Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 20:12:30

หัวข้อ: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 20:12:30
สวัสดีครับ วันนี้เนื่องจากผมเอารถไปทำโช๊ค เลยได้มีโอกาสไล่ดูว่าตัวเองใช้จ่ายกับเจ้า Nissan March ไปเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่
นับตั้งแต่วันที่ซื้อมา ผมอยากให้ข้อมูลนี้เป็นข้อคิดที่ดี สำหรับคนที่อยากมีรถ อาจจะเพราะความอยากได้ หรือความจำเป็นต้องมีต้องใช้ครับ
และอยากจะให้ข้อมูลแก่ผู้ผลิตว่า สำหรับการใช้รถเล็ก 1 คัน ควรปรับปรุง option แนวคิดการออกแบบอย่างไรบ้างครับ

เริ่มต้นนะครับ เจ้า Nissan March ผมซื้อมา 459,000 บาท (จ่ายค่าประกัน 1.2 หมื่น ค่าจดทะเบียน 2,700 บาท ส่วนฟิมล์ได้แถมมาฟรี ของ Hi-cool) เมื่อประมาณปลายเดือน ก.ค. 2554 จดทะเบียนวันที่ 19 ส.ค. 2554 มีค่าใช้จ่ายต่อปี มีรายละเอียด ดังนี้

1. ปี 2554 มีดังนี้
1.1 วันที่ 30 ก.ค. 2554 ติดตั้งสัญญาณกันขโมย ร้านแถวบ้าน 2,500 บาท
1.2 วันที่ 6 ส.ค. 2554 ซื้อที่ครอบกันกระแทกฝาท้ายกันรอย สีดำ จากในคลับ ราคา 890 บาท
1.2 วันที่ 3 ก.ย. 2554 ที่ระยะ 1,100 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน...สาขาวังหิน (ปิดไปแล้ว) ดำเนินการ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง และน้ำยาล้างห้องเครื่อง (83 บาท เจ็บใจ โดนหลอกครั้งแรกครับ) ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 937.86 บาท
1.3 วันที่ 28 พ.ย. 2554 ติดตั้งที่เก็บของด้านหน้าคอลโซล ที่สยามนิสสัน...สาขาเกษตร นวมินทร์ (โดนซื้อกิจการไปแล้วครับ) ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 1,079.52 บาท
รวมเป็นเงิน 5,425.38 บาท (ขอไม่รวมค่าภาษีประจำปี ปีนี้นะครับ เพราะเสียไปตอนซื้อรถแล้ว)

2. ปี 2555 มีดังนี้
2.1 วันที่ 28 ม.ค. 2555 ที่ระยะ 3,989 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน ตามข้อ 1.3 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 849.50 บาท
2.2 วันที่ 26 ก.ค. 2555 ที่ระยะ 8,144 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน ตามข้อ 1.3 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ 10W-30 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 849.50 บาท
2.3 วันที่ 6 ส.ค. 2555 ชำระค่าภาษีประจำปี 2555 = 1,197 บาท
รวมเป็นเงิน 2,896 บาท

3. ปี 2556 มีดังนี้
3.1 วันที่ 19 ม.ค. 2556 ที่ระยะ 13,227 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน ตามข้อ 1.3 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 0W-20 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง และน้ำยาล้างห้องเครื่อง (30 บาท โดนหลอกครั้งที่ 2 ครับ) ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 1,274.05 บาท
3.2 วันที่ 29 ก.ค. 2556 ชำระค่าภาษีประจำปี 2556 = 1,197 บาท
รวมเป็นเงิน 2,471.05 บาท

หลังจากนี้ รายการจะเยอะมาก ครับ แต่จะพูดราคาที่เด่นๆ ให้ฟังนะครับ

4. ปี 2557 มีดังนี้
4.1 วันที่ 7 ม.ค. 2557 ที่ระยะ 19,904 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน...สาขาพหลโยธิน 48 ดำเนินการ  เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 0W-20 พร้อมกรองแท้ แหวนรอง และทำการตรวจเช็คระบบเบรค ประกอบด้วย จาระบี น้ำมันเบรค น้ำยาล้างของ ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 2,435.21 บาท
4.2 รายการเคลม ประกอบด้วย เคลมแผงเบรคหลัง ผ้าเบรคหลัง ลูกปืนล้อหลัง ชุดมอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ ชุดคอลย์เย็น (น้ำยา โอริง แหวนยาง) ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ รอบเดินเบา ตั้งสายพาน ฟรีหมด
4.3 วันที่ 20 พ.ค. 2557 ที่ระยะ 21,972 กิโลเมตร ที่สยามนิสสัน...สาขาพหลโยธิน 48 เนื่องจากข้อที่ 4.2 มีการเคลมชุดคอลย์เย็น เจ้าหน้าที่จัดการใส่กรองแอร์พร้อมฝาปิดให้ ค่าใช้จ่ายรวม VAT = 214 บาท (น่ารักมากครับ ขอชมเชยเลย)
4.4 วันที่ 17 ก.ค. 2557 ชำระค่าภาษีประจำปี 2557 = 1,197 บาท
4.5 วันที่ 22 ก.ย. 2557 ที่ระยะ 24,041 กิโลเมตร ที่ สีเหลือง ของ BS หลักสี่ ดำเนินการเปลี่ยนยาง Firestone TZ700 165/70 R14 จำนวน 4 เส้น ราคารวมตั้งศูนย์ ถ่วงล้อ หักยากเก่า = 6,600 บาท
4.6 วันที่ 30 ก.ย. 2557 ที่ระยะ 24,569 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการเปลี่ยนโช๊คหลังแท้ 1 คู่ (1,600) ค่าแรง (200) และปิดช่องแอร์กันหนูเข้า (200) = 2,000 บาท
4.7 วันที่ 2 ต.ค. 2557 ที่ระยะ 24,580 กิโลเมตร ที่ สีเหลือง ของ BS วิภาวดี ดำเนินการเติมลมในโตรเจน 2 ปี 4 ล้อ = 200 บาท และซื้อน้ำมันเครื่อง PTT 0W-20 ที่ร้านดังแถวสายไหม (สาขาลาดพร้าว 71) หักบัตรเติมน้ำมันแล้ว = 650 บาท
4.8 วันที่ 31 ต.ต. 2557 ที่ระยะ 25,111 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่องตามข้อ 4.7 ไปเปลี่ยนถ่าย (100) พร้อมกรองเทียบ (Full, 70) = 170 บาท
4.9 วันที่ 4 ธ.ค. 2557 ที่ระยะ 25,900 กิโลเมตร ที่ร้านแบตเตอรี่ดัง แถวลาดพร้าว 71 ดำเนินการเปลี่ยนแบตเตอรี่ GS Q85 (ตรงรุ่นใช้ I-stop ได้) = 2,100 บาท (รวม turn รวมไปเปลี่ยนหน้าร้าน)
รวมเป็นเงิน 15,566.21 บาท

5. ปี 2558 มีดังนี้
5.1 วันที่ 6 ม.ค. 2558 ที่ระยะ 26,936 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ NS-3 CVT ประกอบด้วย น้ำมันเกียร์ NS-3 ที่ซื้อมาจากในคลับ (1,000) ค่าแรงเปลี่ยนถ่ายและล้างแคร้งเกียร์ (200) =1,200 บาท
5.2 วันที่ 23 เม.ย. 2558 ทำการซื้อน้ำมันเครื่อง บางจาก GE Syntech E20 (5W-30) 4 ลิตร ราคา 579x2 = 1,158 บาท
5.3 วันที่ 26 พ.ค. 2558 ที่ระยะ 29,812 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่องตามข้อ 5.2 ไปเปลี่ยนถ่าย (100) พร้อมกรองแท้ (200) และใบปัดน้ำฝน Bosch (300) = 600 บาท
5.4 ปล...ก่อนหน้านี้เคยเปลี่ยนเฉพาะยางปัดน้ำฝน จำนวน 2 ครั้ง แต่จำราคาไม่ได้ (ไม่เกิน 200 บาท)
5.5 วันที่ 3 ส.ค. 2558 ชำระค่าภาษีประจำปี 2558 = 1,197 บาท
รวมเป็นเงิน 4,155 บาท

6. ปี 2559 มีดังนี้
6.1 วันที่ 9 ม.ค. 2559 ดำเนินการซื้อกรองแอร์จากในคลับ 3 อัน x 120 = 360 บาท
6.2 วันที่ 10 ม.ค. 2559 ที่ระยะ 35,541 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่องตามข้อ 5.2 ไปเปลี่ยนถ่าย (100) ไม่เปลี่ยนกรอง, ทำการสลับยางถ่วงล้อหน้า (80x2=160) เปลี่ยนกรองแอร์ตามข้อ 6.1 และเปลี่ยนหลอดไฟหรี่ (20) = 280 บาท
6.3 วันที่ 9 พ.ค. 2559 ที่ระยะ 40,055 กิโลเมตร ที่อู่ในคลับ ดำเนินการถ่ายน้ำยาหม้อน้ำ (หัวเชื้อและค่าแรง = 450), เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรค (300), นำน้ำมันเครื่องตามข้อ 5.2 ไปเปลี่ยนถ่าย พร้อมกรอง (300), กรองอากาศ (200) = 1,300 บาท
6.4 วันที่ 12 มิ.ย. 2559 ที่ระยะ 40,113 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการ เปลี่ยนบูชปีกนกตัวเล็ก-ใหญ่ พร้อมอัดบูชและใส่ = 1,000 บาท และช่วง ก.ค. 2559 เปลี่ยนปัดน้ำฝน 1 คู่ = 450 บาท รวม 1,450 บาท
6.5 วันที่ 9 ก.ค. 2559 ชำระค่าภาษีประจำปี 2559 = 1,077.30 บาท
6.6 วันที่ 29 ก.ย. 2559 ที่ระยะ 43,000 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่ในคลับ ดำเนินการเปลี่ยนบูชคันเกียร์แตก (นอกสถานที่) = 200 บาท
6.7 วันที่ 16 ต.ค. 2559 ดำเนินการเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนหลัง (ไม่เคยเปลี่ยนเลย) = 80 บาท
รวมเป็นเงิน 4,747.30 บาท

7. ปี 2560 มีดังนี้
7.1 วันที่ 3 ก.พ. 2560 ที่ระยะ 46,500 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่ในคลับ ดำเนินการเปลี่ยนมอเตอร์พัดลมหม้อน้ำ = 1,850 บาท
7.2 วันที่ 10 ม.ค. 2560 ที่ระยะ 46,600 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการนำน้ำมันเครื่อง Nissan 0W-20 พร้อมกรองแท้ที่ซื้อมาจากในคลับ = 700 บาท และค่าแรงเปลี่ยน = 100 บาท รวม 800 บาท
7.3 วันที่ 8 เม.ย. 2560 ที่ระยะ 48,100 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่อู่ในคลับ ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ NS-3 CVT พร้อมกรองเกียร์และอื่นๆ = 1,800 บาท
7.4 วันที่ 18 เม.ย. 2560 ที่ระยะ 48,300 กิโลเมตร (ประมาณ) ที่ร้านแบตเตอรี่ดัง แถวลาดพร้าว 71 ดำเนินการเปลี่ยนแบตเตอรี่ GS MFX70L = 1,900 บาท (รวม turn รวมไปเปลี่ยนหน้าร้าน)
7.5 2 วันที่ 14 พ.ค. 2560 ที่ระยะ 48,799 กิโลเมตร ที่อู่นอกที่สนิทกัน ดำเนินการเปลี่ยนโช๊คหลังแท้ 1 คู่ (1,600) ค่าแรง (200) = 1,800 บาท
รวมเป็นเงิน 8,150 บาท

รวมค่าใช้จ่ายตั้งแต่ปี 2554 – 2560 วันนี้ ที่ระยะ 48,800 โดยประมาณ =5,425.38+2,896+2,471.05+15,566.21+4,155+4,747.30+8,150 = 43,410.96
ใช้มา ประมาณ 6 ปี ตกลงปีละประมาณ 7,235.16 บาทต่อปี ไม่รวมค่าประกันรถยนต์

ขอสรุปหน้าถัดไปนะครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 20:16:51
ผมขอสรุป มีรายละเอียด ดังนี้ครับ
1. ต้องใช้เงินโดยเฉลี่ย ปีละ 7,500 บาทในการดูแลรถเล็กๆ Eco car เครื่อง 1.2

2. ปีที่ 2557 และ 2560 เป็นปีที่มีรายจ่ายสูงกว่าปกติ คือ เกิน 7,500 บาทขึ้นไป ดังนั้นในบางปี ต้องทำใจครับ
ถ้ามีค่าใช้จ่ายพวก แบตเตอรี่ ยาง โช๊ค

3. ค่าประกันรถผม ปี แรก 12,800 บาท ปีที่ 2 ประมาณ 9,000 ไล่ลงมาปัจจุบันอยู่ที่ 6,900 รวม พรบ. ครับ (ชั้น 1 ซ่อมอู่ ระบุคนขับ)

โดยรวมผมมองว่า ถ้าอยากมีรถ โปรดเตรียมค่าดูแลไว้อย่างน้อยๆ 15,000 บาทต่อปี หรือ 1,250 บาทต่อเดือนครับ (รวม ประกัน) เว้นบางปีอาจเกินไปถึง 2 หมื่นถ้ามีรายการหนักๆ

เกิน 3 ปีไปแล้ว ควรหาอู่นอกนะครับ เพราะว่าไม่งั้น ค่าใช้จ่ายจะบานปลายไปมาก โดยเฉพาะช่วง 3 ไป 4 รายจ่ายรุมมาหมดเลยครับ

แล้วก็เจ้า March ผมมีข้อดีตรงอะไหล่หลายชิ้นถูกมาก ของแท้ไม่แพง เช่น กรองเกียร์ลูกละ 200 กว่าบาทไม่แพง และออกแบบมาลดค่าใช้จ่าย เช่น การถ่ายน้ำมันเครื่องรถ 3 สูบใช้เพียง 3 ลิตร

แต่ ของบางอย่างก็ไม่ทน เช่น โช๊คหลัง บางอย่างก็ทำมา overspec เกินไป เช่น แบตเตอรี่รองรับระบบ i-stop ซึ่งต้องใช้แบตลูกใหญ่ ราคาแพง

ถ้าให้ดี ค่ายรถควรปรับ อย่างรถราคา 3-5 แสนไม่เกินนี้ ถ้าเป็นไปได้

แล้วทุกท่านมีประสบการณ์หรือความคิดเห็นอย่างไรครับ

อันนี้ link ราคาอะไหล่ ที่ผมเปลี่ยนมา

มีภาพประกอบคับ
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=48841.30(http://community.headlightmag.com/index.php?action=dlattach;topic=48841.0;attach=56153;image)


 
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Highway Star ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 21:00:47
ขอบคุณคุณรถสีเขียวที่แชร์ รายละเอียดให้ฟังครับ ชอบตรงจดได้ละเอียดดีมากๆ  เป็นตัวอย่างให้คนอยากมีรถได้ดี

แต่โช๊คนี่ไปไวอยู่เหมือนกันนะครับ  สองหมื่นโลทำไมโช๊คหลังไปไวจัง
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มละไม ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 21:07:52
สุดยอดรายละเอียดครับ ผมเคยติดจะเก็บรายละเอียดแบบเจ้าของกระทู้ ขอปรบมือให้จริง ๆ  ดีที่มีอู่ที่รู้จักกัน ได้เคลมอะไรไปอีกหลาย ๆ อย่างก่อนหมดประกัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ  ผมถือว่าถูกนะครับ สมัยก่อนผมขับ ตจว. เปลี่ยน น้ำมันเครื่ีองทุกเดือน Mobil-1 สีทอง และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบล้างเกียร์ ทุกปี เปลี่ยนน้ำมันเบรก+หม้อน้ำ+พวงมาลัย Power ทุกปี  เฉพาะค่าของเหลวก็กว่า 35,000 บาทแล้วครับ ทำต่อเนื่องมากกว่า15 ปี ค่าของเหลว+อะไหล่ที่เปลี่ยน แพงกว่ารถแล้ว เคยเปิดผ่าสูบดู ช่างตกใจ ทำไมเครื่องสะอาดอย่างนี้ ทุกวันนี้เครื่องยังเดินเรียบอยู่ แต่ไม่สามารถใช้ Mobil-1 สีทองแล้ว เพราะขึ้นราคาไปมาก

ผมเชื่อว่า ถ้าเราดูแลรถเราให้ดี ๆ รถจะดูแลเราครับ ขับรถมา 20 ปี เคยต้องโดนลากรถ เพียงครั้งเดียว ความจริงยังพอขับได้ สบายมาก แต่ด้วยความรักรถ ขอจ่ายค่ารถยกดีกว่า
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: NS ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 21:23:30
ขแอบคุณครับ เคยจดอยู่ 3ปีแล้วก็วุ่นกับเรื่องอื่นแทน รถ eco รุ่นนี้ถือว่าดูแลไม่แพงเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: meeuwarn ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 21:28:44
ละเอียดดีครับ
สรุปคือ ไม่แพงครับ :D

ผมก็จดครับ แต่ใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้ ใช้น้อยจัด ปีละไม่ถึงหมื่น บางปี สามพันโล  :-\
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:03:59
นิสสันดีงามมาก

ส่วนรถผมอย่าให้พูดครับ
มอเตอร์พัดลม ตัวเดียว 5800 คอมแอร์ เกือบ 40000 ลาก่อน ขอให้ ค่ายรถนี้ ...

หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:26:31
ขอบคุณคุณรถสีเขียวที่แชร์ รายละเอียดให้ฟังครับ ชอบตรงจดได้ละเอียดดีมากๆ  เป็นตัวอย่างให้คนอยากมีรถได้ดี

แต่โช๊คนี่ไปไวอยู่เหมือนกันนะครับ  สองหมื่นโลทำไมโช๊คหลังไปไวจัง

ของเดิมผมที่เปลี่ยนรอบแรกเป็น Tokiko จากศูนย์เลยคับ

ซึ่งเราก็รู้ว่าไม่ทน ตอนผมเห็นยี่ห้อ ผมทำใจไว้แล้วคับ ว่าทนยาก

ถอดออกมาเรียบร้อยคับ ทั้งสองข้างพังไม่เหลือเลย ซึมหมด แต่ขวานี้รั่วเยอะมากคับ
นิสสันดีงามมาก

ส่วนรถผมอย่าให้พูดครับ
มอเตอร์พัดลม ตัวเดียว 5800 คอมแอร์ เกือบ 40000 ลาก่อน ขอให้ ค่ายรถนี้ ...



รถอะไรนะคับ lancer ex หรือเปล่าคับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: I-PULSE ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:28:31
นิสสันดีงามมาก

ส่วนรถผมอย่าให้พูดครับ
มอเตอร์พัดลม ตัวเดียว 5800 คอมแอร์ เกือบ 40000 ลาก่อน ขอให้ ค่ายรถนี้ ...
รถรุ่นอะไรครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:30:17
ขนาดนี้ จขกท. ยังบอกว่าแพงเลย  :-X

ปล. แอบแซวระยะทางใช้รถ จขกท. วิ่งน้อยมากกก หลายๆ คน Maintenance ต่อปี แพงกว่านี้ x2 (ของผมประมาณ x1.5) เพราะใช้โหดกว่าเยอะ
ปล.2 กว่าจะกล่อมให้ จขกท. ใช้ 0W-20 แทน 10W-30 กึ่ง ได้ เป็นปีครับ ไม่เชื่อถามแกดู 5555
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:35:42
ขนาดนี้ จขกท. ยังบอกว่าแพงเลย  :-X

ปล. แอบแซวระยะทางใช้รถ จขกท. วิ่งน้อยมากกก หลายๆ คน Maintenance ต่อปี แพงกว่านี้ x2 (ของผมประมาณ x1.5) เพราะใช้โหดกว่าเยอะ
ปล.2 กว่าจะกล่อมให้ จขกท. ใช้ 0W-20 แทน 10W-30 กึ่ง ได้ เป็นปีครับ ไม่เชื่อถามแกดู 5555

cost ต่อหน่วยคุ้มกว่า ผมยอมคับ 0W-20 ประหยัดกว่าจริง 555
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:39:15
ผมรู้สึกว่าอะไหล่รุ่นนี้พังเร็วมากกก นี้ไงครับ ลดต้นทุนที่ลูกค้ามองไม่เห็น ก็มาเจอกับบิลค่าซ่อมอ่วมแทน
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Arado_kung ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:40:44
ตาเต้เจอนาวาร่าผมไปสงสัยจะช็อคตาย 555 เช็คใหญ่4หมื่นโลถ่ายของเหลวหมดคันกำเงินไปครั้งละหมื่น นี่แบกของบางอย่างไปเองด้วยแล้วนะ เปลี่ยนยางครั้งละ2หมื่น(ล้อ 18)

ผมรู้สึกว่าอะไหล่รุ่นนี้พังเร็วมากกก นี้ไงครับ ลดต้นทุนที่ลูกค้ามองไม่เห็น ก็มาเจอกับบิลค่าซ่อมอ่วมแทน

พังเร็วแต่มันถูกไงครับ เทียบกับยาริสไม่ค่อยมีอะไรพังแต่โดนทีนึงถ้าอะไหล่แท้มีจุกนะครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:58:05
ตาเต้เจอนาวาร่าผมไปสงสัยจะช็อคตาย 555 เช็คใหญ่4หมื่นโลถ่ายของเหลวหมดคันกำเงินไปครั้งละหมื่น นี่แบกของบางอย่างไปเองด้วยแล้วนะ เปลี่ยนยางครั้งละ2หมื่น(ล้อ 18)

ผมรู้สึกว่าอะไหล่รุ่นนี้พังเร็วมากกก นี้ไงครับ ลดต้นทุนที่ลูกค้ามองไม่เห็น ก็มาเจอกับบิลค่าซ่อมอ่วมแทน

พังเร็วแต่มันถูกไงครับ เทียบกับยาริสไม่ค่อยมีอะไรพังแต่โดนทีนึงถ้าอะไหล่แท้มีจุกนะครับ

คับ พังเร็วมาก แต่ถูกคับ

ผมเคยเทียบขนาดโช๊ค บูชปีกนก ของ Yaris กับ March ต่างกันเยอะเลย

บางอย่างนิสสันก็ไม่น่าทำเลย เช่น บูชแบบกลมนอน 2 ตัว โตโยต้า ใช้ตัวเดียว อีกอันเป็นแบบตั้ง มันทนกว่ามากคับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:59:08
ละเอียดดีครับ
สรุปคือ ไม่แพงครับ :D

ผมก็จดครับ แต่ใช้อ้างอิงอะไรไม่ได้ ใช้น้อยจัด ปีละไม่ถึงหมื่น บางปี สามพันโล  :-\
ขแอบคุณครับ เคยจดอยู่ 3ปีแล้วก็วุ่นกับเรื่องอื่นแทน รถ eco รุ่นนี้ถือว่าดูแลไม่แพงเลยนะครับ
สุดยอดรายละเอียดครับ ผมเคยติดจะเก็บรายละเอียดแบบเจ้าของกระทู้ ขอปรบมือให้จริง ๆ  ดีที่มีอู่ที่รู้จักกัน ได้เคลมอะไรไปอีกหลาย ๆ อย่างก่อนหมดประกัน ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ  ผมถือว่าถูกนะครับ สมัยก่อนผมขับ ตจว. เปลี่ยน น้ำมันเครื่ีองทุกเดือน Mobil-1 สีทอง และเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แบบล้างเกียร์ ทุกปี เปลี่ยนน้ำมันเบรก+หม้อน้ำ+พวงมาลัย Power ทุกปี  เฉพาะค่าของเหลวก็กว่า 35,000 บาทแล้วครับ ทำต่อเนื่องมากกว่า15 ปี ค่าของเหลว+อะไหล่ที่เปลี่ยน แพงกว่ารถแล้ว เคยเปิดผ่าสูบดู ช่างตกใจ ทำไมเครื่องสะอาดอย่างนี้ ทุกวันนี้เครื่องยังเดินเรียบอยู่ แต่ไม่สามารถใช้ Mobil-1 สีทองแล้ว เพราะขึ้นราคาไปมาก

ผมเชื่อว่า ถ้าเราดูแลรถเราให้ดี ๆ รถจะดูแลเราครับ ขับรถมา 20 ปี เคยต้องโดนลากรถ เพียงครั้งเดียว ความจริงยังพอขับได้ สบายมาก แต่ด้วยความรักรถ ขอจ่ายค่ารถยกดีกว่า
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sixaxis ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 22:59:59
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
นี่สินะถึงว่าทำไมเขาถึงปล่อยรถกันตอน 20,000 โล
แอบอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเป็น BMW มี BSI ค่าใช้จ่ายจะออกมาเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: aun ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 23:01:04
ขอแชร์บ้างนะครับ ถ้าแบบละเอียดๆเลย จดหมดเหมือนกันครับ เพราะจะได้รุ้ตัวเองด้วยว่าถึงระยะต้องทำอะไรบ้าง ทำอะไรไปแล้วบ้างน่ะครับ
รถผม Fiesta 1.6 Sport Plus 12/2011 วิ่งมา 190,000 กิโล
คชจ. แยกเป็น

1. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ทั้งหมด รวมยางรถยนต์ = 114,889
2. ค่าบำรุงรักษาส่วนแก๊ส = 10,800(ติดตอน 12,000 กิโล)
3. ค่าประกัน = 66,936
4. ค่าต่อภาษีประจำปี + กรมธรรม์(บางปีซื้อแยก) = 11,690
5. คชจ. อื่นๆ เช่นติดตั้งแก๊ส + บุพื้นหุ้มพวงมาลัย + ติด Stuffit + กราวด์ไวร์ + Reflash ฯลฯ = 65,935
6. ค่าล้างทำความสะอาด = 8,220 (อันนี้น่าจะเกินกว่านี้พอสมควร เพราะลืมจดหลายครั้งครับ หยวนๆ 55)
7. ค่าน้ำมัน + แก๊ส = 239,144 (ไม่เป๊ะแต่ก็เกิน 90% ครับ มีลืมบ้างเดือนแรกๆ)
8. ค่าเสื่อมราคา(คิดเล่นๆกรณีขายตอนนี้ คำนวณจากราคาเงินผ่อนนะครับ คิดว่าขายเข้าเต้นท์คงได้สองแสนนิดๆ หรือถ้วนๆ) = ประมาณ 550,000 - 600,000 บาท
ถ้าไม่รวมค่าเสื่อมทั้งหมด คิดเป็นคชจ.ต่อกิโลจะประมาณ 517,644/190,000 = ประมาณ 2.72 บาทต่อกิโล แต่ถ้ารวมค่าเสื่อมไปด้วยนี่ จะตกกิโลละ 5.6 - 5.8 บาทยังประหยัดกว่านั่งแท๊กซี่ประมาณนึงครับ ;D ;D 


ปล. รายละเอียดการบำรุงรักษาเยอะพอสมควรครับ เลยไม่แจกแจงทั้งหมด
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 23:16:42
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
นี่สินะถึงว่าทำไมเขาถึงปล่อยรถกันตอน 20,000 โล
แอบอยากรู้เหมือนกันว่าถ้าเป็น BMW มี BSI ค่าใช้จ่ายจะออกมาเป็นยังไง

เกิน 2 หมื่นไปค่าซ่อมเริ่มมาละคับ

เห็นชัดๆ รถศูนย์คับ
ขอแชร์บ้างนะครับ ถ้าแบบละเอียดๆเลย จดหมดเหมือนกันครับ เพราะจะได้รุ้ตัวเองด้วยว่าถึงระยะต้องทำอะไรบ้าง ทำอะไรไปแล้วบ้างน่ะครับ
รถผม Fiesta 1.6 Sport Plus 12/2011 วิ่งมา 190,000 กิโล
คชจ. แยกเป็น

1. ค่าบำรุงรักษารถยนต์ทั้งหมด รวมยางรถยนต์ = 114,889
2. ค่าบำรุงรักษาส่วนแก๊ส = 10,800(ติดตอน 12,000 กิโล)
3. ค่าประกัน = 66,936
4. ค่าต่อภาษีประจำปี + กรมธรรม์(บางปีซื้อแยก) = 11,690
5. คชจ. อื่นๆ เช่นติดตั้งแก๊ส + บุพื้นหุ้มพวงมาลัย + ติด Stuffit + กราวด์ไวร์ + Reflash ฯลฯ = 65,935
6. ค่าล้างทำความสะอาด = 8,220 (อันนี้น่าจะเกินกว่านี้พอสมควร เพราะลืมจดหลายครั้งครับ หยวนๆ 55)
7. ค่าน้ำมัน + แก๊ส = 239,144 (ไม่เป๊ะแต่ก็เกิน 90% ครับ มีลืมบ้างเดือนแรกๆ)
8. ค่าเสื่อมราคา(คิดเล่นๆกรณีขายตอนนี้ คำนวณจากราคาเงินผ่อนนะครับ คิดว่าขายเข้าเต้นท์คงได้สองแสนนิดๆ หรือถ้วนๆ) = ประมาณ 550,000 - 600,000 บาท
ถ้าไม่รวมค่าเสื่อมทั้งหมด คิดเป็นคชจ.ต่อกิโลจะประมาณ 517,644/190,000 = ประมาณ 2.72 บาทต่อกิโล แต่ถ้ารวมค่าเสื่อมไปด้วยนี่ จะตกกิโลละ 5.6 - 5.8 บาทยังประหยัดกว่านั่งแท๊กซี่ประมาณนึงครับ ;D ;D 


ปล. รายละเอียดการบำรุงรักษาเยอะพอสมควรครับ เลยไม่แจกแจงทั้งหมด

วิ่งเยอะมากๆ คับ

ผมไม่รู้จะคำนวนค่าเสื่อมยังไงเลยคับ เลยไม่ได้ใส่คับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Trafalgar ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 23:22:39
ละเอียดมากครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 23:27:19
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GoatGoat ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 23:45:24
ผมคิดแบบเจ้าของกระทู้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเป็นลม แค่ค่าของแต่งก็หลายแสนละ ยังไม่รวมค่าบำรุงค่าซ่อม จัดเต็มทุกรายการ ไม่เคยประหยัดกับเรื่องรถเลย
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: paeybu ที่ พฤษภาคม 14, 2017, 23:45:45
ขอบคุณ จขกทครับ อย่ามาม่าเลยครับ เบื่อ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดราม่า ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 00:18:19
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

บรรทัดล่างน่ะ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน (ผมเป็นเพื่อน จขกท. นะ)

แต่หลังๆ ก็คิดต่อไปว่า แล้วผมจะไปคิดทำไม ก็เหลือแต่คอยเบรกๆ บางเรื่องที่เขาคิดย้ำๆ จะลดต้นทุนสถานเดียว
ให้ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย หรือพวกชิ้นไหนเซนซิทีฟก็คอยบอกว่า เฮ้ย เช็คด้วย หรือไปทำเพิ่มดีไหม
ส่วนเขาจะคิดหรือไม่คิดตาม เป็นสิทธิ์ของเขา... ตราบใดที่ผมไม่ได้ไปออกเงินให้เขา คงบังคับกันไม่ได้

ผมมองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องให้รางวัลชีวิต ด้วยการบำรุงรักษารถเพียงอย่างเดียวครับ
เพราะถึงผมเองใช้แบบ ดูแลเต็มที่ แล้วก็ใช้สมรรถนะเต็มที่ (น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดดี
ปรับปรุงแทบทุกชิ้นส่วนที่เปลี่ยนได้ แทบไม่มีอะไรสเป็กเดิม ตั้งแต่ช่วงล่างยันเครื่องเสียง) แต่เอาจริงๆ คือ
ผมใช้รถทั้งหาเงิน ขนของ และอื่นๆ โดยคำนึงแค่เฉพาะความสุขที่ผมได้จากปลายทางของการขับรถน่ะ

ถามว่าผมใช้เงินไปกะรถเยอะไหม เยอะนะ จนถึงทุกวันนี้ ไม่นับเข้าศูนย์ ค่าแต่งรถนี่แทบจะดาวน์ได้อีกคัน
กระนั้น รถสำหรับผมเป็นของใช้ ที่เดิมๆ อาจจะน่าหงุดหงิดไปสักนิด ก็แค่ปรับให้ตรงกับสไตล์และจริต
แต่ดูแลรักษาแต่พอควร ให้มันสบายพอเหมาะ ปลอดภัยสม่ำเสมอ และใช้งานได้เมื่อพร้อมจะใช้ พอแล้ว
ถึงรักรถแค่ไหน ปล่อยวางบ้างก็ได้ อย่าให้เป็นประมาณ อ่านตอบกระทู้แล้วเครียดแทน ดีกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nuntapon.s ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 01:00:23
แค่เห็นก็ลายตา  marchนี่ขึ้นชื่อเรื่องอะไหล่เปราะจริงๆนะ  อย่างรถผมเองสี่ปีวิ่งแสนกว่านิด  นอกเหนืออะไหล่ที่อยู่ในระยะประกัน  ผมมีจ่ายเพิ่มแค่ชุดซ่อมเบรคอย่างเดียวประมาณ5000 นอกนั้นไม่เคยจ่ายอะไรเลยไม่รวมพวกค่าใช้จ่ายตามระยะทางอะนะ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Zachary C ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 01:16:53
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นแนวทางสำหรับค่าบำรุงรักษา รถ eco car ของนิสสัน ที่น่าสนใจทีเดียว

ผมไม่แน่ใจว่า eco cars ยี่ห้ออื่นๆ ราคาจะใกล้เคียงกันไหม?  :o
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 06:11:00
 ;) suzuki swift 2 ปีเมื่อเมษา ที่ผ่านมากับระยะ 46,000 km

เข้าศูนย์ 5 รอบ
1000
10000-40000
ไม่มีเคลมกับซ่อมอะไร

ตีคร่าวๆ
(2600x3)+5000 =  12800
ประกัน 12000+14000 = 38800

ครบ 60000 km ว่าจะต้องเสียค่ายาง ทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ
มีแค่นี้จริงๆ


หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มละไม ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 07:11:15
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

ใช่ครับ เมื่อเทียบกับรถปีเดียวกันที่ศูนย์ รถผมใช้งานหนักกว่า ขับทีนึง 3-4 ชั่วโมง/วัน เสาร์+อาทิตย์ ไป ตจว. ใช้รถทุกวัน ปีละ 360วันเต็ม ๆ ยกเว้นตอนเข้าศูนย์ที่ใช้เปลี่ยนถ่ายชุดใหญ่+ซ่อมประมาณปีละ 4-5 วัน เคยเข้าศูนย์หนึ่งมีหัวหน้าช่างเดินมาดู ยังบอกเลยว่า เสียงเครื่องนิ่งมา เงียบมาก รถเข้าศูนย์มาซ่อมเป็น ร้อย ๆ คัน นาน ๆ จะเจอแบบนี้คันหนึ่ง

ผมเชื่อว่า เจ้าของกระทู้ก็รักรถมาก ๆ ครับ ถึงจดรายละเอียดได้ดีขนาดนี้ แต่ละคนมีวิธีดูแลรักษารถอาจจะแตกต่างกันบ้าง ผมชอบดูแลให้รถพร้อมใช้งานในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ถ้าอะไรที่สามารถทำให้รถมีความสมบูรณ์ ผมทำครับ รถคันใหม่ที่จะซื้อก็เหมือนกัน ใช้ในเมือง ใช้ Fully synthetic ก็จะเปลี่ยนทุกเดือนเหมือนกัน น้ำมันเกียร์ก็  10 เดือนถึงปี เปลี่ยนแบบล้างห้องเกียร์ ไม่ต้องตามคู่มือ แต่ขอเปลี่ยนก่อน แล้วค่าแรงเท่าไร อยากคิด คิดไป เพิ่มให้ ขออย่าให้ประกันขาด
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: November_beer ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 08:31:50
นิสสันมาร์ชนี่ค่าอะไหล่ กับค่าดูแลรักษารถนี่ถูกจริงๆครับคอนเฟริ์ม แต่อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกคืออะไหล่บางตัวนี่พังเร็วมาก อย่างโช๊คหลังเนี่ย พอ 30,000 โลปุ๊บพังเลย รถเพื่อนผมก็พังที่ระยะเท่านี้ และโช๊คประตูหลังก็พังเร็ว มอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกก็พังเร็วจนน่าตกใจ เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น แต่พอเทียบกับราคาที่ไม่ได้แพงมากก็พอจะหยวนๆกันไป

ส่วนเรื่องการจดบันทึกค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ผมว่าก็เป็นเรื่องปกตินะครับ เหมือนเราจดบันทึกรายรับ รายจ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าการมีวินัยในเรื่องนี้ แปลว่าไม่รักรถ ผมคิดว่าดีซะอีกจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่าย ในการดูแลรักษารถในมือเรา คิดเป็นกี่ % ในรายได้ของเรา คุ้มหรือไม่ ผมสนับสนุนการทำเช่นนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: equinox ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 08:43:58
Mazda 2 Skyactiv Diesel

วิ่งไป 79000 เข้าศูนย์ ประมาณ 8 ครั้ง เฉลี่ยครั้งละ 2200-3600 แล้วแต่รอบ Major/Minor เฉลี่ยครั้งละ 2500 *8 = 20,000

แบตเตอรี่ istop หมดไปตอน 50000 โล ค่าแบต = 2,100

ค่าประกัน+พรบ ปีแรกฟรี ปีที่ 2 15,600 ปีที่ 3 13600 = 29,200

ต่อภาษี 1800 + 1800 = 3,600

ค่าล้างรถ 250 จ้างเค้าล้างเดือนสลับกับล้างเองเดือนนึง ที่จ้างเค้าล้างเพราะจะดูดฝุ่น 24/2 * 250 = 5,000 (จริงๆถูกกว่านี้ เพราะล้าง 4 ฟรี 1 ถ้าเก็บใบเสร็จไว้ แต่บางเดือนผมขัดเคลือบด้วย เลยไม่เฉลี่ยลง)

ยางยังเหลือพอสมควร เอาเล็บจิกแล้วยังไม่แข็งด้าน แก้มไม่มีปริไม่มีฉีก ดอกยางอีกประมาณ 30-40 % ถึงจะ เสมอสะพานยาง

ผ้าเบรคเหลือ 6 มิล เป็นคนขับรถไม่ค่อยเบรค เพราะอยู่ ตจว. รถไม่ค่อยติด

อะไหล่ที่เสียยังไม่มี มีแต่บางส่วนที่ Mazda ส่ง จ.ม. มา Recall ให้เข้าไปเปลี่ยนเพราะเป็น Defect จากล็อต

รวม คชจ 20,000+2,100+29,200+3,600+5,000 = 59,900 ปัดไปเป็น 60,000 กับ รถ 24 เดือน ตกเดือนละ 2,500 บาท

คิดเป็นคชจ สิ้นเปลือง / กิโล โดยที่ไม่รวมเชื้อเพลิง ประมาณ 0.76 บาท / กิโลกรัม  60,000/79,000


หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tnp_super ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 08:48:22
ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นสมชื่อ...รถ(ลด). จริงๆ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 09:06:13
ละเอียดยิบบบบบบครับ  ;D

ขอถามสองข้อที่ผมสงสัยไว้เป็นความรู้ครับ

1.ตอนที่เคลมคอยล์เย็น มันเกิดปัญหาอะไรหรอครับ (ตู้แอร์รั่ว หรือแอร์ไม่เย็นอะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ หรือว่าไม่ใช่) รถผมดันไม่มีเคลมนี่สิเลยแอบหวั่นนน

2.โช้คชุดใหม่ที่ใช้เป็นตัวไหนหรอครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 09:26:15
ถ้ารถใหญ่อย่างกระบะยกสูง หรือ PPV อย่างต่ำๆ 4 หมื่นบาทต่อปี
(แพงที่ค่ายาง ชุดนึงเกือบ 3 หมื่น ตีว่าสามปีเปลี่ยนชุดนึง)

ส่วนรถเก๋ง ผมว่า Eco car หรือ C-Segment ค่าใช้จ่ายไม่ค่อยต่างกันมาก
จะแพงกว่าคือค่าประกันต่อไป ค่ายาง ค่าแบต ที่ใช้ spec ใหญ่กว่า
กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่กินมากกว่า
นอกนั้นอะไหล่สิ้นเปลืองราคาต่อชิ้นต่างกันน้อยมาก
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 10:06:42
อันนี้คันที่บ้าน
mirage ของแฟน เข้าสู่ปีที่ 5 ขับทุกวัน วิ่ง 11x,xxx  เปลี่ยนถ่ายนำมันเครื่องสั่งเคราะห์แท้(ของศูนย์)+ใส่กรอง+อะไหล่ที่เกี่ยวข้อง 6 เดือนต่อครั้ง ครั้งละประมาณ ไม่เกิน 1500 บาท
ของที่ศูนย์เสนอให้ไม่จำเป็นไม่เอา จริงๆ ไม่เอาเลย ยกเว้นแถมให้  อะไหล่ มีเคลมครั้งเดียว เกี่ยวกับระบบน้ำมันที่มีการเรียกเข้าไปเปลี่ยนฟรี 
อื่นๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่เคยซ่อมอะไร ไม่เคยเปลี่ยนอะไหล่  มีค่ายาง ตอนนี้ชุดที่สอง ที่เหลือก็เติมน้ำมันครับ 
สามเดือนที่ผ่านมา ใส่กล้อง 1729 บาท
ไปเที่ยวมาแล้วทั่วไทย ทน ประหยัด ไม่เคยกินข้าวลิง แต่ต่อไปก็คงจะไปคบ M2 แล้วครับ เห็นข้อมูลว่าประหยัดจริง

ค่าใช้จ่ายเข้าศูนย์  เฉลี่ย1500*10 =  15000
เปลี่ยนล้อทั้งชุดตอนเคลื่อนรถออกจากศูนย์ 100 เมตร =  22000
เปลี่ยนยางครั้งที่สอง 3200*4    = 12800
มีใส่ สปอยเลอร์ 3500

หลักๆ มีเท่านี้ครับ เพราะอะไหล่อื่นๆ ไม่เคยเปลี่ยน
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sukhontha ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 10:24:22
ผมดูว่าไม่เยอะนะครับ   หลายส่วนเป็นค่ากิเลสของเจ้าของ

ผมก็เช่นกัน  ถ้าไม่มีกิเลส  ใช้น้อยมาก  เจ้า  t 31  ที่ใช้มา 6 ปี  ไม่ได้เคลมอะไรเลย  เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามกำหนด (ผมใช้บริการอู่ โมบิล) ครั้งละสองพันกว่าบาท  (น้ำมันเกียร์เปลี่ยนที่ 0 สี่หมื่นโล ครั้ง)

  ยางสองชุด  ....  กับความอยาก  ฟร้อนท์ + เบสบ็อก..เปลี่ยนโช้คหลัง.แค่นั้น 
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: h0661036 ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 10:56:25
ของผม vios 2012  ที่เปลี่ยนมีแค่บุชปีกนก 1 ชิ้น  ที่เหลือก็เปลี่ยนตามเวลาเข้าศูนย์ฯ  และค่าล้างรถ 140 บาท  2 อาทิตย์ล้างที

   ผมมองว่า รถที่ราคาถูก อะไหล่ถูก  ต้องดูด้วยว่ามันใช้ได้นานมั้ย   พวกอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ บางเจ้าอย่าง ซัมมิต ทำแล้วก็รุ่ง  บางเจ้าอย่าง xxxx (ดูรายชื่อได้ในหุ้น)  ทำแล้วก็ร่วง โดนฟ้องกระจายเรื่อง defect
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 11:12:05
  ค่าดูแลเจ้ามาร์ชหรืออิโคคาร์ระดับนี้ เค้าทำมาูถูกมากนะครับ  ไม่ไ่ด้แพงเลย    ถ้าขนาดนี้ยังรับกันไม่ได้ไม่เข้าศูนย์ หรือมีปัญหากับค่าบริการค่าดูแลรถ    ถ้าถึงขั้นนี้ก็ไม่ควรมีรถแล้วล่ะเพราะว่ายี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ๆี่ใหญ่กว่านี้ก็มีค่าดูแลแพงกว่านี้ทั้งนั้นล่ะ       
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 11:28:52
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

บรรทัดล่างน่ะ ผมก็เคยคิดเหมือนกัน (ผมเป็นเพื่อน จขกท. นะ)

แต่หลังๆ ก็คิดต่อไปว่า แล้วผมจะไปคิดทำไม ก็เหลือแต่คอยเบรกๆ บางเรื่องที่เขาคิดย้ำๆ จะลดต้นทุนสถานเดียว
ให้ระวังเรื่องความปลอดภัยด้วย หรือพวกชิ้นไหนเซนซิทีฟก็คอยบอกว่า เฮ้ย เช็คด้วย หรือไปทำเพิ่มดีไหม
ส่วนเขาจะคิดหรือไม่คิดตาม เป็นสิทธิ์ของเขา... ตราบใดที่ผมไม่ได้ไปออกเงินให้เขา คงบังคับกันไม่ได้

ผมมองว่าคนเราไม่จำเป็นต้องให้รางวัลชีวิต ด้วยการบำรุงรักษารถเพียงอย่างเดียวครับ
เพราะถึงผมเองใช้แบบ ดูแลเต็มที่ แล้วก็ใช้สมรรถนะเต็มที่ (น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้เกรดดี
ปรับปรุงแทบทุกชิ้นส่วนที่เปลี่ยนได้ แทบไม่มีอะไรสเป็กเดิม ตั้งแต่ช่วงล่างยันเครื่องเสียง) แต่เอาจริงๆ คือ
ผมใช้รถทั้งหาเงิน ขนของ และอื่นๆ โดยคำนึงแค่เฉพาะความสุขที่ผมได้จากปลายทางของการขับรถน่ะ

ถามว่าผมใช้เงินไปกะรถเยอะไหม เยอะนะ จนถึงทุกวันนี้ ไม่นับเข้าศูนย์ ค่าแต่งรถนี่แทบจะดาวน์ได้อีกคัน
กระนั้น รถสำหรับผมเป็นของใช้ ที่เดิมๆ อาจจะน่าหงุดหงิดไปสักนิด ก็แค่ปรับให้ตรงกับสไตล์และจริต
แต่ดูแลรักษาแต่พอควร ให้มันสบายพอเหมาะ ปลอดภัยสม่ำเสมอ และใช้งานได้เมื่อพร้อมจะใช้ พอแล้ว
ถึงรักรถแค่ไหน ปล่อยวางบ้างก็ได้ อย่าให้เป็นประมาณ อ่านตอบกระทู้แล้วเครียดแทน ดีกว่าครับ

เมื่อก่อน ผมก็กั้กๆ ไว้คับ ดูจากช่วงแรก จะเห็นว่าถ่ายแต่น้ำมันเครื่องจริงๆ แต่พอรถมันเก่า ก็ต้องซ่อมคับ ผมก็เปลี่ยนตลอด อย่างน้ำมันเกียร์ คุณแมวดราม่า ก็เป็นคนแนะนำให้เปลี่ยนทั้งสองครั้ง ตอน 2.6 และ 4.8 หมื่น กับน้ำมันเครื่อง 0W-20 สังเคราห์แท้ ผมคำนวนแล้วคุ้มกว่า ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยรถไม่ช้ำคับ

แต่ผมก็ไม่ทำหมดคับ อย่าง ฟลัส ผมไม่ทำ เพราะผมว่ามันแพงไป และต้องใส่ตัวแปลงด้วย ผมคิดว่าผมขับไม่ลากรอบอยู่แล้ว ถ่ายบ่อยๆ เอาเหลือๆ ละ ทุก 2-3 หมื่นโล กรองก็ 4-5 หมื่นโล

อย่างโช๊ค sylphy ผมก็ไม่ทำ เพราะมันต้องใส้สปริงโหลด ซึ่งผมไม่คิดจะโหลดอยู่แล้ว เลยไปจบที่ โช๊ค Excel-G ของ Kayaba แทนครับ

แค่เห็นก็ลายตา  marchนี่ขึ้นชื่อเรื่องอะไหล่เปราะจริงๆนะ  อย่างรถผมเองสี่ปีวิ่งแสนกว่านิด  นอกเหนืออะไหล่ที่อยู่ในระยะประกัน  ผมมีจ่ายเพิ่มแค่ชุดซ่อมเบรคอย่างเดียวประมาณ5000 นอกนั้นไม่เคยจ่ายอะไรเลยไม่รวมพวกค่าใช้จ่ายตามระยะทางอะนะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ เป็นแนวทางสำหรับค่าบำรุงรักษา รถ eco car ของนิสสัน ที่น่าสนใจทีเดียว

ผมไม่แน่ใจว่า eco cars ยี่ห้ออื่นๆ ราคาจะใกล้เคียงกันไหม?  :o

อะไหล่เปราะบางจริงๆ คับ แต่ราคามันก็ถูกจริง
เว้น แบตเตอรี่ ที่ใช้ลูกใหญ่เกินไป (ตำหนินิสสัน ดังๆ)

ผมเคยเทียบกับ celerio เข้าศูนย์ ผมว่า march ถูกกว่านะคับ อะไหล่ cele แพงกว่า
ที่ผมว่าอาจใกล้เคียง คือ mirage แต่ยังไม่ได้ดูจริงจัง
ข้อดีของ mirage  คือ ทนกว่า March แต่อะไหล่ผมยอมรับ นิสสันหาง่ายกว่าจริง
ผมไปซ่อม คือ วันเดียวจบ มีอะไหล่พร้อมเปลี่ยนคับ ครบทุกชิ้น

ละเอียดมากครับ
ขอบคุณ จขกทครับ อย่ามาม่าเลยครับ เบื่อ
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 11:34:34
ผมคิดแบบเจ้าของกระทู้ไม่ได้ครับ เดี๋ยวเป็นลม แค่ค่าของแต่งก็หลายแสนละ ยังไม่รวมค่าบำรุงค่าซ่อม จัดเต็มทุกรายการ ไม่เคยประหยัดกับเรื่องรถเลย
;D

ค่าใช้จ่ายทั้งนั้นสมชื่อ...รถ(ลด). จริงๆ
ลดจริงๆ คับ
;) suzuki swift 2 ปีเมื่อเมษา ที่ผ่านมากับระยะ 46,000 km

เข้าศูนย์ 5 รอบ
1000
10000-40000
ไม่มีเคลมกับซ่อมอะไร

ตีคร่าวๆ
(2600x3)+5000 =  12800
ประกัน 12000+14000 = 38800

ครบ 60000 km ว่าจะต้องเสียค่ายาง ทั้งหมดก็ประมาณนี้ครับ
มีแค่นี้จริงๆ



ผมเคยประเมิน ราคาซูซุกิจะสูงกว่าหน่อยๆ จริงๆ ครับ แต่ถ้ารถทนทานก็ถือว่าดีกว่าเปลี่ยนจุกจิกนะครับ ::)
จขกท เป็นคนละไสตล์กับผมเลย ผมเป็นคนไม่เคยขี้เหนียวกับเรื่องรถ น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์แท้ตลอด ของเหลวชนิดอื่นคู่มือระบุว่าเปลี่ยนที่กี่กิโลผมเปลี่ยนก่อนครึ่งนึง อย่าคิดว่าฟุ่มเฟือยเพราะแต่ละอย่างหลักร้อยทั้งนั้นถ้าเป็นรถญี่ปุ่น เคยเอารถผมไปเทียบปีเดียวกันสภาพรถผมดีกว่าแยอะ แทบจะสภาพป้ายแดง ทั้งๆที่ใช้งานผมก็ใช้หนัก เครื่องนี่เรดไลน์ก็บ่อย เสียงยังแน่นกว่ารถที่เปลี่ยนตามคู่มือศูนย์ซะอีก แลกกับการได้ใช้รถที่สมบูรณ์สำหรับผมถือว่าคุ้ม พวกหัวเชื้ออะไรผมก็ไม่เติม น้ำมันก็ใช้ e20 ตลอดไม่เคยใช้เกรดพรีเมี่ยม (เหตุผลแค่มันแรงกว่าเมื่อเทียบราคา)


ผมอ่านรายการของ จขกท ก็มีแอบคิดนะ คุณรักรถจริงหรือป่าว หรือรักเงินในกระเป๋าตัวเองมากกว่า เหมือนคนชอบคิดเล็กคิดน้อย ไม่เคยให้รางวัลชีวิตตัวเอง

ใช่ครับ เมื่อเทียบกับรถปีเดียวกันที่ศูนย์ รถผมใช้งานหนักกว่า ขับทีนึง 3-4 ชั่วโมง/วัน เสาร์+อาทิตย์ ไป ตจว. ใช้รถทุกวัน ปีละ 360วันเต็ม ๆ ยกเว้นตอนเข้าศูนย์ที่ใช้เปลี่ยนถ่ายชุดใหญ่+ซ่อมประมาณปีละ 4-5 วัน เคยเข้าศูนย์หนึ่งมีหัวหน้าช่างเดินมาดู ยังบอกเลยว่า เสียงเครื่องนิ่งมา เงียบมาก รถเข้าศูนย์มาซ่อมเป็น ร้อย ๆ คัน นาน ๆ จะเจอแบบนี้คันหนึ่ง

ผมเชื่อว่า เจ้าของกระทู้ก็รักรถมาก ๆ ครับ ถึงจดรายละเอียดได้ดีขนาดนี้ แต่ละคนมีวิธีดูแลรักษารถอาจจะแตกต่างกันบ้าง ผมชอบดูแลให้รถพร้อมใช้งานในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ถ้าอะไรที่สามารถทำให้รถมีความสมบูรณ์ ผมทำครับ รถคันใหม่ที่จะซื้อก็เหมือนกัน ใช้ในเมือง ใช้ Fully synthetic ก็จะเปลี่ยนทุกเดือนเหมือนกัน น้ำมันเกียร์ก็  10 เดือนถึงปี เปลี่ยนแบบล้างห้องเกียร์ ไม่ต้องตามคู่มือ แต่ขอเปลี่ยนก่อน แล้วค่าแรงเท่าไร อยากคิด คิดไป เพิ่มให้ ขออย่าให้ประกันขาด
ผมเน้นคุมค่าใช้จ่ายด้วยคับ แต่ ก็บำรุงรักษาเชิงป้องกัน ผมไม่ค่อยใส่อะไรที่นอกกรอบ เว้นแต่แปลงแล้วทนกว่าในระยะยาวคับ
อย่างเเต่งรถ ผมก็ไม่แต่ง ล้อผมกระทะล้อมายังไง ก็เป็นอย่างงั้นคับ
นิสสันมาร์ชนี่ค่าอะไหล่ กับค่าดูแลรักษารถนี่ถูกจริงๆครับคอนเฟริ์ม แต่อย่างที่คุณเจ้าของกระทู้บอกคืออะไหล่บางตัวนี่พังเร็วมาก อย่างโช๊คหลังเนี่ย พอ 30,000 โลปุ๊บพังเลย รถเพื่อนผมก็พังที่ระยะเท่านี้ และโช๊คประตูหลังก็พังเร็ว มอเตอร์ฉีดน้ำล้างกระจกก็พังเร็วจนน่าตกใจ เมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่น แต่พอเทียบกับราคาที่ไม่ได้แพงมากก็พอจะหยวนๆกันไป

ส่วนเรื่องการจดบันทึกค่าใช้จ่ายในการซ่อมรถ ผมว่าก็เป็นเรื่องปกตินะครับ เหมือนเราจดบันทึกรายรับ รายจ่ายต่างๆในชีวิตประจำวัน มันไม่เกี่ยวหรอกครับว่าการมีวินัยในเรื่องนี้ แปลว่าไม่รักรถ ผมคิดว่าดีซะอีกจะได้รู้ว่าค่าใช้จ่าย ในการดูแลรักษารถในมือเรา คิดเป็นกี่ % ในรายได้ของเรา คุ้มหรือไม่ ผมสนับสนุนการทำเช่นนี้ครับ

ใช่คับ พอมันไม่แพงก็เลยหยวนๆ ไป แต่ต้องดูด้วยว่ารุ่นไหน ถ้าเป็นปุ่ม start กับ แอร์ออโต้ ต้องระวังนิดนึงคับ ทั้งสองรุ่นอะไหล่จะสูงหน่อย (เป็นหมื่น) แต่ก็ถูกกว่าชาวบ้านเขาคับ


หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 11:37:49
ละเอียดยิบบบบบบครับ  ;D

ขอถามสองข้อที่ผมสงสัยไว้เป็นความรู้ครับ

1.ตอนที่เคลมคอยล์เย็น มันเกิดปัญหาอะไรหรอครับ (ตู้แอร์รั่ว หรือแอร์ไม่เย็นอะไรทำนองนั้นรึเปล่าครับ หรือว่าไม่ใช่) รถผมดันไม่มีเคลมนี่สิเลยแอบหวั่นนน

2.โช้คชุดใหม่ที่ใช้เป็นตัวไหนหรอครับ

ผมก็มั้วๆ เคลมไปคับ บอกว่าไม่เย็น (เวลาถอยหลัง) ซึ่งจริงๆ มันปกติ แต่เขาให้เคลมผมก็เลยเนียนๆ ไป

ส่วนโช๊คผมใช้ Kayaba Excel-G คับ ไม่ใช้โช๊ค sylphy เพราะมันสั้นกว่าเหมาะกับรถโหลด

ผมชอบเดิมๆ สูงๆ คับ
ถ้ารถใหญ่อย่างกระบะยกสูง หรือ PPV อย่างต่ำๆ 4 หมื่นบาทต่อปี
(แพงที่ค่ายาง ชุดนึงเกือบ 3 หมื่น ตีว่าสามปีเปลี่ยนชุดนึง)

ส่วนรถเก๋ง ผมว่า Eco car หรือ C-Segment ค่าใช้จ่ายไม่ค่อยต่างกันมาก
จะแพงกว่าคือค่าประกันต่อไป ค่ายาง ค่าแบต ที่ใช้ spec ใหญ่กว่า
กับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่กินมากกว่า
นอกนั้นอะไหล่สิ้นเปลืองราคาต่อชิ้นต่างกันน้อยมาก

ใช่คับ อย่าง Freed ยางแพงกว่า ประกันแพงกว่ามากๆ แต่แบตถูกมากเพราะใช้ 35 amp คับ
อันนี้คันที่บ้าน
mirage ของแฟน เข้าสู่ปีที่ 5 ขับทุกวัน วิ่ง 11x,xxx  เปลี่ยนถ่ายนำมันเครื่องสั่งเคราะห์แท้(ของศูนย์)+ใส่กรอง+อะไหล่ที่เกี่ยวข้อง 6 เดือนต่อครั้ง ครั้งละประมาณ ไม่เกิน 1500 บาท
ของที่ศูนย์เสนอให้ไม่จำเป็นไม่เอา จริงๆ ไม่เอาเลย ยกเว้นแถมให้  อะไหล่ มีเคลมครั้งเดียว เกี่ยวกับระบบน้ำมันที่มีการเรียกเข้าไปเปลี่ยนฟรี 
อื่นๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ไม่เคยซ่อมอะไร ไม่เคยเปลี่ยนอะไหล่  มีค่ายาง ตอนนี้ชุดที่สอง ที่เหลือก็เติมน้ำมันครับ 
สามเดือนที่ผ่านมา ใส่กล้อง 1729 บาท
ไปเที่ยวมาแล้วทั่วไทย ทน ประหยัด ไม่เคยกินข้าวลิง แต่ต่อไปก็คงจะไปคบ M2 แล้วครับ เห็นข้อมูลว่าประหยัดจริง

ค่าใช้จ่ายเข้าศูนย์  เฉลี่ย1500*10 =  15000
เปลี่ยนล้อทั้งชุดตอนเคลื่อนรถออกจากศูนย์ 100 เมตร =  22000
เปลี่ยนยางครั้งที่สอง 3200*4    = 12800
มีใส่ สปอยเลอร์ 3500

หลักๆ มีเท่านี้ครับ เพราะอะไหล่อื่นๆ ไม่เคยเปลี่ยน
ผมอยากใช้ mirage เหมือนกันคับ แต่ผมเน้นทำข้างนอกพอหมดประกัน เลยมาจับนิสสันและตอนนั้น mirage ยังไม่ออกมา เลยต้องมาเลือกนิสสันคับ
ผมดูว่าไม่เยอะนะครับ   หลายส่วนเป็นค่ากิเลสของเจ้าของ

ผมก็เช่นกัน  ถ้าไม่มีกิเลส  ใช้น้อยมาก  เจ้า  t 31  ที่ใช้มา 6 ปี  ไม่ได้เคลมอะไรเลย  เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ตามกำหนด (ผมใช้บริการอู่ โมบิล) ครั้งละสองพันกว่าบาท  (น้ำมันเกียร์เปลี่ยนที่ 0 สี่หมื่นโล ครั้ง)

  ยางสองชุด  ....  กับความอยาก  ฟร้อนท์ + เบสบ็อก..เปลี่ยนโช้คหลัง.แค่นั้น 
:D
ของผม vios 2012  ที่เปลี่ยนมีแค่บุชปีกนก 1 ชิ้น  ที่เหลือก็เปลี่ยนตามเวลาเข้าศูนย์ฯ  และค่าล้างรถ 140 บาท  2 อาทิตย์ล้างที

   ผมมองว่า รถที่ราคาถูก อะไหล่ถูก  ต้องดูด้วยว่ามันใช้ได้นานมั้ย   พวกอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ บางเจ้าอย่าง ซัมมิต ทำแล้วก็รุ่ง  บางเจ้าอย่าง xxxx (ดูรายชื่อได้ในหุ้น)  ทำแล้วก็ร่วง โดนฟ้องกระจายเรื่อง defect
ผมว่านิสสันแปลกตรง ใช้ผู้ผลิตที่ด้อยกว่าชาวบ้านเขา หวยมันเลยห่วยและพังง่าย แต่ราคาอะไหล่ก็ถูกตาม เพราะบางชิ้นมันมาจากอินเดีย อินโดคับ เช่น โช๊คประตูหลัง
  ค่าดูแลเจ้ามาร์ชหรืออิโคคาร์ระดับนี้ เค้าทำมาูถูกมากนะครับ  ไม่ไ่ด้แพงเลย    ถ้าขนาดนี้ยังรับกันไม่ได้ไม่เข้าศูนย์ หรือมีปัญหากับค่าบริการค่าดูแลรถ    ถ้าถึงขั้นนี้ก็ไม่ควรมีรถแล้วล่ะเพราะว่ายี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ๆี่ใหญ่กว่านี้ก็มีค่าดูแลแพงกว่านี้ทั้งนั้นล่ะ       
ใช่คับ ถ้าแบบนี้ไม่ควรมีรถแล้ว

แต่เจอในคลับรถเล็กๆ เช่น celerio และ march บางคนเขาไม่พร้อมจ่ายจริงๆ คับ :'(
เช่น น้ำมันเกียร์ CVT ส่วนมากคู่มือจะบอกแค่ตรวจเช็ค แต่ศูนย์ก็จะเสนอเปลี่ยนตอน 4 หมื่นคับ
บางคนเขาไม่ยอมคับ เพราะช่วง 4 หมื่นรายการซ่อมเยอะ (5 พันขึ้น) เขาก็จะตัดน้ำมันเกียร์ CVT ก่อนอย่างแรกเลย
สงสารรถและรู้ว่าอนาคตต้องพังแน่ๆ ก็เศร้าใจคับ เสียดายรถมาก


หัวข้อ: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: HHHsung ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 11:54:15
บางทีก็คิดนะว่าซื้อรถมาทำไม ใช้จ่ายแต่ละเดือน รวมค่าน้ำมัน เกือบเดือนละ 3 หมื่น นั่งแท๊กซี่ทุกวันยังถูกกว่านี้เลย

ปล. ใช้ซืตี้มา 6 ปี ถือว่าไม่จุกจิกเลยครับ ไม่มีอะไรเสียเลย มีค่าใช้จ่ายแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ตามระยะทางที่ศูนย์แนะนำเท่านั้น

ไม่รวมยาง กับ ที่ปัดน้ำฝน เพราะขึ้นอยู่ที่การใช้งานเป้นหลัก
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: frosty ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 11:58:25
คัน CRV gen 3 2.4 AWD
คร่าวๆ ต่อปี
1. ค่าภาษี + พรบ + ประกัน = เตรียมไว้ 25000
2. ค่าซ่อมบำรุง = เฉลี่ย 12000
3. ค่ายาง = 24000
4. ค่าน้ำมัน = 2600 (ต่อเดือน) >>> 31200

รวมแล้ว ปีละ = 92200
ถ้าตัดค่าน้ำมันออกไปเหลือ 61000
ถ้าตัดค่ายางออก = 37000
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tan Int ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 12:49:10
ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะครับ เท่าที่รถเล็กคันหนึ่งควรเป็น
ใช้งานน้อยดีครับ(แต่ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลักก็ถือว่าไม่น้อยเท่าไหร่) รถแม่ผมปีแรกไปแล้ว 65000 km 55555
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 12:53:28
ก็ถือว่าไม่เลวเลยนะครับ เท่าที่รถเล็กคันหนึ่งควรเป็น
ใช้งานน้อยดีครับ(แต่ถ้าใช้ในเมืองเป็นหลักก็ถือว่าไม่น้อยเท่าไหร่) รถแม่ผมปีแรกไปแล้ว 65000 km 55555
คับ วิ่งในชานเมืองเป็นหลักคับ
คัน CRV gen 3 2.4 AWD
คร่าวๆ ต่อปี
1. ค่าภาษี + พรบ + ประกัน = เตรียมไว้ 25000
2. ค่าซ่อมบำรุง = เฉลี่ย 12000
3. ค่ายาง = 24000
4. ค่าน้ำมัน = 2600 (ต่อเดือน) >>> 31200

รวมแล้ว ปีละ = 92200
ถ้าตัดค่าน้ำมันออกไปเหลือ 61000
ถ้าตัดค่ายางออก = 37000
เยอะเหมือนกันนะคับ รถใหญ่แพงกว่ารถเล็กพอควรเลย
บางทีก็คิดนะว่าซื้อรถมาทำไม ใช้จ่ายแต่ละเดือน รวมค่าน้ำมัน เกือบเดือนละ 3 หมื่น นั่งแท๊กซี่ทุกวันยังถูกกว่านี้เลย

ปล. ใช้ซืตี้มา 6 ปี ถือว่าไม่จุกจิกเลยครับ ไม่มีอะไรเสียเลย มีค่าใช้จ่ายแค่เปลี่ยนอุปกรณ์ตามระยะทางที่ศูนย์แนะนำเท่านั้น

ไม่รวมยาง กับ ที่ปัดน้ำฝน เพราะขึ้นอยู่ที่การใช้งานเป้นหลัก
ฮอนด้าไม่จุกจิกคับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 16:48:50
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 17:26:45
ชื่นชมว่าเก็บรายละเอียดได้มากจริงๆ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ttcl ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 17:39:09
ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลครับ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะซื้อรถคันแรกในระดับนี้มาใช้ เผื่อมาอ่านจะได้พอจะประมาณค่าใช้จ่ายได้
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 17:58:52
ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลครับ เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่จะซื้อรถคันแรกในระดับนี้มาใช้ เผื่อมาอ่านจะได้พอจะประมาณค่าใช้จ่ายได้
ตั้งใจให้ผู้ใช้รถหน้าใหม่ คิดได้ว่าตัวเองพร้อมไหมที่จะมีรถคับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ
ชื่นชมว่าเก็บรายละเอียดได้มากจริงๆ
ขอบคุณคับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 18:34:22
ละเอียดมากครับ สมัยก่อนที่บ้านใช้ Sunny B14 แร็คพวงมาลัยเริ่มซึม ขายรถทั้งคันไปเลย 55555

(แต่ซ่อมอย่างอื่นไปหลายตังก์ก่อนหน้าแล้ว)
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Hein9er ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 22:25:07
ผม cx5 diesel โดนอัดน่วมอยู่ครับ 55555 วิ่งไป 11x,xxx ก่อนหน้าวิ่งน้อยมากจอดสะส่วนใหญ่ แต่ตั้งแต่ต้นปีก่อนวิ่งเยอะเลย
เฉลี่ยตกเดือนละ 5,500-6,000 โลอย่างต่ำ ปีหนึ่งก็ประมาณ 70,000-80,000 ครับ วิ่งจะเป็นแท็กซี่เลย

ค่าใช้จ่ายผมค่อนข้างหนัก เพราะวิ่งค่อนข้างเยอะ พวกน้ำมันเครื่องเปลี่ยนที 5.1 ลิตร ก็โดนไป 1,500 กว่า
ปีหนึ่งก็เปลี่ยน 7-8 รอบ ทุกๆหมื่นโลเปลี่ยนครับ ก็ประมาณ 10,500
ยางขอบ 19 235/55 ของ yoko g055 โดนไปประมาณ 31,000 ซึ่งถูกที่สุดที่ผมหาได้ ดูเทียบถึงคุณภาพด้วยนะครับ
เปลี่ยนตอน 60,xxx โดยประมาณ ค่อนปลายปีก่อน
(นี้ยังใช้ชุดเดิมอยู่ เพราะมันยังวิ่งได้ไม่มีปัญหา มีหอนบ้าง กับเริ่มไม่เกาะ คาดว่าเร็วๆนี้อาจต้องโดนอีกแล้ว แต่ดอกยังแน่นอยู่รอดูกันไป)
แบตตั้งแต่ใช้มาโดนไป 2 ลูก ของศูนย์ด้วย หัวแตกมาก ลูกละ 8,700 รวม2 ลูกก็ 17,400
เสื่อมง่ายมากขนาดปิด i-stop สะส่วนใหญ่นะครับ
ลูกแรกเปลี่ยน เมษาปีที่แล้ว ลูกสองโดนเดือนมีนาปีนี้เลย
(เลยระยะประกันแล้ว 1 ปี หรือ 20,000 โลนะครับถ้าจำไม่ผิด ผมเลยตรงระยะทางนี้แหละ) รอบหน้าจะเปลี่ยนข้างนอกละ
ซึ่งนี้ยังไม่รวมพวก กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ ผ้าเบรคหน้า-หลัง ที่เคยเปลี่ยนไปชุดหนึ่ง รวมไปถึงน้ำมันเกียร์ด้วย เพราะจำราคาไม่ได้

ก็ตั้งแต่ มี.ค. ปีที่แล้วถึงปัจจุบัน  ประมาณ 1 ปี 3 เดือน คาดคร่าวๆแล้วน่าจะมีเสียไปแล้ว 70,000-80,000
รวมประกัน ต่อภาษีต่างๆ ก็คงมีใกล้ๆ 100,000 ละครับ แต่ยอมใจครับ ผมใช้รถวิ่งทุกวัน น้อยมากที่จะมีวันที่รถหยุด แต่รถยังวิ่งดีมาก
เครื่องแน่นอยู่เลยครับ ช่วงล่างยังดีอยู่ แต่ปีกนกน่าจะได้เวลาละครับ ตามเวลาของมันแสนกว่าๆ กับเริ่มมีเสียง

จะสังเกตุได้ว่า การใช้รถมาก-น้อยมีผลอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าผมใช้รถน้อยกว่านี้ หรือเยี่ยงคนปกติกว่านี้ ค่าใช้จ่ายก็น่าจะน้อยกว่านี้เยอะมากครับ
ปล.ผมขอไม่นับค่าน้ำมันนะครับ แต่ถ้าให้ตีออกมาคร่าวๆต่ำสุดสูงสุดต่อเดือนคือ 8,700-12,000
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sayuno ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 22:48:32
ละเอียดยิบ ถูกใจจัง ชะตากรรมเดียวกันเลือกมาแล้วจ่ายต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kanomcake ที่ พฤษภาคม 15, 2017, 22:57:54
ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับข้อมูลดีๆ  :-*
หัวข้อ: Re: ผลสรุปค่าดูแลรักษารถเล็ก 1 คัน ในระยะ 6 ปี...ข้อคิดดีๆสำหรับผู้ที่อยากมีรถครับ
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤษภาคม 16, 2017, 10:34:39
ละเอียดมากครับ สมัยก่อนที่บ้านใช้ Sunny B14 แร็คพวงมาลัยเริ่มซึม ขายรถทั้งคันไปเลย 55555

(แต่ซ่อมอย่างอื่นไปหลายตังก์ก่อนหน้าแล้ว)
ผมก็ขายสามห่วงไปซื้อมาร์ชเพราะแลคเริ่มซึมคับ ขี้เกียจซ่อมแล้ว
กับรถมันกินแบบยุค 90 น้ำมันราคาสูงลำบากเลยชิงขายคับ
ผม cx5 diesel โดนอัดน่วมอยู่ครับ 55555 วิ่งไป 11x,xxx ก่อนหน้าวิ่งน้อยมากจอดสะส่วนใหญ่ แต่ตั้งแต่ต้นปีก่อนวิ่งเยอะเลย
เฉลี่ยตกเดือนละ 5,500-6,000 โลอย่างต่ำ ปีหนึ่งก็ประมาณ 70,000-80,000 ครับ วิ่งจะเป็นแท็กซี่เลย

ค่าใช้จ่ายผมค่อนข้างหนัก เพราะวิ่งค่อนข้างเยอะ พวกน้ำมันเครื่องเปลี่ยนที 5.1 ลิตร ก็โดนไป 1,500 กว่า
ปีหนึ่งก็เปลี่ยน 7-8 รอบ ทุกๆหมื่นโลเปลี่ยนครับ ก็ประมาณ 10,500
ยางขอบ 19 235/55 ของ yoko g055 โดนไปประมาณ 31,000 ซึ่งถูกที่สุดที่ผมหาได้ ดูเทียบถึงคุณภาพด้วยนะครับ
เปลี่ยนตอน 60,xxx โดยประมาณ ค่อนปลายปีก่อน
(นี้ยังใช้ชุดเดิมอยู่ เพราะมันยังวิ่งได้ไม่มีปัญหา มีหอนบ้าง กับเริ่มไม่เกาะ คาดว่าเร็วๆนี้อาจต้องโดนอีกแล้ว แต่ดอกยังแน่นอยู่รอดูกันไป)
แบตตั้งแต่ใช้มาโดนไป 2 ลูก ของศูนย์ด้วย หัวแตกมาก ลูกละ 8,700 รวม2 ลูกก็ 17,400
เสื่อมง่ายมากขนาดปิด i-stop สะส่วนใหญ่นะครับ
ลูกแรกเปลี่ยน เมษาปีที่แล้ว ลูกสองโดนเดือนมีนาปีนี้เลย
(เลยระยะประกันแล้ว 1 ปี หรือ 20,000 โลนะครับถ้าจำไม่ผิด ผมเลยตรงระยะทางนี้แหละ) รอบหน้าจะเปลี่ยนข้างนอกละ
ซึ่งนี้ยังไม่รวมพวก กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ ผ้าเบรคหน้า-หลัง ที่เคยเปลี่ยนไปชุดหนึ่ง รวมไปถึงน้ำมันเกียร์ด้วย เพราะจำราคาไม่ได้

ก็ตั้งแต่ มี.ค. ปีที่แล้วถึงปัจจุบัน  ประมาณ 1 ปี 3 เดือน คาดคร่าวๆแล้วน่าจะมีเสียไปแล้ว 70,000-80,000
รวมประกัน ต่อภาษีต่างๆ ก็คงมีใกล้ๆ 100,000 ละครับ แต่ยอมใจครับ ผมใช้รถวิ่งทุกวัน น้อยมากที่จะมีวันที่รถหยุด แต่รถยังวิ่งดีมาก
เครื่องแน่นอยู่เลยครับ ช่วงล่างยังดีอยู่ แต่ปีกนกน่าจะได้เวลาละครับ ตามเวลาของมันแสนกว่าๆ กับเริ่มมีเสียง

จะสังเกตุได้ว่า การใช้รถมาก-น้อยมีผลอย่างยิ่ง ซึ่งถ้าผมใช้รถน้อยกว่านี้ หรือเยี่ยงคนปกติกว่านี้ ค่าใช้จ่ายก็น่าจะน้อยกว่านี้เยอะมากครับ
ปล.ผมขอไม่นับค่าน้ำมันนะครับ แต่ถ้าให้ตีออกมาคร่าวๆต่ำสุดสูงสุดต่อเดือนคือ 8,700-12,000

ค่าดูแลตามราคารถเลยคับ แต่ผมว่าถ้ามันวิ่งงานให้เราได้ก็คุ้มคับ
ละเอียดยิบ ถูกใจจัง ชะตากรรมเดียวกันเลือกมาแล้วจ่ายต่อไปครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ สำหรับข้อมูลดีๆ  :-*

ขอบคุณคับ ตอนนี้คงต้องใช่อีก สามปี รอเจ้า Daihatsu คับ