Headlight Magazine : community
General => Relax & Photoshop Room => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ มกราคม 19, 2017, 10:14:25
-
ผมขอแลกเปลี่ยนความคิดกันหน่อยนะครับ
พอดีว่าเพื่อนผมจะได้ไปทำงานที่ มหาวิทยาลัยเล็กๆ แห่งหนึ่งแถวฝั่งธน (ไม่ขอบอกชื่อ)
ซึ่งจะเปิดสาขาที่ผมกับเพื่อนเรียนมา
เขาเล่าว่าตอนนี้ อาจารย์ที่สอนที่นั่นส่วนมากเป็นอาจารย์พิเศษที่ฝากชื่อไว้ (ทำงานประจำอื่นแต่มาเป็นอาจารย์กึ่งประจำที่นี่)
เขามีการลงทุนซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์ไปมาก
แต่ดูแนวโน้มแล้ว ผมว่าไม่น่าจะมีคนมาเรียนครับ เพราะขนาด ม.เอกชนที่ใหญ่กว่ายังมีคนมาเรียนน้อยเลย
ดูแนวโน้มแล้ว อนาคต มหาวิทยาลัยนี้ ไม่เกิน 10 ปี น่าจะปิดตัว
ตามสถานะการณ์ของประเทศที่มีคนเกิดน้อยลง มีเด็กมาเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยน้อยลง
ผมเห็นโรงเรียนใหญ่ๆ หลายๆ ที่เริ่มปรับตัว เช่น ปิดกิจการขายที่ดินไปทำอย่างอื่น
ที่อยู่ได้ คือ ของรัฐ หรือของเอกชนที่ใหญ่และมีคนอยากเรียนจริงๆ
อยากให้เพื่อนๆ ช่วยกันแลกเปลี่ยนมุมมองเรื่อง แนวโน้มสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรครับ
-
มหาลัย ถ้าไม่ใช่ ท้อป หาคนเข้ายากมากขึ้นแน่ๆในอนาคต
เพราะ ประชากร ลดลง
จำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลง
เทรนการศึกษาเริ่มมีแนวทางเลือกและ โรงเรียนอินเตอเป็นกระแสที่แรง
เด็กที่จบจากอินเจอร์เป็นเด็กที่มีศักยภาพมีแรงและมีความเป็นไปได้จะไม่เรียนต่อมหาลัยในประเทศ
แปลได้ว่า ประมาณเด็กที่จะเข้าไปในภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาไทยลดลง
จะเห็นได้ว่าขนาด จุฬา ยังต้องเปิดภาค ภาคอินเตอร์ดิ้นรนเพื่อเพิ่มจำนวนและตอบต่อความต้องการที่เปลี่ยนไป
และหลายๆมหาลัยเอกชนต้องพยายามไปดึงนักศึกษาจากต่างชาติประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเติมที่นั่ง
ตัวหลักสูตรปัจจุบันเริ่มไม่ตอบต่อโจทย์ความต้องการของตลาดงานด้วย
เราสร้างคนจบปริญญาแต่โครงสร้างเศรษฐกิจไม่ได้อำนวนในการเติบโตของคนกลุ่มนี้ มหาลัยเน้นคนมีวุฒิสูงอัดยัดทุนแต่ไม่มีงานจริงรองรับ
เพราะไม่มีการขยายงานที่แท้จริงและไม่เป็นไปตามความต้องการของตลาดรวมถึงงานวิจัยที่ทำมาเพื่อผลทางการศึกษามากกว่าการใช้งานจริง
แต่ตลาดงานกลับขาดแคลนแรงงานฝีมือและผู้มีทักษะชั้นสูง และนักวิเคราะห์ที่มีสกลิด้านลึกและประสพการณ์
รวมถึงงานในอนาคตเปลี่ยนไป ลดการจ้างงานที่สามารถทดแทนได้ด้วย Ai และ Automate system
ลองคิดจากสมมุติฐานนี้และข้อมูลประกอบเหล่านี้ดูครับว่าควรหรือไม่เพราะไม่มีข้อมูลว่า ที่คุณพูดถึงเป็นกลุ่มภาควิชาไหน ตำแหน่งอะไร
-
คงต้องบอกว่า ภาคมหาวิทยาลัยมันที่ไม่ใหญ่และชื่อเสียงไม่ดีจริงๆคงอิ่มตัวแล้วจริงๆและเริ่มถดถอยภายใน 5 ปีข้างหน้านี้(รึอาจจะเร็วกว่านั้น) เพราะเด็กที่เข้ามามหาวิทยาลัยน้อยลง กับตลาดแรงงานที่เปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้ระบบมหาวิทยาลัยต่างๆต้องปรับเปลี่ยนตัวเองไปสู่สิ่งที่อินเตอร์หลักสูตรต่างๆเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้นเนื่องจากต้องการให้ตัวนักศึกษาที่เป็นผลออกมาจากมหาวิทยาลัยมีความแตกต่างจากนักศึกษาสายแรงงาน เพราะเราเดินมาทางที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน แล้วหลายมหาวิทยาลัยที่ไม่ใหญ่นัก ความพร้อมด้านนี้ค่อนข้างน้อยมากๆเลยทั้งตัวอาจารย์เองและคุณภาพของเด็กที่เข้ามาเรียน ครั้นจะทำแบบมหาลัยใหญ่ๆออกข้อสอบเป็นอังกฤษ เกรงว่าเด็กจะไม่เข้าใจคำถามการตอบก็จะผิดไปจนตัวผู้สอนเองต้องไปให้ทางมหาวิทยาลัยพิจารณา ตอนนี้การแนะแนวฝั่งมัธผมศึกษา อาจารย์หลายท่านเริ่มมีคำแนะนำที่ให้เด็กไปสาย ปวส.แล้วครับ และเริ่มที่การประเมินเด็กหลายทางทั้ง ฐานะ ความสามารถเด็ก การเอาใจใส่รายวิชา เพราะเด็กที่จบตอนนี้ ปวส.ตกงานน้อยที่สุด และได้ทำงานเร็วกว่าด้านสายสามัญเองถึงสองปี ถ้าในโรงงานอยู่ในสายการผลิตก็เป็นหัวหน้าพวก ป.ตรีทั้งนั้นรวมถึงเม็ดเงินที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุนมันน้อยกว่าแต่ได้ผลที่มากกว่าทางมหาลัย และในตลาดบ้านเราก็ไม่ต้องการเด็กป.ตรี :-\ :-\
-
Downsizing
-
จริงเหรอครับ ผมนึกว่าเด็กจะเยอะการแข่งขันจะเยอะขึ้นซะอีก
ผมยังงงอยู่ว่าทำไมชีวิตถึงต้องแข่งขันกันมากขึ้น เรียนพิเศษมากขึ้น
ไม่ใช่เพราะว่าเด็กมากขึ้นเหรอครับ ตอนโรงเรียนเปิดก็รถติดกันมากขึ้นทุกปีๆ
เป็นไปได้มั้ยว่า โรงเรียนดังกล่าวที่ปิดตัว เป็นเพราะไม่ดัง บริหารไม่ดี หรือเงินหมุนเวียนไม่ทันเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ
สังเกตุดู boxoffice หนังการ์ตูนออกมาทีไร รายได้ถล่มทลาย (อ้าวนั่นมันในต่างประเทศ)
ผมเข้าใจว่าสัดส่วนคนที่มีลูกน้อยลง คือ 100 คนอาจจะมี 40 คน จากที่เมื่อก่อน 100 คนอาจจะมี 60-70
แต่ฐานประชากรมันเพิ่มขึ้นทุกปีอยู่แล้ว พอมาคูณกับเปอร์เซ็นต์ตัวเลขมันเลยถัวกันรึเปล่าครับ
-
ถ้านับว่าเป็นมหาลัยผมว่ามันไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงนะครับ
พวกมอเล็กอาจจะมีปัญหา แต่มอใหญ่ๆดังๆ ยิ่งเอกชนบิ๊กๆคนยิ่งอยากเรียนเยอะ
-
การศึกษาในประเทศไทย ผมมองว่าอยากให้เน้นการศึกษาแบบปฏิบัติให้สามารถ ทำงานได้จริง ใช้งานได้จริง เป็นรายบุคคลเลย ใครทำไม่ได้ก็ไม่ให้จบ บุคลากรจะสามารถผลิตออกมาได้ดี อย่างที่เห็นกันบางคนจบมาแต่ทำอะไรไม่เป็น เกาะกลุ่มกับเพื่อนจบ หมายความว่าห้องนึงจะมีคนเก่งและทำได้จริง เพียงไม่กี่คน และเรียนทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ เรียนแต่หลักสูตรเก่าๆ ไม่ค่อยมีการพัฒนาเท่าที่เห็นกี่รุ่นกี่รุ่นก็เหมือนเก่าครับ ;D
-
จริงเหรอครับ ผมนึกว่าเด็กจะเยอะการแข่งขันจะเยอะขึ้นซะอีก
ผมยังงงอยู่ว่าทำไมชีวิตถึงต้องแข่งขันกันมากขึ้น เรียนพิเศษมากขึ้น
ไม่ใช่เพราะว่าเด็กมากขึ้นเหรอครับ ตอนโรงเรียนเปิดก็รถติดกันมากขึ้นทุกปีๆ
เป็นไปได้มั้ยว่า โรงเรียนดังกล่าวที่ปิดตัว เป็นเพราะไม่ดัง บริหารไม่ดี หรือเงินหมุนเวียนไม่ทันเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ
สังเกตุดู boxoffice หนังการ์ตูนออกมาทีไร รายได้ถล่มทลาย (อ้าวนั่นมันในต่างประเทศ)
ผมเข้าใจว่าสัดส่วนคนที่มีลูกน้อยลง คือ 100 คนอาจจะมี 40 คน จากที่เมื่อก่อน 100 คนอาจจะมี 60-70
แต่ฐานประชากรมันเพิ่มขึ้นทุกปีอยู่แล้ว พอมาคูณกับเปอร์เซ็นต์ตัวเลขมันเลยถัวกันรึเปล่าครับ
มีลูกน้อยลงก็ส่วนนึง
แต่ปัจจัยหลักคือ คนเจน x ครับ
ลูกของเจน x คือเจน y และ ณ ตอนนี้ลูกเจน y เป็นเจน z
มันก็จะแบบป่องๆ หน่อย เป็นปล้องๆของจำนวนประชากร
ซึ่งมันมีช่วงสุญญากาศ(จำนวนที่น้อยลงมาก)ระหว่าง x มา y และปัญหา y มา z เริ่มไม่แน่นอน
ปัญหาประเทศตอนนี้ กลุ่ม x เริ่มเข้าวัยเกษียณกันหมด
กลุ่ม y เริ่มมีบทบาทในสังคมในวัยกลางคน
กลุ่ม z กำลังยุคเกรียนคีย์บอร์ด
------
ตอบคำถาม
ปัญหามหาวิทยาลัย เพิ่งเปิดไม่น่าใช่ปัญหา เพราะต้องศึกษาเตรียมการ ว่าลูกค้ากลุ่มไหน?
กลุ่มอายุเยอะๆ อยากได้ใบปริญญาง่ายๆยังมีเยอะนะครับ
ที่ผ่านมา ช่วงที่ระบบยังหละหลวม มีร้านค้าที่ทำใบจบกันมาเลย สืบไปสืบมา มหาลัยห้องแถวนี่หว่า :P
อันนี้ก็ส่วนตัวเกรงว่าส่วนนึงจะรับลูกค้ากลุ่มนี้มานะสิครับ แบบถูกต้องตามกฎหมาย