Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 07, 2017, 16:38:36
-
:) :) :) ตอนแรกไม่ทราบรายละเอียด การซื้อรถกลุ่ม Premium ของคนที่รู้จัก นะครับ คิดว่าผู้ที่ใช้รถระดับนี้เกือบทั้งหมด มีฐานะดีมากๆเลยครับ คิดว่าเขาซื้อสดกันหมด แต่พอมาทราบภายหลัง ปรากฎว่าผ่อนกันเกือบทั้งหมดเลยครับ ทั้งที่เราทราบได้ว่าสามารถซื้อเงินสดได้สบายๆทุกท่านเลยครับ พอได้คุยกับเซลรถกลุ่มนี้ เซลก็บอกว่าส่วนใหญ่ผ่อนครับ แปลว่าคนกลุ่มนี้เขาสามารถเอาเงินสดที่จะต้องจ่ายทีเดียวไปทำให้มันงอกเงยได้มากกว่า ใช่ไหมครับ
-
ผมว่าน่าจะมีผ่อนหลายระดับนะครับ
ถ้าระดับมีเงินก้อน แต่ก็คงผ่อนเพราะไม่อยากเสียเงินก้อนโดยการซื้อสด เอาไว้ลงทุนหรือเก็บไว้ให้อุ่นใจ
ระดับที่เงินไม่ถึงแต่มีเงินเดือนหรือรายได้ที่มั่นคง ก็อาจจะเลือกรถรุ่นล่างๆที่สามารถผ่อนไหว (หรือหันไปหารถญี่ปุ่นรุ่นบนๆแต่ผ่อนสบายกว่า)
-
เรื่องปกติ เจ้านายเก่า เงินเดือน 2 แสน ตอนซื้อ X3 ก็ยังผ่อนเลย แกบอกเก็บเงินสดไปซื้อที่ดีกว่า
-
ผ่อนก็มีหลายแบบนะครับ
บางคนก็ผ่อนเหนื่อย บางคนก็ผ่อนขำ ๆ
ใครจะตัดสินว่าขับเบนซ์หรือบีเอ็ม ออดี้ แล้วจะรวยมากไม่ได้นะครับ อิอิ
บางคนขับ GLA แต่ใครจะรู้ว่ามี S500 จอดที่บ้านอีกคันก็เป็นได้
คือต้องมีฐานะพอสมควรเหมือนกัน แต่ไม่ต้องรวยมากก็มีตังซื้อมาขี่จ้า
ส่วนผมนะเหรอ 5555 ก็ขับรถบ้าน ๆ ต่อปายย ยาว ๆ ยาวมากกก ;D
-
ไม่ว่าจะรวยจน ผ่อนกันหมดเพราะดอกรถถูกกว่ากู้บ้าน กู้ OD หรือแม้กระทั่งเอาเงินก้อนไปซื้อ ltf หักภาษี
มีแต่รวยมากๆ ขี้เกียจผ่อน หรือไม่อยากสร้างหลักฐานการผ่อนถึงซื้อสด
-
เอาเงินก้อนที่มีไปทำอะไรได้อีกเยอะที่ผลตอบแทนมันมากกว่าดอกเบี้ยไฟแนนซ์หน่ะครับ
-
เขาผ่อนกันเยอะเลยครับ ดอกเบี้ยผ่อนรถใหม่นี้ถูกกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ดอกเบี้ยแบงค์อีกนะครับ เพราะฉะนั้นซื้อรถใหม่แบบผ่อนไม่ถือว่าแพงมากครับ
-
เอามาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ครับ ผมก็ผ่อน ผ่อนทุกคันเลย ดอกแพงไม่ต่างกับกู้แบงค์ แต่กู้แบงค์ยากกว่ามาก
-
น่าจะเอาเงินสดไปบริหารอย่างอื่นมั้งครับ
-
ผมว่าแล้วแต่วิธีคิดของแต่ละบุคคลนะครับ เลือกผ่อนเพราะเงินก้อนอย่างน้อย 2-5 ล้าน ลงทุนอะไรๆได้เยอะเหมือนกันครับ
แต่อีกกรณีนึง ถ้าดูราคารถ คิดคำนวณแล้วไม่เดือดร้อน มีเงินเหลือพอจะทำอย่างอื่นแล้ว ซื้อสด = ไม่เสียดอกเบี้ยเลยซักบาท
-
ซื้อรถเงินผ่อน ข้อดีเยอะแยะครับ อยู่ที่เจ้าของเงินจะบริหารเงินยังไง
ส่วนคนซื้อเงินสดคือคนที่ไม่รู้จะเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุนอะไรก็ซื้อสดไปเลยไม่ต้องเสียดอกสบายใจ กับอีกพวกคือคนที่โคตรรวยจนไม่ต้องมาคิดเรื่องการลงทุนจากเงินไม่กี่ล้านบาทแล้ว
-
.
.
ของผมหลักการง่ายๆครับ ถ้าต่ำกว่าล้านซื้อสด
ถ้าแพงกว่านั้นผ่อนเลย เอาเงินสดเก็บไว้ทำอย่างอื่นดีกว่าครับ
-
ของผมมันผ่อน0% 5ปี มีส่วนลดเงินสดอีกก้อนนึง ก็เลยไม่รู้จะจ่ายสดหมดทำไม ก็ถามเขาอยู่ว่าถ้าซื้อเงินสดจะเพิ่มส่วนลดให้ได้อีกไหม เขาบอกว่าก็ได้เท่านี้แหละ ผมเลยผ่อน
-
ผ่อนดอก0% ครับ หาเหตุผลซื้อสดไม่เจอ แล้วได้รู้จักกับพนักงานไฟแนนท์เพิ่มอีก มีโอกาสพัฒนาเป็นชู้ได้ถ้าหล่อหน้าตาดี ฮ่าๆ ไม่ใช่ผมครับ จากเพื่อนชายที่ผมสนิทคนหนึ่ง แกเป็นเกย์ มีเงินพอเปลี่ยนรถได้ทุกการเปลี่ยนโฉมของรุ่นที่แกชอบ แต่ถ้าผ่อนต้องมีดอกคุณเพื่อนผมอาจซื้อสด (แล้วแกก็ได้พนักงานไฟแนนท์จริง แถมได้พนักงานขายประกัน ตอนเคลมอีก แผนสูงมากๆ)
-
:) :) :) ตอนแรกไม่ทราบรายละเอียด การซื้อรถกลุ่ม Premium ของคนที่รู้จัก นะครับ คิดว่าผู้ที่ใช้รถระดับนี้เกือบทั้งหมด มีฐานะดีมากๆเลยครับ คิดว่าเขาซื้อสดกันหมด แต่พอมาทราบภายหลัง ปรากฎว่าผ่อนกันเกือบทั้งหมดเลยครับ ทั้งที่เราทราบได้ว่าสามารถซื้อเงินสดได้สบายๆทุกท่านเลยครับ พอได้คุยกับเซลรถกลุ่มนี้ เซลก็บอกว่าส่วนใหญ่ผ่อนครับ แปลว่าคนกลุ่มนี้เขาสามารถเอาเงินสดที่จะต้องจ่ายทีเดียวไปทำให้มันงอกเงยได้มากกว่า ใช่ไหมครับ
แค่กู้เงินซื้อรถถือว่าเด็กๆมาก ลองคิดดูว่า CP ร่ำรวยมหาศาลขนาดไหน ตอนที่ซื้อกิจการแม็คโครเขากู้เงินจากธนาคารต่างประเทศแสนกว่าล้านเพื่อมาซื้อกิจการนะครับ เป็นการกู้เกือยจะร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ ยิ่งรวยมากยิ่งกู้มาก รวยน้อยกู้น้อย
-
ไม่คิดจะผ่อนก็อย่าซื้อป้ายแดงให้เสียของ ดอกมันถูกเกือบจะเท่าเงินเฟ้อด้วยซ้ำ
ยิ่งคนรวยไม่ต้องพูดถึง เขาถนัดเรื่องลงทุนให้เงินงอกได้ กู้ODเขาก็ยังทำเงินได้มากกว่าดอก นับประสาอะไรกับดอกรถ
จะซื้อสดก็ต่อเมื่อตัดรำคาญ
หรือมีเงินเหลือมากจริงๆ(หลายเท่าของราคารถ)
-
คนใกล้ตัวผมก็เลือกซื้อแบบผ่อน ครับ ส่วนใหญ่จะมอง 2 แบบครับ
- ถ้าดอกเบี้ยไม่สูงมาก เพราะหากใช้เงินก้อนไป มีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถเก็บเงินก้อนได้เท่าเดิม เลือกเก็บเงินก้อนไว้ดีกว่า
- คำนวนแล้วว่า หากนำเงินก้อนนั้นไปลงทุน ผลกำไรที่จะได้มันมากกว่าดอกเบี้ยที่เสียครับ
-
ซื้อบ้านให้ซื้อเงินสด
ซื้อรถให้ซื้อเงินผ่อน
*ถ้ามีเงินมากพอ*
ดอกเบี้ยผ่อนบ้านแพง
ดอกเบี้ยผ่อนรถถูก(เอาไปลงทุนอื่นได้มากกว่าเสียดอกเบี้ย)
-
ซื้อสดก็ดีครับ ถ้าเกิดเราเป็นอะไรขึ้นมา จะได้ไม่ต้องทิ้งภาระให้คนข้างหลังผ่อนรถต่อ :'( :'( :'(
-
โปรโมชั่นที่มีผลให้ผมเปลี่ยนรถใหม่ มากที่สุด
คือ ดอกเบี้ย 0% (มีส่วนลด ของแถมอื่นๆ อีก)
แต่บางทีผ่อนไปซักพักเริ่มขี้เกียจเอาเงินใส่สมุด
อยากโปะให้จบๆ ไปเลย โดยเฉพาะปีสุดท้าย....
แต่ผ่อนมันดอก 0% เลยต้องผ่อนกันต่อไป
จะซื้อสดถ้ารถราคาไม่เกิน 2 ล้านครับ
เกินกว่านี้ รู้สึกใช้เงินก้อนใหญ่ไปหน่อย
-
เราซื้อสดbenzมา4ล้านบาท รู้สึกมีคุณค่ากว่าผ่อนนะ อีกอย่างคือขี้เกรียจไปจ่ายทุกเดือนๆ เงินเดือน6แสน
-
ผมก็ผ่อนครับ ไม่มีเงินสดเหลือพอซื้อ อิๆ
-
ทำLeashing
แล้ว ครบห้าปี
เอาซากมาหักค่าเสื่อมเส้นตรงต่อ
-
บางทีก็ผ่อนเพื่อเอามาลดภาษีนะครับ
คนขับพวก supercar อย่าง แลมโบ ยังผ่อนเลย
-
เกินล้านผ่อน ต่ำล้านซื้อสดคับ
ได้บทเรียนตอนซื้อ f10(มือสอง) เงินสด แห้งเลย พลาดเพราะบริหารเงินไม่เป็น หน้ามืด :'(
-
คนรอบตัวก็ผ่อนกันหมดนะ
เอาเงินสดไปทำอย่างอื่นดีกว่า
นิติบุคคลก็ financial lease ลดภาษีได้
แค่ไม่ผ่อนบอลลูนครับ ดอกมันแพงเกินแถมงวดบอลลูนก็เยอะกว่าดาวอีก
-
ปกติเลยคับ
ยิ่งในนามบริษัท ยิ่งควรผ่อนเลย
-
คนรู้จักผม ผ่อน ลัมโบ 2 คันครับ
กายาโด้ 1 อเวนทาดอร์ 1
-
ดอกรถเดี่ยวนี้ไม่แพงมากครับ เอาตังไปทำอย่างอื่นได้เขาก็ทำ แต่บางคนชอบจ่ายสดก็แปะสดเลย มีทั้ง 2 แบบ ไม่มีอะไรแปลก ;D
-
ส่วนใหญ่ก็ผ่อนทั้งนั้นละครับ จะเอาเงินไปจมทำไมละ
ดอกเบี้ยก็ถูกแสนถูก
-
บางคนเล่นผ่อนบอลลูนด้วยครับ
คนมีตังก์เขาเอาเงินก้อนไปทำกำไรงอกเงยกว่าเอามาทุ่มซื้อรถทีเดียว
-
รถ=ลด ต้นทุนก็เท่ากับทุนชีวิต ไม่ควรนำออกมาใช้จ่ายก้อนใหญ่ขนาดนั้น จะหนักหน่อยก็แค่ตอนหาเงินมาดาวน์มัน แต่ผ่อนคิดคำนวณต่องวดดูแล้วไม่ควรเกินครึ่งนึงของรายได้ ผมถึงซื้อ
-
ซื้อสดหักค่าเสื่อมได้ 1 ล้านต้องหัก 5 ปีขึ้นไป เท่ากับอย่างเร็วหักได้ปีละ 2 แสน
เช่าแบบลีสซิ่ง หักค่าใช้จ่ายได้สูงสุดเดือนละ 36000 ทั้งปีก็ 4.3 แสน
ถึงแม้ดอกจะแพงกว่า แต่ประหยัดภาษีบริษัทได้เยอะกว่าซื้อสดมากนะครับ
-
ซิ้อสด เซลล์เล่นตัว ไม่อยากคุยด้วย ไม่แถม
ไม่ไปกินข้าวด้วย เลยจำใจต้องซื้อผ่อนอ่ะนะ
เพราะขออะไรเธอก็ให้ ตามใจหมด :P
-
เป็นแบบนี้มานานแล้วนี่ครับ BMW ก็มีบอลลูน แบ่งเงินดาวน์ไปงวดสุดท้าย
บางคนเอาไปซื้อกองทุนนั่งกระดิกเท้าก็ได้ปีละหลายสิบ% ;)
-
;D 8)
ถึงจะซื้อเงินผ่อน แต่ยอดที่ขอไฟแนนซ เป็นหลักล้านบาท
ซึ่งยอดสูงกว่าผ่อนรถ D segment พอสมควร
ดังนั้นการขอให้ผ่านก็ยากพอตัวฮะ เลยมีการ "ไฟแนนท์ไม่ผ่าน" สำหรับรถ premium อยู่เรื่อยๆ
แต่เซลเขาไม่เอามาเล่าให้เราๆท่านๆฟังเท่านั้นเอง เพราะกลัวโดนลูกค้าด่าไล่หลัง
-
และที่น่่าสนใจกว่านั้น ยังเป็นยอดยึด ยอดคืนรถผ่อนไม่ไหวคิดเป็นเปอร์เซนต์ พอๆกับรถไม่พรีเมี่ยมนั่นแหละครับ
-
ถ้าเป็นเจ้าของธุรกิจก็จะมีทั้งผ่อน และ สด พอๆกันครับ ถ้าซื้อในนามบริษัทก็ผ่อนทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นคนมีอายุหน่อยๆ ก็มักจะซื้อสด เพราะเป็นเงินเก็บ ซื้อรถพรีเมี่ยมเป็นรางวัลชีวิตบั้นปลาย
แต่ถ้าทำงานประจำ 90% ซื้อผ่อนทั้งนั้นครับ แถวบ้านผมมีทั้งเป็นอาจารย์มหาลัย แต่ออก e250 coupe หล่อเลย แถมส่งบ้านอีก 7 ล้าน ไม่รู้ส่งกันยังไงไหว สงสัยเงินเดือนเป็นแสน
อีกคนเป็นหมอ ออก e300 hybrid เฉย รุ่นเดียวกับเสี่ยร้านคาราโอเกะแถวบ้านอีกคน สุดยอดมาก แต่รายหลังรู้สึกจะซื้อสด
-
ไม่ต้องการเสียดอก ซื้อสดจบๆไป แล้วค่อยเก็บเงินไปทำอย่างอื่น ค่อยๆมีทีละอย่าง
ไม่สร้างภาระหลายอย่างในเวลาๆใกล้ๆกัน
-
แถวบ้านผมมีทั้งเป็นอาจารย์มหาลัย แต่ออก e250 coupe หล่อเลย แถมส่งบ้านอีก 7 ล้าน ไม่รู้ส่งกันยังไงไหว สงสัยเงินเดือนเป็นแสน
ผมทำงาน ม.เอกชน มาเกือบ 20 ปี
ถ้า เป็น อาจารย์ที่สอนเก่งๆ ขยันๆ วิ่งหลาย มหาลัย เกิน1.5แสน / เดือน แน่นอนครับ
-
อันนี้แล้วแต่มุมแต่ล่ะคนเลยครับ แต่สำหรับผมดอกเบี้ยรถไม่ได้แพงอะไรครับ ผ่อนตั้งหลายปีดอกเบี้ย บางทียังไม่ถึงหลักแสนเลยถึงจะเป็นรถยุโรปก้เถอะ บ้าน คอนโด น่าซื้อเงินสดมากกว่าครับ
-
ถ้ามีลู่ทาง เงินที่ซื้อสด สามารถเอามาหมุนแป๊ปๆก็เกินดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย 5 ปีแล้วครับ ส่วนที่เหลือก็เป็นกำไรเข้าบริษัท ซื้อรถเป็นชื่อบริษัทค่าใช้จ่ายก็เอามาหักภาษีได้อีก
-
ผ่อนเสียดอกแค่ 3-5% อย่างมาก
คนมีเงินส่วนมาก เขาทำให้มากกว่านี้เยอะครับ
อย่าเทียบกันคนทั่วไป ที่ลงทุนแต่ของพื้นๆ กำไรนิดหน่อย แบบนี้ ซื้อสดดีกว่า เสียดายดอก
-
ซื้อบ้านให้ซื้อเงินสด
ซื้อรถให้ซื้อเงินผ่อน
*ถ้ามีเงินมากพอ*
ดอกเบี้ยผ่อนบ้านแพง
ดอกเบี้ยผ่อนรถถูก(เอาไปลงทุนอื่นได้มากกว่าเสียดอกเบี้ย)
อย่าดูแต่ตัวเลขนะครับ ต้องดูวิธีการคิดดอกเบี้ยด้วย
ดอกเบี้ยบ้าน คิดแบบเงินต้นลด ดอกเบี้ยที่จ่ายจริงก็ลดตามไปเรื่อยๆ
ดอกเบี้ยรถ โดยทั่วไป คิดจากยอดเงินกู้ในวันที่ทำสัญญา คงที่ ไปตลอดอายุสัญญาครับ
สรุป ดอกเบี้ยบ้านถูกกว่าครับยกเว้น ดอกเบี้ยรถ จัดโปรโมชั่นที่ต่ำมากๆ