Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Nikle_pk ที่ มกราคม 30, 2017, 20:07:29
-
หากเป็นแบบที่ผมสมมุติ Bsi ไม่ต้องมี
แต่ปรับราคาลงทุกรุ่น คันละ 3-4 แสน
(ไม่รวมกับส่วนลดตามปกติที่ได้)
แบบนี้จะมีผลทำให้ยอดขึ้น หรือ ว่าจะลดลง ครับ
แล้วถ้าให้เลือก ระหว่าง Bsi กับ ส่วนลดเพิ่ม 3-4 แสน
เลือกอะไรกันครับ
-
position ของแบรนด์ก็จะต่ำลง ต่อให้แบรนด์ติดตลาดแล้ว แต่ในเชิงการรับรู้ของผู้บริโภคก็จะแย่ลงแน่นอน
ถ้าจะยกเลิก bsi คงเปลี่ยนเป็นใส่ของเล่นแปลกๆให้ชนะคู่แข่งมากกว่า กรณีต้องการจะ dump ราคาตัวเองลงจริงๆ
ที่สำคัญ bmw ไม่ใช่อันดับ 1 ในไทยตอนนี้ยังไกลจาก mercedes อยู่พอควร
นอกจากจะทำเป็น deal พิเศษในบางรุ่นที่เป็นรุ่น entry สำหรับคนที่กำลังเติบโตแต่อยากขับรถพรีเมียมให้เอื้อมถึงง่ายขึ้น (แต่จริงๆก็มีระบบผ่อนบอลลูนอยู่แล้ว)
ผมว่าไม่เวิคเท่าไหร่
สำหรับผมคงไม่เอา bsi มั้ง รถซื้อมาใช้ยังไงก็ต้องซ่อมทำใจไว้ก่อนซื้อแล้วต่อให้มี bsi ก็ต้องสำรองเงินไว้เผื่อค่าโน่นนี่นั่นอยู่ดี
-
ส่วนตัวผม ยังไงก็ซื้อครับ คิดว่า5ปีแรก หรือมากกว่านั้น บำรุงรักษาดูแล ดีๆ ก็อยู่ได้นาน
ส่วนใหญ่ ที่บอกว่า หลังหมดBSI ค่าซ่อมเป็นแสนต่อปี อยากรู้ว่า เขาขับกันอย่างเดียว หรือ ฟังต่อ ๆกันมา
-
ที่ผ่านมาผมก็ซื้อตอนมันลดเป็นแสนอยู่แล้วนะครับ ซื้อตอนจะเปลี่ยนรุ่น รถจอดค้างศูนย์ มัBSIครบ 5ปี สบายใจกว่าแน่ๆ ใครไม่เคยเคลมของใหญ่ๆคงยังไม่ได้รู้สึก รุ่นหลังๆเวลามีอะไรเสียมันโหดมาก ค่าซ่อมแบบสองทีเท่ากับecocar คันนึงผมก็เห็นมาละ
ใช้ดีหมดBSIไม่เคลมอะไรก็ดีไปครับ
-
ยกตัวอย่าง 118i Sport 1,800,000 บาท
ยกเลิก BSI ประกันเหลือ 3 ปี ตามปกติ
ส่วนลด 450,000 - 500,000
การบำรุงรักษา มีไรบ้างล่ะคับหลักๆ
-น้ำมันเครื่อง ทุกๆ 10,000 โล
-น้ำมันเกียร์ ทุกๆ 40,000 โล
-ยางทุกๆ 40,000 โล
รถมี Defect ก็แก้ให้จบในระยะประกัน
หลังหมดประกัน ก็พวกยาง บูส โช๊ค ต่างๆ เช็คปีละ ครั้ง 2 ครั้งยังได้
อยู่นอกซ่อม BMW ก็เยอะ ถ้ามีเพื่อนเปิดอยู่ยิ่งสบายไม่โดนหลอกฟัน
อะไรเสีย อะไรมือ2 อะไหล่แต่ง อะไหล่OEM เยอะแยะ
ประกันชั้น 1 20,000 - 25,000 ต่อปี
ใช้รถเยอะ อุปกรณ์ ก็เสื่อสภาพตามการใช้งาน
ที่บำรุงเป็นแสนๆ วันหนึ่งขับกี่โลล่ะ คับ
-
ไม่มี BSI แต่ยังมี Wanranty 3 ปี ก็ถือว่า โอเคครับ เหมือน Benz
ถ้าราคาลดลง3 แสน ผมเลือกแบบไม่มี BSI ครับ
maintenance ตามระยะ เข้าศูนย์ตลอดระยะเวลา 5 ปี (100,000โล) ยังงัยก็ไม่ถึง 3 แสน
ยกเว้น jackpot ซวยจริงๆ
-
ดีเลยครับ มี warranty 5 ปีแบบเดิมก็โอเคแล้วครับ เปลี่ยน น้ำมันเครื่องเองได้ครับ
-
BSI ก็ไม่ได้รับประกันอะไหล่ทุกชิ้น เห็นมีกระทู้มาบ่นกันบ่อยๆ ผมว่าใช้งบไม่ถึงส่วนลด 3-4 แสนอย่างที่ท่านเจ้าของกระทู้ว่ามาหรอก
-
ไม่มี BSI แต่ยังมี Wanranty 3 ปี ก็ถือว่า โอเคครับ เหมือน Benz
ถ้าราคาลดลง3 แสน ผมเลือกแบบไม่มี BSI ครับ
maintenance ตามระยะ เข้าศูนย์ตลอดระยะเวลา 5 ปี (100,000โล) ยังงัยก็ไม่ถึง 3 แสน
ยกเว้น jackpot ซวยจริงๆ
คิดเหมือนกันครับ :)
-
คิดว่าคนซื้อชอบ แต่คนขายคงไม่ปลื้มเพราะถ้าไม่มี bsi เพื่อเปลี่ยนเป็นส่วนลดแล้ว นั่นหมายถึงต้องมีส่วนลด 3-4แสนทุกๆคัน ขณะที่การมีการซ่อมรถค้าในช่วงที่มี bsi ให้คงไม่3-4แสนทุกคันหรอก อีกอย่างการลดราคาตัวเองขนาดนั่นเหมือนการลดเกรดตัวเอง เก็บไว้กระตุ้นยอดช่วงปลาย model ดีกว่า
-
ส่วนลดมันเป็นตัวเงินที่ต้องจ่ายหรือเสียทันทีครับ
ส่วน BSI บางทีบางคันใช้เยอะ ใชน้อย หรืออาจจะไม่ได้ใช้เลย ใช้ก็อาจจะไม่ถึง 3-4 แสนบาท
ความเสี่ยงกับความคุ้มทุน
-
ถึงไม่มี BSI ปีนึงผมว่าก็คงเสียไม่กี่บาท
เพราะยังไงถ้าอยู่ในระยะประกัน ตรงไหนเสียก็เคลมได้อยู่ดี
-
ผมว่าคนก็รอซื้อตอนลดเป็นแสนกันอยู่แล้วนะครับ ซึ่งถือว่าทำให้คนติดภาพนี้ไปแล้ว ถ้าลดราคาตั้งลงมาอีก ผมว่าแบรนด์จะดูถูกลงมามาก ไม่เทียบเท่า Benz แล้ว
-
BSI ไม่ใช่ Warranty นิครับ
เป็นแค่ค่าบำรุงรักษาต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง ผ้าเบรค จานเบรค อะไรพวกนี้
ใช้ BSI เปลี่ยนอะไหล่เป็นแสนๆ นี่ไม่น่าจะใช่หล่ะ
ถ้ามีอะไร Defect แล้วต้องเคลม ก็เคลมผ่าน Warranty ซึ่งตอนนี้ไม่กำจัดระยะยาง 6 ปีมั้งครับ
BSI กับ Warranty แยกกันนะครับ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคืออันเดียวกัน
-
BSI ไม่ใช่ Warranty นิครับ
เป็นแค่ค่าบำรุงรักษาต่างๆ เช่น น้ำมันเครื่อง ผ้าเบรค จานเบรค อะไรพวกนี้
ใช้ BSI เปลี่ยนอะไหล่เป็นแสนๆ นี่ไม่น่าจะใช่หล่ะ
ถ้ามีอะไร Defect แล้วต้องเคลม ก็เคลมผ่าน Warranty ซึ่งตอนนี้ไม่กำจัดระยะยาง 6 ปีมั้งครับ
BSI กับ Warranty แยกกันนะครับ คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าคืออันเดียวกัน
ประเด็นนี้น่าสนใจมากครับ
-
ผมว่าคนที่ focus เรื่องซ่อมบำรุง ชนิดที่ระแวง กังวลล่วงหน้า ว่า BMW จุกจิกซ่อมแพง พวกนี้จะเบือนหน้าหนีไปทันทีเลยครับ
เพราะมีคนบางกลุ่ม ที่ไม่ได้ focus ที่ราคาตั้งต้น แต่ไป focus ที่ maintenance, reliability และเป็นกลุ่มที่ฟังคนอื่นมากๆ พวกนี้ถ้าไม่มี BSI มา assure ให้อุ่นใจ เค้าไม่ซื้อ BMW แหงๆ
-
ถ้าใช้รถน้อยก็เอาส่วนลด
ใช้รถเยอะก็เอา BSI
แต่ผมคงไม่เอาทั้งสอง...อิอิไม่มีตังค์ซื้อ
-
ตอนผมซื้อ E60 รุ่นแรก ปี 2004
ก็ไม่มี BSI เพราะตอนนั้นยังไม่แถม
ใช้งานมาครบ 5 ปี ค่าบำรุงรักษา ไม่ถึง 3 แสน ครับ
-
ผมเลือกทั้ง Bsi และ ส่วนลดเพิ่ม 3-4 แสนบาท ครับ เหตุผล ได้ทั้ง2อย่าง ดีกว่าอย่างเดียวอยู่ละ
ปัจจุบันก็น้องๆแบบที่จขกท.กล่าวมา ถึงแม้ส่วนลดจะ1-2แสนบาท ไม่ถึง3-4แสนบาทก็ตามทีเถอะครับ
-
อย่างเดิม BSIดีแล้วครับ จะตัดจุดขายตัวเองเพื่อมาแข่งกับเบนซ์ทำไม
ถ้ารถมีดีเฟกก็ทำเรื่องเคลมได้เลย
และก็สาวกบีมเบอร์คงไม่อยากเห็นบีเอ็มออกมาเกลื่อนถนนนักหรอก 8)
-
ที่ยอดขายเป็นแบบทุกวันนี้ เพราะ bsi 50%
เวลาพูดถึงข้อดีของ BM ก็มักจะมี BSI เสมอ
BSI นี่แหละคือ ไม้ตาย ในการ กอบกู้ชื่อเสีย...... จากเหตุเมื่อคราวก่อน
-
เวลาเข้าศูนย์ช่วงมีประกันของเบนซ์ รายการอะไหล่สิ้นเปลืองจะยาวเป็นหางว่าว จะมาพร้อมคำขู่ว่าไม่เปลี่ยนแล้วหมดประกัน
คิดเงินโหดๆ ยันจารบีบานพับประตู
BMW BSI เข้าศูนย์ฟรี มีสาวสวยๆให้นั่งมองอีก เพลินๆไป เบนซ์เข้าทีไรเจอแต่ป้าแก่ๆ ..อ๊ะะ ขออภัยผิดเรื่องไปหน่อยค้่บบบ
-
เวลาเข้าศูนย์ช่วงมีประกันของเบนซ์ รายการอะไหล่สิ้นเปลืองจะยาวเป็นหางว่าว จะมาพร้อมคำขู่ว่าไม่เปลี่ยนแล้วหมดประกัน
คิดเงินโหดๆ ยันจารบีบานพับประตู
BMW BSI เข้าศูนย์ฟรี มีสาวสวยๆให้นั่งมองอีก เพลินๆไป เบนซ์เข้าทีไรเจอแต่ป้าแก่ๆ ..อ๊ะะ ขออภัยผิดเรื่องไปหน่อยค้่บบบ
+1,000,000 Likes