Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ภูมิใจไหม? ที่ ธันวาคม 24, 2016, 11:26:41
-
ผมมี tip เด็ดสำหรับคนติด Line มาฝากครับ
บางคนอาจจะยังไม่ทราบ
เวลาเราจะพิมพ์ตอบแชท
เราไม่ต้องพิมพ์ก็ได้ครับ
ในคีย์บอร์ด
ตรงมุมมีรูป microphone อยู่
หากไม่ขึ้นให้กดแช่ไว้ครับ
เมื่อกด
มันจะบอกให้เราพูด
และมันสามารถเขียนตามคำพูดเราได้
ภาษาไทยหรืออังกฤษมันก็ฟังได้ครับ
ลองเล่นดูนะครับ
ส่วนระบบสั่งการด้วยเสียง
ผมว่ามันสนุกดีนะ
ใช้กันบ้างไหมครับ
ใช้ภาษาไทย หรืออังกฤษ
ใครมี tip ดี ๆ แนะนำกันบ้างครับ
อันนี้ของแถม
https://www.youtube.com/watch?v=NmWRhhvf60Y
-
ผมเคยสั่งแล้ว มันบรรลัย ไปทำสิ่งที่เราไม่ต้องการเลยเลิกอ่ะครับ 555
-
ผมเคยสั่งแล้ว มันบรรลัย ไปทำสิ่งที่เราไม่ต้องการเลยเลิกอ่ะครับ 555
เป็นเพื่อนคุยแก้ง่วงได้นะครับ
วันก่อนดู HLM the clip ล่าสุด benz e220
คุณจิมมี่คุยกับ siri อย่างฮาครับ
ผมนี่ก๊ากกเลย ต้องไปดูครับ อิอิ
-
ของเล่น ตอนได้รถใหม่ๆ อ่ะ ตอนนี้ 4 ปีกว่าแล้วที่ไม่ได้ใช้ เจ๊งไปยังไม่รู้ เพราะใช้มือ จิ้มง่ายกว่า เร็วกว่า 555
-
ในจอ MZD Connect ของ Mazda
ผมใช้แค่สั่งปิดจอครับ เพราะไวกว่าการกด กดต้องเข้าไปตั้งค่า ไปหน้าจอ เลือกปิดจอ เยอะ
กดสั่งงานเสียงพูด Shut down จบ
ที่เหลือ กดๆ หมุนๆ ปุ่มด้านล่างไวกว่าจริงๆ
-
ผมแนะนำให้ผู้ผลิต ทำระบบให้มันบันทึกคลื่นความถี่เสียง หรือน้ำเสียงของเจ้าของรถ แล้วตั้งให้มันทำอะไรบ้าง น่าจะดีกว่าครับ เช่นพูดว่า"เปิดเพลง" หรือ"ฟังเพลง"(แล้วแต่เจ้าของจะตั้ง) ระบบก็เข้าหน้าจอเครื่องเล่นเพลงเลย ประมาณนี้น่ะครับ
ผมมองว่าระบบแบบนี้มันละเอียด และซับซ้อนมากครับ
-
ผมใช้เจ๊Siriเปลี่ยนเพลงให้ครับ เอาไอโฟนจ่อปากกดปุ่มHomeค้างหรือพูดว่าหวัดดีสิริ เล่นเพลง.... สะดวกดีครับ
-
iPhone 6s ขึ้นไป พูด หวัดดีสิริ แล้วเดี๋ยวมันตอบรับคำสั่งเอง
แต่บางครั้งก็เจอชุดคำตอบแบบที่คุณจิมมี่โดนใน E220d นั่นแหละ สั่งยกเลิกอย่างเดียว :(
-
ผมแนะนำให้ผู้ผลิต ทำระบบให้มันบันทึกคลื่นความถี่เสียง หรือน้ำเสียงของเจ้าของรถ แล้วตั้งให้มันทำอะไรบ้าง น่าจะดีกว่าครับ เช่นพูดว่า"เปิดเพลง" หรือ"ฟังเพลง"(แล้วแต่เจ้าของจะตั้ง) ระบบก็เข้าหน้าจอเครื่องเล่นเพลงเลย ประมาณนี้น่ะครับ
ผมมองว่าระบบแบบนี้มันละเอียด และซับซ้อนมากครับ
เป็นไอเดียที่ดีครับ แต่การทำ Voice Recognition แบบออฟไลน์ที่อยู่ในรถ มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของแพทเทิร์น รูปประโยคในการพูด และการจดจำน้ำเสียงครับ ด้วยความที่เป็นระบบออฟไลน์ที่ไม่มีการใช้อินเตอร์เน็ตโยงเพื่อประมวลผลแบบเรียลไทม์คล้าย Siri หรือ Cortana จึงทำให้ระบบ Voice command หรือ Voice Recognition บนรถยนต์ส่วนใหญ่จึงมีการกำหนดรูปแบบประโยคมาตั้งแต่แรก มีทั้งประโยคสั้น ประโยคยาว ประโยคซับซ้อน ประโยคไม่ซับซ้อน ซึ่งคนที่พูดกับระบบจะมีข้อจำกัดในการพูดกับระบบมากครับ แต่ทางผู้ผลิตและผู้พัฒนาก็ได้นำเสนอทางเลือกด้วยการ "เพิ่ม" คำที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นๆ เช่น "เครื่องปรับอากาศ" ผู้ใช้สามารถเลือกพูดคำว่า "แอร์" "ระบบปรับอากาศ" "ระบบควบคุมสภาพอากาศ" ได้ครับ และนอกจากข้อจำกัดด้านตัวคำสั่งที่กำหนดมาล่วงหน้าแล้ว ยังมีในเรื่องของข้อจำกัดทางภาษาของภาษาด้วยครับ ในกรณีที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
กระทั่ง Voice Command แบบภาษาอังกฤษ เวลาใช้ยังรู้สึกขัดๆ และไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ แต่ก็ยังพอใช้งานได้บ้างในบางฟังก์ชัน
-
ผมแนะนำให้ผู้ผลิต ทำระบบให้มันบันทึกคลื่นความถี่เสียง หรือน้ำเสียงของเจ้าของรถ แล้วตั้งให้มันทำอะไรบ้าง น่าจะดีกว่าครับ เช่นพูดว่า"เปิดเพลง" หรือ"ฟังเพลง"(แล้วแต่เจ้าของจะตั้ง) ระบบก็เข้าหน้าจอเครื่องเล่นเพลงเลย ประมาณนี้น่ะครับ
ผมมองว่าระบบแบบนี้มันละเอียด และซับซ้อนมากครับ
เป็นไอเดียที่ดีครับ แต่การทำ Voice Recognition แบบออฟไลน์ที่อยู่ในรถ มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของแพทเทิร์น รูปประโยคในการพูด และการจดจำน้ำเสียงครับ ด้วยความที่เป็นระบบออฟไลน์ที่ไม่มีการใช้อินเตอร์เน็ตโยงเพื่อประมวลผลแบบเรียลไทม์คล้าย Siri หรือ Cortana จึงทำให้ระบบ Voice command หรือ Voice Recognition บนรถยนต์ส่วนใหญ่จึงมีการกำหนดรูปแบบประโยคมาตั้งแต่แรก มีทั้งประโยคสั้น ประโยคยาว ประโยคซับซ้อน ประโยคไม่ซับซ้อน ซึ่งคนที่พูดกับระบบจะมีข้อจำกัดในการพูดกับระบบมากครับ แต่ทางผู้ผลิตและผู้พัฒนาก็ได้นำเสนอทางเลือกด้วยการ "เพิ่ม" คำที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นๆ เช่น "เครื่องปรับอากาศ" ผู้ใช้สามารถเลือกพูดคำว่า "แอร์" "ระบบปรับอากาศ" "ระบบควบคุมสภาพอากาศ" ได้ครับ และนอกจากข้อจำกัดด้านตัวคำสั่งที่กำหนดมาล่วงหน้าแล้ว ยังมีในเรื่องของข้อจำกัดทางภาษาของภาษาด้วยครับ ในกรณีที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
กระทั่ง Voice Command แบบภาษาอังกฤษ เวลาใช้ยังรู้สึกขัดๆ และไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ แต่ก็ยังพอใช้งานได้บ้างในบางฟังก์ชัน
ส่วนตัว จากประสบการณ์ siri, cortana, google now คิดว่า Voice command ภาษาอังกฤษทั้ง yank กะ brit accent ใช้งานง่ายกว่าภาษาไทยเยอะคับ
-
ผมแนะนำให้ผู้ผลิต ทำระบบให้มันบันทึกคลื่นความถี่เสียง หรือน้ำเสียงของเจ้าของรถ แล้วตั้งให้มันทำอะไรบ้าง น่าจะดีกว่าครับ เช่นพูดว่า"เปิดเพลง" หรือ"ฟังเพลง"(แล้วแต่เจ้าของจะตั้ง) ระบบก็เข้าหน้าจอเครื่องเล่นเพลงเลย ประมาณนี้น่ะครับ
ผมมองว่าระบบแบบนี้มันละเอียด และซับซ้อนมากครับ
เป็นไอเดียที่ดีครับ แต่การทำ Voice Recognition แบบออฟไลน์ที่อยู่ในรถ มักจะมีข้อจำกัดในเรื่องของแพทเทิร์น รูปประโยคในการพูด และการจดจำน้ำเสียงครับ ด้วยความที่เป็นระบบออฟไลน์ที่ไม่มีการใช้อินเตอร์เน็ตโยงเพื่อประมวลผลแบบเรียลไทม์คล้าย Siri หรือ Cortana จึงทำให้ระบบ Voice command หรือ Voice Recognition บนรถยนต์ส่วนใหญ่จึงมีการกำหนดรูปแบบประโยคมาตั้งแต่แรก มีทั้งประโยคสั้น ประโยคยาว ประโยคซับซ้อน ประโยคไม่ซับซ้อน ซึ่งคนที่พูดกับระบบจะมีข้อจำกัดในการพูดกับระบบมากครับ แต่ทางผู้ผลิตและผู้พัฒนาก็ได้นำเสนอทางเลือกด้วยการ "เพิ่ม" คำที่เกี่ยวข้องกับคำนั้นๆ เช่น "เครื่องปรับอากาศ" ผู้ใช้สามารถเลือกพูดคำว่า "แอร์" "ระบบปรับอากาศ" "ระบบควบคุมสภาพอากาศ" ได้ครับ และนอกจากข้อจำกัดด้านตัวคำสั่งที่กำหนดมาล่วงหน้าแล้ว ยังมีในเรื่องของข้อจำกัดทางภาษาของภาษาด้วยครับ ในกรณีที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ
กระทั่ง Voice Command แบบภาษาอังกฤษ เวลาใช้ยังรู้สึกขัดๆ และไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ แต่ก็ยังพอใช้งานได้บ้างในบางฟังก์ชัน
ส่วนตัว จากประสบการณ์ siri, cortana, google now คิดว่า Voice command ภาษาอังกฤษทั้ง yank กะ brit accent ใช้งานง่ายกว่าภาษาไทยเยอะคับ
ถ้าเป็น 3 ตัวที่กล่าวมา ใช้ภาษาอังกฤษคุย ถือว่าใช้ได้ครับ ลื่นไหลดี แต่ที่ขัดๆ คือผมจะสื่อว่าพวก Voice command ในรถที่เป็นออฟไลน์ครับ เช่น Ford Sync ใช้ยังไงก็ไม่ถนัด และรู้สึกประหลาด แต่ไม่ถึงกับใช้ไม่ได้เสียทีเดียวครับ :)
-
ใช้ทุกวันก็ชินครับ...ลองใช้บ่อยๆ ดีกว่าฟังเขามา
-
เมื่อต่ออินเตอร์เน็ต
ความสนุกจะบังเกิด
อยากฟังเพลง แต่จำชื่อเพลงไม่ได้ก็ร้องเลยครับ
"โอมมมมมมมมม จะเป่าคาถามาหาอะไร
แฟนผมมีรักใหม่"
ลากเสียงมันก็ฟังรู้เรื่อง
เพลงมาเลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=BksI6-TMMDQ
-
ใช้เปลี่ยนเพลงแบบไกลๆครับ เช่น 1 ไป 300
-
แบบ bmw ดีกว่า ใช้โบกมือเอา ทันใจกว่าแยอะ
https://youtu.be/GxrMtIUP7Jo (https://youtu.be/GxrMtIUP7Jo)
-
ผมสั่งประจำครับ
สามารถสั่งการตั้งเตือนความเร็วได้ เมื่อถึงกำหนดจะมีเสียง ถ้ายังดี้อขับต่อ เสียงเตือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ
ถึงจุดๆนึงจะมีการตัดการจ่ายน้ำมัน เล่นซะหัวทิ่มหัวตำ ปรับ Setting ได้แล้วแต่เงินเดือนที่จะให้
สามารถหาเงินค่าทางด่วนได้ นับเหรียญให้ เป็นเนวิเกเตอร์ คอยหลงทางอยู่เรื่อยๆ เปลื่ยนเพลงได้ โทรศัพท์ได้ ไลน์ก็ได้ ค้นข้อมูลในเครื่องก็ได้ สุดยอดจริงๆครับรุ่นนี้
แต่ๆรุ่นนี้เป็น OEM ไม่สามารถถอดเปลื่ยนได้นะครับ ขืนเปลื่ยนเมื่อไร ECU อาจจะรวนได้ทั้งระบบครับ ต้องระวัง
-
ผมสั่งประจำครับ
สามารถสั่งการตั้งเตือนความเร็วได้ เมื่อถึงกำหนดจะมีเสียง ถ้ายังดี้อขับต่อ เสียงเตือนจะดังขึ้นเรื่อยๆ
ถึงจุดๆนึงจะมีการตัดการจ่ายน้ำมัน เล่นซะหัวทิ่มหัวตำ ปรับ Setting ได้แล้วแต่เงินเดือนที่จะให้
สามารถหาเงินค่าทางด่วนได้ นับเหรียญให้ เป็นเนวิเกเตอร์ คอยหลงทางอยู่เรื่อยๆ เปลื่ยนเพลงได้ โทรศัพท์ได้ ไลน์ก็ได้ ค้นข้อมูลในเครื่องก็ได้ สุดยอดจริงๆครับรุ่นนี้
แต่ๆรุ่นนี้เป็น OEM ไม่สามารถถอดเปลื่ยนได้นะครับ ขืนเปลื่ยนเมื่อไร ECU อาจจะรวนได้ทั้งระบบครับ ต้องระวัง
ระบบ MIA ใช่ไหมครับ
-
ผมไม่ใช้เลย siri เข็ด
แต่ version ใหม่ๆ ไม่ได้ลองนะ เพราะแค่สั่งโทรออก ยังผิดเบอร์เลย
-
ใช้ตามปกติครับ อย่างเช่นเปลี่ยนโหมด ส่วน voice typing ก็ใช้ในเวลาปกติ แต่ก็ไม่ใช่ขณะขับรถอยู่ดีครับ
-
อย่างที่ท่านบนๆตอบอะครับ
ต่อไอโฟนกับbluetooth แล้วใช้siri สั่งคำสั่งภาษาไทยได้เลย
สะดวก และฉลาดกว่าเรียกคำสั่งจากรถมากมาย
ใช้บ่อยสุดคือสั่งให้โทรหาคนที่มีรายชื่อในโทรสับ