Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Cheap and cheerful ที่ มีนาคม 19, 2017, 07:56:01
-
อย่าง CX5 ลองคิดเล่นๆว่า หาก Mazda ขาย 2.5 awd คู่กับ 2.2awd (เเพงกว่า 2.5 1 เเสนบาท อุปกร์เท่ากัน)2.2 จะขายได้ไหมครับ
(เหมือนคนไทยจะติดคําว่า เเพงกว่า ต้องเเรงกว่า โดยที่ธรรมชาติของดีเซลมันคือเน้นประหยัด ) ยิ่งรู้ว่า 2.5 เเรงกว่า 2.2 เเถมเสียงเครี่องดังเหมือนกระบะ (มุมมองคนปกติ ไม่ใช่คนใน HLM นะครับ) เขายังจะมองเห็นข้อดีของ 2.2 อยู่ไหม
**เพราะเเบบนี้ Mazda ต้องชู 2.2 ด้วย AWD หรือเปล่า? (ยุคที่มี 2.5)
**อย่าง CRV ใหม่ จะเห็นผลเเบบจังๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ ยังไง 2.4 เเรงกว่า 1.6 เเน่ๆ ถ้าฮอนด้าจัดออฟชั่นเท่ากัน คนซี้อจะเทไปทางไหนครับ?
-
ก็คงเหมือน CX-3 เบนซิลมั้งครับ คนเทไปเบนซิลกันหมด ดีเซลได้ประหยัดกว่าก็จริง แต่ด้วยความที่เบนซิลถูกกว่าแรงกกว่าคนเลยเลือกเบนซิลครับ ตัวดีเซลก็มีคนออกบ้าง
ผมมองว่าดีเซลไม่คุ้มเท่าไหร่ ถ้าไม่แรงแบบ 2.2 CX-5 ครับ
-
ผมคนนึงไม่นะ :-\ เพราะรู้ๆ ยังไงเบนซินก็มีรอบไว้ให้เล่นมากกว่าอยู่ดี
ดีเซลถ้าไม่ได้กำลังสูงกว่าเด่นจริงๆ แบบใน MZ2 นี่ ยังไงเบนซินก็กินขาดเวลาใช้งานจริงครับ
(เฉพาะสมรรถนะ-อัตราเร่งนะ แต่อัตราสิ้นเปลืองอีกเรื่อง)
พวกกระบะบ้าพลังเอารถเบนซิน 2.0-2.4 ทั่วไปลงยังยากเลย นับประสาอะไรกับเครื่องเล็กๆ
-
คนทั่วไปนี่หมายถึงคนที่ไม่ได้บ้ารถอย่างเรา ๆ ใช่ไหมครับ อิอิ
คนพวกนี้เค้าคิดว่าตัวดีเซล คือตัวทน และแรง และแพงกว่า
นี่คือความคิดของพ่อผมครับ และคงจะไม่ต่างจากคนรุ่นเดียวกับแก ด้วยแหละมั้งครับ 5555
คือคนสมัยก่อนพออ่าน spec รถสมัยนี้เค้าก็มึนแล้วครับ
-
คือสมัยก่อนดีเซลคือตัวอืดนะครับ.....10ปีหลังดีเซลแรง(แรงบิด)และประหยัด แต่ปัจจุบันผมว่าเบ็นซินเทอร์โบ น่าสนใจกว่า(ประกอบกับราคาน้ำมันมันถูกลง)......ตอบคำถาม..คิดว่าคนทั่วไปเขาไม่สนใจเครื่องดีเซลในรถนั่ง
-
ผมว่าอยู่ที่รุ่นครับ ไม่แน่นอนเสมอไป
อย่าง Honda CRV ถ้าตัว diesel แพงกว่า แต่อืดกว่า ท่าทางจะไปยากครับ
-
ในความรู้สึกผม ไม่เคยสนใจ 0-100 เพราะไม่ใช้ในชีวิตจริงเลย แต่ผมดูการตอบสนอง
ดีเซล แรงบิดมาในรอบต่ำเสมอ คือไม่จำเป็นต้องเค้นคันเร่งเรียกรอบมาก จะขึ้นเขาก็ไม่ต้องเติมคันเร่งมากให้เหนื่อย นี่แหละดีเซลในความรู้สึกผม ไม่ขอพูดถึงไบเทอร์โบนะ
และสิ่งที่ได้เพิ่มคือมักประหยัดน้ำมัน แต่ตรงนี้เทียบกับราคาน้ำมันก็ถือว่าไม่เท่าไหร่
ใครบอกว่าเบนซินแรงกว่า ก็ตามแต่การขับของคนนั้น เพราะนี่คือความคิดผมที่ผ่านๆมาได้รับรู้และเห็นจริงที่ขนาดเครื่องสูสีกัน ต่างขนาดกันไม่มาก มักจะเป็นแบบนี้
ส่วนเสียงเครื่อง ผมไม่ค่อยซีเรียสมาก ถ้าไม่น่ารำคาญเกินไป เบนซินเค้นรอบ ดีเซลไปเรื่อยๆแต่เสียงดังแบบเรื่อยๆ ผมว่าเสมอกัน
แต่ผมเชื่อว่าผมไม่ใช่คนส่วนมากอีกนั่นแหละ 555 ผมก็ไม่รู้ว่าใครจะคิดอะไรหรอก มีคนทุกแบบบนโลกนี้
-
แต่ก่อนไม่เคยคิดจะใช้ดีเชลเลย แต่พอลอง ดีเชลเทอร์โบ แล้วติดใจ ประหยัดแถมแรงบิดมากช่วงรอบการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ไม่เน้น 0-100 แต่ เน้น 80-120 ในจังหวะแซงมากกว่า
-
ส่วนตัวผมไม่สนดีเซลเลย ยิ่งผ่านไปหลายๆปีทั้งดังทั้งสั่น ต่างกับเบนซินลื่นเรียบเงียบกว่าเยอะ กำลังเครื่องของรถเบนซินก็เพียงพอต่อการใช้งานอยู่แล้ว น้ำมันแพงจับติดแก็สได้อีก
-
ถ้ารถกระบะ กับ ppv ต้องดีเซล
เก๋งกะ suv เบนซินได้อยู่
-
เดินทางไกล ขึ้นเขาบ่อยๆ รถเบนซิน เหนื่อยและเปลืองน้ำมันครับ
อยากได้ ดีเซล2.2 เทอร์โบ
สำหรับความเร็วๆไม่เกิน140
และทางชันบนดอยสูง
-
คนส่วนใหญ่น่าจะคิดแบบนั้นจริงครับ ผมใช้ Fortuner เบนซินอยู่มักเจอคำพูดแบบนี้ประจำ แต่ว่าพอลองขับเทียบกับรถหลาย ๆ คันแล้ว Fortuner เบนซินแรงและดีกว่าขับรถเบนซินเล็ก ๆ ไม่เกิน 1600 ซีซีมาก หรือดีกว่าอีโคคาร์มาก โดยเฉพาะพอบรรทุกมีคนนั่งเต็มคันรถเก๋งอืดกว่าเยอะเลย นอกจากนี้ถ้าเอามาเทียบกับดีเซลยุคเก่า ๆ แล้ว Fortuner เบนซินยังแรงกว่าเยอะเลย แต่คนส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าดีเซลต้องแรงกว่าเบนซินแบบนี้เสมอ
-
คงหลักคิดที่ว่า. อะไรเสียงดังๆมีนน่าจะแรง. มั้งงงง
-
เคยแค่เดินผ่านbm ดีเซลตอนติดเครื่องอยู่ ก็มองหาไปเหอะ นึกว่ากระบะ.....oh!?!
-
ดีเซลแรงบิดสูงที่รอบต่ำ แรงม้าก็มาที่รอบต่ำด้วย แรงของดีเซลได้ใช้จริงๆครับ ส่วนเบนซิลแรงบิดกับแรงม้ามาที่รอบสูงๆ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้
-
เรื่องเสียงดัง ยอมรับครับ
ผมมันสาวกเครื่องเทอร์โบและก็ชอบโมดิฟายเครื่องยนต์
ถ้าเบนซิน NA กับ ดีเซลเทอโบ ผมเลือกดีเซลเทอโบ ทอร์คเยอะขับสนุก( จับไปรีแมป 555 )
-
สมัยก่อนมักจะปลูกฝังกันว่า รถแพง คือ รถแรง
รุ่นไหนแพง รุ่นนั้นต้องแรง
รถเบนซ์ บีเอม เครื่องอะไรไม่รู้แหล่ะ
มันจะต้องแรงกว่ารถญี่ปุ่น (คิดเอง)
เพราะมันแพงกว่า
ถ้ายังติดความคิดเดิมๆ มา ดีเซล มันก็คือตัวแรง
เพราะราคามักจะแพงกว่าเบนซิน
แต่เดี๋ยวนี้รถยุโรปแพงๆ โดนรถญี่ปุ่นคล่องๆ แซง
ได้ก็เป็นปกติ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดอีกนั่นแหล่ะ
ดังนั้น คนทั่วไปจะเข้าใจแบบไหน คงแล้วแต่คน
แต่ที่แน่ๆ ถ้าด้านราคา ดีเซลมักจะแพงกว่า
(แพงออฟชัน เพราะจัดให้เป็นรุ่นท้อป)
และถ้าการใช้งานในบางจังหวะ จะรู้สึกว่า
ดีเซลแรงกว่า เพราะมันดึงๆ กระชากๆ
ส่วนตัวผมใช้แต่รถดีเซล เพราะเหมาะกับการใช้งาน
เดินทางเยอะ ขึ้นเขาลงห้วย ประหยัด แรงมาดี
และเท่าที่สังเกตในตลาดรถ
ราคาขายต่อดีเซล ค่อนข้างจะดีกว่าเบนซินด้วย
-
ดีเซลแรงบิดสูงที่รอบต่ำ แรงม้าก็มาที่รอบต่ำด้วย แรงของดีเซลได้ใช้จริงๆครับ ส่วนเบนซิลแรงบิดกับแรงม้ามาที่รอบสูงๆ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้
จริงครับ
ขนาดขึ้นเขา ยัใช่ไม่ถึงเลย รอบที่แรงบิดมาสูงสุด
-
คิดว่าน่าจะไม่ใช่นะ ที่คนทั่วไปจะคิดว่าแพงกว่าจะแรงกว่า
ถ้าคนทั่วไปก็มองกว่ารถเก๋งต้องแรง ก็คือเบนซิน แต่
ถ้าเป็น ดีเซลมักจะอยู่ในกระบะ มันจะเน้นความทนทาน ไม่แรง คิดว่าคนทั่วไปคิดแบบนี้
-
ส่วนตัวใช้เบนซินมาหลายคัน จนคันล่าสุดเป็นดีเซล อยากลองดีเซลที่เขาว่าดีมันเป็นไง สรุป ชอบครับ ประหยัดมาก ผมไม่ค่อยได้ลากรอบสูงๆ ใช้ความเร็วทั่วๆไป คันต่อไปก็คงมองหาเก๋งดีเซลเหมือนเดิม
ปล ก็คงต้องใช้อื่นๆประกอบการตัดสินใจด้วย ไม่ใช่แค่ดีเซลหรือเบนซิน
-
เรื่องเสียงเครื่อง จากความเห็นส่วนตัวและจากที่อ่านๆในนี้ ผมว่าเครื่องกระบะบางตัวเงียบกว่าเก๋งดีเซลยุโรปบางรุ่นไปแล้วนะครับ โดยเฉพาะเครื่องรุ่นใหม่ๆอย่าง 1.9DDI 2.8GD รวมถึงEcoBlue2.0ในอนาคต ซึ่งอาจจะเงียบมากกว่านี้
-
เจอเสียงเครื่องดีเซลแบบโรงสี ดังเหมือนกระบะ ผมก็เผ่นละครับ ไม่ใช่แนว
-
ผมเคยใช้รถเก๋งเครื่องเทอโบดีเซลทั้ง AT และ MT นะ มันขับง่ายกว่าเครื่องเบนซินมาก โดยเฉพาะ MT ที่แทบไม่ต้องเลี้ยงครัชเลย แต่เสียงเครื่องไม่เพราะ และเล่นบทบู้ลำบากหน่อย ถ้าไม่ใช่ AT (ต้องกะแรงม้าแรงบิดเอง กระทืบไปสะกิด Red line แทบไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย = = )
-
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ
BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....
หรือแม้แต่ Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ
แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....
-
ถ้ายุคนี้ อาจจะว่าแบบนั้นก็ได้ครับ เพราะยุคนี้ต้อง ประหยัด ให้มากที่สุด การปรับแต่งเครื่องก็เอาความประหยัดมาก่อน
-
เบนซินจะเห็นผลก็ที่ความเร็วปลาย แล้วจะมีสักกี่คนที่ไปถึงจุดนั้น ทั่วๆไปไม่เกิน 140 ซึ่งดีเซลเทอร์โบตอบโจทย์กว่าในเรื่องอัตราเร่งแซง ยิ่งแซงตอนขึ้นเขานี่เห็นผลชัดเจน แต่ถ้าเบนซินเทอร์โบนั่นอีกเรื่อง
-
คนทั่วไป คำตอบคือใช่ แพงกว่าต้องดีกว่าทุกอย่าง
แต่ต้องดูซีๆด้วยนะ อย่างCR-V G5 ผมว่าคำถามมันต้องมาเยอะแน่ๆ 1.6 กับ 2.4
-
:)
ต้องเบนซินรอบสูงสิครับเสียงเพราะดีออก
แต่ดีเซลขับง่ายครับ เหมาะกับคนทั่วไปดี
-
ดีเซล+เทอร์โบ ยุคหัวฉีดคอมมอนเรล เด่นเรื่องอัตราเร่ง แรงบิดเยอะ ประหยัดน้ำมัน
เบนซิน ยังพอประหยัดน้ำมัน รอบเยอะ ได้ความเร็วปลายครับ
-
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ
BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....
หรือแม้แต่ Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ
แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....
ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ
แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ
สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car
-
ถ้ามองแบบคนบ้านๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถเลยนะครับ
ดีเซล=เครื่องรถกระบะ เสียงดัง ดูเป็นรถราคาถูก แต่ทนทาน
ถ้ามองแบบคนชอบรถ
ดีเซล =แรง+ประหยัด (320dนี่ผมว่าเป็นbenchmarkของเก๋งดีเซลเลย)
ปล.ต่างคนต่างความชอบ ดีเซลตัวแรง ก็มี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเบนซินหรอกครับ แม้จะบอกว่าhypercarตัวtopสมรรถนะสูงสุดทั้งหลายเป็นเบนซิน
แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่มีเงินขับรถแบบนั้น
-
ถ้ามองแบบคนบ้านๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถเลยนะครับ
ดีเซล=เครื่องรถกระบะ เสียงดัง ดูเป็นรถราคาถูก แต่ทนทาน
ถ้ามองแบบคนชอบรถ
ดีเซล =แรง+ประหยัด (320dนี่ผมว่าเป็นbenchmarkของเก๋งดีเซลเลย)
ปล.ต่างคนต่างความชอบ ดีเซลตัวแรง ก็มี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเบนซินหรอกครับ แม้จะบอกว่าhypercarตัวtopสมรรถนะสูงสุดทั้งหลายเป็นเบนซิน
แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่มีเงินขับรถแบบนั้น
เรื่องแรงนี้ ผมใช้ benchmark เป็นพวก Subi WRX, VW Golf GTi เป็นหลัก อะไรที่เต่ากว่านั้น ผมว่าไม่แรงนะ ส่วน 320d เป็นยังไงถ้าเทียบกับ WRX, GTi ก็รู้ๆ ถ้า Bimmer ในไทยผมยกให้ตั้งแต่ 330i 530i ถือว่าแรง ส่วนพวกดีเซลไม่ติดกลุ่มนะครับ
ถ้าไปดูพวก performance car ในทุก tier จะเจออย่างชัดเจนว่า ไม่มีดีเซลติดกลุ่มกะเค้า หลักๆ แรงสู้ไม่ได้ ฟิล เสียงเครื่องไม่ใช่แนว performance
-
โห ดีเซลตอนนี้ไม่ีได้ดัง อะไรนักหรอกครับ สิงห์ดีเซลเขาว่ากันว่า "เงียบพัง ดังวิ่ง" อย่าสนใจเรื่องเสียงเครื่องมากกว่าสตาร์ทติด มันไปไหนก็ถึงครับ ............
ดีเซลที่ว่า มาจาก อีซูสุ หรือเปล่าเราละไว้นะครับ ฮี่ๆ แต่ผมอ่านเจอในคลับออฟโรดมานานละ แล้วก็จริงครับ "เงียบพัง ดังวิ่ง" ท่องไว้
-
โห ดีเซลตอนนี้ไม่ีได้ดัง อะไรนักหรอกครับ สิงห์ดีเซลเขาว่ากันว่า "เงียบพัง ดังวิ่ง" อย่าสนใจเรื่องเสียงเครื่องมากกว่าสตาร์ทติด มันไปไหนก็ถึงครับ ............
ดีเซลที่ว่า มาจาก อีซูสุ หรือเปล่าเราละไว้นะครับ ฮี่ๆ แต่ผมอ่านเจอในคลับออฟโรดมานานละ แล้วก็จริงครับ "เงียบพัง ดังวิ่ง" ท่องไว้
จากสังเกตมา ดีเซลทุกแบรนด์ครับ เสียงดัง แทรกๆๆ ทั้งภายนอกและภายในห้องโดยสาร
ผมเห็น fan boy เครื่อง diesel มักแถไปว่า ดังแค่ข้างนอกเอง ข้างในเงียบ
ปล. ดีเซลจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ แต่ตอนนี้มีแนวโน้ม ไทยแลนด์เป็นที่โละของเก่าที่จะขายไม่ได้ในยุโรป เรามี consumer behavior แบบไทยๆ LOL
-
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ
BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....
หรือแม้แต่ Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ
แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....
ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ
แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ
สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car
เห็นด้วยเลยครับผม
-
ส่วนตัวซื้อรถปิคอัพยังเอาเครื่องเบนซิลเลยครับ เก๋งก็เบนซิล เน้นติดแก๊สครับ แรงบิดรอบต่ำไม่เน้นๆขับทางไกลยาวๆสบายๆครับ :D :D
-
:-[
ราคาขายต่อดีเซล ค่อนข้างจะดีกว่าเบนซินด้วย --------- >>
ผู้ตอบเล่ามายาวเฟื้อย มีทั้งจริงไม่จริงปนๆกันไป มาถูกใจตรงประโยคสุดท้ายนี่ล่ะ (เป็นตัวตัดสิน)
รถยุโรปในภาพรวม Quality สูงกว่าอยู่แล้วครับ ยกเว้นเวลาต้องซ่อมน่ะละ รถญี่ปุ่นได้ใจไปเลย (ซ่อมง่าย)
-
งง เสียงดัง ยังเถียงกันได้ ว่าไม่ Premium ซึ่งจริงๆแทบไม่มีผลอะไรกับการใช้งานเลย ลองไปถามพวกคนยุโรปที่ใช้เก๋งดีเซลกันเป็นปกติ เค้าก็งง คนไทยเป็นอะไรกับเสียงเครื่องนัก ;D
-
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ
BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....
หรือแม้แต่ Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ
แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....
ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ
แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ
สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car
มุข เมิก อะไรครับ ???
ชอบไม่ชอบอันนั้นก็ความเห็นส่วนตัวกันนะ สิ่งที่ผมบอกไป คืออะไร ผมไม่ได้เชียร์ให้ใครต้องชอบดีเซล เพียงแต่บอกว่า ข้างนอกมันดังจริง แต่พอนั่งแล้วมันเงียบไม่รบกวนคนขับ ...
คุณไม่ชอบดีเซล ก็แล้วแต่ครับ แต่คนที่เลือกใช้หรือชอบ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ... เสียงดังแล้วไงอะ รถเค้า .... เจ้าของรถเค้ารับได้ .... เค้าถึงซื้อมาใช้...
ข้อดีของดีเซลมันมี และคนที่เลือกใช้เค้ายินดีจ่ายแพงก็เพราะข้อดีที่เจ้าของรถเค้ามองเห็น
จะบอกจ่ายแพง แล้วได้รถเสียงดัง สอบตก .... อันนั้นแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านนะ
-
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ
BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....
หรือแม้แต่ Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ
แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....
ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ
แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ
สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car
มุข เมิก อะไรครับ ???
ชอบไม่ชอบอันนั้นก็ความเห็นส่วนตัวกันนะ สิ่งที่ผมบอกไป คืออะไร ผมไม่ได้เชียร์ให้ใครต้องชอบดีเซล เพียงแต่บอกว่า ข้างนอกมันดังจริง แต่พอนั่งแล้วมันเงียบไม่รบกวนคนขับ ...
คุณไม่ชอบดีเซล ก็แล้วแต่ครับ แต่คนที่เลือกใช้หรือชอบ ก็ไม่ได้ผิดอะไร ... เสียงดังแล้วไงอะ รถเค้า .... เจ้าของรถเค้ารับได้ .... เค้าถึงซื้อมาใช้...
ข้อดีของดีเซลมันมี และคนที่เลือกใช้เค้ายินดีจ่ายแพงก็เพราะข้อดีที่เจ้าของรถเค้ามองเห็น
จะบอกจ่ายแพง แล้วได้รถเสียงดัง สอบตก .... อันนั้นแล้วแต่ความชอบของแต่ละท่านนะ
ประมาณเหมือน ad ไทยเอา maserati บล็อกดีเซลมาขายมั้งครับ ลองย้อนกลับไปดู brand identity, selling point ของ Maserati แล้วมาดูเครื่องรุ่นที่ ad เอามาขาย ทำไมมัน contrast กันได้ขนาดนี้ กับ price tier ระดับนั้น LOL
-
เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ
เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว
คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า งงดีจัง
ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ
-
เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ
เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว
คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า งงดีจัง
ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ
เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป
แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว
ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น maserati levante diesel vs gasoline
ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ
-
ถ้ามองแบบคนบ้านๆ ที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถเลยนะครับ
ดีเซล=เครื่องรถกระบะ เสียงดัง ดูเป็นรถราคาถูก แต่ทนทาน
ถ้ามองแบบคนชอบรถ
ดีเซล =แรง+ประหยัด (320dนี่ผมว่าเป็นbenchmarkของเก๋งดีเซลเลย)
ปล.ต่างคนต่างความชอบ ดีเซลตัวแรง ก็มี ไม่ได้ด้อยไปกว่าเบนซินหรอกครับ แม้จะบอกว่าhypercarตัวtopสมรรถนะสูงสุดทั้งหลายเป็นเบนซิน
แต่ในชีวิตจริงจะมีสักกี่คนที่มีเงินขับรถแบบนั้น
เรื่องแรงนี้ ผมใช้ benchmark เป็นพวก Subi WRX, VW Golf GTi เป็นหลัก อะไรที่เต่ากว่านั้น ผมว่าไม่แรงนะ ส่วน 320d เป็นยังไงถ้าเทียบกับ WRX, GTi ก็รู้ๆ ถ้า Bimmer ในไทยผมยกให้ตั้งแต่ 330i 530i ถือว่าแรง ส่วนพวกดีเซลไม่ติดกลุ่มนะครับ
ถ้าไปดูพวก performance car ในทุก tier จะเจออย่างชัดเจนว่า ไม่มีดีเซลติดกลุ่มกะเค้า หลักๆ แรงสู้ไม่ได้ ฟิล เสียงเครื่องไม่ใช่แนว performance
ก็หัวข้อก็ว่าอยู่ว่า"คนทั่วไป"จะเข้าใจผิดไหมว่าดีเซลเป็นตัวแรง
แล้วคุณคิดว่าคนทั่วไปเขาจะซื้อ wrx หรือgolf gtiไหมหละครับ
ดูย้อนแย้ง
ลองอ่านเจตนาของ จขกท นี้ดีๆก่อนครับ รถบ้านๆเครืองดีเซลvsเบนซิน
อย่าเพิ่งตีโพยตีพายเหยียดดีเซลขนาดนั้น
-
งง เสียงดัง ยังเถียงกันได้ ว่าไม่ Premium ซึ่งจริงๆแทบไม่มีผลอะไรกับการใช้งานเลย ลองไปถามพวกคนยุโรปที่ใช้เก๋งดีเซลกันเป็นปกติ เค้าก็งง คนไทยเป็นอะไรกับเสียงเครื่องนัก ;D
ผมเห็นพวกซุปเปอร์คาร์เสียงดังหนวกหูกว่าพวกดีเซลอีกนะ
-
ไปแถบอังกฤษ ยุโรป ก็ดีเซลเยอะนะ รถยนต์ทั่วไปนี่แหล่ะ หรือจะเหยียดด้วยอีก ฮา ทำเหมือนตัวเองแนวเท่ห์เก๋าคิดกว้างเก่งเทพ ฮา ผมว่านานาจิตตัง ใครชอบไร ขายอะไร เรื่องของเขา เจ้าของกระทู้เขาแค่ถามความเห็น เทียบกับรถทั่วไปก็เท่านั้นนะจ้ะ เบนซินแฟนบอย 5555555555555555555555555555
-
ถ้ารถกระบะ กับ ppv ต้องดีเซล
เก๋งกะ suv เบนซินได้อยู่
+1 ครับ ถ้ากระบะ/PPV เครื่องเบนซิน ต้องเครื่อง3000 V6 แบบน้องปา แต่น้องปา ก็ไปไม่รอด ไม่มีเบนซินในPJSตัวปัจจุบัน
(ค่ายอื่นก็ไม่คิดทำ คงเหลือไว้ที่ FJN 2.7)
-
สมัย e90 LCI ก็เห็นชู 320d มาเป็นตัวแรงนะครับ (ไม่นับ 325i limited production)
-
ผมคนหนึ่งกำลังสนใจCRV G5อย่างมาก แต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถ กำเครียดเลยครับ ว่าตกลงเบนซิน2400 กับ ดีเซล1600 รุ่นไหนมันอัตตราเร่งดีกว่ากันแน่ เครียดสุดๆครับ
-
เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ
เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว
คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า งงดีจัง
ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ
เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป
แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว
ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น maserati levante diesel vs gasoline
ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ
อันนี้ผมขอให้ความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นที่ว่า ดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ครับ ....
ผมกลับมองต่างในประเด็นนี้นะ ... ผมว่าอนาคตของดีเซลยังไปได้อีกยาวๆ ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะ "ไทย" ยุโรป เค้ามีมาตราฐานด้านไอเสียสูง ...ซึ่งมันเป็นกำแพงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ... แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่หยุดพัฒนานะครับ และยังคงพัฒนาไปได้อีกไกลด้วย
และยิ่งเฉพาะในไทยเอง ที่รถกระบะ และ PPV เป็นรถยอดนิยม ที่ใช้เครื่องดีเซลเป็นหลัก และรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตอนนี้ก็เริ่มยัดดีเซลมาให้ใช้กันแล้ว และเป็นที่ยอมรับกันซะด้วย ...
อย่างที่เห็นกันชัดๆคือ maserati levante ที่ผู้นำเข้าชูดจุดขายที่มันเป็นเครื่องดีเซล .... เพราะในไทยตอนนี้เครื่องดีเซลมันเป็นที่ยอมรับในวงกว้างคือ ประหยัดน้ำมัน และดูแลรักษาง่าย
BMW 320D ตัวเลขประหยัดน้ำมันคือ 20 โล/ลิตรโดยเฉลี่ย ในขณะที่เบนซิน ทำได้จริงเพียงแค่ 13-15 โล/ลิตรเท่านั้น ..
ดังนั้นประเด็นที่ว่า ดีเซลจะสูญพันธ์ ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ กลับกัน ... มันกลับกำลังนิยมสุงขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น CRV คงไม่เอาดีเซลมาลงขายหรอกครับ ....
อย่าไปคิดว่าทางฝั่งนั้นเค้าไม่นิยมหรือห้ามใช้เครื่องดีเซลครับ เพราะไม่งั้น BMW หรือ Benz หรือยี่ห้ออื่นๆในยุโรป คงไม่ผลิตรถที่มีเครื่องดีเซลมาขายกันหรอกครับ ... และตอนนี้เค้าก็กำลังพัฒนาให้มันสามารถปล่อยไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่เท่านั้นเอง .....
-
เอาง่ายๆ นะครับ รถคันนึงอายุ Warranty เต็มที่ ก็ 5 ปี อายุโมเดลกะบะ ก็ 10 ปี
ดูกันเป็น ปัจจุบัน
ไม่ใช่ ซื้อรถ ที มอง อเมริกา มองยุโรษ ที่ พื้นฐาน เศรรฐกิจ ค่าครองชีพ ภาษี
ที่นี่ประเทศไทย ดีเซล กับรถบ้าน กับ รายได้ประชากร และ ความประหยัดน้ำมัน
ผู้ซื้อรถคนไทย เป็นคนกำหนดครับ
ยังไง ดีเซลมันกขายไม่ดีเท่า เบนซินหรอกครับ เพราะ ต้นทุนเครื่องมันแพงกว่า
ยกเว้น คนจะเอา สมรรถนะ ด้านแรงบิดของมัน น้ำมันมันก็เหม็น ดำ
เครื่อง ข้างนอกก็ดังจริง
-
ในมุมมองผม ดีเซล คือรถ ไม่แรง แต่มีแรงดึงเยอะ ประหยัดน้ำมันกว่าเบนซิล ทนทาน และถ้าไปแต่งแบบเห็นแก่ตัวก็จะควันดำครับ
-
เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ
เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว
คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า งงดีจัง
ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ
เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป
แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว
ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น maserati levante diesel vs gasoline
ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ
แอนตี้ ดีเซล เหลือเกิน นะ
-
เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ
เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว
คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า งงดีจัง
ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ
เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป
แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว
ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น maserati levante diesel vs gasoline
ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ
อันนี้ผมขอให้ความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นที่ว่า ดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ครับ ....
ผมกลับมองต่างในประเด็นนี้นะ ... ผมว่าอนาคตของดีเซลยังไปได้อีกยาวๆ ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะ "ไทย" ยุโรป เค้ามีมาตราฐานด้านไอเสียสูง ...ซึ่งมันเป็นกำแพงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ... แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่หยุดพัฒนานะครับ และยังคงพัฒนาไปได้อีกไกลด้วย
และยิ่งเฉพาะในไทยเอง ที่รถกระบะ และ PPV เป็นรถยอดนิยม ที่ใช้เครื่องดีเซลเป็นหลัก และรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตอนนี้ก็เริ่มยัดดีเซลมาให้ใช้กันแล้ว และเป็นที่ยอมรับกันซะด้วย ...
อย่างที่เห็นกันชัดๆคือ maserati levante ที่ผู้นำเข้าชูดจุดขายที่มันเป็นเครื่องดีเซล .... เพราะในไทยตอนนี้เครื่องดีเซลมันเป็นที่ยอมรับในวงกว้างคือ ประหยัดน้ำมัน และดูแลรักษาง่าย
BMW 320D ตัวเลขประหยัดน้ำมันคือ 20 โล/ลิตรโดยเฉลี่ย ในขณะที่เบนซิน ทำได้จริงเพียงแค่ 13-15 โล/ลิตรเท่านั้น ..
ดังนั้นประเด็นที่ว่า ดีเซลจะสูญพันธ์ ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ กลับกัน ... มันกลับกำลังนิยมสุงขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น CRV คงไม่เอาดีเซลมาลงขายหรอกครับ ....
อย่าไปคิดว่าทางฝั่งนั้นเค้าไม่นิยมหรือห้ามใช้เครื่องดีเซลครับ เพราะไม่งั้น BMW หรือ Benz หรือยี่ห้ออื่นๆในยุโรป คงไม่ผลิตรถที่มีเครื่องดีเซลมาขายกันหรอกครับ ... และตอนนี้เค้าก็กำลังพัฒนาให้มันสามารถปล่อยไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่เท่านั้นเอง .....
คุณลองไปตามดูข่าวเมืองนอกนะครับ มี implication ไปทางการเลิกดีเซล (ใน passenger car)
http://fortune.com/2016/09/06/renault-diesel-engines/
https://www.theguardian.com/environment/2016/dec/02/four-of-worlds-biggest-cities-to-ban-diesel-cars-from-their-centres
http://www.bbc.com/news/business-37287129
นับได้แล้วสองกรุ๊ปที่จะเลิกทำดีเซลแล้ว (i.e. VW ไม่มีดีเซลบล็อกใหม่ออกมาแล้ว) บวกนโยบายภาค macro ในยุโรปที่จะบีบเข้ามาอีก ส่วนฝั่ง US ขยาดดีเซลนานแล้ว (ยกเว้น big block diesel ที่ใช้ในพวก full-size pickup) เจอ dieselgate เข้าไปตีตะปูฝาโลงเรียบร้อย ส่วนฝั่งจีนก็มาแนวๆเดียวกับ US
ส่วน maserati levante คุณไปดู brand identity กับ price point สุดโหดในไทย (เพราะ hyper protectionism) แล้วหันมาดู choice เครื่องยนต์ที่เอาเข้ามาขายแบบเดียว ว่ามันเข้ากันหรือเปล่า ราคาระดับนั้นควรจะเป็นบล็อก 3.0 twin turbo V6 เบนซิน (350 ม้า ในตัวธรรมดา กับ 430 ม้าในตัว S) ตั้งแต่แรก
-
คนที่บอกว่า ดีเซล ดังแบบรถกระบะ ไม่ชอบที่เสียงเครื่องดังเนี่ย แปลว่า เคยแต่ยืนข้างรถแล้วฟังเสียง แต่ไม่เคยเข้าไปนั่งในรถเลยใช่ไหมครับ
BMW Benz หรือ รถแพงๆอย่าง คาเยนดีเซลเนี่ย ยืนข้างรถมันดังทั้งนั้นล่ะครับ .... แต่ลองไปนั่งในรถสิ ... เงียบกริบ .....
หรือแม้แต่ Cx5 หรือ M2 หรือ แม้แต่กระบะ หรือ PPV เช่น รีโว่ ปาเจโร้ ยืนหน้ารถ มันดังทั้งนั้นล่ะ แต่พอนั่งในรถ โดยเฉพาะเวลารถวิ่งด้วยแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะครับ
แคร์กันแค่ยืนข้างรถ เสียงดังเสียบุคลิค แต่รถยนต์เค้าวิ่งครับ ไม่ได้สต๊าทจอดฟังเสียงเครื่องกัน ดีเซลสมัยนี้ วิ่ง 160-170 แช่ยาวๆนี่ไม่ได้ยินเสียงเครื่องเลยนะ ..กลับกัน ในความเร็วเท่ากัน เบนซินกลับส่งเสียงครางของเครื่องยนต์ออกมามากกว่า เพราะใช้รอบสูงกว่า....
ว่าแล้วต้องมามุข ไม่ได้ยินเสียงโรงสีถ้าอยู่ในรถ
แค่เสียงเครื่องแทรคเตอร์กระหึมตั้งแต่อยู่นอกรถ ก็สอบตกแล้วครับ ยิ่งรถแบบ premium tier ยิ่งแล้วใหญ่ คุณจ่ายแพงมากๆในไทยแลนด์ เพื่อมาขับไอ้รถที่เสียงดังแบบไม่เพราะนั้น มันไม่ได้ฟิล premium เลย ไม่คุ้มกับงบที่ลงไปครับ
สรุปทั้งเสียงภายนอกภายในต้องได้ฟิลครับ (ดูตัวอย่างพวกเครื่อง Slant six, V8 รอบสูงเสียงยิ่งเพราะ) ผมไม่ buy in กับกระแสดีเซลใน passenger car
คุ้มหรือไม่คุ้มก้เงินคนซื้อมั้ยคับ เงินคุณหรอ ชอบจังนะคับกะการดูถูกดีเซล แล้วถ้าวันไหนคุณเลิกฟังเสียงรถจากใน YouTube มาซื้อรถที่มีเสียงที่ชมนักชมหนามาแล้ว ก้เอามาให้ฟังมั่งนะ อยากได้ฟิลมั่งจัง
-
เห็น เถียงกันเรื่อง เสียงในรถ
เค้ามีทดสอบ ระดับ ความดังในห้องโดยสารเป็น ตัวเลขนะครับ
เอามาโชว์กันดีกว่า มโนนะครับ
ดีเซล คุณสมบัติ มันก็บอกว่าสำหรับ แรงบิด สูง ลากจูง Off-Road และ ประหยัด
ดังนั้น มันมาประจำการ ใน Crossover หรือ SUV มันก็ถูกจริตของมันแล้ว
คือ งง ครับ เอา SUV ไปเทียบ กับ Sport Car มั่งละ
ทำไม ไม่เทียบกับ Segment ของมันหว่า งงดีจัง
ฟิลลิ่งๆๆๆ ล้วนๆ
เรื่องเสียงในรถ ผมไม่ได้คอมเม้นอะนะ ขึ้นกับฝีมือการเก็บเสียงของแต่ละรุ่น แบรนด์ต่างกันไป
แต่โชว์ทั้งที ทำไมไม่เอาเสียงภายนอกมาด้วยเลย มันจะได้เห็นชัดๆ LOL แต่ก็นะผมว่า diesel fan boy เค้ายอมรับเรื่องเสียงดังกระหึมด้านนอกอยู่แล้ว
ถ้าเอา SUV ล้วนๆ ลองเอารุ่นเดียวกันนั้นแหระครับมาเทียบกัน เช่น maserati levante diesel vs gasoline
ถูกจริตโลกที่สามหรือเปล่า ไม่รู้เพราะดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ก่อนเบนซินครับ ถ้า follow ตามเทรนด์จากโลกที่หนึ่งอย่าง US, Euro อะนะ
อันนี้ผมขอให้ความเห็นเพิ่มเติม ในประเด็นที่ว่า ดีเซลกำลังจะสูญพันธ์ครับ ....
ผมกลับมองต่างในประเด็นนี้นะ ... ผมว่าอนาคตของดีเซลยังไปได้อีกยาวๆ ในหลายๆประเทศโดยเฉพาะ "ไทย" ยุโรป เค้ามีมาตราฐานด้านไอเสียสูง ...ซึ่งมันเป็นกำแพงสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล ... แต่ในทางกลับกัน เครื่องยนต์ดีเซลยังไม่หยุดพัฒนานะครับ และยังคงพัฒนาไปได้อีกไกลด้วย
และยิ่งเฉพาะในไทยเอง ที่รถกระบะ และ PPV เป็นรถยอดนิยม ที่ใช้เครื่องดีเซลเป็นหลัก และรวมถึงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ตอนนี้ก็เริ่มยัดดีเซลมาให้ใช้กันแล้ว และเป็นที่ยอมรับกันซะด้วย ...
อย่างที่เห็นกันชัดๆคือ maserati levante ที่ผู้นำเข้าชูดจุดขายที่มันเป็นเครื่องดีเซล .... เพราะในไทยตอนนี้เครื่องดีเซลมันเป็นที่ยอมรับในวงกว้างคือ ประหยัดน้ำมัน และดูแลรักษาง่าย
BMW 320D ตัวเลขประหยัดน้ำมันคือ 20 โล/ลิตรโดยเฉลี่ย ในขณะที่เบนซิน ทำได้จริงเพียงแค่ 13-15 โล/ลิตรเท่านั้น ..
ดังนั้นประเด็นที่ว่า ดีเซลจะสูญพันธ์ ผมมองว่าเป็นไปไม่ได้ครับ กลับกัน ... มันกลับกำลังนิยมสุงขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้น CRV คงไม่เอาดีเซลมาลงขายหรอกครับ ....
อย่าไปคิดว่าทางฝั่งนั้นเค้าไม่นิยมหรือห้ามใช้เครื่องดีเซลครับ เพราะไม่งั้น BMW หรือ Benz หรือยี่ห้ออื่นๆในยุโรป คงไม่ผลิตรถที่มีเครื่องดีเซลมาขายกันหรอกครับ ... และตอนนี้เค้าก็กำลังพัฒนาให้มันสามารถปล่อยไอเสียให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดอยู่เท่านั้นเอง .....
ดีเซลกำลังจะหายไปจริงคับ เพราะเทรนด์รถไฟฟ้าและไฮบริด และเนื่องจากต้นทุนที่สูงมากในการทำให้เครื่องดีเซลปล่อยไอเสียได้ต่ำๆ จึงไม่คุ้มในระยะยาวคับ
-
เคยใช้คัมรี่เบนซิล 2.4 อยู่ 5 ปี ตามสเปคบอกว่าแรงม้าสูงสูดจะมาในรอบ 6,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดมาในรอบ 4,000 รอบ/นาที แต่การใช้งานจริงแทบไม่เคยใช้รอบเครื่องสูงขนาดนั้นเลย หรือถ้ามีใครใช้รถแบบคนปกติแล้วใช้รอบ 6,000 รอบ/นาที ตั้งแต่เกียร์ 1 - 6 ตลอดเวลา ก็ขอดูคลิปหลักฐานหน่อยครับ
ในทางกลับกันใช้ PPV ดีเซล เครื่อง 3.2 แรงม้าสูงสุดมาที่ 3,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดมีมาให้ใช้ตั้งแต่ 1,750 รอบ/นาที โดยปกติการขับรถในขณะออกตัวจากจุดหยุดนิ่งจะใช้รอบเครื่องไม่เกิน 2,000 - 2,500 ซึ่งเป็นช่วงรอบแรงบิดที่ใช้งานได้จริง และการใช้รอบที่ 3,000 กับ 6,000 ย่อมมีผลต่อการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่างกันอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นนิยามความแรงของแต่ละบุคคลย่อมต่างกัน แรงต้นดี ออกตัวดี ลอยตัวไว้ หรือ ชอบลากรอบหลายๆพันรอบก็แล้วแต่ความชอบ
ทั้งนี้ ไม่รวมถึงรถซุปเปอร์คาร์ ราคา 10 ล้านอัพ เครื่อง 5 - 6 พัน cc. จำนวนสูบ 8 , 12 , 16 สูบ ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อใช้งานเฉพาะด้าน คือเน้นความเร็วการขับขี่ โดยละไว้ในฐานที่คนทั่วไปเข้าใจ
-
ดีเซลกำลังจะหายไปจริงคับ เพราะเทรนด์รถไฟฟ้าและไฮบริด และเนื่องจากต้นทุนที่สูงมากในการทำให้เครื่องดีเซลปล่อยไอเสียได้ต่ำๆ จึงไม่คุ้มในระยะยาวคับ
ดีเซลในรถบ้านไม่ค่อยได้รับความนิยม ในประเทศที่ มีน้ำมันเหลือใช้ และ รายได้สูง ขนาด ใช้เครื่อง V6 ได้
ดีเซลอาจไม่ได้หายไปในทันที และไม่เฉพาะะดีเซล เพราะ หาก รถไฟฟ้า มาจริง เบนซินก็ลดจำนวนลงเช่นกัน
แต่ผมกลับมองว่า ในขณะที่ แบตเตอรี่มันยังไม่ถูก และ อนาคต ด้านการชาร์ทไฟฟ้า ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ยังอีกหลายปี
ผมว่า ที่น่าจะทำให้ดีเซลในรถบ้านหายไปได้ ก็คือ เบนซินเทอร์โบ บล๊อคเล็กมากกว่าครับ
จากนั้น ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยเป็น ไฮบริด
ยังไง ไทยเราก็ตามหลัง ชาวบ้านเค้าหลายสิบปีนี่กลัวไร