Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lonely ที่ เมษายน 15, 2017, 11:29:06
-
สอบถามผู้รู้ทุกท่านครับ
หัวเชื้อน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิง ดีหรือไม่ดีกันแน่ครับ
เห็นทาง Caltex ก็ทำออกมา
ค่ายรถเองก็ทำ แถมยังเชิญชวนให้ใช้ตอนเอารถไปเข้าศูนย์อีก
ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับคำตอบครับ
-
หัวเชื้อน้ำมันเครื่อง ( เดี๋ยวรอท่าน Jae มาตอบ ) ผมไม่เคยใช้ แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ เกรดดีๆ ตามกำหนด ก็เพียงพอ
หัวเชื้อน้ำมันดีเซล ผมชอบเติมตอนเดินทางไป ตจว. ช่วยเพิ่มค่าซีเทน
น้ำยาล้างหัวฉีด ผมจะใช้ทุกๆ ประมาณ 10,000 กม. และก็จะเติมช่วงที่เดินทางไกล (แต่จะไม่เติมหัวเชื้อดีเซลในถังที่เติมล้างหัวฉีดครับ)
-
สารพวกนี้มันมีอยู่ละครับในนมค.และน้ำมันเชื้อเพลิง ผมเลยมองว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ครับ
ใช่ไหมคุณโจ้ (Jae)
-
ในเมื่อกล่าวถึงCaltex มาแล้ว
Caltex ( Chevron) ไม่มีหัวเชื้อน้ำมันเครื่องขายนี่ครับ? ตอนนี้ที่เห็นคือ STP Badhal, Omega, Wurth. ที่เป็นหัวเชื้อน้ำมันเครื่องจริงๆ หรือถ้า Chevron ทำหัวเชื้อน้ำมันเครื่องขายจริงๆลงลิงค์ให้หน่อยครับจะเอาไปถามเซลล์
หัวเชื้อน้ำมันเครื่องที่ไม่ใช่พวกตลาดTV Direct มีแค่ไม่กี่ยี่ห้อ จุดประสงค์หลักๆของพวกนี้คือ เพิ่มความหนืด ถ้าเบอร์น้ำมันที่คุณใช้ หนาพออยู่แล้ว ก็จบครับ พวกสารชะล้างอะไรนั้นมีอยู่แล้วในน้ำมันเครื่องทุกยี่ห้อที่มีโรงกลั่นน้ำมันในปริมาณที่พอเหมาะ
หัวเชื้อน้ำมันเชื้อเพลิง Chevron Havolineมีครับ และหลายยี่ห้อก็มี ถ้าคุณใช้E10ขึ้นไปอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้หรอกครับ เพราะมันไม่มีอะไรให้ล้างมากมายนัก พวกนี้ เช่น Contrate plus ของ Chevron หลักๆคือ Kerosene+Thinner และมี แนบธาสำหรับบูสออกเทน และ Benzeneอีกเพื่อช่วยรวมส่วนผสมก่อนเติมกับน้ำมันเชื้อเพลิง
แน่นอนว่าKerosene หรือที่เรารู้จักกันในชื่อไทยว่าน้ำมันก๊าด และ Thinner(Stoddart solvent) ที่ใส่ลงไปเป็นแบบกลั่นสะอาดกว่าแบบที่ออกจากหอกลั่น ทำความสะอาดระบบเชื้อเพลิงได้ดี แต่ถ้ารถสะอาดด้ววethanolอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นที่ต้องเติมให้เสียเงิน เว้นแต่อยากเสียครับ
ขออภัยถ้าสะกดผิด
-
ขอบคุณทุกท่าน โดยเฉพาะคุณ Jae
ผมเห็นรูปใน Lazada ที่แพคขายพร้อมกับน้ำมันเครื่อง Havoline 5W30 ครับ
เลยเข้าใจว่าเป็นหัวเชื้อน้ำมันเครื่อง
ผมเติมเบนซิน 95 ของเชลล์ในช่วง 2 ปีแรกครับ
ปีที่ 3 - 8 เติม E10 ของเชลล์มาตลอดครับ
จนเชลล์ เปลี่ยนมาเป็น V-Power Nitro
ก็ยังเติมอยู่ จนสู้ราคาไม่ไหว
ปีที่ 9 - 10 ก็เลยต้องหันมาเติม E10 ปตท.ครับ
สรุป คือ หัวเชื้อน้ำมันเครื่องและหัวเชื้อน้ำมันเชื้อเพลิง
ถือว่า "ไม่ค่อยจำเป็น" ใช่ไหมครับ
ขอบคุณครับ
-
สรุปว่า ไม่จำเป็นสำหรับรถที่เติมEthanol blendเป็นประจำอยู่แล้วน่ะครับ
กับรถที่เติม95 เบนซินล้วนมาตลอดชีวิต การเติมก็อาจจะให้ผลดีในการชะล้างตั้งแต่ถังน้ำมันไปยันหัวฉีดและสูบ แต่บางคันที่มีตระกรัน วุ้น โคลนในถังน้ำมัน สิ่งสกปรกเหล่านี้หลุดออกจากการล้างไปติดกรอง ติดปั๊มเชื้อเพลิงได้เหมือนกันครับ
-
ขอบคุณเจ้าของโพส
และ ความรู้ดีดี จากคุณJae ครับ ::) :D 8)
-
หัวเชื้อน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ดีทั้ง 2 อย่างเลย และไม่จำเป็น
ใช้น้ำมันเครื่องตามยี่ห้อทั่วๆไป ใช้สังเคราะห์100% หรือใช้กึ่งสังเคราะห์ก็ได้ เปลี่ยนถ่ายตามระยะ
เติมน้ำมันปั้มได้มาตรฐาน เปลี่ยนกรองน้ำมันตามระยะ ก็พอแล้วครับ
-
หัวเชื้อน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ดีทั้ง 2 อย่างเลย และไม่จำเป็น
ใช้น้ำมันเครื่องตามยี่ห้อทั่วๆไป ใช้สังเคราะห์100% หรือใช้กึ่งสังเคราะห์ก็ได้ เปลี่ยนถ่ายตามระยะ
เติมน้ำมันปั้มได้มาตรฐาน เปลี่ยนกรองน้ำมันตามระยะ ก็พอแล้วครับ
ผมก็ใช้วิธีการประมาณนี้ครับ รถคันที่เพิ่งขายไป อายุเกือบ 12 ปี ไม่มีอาการผิดปกติอะไรครับ เครื่องยังแรงแน่นเหมือนเดิมครับ น้ามันเครื่องก็ของศูนย์ ตลอดอายุครับ ไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัวว่าต้องยี่ห้อนั้น ต้องหิ้ว เพราะผมต้องการพิสูจน์ให้รู้ว่าถ้าใช้ของศูนย์แล้วรถพังจะได้ด่าศูนย์ให้เต็มปากว่าใช้ของไม่ดีให้ลูกค้าครับ
-
หัวเชื้อน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ดีทั้ง 2 อย่างเลย และไม่จำเป็น
ใช้น้ำมันเครื่องตามยี่ห้อทั่วๆไป ใช้สังเคราะห์100% หรือใช้กึ่งสังเคราะห์ก็ได้ เปลี่ยนถ่ายตามระยะ
เติมน้ำมันปั้มได้มาตรฐาน เปลี่ยนกรองน้ำมันตามระยะ ก็พอแล้วครับ
ผมก็ใช้วิธีการประมาณนี้ครับ รถคันที่เพิ่งขายไป อายุเกือบ 12 ปี ไม่มีอาการผิดปกติอะไรครับ เครื่องยังแรงแน่นเหมือนเดิมครับ น้ามันเครื่องก็ของศูนย์ ตลอดอายุครับ ไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัวว่าต้องยี่ห้อนั้น ต้องหิ้ว เพราะผมต้องการพิสูจน์ให้รู้ว่าถ้าใช้ของศูนย์แล้วรถพังจะได้ด่าศูนย์ให้เต็มปากว่าใช้ของไม่ดีให้ลูกค้าครับ
ไม่เห็นจะต้องพิสูจน์เลย
ไม่มีบริษัทรถยี่ห้อไหน เลือกน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วเครื่องพัง มาใช้กับรถของตัวเองหรอกครับ
แต่คนที่เขาไม่ใช้ของศูนย์ ก็มีเหตุผลแตกต่างกันไปครับ
-
สรุปว่า ไม่จำเป็นสำหรับรถที่เติมEthanol blendเป็นประจำอยู่แล้วน่ะครับ
กับรถที่เติม95 เบนซินล้วนมาตลอดชีวิต การเติมก็อาจจะให้ผลดีในการชะล้างตั้งแต่ถังน้ำมันไปยันหัวฉีดและสูบ แต่บางคันที่มีตระกรัน วุ้น โคลนในถังน้ำมัน สิ่งสกปรกเหล่านี้หลุดออกจากการล้างไปติดกรอง ติดปั๊มเชื้อเพลิงได้เหมือนกันครับ
แล้วรถที่ใช้แก๊สละครับจะต้องใช้ไหมครับ
-
หัวเชื้อน้ำมันเครื่องและน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ดีทั้ง 2 อย่างเลย และไม่จำเป็น
ใช้น้ำมันเครื่องตามยี่ห้อทั่วๆไป ใช้สังเคราะห์100% หรือใช้กึ่งสังเคราะห์ก็ได้ เปลี่ยนถ่ายตามระยะ
เติมน้ำมันปั้มได้มาตรฐาน เปลี่ยนกรองน้ำมันตามระยะ ก็พอแล้วครับ
ผมก็ใช้วิธีการประมาณนี้ครับ รถคันที่เพิ่งขายไป อายุเกือบ 12 ปี ไม่มีอาการผิดปกติอะไรครับ เครื่องยังแรงแน่นเหมือนเดิมครับ น้ามันเครื่องก็ของศูนย์ ตลอดอายุครับ ไม่ต้องไปคิดให้ปวดหัวว่าต้องยี่ห้อนั้น ต้องหิ้ว เพราะผมต้องการพิสูจน์ให้รู้ว่าถ้าใช้ของศูนย์แล้วรถพังจะได้ด่าศูนย์ให้เต็มปากว่าใช้ของไม่ดีให้ลูกค้าครับ
ไม่เห็นจะต้องพิสูจน์เลย
ไม่มีบริษัทรถยี่ห้อไหน เลือกน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วเครื่องพัง มาใช้กับรถของตัวเองหรอกครับ
แต่คนที่เขาไม่ใช้ของศูนย์ ก็มีเหตุผลแตกต่างกันไปครับ
ช่าง เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ เจ้าของรถยี่ห้อนั้นๆ
ช่าง เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่ เจ้าของบริษัทรถยี่ห้อนั้นๆ
กี่ยุค ? กี่สมัย ? กี่กรณี ? พัง เพราะ คนกลาง
การพิสูจน์ ตรวจสอบ ตลอดเวลา สมเหตุผล ครับ
-
มาสด้า 2 ผม
ใช้แก๊ส (น้ำมันตอนสตาร์ท) ตั้งแต่ตอน 1000กิโล (แต่น้ำมันที่เติมไว้ เป็น V-Power ตลอดนะครับ สลับกับ ESSO 95 เพียว เติมทีละ 200 ไม่อยากให้น้ำมันค้างถังนาน)
ตอน 1แสนกิโล ไปตั้งวาล์ว เปิดฝาเครื่องออกมา เอี่ยมเลยครับ ไม่เห็นมีอะไรดูสกปรก (นมค. เปลี่ยนหลายตัว มี Valvoline 0W-30, PTT 0W-30, Mobil 5W-30 และ3หมื่นกิโลหลัง เป็น Helix Ultra 0W-40 )
-
ดี แต่ไม่คุ้มเงินครับ
ไปลองด้วยตัวคุณเองเลย
แต่เติมน้ำมันไปให้เกือบเต็มถังก่อนนะครับ
-
ขอแชร์ในฐานะที่เคยใช้
ถามหาความคุ้มค่า คงจะไม่มี ยิ่งกับรถใหม่ๆ แทบไม่กระดิก
ถามว่าประโยชน์คืออะไร หัวเชื้อตัวนี้คือ pea สารชะล้างในอัตราส่วนที่มากกว่าชาวบ้านเค้าหลายอยู่
แต่จากที่เคยเห็นใน youtube เค้าเติมแล้ว คราบเขม่าที่หัวลูกสูบหายไปนิดเดียว
แต่ไม่รวมถึงหัวฉีดว่าสะอาดหรือเปล่า
แล้วรถใหม่ๆ สะอาดๆ คราบพวกนี้ไม่ค่อยจะมีด้วยอ่ะดิ