Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fong ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2017, 18:47:21
-
เมื่อก่อนที่เป็นพวงมาลัยพาวเยอร์ (ไม่มีระบบช่วยใดใด) เราจะหมุนพวงมาลัยแต่ละที กล้ามแทบงอก
และเราก็มักจะผ่อนแรงโดยการทำให้รถขยับไปด้วยแล้วจะหมุนพวงมาลัยได้ง่ายขึ้น
และไม่เป็นการทำร้ายหน้ายางที่สัมผัสกับพื้นตอนที่หมุนพวงมาลัยด้วย
แต่เวลาผ่านไป มีระบบช่วยมากมายตั้งแต่ระบบไฮดรอลิกไปจนถึงระบบไฟฟ้า ทำให้การหมุนพวงมาลัยทำได้ง่ายมาก ใช้นิ้วเกี่ยวก็ยังหมุนได้สบาย
แต่ส่วนตัวก็ยังติดกับการที่จะหลีกเลี่ยงที่จะหมุนพวงมาลัยขณะที่รถจอดนิ่งสนิท เพราะยังห่วงหน้ายางอยู่
เลยอยากทราบว่า ความเชื่อเรื่องหน้ายางจะเสียไวหากหมุนพวงมาลัยขณะที่รถจอดนิ่งสนิท ยังเป็นจริงไหมครับ ???
-
ผมถนัดถอย w212,Focus ด้วยการหมุนตอนรถหยุด (แม้ว่าจะถอยออโต้ได้ก้อเหอะ)
ส่วนaccord, eve ขยับๆหมุนๆจะมันตรง
-
อยากให้รถขยับครับ เพื่อลดภาระสึกของหน้ายาง (อนุมานเอาเอง)
-
ผมหมุนตอนหยุดนิ่งครับ จะได้ถอยทีเดียว จบ
ถ้าต้องเลื่อนรถแล้วหมุนพวงมาลัย (เพื่อถนอมระบบเพาเวอร์พวงมาลัย) ก็จะใช้พื้นที่ในการตีวง มากขึ้น ในที่กว้างๆ ก็ไม่มีปัญหา ถอยครั้งเดียวก็เข้าจอดได้
แต่ถ้าในที่แคบๆ ก็ต้องถอยมากกว่า 1 ครั้ง ก็ต้องเข้าเกีบร์ R > D > R เกียร์ก็จะสึกหรอเพิ่มขึ้น
ยิ่งถ้ามีรถ ที่รอเราถอยจอด ก็จะทำให้เขาเสียเวลาไปด้วย
สรุป ผมหมุนพวงมาลัยตอนรถหยุดนิ่ง มากว่า 20 ปี ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ คันชัก/คันส่ง ไม่เคยมีปัญหาครับ
-
แคบมากๆก็ต้องหมุนตั้งแต่ยังไม่ขยับแหละ แต่ถ้ากว้างส่วนมากจะหมุนไปด้วยเคลื่อนรถไปด้วยไม่ใช่ถนอมอะไรนะแค่ธรรมชาติของคนอะถ้าไปได้ไม่อยากอยู่นิ่งๆหรอก
-
รถเริ่มขยับนิดนึงก็หมุนครับ
แต่บางที่มันแคบจัดก็หมุนเลย เพราะว่า มุมไม่พอ
-
จอดนิ่งละหมุนครับ ถ้ารีบก็ไม่รอให้จอดนิ่งนะ
-
ผมหมุนตอนหยุดนิ่งครับ จะได้ถอยทีเดียว จบ
ถ้าต้องเลื่อนรถแล้วหมุนพวงมาลัย (เพื่อถนอมระบบเพาเวอร์พวงมาลัย) ก็จะใช้พื้นที่ในการตีวง มากขึ้น ในที่กว้างๆ ก็ไม่มีปัญหา ถอยครั้งเดียวก็เข้าจอดได้
แต่ถ้าในที่แคบๆ ก็ต้องถอยมากกว่า 1 ครั้ง ก็ต้องเข้าเกีบร์ R > D > R เกียร์ก็จะสึกหรอเพิ่มขึ้น
ยิ่งถ้ามีรถ ที่รอเราถอยจอด ก็จะทำให้เขาเสียเวลาไปด้วย
สรุป ผมหมุนพวงมาลัยตอนรถหยุดนิ่ง มากว่า 20 ปี ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ คันชัก/คันส่ง ไม่เคยมีปัญหาครับ
เป็นมุมมองที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยครับ ขอบคุณมากครับ 8) 8)
-
หมุนตอนขยับเท่านั้นครับ ทำทุกครั้งจนเป็นนิสัยจนชินแล้ว ถ้าที่แคบก็หมุนเร็วหน่อยตอนรถเริ่มขยับ คล่องแล้วทำได้ไม่ต้องคิดมากครับและเร็วกว่าหมุนตั้งตอนหยุดนิ่งด้วย เป็นการฝึกทักษะไปในตัว การหมุนพวงมาลัยระหว่างรถขยับทำให้แม่นและเร็วมากกว่าแน่นอนครับ
ผลดีหลักๆคือลูกหมากและเซอโว ช่วงล่างรถผมยิ่งมีชิ้นส่วนเยอะชิ้นยิ่งมีผลอย่าง bmw e39 รถผมใช้คันละ10-15ปีอย่างน้อยได้ยืดอายุอะไหล่แน่นอนครับ
แต่ถ้ารถใช้ 5-6ปีขายก็ฟรีสไตร์เลยครับ
-
ของผมก็ขยับนิดหน่อยแล้วค่อยหมุนครับ เผื่อถนอมหน้ายางเหมือนกัน
แต่ถ้าที่แคบมาก นิ่งๆก็ต้องหมุนหละ ฮา
จำนวนรอบหมุนอันนี้แล้วแต่ประสบการณ์ครับ
ของผมจะติด มือใหม่ สำหรับแฟนขับ
ยามก็จะมาช่วยโบกก็ยิ้มกันทุกราย
เพราะส่วนใหญ่ก็รอบเดียวจอดเป๊ะตลอดครับ(มือใหม่มั่กๆ)
-
ถ้าพื้นที่ไม่จำกัดจริงๆผมจะขยับรถนิดนึงแล้วหมุนพวงมาลัยไปด้วยครับ
-
ของผมหมุนตอนรถขยับเท่านั้นครับ และต้องขยับตลอดที่หมุนนะครับ
คุณพ่อผมสอนทริกอันนึง ที่ผมลองแล้วถอยจอดไม่ว่าจะแคบแค่ไหน ก็หมุนตอนรถขยับได้และไม่เปลืองพื้นที่ครับ ได้ผลเหมือนหมุนพวงมาลัยตอนอยู่กับที่เลย
คือสมมติเวลาเราถอยแล้วหมุนไปฝั่งซ้าย ถ้าต้องโยกอีกครั้ง โดยปกติเราจะต้องหมุนไปอีกด้านใช่มั้ยครับ ทีนี้ในจังหวะสุดท้ายก่อนจะโยก ให้เราหมุนพวงมาลัยคืนกลับมาแล้วเลยไปอีกด้านรอไว้เลยครับ พอเราเกียร์มา D รถมันจะพร้อมมาอีกด้านโดยไม่ต้องเสียพื้นที่สาวพวงมาลัยเลยครับ
ถ้าจะให้เห็นภาพ คือเวลาเราจะเข้าซองเราเดินหน้าเลยซอง แล้วหักพวงมาลัยไปทางขวารอไว้เลยครับ
พอเราถอยเราก็ถอยเข้าซองได้เลยโดยไม่เสียพื้นที่สาวพวงมาลัย
พอเราเข้าซองแล้วต้องโยกอีกที จังหวะสุดท้ายก่อนสับมาเกียร์ D เราก็คืนพวงมาลัยมาตำแหน่งตรง หรือหักไปทางซ้ายนิดๆ พอเราสับมา D รถเราก็จะไม่เสียพื้นที่สาวพวงมาลัยเลยครับ
ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ เกียร์ต่อไปต้องสาวพวงมาลัยไปอีกด้านครับ ผมใช้ตั้งแต่ฝึกขับรถใหม่ๆ คันแรกๆของผมก็ W124 W126 เข้าจอดตัว C ที่ศาลายา สบายๆเลยครับ
-
ของผมหมุนตอนรถขยับเท่านั้นครับ และต้องขยับตลอดที่หมุนนะครับ
คุณพ่อผมสอนทริกอันนึง ที่ผมลองแล้วถอยจอดไม่ว่าจะแคบแค่ไหน ก็หมุนตอนรถขยับได้และไม่เปลืองพื้นที่ครับ ได้ผลเหมือนหมุนพวงมาลัยตอนอยู่กับที่เลย
คือสมมติเวลาเราถอยแล้วหมุนไปฝั่งซ้าย ถ้าต้องโยกอีกครั้ง โดยปกติเราจะต้องหมุนไปอีกด้านใช่มั้ยครับ ทีนี้ในจังหวะสุดท้ายก่อนจะโยก ให้เราหมุนพวงมาลัยคืนกลับมาแล้วเลยไปอีกด้านรอไว้เลยครับ พอเราเกียร์มา D รถมันจะพร้อมมาอีกด้านโดยไม่ต้องเสียพื้นที่สาวพวงมาลัยเลยครับ
ถ้าจะให้เห็นภาพ คือเวลาเราจะเข้าซองเราเดินหน้าเลยซอง แล้วหักพวงมาลัยไปทางขวารอไว้เลยครับ
พอเราถอยเราก็ถอยเข้าซองได้เลยโดยไม่เสียพื้นที่สาวพวงมาลัย
พอเราเข้าซองแล้วต้องโยกอีกที จังหวะสุดท้ายก่อนสับมาเกียร์ D เราก็คืนพวงมาลัยมาตำแหน่งตรง หรือหักไปทางซ้ายนิดๆ พอเราสับมา D รถเราก็จะไม่เสียพื้นที่สาวพวงมาลัยเลยครับ
ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ เกียร์ต่อไปต้องสาวพวงมาลัยไปอีกด้านครับ ผมใช้ตั้งแต่ฝึกขับรถใหม่ๆ คันแรกๆของผมก็ W124 W126 เข้าจอดตัว C ที่ศาลายา สบายๆเลยครับ
ให้คิดและทำล่วงหน้าไป 1 step สินะครับ ขอบคุณครับผม จะลองไปฝึกดูครับ 8) 8) 8)
-
โดยส่วนตัว ถ้าพื้นที่เอื้อ ก็จะหมุนตอนรถขยับครับ เน้นให้เมียทำตามด้วย ก็ด้วยประสบการณ์รถคันเก่าๆ ที่ไม่มีพาวเวอร์นั่นแหละ
แต่ถ้าพื้นที่จำกัดก็จำเป็นต้องหมุนอยู่กับที่เหมือนกัน
-
ของผมนี่มีทั้ง 3 กรณีเลยครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่ 1-2 ตามสถานการณ์และจังหวะ แต่กรณีที่ 3 นี่ผมทำเฉพาะตอนถอยรถออกจากบ้าน เพราะถ้าหมุนแล้วหมุนหรือขยับๆนิดแล้วหมุน มันจะออกจากบ้านลำบาก ต้องปล่อยไหลแล้วหมุนถึงจะออกไปในทีเดียวครับ
-
ช่องจอดรถแบบในห้าง ขยับรถแล้วค่อยหมุนครับ เว้นแต่เจอช่องที่มีการจอดซ้อนคัน ต้องจอดแล้วหมุนเอา พื้นที่มันไม่พอ ว่าง่ายๆคือพื้นที่เยอะก็แบบ 3 หรือ 2 แต่ถ้าแคบก็แบบ 1
-
แล้วแต่สถาการณ์ ถ้าปกติก็ตามข้อ 2 หมุนพร้อมขยับ แต่มีบางเหตุการ์ณเช่นมีรถจอดขวางหน้ายื่นเข้ามาในช่องที่เราจอดนิดนึงทำให้ถอยตรงๆไม่ได้ต้องถอยเอียง เมื่อหน้ารถพ้นก็ขยับพวงมาลัยให้ตรง แบบนี้ต้องขยับอยู่กับที่ แต่โอกาสใช้มีน้อย
-
พวงมาลัย หมุนตอนรถนิ่งๆ ไม่ดีแน่ครับ
ผมจะขยับเล็กน้อย แล้วหมุนให้ไวๆๆๆเลย
-
การหมุนพวงมาลัยตอนรถอยู่นิ่งๆ ซึ่งพวงมาลัยต้องออกแรงมากที่สุด
ในการชนะแรงต้านแรงเสียดทานของพื้น
และทำงานหนักสุด ยิ่งตอนหมุนพวงมาลัยสุดจากด้านหนึ่งไปจนสุดอีกด้าน
ส่วนความเสียหายระยะยาวจริงๆนั้นผมไม่ทราบครับ
แต่เอาข้อมูลมาจากของFocus ที่เป็นพวงมาลัยไฟฟ้า(EPS Electric Power Steering)
ขณะที่ทำงานสูงสุดดังข้างบน มอเตอร์ของพวงมาลัย(EPS motor)จะกินกระแสไฟสูงมาก
peak current อาจขึ้นไปถึง 80 Amps เกิดความร้อนขึ้นอย่างมาก
ถ้าร้อนมากถึงจุดหนึ่ง เซนเซอร์วัดอุณหภูมิที่อยู่ใน EPS module จะสั่งลดการช่วยเหลือจากระบบEPSลงเรื่อยๆ
เพื่อป้องกันความเสียหาย (ผู้ขับขี่ต้องออกแรงหมุนพวงมาลัยมากขึ้น)
เมื่ออุณหภูมิเย็นลงจึงจะกลับคืนสู่การทำงานปกติ
-
ยังไงก็ได้ครับ เขาออกแบบมาเผื่ออยู่แล้วครับ
-
ของผมหมุนตอนรถขยับเท่านั้นครับ และต้องขยับตลอดที่หมุนนะครับ
คุณพ่อผมสอนทริกอันนึง ที่ผมลองแล้วถอยจอดไม่ว่าจะแคบแค่ไหน ก็หมุนตอนรถขยับได้และไม่เปลืองพื้นที่ครับ ได้ผลเหมือนหมุนพวงมาลัยตอนอยู่กับที่เลย
คือสมมติเวลาเราถอยแล้วหมุนไปฝั่งซ้าย ถ้าต้องโยกอีกครั้ง โดยปกติเราจะต้องหมุนไปอีกด้านใช่มั้ยครับ ทีนี้ในจังหวะสุดท้ายก่อนจะโยก ให้เราหมุนพวงมาลัยคืนกลับมาแล้วเลยไปอีกด้านรอไว้เลยครับ พอเราเกียร์มา D รถมันจะพร้อมมาอีกด้านโดยไม่ต้องเสียพื้นที่สาวพวงมาลัยเลยครับ
ถ้าจะให้เห็นภาพ คือเวลาเราจะเข้าซองเราเดินหน้าเลยซอง แล้วหักพวงมาลัยไปทางขวารอไว้เลยครับ
พอเราถอยเราก็ถอยเข้าซองได้เลยโดยไม่เสียพื้นที่สาวพวงมาลัย
พอเราเข้าซองแล้วต้องโยกอีกที จังหวะสุดท้ายก่อนสับมาเกียร์ D เราก็คืนพวงมาลัยมาตำแหน่งตรง หรือหักไปทางซ้ายนิดๆ พอเราสับมา D รถเราก็จะไม่เสียพื้นที่สาวพวงมาลัยเลยครับ
ทำแบบนี้ทุกครั้งที่ เกียร์ต่อไปต้องสาวพวงมาลัยไปอีกด้านครับ ผมใช้ตั้งแต่ฝึกขับรถใหม่ๆ คันแรกๆของผมก็ W124 W126 เข้าจอดตัว C ที่ศาลายา สบายๆเลยครับ
พ่อผมสอนเหมือนกันเด๊ะเลยครับ ทำแบบนี้ตลอด
-
ขยับครับ
-
::) พยายามขยับครับ
ยังจำเพาเยอร์ได้ รถไม่ขยับนี่อย่างกับพวงมาลัยล๊อค