Headlight Magazine : community
General => User's Voice => ข้อความที่เริ่มโดย: Best_Vorakit ที่ พฤษภาคม 17, 2010, 15:28:14
-
สวัสดีครับชาว Headlightmag.com ทุกท่านครับ หลังจากได้ชมรีวิวฉบับแรกไปแล้วซึ่งเป็น Honda City ZX นะครับ มาคราวนี้เปลี่ยนมาเป็นอีกค่ายหนึ่ง ที่โค่นตลาดทั้ง 2 รุ่น นั่นก็คือ Chevrolet (Opel) Zafira และ Honda Stream ด้วยความปรารถนา (Wish) จาก Toyota (ขอยืมมุขนี้หน่อยนะครับ อิอิ)
-
Toyota Wish ถูกพัฒนาในโครงการ 760N โดยทีมวิศวกร นำโดย Takeshi Yoshida ได้จัดแสดงครั้งแรกที่ญี่ปุ่นในงาน Tokyo Motor Show เมื่อเดือนตุลาคมปี 2002 Wish ได้ถูกเปิดตัวในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2003 โฆษณาใช้เพลง Colors ของ Hikaru Utada พร้อมกับสโลแกน ?Wish Comes True? (โฆษณาสามารถดูได้ที่ http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=5539.0)
-
Wish ในไทยเปิดตัวเมื่อปลายปี 2003 เป็น Compact MPV บนพื้นฐานของ Corolla กลุ่มเป้าหมายคือคนรักครอบครัวที่ต้องการความสปอร์ตในตัวรถ MPV ซึ่ง Toyota Wish ก็สามารถตอบโจทย์ได้ตรงจุดดีทีเดียว กลุ่มคู่แข่งมี Honda Stream (ในตอนนี้ไม่มีขายในไทยแล้ว) และ Mazda Premacy (5) (ซึ่งก็ไม่มีในไทยเช่นเดียวกัน) มีบุคคลบางคน ชอบเปรียบเทียบ Wish กับ Space Wagon ซึ่งมันจัดวางอยู่ในคนละตลาดกัน โดยรายหลังนั้นเป็น Mid-size MPV ครับ
-
คันนี้ถูกนำขึ้นบัลลังก์แทนรถคันเก่าของคุณพ่อครับ ซึ่งเป็นรุ่น Sprot Rider 3.0D SR5 Limited รุ่นปี 1999 ซึ่งใช้งานมากว่า 340,000 กม.แล้วครับ ปัญหาก็เริ่มมี เข้าศูนย์ไปโอเวอร์ฮอลเครื่องมาครั้งหนึ่งแล้วครับ ก็ตัดสินใจเปลี่ยนรถใหม่
-
ตัวเลือกก็จะมีรถอยู่สองประเภทคือ compact sedan อย่าง Civic กับ compact MPV อย่าง Wish นี่ล่ะครับ มันอาจจะดูงงๆ กับตัวเลือกหน่อยน่ะครับ เหตุผลก็คือคุณอาไม่อยากให้พ่อขับรถขนาดใหญ่จำพวก SUV หรือ PPV น่ะครับ เลยให้เลือกดูได้แค่รถเก๋งระดับ compact เพราะมีขนาดกำลังเหมาะสม แต่เมื่อไปดูรถที่ศูนย์แล้วก็ตัดสินใจเลือก Wish เพราะภายในกว้างขวาง เหมาะกับการใช้งานมากกว่า (ก็มันคนละประเภทนี่นา) และที่บ้านตอนนั้นก็มี Corolla ปี 1994 (รุ่นสามห่วง) เป็นรถเก๋งอยู่แล้ว (ตอนที่ดู Civic ก็มี Stream จอดโชว์อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ค่อยถูกใจเท่าไรนัก)
คันนี้ออกมาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2004 ครับ เป็นรุ่น 2.0Q limited อันเป็นตัวท็อปสุดของรุ่นครับ ตอนนั้นราคา 1,299,000 บาท (ก่อนปรับลดภาษี ซึ่งเมื่อปรับลดภาษีแล้วเหลือ 1,219,000 บาท) มี moonroof ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นนี้
-
วิธีการใช้งานมูนรูฟ ก็เพียงกดสวิทช์ที่บริเวณไฟอ่านแผนที่ที่ทำหน้าที่เป็นไฟเก๋งไปในตัว กดตรง SLIDE : Close / TILT :Up ค้างไว้มันก็จะกระดกขึ้นทางด้านหลัง ถ้าจะปิดก็กด SLIDE : Open / TILT : Down ค้างไว้จนปิดสนิท (เวลาเปิดกระดกจะไม่มีระบบ one-touch ให้) ถ้าจะเปิดแบบสไลด์ก็ทำตรงกันข้ามกับขั้นตอนที่กล่าวมาข้างต้น (แรกๆ ก็งง ทำให้มันซับซ้อนทำไมในปุ่มเดียวกัน น่าจะทำปุ่มแยก) แต่จะดีกว่าด้วยระบบ one-touch มาให้ ตอนกดเปิดครั้งแรก ระบบจะเปิดแค่ครึ่งหนึ่ง ถ้าจะเปิดสุดต้องกดอีกครั้ง เวลาปิดก็กดปุ่มปิดครั้งเดียวระบบจะปิดสนิทเองโดยอัตโนมัติ แต่ไม่มีระบบป้องกันการหนีบนะครับ
-
Toyota Wish ตั้งแต่รุ่น Q ขึ้นมาจะมีระบบ Smart Entry ซึ่งเป็นรุ่นแรกของโตโยต้าในประเทศไทยที่มีระบบนี้ติดมา นับว่าไฮเทคสุดๆ ในตอนนั้น (แต่ตอนนี้มันก็ใช้แทบทุกรุ่นที่เป็นรถยนต์นั่งไปแล้ว)
การเปิดประตูเข้ารถเวลามีของ ก็สามารถช่วยแบ่งเบาภาระได้(บ้าง) แต่ก็ไม่สะดวกนัก ลองจินตนาการดูว่าถ้าคุณเพิ่งออกมาจากการ shopping จากศูนย์การค้า แล้วคุณจะนำของเหล่านั้นไปใส่ไว้ท้ายรถ คุณต้องเดินอ้อมมาที่ประตูคนขับเท่านั้น เพื่อที่จะเปิดประตูด้วยระบบ Smart Entry นี้
แต่พอมาเป็นรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ระบบนี้ได้พัฒนาขึ้น เพื่อความสะดวกมากขึ้น และมีสัญญาณกันขโมยเพิ่มขึ้นมา (รู้สึกว่าจะใช้เสียงแตรแทนไซเรน) แต่อย่างไรก็ตาม คุณก็ต้องควักกุญแจรถออกมาเพื่อที่จะบิดสวิทช์สตาร์ทรถอยู่ดี ก็ถือว่าเป็นการนำร่องเทคโนโลยีไฮเทค เพื่อที่จะนำมาใช้ในแต่ละรุ่นที่ดี
ถ้าคุณจะล็อคประตูโดยใช้ระบบ Smart Entry ก็กดลงบนปุ่มสีดำบนมือเปิดประตูคนขับ ถ้าจะปลดล็อคประตูคุณก็แค่จับมือเปิดประตูคนขับแล้วรอสักเกือบวินาที รถก็จะปลดล็อคให้ครับ หรือถ้าท่านอยากจะปลดล็อคจากระยะไกลก็กดปุ่มบนรีโมทได้เลยครับ (รุ่นที่มีระบบ Smart Entry มักจะแยกรีโมทออกจากกุญแจ ส่วนรุ่น 2.0S ที่ไม่มีระบบ Smart Entry จะมีรีโมทในตัวกุญแจครับ)
-
ภายนอกของ Wish ดูลงตัวสวยงามเลิศเลอเพอร์เฟคพอดิบพอดี ไม่มีอะไรจะติเท่าใดนัก มิติภายนอกมีความยาว 4,560 มม. กว้าง 1,745 มม. สูง 1,600 มม. ฐานล้อยาว 2,750 มม. ระยะห่างของล้อหน้า 1,500 มม. ล้อหลัง 1,490 มม. ระยะห่างจากจุดต่ำสุดของรถถึงพื้นหรือ Ground Clearance 170 มม. น้ำหนักรถเปล่า 1,420 กก.
-
ภายในก็ลงตัวดีไม่ต่างกับภายนอก ใช้โทนสีดำเป็นหลัก โดยมีโทนสีอ่อนใช้กับหลังคา ทำให้ดูโปร่งโล่งขึ้นมาอีกนิด แต่พลาสติกก็ดูเหมือนจะประหยัดต้นทุนไปนิด ประดับภายในด้วยพลาสติกลายเคฟลาร์ การจัดตำแหน่งเบาะนั่งแบบ captain seat ทำให้กลายเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ และ Toyota Innova ก็มีแบบนี้เหมือนกัน แต่ Innova ถูกจัดวางเป้าหมายเพื่อคนรักครอบครัวที่ชอบขับรถที่สบายมากกว่า Wish ที่ดูสปอร์ต แรงกว่า (สังเกตคนที่ขับ Wish หลายๆ คน มักจะขับเร็ว) แอร์ของ Wish รุ่นนี้ยังไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร นั่งแถวสุดท้ายตอนกลางวันรู้สึกร้อน แต่รุ่นไมเนอร์เชนจ์เหมือนจะมีระบบเป่าลมแรงพิเศษเพื่อให้เย็นทั่วถึง
-
เบาะนั่งสามารถปรับเปลี่ยนพับได้หลากหลายรูปแบบ ตามอัธยาศัย ดูรูปข้างล่างนี้ได้เลยครับ (ขออภัยอย่างสูงครับ รูปเบลอมากๆ)
-
ตอนพับเบาะแล้วครับ
-
เบาะนั่งแถวหน้าจะสบายสุด แถวสองรองลงมา ส่วนแถวสาม ผู้ที่นังไม่ควรสูงเกิน 170 พี่ชายสูง 170 กว่าเคยนั่งอยู่แถวสาม ถามว่านั่งได้มั๊ย? นั่งได้ แต่หัวจะติดหลังคาซะก่อน ผมสูง 160 ครับ ตัวเล็กอยู่ นั่งได้สบายๆ ครับ แต่ต้องดึงพนักพิงศีรษะขึ้นมา จะได้ไม่ปวดต้นคอครับ legroom ก็พอกว้างพอที่จะอยู่ได้ครับ (ในรูปที่ 2 นี้ คนนั่งกลางปรับเบาะระดับปกติครับ)
-
คอนโซลออกแบบลงตัวดี ยกเว้นสวิทช์ไฟฉุกเฉินที่อยู่ห่างไกลคนขับไป เวลาใช้งานต้องละสายตามาดูปุ่มก่อนกด แต่ในรุ่นไมเนอร์เชนจ์ได้ปรับปรุงเรียบร้อยแล้ว ไปอยู่ในตำแหน่งนาฬิกาของรุ่นนี้ นาฬิการุ่นนี้จะแสดงตลอดเวลาจนกว่าจะถอดแบตเตอรี่ แต่จะไม่มีไฟสีเขียวอมเหลืองมาส่องและจะไม่สามารถตั้งเวลาได้ในขณะดับเครื่องและในโหมด ACC ครับ แอร์อัตโนมัติเย็นทันใจ (คนนั่งหน้า) ดีมาก แต่คนหลังล่ะ? ร้อนครับ
-
เครื่องเสียงสามารถเล่น CD, วิทยุ FM, AM, เทป พร้อมโหมดปรับเสียง SSC สามารถปรับให้เสียงนั้นแหลม - กลาง - ทุ้มได้ด้วยครับ มีลำโพง 4 ตัว พร้อมทวีตเตอร์ 2 ตัวครับ เสียงก็ฟังได้ดีครับ
-
มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optriton แสงสีขาว เข็มสีแดง พร้อมจอ multi-information ในจอนั้นจะมี Odeometer, Trip A, Trip B, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ย, อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในขณะนั้น, ความสว่างของมาตรวัด(ปรับอัตโนมัติ), ความเร็วเฉลี่ย โดยยังไม่มีระยะเวลาในการขับขี่รวมไปถึงระยะทางที่วิ่งต่อไปได้จากปริมาณน้ำมันที่เหลือภายในถังน้ำมันในขณะนั้นให้ มีตำแหน่งเกียร์บอกในจอนี้ แต่เมื่อท่านใช้โหมด S ซึ่งท่านต้องเลือกเปลี่ยนเกียร์เอง จะมีตำแหน่งเกียร์บอกในจอแสดงปริมาณน้ำมันแบบดิจิตอลด้วย
-
กระจกที่บานประตูสามารถเปิดปิดได้แบบ one-touch พร้อมระบบป้องกันการหนีบ jam-protection ทั้งสี่บาน ระบบ one-touch ทั้งหมดนี้ เวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว เราจะต้องกดเปิด-ปิด ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที ก็จะกลับมาเป็น one-touch อีกเหมือนเดิมครับ
-
เครื่องยนต์บล็อค AZ สุดร้อนแรง รหัส 1AZ-FE วางขวาง 4 สูบแถวเรียง กระบอกสูบเป็นแบบ Square 86 มม. ความจุ 1,998 cc. อัตราส่วนกำลังอัด 9.8 : 1 สามารถใช้น้ำมันเบนซิน 91 ได้ รวมไปถึงแก๊สโซฮอล์ E10 ทั้ง 91 และ 95 (ถ้าขับเร็ว เร่งแซงบ่อย 95 จะวิ่งดีกว่า) กำลังสูงสุด 150 แรงม้าที่ 6,000 rpm แรงบิดสูงสุด 192 Nm ที่ 4,000 rpm ส่งผ่านกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด รุ่น Aisin U 214 E (ตัวเดียวกับ Camry 2.0 แต่อัตราทดเกียร์ 1 ต่างกัน) อัตราทดเกียร์ มีดังนี้ เกียร์ 1 : 3.343 Camry ใช้ 3.943
เกียร์ 2 : 2.197
เกียร์ 3 : 1.413
เกียร์ 4 : 1.02
เกียร์ R : 3.145
เฟืองท้าย : 3.12
-
ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ McPherson Strut ด้านหลังเป็นอิสระ ปีกนกคู่ พร้อมเหล็กกันโคลงหน้าและหลัง ช่วงล่างจะออกแนวแข็งเล็กน้อย
Wish ทุกรุ่นมีระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control)
ระบบแรกเคยได้ใช้การไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนั้นคุณพ่อขับรถขึ้นเขาแถววังม่วง พอดีวันนั้นไปเที่ยวเขาใหญ่กันมา ขากลับก็เลยขึ้นไปดูหมู่บ้านที่กำลังสร้างอยู่ (แค่ไปดูเล่นๆ) พอลงเนินเขานั้นมาด้วยความเร็ว 80 กม./ชม. เส้นทางเป็นถนนลูกรังแล้วก็มีโค้งกว้าง รถก็ออกจะเสียการทรงตัวนิดหน่อย ระบบก็ทำงาน พร้อมกับเสียง ติ๊ดๆๆๆๆ รถก็ผ่านมาได้ด้วยดี
ส่วนระบบหลังนี้ รู้สึกเหมือนว่าจะต้องให้ล้อมันฟรีไปก่อน หรือลื่นไปนิดหน่อยก่อนแล้วจึงทำงาน เคยทำงานครั้งหนึ่งเหมือนกัน ตอนนั้นทางเป็นหลุม พื้นมีหินกรวดเล็กๆ แต่ถ้าออกตัวแรงๆ บนทางที่มีหินอยู่ ล้อก็จะฟรีไปก่อน แต่ฟรีนิดหน่อย (แค่ ฟรื้ด.) แล้วก็ออกตัวไปอย่างปกติ
-
ระบบระบายความร้อนเป็นปัญหาสำหรับคันนี้ เวลารถติดสัก 10-20 นาที อากาศร้อน รถก็ร้อนตาม แต่หลังๆ มานี้เริ่มเป็นบ่อยมากขึ้น วิ่งมาเร็วๆ แล้วเจอรถติดก็ร้อนแล้ว ตอนแรกนึกว่าพัดลมระบายความร้อนไม่ทำงาน คุณพ่อก็ลองฉีดน้ำดูบริเวณหม้อน้ำ กลับหาย สงสัยมีฝุ่นละอองไปติดอยู่ตามรังผึ้งมั้งครับ ตอนนี้ความร้อนจากเครื่องยนต์ก็เป็นปกติ แต่โคมไฟด้านขวาของรถ มันออกเหลืองๆ เคยลองนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดก็หายไปแป๊บเดียวแล้วก็เหลืองอีก น่าจะมาจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่ออกมาเวลาจอดรถน่ะครับ
อะไหล่ที่เคยเปลี่ยนก็มียางแท่นเครื่องและโช้คอัพครับ ก็ถือว่าเป็นปกติตามอายุการใช้งานครับ
-
สรุป เป็นรถ MPV ที่น่าใช้ เหมาะกับผู้ที่รักครอบครัว(ขนาดเล็ก) ที่ยังติดสปอร์ตอยู่ครับ สำหรับผู้ที่จะซื้อมือ 2 นะครับ เรื่องของเครื่องยนต์ก็ไม่ต้องกังวลไปว่า ?จะมีอะไหล่เยอะหรือเปล่า เพราะ Wish มันขายในไทยแค่ generation เดียว? คำตอบคือ มีแน่นอนครับ เพราะเครื่องบล็อคนี้ (1AZ-FE) ใช้อยู่ใน Camry 2.0 ทั้ง 2 generation ครับ
-
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านรีวิวของผมมากๆ นะครับ ขออภัยด้วยถ้ารูปไม่ชัด เบลอ และก็ไม่มีความเรียบร้อยของรูปด้วยครับ
เชิญแสดงความคิดเห็นได้ตามอัธยาศัยครับ
-
ขอบคุณครับ รีวิวเกือบละเอียดแล้ว
เหลือพวก อัตราสิ้นเปลือง ความเร็วสูงสุด หืออัตราเร่งก็ยังดี :D
พวกภาพถ่ายก็พยายามอีกนิดนะครับ ค่อยๆลองปรับโฟกัส เช็คแสง หรือใช้ขาตั้ง
หรือไม่งั้นก็ เข้า PS กด ctrl + shift + L ก็ได้ภาพที่มีน้ำหนักดีขึ้นครับ
สู้ๆครับ ;)
-
ขอบคุณสำหรับ รีวิวครับ สิ่งที่ต้องปรับปรุงก็มีรูปนะครับแนะนำเหมือนคุณiamanooneครับ
[ ค่อยๆลองปรับโฟกัส เช็คแสง หรือใช้ขาตั้ง
-
ขอบคุณครับ ถือว่ารับผิดชอบดีที่ยังไม่มีใบขับขี่เลยไม่ขับ แต่ก็อุตส่าห์ถ่ายรูปมาในฐานะผู้โดยสาร อัตราสิ้นเปลืองไว้มาบอกก็ได้ครับถ้าไปบันทึกตอนที่คุณพ่อเติมน้ำมัน หรือจริงๆอ้างจากจอมันก็ได้มั้ง ส่วนความเร็วสูงสุดไม่ต้องห่วงครับพี่จิมเคยทำกับรถรุ่นนี้ไว้แล้ว เพื่อคุณๆจะได้ไม่ต้องไปเสี่ยงกันเอง
-
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ มากๆ ครับ พอดีตอนที่ถ่ายรูปนั้นใช้กล้องดิจิตอลธรรมดารุ่นเก่าน่ะครับ และก็ถ่ายไว้นานแล้วเหมือนกันครับ เลนส์มันก็ไม่ค่อยละเอียดเท่าไร คราวหน้าจะลองใช้กล้องของคุณพ่อที่ปรับเลนส์ได้มาใช้ครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากพี่ๆ อีกครั้งหนึ่งนะครับ
-
ขอบคุณครับสำหรับ Review ขับ Wish รุ่นแรกนี้อยู่เหมือนกันครับ
จุดประสงค์ที่ผมซื้อรุ่นนี้คือการที่พับเบาะลงได้ราบเรียบครับ เพราะใช้พาคุณพ่อไป ร.พ. (คุณพ่อเป็นอัมพฤกษ์)
ตอนนี้ก็เอาไว้ใช้พาคุณพ่อไปเที่ยว (นอนไป)^^
ขอเสริมหน่อยนะครับ ส่วนตัว รู้สึกว่าเป็นรถที่ขับมันส์ดี ช่วงล่างแข็งสะใจ ทัศนวิสัยรอบคันดีมากกกก
เคยขับไปเที่ยวระยองกับเพื่อน อัดกันเข้าไป 8 คน พร้อมสัมภาระ อืมมมม แต่คนนั่งเบาะหลังสุด พอถึงจุดหมายก้นแทบเป็น
ตะคริว
เท่าที่ใช้มา 5 ปี เพิ่งจะมีไฟเครื่องยนต์โชว์ แล้วก็เรื่อง Relay Air นอกนั้นก็ยังไม่มีอะไรต้องเปลี่ยนครับ อาจเป็นเพราะผมใช้น้อยครับ เพิ่งผ่าน 50,000 กิโล มานิดหน่อย ^_^
-
อืม..ไม่เคยรู้สึกว่าอยากได้ Wish จนกระทั่งวันนี้แฮะ..มันเป็นรถที่ทันสมัยนะจากที่ได้เห็นรายละเอียดในส่วนที่เป็นมุมมองจากผู้ใช้ ขอบคุณครับ
-
น่าจะมี generation ต่อไป... ที่เมืองไทย
-
เป็นรถสำหรับวัยรุ่นจริงๆ ผมยังชอบจนถึงทุกวันนี้
-
อืม..ไม่เคยรู้สึกว่าอยากได้ Wish จนกระทั่งวันนี้แฮะ..มันเป็นรถที่ทันสมัยนะจากที่ได้เห็นรายละเอียดในส่วนที่เป็นมุมมองจากผู้ใช้ ขอบคุณครับ
ว่าแต่...Wish ได้อยู่ในกลุ่มของ 50 Legends of Modern Days ด้วยรึเปล่าครับเนี่ย
รออ่าน 25 รุ่นที่เหลือนะครับ
-
เบาะแถวสองนั่งทางไกลสบายมั้ยครับ
ผมเคยไปผุดลุกผุดนั่ง รู้สึกว่าเบาะมันจะเล็กไปหน่อย
-
เบาะแถวสองนั่งทางไกลสบายมั้ยครับ
ผมเคยไปผุดลุกผุดนั่ง รู้สึกว่าเบาะมันจะเล็กไปหน่อย
ก็พอนั่งได้ล่ะครับ แต่ก็ไม่ได้สบายมากนัก ต้องขยับตัวให้สะโพกแนบชิดกับตัวเบาะครับ ปรับพนักพิงให้เอนนิดหน่อยตามแต่สรีระของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกันครับ
ยอมรับว่าเบาะมันเล็กจริงๆ ครับ support ไม่ดีเท่าไร นั่งนานก็เกิดอาการปวดหลังได้บ้างครับ เนื่องจากฟองน้ำนุ่มไปหน่อยอ่ะครับ (แต่โตโยต้าหลายๆ รุ่นก็ลักษณะเดียวกัน)
-
รักมันมาก มันขนของได้เยอะมาก ไปไหนไปกัน
-
ขอบคุณมากครับผม
มันเคยเป็นรถที่ดีที่สุดคันนึงเท่าที่โตโยต้าประกอบขายให้คนไทย
แต่หลังๆ ปัญหาก็เริ่มมีโผล่มาบ้างเรื่อยๆเหมือนกัน
-
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ
-
เมื่อก่อนน่าสนใจครับ มีตัวเลือก mitsubishi space wagon ด้วย คิดหนักเลย ;D
-
ขอบคุณครับ