Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2017, 14:53:21
-
เวลามีคนมาถามว่าเอารถรุ่นนั้นรุ่นนี้ดีไหม
ผมมักจะเห็นคนเชียร์ให้เอารุ่นแรงๆ
เช่น e46 เอา 330ไปเลย เอาM3ไปเลย ดีกว่า...
หรือ Mini One อย่าเอา เอาCooper ไม่ก็ Cooper S
คือ มันแรงกว่าจริงครับ period .
แต่ทุกคั้งที่ท่านๆมือใหม่หัดขับรถมือสอง เอารถมาให้ช่วยซ่อม ออพชั่นก็ดี เทอร์โบก็ดี บ่นกันทุกคน
พวกใช้ดีอยู่ก็มาแนะว่า รถผมใช้มาไม่มีปัญหาเลย(งั้นลงไปช่วยซ่อมไหม)
ของมันจะเสีย ก็คือเสีย มีออพชั่นเยอะ มีของพ่วงมาก ก็เสี่ยงมาก โดยเฉพาะรถมือสองนี่
ไม่นานนี้ ผมต้องมาช่วยลูกค้าท่านหนึ่งหาชุดซ่อม/ร้านซ่อมเทอร์โบ ส่งไปกทม มันก็ลำบากละ ส่งมาประกอบกลับท่อยางแตกอีก
โอยๆ เวลามาถามผม แล้วผมบอกให้เอารุ่นล่างๆ ไม่ยอมเชื่อล่ะครับ ไปเอารุ่นโบมา ตายๆ
ขนาดCamry กดสตาร์ทเสีย ยังเรียกว่าซ่อมลำบากเลย พวกรถยุโรปนี่ ไม่ต้องพูดถึงความลำบากกว่าครับ
บ่นครับ บ่น มีเงิน มีเวลาซ่อมก็ แล้วไป อย่าให้ผมเดือดร้อนด้วยเลย เป็นอุธาหรณ์สำหรับคนกำลังมองหารถมือสองแล้วกันครับ
ความพอใจคนเราไม่เหมือนกัน ผมไม่ได้บังคับ พอใจแบบไหนก็เอาครับ
-
เพราะว่าราคามันต่างกันไม่เยอะแล้วครับรถมือหนึ่งเคริ่อง 2.0 อาจจะต่างกับ2.5ถึง 4แสน พอมาเป็นมือสองปีเดียวกันสภาพใกล้เคียงกันส่วนต่างระดับแสนอาจจะต่างกันแค่ 5หมื่นเอง
ในเมื่อมันต่างกันไม่เยอะจะเอาตัวออปชั่นน้อยไปทำไม :-X
-
เป็นผมก็เลือกตัว top ครับ
-
แล้วถ้าราคาเท่ากัน จะเอารุ่นถูกไหมละ
-
ผมมองว่าส่วนหนึ่ง มือหนึ่งนั้นตัวท็อป ราคาแพงมากกกก
ถ้าเป็นมือสองราคาเขาจับต้องได้ ก็เลยรีบคว้า เพราะออพชั่น ระบบความปลอดภัย ถุงลม และลูกเล่นฟรุ้งฟริ้งเยอะแยะมากมายที่ตัวท็อปแต่ละค่ายจะประดังประเดยัดใส่เข้ามา จนบางทีก็ลืมไปว่าการดูแลรักษามันก็ต้องมากตาม = เสียค่าใช้จ่ายมาก(ถ้าเกิดปัญหา)
พอบางทีได้รถมาใช้ บางอย่างก็ไม่เคยใช้เลย ยกตัวอย่างรุ่นน้องของผม ตัวรถต้องมี Paddle Shift จะใช้เอาให้ได้ จะได้ฟิลเกียร์กระปุก พอซื้อมายังไม่เคยใช้เลย ละก็ใช้ไม่เป็นด้วย ฮาาา
แต่ก็อย่างว่าครับ ขึ้นชื่อว่าตัวท็อป สมมุติในเงินลงทุน 500K ตอนนั้นมือหนึ่งอาจจะได้แค่เงินดาวน์เพื่อซื้อตัวล่างๆหรือตัวกลาง แต่พอเป็นมือสอง จำนวนเงินเท่ากับซื้อเงินสดได้ถึงตัวท็อป บางทีเขาอาจจะอดใจไม่ไหวก็ได้ครับ :D
-
ก็ราคาบางรุ่นนี่แทบไม่ได้หนีกันเลย ผมไม่รู้จะเอารุ่นล่างๆทำไม อัตราเร่งก็อืด
แต่คนบางคนเวลาซื้อมือสองเค้าก็เอารุ่นโลวเทคเพราะมันมือสองแล้ว เน้นใช้ยาวก็มีเยอะแยะครับ
-
เป็นผมก็เอาตัวท็อปครับ เรื่องตามซ่อมและเก็บงานผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
แต่ก็บอกเพื่อนที่จะซื้อยุโรปตัวท็อปทุกคนให้เตรียมใจรับสภาพเรื่องซ่อม Option มาเต็มโอกาสพังก็ตามมา บางคนไม่ฟัง พังมาก็บ่น ซ่อมเหนื่อย บอกมือสองไม่ดี ซึ่งจริงๆประหยัดเงินจากมือหนึ่งมาเป็นล้านแล้ว
-
ผมใช้ all new triton มีปัญหา ขนาดมิตซูใหญ่มาขับก็ดับ แต่มันบอกว่าไม่มีปัญหาทั้งที่มันขับก็ดับ
คนในคลับยังไล่ไปขายรถเลย ลองมาขับดูเองมั๊ยล่ะ พูดแล้วเห็นภาพ
มือสองฉันใดฉันนั้น ตอนนี้ผมไม่เชื่อใครล่ะ พวกอวยพวกอะไรเนี่ย ใครไม่เป็นธรรม ใจไม่เป็นกลางก็ไม่ต้องมาคุย ตัวใครตัวมัน
-
ตอนป้ายแดง ต่างกันหลายแสน พอเป็นมือสอง ต่างกันแค่หลักหมื่น ไม่ต่างเลย หรือหนักเข้าก้ ตัวท้อปถูกกว่าตัวล่าง อีกอย่าง คนจะเล่นรถมือสอง ยังไงก้ต้องทำการบ้านมาดีพอสมควร ไม่งั้นเล่นป้ายแดงดีกว่า
-
ส่วนใหญ่ผมก็ไม่ถึงกับเชื่อแรงเชียร์แรงยุขนาดนั้นนะ
ความคิดส่วนตัวก็พอมีบ้าง 555
-
เพราะมันได้ครบกว่าในราคาที่ไม่หนีกันมาก
-
ผมใช้ all new triton มีปัญหา ขนาดมิตซูใหญ่มาขับก็ดับ แต่มันบอกว่าไม่มีปัญหาทั้งที่มันขับก็ดับ
คนในคลับยังไล่ไปขายรถเลย ลองมาขับดูเองมั๊ยล่ะ พูดแล้วเห็นภาพ
มือสองฉันใดฉันนั้น ตอนนี้ผมไม่เชื่อใครล่ะ พวกอวยพวกอะไรเนี่ย ใครไม่เป็นธรรม ใจไม่เป็นกลางก็ไม่ต้องมาคุย ตัวใครตัวมัน
เสียใจด้วยนะครับ มิตซูกระบะผมไม่ได้ซื้อมายี่สิบปีละครับอยากช่วยแต่ไม่ถนัดจริวๆครับ
-
รถใหม่ราคาต่างกันมาก พอเป็นรถใช้แล้วราคาต่างกันไม่มาก
ยิ่ง รถราคาแพงตอนออกใหม่ ส่วนต่างจะยิ่งมาก
-
อย่างที่ความเห็นบนๆว่าครับ ราคามือหนึ่งตัวท็อปกับรองลงมาต่างกันเยอะ
แต่พอเป็นมือสองต่างกันหลัก 1-2 หมื่น ถ้าผ่อนก็เพิ่มแค่ไม่กี่บาทต่อเดือน แต่ได้เครื่องแรง ออฟชั่นเยอะกว่า
-
เห็นด้วยกับคุณ Jae คับ
มือสองผมเคยใช้ AE100 มันมีกระจกไฟฟ้าพับได้ แต่ดันเสียหักเลย
สุดท้ายก็ต้องพับมือไปอย่างงั้น ไม่ได้ซ่อมคับ เซ็งมาก
มานั่งมองย้อน ผมขอรถ ง่ายๆ option น้อยๆ ไม่ต้องซ่อมดีกว่าทั้งมือ 1 และ 2
-
กองเชียร์ก็เหมือนเด็กเชียร์แขกอะนะ. เอารุ่น topเครื่องแรง ได้สุด แต่ไม่ได้ออกตังส์
ลางคนยุขึ้น บางคนยุไม่ขึ้น แม้แต่ป้ายแดงบางคนยังบอกเพิ่มเงินนิดเดียวเปลี่ยนเป็นรุ่นtopสิ หรือเพิ่มนิดเดียวเป็นอีก seg ตัวล่างสิ
ซึ่งนิดเดียวมันอาจจะเป็นแสนนะ. ซื้อตามชอบตามงบดีที่สุด
-
ก็เหมือนสินค้าแบรนด์เนมต่างๆขึ้นห้างใส่ในตู้กระจกดูแพงและเอื้อมไม่ถึงผ่านมากี่ครั้งๆก็ได้แค่มอง แต่พอวันนึงเดินผ่านมามันดันถูกเอาออกมาวางตะกร้าหน้าร้านแล้วติดป้ายSale เป็นใครๆก็ตาลุกครับ
-
กองเชียร์ก็เหมือนเด็กเชียร์แขกอะนะ. เอารุ่น topเครื่องแรง ได้สุด แต่ไม่ได้ออกตังส์
ลางคนยุขึ้น บางคนยุไม่ขึ้น แม้แต่ป้ายแดงบางคนยังบอกเพิ่มเงินนิดเดียวเปลี่ยนเป็นรุ่นtopสิ หรือเพิ่มนิดเดียวเป็นอีก seg ตัวล่างสิ
ซึ่งนิดเดียวมันอาจจะเป็นแสนนะ. ซื้อตามชอบตามงบดีที่สุด
ไม่เหมือนน่ะ เชียร์แขกยังได้ทิป อีไม่ค่อยเชียร์มั่วๆหรอก (ถ้าเป็นขาประจำ) 555
-
ก็เหมือนสินค้าแบรนด์เนมต่างๆขึ้นห้างใส่ในตู้กระจกดูแพงและเอื้อมไม่ถึงผ่านมากี่ครั้งๆก็ได้แค่มอง แต่พอวันนึงเดินผ่านมามันดันถูกเอาออกมาวางตะกร้าหน้าร้านแล้วติดป้ายSale เป็นใครๆก็ตาลุกครับ
ตามนี้ครับ อีกอย่างมนุษย์เราต้องลองเอง ถึงจะรู้ว่ามันเป็นยังไง ฟังเขาเล่าฟังเขาเตือนกิเลส และข้อสงสัยมันไม่หาย
อย่างผมถ้ามีเงิน 4-5 ล้าน ให้เลือกระหว่าง e class ป้ายแดง กับ e63amg w212 มือ 2 ผมคงไป e63 เพราะเกิดมาไม่เคยมีรถระดับนี้ไว้ในครอบครอง ส่วนมันจะพังจนซ่อมไม่ไหวอันนั้นค่อยว่ากัน ถือว่าเป็นประสบการณ์
-
เพราะราคาตอนมือสองมันห่างจากรุ่นล่างไม่ากเท่าตอนป้ายแดง
ตัวอย่าง Accord รุ่นที่แล้ว บางที 2.4 กับ 2.0 ห่างกันไม่ถึงห้าหมื่น แต่ก็ขึ้นกับสภาพด้วย
แต่ถ้าอย่าง Camry 2.4 กับ Hybrid ราคาพอกัน ยอมเอา 2.4 ดีกว่า
-
เพราะรถมือ2 ราคาห่างกันไม่มาก ยิ่ง E46 ระหว่าง 323 และ 330 ราคาใกล้กันมาก คนเลยเชียร์ให้เอา 330 แต่จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่หารู้ใหม่ว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปอย่างสบายใจ ต้องจับเปลี่ยนเครื่องข้ามสายพันธุ์ หาอู่เก่งๆวางเครื่อง toyota ยอดนิยม จบแน่ๆครับ
หลากหลายทางเลือก
1 เน้นใช้งาน ซ่อมน้อย ไม่จุกจิก ราคาเครื่องไม่แพง = 1jz vvti/2jz vvti
2 เน้นแรงมากๆ ซ่อมง่าย = 1jzgte/2jzgte ถอดโบคู่ออก เปลี่ยนใส่โบเดี่ยวมือ1ซะ เพราะโบเดิมติดเครื่องมันอายุมากแล้ว ใช้แป๊บๆก็พัง
3 เน้นแรง+ประหยัด = 1jzgte vvti ถ้าอยากใช้ยาวๆก็เปลี่ยนเป็นเทอร์โบมือ1 จบ
ข้อ 2 และ 3 มีข้อแม้ว่า ต้องเดิมๆห้ามปรับบูสเพิ่ม แล้วจะใช้ยาวๆได้อย่างสบายใจ
ปล. E46 และ E39 มีคนวาง Jbo เยอะแล้ว ทำแล้วจบไม่มีปัญหา ตอนนี้รอดูต่อไปว่า E60 จะมีอู่ไหนบุกเบิกเริ่มวาง Jbo บ้าง
-
รถใหม่ราคาต่างกันมาก พอเป็นรถใช้แล้วราคาต่างกันไม่มาก
ยิ่ง รถราคาแพงตอนออกใหม่ ส่วนต่างจะยิ่งมาก
+1
-
สมมุติจะซื้อ Camry ACV40 รุ่น 2.0G กับ 2.4V CD ราคารถใหม่ต่างกันประมาณ 300,000 บาท
ตอนนี้ผ่านไป 10 ปี ราคามือสองเฉลี่ยต่างกันไม่เกิน 50,000 แต่ได้รถที่ดีกว่าในทุกด้าน แรง ประหยัด
ออพชั่นเยอะกว่า หรือ ACV50 ราคา 2.0G กับ 2.5G แทบจะเท่ากันอยู่แล้ว (ไม่นับ Hybrid :-X)
เป็นผมก็มองตัวที่ดีกว่า ส่วนเรื่องการซ่อมบำรุง คนที่จะซื้อรถมือ 2 ควรเผื่อใจไว้ตั้งแต่แรก
รถยิ่งเก่ายิ่งต้องสำรองเงินไว้ส่วนหนึ่ง
-
มือ2 ตัวท้อป กับ ตัวล่าง มันต่างกันนิดเดียวเองนี่ครับ ชื้อทั้งทีก็เอาตัวท้อปไปเลย บางรุ่นต่างกันแค่ไม่กี่พัน จะเอามาทำไมตัวล่างออฟชั่นโล้นๆ
-
พอมือสอง ราคาล่วงแล้ว ต่างกันไม่มาก เลยซื้อตัวท็อปๆ ดีๆไปเลยดีกว่า เพราะไหนๆราคาล่วงแล้ว เราคุ้ม แต่ก็ตาดีได้ ตาร้ายเสีย หาคนไปเลือกรถด้วย ขอคนมีประสบการ์ไม่ผิดหวังแน่นอน
-
เพราะรถมือ2 ราคาห่างกันไม่มาก ยิ่ง E46 ระหว่าง 323 และ 330 ราคาใกล้กันมาก คนเลยเชียร์ให้เอา 330 แต่จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่หารู้ใหม่ว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปอย่างสบายใจ ต้องจับเปลี่ยนเครื่องข้ามสายพันธุ์ หาอู่เก่งๆวางเครื่อง toyota ยอดนิยม จบแน่ๆครับ
หลากหลายทางเลือก
1 เน้นใช้งาน ซ่อมน้อย ไม่จุกจิก ราคาเครื่องไม่แพง = 1jz vvti/2jz vvti
2 เน้นแรงมากๆ ซ่อมง่าย = 1jzgte/2jzgte ถอดโบคู่ออก เปลี่ยนใส่โบเดี่ยวมือ1ซะ เพราะโบเดิมติดเครื่องมันอายุมากแล้ว ใช้แป๊บๆก็พัง
3 เน้นแรง+ประหยัด = 1jzgte vvti ถ้าอยากใช้ยาวๆก็เปลี่ยนเป็นเทอร์โบมือ1 จบ
ข้อ 2 และ 3 มีข้อแม้ว่า ต้องเดิมๆห้ามปรับบูสเพิ่ม แล้วจะใช้ยาวๆได้อย่างสบายใจ
ปล. E46 และ E39 มีคนวาง Jbo เยอะแล้ว ทำแล้วจบไม่มีปัญหา ตอนนี้รอดูต่อไปว่า E60 จะมีอู่ไหนบุกเบิกเริ่มวาง Jbo บ้าง
ผมกลับมองอีกมุมนะฮะ เดิมbmw ยุคที่ว่า ดีอยุ่แล้ว ไม่ได้ซ่อมจนหมดตัวขนาดนั้น
e60 ตอนนี้ประมาน800000บาท
-ซื้อมาซ่อมแบบเดิมๆเก็บงานสัก 100000บาท ใช้ 3 ปี ตอนขาย อาจขายได้ออกไปสัก 500000 เบ็ดเสร็จขาดทุน 400000
-ซือมาวาง 2j gte ค่าวางค่าเครื่อง มี150000 เก็บงานรอบคัน อีกสัก 50000 รวม 200000 ทำเสร็จขายมันวันนี้เลย ไม่รู้จะมีใครกล้าซือป่าว E60 เครื่อง2j bo ต่อให้ขายที่ราคา 500000
-
เพราะรถมือ2 ราคาห่างกันไม่มาก ยิ่ง E46 ระหว่าง 323 และ 330 ราคาใกล้กันมาก คนเลยเชียร์ให้เอา 330 แต่จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่หารู้ใหม่ว่าถ้าอยากใช้รถยุโรปอย่างสบายใจ ต้องจับเปลี่ยนเครื่องข้ามสายพันธุ์ หาอู่เก่งๆวางเครื่อง toyota ยอดนิยม จบแน่ๆครับ
หลากหลายทางเลือก
1 เน้นใช้งาน ซ่อมน้อย ไม่จุกจิก ราคาเครื่องไม่แพง = 1jz vvti/2jz vvti
2 เน้นแรงมากๆ ซ่อมง่าย = 1jzgte/2jzgte ถอดโบคู่ออก เปลี่ยนใส่โบเดี่ยวมือ1ซะ เพราะโบเดิมติดเครื่องมันอายุมากแล้ว ใช้แป๊บๆก็พัง
3 เน้นแรง+ประหยัด = 1jzgte vvti ถ้าอยากใช้ยาวๆก็เปลี่ยนเป็นเทอร์โบมือ1 จบ
ข้อ 2 และ 3 มีข้อแม้ว่า ต้องเดิมๆห้ามปรับบูสเพิ่ม แล้วจะใช้ยาวๆได้อย่างสบายใจ
ปล. E46 และ E39 มีคนวาง Jbo เยอะแล้ว ทำแล้วจบไม่มีปัญหา ตอนนี้รอดูต่อไปว่า E60 จะมีอู่ไหนบุกเบิกเริ่มวาง Jbo บ้าง
ผมกลับมองอีกมุมนะฮะ เดิมbmw ยุคที่ว่า ดีอยุ่แล้ว ไม่ได้ซ่อมจนหมดตัวขนาดนั้น
e60 ตอนนี้ประมาน800000บาท
-ซื้อมาซ่อมแบบเดิมๆเก็บงานสัก 100000บาท ใช้ 3 ปี ตอนขาย อาจขายได้ออกไปสัก 500000 เบ็ดเสร็จขาดทุน 400000
-ซือมาวาง 2j gte ค่าวางค่าเครื่อง มี150000 เก็บงานรอบคัน อีกสัก 50000 รวม 200000 ทำเสร็จขายมันวันนี้เลย ไม่รู้จะมีใครกล้าซือป่าว E60 เครื่อง2j bo ต่อให้ขายที่ราคา 500000
-E60 ปี 2004-2010 ราคาอยู่ระหว่าง 5 แสน - 1 ล้านครับ
-เดิมๆจุกจิกมากๆถ้าเทียบกับรถญี่ปุ่น
-ผมอยู่ใน club E60 สมาชิกเจอปัญหาแทบทุกวันครับ
-ถ้าซื้อรถมากะขาย การซ่อมให้ระบบเดิมใช้งานได้สมบูรณ์แบบครบๆเป็นสิ่งที่ค่อนข้างยาก เพราะอะไหล่รถชิ้นส่วนมันเยอะ คนส่วนใหญ่ไม่นิยมเปลี่ยนก่อนเสีย แต่เสียแล้วค่อยเปลี่ยน
-ด้วยราคาตัวรถ ทั้ง E46 E39 E60 ถ้าจะซื้อมาใช้ยาว เป็นรถหลักของบ้าน วางเครื่องข้ามสายพันธุ์จบง่ายกว่า บำรุงรักษาน้อยกว่าครับ ซึ่งแต่ละคนมีทางเลือกแตกต่างกันออกไป แต่ผมเองเลือกทางนี้ครับ รถแรงมาก ค่าซ่อมถูก อะไหล่มือ1เพียบ ซ่อมได้ทุกจังหวัด :D
ที่ผมมองว่าจะทำเก็บไว้ใช้ที่บ้าน โดยวางเครื่อง J ทั้งหมด
E46 วางได้แล้วจบ ไม่จุกจิก
E39 วางได้แล้วจบ ไม่จุกจิก
E60 ยังไม่มีใครเริ่มทำ รอดูอยู่ ถ้าวางได้คงสนุกแน่ :) :) :) :) :)