Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ww ที่ เมษายน 22, 2017, 17:11:41
-
สมมุติมีรถ3คัน ระบบขับเคลื่อนเหมือนกัน เช่น ขับหน้า/ขับหลัง/ขับสี่เหมือนกันทั้ง3คัน แต่การวางตำแหน่งเครื่องยนต์ต่างกัน คันแรกวางเครื่องยนต์ไว้ด้านหน้ารถ คันสองวางเครื่องยนต์กลางตัวรถ คันสามวางเครื่องยนต์ท้ายตัวรถ อาการตัวรถในโค้งของการวางตำแหน่งเครื่องยนต์แต่ละแบบเป็นแบบไหน แบบไหนเข้าโค้งนิ่งที่สุด ข้อดีข้อเสียของตำแหน่งเครื่องยนต์แต่ละแบบ
-
ตอบแบบ simpleๆ มองแค่ตำแหน่งเครื่องอย่างเดียวก็คือ
เครื่องวางหน้า = หน้าหนัก = หน้าดื้อ เข้าโค้งแล้วแถออก เช่นรถทั่วๆไป
เครื่องวางหลัง = ตูดหนัก = ท้ายออก จะหมุนง่ายเวลาเข้าโค้ง เช่นPorsche
เครื่องวางกลาง = บาลานซ์ = ควบคุมดีเลิศ เกาะเป็นตุ๊กแก เช่น Ferrari, Lamborghini
อันนี้มองแบบง่ายๆนะครับ เพราะว่าจริงๆแล้วทุกอย่างมันเกี่ยวเนื่องกันหมดหละครับ
ขับเคลื่อนล้อหน้าหลัง, ช่วงล่าง ล้วนส่งผลทั้งนั้น
อีกอย่างคือ รถเครื่องวางหน้าสมรรถนะสูง หลายคันก็น้ำหนักบาลานซ์ หน้าหลัง 50:50 มันก็จะขับได้ดีเหมือนกัน
-
ลองไปดูเพิ่มเติมที่นี่ครับ
http://www.thecartech.com/subjects/engine/Engine_position.htm
https://en.wikipedia.org/wiki/Automobile_layout
https://en.wikipedia.org/wiki/Mid-engine_design
-
ขอบคุณครับ
-
ลองไปช็อปที่โลตัสแล้วเอาของหนักๆใส่ด้านหน้ารถเข็นดูครับ และกลับกันลองย้ายของหนักมาไว้ที่ท้ายรถเข็นแทนจะทำให้เข็นรถเลี้ยวได้ง่ายขึ้น อันนี้แค่ให้พอเห็นภาพง่ายๆ ในรถยนต์มีรายละเอียดและปัจจัยอีกมากคิดแล้วปวดหัวครับ :D
-
เอาที่เคยลองนะครับ
พวกมิดเอ็นจิ้น อย่าง MR-s , MR2 หมุนง่ายมาก (วัดจากทักษะการขับของผมนะ มือสมัครเล่น ไม่นับท่านที่ขับเก่งๆนะ ถ้าเซียนๆก็คงบอกว่าคุมสบายมาก) แต่อารมณ์เหมือนขับรถแข่ง
ส่วนรถบ้านๆ เครื่องวางหน้า มักจะติด Understeer
ถ้าพวกรถขับหลัง ปิดระบบช่วยทรงตัวแล้ว ท้ายออกง่ายมาก
-
เท่าที่ผมทราบคือ
เครื่องวางหน้าคือน้ำหนักถ่วงที่ล้อหน้า ทำให้เลี้ยวยาก
เครื่องวางกลางจะเข้าโค้งดีที่สุด ข้อเสียคือรถพอเกินลิมิตรถก็จะปัดทันที ปัดแบบคุมยากมาก
เครื่องวางตูดคือเครื่องกดที่ล้อหลังไว้ ทำให้ออกตัวแบบล้อไม่ฟรีเยอะ และเลี้ยวง่าย แต่เกินลิมิดก็ปัดได้เช่นกัน เช่นพวก Porsche
-
มีผลในส่วนการกระจายน้ำหนักครับ เอาจริงๆ มันเหมารวมไม่ได้ เพราะวางได้หลายแบบ รวมถึงบางทีวางไม่เหมือนกันอีก ไหนจะการปรับแต่งช่วงล่างอีก ก็มีผลทั้งนั้น อันนี้จากเท่าที่ศึกษามา มันก็วางกันประมาณนี้นะครับ
เครื่องวางหน้า ขับหน้า น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ล้อหน้า มักจะมีอาการอันเดอร์สเตียร์ (ยิ่งวางล้ำแนวล้อหน้ามากๆ ยิ่งออกอาการเยอะ) เจอในรถทั่วๆไป Civic Altis Camry Accord
(https://www.audiworld.com/news/06/ttindepth/TTC060150b.jpg)
วางหน้า ขับหลัง แบบทั่วๆไป วางกลางๆล้อ หรือค่อนมาทางด้านหน้า และเกียร์มักจะอยู่ด้านหน้า พบใน รถทั่วๆไป ขับหลังแต่อาจจะต้องคำนึงถึงความสนุกในตอนขับขี่ และยังต้องคำนึงถึงพื้นที่โดยสารที่จะไม่ถูกเครื่องยนต์ล้ำจนเบียดบังพื้นที่เกินไปนัก มีท้ายปัดได้บ้าง สนุกได้บ้าง แต่อาจจะไม่เร็วเท่าพวกที่วาง Front Mid หรือ Mid Engine
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/34/fd/50/34fd502891605e5681e3ec381f844db2.jpg)
เครื่องวางหน้า แต่ตำแหน่งเครื่องอยู่หลังแนวล้อหน้า (Front-Mid) เฉลี่ยน้ำหนักค่อนข้างดี ยิ่งพวกรถตัวบนๆ ที่เอาเกียร์ไปไว้ด้านท้ายรถช่วยกระจายน้ำหนักจะยิ่งเห็นผล ทำให้บาลานซ์เป็นกลางมาก ค่อนข้างขับสนุก หลุดแนวยังคุมได้ไม่ยากมากนัก (GTR ,AMG-GTS , LFA , F12)
เครื่อง+เกียร์ วางหน้า แต่ก็เยื้องมาด้านหลังแนวล้อ เพื่อให้ชิดกลางรถ เพื่อการกระจายน้ำหนัก
(https://lexusenthusiast.com/images/weblog/16-12-08-lexus-lc-center-of-gravity.jpg)
อันนี้เครื่องวางหน้า แต่ค่อนมา กลางๆตัวรถ หลังแนวล้อหน้าเหมือนกัน และเอาเกียร์วางหลัง เพื่อกระจายน้ำหนัก
(https://i0.wp.com/4.bp.blogspot.com/-XEdB9G1uSa4/V1b0LubGgsI/AAAAAAAAAck/6HtR6aVNK8cH-uX0Mgi-D1wZYrWrUEPJACLcB/s1600/2016-nissan-gtr-sports-car-xray-dual-clutch-6-speed-transmission-side-view.jpg?ssl=1)
วางกลาง ขับหลัง น้ำหนักวางกลางรถ หน้าแนวล้อหลัง จุดศูนย์ถ่วงค่อนข้างดี บาลานซ์ดี แต่ผมว่า น้ำหนักอยู่ท้าย ถ้าหลุด อาจจะหมุนง่ายหน่อย เพราะตำแหน่งจุดศูนย์กลางน้ำหนักที่อยู่ตรงกลาง จุดหมุนตรงกลาง คิดว่าเวลาเสียอาการ น่าจะแถไปทั้งคัน เอาจริงๆการวางแบบนี้เฉลี่ยน้ำหนักนี่กว่าวางหลัง ในรายการบางรายการเคบอกประมาณว่า Porsche ไม่กล้าเอาเครื่องตัวแรงมาลง Cayman เพราะกลัวว่าน้องเล็กจะทำเวลาได้ดีกว่าพี่ใหญ่อย่าง 911 (488, Aventador,Huracan,Cayman) :P
(http://flatsixes.com/wp-content/uploads/2015/08/2006-Porsche-Cayman-S-Production-Cutaway.jpg)
วางหลัง ขับหลัง แบบ 911 น้ำหนักอยู่ท้าย ออกตัวดี แทร็คชันเยอะ หน้าไว คม ท้ายหนักๆ แต่ถ้าหลุด ก็ค่อนข้างดิบ เพราะเหมือนของหนักๆเหวี่ยงท้ายรถ ถ้าคนคุมได้เก่งๆก็อาจจะสนุกกับมัน (แต่ 911 ตัวใหม่ๆก็ขยับเครื่องมากลางๆเพิ่มขึ้นตั้งแต่รุ่น 991 ละครับ)
ตัวใหม่ๆ ก็ขยับมาชิดล้อมากขึ้น
(http://www.tu-sofia.bg/kcfinder/upload/%D0%A2%D0%A4/images/car_05_991-Porsche-GT3-19.jpg)
ถ้าตัวเก่าๆก็
(https://photos.stuttcars.info/upload/2013/03/20/my1988-911turbo-copyright-porsche.jpg)
(http://www.carthrottle.com/wp-content/uploads/2013/02/38449_02_por.jpg)
-
มีแน่นอนครับ เครื่องยนต์น้ำหนักมาก มีผลต่อจุดศูนย์ถ่วงแน่ๆ
-
ถ้าวางด้านหน้า: หน้าจะหนัก จะดูจิกโค้งแต่ก็สามารถดื้อโค้งได้ง่าย ก็คือ Understeer
ถ้าวางกลาง: นึกภาพลูกข่างที่มวลอยู่ตรงกลาง ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็หมุนครับ
ถ้าวางหลัง: ก็หน้าเบาๆหนักท้าย ท้ายออกง่าย กลายเป็น Oversteer ไป
-
หลายอย่าง มี ผล
-
มีผลในส่วนการกระจายน้ำหนักครับ เอาจริงๆ มันเหมารวมไม่ได้ เพราะวางได้หลายแบบ รวมถึงบางทีวางไม่เหมือนกันอีก ไหนจะการปรับแต่งช่วงล่างอีก ก็มีผลทั้งนั้น อันนี้จากเท่าที่ศึกษามา มันก็วางกันประมาณนี้นะครับ
เครื่องวางหน้า ขับหน้า น้ำหนักส่วนใหญ่อยู่ล้อหน้า มักจะมีอาการอันเดอร์สเตียร์ (ยิ่งวางล้ำแนวล้อหน้ามากๆ ยิ่งออกอาการเยอะ) เจอในรถทั่วๆไป Civic Altis Camry Accord
(https://www.audiworld.com/news/06/ttindepth/TTC060150b.jpg)
วางหน้า ขับหลัง แบบทั่วๆไป วางกลางๆล้อ หรือค่อนมาทางด้านหน้า และเกียร์มักจะอยู่ด้านหน้า พบใน รถทั่วๆไป ขับหลังแต่อาจจะต้องคำนึงถึงความสนุกในตอนขับขี่ และยังต้องคำนึงถึงพื้นที่โดยสารที่จะไม่ถูกเครื่องยนต์ล้ำจนเบียดบังพื้นที่เกินไปนัก มีท้ายปัดได้บ้าง สนุกได้บ้าง แต่อาจจะไม่เร็วเท่าพวกที่วาง Front Mid หรือ Mid Engine
(https://s-media-cache-ak0.pinimg.com/originals/34/fd/50/34fd502891605e5681e3ec381f844db2.jpg)
เครื่องวางหน้า แต่ตำแหน่งเครื่องอยู่หลังแนวล้อหน้า (Front-Mid) เฉลี่ยน้ำหนักค่อนข้างดี ยิ่งพวกรถตัวบนๆ ที่เอาเกียร์ไปไว้ด้านท้ายรถช่วยกระจายน้ำหนักจะยิ่งเห็นผล ทำให้บาลานซ์เป็นกลางมาก ค่อนข้างขับสนุก หลุดแนวยังคุมได้ไม่ยากมากนัก (GTR ,AMG-GTS , LFA , F12)
เครื่อง+เกียร์ วางหน้า แต่ก็เยื้องมาด้านหลังแนวล้อ เพื่อให้ชิดกลางรถ เพื่อการกระจายน้ำหนัก
(https://lexusenthusiast.com/images/weblog/16-12-08-lexus-lc-center-of-gravity.jpg)
อันนี้เครื่องวางหน้า แต่ค่อนมา กลางๆตัวรถ หลังแนวล้อหน้าเหมือนกัน และเอาเกียร์วางหลัง เพื่อกระจายน้ำหนัก
(https://i0.wp.com/4.bp.blogspot.com/-XEdB9G1uSa4/V1b0LubGgsI/AAAAAAAAAck/6HtR6aVNK8cH-uX0Mgi-D1wZYrWrUEPJACLcB/s1600/2016-nissan-gtr-sports-car-xray-dual-clutch-6-speed-transmission-side-view.jpg?ssl=1)
วางกลาง ขับหลัง น้ำหนักวางกลางรถ หน้าแนวล้อหลัง จุดศูนย์ถ่วงค่อนข้างดี บาลานซ์ดี แต่ผมว่า น้ำหนักอยู่ท้าย ถ้าหลุด อาจจะหมุนง่ายหน่อย เพราะตำแหน่งจุดศูนย์กลางน้ำหนักที่อยู่ตรงกลาง จุดหมุนตรงกลาง คิดว่าเวลาเสียอาการ น่าจะแถไปทั้งคัน เอาจริงๆการวางแบบนี้เฉลี่ยน้ำหนักนี่กว่าวางหลัง ในรายการบางรายการเคบอกประมาณว่า Porsche ไม่กล้าเอาเครื่องตัวแรงมาลง Cayman เพราะกลัวว่าน้องเล็กจะทำเวลาได้ดีกว่าพี่ใหญ่อย่าง 911 (488, Aventador,Huracan,Cayman) :P
(http://flatsixes.com/wp-content/uploads/2015/08/2006-Porsche-Cayman-S-Production-Cutaway.jpg)
วางหลัง ขับหลัง แบบ 911 น้ำหนักอยู่ท้าย ออกตัวดี แทร็คชันเยอะ หน้าไว คม ท้ายหนักๆ แต่ถ้าหลุด ก็ค่อนข้างดิบ เพราะเหมือนของหนักๆเหวี่ยงท้ายรถ ถ้าคนคุมได้เก่งๆก็อาจจะสนุกกับมัน (แต่ 911 ตัวใหม่ๆก็ขยับเครื่องมากลางๆเพิ่มขึ้นตั้งแต่รุ่น 991 ละครับ)
ตัวใหม่ๆ ก็ขยับมาชิดล้อมากขึ้น
(http://www.tu-sofia.bg/kcfinder/upload/%D0%A2%D0%A4/images/car_05_991-Porsche-GT3-19.jpg)
ถ้าตัวเก่าๆก็
(https://photos.stuttcars.info/upload/2013/03/20/my1988-911turbo-copyright-porsche.jpg)
(http://www.carthrottle.com/wp-content/uploads/2013/02/38449_02_por.jpg)
มีภาพประกอบด้วย เข้าใจง่ายขึ้น ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณทุกคห.ครับ
-
มันมีผลมาก และคงต้องปรับรูปแบบการขับขี่ของนักแข่ง
-ถ้าว่ากันเรื่องนี้คงต้องรคุยกันเรื่องweight transfer หรือการถ่ายน้ำหนักก่อน
ซึ่งก็คงต้องลงรายละเอียด ว่าเป็นในส่วนของการเข้าโค้ง (turn in)หรือ จังหวะออกโค้ง(exit)
ขอพูดเฉพาะรถทั้งสามแบบรวมๆ ในกลุ่มขับหลังแล้วกันนะครับ
brake
FR จังหวะเบรคอาจจะเสียเปรียบพวกmr, rr เพราะน้ำหนักตกลงด้านหน้าเยอะ เมื่อเบรคหนักๆอาจจะไม่มีน้ำหนักตกลงด้านหลังเพียงพอที่จะช่วยเบรค เบรคไบแอส เลยอาจต้องเซทไว้หน้าหนักๆ ซึ่ง ถ้าเป็นรถ rr อาจจะเซทเบรคไบแอสด้านหลังมากขึ้นได้ เพื่อช่วยร่นระยะเบรค
ต่อมา จังหวะturn in การtrial brakeหรือ เบรค+เลี้ยวไปด้วยเพื่อใช้tracction circleของยางให้ครบทุกทิศทางรถ FR อาจมีโอกาสท้ายกวาดเนื่องจาก น้ำหนักด้านหลังไม่พอที่จะมีแรงยึดเกาะในด้านหลัง ส่วนรถrrนั้นมีความจำเป็นต้องtrail brake หรือ เลียเบรคในโค้งด้วยเพื่อถ่ายน้ำหนักมาทางด้านหน้าเพื่อช่วยแรงยึดเกาะด้านหน้าไม่ให้under steer
จังหวะออกโค้ง (exit)
ตรงนี้ตอบยากถ้าเป็นรถขับหลังเหมือนกันหมดโอาสpower over steer ย่อมมีเหมือนกันหมดแล้วแต่การsetting แะการใช้คันเร่งเพื่อถ่ายน้ำหนักของนักแข่งและ แล้วแต่กำลังของเครื่อง แต่บางคันเช่นporcheรุ่นเก่าๆก็จะมีบุคลิคเฉพาะตัวคือ ตูดจะคอยออกตลอดเหมือนปาค้อนไปกลางอากาศด้านที่หนักจะพยายาแกว่งออกเสมอ ในคลิปตัวอย่างนี่แต่งคันเร่งเลี้ยว แทบไม่ต้องเลียวด้วยพวงมาลัย หรืออย่าง รถ fr ตัวสั้นๆ ae,gt86 ก็จะเซทมาให้ท้ายออกง่ายเหมือนกัน
https://youtu.be/rZMODhUS9Bo
-ส่วนรถmr เป็นการจัดวางเครื่องตามอุดมคติ และhandlingก็จะอยู่ระหว่าง frกับrr แต่ที่ต่างคือมันเป็นรถที่ตอบสนองไวมากให้นึกถึงเราถือดัมเบลทึ่แกนสั้นกับแกนยาว แกนสั้นจะหมุนง่ายกว่า เพราะฉะนั้นผู้ขับย่อมจะต้องตอบสนองเร็วด้วย
-ที่กล่าวมาทั้งหมดจะเห็นผลชัดเจนเมื่อขับแบบสุดลิมิตแต่ถ้าขับทั่วไปคงไม่ค่อยแตกต่างกัน เพราะรถสมัยใหม่ทำออกมาดีโอกาสขับถึงลิมิตน้อย รถff เลยใมีให้เห็นบ่อยสุด
- สุดท้ายที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงทฤษฏี ปัจจุบัน การเซทติ้งจากโรงงานจะแก้ไขข้อด้อยของทุกแบบได้เกือบหมดอยู่แล้ว การเซทติ้ง อาจทำให้ได้แฮนดลิ่งมี่ต่างออกไป
-
ต่อมา จังหวะturn in การtrial brakeหรือ เบรค+เลี้ยวไปด้วยเพื่อใช้tracction circleของยางให้ครบทุกทิศทางรถ FR อาจมีโอกาสท้ายกวาดเนื่องจาก น้ำหนักด้านหลังไม่พอที่จะมีแรงยึดเกาะในด้านหลัง ส่วนรถrrนั้นมีความจำเป็นต้องtrail brake หรือ เลียเบรคในโค้งด้วยเพื่อถ่ายน้ำหนักมาทางด้านหน้าเพื่อช่วยแรงยึดเกาะด้านหน้าไม่ให้under steer
FR ถ้าไม่มีเต็ด ดีๆ ชีวิตเหนื่อยเลยล่ะครับ ถ้าเตรียมตัวมาไม่ดี ;D
ถึงมีเต็ดซิ่ง ขับโง่ๆ(อย่างผม) ก็กินหญ้าเหมือนเดิม 5555
-
ของผมก็ต้องใช้ vsc sportช่วยเหมือนกันครับคุณmad boy
เคยปิดหมดทีนึง แก้ไม่ทัน ท้ายกวาด จอดมันกลางโค้งเลย :'(
-
ของผมก็ต้องใช้ vsc sportช่วยเหมือนกันครับคุณmad boy
เคยปิดหมดทีนึง แก้ไม่ทัน ท้ายกวาด จอดมันกลางโค้งเลย :'(
เป็นอะไรที่เสียวดีแท้ครับ
แต่พอเริ่มเป็นก็สนุกแล้วครับ ดริฟท์แม่มเลย รถเก่าๆไม่มี VSC ครับ :'(
-
ว้าว..สุดยอดเลยคับ