Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มีนาคม 09, 2017, 12:52:23
-
:) :) :) ผมนั่งดูข่าวที่มีคลิป อุบัติเหตุ แล้วทำให้ต้องหักพวงมาลัยเลี้ยวหลบกระทันหัน
บางคันก็ตกข้างทางไปเลยทะลุไปเลนฝั่งตรงข้ามอีกต่างหาก
บางคันก็เลี้ยวกระทันหันไปแล้วก็หักกลับมา ยิ่งเตลิดเปิดเปิงไปใหญ่
น้อยคันที่จะตั้งใจเบรคตรงๆให้ชนไปเลย
และสุดท้ายไอ้คนผิดกับรอดสบาย ส่วนคนหักหลบกลับวอดวาย
เลยไม่รู้ว่าเวลาต้องเจอเหตุการณ์จริงควรต้องทำอย่างไรดี แล้วทักษะนี้ต้องควรฝึกฝนอย่างไรครับ ท่านใดมีประสบการณ์ตรงบ้างครับ รถแต่ละรุ่นมีโอกาสรอดต่างกันมากไหมครับ
-
หักไปเล็งไอ้คันที่ทำผิดไว้ เอามันไปด้วย 555
-
ตอบได้เล็กน้อยนะครับ หักหลบคล้ายๆ moose test นั่นแหละครับ แต่ผมไม่ด้มีหลักการอะไรถึงกับระดับมืออาชีพนะ แค่ตกใจและพอเอาตัวรอดได้เท่านั้น
เคยเจอ 2 ครั้ง ใน Toyota Harrier กับ Jaguar XJ สถานการณ์และความเร็วพอๆกัน ช่วงซัก 70-90 km/h, สัมผัสได้เลยว่าว่ารถแต่ละรุ่นมีผลครับ
-
หักหลบโดยประคองพวงมาลัย พร้อมยกคันเร่ง ถ้ารถเสียอาการก็แต่งคันเร่งช่วยบ้าง ข้อสำคัญตอนหักหลบอย่ากระทืบเบรคโดยเด็ดขาดครับ
ถ้าจวนตัวจริง ก็ต้องชนแหละครับ
-
แต่ละคนคงทำไม่เหมือนกัน และก็แล้วแต่สถานการณ์ เวลานั้นอีก
รู้แต่ว่า การมองจราจร รอบๆรถเรา ตลอดเวลาที่ขับขี่ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมินสิ่งที่จะกระทำ หากคับขัน
สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ช่วงล่างและระบบเบรคที่ดี มันมีส่วนสำคัญมากต่อการหักหลบกระทันหัน มันจะช่วยไม่ให้รถเสียหลัก
-
ขับให้ช้าก่อนหักหลบครับ น่าจะปลอดภัย
-
ประสบการณ์หักหลบกะทันหัน เท่าที่เคย คือ ตั้งใจหักไปเลนข้างๆ ในระยะประชิดกับคันหน้าที่จอดติดอยู่ (ระยะห่าง ไม่เกิน 5 เมตร ความเร็วที่มา 40+)
เหตุ คือ คุยกับแฟน และเถียงกันว่าจะไปไหนดี เลยไม่ได้สนใจว่ารถด้านหน้าติดอยู่
สิ่งที่ทำคือ หักหลบ ไปเลนทางขวา ทันที ด้วยนิสัยการขับรถ ที่คุณพ่อสอนฝังหัวมาว่า ให้มองกระจกสำรวจรอบๆ ตัวเรา เป็นระยะ ผมเลยติด และทำมาตลอด จึงทราบว่า 'น่าจะ' ไม่มีใครขับมาในเลนข้างๆ
ตลกดี ที่พอรู้สถานการณ์เลนข้าง แต่กลับไม่ใส่ใจกับสิ่งที่อยู่ด้านหน้า :'(
เป็นครั้งเดียวที่เกิดขึ้น ตลอดเวลาหลายปีที่ขับรถมา
-
สำหรับผมบอกได้คำเดียวว่า
ลดความเร็วก่อนที่จะหลบ
ประเมินเหตุการณ์ก่อน แล้วลดความเร็ว
ไม่ใช่ จวนตัวแล้วเบรค ไม่มีรอดสักราย อิอิ
-
ถ้ารถเดิมๆที่ราคาไม่เกินล้าน ระดับความเร็วประมาณ 100+ โอกาสรอดยากครับ ผมขับรถค่อนข้างซิ่งตอนวัยรุ่น ได้ลองรถมาหลากหลายรุ่น แต่งรถมาก็เยอะ ขอสรุปตามนี้
Jap
- Eco และ B seg ต่อให้ทำช่วงล่างก็โอกาสรอดยาก เนื่องจากฐานล้อสั้นเสียการทรงตัวง่าย และถ้าหลุดลงข้างทางโครงสร้างตัวถังรอดยากครับ
- C seg โอกาสรอดเพิ่มมากขึ้น ฐานล้อยาวขึ้น โครงสร้างแข็งแรงขึ้นอีกระดับ
- D seg โอกาสรอดเพิ่มมากขึ้นไปอีกระดับ แต่ยังด้อยกว่าพวกรถยุโรปพอสมควร
Europe premium พวก benz , volvo , bmw
- เกือบทุก Seg ออกแบบโครงสร้างแข็งแรง airbag หลายใบ ระบบช่วยเหลือเยอะ โอกาสรอดก็สูงตาม รถเดิมๆส่วนใหญ่ทำมารองรับความเร็วสูง โอกาสเสียการทรงตัวน้อยกว่ารถ Jap มาก
ถามว่าอะไรที่ดี ปลอดภัยต่อชีวิตขึ้นมาก และประหยัดเงินในกระเป๋า
1 งบน้อย มีความรู้เรื่องรถในระดับ " น้อย" บำรุงรักษาง่าย Jap D seg มือ 2 พวก Camry accord teana เปลี่ยนแค่โช้คสตรัท ผ้าเบรคเกรดสูง ยางหน้ากว้างเกรดสูง
2 งบน้อย มีความรู้เรื่องรถระดับ "ปานกลาง" บำรุงรักษาง่าย Europe D seg มือ2 วางเครื่องJap นอกนั้นใช้พื้นฐานรถเดิมๆ
3 งบน้อย มีความรู้เรื่องรถระดับ "มาก" บำรุงรักษาง่าย Europe D seg มือ 2 วางเครื่องJap จัดเต็มช่วงล่างโช้คสตรัทหรือถุงลมปรับสูงต่ำแข็งอ่อน เบรคbrembo ยางตัวtop ค้ำโช้ค ค้ำตัวถัง โรลบาร์ ฯลฯ
-
ขึ้นอยู่กับรถด้วยครับ ถ้ามีระบบช่วยควบคุมการทรงตัว กรณีหลบสิ่งกีดขวางที่อยู่ในเลนตัวเองไปเลนอื่นอย่างฉับพลัน สามารถหักหลบได้เลยโดยที่ไม่ต้องเบรคครับ ที่ความเร็วไม่เกิน80กม/ชม แต่หากความเร็วเกินกว่านั้นอาจต้องกระแทกเบรคให้ABSทำงานก่อนครับ (เหยียบเบรคสุดแช่ไว้แล้วหักหลบ)
-
ผมเบรคก่อนแล้วค่อยหักครับ
-
ต้องไม่มีรถอยู่ด้านข้าง
และอย่าใช้ความเร็วสูงครับ ตอนหักหลบถ้ามาเร็วรถหมุนแน่ๆ
-
หารถที่ช่วงล่างดีดี มีระบบช่วยเหลือครับ
มองเป็นหาเป็นอันดับต้นๆเลย
มองหาแต่ราคาขายต่อ มันก็จะไม่เจอรถดีดี
-
ปกติขับรถก็จะมองรอบๆ เป็นระยะๆครับ
ส่วนมากผมจะเบรคก่อนอยู่แล้วครับ เวลาเจออุปสรรคข้างหน้า อย่างรถเบรคกระทันหันหรือของหล่น ผมมักจะคิดว่าถ้าเบรคไม่อยู่ก็ชนๆไปเหอะ ดีกว่าเอาชีวิตคนอื่นๆในรถไปเสี่ยงกับอะไรไม่รู้ถ้าตกถนนไป
ถ้าเลนข้างๆว่างนะครับ ก็เบรคให้รถช้าลงที่สุด แต่ต้องระวังนะครับช่วงระหว่างปล่อยเบรคกับเริ่มเลี้ยวพวงมาลัยนี่โมเมนตัมรถมันจะเปลี่ยนมาก พอหมุนพวงมาลัยแล้วรถอาจจะไม่เลี้ยวตามทันที จังหวะนี้แหละที่บางคนจะพลาด ตอนรถเริ่มเลี้ยวไปเลนข้างๆแล้วก็เริ่มคืนพวงมาลัยได้แล้วครับ
ของแบบนี้ต้องลองเองครับขับทางด่วนโล่งๆเลนกลางสัก 80 แล้วลองหักพวงมาลัยเร็วกว่าปกติดูครับแล้วจะรู้เลยว่ารถมันมีแรงเหวี่ยงจากตัวรถเอง มากหรือน้อยขึ้นกับตัวรถด้วยครับ ขับรถไม่มี ESC ต้องระวังเหตุฉุกเฉินมากหน่อย
-
ขึ้นอยู่กับความเร็วในขณะนั้นด้วยครับ และทักษะการขับขี่ สติ การตัดสินใจ
ในช่วงเวลานั้นสำคัญมาก การทิ้งระยะห่าง ระหว่างรถ หรือแม้แต่ การสังเกตสิ่งรอบตัว
ถ้าช่วงความเร็วไม่สูงมากนัก 40-50 กม/ชม เอาอยู่นะสำหรับหลายๆคน แต่ถ้าเกินกว่านั้นน่าเป็นห่วงครับ
ยิ่งถ้าเป็นถนนลื่น ฝนตก มีน้ำขัง การหักหลบกระทันหัน ยิ่งอันตรายมากครับ
หักหลบได้จริงแต่การแก้อาการรถให้เหมือนเดิม อันนี้น่าห่วงจริงๆ จะเบรก จะเติมคันเร่ง จะหักพวงมาลัย
ถ้ารถมี ABS ก็ช่วยได้เยอะครับ หรือระบบควบคุมการทรงตัวมาด้วยก็พอ ผ่อนหนักเป็นเบาลงบ้าง
แต่ไม่ได้หมายความว่าจะผ่านพ้นไปได้ทุกครั้ง ระบบทุกอย่างมันมีขีดจำกัด
จากที่เคยเห็นคลิป รถมากมายหลายระดับ ซุปเปอรคาร์ รถพรีเมี่ยม รถทั่วๆไป ก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง
-
ผมเบรคก่อนแล้วค่อยหักครับ
เหมือนกันครับ ผมเบรคแล้วค่อยหักหลบ
-
สำหรับผมนะ
1.อยู่ที่ลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสามารถหลบหลีกได้หรือไม่ เกินสมรรถนะของตัวรถมั้ย
2.ชั่วโมงบินและประสบการ์ณของคนขับ เพราะเหตุการ์ที่ไม่เกินสมรรถนะรถแล้วจะอยู่ที่คนขับว่าสามารถรีดความสามารถตัวเองออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงได้หรือไม่
3.อยู่ที่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวรถ รถแต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกันทั้งน้ำหนักเบรค จังหวะการจับเบรค น้ำหนัก อัตราทดและความไวของพวงมาลัย
การที่เหตุเกิดซึ่งหน้า และกระทันหัน คนขับที่มีการตื่นตัวดี ไม่ตกใจ จะต้องทำหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้รอดจากอุบัติเหตุนั้น ตั้งแต่
1.การจัดรถให้อยู่ในลักษณะที่หลบง่ายที่สุด
2.เบรคเพื่อลดความเร็วมากที่สุดโดยที่รถไม่เสียหลัก(เพราะขณะเบรคอาจจะต้องหักพวงมาลัยไปด้วย)
3.หักพวงมาลัยไม่น้อยจนหลบไม่พ้น หรือไม่มากเกินจนเกิดอาการ Over Steer ที่แก้ไขไม่ได้ หรือถ้าเกิดก็ต้องใช้ความสามารถในการแก้ไขไม่ให้รถตกข้างทางอีก
-
ผมตอบง่ายๆ เลยครับ ใช้รถที่ระบบความคุมการทรางตัว จำพวก VSA,VSC อะไร จำพวกนี้ครับ
โอกาศรอดจะมีมากขึ้นเยอะ ถ้าไม่ชนรถเลนข้างๆ
เมื่ออยู่ในเหตุการณ์ให้กระทืบเบรคสุดแรงก่อนเลย ถ้าเห็นว่าไม่อยู่แน่ๆ ค่อยถอนเบรคก่อน แล้วค่อยหักหลบครับ
ช่วงหักหลบอย่าเบรค ให้เอาสมาธิไปอยู่ที่พวงมาลัยและจับอาการของรถครับ พอตัวรถตั้งลำเกือบตรงค่อยกระทืบเบรคซ้ำอีกทีครับ
ผมเคยหักหลบด้วย Toyota Wish หักหลบซ้ายจังหวะแรก ล้อซ้ายหน้า หลังลอยจากพื้น แล้วจังหวะ 2 หักขวา ด้วย 2 ล้อขวาที่ลอยจากพื้น เพื่ออ้อมรถสิบล้อออกจากซอยเพื่อจะยูเทิร์นเป็นกลางถนน
-
ผมขับรถ จะเผื่อระยะตลอด ไม่เคยจี้ใคร ใครจี้ผม ผมให้แซงไปก่อนเลย ถ้าถนนหลายเลน ไม่เคยขับขวาซักครั้ง นอกจากแซงขึ้นไป พ้นแล้วก็เข้าซ้าย
ผมว่าป้องกันไว้ก่อน มันดีกว่าแก้ครับ
-
ในสถานการณ์เดียวกัน. รถสมรรถนะดีช่วยได้เยอะครับ
ยิ่งพวกพวงมาลัยคมๆ ทรงตัวดีๆ. ช่วยได้มากเลย
-
ปัจจัยเยอะมากครับ
แต่ที่ผมคิดว่าถูกต้องคือเบรคสุดแล้วหักพวงมาลัยหลบนิดเดียว
ก็จะสามารถหยุดได้เลยจุดชนไปได้แบบเฉียง ๆ
ถ้าคิดจะหลบจากจุดนั้นให้พ้นก็เบรคแล้วปล่อย แล้วหักพวงมาลัย แล้วหักกลับครับ
แค่คิดนี่ยังเสียวเลยครับ บรื๋อออออ
-
การหักหลบทำได้ครับ แต่จะรอดไม่รอดไม่มีใครรู้ครับ
มีระบบ VSC TRC ช่วยได้พอสมควรครับ
แต่ถ้าไม่มีระบบช่วย
อันนี้ก็แล้วแต่ที่ความเร็วที่วิ่งมา และความกว้างของถนน และพื้นที่แก้ไขครับ
แต่เปอร์เซ็นต์รอดน้อยครับ
ปล.
ระดับพี่ MAD COW ทดสอบ LANE CHANGE กับ ALTIS ES SPORT ยาง PS3
โดย "ปิด"ระบบช่วยเหลือทุกอย่าง และวิ่งด้วยความเร็ว 80 KM/H รถยังออกอาการอย่างมากครับ
ถ้าไม่ใช่พี่ MAD COW มีแหกครับ
อันนี้คือรู้ก่อนล่วงหน้านะครับว่าจะมีการหักหลบช่วงไหน ตอนไหน
ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง ปุ๊บปั๊บขึ้นมาล่ะครับ เราจะเสียเวลาก่อนหน้าไปอีกเท่าไร ขับรถไม่ประมาทครับ ^ ^
-
ผมแบ่งแบบนี้จากที่เคยเจอ
1 ถ้าเราขับรถเร็ว (60 ขึ้นไป) ไม่ควรหักพวงมาลัยมาก จุดนี้ตองมีสติจริงๆถึงจะทำได้
2 ถ้ารถมี ESC เวลาแก้อาการแล้ว ควรจะตั้ง หรือ คงพวงมาลัยไว้ตำแหน่งเดิมให้เร็วที่สุด
-ตัวอย่างที่ผมเจอ ผมเข้าโคงแล้วหลุด พอรถตรวจพบว่าเราหลุดโค้ง รถจะแก้อาการให้ตามที่รถคำนวนไว้ แต่ผมดันไปหักพวงมาลัยแก้อาการเอง ทำให้ระบบ งง และรถแก้อาการไม่จบ จนสุดท้ายผมนึกได้ว่าให้ตั้งพวงมาลัยให้ตรง พอหลังจากรถแก้อาการเสร็จ เราค่อยคุมต่อ จุดๆนี้ใช้เวลาเพียงไม่กี่วิ แต่สติต้องไวมาก
หลักๆเลนก็ไม่ควรหักพวงมาลัยแรงครับ
-
คล้ายๆ กับ Moose Test แหละครับ
-
ขอตอบว่า "ยาก" มากครับ
และผมก็รู้ตัวเองครับว่าถึงเวลาก็ทำไม่ได้ครับ หักหลบลงข้างทางแน่นอน
ส่วนใหญ่จะเบรคตรงๆครับ และเตรียมใจชน นอกจากข้างหน้าเป็นรถใหญ่ครับถึงจะพยายามหลบ
ผมเลยจะต้องประเมินสถาณการณ์ตลอดเวลาที่ขับรถเลยครับ มองไกลๆ ว่าจะมีรถบรรทุก รถเก๋ง กระบะ มอไซด์ คน หมา ตัดมาหาเราหรือไม่
หากเจอก็กดแตร แต่เตรียมเส้นทางการหลบหลีกรอไว้ล่วงหน้าเลยครับ
และจะเริ่มเหยียบเบรคในระยะที่คิดว่ายังเบรคทันแบบฉิวเฉียด ประมาณว่าไม่ชนแน่นอนและให้คู่กรณีเสียวและรู้ตัวว่าผิด
(ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำเฉยไม่รู้สึกผิดแต่อย่างใด และหลายๆครั้งก็หาว่าเราผิดที่มาเร็วอีกต่างหาก)
มันเลยทำให้การขับรถที่แสนอภิรมณ์ของผมหายไป เพราะต้องมาระวังสิ่งเหล่านี้นั่นแหละครับ :( :( :(
-
เบรกก่อนหักครับ ตอนหักผมปล่อยเบรก เพราะเบรกไปหักไปรู้สึกถึงการหน้าแถแรงมากๆ ต่างจากหักโดยปล่อยให้ ESP ทำงานเอง
-
การหักหลบทำได้ครับ แต่จะรอดไม่รอดไม่มีใครรู้ครับ
มีระบบ VSC TRC ช่วยได้พอสมควรครับ
แต่ถ้าไม่มีระบบช่วย
อันนี้ก็แล้วแต่ที่ความเร็วที่วิ่งมา และความกว้างของถนน และพื้นที่แก้ไขครับ
แต่เปอร์เซ็นต์รอดน้อยครับ
ปล.
ระดับพี่ MAD COW ทดสอบ LANE CHANGE กับ ALTIS ES SPORT ยาง PS3
โดย "ปิด"ระบบช่วยเหลือทุกอย่าง และวิ่งด้วยความเร็ว 80 KM/H รถยังออกอาการอย่างมากครับ
ถ้าไม่ใช่พี่ MAD COW มีแหกครับ
อันนี้คือรู้ก่อนล่วงหน้านะครับว่าจะมีการหักหลบช่วงไหน ตอนไหน
ถ้าเป็นเหตุการณ์จริง ปุ๊บปั๊บขึ้นมาล่ะครับ เราจะเสียเวลาก่อนหน้าไปอีกเท่าไร ขับรถไม่ประมาทครับ ^ ^
อยากให้มีซักเว็บทั้งในและต่างประเทศ ทำ moose test ที่ความเร็ว 100 km/h โดยเว้นระยะห่างกรวยให้มากกว่าเดิมเพื่อดูอาการรถแต่ละคัน เพราะผมว่า 60-80 km/h มันช้าเกินไป ในชีวิตจริงแต่ละคน 100+ ทั้งนั้น
-
ผมเจอมากับตัว ถ้าไม่ใช่นักแข่งรถมาก่อนเมื่อเจอ เหตุฉุกเฉิน ยากส์มาก ทำได้ตามสัญชาติญาณของคน คือเบรคแล้วรถก็หมุน ไถล ไปตามแรงฟิสิกส์ แรงธรรมชาติที่เกิดขึ้น ผมคิดว่า รถที่มีระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว จะช่วยเราได้พอสมควร ผมคิดว่า ช่วงล่างดีอย่างไร ก้อมิอาจต้านทานแรงเหวี่ยงยังกะยักจับซัด แต่ระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัว มันจะช่วยแก้ให้โดยมีการเบรคให้บางล้อ เพื่อให้รถไม่หลุดโค้ง
-
ฝรั่งทำการ Moose Test
ของผม คือ Dog Real บ่อยมาก ::) เจอ Cat Real 1 ครั้ง :o
สำหรับผมนะ
1.อยู่ที่ลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าสามารถหลบหลีกได้หรือไม่ เกินสมรรถนะของตัวรถมั้ย
2.ชั่วโมงบินและประสบการ์ณของคนขับ เพราะเหตุการ์ที่ไม่เกินสมรรถนะรถแล้วจะอยู่ที่คนขับว่าสามารถรีดความสามารถตัวเองออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงได้หรือไม่
3.อยู่ที่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวรถ รถแต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกันทั้งน้ำหนักเบรค จังหวะการจับเบรค น้ำหนัก อัตราทดและความไวของพวงมาลัย
การที่เหตุเกิดซึ่งหน้า และกระทันหัน คนขับที่มีการตื่นตัวดี ไม่ตกใจ จะต้องทำหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้รอดจากอุบัติเหตุนั้น ตั้งแต่
1.การจัดรถให้อยู่ในลักษณะที่หลบง่ายที่สุด
2.เบรคเพื่อลดความเร็วมากที่สุดโดยที่รถไม่เสียหลัก(เพราะขณะเบรคอาจจะต้องหักพวงมาลัยไปด้วย)
3.หักพวงมาลัยไม่น้อยจนหลบไม่พ้น หรือไม่มากเกินจนเกิดอาการ Over Steer ที่แก้ไขไม่ได้ หรือถ้าเกิดก็ต้องใช้ความสามารถในการแก้ไขไม่ให้รถตกข้างทางอีก
ผมเลือกอันนี้ละกันครับ ::)
จริงๆ หลากหลายวิธีแก้
ต้นเหตุ การสร้าง/ซ่อมถนนให้ปลอดภัย ติดตั้งป้าย/ไฟเตือน/ไฟสัญญาณให้ปลอดภัย ตีเส้นจราจรให้ปลอดภัย ทำทุกอย่างให้ทนใช้ได้นาน
การขับขี่อย่างปลอดภัย , ยาง , C-Seg , ระบบช่วยต่างๆที่ไม่เอ๋อไม่รวนง่ายๆ
ขณะเกิดเหตุ ประมาณที่ผมเลือก กับ อีกหลายๆท่าน ครับ
ปลายเหตุ 8) ประกันภัย
-
คงต้องหาที่ฝึกทำบ่อยๆครับ
อาจฟังดูกวนๆ
แต่เรื่องเกือบทุกเรื่อง การฝึกฝนก็ทำให้เทพขึ้นมาได้เหมือนกัน
คนว่ายน้ำไม่เป็นมาก่อนกับคนว่ายน้ำเป็น ตกน้ำไปผลลัพธ์ชัดเจนครับ ;)
-
เคยขับmazda3 หักหลบมอไซต์ตัดหน้าเข้าเลนขวา
ที่ความเร็วแถวๆ80ครั้งนึงครับ
คือมา100 เปิดไฟสูงไม่หลบ(อาจไม่มีหรือไม่มองจะจกหลัง)
แล้วเบรคพร้อมบีบแตร คิดว่าไม่อยู่แน่มองกระจกหลังซ้ายแล้วหักซ้าย ขวา ขนาดมีescแล้วยังเหวอ รถเอียงแทบตกจากเบาะ
พอกลับมาได้ช็อคนิดนึงเหยียบคันเร่งไม่ออกขับช้าๆเกือบ10นาทีครับ 555
-
รถผมไม่มีระบบ vsc ผมเคยหักหลบที่ความเร็ว น่าจะมากกว่า 80 โดยตอนหักไม่ได้เหยียบเบรค
พอมาอีกเลน รถเสียการทรงตัว จึงค่อยเหยียบเบรค รถส่ายไปมา คุมรถยากครับ
ถ้าคุมไม่อยู่ได้กระแทกแบริเออร์แล้ว และคงไม่ได้มานั่งพิมพ์กระทู้นี้
ถึงผมจะรอดมา แต่ก็ไม่อยากเจอเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้ว
สิ่งสำคัญ ก็ระบบความปลอดภัยของรถ สติ
และควรคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ด้วย จะช่วยให้เรายังติดอยู่กับเบาะ ประคองรถได้
ผมเห็นหลายคนไม่ชอบคาดเข็มขัดนิรภัย ก็ไม่เข้าใจทำไมไม่คาด แล้วก็ไม่เคยถามเขาเหล่านั้น