ โดยเฉพาะเรื่อง PowerShift6 แล้วก็โมดูลควบคุมต่างๆ ที่บทจะเสียจะรวนก็เป็นกันดื้อๆ บางครั้งก็เป็นกันที่ซอฟต์แวร์ และฝั่งที่ดูแลซอฟต์แวร์เขาก็ใช้เวลาในการแก้ปัญหานานพอตัวครับ ถ้าเป็นฮาร์ดแวร์ก็หนังคนละม้วนอีก
อีกอย่างคือชิ้นส่วนบางอย่างเห็นระบุว่าใช้ร่วมกันหมดตั้งแต่ Fiesta ยัน Taurus ลามไปถึง Lincoln แต่เหมือนออกแบบมาไม่ดีพอ เลยมีแจ้งแก้กันเป็นกิจวัตรครับ
ในบริษัทก็เหมือนจะไม่ค่อยคุยกันด้วยครับ ทั้งๆ ที่ หลายๆ ครั้ง มันควรจะคุยกัน แต่เขาก็ไม่คุยกัน พอปัญหางอกก็โยนกันไปมา บางงานก็ควรจะมีคนของฟอร์ดเองมาคุมงานกับซัพพลายเออร์ ติดตามแก้ไขกันอย่างใกล้ชิด แต่ปรากฏว่าฟอร์ดเขาก็ไม่มีคนรับผิดชอบในเรื่องนั้นตรงๆ ก็ใช้วิธีดึง (สั่ง) คนจากแผนกที่เกี่ยวข้องมาร่วมงานกันเป็นครั้งคราวซึ่งไม่ต่อเนื่อง และตัวคนที่มาก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่เพราะเหมือนกับว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขาโดยตรง ซัพพลายเออร์ก็จนใจ (แต่ทำเต็มที่) และมันก็เลยส่งผล (หรืออาจจะส่งผลในอนาคตอันใกล้) ถึงลูกค้าผู้ใช้รถ Ford
ตัวฝรั่งหัวทอง บางทีก็สั่งอย่างเดียว นั่งอยู่บนวิมานเมฆ มโนกันเออออห่อหมกกันไปโดยไม่เคยถามทางประเทศปลายทางเลยว่าต้องการระบบนั้น หรือออพชั่นนี้รึเปล่า ระยะยาวจะดีมั้ย เป็นฟังก์ชันฉาบฉวยรึเปล่า เน้นความ ว้าว กันสองสามเดือน แล้วก็เงียบหายไปแบบนั้นจะดีหรอ ประสบการณ์ของผู้ใช้ end user จะดีรึเปล่า เขาจะใช้กันไหม ลูกค้าจะเอ็ดตะโรเอาเพราะมันแปลกรึเปล่า
โครงสร้างองค์กรใหญ่เกินไป และมีการทับซ้อนกันโดยไม่จำเป็น ใช้เวลาตอบสนองนาน บางจุดควรมีคนมากก็ดันมีไม่กี่คน ทำงานกันมือหงิก
บางจุดในบางตลาดไม่จำเป็นต้องทำ เพราะไม่ได้ใช้ ก็ไปหยิบเอามาทำ เสียเงินโดยใช่เหตุ ไอ้ที่ควรทำก็กลับไม่ทำ :'(
ฟอร์ดควรจะเอารถที่มีแต่แก่น (Core) มาขายในตลาดที่ใช้รถกันยาวนาน เครื่องดีที่ไม่ต้องซับซ้อนมาก เกียร์โอเค ช่วงล่างมั่นใจในสถานการณ์ฉุกเฉินเอาอยู่ ระบบความปลอดภัยครบ โครงสร้างแข็งแรง แล้วเบามือในเรื่องของความแฟนซีไฟฟ้าต่างๆ นาๆ ก็น่าจะช่วยลดคำบ่นลงได้มากครับ
-
ถ้ามองแบบการตลาดพูดกลางๆทุกค่าย เมื่อให้สิ่งนึงมาเยอะ ก็จำเป็นต้องลดอีกสิ่งลงไป เพื่อให้ต้นทุนมันอยู่ได้ เป็นธรรมดานะครับ พิจารณาดูดีๆก็จะเห็นว่าไม่มีค่ายไหนที่มันป๋ากับลูกค้ามากไปกว่ากันเลย
-
เป็นประวัติศาสตร์ ว่ารถฟอร์ด เฟียสตา คุณภาพต่ำ
ฟอร์ดประเทศไทย ทำอะไรไม่ได้
จนคนใช้รถ ต้องออกสื่อ เรียกร้อง กันเรื่อยๆ
ซวยชะมัด ขับเฟียสตา ...
ซ่อมต่อไป Fix or repairs daily
-
เพราะ T6 รุ่นนี้ฃคือ รถที่ พัฒนา ใหม่หมด
แบบที่ หลายๆ คน บอกว่ามันคือ Model Change ไงครับ
ใหม่ หมด เกียร์ เครื่อง เทอร์โบ ตัวถัง เป็น ไงงงงงงง
-
คนซื้อคงฉลาดขึ้นแล้วครับ
พวกคุณภาพห่วยๆ ยอดขายก้อน้อยลงตามลำดับ
แต่ไม่ได้หมายถึงยอดขายเยอะแปลว่ารถดีนะ
-
พาร์ทระบบไฟฟ้า เซ็นเซอร์ไม่ทนครับ เหมือนจ้างทำหลายๆที่ QC คุมคุณภาพหลุดค่อนข้างมากขึ้นหลังๆ ใน EV กับเรนเจอร์ตัวปัจุบัน เจอหลายคันครับ
-
ชิ้นส่วนด้วยมั้งครับเพราะเห็นว่าใช้ชิ้นส่วนจาก จีนและอินเดียเยอะด้วย
-
เทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ทำวันนี้ก็ต้องมีวันหน้าครับ ใครมากมาก่อนต้องเรียนรู้กันไป
ไม่ใส่ เทคโนโลยีอะไรใหม่ๆมา ก็ขาดการพัฒนาในวงการรถยนต์ เทคโนโลยีเก่าที่ผ่านมาสักระยะแล้วอาจมีการปรับปรุงไข อาจได้ความสมบูรณ์แล้ว
แต่ถ้ามัวใช้ของเก่ารากไป ก็ไม่ทันคู่แข่งอีกหละ
-
ต้องระบุเป็นรุ่นๆไปนะ. แต่ละรุ่นจะมีจุดที่เสียต่างกัน
เช่น เฟียสต้า. คือเกียร์. มาอันดับ 1. และดันทุรังจนพินาจอย่างที่เห็น
ส่วน ranger ต้องเข้าใจว่าเป็น full model ปรับไปเยอะแล้วนะกับ 4 ปีที่ผ่านมา. แต่ก็ไม่ทิ้งลอตแรกนะ ตอนนี้ ปี 2012 กำลังเรียกกลับไป update software
-
ตอนนี้ผมว่า ฟอร์ด กำลังเริ่มทำรถขายคนเอเชีย เหมือน Toyota เริ่มเมื่อ 30 ปีก่อน
หาก เรียน รู้ ปรับ ปรุง พัฒนา ให้มันดีขึ้นๆ ไปเรื่อย
แล้ว พัฒนา ความทนทาน ของ พื้นฐาน ปัจจุบัน ให้มันดีขึ้นๆ ไม่ไปเปลี่ยนอะไร ที่มันดีอยู่แล้ว
ยอดขาย คง ดีวันดีคืน จน เจ้าตลาดคิดหนัก
อย่าลืม ว่ารถ กะบะ มัน รถใช้งาน ทุกวัน ใช้งานหนัก คือ ห้าม เสีย ห้ามพัง ง่ายๆ ครับ
-
ลดต้นทุนเป็นหลัก
ทักษะของช่าง และความรับผิดชอบที่ไม่ดีพอ
การเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆคิดว่ามีอยู่แล้วนะในต่างประเทศเพียงแต่บ้านเราพึ่งได้ใช้เท่านั้น
-
ปัญหามันอยู่ที่ Ford และ Getrag มั้ยครับหลักๆ
เพราะเห็นบอกกันไม่ต้องเพิ่มระบบที่ทันสมัยก็ได้ แต่รถมันก็ต้องมีเครื่องยนต์ มีเกียร์มั้ยครับ ไออย่างอื่นที่จุกจิกเปลี่ยนพาร์ทก็หายอย่าง ESC ฮีท พวกนี้ก็ไม่เห็นมีใครบ่นว่ามันซ่อมไม่ได้ แต่เกียร์ซ่อมไม่หายนี่เป็นความผิดของการออกแบบเป็นหลักเลย ถ้าออกแบบมาแบบซ่อมไม่ได้ ไม่รู้จะใช้งานกันไปทำไม แล้วนี่ได้ยินว่าออกแบบคลัทช์รุ่นใหม่มาแล้ว ไม่รู้ว่าผลเป็นไงบ้าง
-
ถ้าผลิตออกมาเน้นว่าใช้ยังไงก็ไม่พังไม่เสีย
Everest, Ranger นี่น่ากลัวมากครับ
ส่วนเก๋ง น่าจะทำแบบ MG คือ สร้างมาให้กว้างด้วย ขับดีด้วย
ผมว่า One Ford ควรแยกกับตลาดเมืองร้อน คือรถเมืองร้อนมันต้องทนชิ๊บ
เลย หรือ engineer ไม่คุ้นเคย ก็ต้องให้ย้ายมาทำ R&D ที่เมืองร้อน
ไม่งั้นไม่มีวันสู้ญี่ปุ่นได้ในตลาดเมืองร้อน
-
ถ้าผลิตออกมาเน้นว่าใช้ยังไงก็ไม่พังไม่เสีย
Everest, Ranger นี่น่ากลัวมากครับ
ส่วนเก๋ง น่าจะทำแบบ MG คือ สร้างมาให้กว้างด้วย ขับดีด้วย
ผมว่า One Ford ควรแยกกับตลาดเมืองร้อน คือรถเมืองร้อนมันต้องทนชิ๊บ
เลย หรือ engineer ไม่คุ้นเคย ก็ต้องให้ย้ายมาทำ R&D ที่เมืองร้อน
ไม่งั้นไม่มีวันสู้ญี่ปุ่นได้ในตลาดเมืองร้อน
จริงๆ ชิ้นส่วนรถยนต์ รถยนต์ ทดสอบ ทุกสภาวะ อากาศนะครับ ทั้ง -20 , +80 , ปกติ
แต่ พอเป็น รถทั้งคัน ไม่ได้ทดสอบตาม นั้นรึเปล่า หรือ เอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หมกปัญหา กันไว้ ตั้งแต่ออกแบบ ก็ไม่รู้ได้
สังเกต Ford จะพังเอาหลังจาก 3 ปี ถ้า มีคันไหน พ้น 5 ปี AT วิ่งเกิน 200000 โล เกียร์ไม่พัง ถือว่าสอบผ่าน
ขนาดรถ CVT ที่ว่ากันว่า กากๆ ยังทะลุ 200,000 กิโลกันหลายคันแล้ว
-
ออกตัวก่อนว่าสิงอยู่ในคลับ โฟกัสนะครับ
และใช้โฟกัส ตัวโมเดล 1.6 กับ 2.0 ที่จับคู่กับ Powershift ปัญหาทั่วๆไปนะครับในคลับก็ซ่อมกันจบทุกปัญหา
แต่ปัญหาจุกจิกพวกช่วงล่างกับเพลาขับมันจะเสื่อมไวกว่าอื่นหน่อยแค่นั้น (เพราะบูชมันเยอะพอมันเสื่อมซักตัวอาการก็เริ่มออก ไม่เหมือนหลายค่ายที่พอช่วงล่างเริ่มไปแต่รถมันไม่ได้เปลี่ยนแปลงจนเจ้าของจับอาการพอเอาไปซ่อมเท่านั้นปหละโดนชุดใหญ่)
ส่วนเฟียตต้าตัวหลัง 1.0 มา จนถึงตัวปัจจุบัน อัพเดตระบบซอฟแวร์เกียร์แล้วนะครับปัญหาน้อยลงเยอะมาก
ตอบโดยรวมช่วงล่างก็เรื่องมากประมาณยุโรปทั้งหลาย ทั้งที่ราคาไม่เท่าพวกนั้น โฟกัสการขับขี่มั่นใจไม่แพ้พรีเมี่ยมในคลาสเดียวกันด้วยซ้ำ
-
แล้วเมื่อก่อน ฟอร์ด สุดยอดรถ หรือเปล่า ฝรั่งให้ ฉายา FORD: Found On the Road Dead ยี่ห้ออื่นดีขึ้นกว่าเดิม ผมก็ว่าไม่นะ มันก็พัฒนาไปตามยุคสมัย
-
ฟอร์ดเป็นรถที่ดี ชอบสร้างเทคโนโลยีใหม่ๆ อัดออปชั่น แต่ด้วยการ่ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทำให้มีข้อเสีย เรื่องการ error ของระบบ ไม่เหมือนเจ้าตลาด ทำออกมาดีแล้ว หยิบใช้ของเก่า ปรับปรุงของใหม่นิดหน่อย เลยไม่ค่อยเกิดปัญหา
-
กอยังมอง เอเวอเรสอยู่ครับ :'(
-
เอาหลักๆที่ทำให้ชื่อเสียงแย่ ก็ เกียร์ พาวเวอร์ฉืบหxx ครับ >:( >:( >:( >:(
ผมใช้ ranger มาสามปี ยังไม่เจออะไรครับ เครมสลักล็อกเบาะหลังไปตัวเดียว
ท่ออินเตอร์ ยังไม่รั่ว น่าจะเพราะผมไม่ใช่พวก ตีนผี บ้าพลัง ออกตัวช้าๆ ::)
ซีลเกียร์ รุ่นที่ผมออก เปลื่ยนpartไปแล้ว ::)
focus ปี 06 เคยใช้ ก็ไม่มีปัญหาครับ กินน้ำมันไปหน่อยกินพอๆกับcamry เกียร์กระตุกบ้าง แต่ไม่พัง
แต่ 4at ของ ford โง่กว่า 4atโตโยต้า ชัดเจนมากๆ >:(
-
ใช้รถฟอร์ดอยู่ครับ5ปีกับ130,000โล สิ่งที่ไม่ทนแลกกับคุณภาพการขับขี่ก็พอรับได้ บางรุ่นเขาก็ทนดีนะครับเจ้าตลาดเสียอีกที่ มีดีเฟกเกียร์ ขับก็ไม่ดีไม่ปลอดภัยไม่ผ่านMostest
แต่สิ่งที่ผมเริ่มมองว่าFordตามค่ายอื่นไม่ทันคือ ดีไซน์ แต่ก็ยังดีกว่า Nissan Subaru
ฟอรดกระบะนั้นใช้งานปกตินะ แต่ฟอร์ดเก๋งจะไม่ถึกไม่เหมาะกับการใช้งานหนัก
-
ในความเห็นผมคือ Fiesta มันเป็นรถที่ไม่ได้ออกแบบมาใช้กับประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพ หรือ เมืองร้อน เพราะหลายๆอย่าง ไม่ได้รองรับอากาศร้อนชี้นทั้งปีแบบประเทศไทย ต่างกับรถญี่ปุ่น
ที่อยู่มานานเป็นเจ้าตลาดเค้าปรับตัวกันมานานแล้ว รถ Ford ห้องเครื่องร้อนมาก สายไฟ ชิ้นส่วนพลาติก กรองแตกหมด ขนาด กระติกน้ำฉีดกระจก ที่มีน้ำอยู่ ยังกรอบแตก ต้องซื้อเปลี่ยนกัน
หลังหมดประกัน ซึ่งอาการนี้รถญี่ปุ่นไม่เป็น พวกฉนวน กันเสียงกันความร้อนที่ Firewall ก็เสื่อม ละลาย เหม็น จนต้องรี้อออกลอกออก อะไหล่เสื่อมจากความร้อน ในห้องเครื่องหลายชิ้น
เกียร์ก็เหมือนกัน เป็นครัชแห้ง ไม่มีน้ำมันช่วยระบาย พัดลมไฟฟ้ามีตัวเดียว เปลี่ยนความเร็ว เอา แต่รถญี่ปุ่นมี 2 ตัว แยกกันทำงาน ตามแอร์ มันเป็นความฉลาดของรถญี่ปุ่นอย่าง
เพราะถ้าแอร์ทำงานหนัก แปลว่าอากาศร้อน พัดลมก็จะทำงานเพิ่มขึ้นตาม แอร์ ทำให้ระบายความร้อนได้เร็ว ตามสถาพอากาศได้
ผมว่ารถ Ford ต้นทุนสูงกว่ารถญี่ปุ่น ในระดับเดียวกัน แต่ต้อง อัด Option มาสู้ทำให้ต้องลดต้นทุน บีบซับอย่างหนัก ทำให้คุณภาพออกมาอย่างที่เห็น
-
ไม่ใช่แค่ฟอร์ดหรอกหลายๆค่ายก็เป็นเรื่องคุณภาพรถต่ำลงเนี่ย
พวก ranger everest ผมว่าปัญหามันน้อยนะไม่น่ากลัว
แต่รถเก๋งเนี่ยปัญหาก็มีจริงนั่นล่ะ
แต่เชื่อว่าต่อไปคงจะดีขึ้น
-
ผมใช้ Focus 1.6 วิ่งมาจะ 1.7 แสนแล้ว อายุเกือบๆ 4 ปี พูดถึงตัวรถ งานประกอบ ชิ้นส่วนที่มองเห็นผมว่า ต้นทุน และคุณภาพดีกว่ารถญี่ปุ่นชัดเจน (ผมเช่ารถขับบ่อยมากตามสนามบินเนื่องจากหน้าที่การงาน) อย่างช่องเล็กๆ ตรงซุ้มล้อหรือด้านหน้ารถจะยัดชิ้นโฟมหล่อเข้าไปเหมือนรถ Premium เลย
ส่วนเทคโนโลยี ผมเฉยๆ แต่ก็ยังไม่มีอะไรเสีย ตลอดอายุมานี่ เปลี่ยนเคลม TCM ไปครั้งนึงใช้เวลแค่วันเดียว และเปลี่ยนโช้คไป 4 ต้นเนื่องจากรั่วที่ 1.5 แสน หลังจากนี้คงได้ทยอยซ่อมช่วงล่างเพราะมีอาการหลวมแล้ว เวลาหลวมอาการออกกว่ารถญี่ปุ่นชัดเจน
ส่วนอาการกระตุกที่คนอื่นๆ เจอกัน ผมเจอเฉพาะตอนรับรถใหม่ๆ แป๊บเดียว แล้วก็ก่อนแบตจะเสีย และตอน TCM เสียอันนี้กระตุกชัดเจนเหมือนคนอื่นๆ บ่นเลย
ส่วน Fiesta เคยไปยืนมองที่อุ๋ตอนเปลี่ยนโช้ค ผมว่างานประกอบไม่ค่อยดี ไม่ละเอียด ปัญหาเลยออกมาชัดเจนได้ง่ายกว่า ยิ่งเป็นไฟฟ้าเยอะๆ ด้วยแล้วเจอทีหากันนาน ส่วนศูนย์ที่เข้ามีทั้งดรและแย่ แต่จะออกไปทางดีมากกว่า
แต่ถ้าถามว่าจะยังเป็นตัวเลือกไหมตอนเปลี่ยนรถ ก็แล้วแต่รุ่น จะซื้อรถผมลิสต์รถที่จะซื้อ ลองขับค่อยๆ ตัด Choice ออกแล้วลองอีกรอบไปแบบนั้น ตอนซื้อไม่คิดจะซื้อฟอร์ดด้วยซ้ำที่มาลงตัวนี้เพราะเปิดใจนิดนึงกัดฟันไปลองขับแค่นั้นเอง ไม่แน่เปลี่ยนรถครั้งต่อไปอาจจะเป็น MG ก็เป็นได้
-
น่าจะมีผัญหาเยอะกับบ้านเราแค่นั้นครับ ที่อื่นไม่น่าจะเยอะขนาดนี้ ไม่งั้นบริษัทคงไม่อยู่รอดมาขนาดนี้ พูดง่ายๆคือ ไม่สนตลาดบ้านเรา ขายได้ก็ขาย
-
คงเพราะการคุมเกรดของซัพพลายเออร์ เป็นส่วนใหญ่ครับ และบางรุ่นเหมือนว่าไม่ได้มาทดสอบสภาพจริงๆบ้านเราแล้วเอามาขาย
เช่นเกียร์ครัทคู่แห้ง ลดต้นทุนให้ถูกลง แต่หารู้ไม่รถพวกนี้ส่วนใหญ่วิ่งร้อนมากๆใน กทม น้ำมันเกียร์มีอยู่น้อยนิด ชุดควบคุม ECU ที่แปะอยู่กับเกียร์ มันจะไม่พังได้ไง
จริงๆอยากให้ฟอร์ดเทสรถก่อนขายวิ่งใน กทม โซนรถติดๆทุกวันบ้าง ไม่ใช่วิ่งทางด่วนชลบุรีมา กทม แล้วกลับอยู่แค่นั้น มันจะรู้ปัญหามั้ย สภาพรถติดๆ
รถไม่ได้คุณภาพต่ำลงมากหรอกครับ เพียงแต่เหมือนกับออกแบบมาผิดบ้าง ของที่ใช้ดันมาเจอสภาพใช้แบบนี้มันกลายเป็นไม่ทน
ค่อยๆปรับไปในเจนต่อไป
-
น่าจะมีผัญหาเยอะกับบ้านเราแค่นั้นครับ ที่อื่นไม่น่าจะเยอะขนาดนี้ ไม่งั้นบริษัทคงไม่อยู่รอดมาขนาดนี้ พูดง่ายๆคือ ไม่สนตลาดบ้านเรา ขายได้ก็ขาย
Ford คือ รถที่ มี ปัญหา อันดับต้นๆ เลยนะครับ ลองเช็ค ข่าว ทาง Internet ดู
เรายังแยกไม่ออก ระหว่าง
Performance & Quality
-
รถยี่ห้อไหน คุณภาพดีขึ้นบ้างครับและยี่ห้อไหนคุณภาพต่ำลง
ลองให้ท่านเจ้าของกระทู้แสดงความเห็นมา เราก็จะเห็นถึงkey criteria ที่นำมาใช้ตัดสินว่าคุณภาพคืออะไร
-
ช่ายที่ศูนย์ฟอร์ดเคยแจ้งว่ารถผมโช้คตายเพราะแข็งกดไม่ลง ผมเปลี่ยนไปใส่ชุดสตรัทครับช่าง 😱
-
ช่ายที่ศูนย์ฟอร์ดเคยแจ้งว่ารถผมโช้คตายเพราะแข็งกดไม่ลง ผมเปลี่ยนไปใส่ชุดสตรัทครับช่าง 😱
คุณภาพ การ วินิจฉัย อาการเสีย อันนีชัดเจน
ทำตาม WI เป๊ะเลย กดรถดู แต่ ลืม เช็คของจริง คาดว่า คง ช่างจบใหม่ ไม่เคยแต่งรถ ให้เวลา เค้านิดครับ
-
เท่าที่ตามข่าวมาเฟียสต้านี้ ที่ออสก็มีปัญหา แสดงว่าคงเป็นที่การออกแบบแล้วล่ะ
ส่วน กระบะผมว่าโอเคนะ แต่ชอบมีเอ๋อๆบ้าง อย่างว่าลูกเล่นเยอะจัด
-
ผมอ่านแล้ว งงคือ volvo s60 หรือ V60 ใช้เครื่อง Ecoboost ของ ford แต่ทำไมไม่เจอปัญหาแบบนี้น่ะ
-
ผมอ่านแล้ว งงคือ volvo s60 หรือ V60 ใช้เครื่อง Ecoboost ของ ford แต่ทำไมไม่เจอปัญหาแบบนี้น่ะ
Ecoboost ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ
มีที่เกียร์
-
รถยี่ห้อไหน คุณภาพดีขึ้นบ้างครับและยี่ห้อไหนคุณภาพต่ำลง
ลองให้ท่านเจ้าของกระทู้แสดงความเห็นมา เราก็จะเห็นถึงkey criteria ที่นำมาใช้ตัดสินว่าคุณภสพคืออะไร
ถ้าตามกระทู้นี้ก็ไม่ขึ้นติดชาร์ตว่าพังง่ายไงครับ ;D
ส่วนชาร์ตที่ใครทำรถดูดีดูการตกแต่งวัสดุภายในดูมีคุณภาพขับขี่ก็ดีเข้าใกล้รถ premium
Ford คงได้อันดับดีมั้ง
สองชาร์ตนี้คนล่ะเรื่องกันเลย
-
ดูเหมือนฟอร์ดไม่ได้คุม ซัพพลายเออร์ได้เหมือนโตโยต้าครับ โตโยต้าซัพพลายเออร์พาร์ทสำคัญๆจะโดนเก็บเข้าเป็นเป็นหุ้นส่วนกันไปเลย ควบคุมการผลิตแบบโตโยต้ากำหนดเท่านั้น QC จะได้ประสิทธิภาพดีกว่า
-
ดูเหมือนฟอร์ดไม่ได้คุม ซัพพลายเออร์ได้เหมือนโตโยต้าครับ โตโยต้าซัพพลายเออร์พาร์ทสำคัญๆจะโดนเก็บเข้าเป็นเป็นหุ้นส่วนกันไปเลย ควบคุมการผลิตแบบโตโยต้ากำหนดเท่านั้น QC จะได้ประสิทธิภาพดีกว่า
ซัพบางเจ้าฟอร์ดใช้อยู่ดีๆ โดนพี่ใหญ่แย่งไปดื้อๆก็มีครับที่รู้ๆ ฟอร์ดต้องไปหาเจ้าใหม่กลางทาง
-
ผมอ่านแล้ว งงคือ volvo s60 หรือ V60 ใช้เครื่อง Ecoboost ของ ford แต่ทำไมไม่เจอปัญหาแบบนี้น่ะ
Ecoboost ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ
มีที่เกียร์
มีปัญหาครับ ดับกลางอากาศ 3 รอบ ก็มีมาแล้ว ตอนแรกผมก็กะจะถอย S60 มาใช้นี่หล่ะ พอเข้า Club ไปอ่าน ผมเลิกคิดเลย เคราะห์ดีเจอที่ทางราคาดีซื้อที่แทน ต้องขอบคุณ Volvo และ Ford มา ณ ที่นี้ ::)
-
ผมอ่านแล้ว งงคือ volvo s60 หรือ V60 ใช้เครื่อง Ecoboost ของ ford แต่ทำไมไม่เจอปัญหาแบบนี้น่ะ
Ecoboost ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ
มีที่เกียร์
s60 กับ v60 ปี 2012-13 ใช้ dual clutch เหมือน ford ครับ
-
ผมอ่านแล้ว งงคือ volvo s60 หรือ V60 ใช้เครื่อง Ecoboost ของ ford แต่ทำไมไม่เจอปัญหาแบบนี้น่ะ
Ecoboost ก็ไม่มีปัญหานี่ครับ
มีที่เกียร์
มีปัญหาครับ ดับกลางอากาศ 3 รอบ ก็มีมาแล้ว ตอนแรกผมก็กะจะถอย S60 มาใช้นี่หล่ะ พอเข้า Club ไปอ่าน ผมเลิกคิดเลย เคราะห์ดีเจอที่ทางราคาดีซื้อที่แทน ต้องขอบคุณ Volvo และ Ford มา ณ ที่นี้ ::)
เท่าที่ทราบปัญหาเกิดจากหัวฉีด แล้ว ใช้น้ำมัน E85 ทางศูนย์บอกว่า แก้หัวฉีด 3 รอบแล้วก็ยังเป็น จนแจ้งคนใช้ว่า ให้ใช้ E20 หรือ E10 แทนครับ
-
เคยเป็นเจ้าของฟอร์ด 2 คัน Fiesta กับ Ranger
บอกเลยว่าหลายๆจุด ใช้ชิ้นส่วนคุณภาพต่ำ ไม่ทนกับสภาพอากาศเมืองไทย
เจอปัญหากับตัวรถยังไม่พอ ยังต้องมาเจอปัญหากับบริการหลังการขายอีก
ทั้งนโยบายความรับผิดชอบจากพวกฝรั่งและคนไทยด้วยกันเอง ความชำนาญของศูนย์บริการ
ค่าอะไหล่และค่าแรงมหาโหด
บอกเลย ยี่ห้อนี้ เข็ดครับ ไม่มีทางกลับไปซื้อมันอีกแน่นอน
-
ระบุรุ่นได้ไหมครับ เผื่อจะได้ตามถูก ;D
เท่าที่ประสบมา เห็นจะเป็นเพราะการออกแบบเริ่มต้นส่วนนึงครับ คือให้คนเมืองหนาว (เยอรมัน) ออกแบบกับเซ็ตระบบเกือบทั้งหมด (ช่วงล่าง, drivetrain, ระบบไฟฟ้าหลัก)
เน้นใช้ไม่นาน ใช้ในสภาวะของเขาเป็นหลัก ทิ้งคุ้มกว่าซ่อม 5 ปี ทิ้ง เปลี่ยนใหม่
เทคโนโลยีก็ส่วนนึงครับ โดยเฉพาะเรื่อง PowerShift6 แล้วก็โมดูลควบคุมต่างๆ ที่บทจะเสียจะรวนก็เป็นกันดื้อๆ บางครั้งก็เป็นกันที่ซอฟต์แวร์ และฝั่งที่ดูแลซอฟต์แวร์เขาก็ใช้เวลาในการแก้ปัญหานานพอตัวครับ ถ้าเป็นฮาร์ดแวร์ก็หนังคนละม้วนอีก
อีกอย่างคือชิ้นส่วนบางอย่างเห็นระบุว่าใช้ร่วมกันหมดตั้งแต่ Fiesta ยัน Taurus ลามไปถึง Lincoln แต่เหมือนออกแบบมาไม่ดีพอ เลยมีแจ้งแก้กันเป็นกิจวัตรครับ
ในบริษัทก็เหมือนจะไม่ค่อยคุยกันด้วยครับ ทั้งๆ ที่ หลายๆ ครั้ง มันควรจะคุยกัน แต่เขาก็ไม่คุยกัน พอปัญหางอกก็โยนกันไปมา บางงานก็ควรจะมีคนของฟอร์ดเองมาคุมงานกับซัพพลายเออร์ ติดตามแก้ไขกันอย่างใกล้ชิด แต่ปรากฏว่าฟอร์ดเขาก็ไม่มีคนรับผิดชอบในเรื่องนั้นตรงๆ ก็ใช้วิธีดึง (สั่ง) คนจากแผนกที่เกี่ยวข้องมาร่วมงานกันเป็นครั้งคราวซึ่งไม่ต่อเนื่อง และตัวคนที่มาก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่เพราะเหมือนกับว่ามันไม่ใช่หน้าที่ของเขาโดยตรง ซัพพลายเออร์ก็จนใจ (แต่ทำเต็มที่) และมันก็เลยส่งผล (หรืออาจจะส่งผลในอนาคตอันใกล้) ถึงลูกค้าผู้ใช้รถ Ford
ตัวฝรั่งหัวทอง บางทีก็สั่งอย่างเดียว นั่งอยู่บนวิมานเมฆ มโนกันเออออห่อหมกกันไปโดยไม่เคยถามทางประเทศปลายทางเลยว่าต้องการระบบนั้น หรือออพชั่นนี้รึเปล่า ระยะยาวจะดีมั้ย เป็นฟังก์ชันฉาบฉวยรึเปล่า เน้นความ ว้าว กันสองสามเดือน แล้วก็เงียบหายไปแบบนั้นจะดีหรอ ประสบการณ์ของผู้ใช้ end user จะดีรึเปล่า เขาจะใช้กันไหม ลูกค้าจะเอ็ดตะโรเอาเพราะมันแปลกรึเปล่า
โครงสร้างองค์กรใหญ่เกินไป และมีการทับซ้อนกันโดยไม่จำเป็น ใช้เวลาตอบสนองนาน บางจุดควรมีคนมากก็ดันมีไม่กี่คน ทำงานกันมือหงิก
บางจุดในบางตลาดไม่จำเป็นต้องทำ เพราะไม่ได้ใช้ ก็ไปหยิบเอามาทำ เสียเงินโดยใช่เหตุ ไอ้ที่ควรทำก็กลับไม่ทำ :'(
ฟอร์ดควรจะเอารถที่มีแต่แก่น (Core) มาขายในตลาดที่ใช้รถกันยาวนาน เครื่องดีที่ไม่ต้องซับซ้อนมาก เกียร์โอเค ช่วงล่างมั่นใจในสถานการณ์ฉุกเฉินเอาอยู่ ระบบความปลอดภัยครบ โครงสร้างแข็งแรง แล้วเบามือในเรื่องของความแฟนซีไฟฟ้าต่างๆ นาๆ ก็น่าจะช่วยลดคำบ่นลงได้มากครับ
ตอบได้ขนาดนี้เป็น supplier ของ Ford หรือคน FTM เองหรือเปล่าครับ หุหุ