Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Cheap and cheerful ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 21:05:45

หัวข้อ: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Cheap and cheerful ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 21:05:45
มีปัญหาตั้งเเต่เปิดตัวปี 58 เห็นกระทู้ปี 60 ก็ยังมีปัญหาอยู่ Mazda คิดจะเเก้อะไรบ้างไหมครับ จะปล่อยให้ลูกค้าเข้าศูนย์ไปเรี่อยๆ?

พึ่งเเนะนําคนใกล้ตัวไป ลืมนึกถึงเรี่องนี้ไปเลย เดี๋ยวเขาซี้อมาเเล้วมีปัญหาเขาจะมองเราไม่ดีอีกอะครับ (ผญ ไม่รู้เรี่องรถอะไรเลย)

หรือผมควรเปลี่ยนไป Jazz เเทนดีครับ?
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: NoBiReacto ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 21:16:59
เห็นในคลับตอนนี้ก็ยังแก้ไม่ได้ครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 21:18:47
DPF ถ้าจะแก้ปัญหา สงสัยมีทางเดียวคือต้องถอดจากโรงงานละมั้ง มาสด้าไม่น่าใส่มาในรถเล็กเลย กลุ่มลูกค้ายังไม่น่ามีความพร้อมจะใช้งาน
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 21:25:06
ยังเห็นกระตุก เครื่องสั่นกันเรื่อยๆ แต่ปมยังไม่เจอ จะครบสองขวบแล้ว กับระยะทาง 60k ยังลุ้นๆเหมือนกัน แถมผมเอาไปเซอวิสอู่นอกแล้วด้วย ถ้ามันสั่น ก้อกะจะถอดออกครับ ถือโอกาสจูนใหม่ไปในตัว
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 21:34:29
จะบอกว่ากลิ่นเหม็นทุกอย่างนี่น่ากลัวมากครับ บางทีบอกไม่มีอันตราย
ผ่านไป 10 ปี เพิ่งมาค้นพบว่าก่อมะเร็งได้ อันนี้ผมพูดลอยๆ เฉยๆ ไม่ได้เกี่ยวกับกระทู้
แต่ให้ระวัง

พอดีพี่สาวแฟนเพิ่งเสียครับ อายุน้อยมาก กรรมพันธุ์แน่แต่มะเร็งถูกเร่งให้เป็นเร็วขึ้นได้
จากสภาพแวดล้อม กำลังเช็คอยู่ว่าเป็นเพราะปลูกบ้านอยู่ใกล้ปั้ม ngv หรือเพราะพื้นที่
เคยทำปลามีกลิ่นสารพิษจากพวกสารพิษโลหะหนักรึเปล่า

Mazda 2 เบนซินเห็นเขาว่าอัตราเร่งเท่าๆ 1.5 ตัวเก่า สำหรับผมแค่นี้พอเลย
ดีเซลถ้าเรื่องมากนักตัดทิ้งเลยดีกว่า
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 22:27:58
MST ก็ยังทำแค่ เคลมอะไหล่ชิ้นส่วนที่มีปัญหาเป็นตัวๆ ไปเท่านั้นเองครับ

แถมได้ข่าวไม่กรองมาอีกว่า ปัญหานี้ยังไม่ถึงมือ MPMT หรือโรงผลิตเครื่องเลยด้วยซ้ำ ไม่้รู้จริงเท็จแค่ไหน
2017 ที่ออกมาก็เน้นเพิ่มวัสดุกันเสียงและออกแบบบาง Part เช่นสลักลูกสูบให้ลดการสั่นและเสียงที่เกิดจากเครื่องทำงานปกติเท่านั้น DPF ยังเหมือนเดิม แถมตอนนี้รถปี 2016 ก็เริ่มมีมาบ้างแล้วด้วย

จริงๆ รถโอเคเกือบทุกอย่างเลยนะ ถ้าไม่เจอเรื่องนี้ที่ต้องลุ้นราวกับรอซื้อหวยเสี่ยงโชค ในคู่มือก็บอกแค่ต้องขับรอบสูงเป็นเวลานึงในการใช้รถเพื่อช่วยให้เผาเขม่าได้ดี แต่จริงๆ รถควรใช้ได้ในหลายๆ สภาวะรึเปล่าหล่ะ?? ถ้า MST ยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนแบบนี้ ไม่นานมีเคสแบบ Fiesta เกิดขึ้นจริงๆ ด้วยนะ

ส่วนตัวก็ใช้แค่ ตจว. ก็ไม่ได้วางใจซะทีเดียวครับ แล้วยิ่งเจอปัญหาอื่นในรถผมแล้วมาเจอการรับมือของ 0 แถวบ้านด้วยแล้ว ก็ได้แต่ เฮ้อออ...
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: pingpong ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 22:50:24
น่าจะยังไม่แก้ปัญหานะครับ ผมตามอ่านปัญหาของ cx-5 2.2d เพราะเคยจองแต่โชคดีถอนจองไปก่อน เท่าที่ติดตามรถวิ่งเกินแสนกิโลเมตรมีปัญหา DPF กับเสื้อสูบเป็นตามดกันหลายคัน ก็ยังแก้ไม่ได้ รถล้านหกวิ่งดีจริงแต่มีปัญหาปีเศร้าแทนเจ้าของจริงๆ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: scotch_fillet ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 23:44:22
ปัญหาอะไรอ่ะครับ?
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 00:03:18
เป็นผมเองทำให้ลังเลมากเลย ผมว่าซื้อรถมาแล้วต้องซ่อมเยอะก็ไม่น่าซื้อเท่าไหร่ ยิ่งแนะนำเค้าก็คนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถและยี่ห้อมาสด้าด้วยต้องระวังเลยครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: ติ่งมาเต็ม ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 00:19:50
อันนี้คำแนะนำสำหรับ E220d น่าจะเอามาใช้กับ MZ2 ได้ ในรูปหน่วยเป็นไมล์ = 65 กม./ชม.

(http://i1279.photobucket.com/albums/y522/lociano/d00bb07b-d368-42a3-b535-ff15c4b98b30_zpsb9frjict.jpg) (http://s1279.photobucket.com/user/lociano/media/d00bb07b-d368-42a3-b535-ff15c4b98b30_zpsb9frjict.jpg.html)
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Noncyclopedia ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 02:14:37
350โลผมเฉยๆ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: phraeboy_mz2 ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 05:51:12
ขอความกรุณาเถอะครับ บางคนก้ไม่รุ้จริงๆว่าไอ้ DPF นี่คืออะไรคีบ ใครช่วยขยายความหน่อยฮะ พลีส >:(
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 07:02:21
มันเป็นตัวกรองมลพิษ ของเครื่องยนต์ดีเซลใช่ไหม
DPF จะติดตั้งเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษของยุโรป การเอาออกไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนหันไปอุดอีจีอาร์ แต่ในสำนักข่าวต่างประเทศแนะนำว่า รถใช้ในเมืองที่มีภาวะจราจรติดขัด เค้าไม่แนะนำให้ใช้รถเครื่องยนต์ดีเซล เพราะเรื่องมลพิษ ต่อให้ติดตั้ง DPF ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ได้ ไฟโชว์ อ่านจับใจความได้ประมาณนี้ ไม่เก่งอังกฤษเท่าไหร่ ไม่รู้ใช่ตัวเดียวกันไหม
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Game ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 08:05:37
คร่าวๆ DPF (diesel particulate filter)  มีไว้กรองไม่ให้ควันดำแหละครับ ปกติทุกๆ 500 กิโลเมตรเครื่องยนจะทำการเผาตัว DPF เองเพื่อไม่ให้มันตัน โดยระบบจะทำงานเมื่อรถทำงานสัก 2000 รอบ ใช้เวลาสัก 5-10 นาที

ที่มีปัญหากันคือมันน่าจะตัน รถไม่ค่อยใช้งานรอบสูงบ้างขับคลานในเมืองจนมันตันครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 08:40:07
ปัญหาอะไรอ่ะครับ?
ขอความกรุณาเถอะครับ บางคนก้ไม่รุ้จริงๆว่าไอ้ DPF นี่คืออะไรคีบ ใครช่วยขยายความหน่อยฮะ พลีส >:(

นิยาม DPF ก็ตามด้านบนเลยครับ คือตัวกรองดักจับเขม่าไอเสียหลังการเผาไหม้เพื่อให้ไอเสียที่ปล่อยออกไปผ่านกฎหมาย​ด้านมลพิษ เขม่าที่ดักได้ก็จะนำกลับมาเผาไหม้อีกรอบผ่าน EGR เพื่อให้หมดไปหรือเหลือน้อยสุด ปกติระยะในการเผาจะขึ้นกับเขม่าที่เกิดและลักษณะการใช้รถเลย บางคนแป๊ปๆ บางคนนานๆ ที รถผมใช้มา 9 เดือน ช่วงที่ผมได้คลุกคลีจริงๆ ก็เผาไป 2-3 รอบครับ Mazda 2 จะสังเกตได้จากไฟ i-stop​ ไม่ติด คือดับไปเลย เงื่อนไขที่บอกในจอกลางไฟรูปเครื่องจะไม่ติด และบางทีอาจมีเสียงแปลกๆ จากการเร่ง หรือคันเร่งหน่วงๆ ผิดปกติในช่วงนึง และรถมีอัตราการใช้น้ำมันในขณะนั้นที่สูงขึ้นครับ (ถ้า 2015-2016​ ก็แตะระดับ 10+ L/100km เลยไม่ว่าจะขับแบบไหนก็ตาม)

ปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้ครับ หบังจากการใช้ไปรถจะเกิดอาการเครื่องสั่น คือสั่นไปทั้งคันรถเลย และรถจะเร่งไม่ขึ้นในช่วงที่สั่นเป็นเวลาสั้นๆ ครับ (แต่มันก็นานมากพอที่จะกระทบกับความปลอดภัยถ้ากำลังตัดสินใจกดคันเร่งแซงอยู่) เป็นในช่วงความเร็วเดินทาง 80-110
เอาเข้า 0 ก็ทำได้แค่เคลมอะไหล่ที่มีปัญหาเป็นตัวๆ ไป คือพูดง่ายๆ รู้แค่ Cause แต่ไม่รู้ Root Cause นัานแหละ
หลายท่านเลยไปหา Root Cause ก็สันนิษฐานว่า เขม่าที่เกิดจากการนำมาเผาใหม่นี่แหละที่ทำให้รถเกิดอาการ คือถ้าสปริงวาล์วเสีย ก็เหมือนกับเขม่าไปเกาะตามฝาวาล์วจนวาล์วปิดไม่สนิทในบางครั้ง รถก็เกิดอาการจุดระเบิดแล้วกำลังหายจากที่วาล์วปิดไม่สนิท ปิดไม่สนิทมากๆ เข้าสปริงก็เสื่อมจากแรงต้านนี้ หรือถ้าบางคนหัวฉีดเสีย ก็เกิดจากเขม่าไปตันทางปลายรูหัวฉีดบ้าง อันนี้แค่หลายคนวิเคราะห์กัน
ซึ่งพอหลายท่านลองถอดท่อทางเดิน EGR ในส่วนที่ถอดได้ง่ายมาดูก็พบว่า เขม่าเกาะเปื้อนเต็มไปหมดในท่อเลยครับแม้รถพึ่งใช้งาน
ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นการวิเคราะห์​ออกมาจากคนภายนอกทั้งนั้น MST ยังคงเพิกเฉยต่อปัญหานี้และทำได้แค่แก้ที่ Cause เป็นคันๆ ไปจริงๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 09:12:52
ปัญหาอะไรอ่ะครับ?
ขอความกรุณาเถอะครับ บางคนก้ไม่รุ้จริงๆว่าไอ้ DPF นี่คืออะไรคีบ ใครช่วยขยายความหน่อยฮะ พลีส >:(

นิยาม DPF ก็ตามด้านบนเลยครับ คือตัวกรองดักจับเขม่าไอเสียหลังการเผาไหม้เพื่อให้ไอเสียที่ปล่อยออกไปผ่านกฎหมายด้านมลพิษ เขม่าที่ดักได้ก็จะนำกลับมาเผาไหม้อีกรอบผ่าน EGR เพื่อให้หมดไปหรือเหลือน้อยสุด ปกติระยะในการเผาจะขึ้นกับเขม่าที่เกิดและลักษณะการใช้รถเลย บางคนแป๊ปๆ บางคนนานๆ ที รถผมใช้มา 9 เดือน ช่วงที่ผมได้คลุกคลีจริงๆ ก็เผาไป 2-3 รอบครับ Mazda 2 จะสังเกตได้จากไฟ i-stop ไม่ติด คือดับไปเลย เงื่อนไขที่บอกในจอกลางไฟรูปเครื่องจะไม่ติด และบางทีอาจมีเสียงแปลกๆ จากการเร่ง หรือคันเร่งหน่วงๆ ผิดปกติในช่วงนึง และรถมีอัตราการใช้น้ำมันในขณะนั้นที่สูงขึ้นครับ (ถ้า 2015-2016 ก็แตะระดับ 10+ L/100km เลยไม่ว่าจะขับแบบไหนก็ตาม)

ปัญหามันอยู่ที่ตรงนี้ครับ หบังจากการใช้ไปรถจะเกิดอาการเครื่องสั่น คือสั่นไปทั้งคันรถเลย และรถจะเร่งไม่ขึ้นในช่วงที่สั่นเป็นเวลาสั้นๆ ครับ (แต่มันก็นานมากพอที่จะกระทบกับความปลอดภัยถ้ากำลังตัดสินใจกดคันเร่งแซงอยู่) เป็นในช่วงความเร็วเดินทาง 80-110
เอาเข้า 0 ก็ทำได้แค่เคลมอะไหล่ที่มีปัญหาเป็นตัวๆ ไป คือพูดง่ายๆ รู้แค่ Cause แต่ไม่รู้ Root Cause นัานแหละ
หลายท่านเลยไปหา Root Cause ก็สันนิษฐานว่า เขม่าที่เกิดจากการนำมาเผาใหม่นี่แหละที่ทำให้รถเกิดอาการ คือถ้าสปริงวาล์วเสีย ก็เหมือนกับเขม่าไปเกาะตามฝาวาล์วจนวาล์วปิดไม่สนิทในบางครั้ง รถก็เกิดอาการจุดระเบิดแล้วกำลังหายจากที่วาล์วปิดไม่สนิท ปิดไม่สนิทมากๆ เข้าสปริงก็เสื่อมจากแรงต้านนี้ หรือถ้าบางคนหัวฉีดเสีย ก็เกิดจากเขม่าไปตันทางปลายรูหัวฉีดบ้าง อันนี้แค่หลายคนวิเคราะห์กัน
ซึ่งพอหลายท่านลองถอดท่อทางเดิน EGR ในส่วนที่ถอดได้ง่ายมาดูก็พบว่า เขม่าเกาะเปื้อนเต็มไปหมดในท่อเลยครับแม้รถพึ่งใช้งาน
ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นการวิเคราะห์ออกมาจากคนภายนอกทั้งนั้น MST ยังคงเพิกเฉยต่อปัญหานี้และทำได้แค่แก้ที่ Cause เป็นคันๆ ไปจริงๆ ครับ

โอว เรื่องราวยาวจริงๆ คนนอกไม่รู้เลยนะครับนี่
น่ากังวลแทนคนที่ไม่รู้ไปถอยดีเซลมาแล้วเจอกับปัญหา
ผมเคยนั่ง 2 เบนซิน uber คนขับดู happy มากกก ยังนึกในใจว่าน่าใช้จัง
ส่วนดีเซลถ้าไม่นับว่ากระแสดีเซลในเก๋งเล็กมันเจ๋ง เจอปัญหาแบบนี้น่ากลัวชะมัด
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 09:37:32
https://www.youtube.com/watch?v=Zph5usgWkN0

DPF เอาไว้กรองดำๆนั้นแหละครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: I-PULSE ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 10:27:42
งานงอกเลยแบบนี้ ทั้ง 1.5 and 2.2 มีปัญหาทั้งคู่
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 10:37:53
ปัญหาแบบนี้ คงต้องอุดอีจีอาร์แล้วมั้งครับ ขอถามเพิ่มเติมครับ ถ้าในกรณีเราไม่อุดอีจีอาร์
แต่เราเปลี่ยนน้ำมันใช้แบบกึ่งสังเคราะห์ดีๆ แล้วเปลี่ยนทุก5พันกิโล มันจะช่วยลดคราบเขม่าที่เกาะในห้องเครื่องได้ไหมครับ ที่ผมเข้าใจคือ มันเกิดจากการเผาไหม้ซ้ำ คือการเอาของเสียส่วนนึงกลับมาเผาไหม้ใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์ปล่อยก๊าซเสียออกมาข้างนอกให้น้อยที่สุด ฉะนั้นเมื่อใช้งานในเมือง รถติด รอบต่ำบ่อยๆ การเผาไหม้ การคาย ทำงานได้ไม่เต็มที่ คราบเขม่าทั้งหลายจึงอุดเกาะเยอะ ทำให้เกิดการอุดตัน ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา และในมุมมองผม ผมคิดว่า ทุกวันนี้น้ำมันดีเซลสะอาดมากขึ้น ถ้าเราเปลี่ยนน้ำมันทุก5พันโล บวกกับเติมดีเซลเกรดดีๆ พอจะช่วยลดปัญหานี้ได้ไหมครับ ในกรณีถ้าเราไม่อุดอีจีอาร์ ขอสอบถามเป็นความรู้นิดนึงครับ 
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: CHANOM ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 10:48:05
เราเพิ่งมาทราบถึงปัญหานี้ หลังจากที่ซื้อมาแล้วได้ใช้เวลาในคลับมากขึ้น (พลาดเองที่ไม่ศึกษาให้ละเอียดก่อน) ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องการจูนปิด egr เหมือนกันค่ะ (เราใช้รถในเมือง 98% ยังไงก็สั่นแน่ๆ) แต่ก็ไม่กล้าฟันธงเหมือนกัน ว่าจะช่วยไหมในระยะยาว

เห็นบางคันเขาไปเปลี่ยนอะไหล่ที่ว่า (สปริงวาล์ว) แล้วก็กลับมาเป็นอีกรอบ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าประกันหมดแล้วยังไง ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อต้องยอมจ่ายทุก 50,000 กิโลหรอ

6 เดือน 7,000 กิโลเมตรที่ผ่านมา ถามว่ารักรถคันนี้ไหม ก็รัก แต่ปัญหาที่ได้ยินมาก็ทำให้ความรักของเราไม่ 100% ค่ะ รถเจ็ดแสนกว่าบาท ราคาอาจจะไม่สูงมากสำหรับบางคน แต่เราไม่ได้จ่ายเงินขนาดนี้ เพื่อจะมานั่งลุ้นว่า รถฉันจะสั่นเมื่อไหร่นะ แซงรอบนี้จะพ้นหรือเปล่า บางทีก็เสียดาย ว่าน่าจะค้านที่บ้านมากกว่านี้ และเอาตัว 1.3 มา บางทีก็คิดจะยอมๆขาดทุน และปล่อยไปเหมือนกันค่ะ  :'(

หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Noncyclopedia ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 10:52:25
เราเพิ่งมาทราบถึงปัญหานี้ หลังจากที่ซื้อมาแล้วได้ใช้เวลาในคลับมากขึ้น (พลาดเองที่ไม่ศึกษาให้ละเอียดก่อน) ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องการจูนปิด egr เหมือนกันค่ะ (เราใช้รถในเมือง 98% ยังไงก็สั่นแน่ๆ) แต่ก็ไม่กล้าฟันธงเหมือนกัน ว่าจะช่วยไหมในระยะยาว

เห็นบางคันเขาไปเปลี่ยนอะไหล่ที่ว่า (สปริงวาล์ว) แล้วก็กลับมาเป็นอีกรอบ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าประกันหมดแล้วยังไง ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อต้องยอมจ่ายทุก 50,000 กิโลหรอ

6 เดือน 7,000 กิโลเมตรที่ผ่านมา ถามว่ารักรถคันนี้ไหม ก็รัก แต่ปัญหาที่ได้ยินมาก็ทำให้ความรักของเราไม่ 100% ค่ะ รถเจ็ดแสนกว่าบาท ราคาอาจจะไม่สูงมากสำหรับบางคน แต่เราไม่ได้จ่ายเงินขนาดนี้ เพื่อจะมานั่งลุ้นว่า รถฉันจะสั่นเมื่อไหร่นะ แซงรอบนี้จะพ้นหรือเปล่า บางทีก็เสียดาย ว่าน่าจะค้านที่บ้านมากกว่านี้ และเอาตัว 1.3 มา บางทีก็คิดจะยอมๆขาดทุน และปล่อยไปเหมือนกันค่ะ  :'(
ไล่ตามในคลับก้อเริ่มเยอะ. กลุ่มที่ยอมรับความจริงก้อช่วยเปิดใจให้ลุกค้าหลังๆแก้ถุกทาง
แต่พวกหลับหุหลับตาเชียร์ในคลับนี้แทนที่จะช่วย กับมาสด้าไทยแลนด์แก้.
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: CHANOM ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 11:06:18
เราเพิ่งมาทราบถึงปัญหานี้ หลังจากที่ซื้อมาแล้วได้ใช้เวลาในคลับมากขึ้น (พลาดเองที่ไม่ศึกษาให้ละเอียดก่อน) ตอนนี้กำลังศึกษาเรื่องการจูนปิด egr เหมือนกันค่ะ (เราใช้รถในเมือง 98% ยังไงก็สั่นแน่ๆ) แต่ก็ไม่กล้าฟันธงเหมือนกัน ว่าจะช่วยไหมในระยะยาว

เห็นบางคันเขาไปเปลี่ยนอะไหล่ที่ว่า (สปริงวาล์ว) แล้วก็กลับมาเป็นอีกรอบ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าประกันหมดแล้วยังไง ต้องเป็นค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อต้องยอมจ่ายทุก 50,000 กิโลหรอ

6 เดือน 7,000 กิโลเมตรที่ผ่านมา ถามว่ารักรถคันนี้ไหม ก็รัก แต่ปัญหาที่ได้ยินมาก็ทำให้ความรักของเราไม่ 100% ค่ะ รถเจ็ดแสนกว่าบาท ราคาอาจจะไม่สูงมากสำหรับบางคน แต่เราไม่ได้จ่ายเงินขนาดนี้ เพื่อจะมานั่งลุ้นว่า รถฉันจะสั่นเมื่อไหร่นะ แซงรอบนี้จะพ้นหรือเปล่า บางทีก็เสียดาย ว่าน่าจะค้านที่บ้านมากกว่านี้ และเอาตัว 1.3 มา บางทีก็คิดจะยอมๆขาดทุน และปล่อยไปเหมือนกันค่ะ  :'(
ไล่ตามในคลับก้อเริ่มเยอะ. กลุ่มที่ยอมรับความจริงก้อช่วยเปิดใจให้ลุกค้าหลังๆแก้ถุกทาง
แต่พวกหลับหุหลับตาเชียร์ในคลับนี้แทนที่จะช่วย กับมาสด้าไทยแลนด์แก้.

บางคนโดนหลอก (หรือปักใจเชื่อเอง) และฟันธงว่าตัว 2017 ไม่มีปัญหานี้แล้ว เราเข้าใจว่าทาง MST ไม่ได้ทำอะไรกับเครื่องนะคะ งงเหมือนกันว่าทำไมถึงคิดอย่างงั้น  :'(
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: zixes ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 11:33:50
ทางแก้จริงๆคืออุด egr ตัด dpf

แล้วจูนปิดระบบซะ น่าจะเป็นการแก้ปัญาหาระยะยาว

แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ลูกค้าต้องมานั่งแก้เอง

เรื่องแบบนี้ซักวันต้องส่งผลถึงยอดขายแน่ถ้าไม่ทำอะไร

ลูกค้าพอรู้เรื่องรถก็ดีไป ลูกค้าอีกแบบก็ต้องมานั่งกังวล
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 12:05:55
ผมซื้อ lot แรกเลยนะ ว่าง่ายๆ ก็หนูลองยารุ่นแรกนั่นละ
เป็นสมาชิกคลับรุ่นแรกด้วย แต่เบื่อขาอวยกล่องจูน เลยไม่ค่อยได้เข้าไปเท่าไหร่
ด้วยความวิ่ง ตจว. บ่อย ก็เลยไม่เจอ  ผมออก ตจ. เดือนนึง 2หน.นะ
...............................
เรื่อง DPF ข้างบนบอกไว้ละเอียดแล้วนิ
..............................
ถ้าถามผมนะ
ถ้าคุณเติมน้ำมัน 1 ถัง แล้วมีโอกาสได้อัดยาวๆ 110-120 แค่สักครั้ง ก็พอแล้วครับ(หาเรื่องเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ ละกัน)
แต่ถ้าไม่ ผมว่าซวยแล้วที่ซื้อดีเซล(และถ้าซื้อดีเซลแล้วไม่มีทางยาวๆให้อัด ผมว่าจะซื้อดีเซลมาทำไม - - ")
อุด EGR ถอด DPF ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ
แต่ถ้าคุณจะหาเรื่องให้ MST ทิ้งประกันรถคุณ ก็ตามใจครับ เพราะมันพันกับระบบไฟ ระบบเซนเซอร์ทั้งหมด จะลองก็ได้ครับ รถคุณ ไม่ใช่รถผม
คุณอาจจะทำแล้วดี(แต่ควันเหม็นในบ้าน) ก็ได้ครับ
........................................
ส่วนเรื่องการแก้ไขของ MST ทำใจไว้เลยครับว่า ช้าาาาาาา มากกกกกก
จำ Mz3 ไฟโชว์ได้ไหมครับ กว่าจะจบ ก็ไมเนอร์ แล้วจนบัดนี้ ถึงจะดูเหมือนจบ แต่ทุกคนที่ใช้ Mz3 ก็มีคำแนะนำหลังโชว์รูมว่า อย่าไปเติม E85 ถ้าไม่จำเป็น...
ก็เคยบอกแล้ว ว่าค่ายนี้มันอินดี้ในกระทู้ก่อนๆ คนเชียร์ก็มาพูดจังว่าไม่มีปัญหา.....
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: superest ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 12:12:51
Cx3 d กับ cx5 2.2d เป็นด้วยไหมครับ?
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 12:31:44
ผมซื้อ lot แรกเลยนะ ว่าง่ายๆ ก็หนูลองยารุ่นแรกนั่นละ
เป็นสมาชิกคลับรุ่นแรกด้วย แต่เบื่อขาอวยกล่องจูน เลยไม่ค่อยได้เข้าไปเท่าไหร่
ด้วยความวิ่ง ตจว. บ่อย ก็เลยไม่เจอ  ผมออก ตจ. เดือนนึง 2หน.นะ
...............................
เรื่อง DPF ข้างบนบอกไว้ละเอียดแล้วนิ
..............................
ถ้าถามผมนะ
ถ้าคุณเติมน้ำมัน 1 ถัง แล้วมีโอกาสได้อัดยาวๆ 110-120 แค่สักครั้ง ก็พอแล้วครับ(หาเรื่องเที่ยวจังหวัดใกล้ๆ ละกัน)
แต่ถ้าไม่ ผมว่าซวยแล้วที่ซื้อดีเซล(และถ้าซื้อดีเซลแล้วไม่มีทางยาวๆให้อัด ผมว่าจะซื้อดีเซลมาทำไม - - ")
อุด EGR ถอด DPF ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ
แต่ถ้าคุณจะหาเรื่องให้ MST ทิ้งประกันรถคุณ ก็ตามใจครับ เพราะมันพันกับระบบไฟ ระบบเซนเซอร์ทั้งหมด จะลองก็ได้ครับ รถคุณ ไม่ใช่รถผม
คุณอาจจะทำแล้วดี(แต่ควันเหม็นในบ้าน) ก็ได้ครับ
........................................
ส่วนเรื่องการแก้ไขของ MST ทำใจไว้เลยครับว่า ช้าาาาาาา มากกกกกก
จำ Mz3 ไฟโชว์ได้ไหมครับ กว่าจะจบ ก็ไมเนอร์ แล้วจนบัดนี้ ถึงจะดูเหมือนจบ แต่ทุกคนที่ใช้ Mz3 ก็มีคำแนะนำหลังโชว์รูมว่า อย่าไปเติม E85 ถ้าไม่จำเป็น...
ก็เคยบอกแล้ว ว่าค่ายนี้มันอินดี้ในกระทู้ก่อนๆ คนเชียร์ก็มาพูดจังว่าไม่มีปัญหา.....

มันต้องแบบนี้แหละ เดิมๆ
ผมเคยพลาดซื้อรถ เพราะมีเฟริมแวร์ใหม่ออกมา คิดว่าปัญหาจะจบ ตัดสินใจซื้อเลย สุดท้ายมันก็ไม่ได้ตรงจุดเลย และก็ไม่มีการแก้ปัญหาเกิดขึ้น ทนใช้ไปเรื่อยๆแสนทรมาน

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าพึ่งน้ำบ่อหน้า ถ้ามันไม่ชัดเจนก็ควรรอดูผลระยะยาว และคนในคลับก็แค่คนใช้งาน การแก้ปัญหาก็อาจจะไม่ตรงจุด  บางคนมีผลประโยชน์แฝง หวังไปพึ่งตรงนั้นพลาดได้
ควรขะชัดเจนจากผู้ผลิตและรอดูผลมากกว่า
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 13:19:12
DPF ก็ใช้ในรถยุโรปมานานพอสมควรแล้วนะ ทราบมาว่าน้ำมันเครื่องก็ต้องแบบสำหรับ DPF ด้วยใช่ไหม แล้วมาสด้าไปทำอะไรอยู่ถึงออกแบบระบบให้เกิดปัญหา

หรือเหมือนรถยุโรปสมัยก่อนที่ระบบเครื่องยนต์จุกจิกเพราะมัวแต่วิ่งทดสอบทางไกลและอากาศเย็น เจอเมืองร้อนตายอย่างเดียว แก้ปัญหากันไม่เป็นเลย
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: wa330 ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 13:19:52
M2D เรื่องท่อกับegr ผมเคยบอกไปแล้วนะคับว่าทำแล้วเป็นไง
ท่านที่โลกสวย ไม่ใช่สายควันกลัวเหม็น อย่าทำตามคับใช้เดิมๆไปนะ
 เครื่องตัวนี้จริงๆแล้วไม่ได้ล้ำกว่าดีเซลตัวอื่นในยุคนี้เท่าไรหลอกคับ
แค่ใส่ของแปลกๆมาเกินตัว อ้อ อินเตอร์น้ำอีกอย่าง ถ้ารั่วในแล้วไม่รู้ก็มีเครื่องพังละ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: blitzpao ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 15:01:09
สงสัยมาสด้าได้เอาเครื่อง 1.5  เบนซินมาขายตอน Minor Change
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 15:12:27
M2D เรื่องท่อกับegr ผมเคยบอกไปแล้วนะคับว่าทำแล้วเป็นไง
ท่านที่โลกสวย ไม่ใช่สายควันกลัวเหม็น อย่าทำตามคับใช้เดิมๆไปนะ
 เครื่องตัวนี้จริงๆแล้วไม่ได้ล้ำกว่าดีเซลตัวอื่นในยุคนี้เท่าไรหลอกคับ
แค่ใส่ของแปลกๆมาเกินตัว อ้อ อินเตอร์น้ำอีกอย่าง ถ้ารั่วในแล้วไม่รู้ก็มีเครื่องพังละ
ต้องอุด EGR  ใช่ไหมครับ    แล้วท่ออินเตอร์จะแ้ก้ยังไงครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 15:39:49
สงสัยมาสด้าได้เอาเครื่อง 1.5  เบนซินมาขายตอน Minor Change
น่าจะยากครับ เพราะต้องทำให้ผ่าน eco 2 ขนาดเบนซิน 1.3ยังปริ่มๆ เลยครับ
ถ้าไม่ผ่าน eco2 ราคา 1.5เบนซินจะพอๆกับดีเซลตอนนี้ ประหยัดเหลือสัก 18-19จาก22...ใครจะซื้อละครับ
ผมว่าถ้ามันจะมาแทน คนคงไล่ซื้อดีเซลเก็บแน่ๆ ละครับ
..............
ก็คงต้องแยกกลุ่มชัดเจนละ ถ้าจะวิ่งในเมือง ไม่คิดออก ตจว. หรือ ออก ตจว.แค่ 1ครั้งต่อเดือน
เบนซิน 1.3 พอแล้ว(1.3ตัวนี้ ก็พอๆ กับ 1.5เก่านะ ไม่ได้แย่เลย)
ถ้ามีเวลาได้ซิ่ง ได้วิ่งยาวๆ บ้าง ก็ดีเซลไปละครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 16:03:39
รถดีเซลยุโรปเป็นไหมคะ รถที่บ้่านใช้มาเป็น10ปี ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ยังมุดกระจาย กินน้ำมัน 18โลลิตร+ทั้ง2คัน(Passat TDI, 520d) หรือเป็นแค่มาสด้า
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: faked ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 17:36:41
ปัญหาเชิงลึกขนาดนี้เห็นใจคนซื้อที่ไม่ได้รู้เรื่องมาก่อนครับรวมถึงคุณผู้หญิงทั้งหลายด้วย มันไม่ใช่เรื่อง common ทั่วไปเลยจริงๆในการตัดสินใจซื้อรถ  :(
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: bravo ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 18:05:25
M2D เรื่องท่อกับegr ผมเคยบอกไปแล้วนะคับว่าทำแล้วเป็นไง
ท่านที่โลกสวย ไม่ใช่สายควันกลัวเหม็น อย่าทำตามคับใช้เดิมๆไปนะ
 เครื่องตัวนี้จริงๆแล้วไม่ได้ล้ำกว่าดีเซลตัวอื่นในยุคนี้เท่าไรหลอกคับ
แค่ใส่ของแปลกๆมาเกินตัว อ้อ อินเตอร์น้ำอีกอย่าง ถ้ารั่วในแล้วไม่รู้ก็มีเครื่องพังละ

ทำไมคนที่ไม่อุด EGR ถึงต้องโดนว่า เป็นพวกโลกสวยด้วยล่ะครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: CHANOM ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 18:06:37
รถดีเซลยุโรปเป็นไหมคะ รถที่บ้่านใช้มาเป็น10ปี ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ยังมุดกระจาย กินน้ำมัน 18โลลิตร+ทั้ง2คัน(Passat TDI, 520d) หรือเป็นแค่มาสด้า

เราตัดสินใจซื้อ 2 Diesel เพราะติดใจ Benz Diesel สองคันที่บ้านแหละค่ะ ใช้มาเป็นสิบปี ไม่เคยมีปัญหาด้านเครื่องยนต์เลย ตอนซื้อก็คิดว่าผ่านมา 10 ปีแล้ว เครื่องดีเซล น่าจะยิ่งใช้ง่ายและทนกว่าเดิม ที่ไหนได้  ;D

ปล. อ่านบางความเห็นแล้วงง "ไม่ออกตจว. และซื้อดีเซลมาทำไม" ทำไมเครื่องดีเซลของยี่ห้ออื่น วิ่งในเมืองมาเป็นปีๆ ถึงไม่มีปัญหาละคะ เครื่องมันมีปัญหา แต่มาบอกว่าเป็นคนใช้รถ อันนี้ไม่ใช่ละค่ะ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 18:27:05
ขอโทษ คห. บนที่อาจจะทำให้เข้าใจผิดครับ
คือตอน Mz2 ออกตัวเบนซินมา และมีคนถามผมบ่อยว่า ออกอะไรดี ใช้แต่ในเมือง ผมก็มักจะให้ออกเบนซินดีกว่า ถูกกว่าเป็นแสน ใช้ในเมืองก็ไม่ได้ใช้จุดเด่นของดีเซลอะไรเลย
แต่ในหลายๆที่ ทั้งในโซเชียล ในคลับ คนเล่นรถหลายๆคน มักจะยุให้เอาดีเซลไปเลย โดยไม่ถามเลยว่าใช้รถยังไง วิ่งแบบไหนบ้างนั่นละครับ...
ดีเซลในรถยุโรป เทียบกับรุ่นเบนซิน เรื่องความสิ้นเปลืองมันต่างกันเยอะ มันน่าใช้กว่าถึงแม้ว่าขับในเมือง อย่างลูกพี่ผมก็ใช้ captiva ดีเซล ก็ติดใจ คันใหม่ก็มาใช้ 320D ทั้งๆที่ she ก็แทบจะขับแต่ในเมือง...
แต่ Mz2 เบนซินกับดีเซล ใช้ในเมืองแทบไม่มีนัยยะเลยครับ ถึงพิมพ์ไปว่า ถ้าไม่ได้ออกนอกเมือง ไม่กดเกินครึ่งคันเร่ง ก็ไม่รู้จะเอาดีเซลไปทำไม
(แต่ถ้ากดเกินครึ่งทุกถัง หรือออกนอกเมืองประจำ ก็ไม่น่ากังวลเรื่อง DPF)
อีกอย่างนึง ผมไม่คิดว่า ดีเซลตัวนี้จะอยู่นานกว่าเบนซินมากมายนะครับ ถึงเวลาไม่เกิน 10ปีถ้าใช้เยอะก็น่าจะเปลื่ยนรถ ถ้าไปมองระบบอื่นๆที่พ่วงมาอีก i eloop etc. อาจจะเสื่อมจนจุกจิก ใช้ไม่ทนเหมือนดีเซลรุ่นก่อนก็ได้ครับ
อีกอย่างคือ(อันนี้เดา) เครื่องมันเล็ก 1.5D แรงดันไอเสียออกมันน้อยกว่ายุโรปบล็อกใหญ่(แถมจูนมาเน้นประหยัด ลดมลพิษมากด้วย) เขม่าน่าจะจับตัวง่ายกว่านะ(อันนี้เดาล้วนๆ)
....
ก็ขอโทษอีกครั้งครับ ถ้าพิมพ์แล้วทำให้รู้สึกไม่ดีครับ กรณีนี้เจ้าของรถไม่ได้ผิดครับ mazda ต้องแก้ไขครับ รถควรจะใช้งานได้ทุกสภาวะตามสมควรอยู่แล้ว
....
แต่ก็ฝากบอกชาว Mz2skyD ละกันครับ ในฐานะผมเป็นหนูลองยารุ่นแรกๆ  ผ่านมาเยอะ เจ็บมาเยอะ รถคันนี้ดราม่ามากทั้งเรื่องดีและแย่
เอาเครื่องดีเซล ไปออกกำลังไล่เขม่า น่าจะเป็นทางออกที่ดีสุดในตอนนี้ครับ วิ่งทางด่วน โทเวย์ตอนรถโล่งๆบ้าง 110-120 สัก 10-20นาทีมีแอบกดเกินครึ่งบ้าง(ผมประจำ ตอนจ่ายค่าโทเวย์ตรงดินแดง พอขึ้นโทเวย์ก็กดอัดไปเลย) ต่อน้ำมัน 1ถังผมว่าก็น่าจะพอเอาตัวรอดจนว่า MST จะออกมาตอบคำถามนะ(อาจจะประมาณปีหน้าตามสไตล์ - -" )
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Cheap and cheerful ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 19:33:00
ขอบคุณทุกคนนะครับ ผมให้เขาไป 1.3 เเล้วครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 20:03:48
ผมคิดว่าทาง Mazda แก้ตามที่หลายๆท่านบอกให้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าแก้ให้แล้วต้องตอบคำถามเรื่องค่าไอเสียและภาษีกับรัฐงานนี้มีหนักนะผมว่า ลูกค้าคงต้องไปทำเองล่ะครับ อยากรู้จังว่าต่างประเทศเค้าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง :(
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 22:21:35
ผมคิดว่าทาง Mazda แก้ตามที่หลายๆท่านบอกให้ไม่ได้หรอกครับ ถ้าแก้ให้แล้วต้องตอบคำถามเรื่องค่าไอเสียและภาษีกับรัฐงานนี้มีหนักนะผมว่า ลูกค้าคงต้องไปทำเองล่ะครับ อยากรู้จังว่าต่างประเทศเค้าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง :(
คิดว่า ประเทศอื่นๆ เค้าไม่ได้มาเจอรถติดบ้าเลือดเหมือนสยามประเทศครับ น่าจะไม่เจอปัญหานี้
อีกอย่างประเทศไทยร้อนชื้น คุณภาพน้ำมันก็แกว่ง โอกาสเกิดเขม่าสูงมากกว่าที่อื่นเยอะครับ
และมาสด้าเอง เข้าใจว่าตอน test ไม่ได้มาเจอรถติดใน กทม. นะ เพราะเท่าที่จำได้ไม่มีสปายช็อตใน กทม.เลยนะ เห็นวิ่งแต่ระยองหนะ...
....
เรื่องแก้คงต้องให้วิศวกรเจ้าของค่ายเค้าจัดการละครับ
แต่มันก็บ่งบอกการเอาใจใส่ได้นะ ว่าคุณพร้อมขนาดไหน
สมัย Jazz E85 เร่งไม่ขึ้น จำได้ว่าฮอนด้าเคลียร์ปัญหาได้ไม่เกินสองเดือน.....เรามารอดูมาสด้ากันครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: bahamu ที่ พฤษภาคม 20, 2017, 23:37:19
วาล์วปิดไม่สนิท รู้ได้ยังไง ขนาดในแล็ปยังไม่สามารถส่งกล้องไปยังห้องเผาไหม้ได้
ถ้าปิดไม่สนิทจริง วาล์วคดไปแล้ว ขนาดน้ำเปล่าลงไปก้านสูบยังขาด
ฝาสูบจะมีเสียงถ้าลูกสูบกระแทกวาลว์ แค่บ่าวาล์วสึกหรือสกปรก เสียงเครื่องก็เปลี่ยนแล้ว

ถ้ารู้ดีขนาดนั้นทำไมไม่รื้อออกมาเองเลย ส่งโรงกลึงไปขัดใหม่ก็ได้
จะดูช่างศูนย์รื้อก็ได้ ถ่ายรูปมาดูก็รู้แล้ว ระบบไม่ต่างจากเครื่องกะบะ
แต่ไอเสียรุ่นนี้เป็นยูโร5 ไม่ใช่ยูโร4 ระบบหัวฉีดเป็นยูโร5ด้วย
ถ้าเขม่าเยอะขนาดนั้นหอยพังไปแล้ว รับไอเสียเต็มๆตลอดไม่ยักเสียกัน

เขม่ามากอาจเกิดจาก หัวฉีดจ่ายน้ำมันเกินมาในระบบ ที่สามแฉกw211เจอ
คือหัวฉีดซึม เข็มมีรอยเพราะถูกตะกรัน และความสกปรกของน้ำมันสะสมครูด
การจ่ายน้ำมันไม่คงที่ ถ้าเป็นทุกหัวแบบค่อยเป็นค่อยไป อาจดูยากหน่อย
แต่ถ้าเป็นหัวใดหัวหนึงจะฉุดเครื่อง เพราะมีแค่สามสูบ เครื่องน็อคได้ง่ายๆ

แต่นี้เครื่องเบาเดินเรียบ มีสั่นบางครั้ง บางเวลา ถ้าทุกครั้ง ทุกเวลา
ช่างจะต้องรื้อดู แบบไล่ที่จะจุด อาการเบาดับไม่มีแบบscvวาล์ว ของวีโก้
ก็ไม่พบ อันนั้นออกแบบมาไม่เหมาะกับน้ำมันไทยยุคยูโร3 กว่าจะแก้สองปี
เสียตังค์เปลี่ยนเองกันเยอะมาก แพงด้วยตอนหลังคงนึกได้เลยขายถูกลง
ใครใช้ของบอชก็รอดตัวไป ใช้เด็นโซ่ก็รอหน่อยแต่แก้จบหมด

ระบบตันจากน้ำมันมีค่ากำมะถันมากกว่า5ppm เป็น10ppm
การสะสมของเขม่าจึงเพิ่มเป็นเท่าตัว ยิ่งเติมปั้มหลอดหรือของชายแดน
จะเพิ่มเป็น200ppm จึงไม่แปลกที่ไม่หายง่ายแบบเจ้าตลาด
เพราะระบบแค่ยูโร4 เผื่อ3

น้ำมันเครื่อง ศูนย์บังคับให้ใช้ที่กำหนดเท่านั้น การเติมเองมีผลกับประกันรถ
ต้องใช้สังเคราะห์เท่านั้น มาตรฐานมาสด้าเท่าๆยุโรป ถ้าดูแลแบบมังกรทอง
ระบบไม่รอด ต้องการน้ำมันสะอาด นมค.ได้ตามมารฐานที่รองรับdpf
ได้แก่ volvo vds4,vds 4.5 ต่ำกว่านี้ไม่รับรอง แม้แต่แคทเตอฟิลล่าของเมกัน
เครื่องยังพังเพราะคนซื้อไปนึกกว่าดูแลแบบดีเซลเผาหัว ซ่อมทีบอกแพง ตีหัวลูกค้า
พอช่างถามวิธีดูแล กับทำตามคู่มือรึเปล่า ลูกค้าเงียบ ไม่ก็บอกไม่รู้นึกว่าฯ

cx5 ใช้หัวฉีดเปียโซ่ แบบเดียวกับสามแฉก ใบพัด ดูแลเหมือนกันๆ
ถ้าคิดกว่าดูแลแบบเครื่องธรรมดา ไม่แปลกที่จะไปเร็ว
การลดเขม่าสะสมในน้ำมันยูโร4 ที่ค่าซีเทนต่ำกว่าและกำมะถันสูงกว่าน้ำมันยูโร5
คือเติมหัวเชื้อดีเซล ตามระยะที่กำหนด ของศูนย์เรียกน้ำยาล้างหัวฉีด
ราคาไม่เท่ากัน อยู่ที่จ้างเขา หรือผลิดเอง แต่ไม่ใช่กระป๋องหลักสิบบาท
และไม่ได้แพงเวอร์ อย่างบางยี่ห้อจ้างใครทำไม่รู้ แพงอย่างกับนมค.สังเคาะห์

เพิ่มค่าซีเทน ทำให้ไม่ชิงจุดระเบิด เพิ่มสารพัดสารชะล้างที่เข้มข้นว่าเป็นเท่าตัว
คล้ายกับรังนกขวดกระเช้ามีรังนกแค่1% แต่พอไปซื้อแบบต้มขายที่เยาวราช
เพิ่มเกิน10% ลดเขม่าสะสม ล้างออกง่ายขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับนมค.ที่ได้มาตรฐาน
แต่ไม่ได้ทำให้เนื้อน้ำมันละเอียดขึ้น ยังไงกรอง ปั้ม หัวฉีด ต้องรับภาระหนักกว่าเดิม
สามแฉก ใบพัดถึงต้องเปลี่ยนหัวฉีดให้เพราะน้ำมันไม่เหมาะ
และยี่ห้อที่ใส่มาตอนแรกๆหัวฉีดไม่ดีด้วย

หัวเชื้อเบนซินก็ให้ผลคล้ายกัน แต่กับพวกฉีดตรง จะเติมออโต้ลูปแทนก็ได้
ถ้าคิดว่าแพงเกิน สำหรับถังน้ำมันเหล็กยังไงก็ต้องเติมถ้าไม่อยากให้ผุ
ระวังปั้มแรงดันหัวฉีด กับชุดเซ็นเซอร์เพลาลูกเบี้ยว เปลี่ยนทีสี่หมื่นซ่อมไม่ได้
น้ำมันเบนซินเติมที่สะอาด ยูโร5 เปลี่ยนกรองเบนซินบ่อยๆ

การขับไล่เขม่า คือ เหยียบไล่รอบเครื่องให้ถึงสามพันรอบขึ้นไป
ถ้าเกียร์หนึ่งเหยียบไป ต่อสอง สาม แล้วมีควันดำออกจากท่าไอเสีย
นั้นคือเขม่าที่สะสมในเครื่อง ไม่ต้องวิ่งเร็วเกินร้อยก็ไล่เขม่าได้
แต่ต้องมีทางวิ่งตรงๆ ยาวๆ ให้รถออกกำลังกายบ้าง จะเร่งอยู่กับที่ก็ได้แต่เหม็นควันมาก

ตรวจกรองโซล่า ใต้ท้องเครื่องด้วยว่าในถ้วยมีน้ำเต็มรึยัง ถ้าน้ำเข้าไปในระบบไม่มาก
เครื่องจะสะอึด เข้าไปมากๆก้านสูบขาด ดันวาล์วทะลุ เครื่องตัวนี้แรงอัดต่ำหน่อย
ถ้าเข้าน้อยอาการจะเบากว่ากะบะ และเปลี่ยนกรองโซล่าถ้าน้ำเต็มเร็ว แสดงว่ากรองตัน
แรงดันน้ำมันไม่คงที่ ส่วนใหญ๋สองถึงสามปีเปลี่ยนที หรือสี่หมื่นโลถ้าวิ่งเยอะ
เพราะปั้มที่ได้มาตรฐาน จะมีน้ำซึมไปที่ถังใต้ดินน้อยมาก มีกรองน้ำมันที่หัวจ่ายอีกที

ปั้มติ๊กที่เจอๆ ขั้วปลั๊กไม่แน่น ไฟเดินติดขัด เกิดอาการดับดื้อๆ ในโค้ง w212ก็เป็น
ปล่อยให้น้ำมันน้อยกว่าครึ่งถัง หรือไฟแดงขึ้น ตัวปั้มจะร้อนเพราะไม่มีน้ำมันในถังหล่อเย็น
ยิ่งในมหาชน เวนโต้ ใบพัดยางปั้มแห้งแตก ต้องเติมน้ำมันทุกครึ่งถัง ปั้มจะทนทาน
และตะกอนสะสมใต้ถังจะไม่ปั้มเข้าสู่ระบบ
ส่วนปั้มเสีย จากผู้ผลิตเจอก็เครมกันไป แต่พบน้อยในดีเซล แต่เบนซินe85 ลูกลอยรวนบ่อย
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: TorTy ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 00:30:21
ยังขาดการสื่อสารกับให้ข้อมูลลูกค้าที่ดีเอาแค่น้ำมันเครื่องที่ไม่รองรับระบบ DPF ในบ้านเรามีเยอะมากก็เกิดปัญหานระยะยาวได้
น้ำมันดีเซลเองก็เหมือนกันแนะนำว่าสำหรับประเทศเราหาพวกพรีเมี่ยมดีเซลเติมหรือที่ผ่าน EURO 5

ส่วนถ้ามีปัญหากันเยอะบริษัทก็รีบแก้ไขซะกำลังขาขึ้นอย่าหลงตัวเหมือนฟอร์ดตอนขายเฟียสต้าดีๆทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเดี๋ยวจะตามเพื่อนเก่าลงเหว
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 03:04:08
สรุปผมยังเลือกไม่ได้อยู่ดี  สำหรับ Mazda 2  ดีเซลหรือเบนซินดี 
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 07:16:12
ตัว CX-5 เป็นด้วยหรือเปล่าครับ ปัญหานี้
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Suriya 640 ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 13:18:25
ตัว CX-5 เป็นด้วยหรือเปล่าครับ ปัญหานี้

เท่าที่เจอให้กลุ่ม ผมยังไม่เหนเลย ถ้าเห็นแต่คนที่จะไปอุดกัน อาจเพราะเขาไปฝังตัวได้ไม่นาน แต่ ส่วนตัวผมใช้มาไม่เจอนะครับ อาจเพราะขับ cx-5 ข้าม จังหวัด 100 กว่ากิโลบ่อย ในแต่ละเดือน ใช้มาจะ 9 หมืนโลละ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 14:45:59
รถดีเซลยุโรปเป็นไหมคะ รถที่บ้่านใช้มาเป็น10ปี ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ยังมุดกระจาย กินน้ำมัน 18โลลิตร+ทั้ง2คัน(Passat TDI, 520d) หรือเป็นแค่มาสด้า

เราตัดสินใจซื้อ 2 Diesel เพราะติดใจ Benz Diesel สองคันที่บ้านแหละค่ะ ใช้มาเป็นสิบปี ไม่เคยมีปัญหาด้านเครื่องยนต์เลย ตอนซื้อก็คิดว่าผ่านมา 10 ปีแล้ว เครื่องดีเซล น่าจะยิ่งใช้ง่ายและทนกว่าเดิม ที่ไหนได้  ;D

ปล. อ่านบางความเห็นแล้วงง "ไม่ออกตจว. และซื้อดีเซลมาทำไม" ทำไมเครื่องดีเซลของยี่ห้ออื่น วิ่งในเมืองมาเป็นปีๆ ถึงไม่มีปัญหาละคะ เครื่องมันมีปัญหา แต่มาบอกว่าเป็นคนใช้รถ อันนี้ไม่ใช่ละค่ะ
เครื่องรุ่นเก่าๆจะไม่มีตัวกรองอนุภาคไอเสียหรือที่ท่านสมาชิกเรียกชื่อย่อกันว่า DPF ครับ ถ้าวิ่งแต่รถติดๆในเมืองอย่างเดียวก็อาจมีปัญหาอุดตันได้บ้าง วิธีไล่เขม่าถ้าเป็นรถAudiก็ใช้การวิ่งรอบสูงๆสัก2000รอบ/นาที ที่ความเร็ว60 ประมาณ15นาที ตามคู่มือครับ ถ้ายังไม่หายก็คงต้องเข้าอู่ครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Yeahyeahs ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 17:38:19
เนี่ย จุดอ่อนของเว็บนี้ก็คือพอมีปัญหาแบบนี้ ไม่เห็นมีใครที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเข้าไปหาคำตอบมาให้ประชาชนรู้เลยอ่ะ
เห็นไปงานเปิดตัวมาไม่รู้กี่งาน ผู้บริหารค่ายนู้นค่ายนี้ยืนกันเต็มไปหมด ไม่มีความคิดที่จะถามเรื่องปัญหาพวกนี้แล้วมานำเสนอบ้างเลยหรอครับ?

ทั้งเรื่องเกียร์ฟอร์ดที่ต้องติดตามข่าวจากสื่อหลักแทนที่สื่อด้านรถโดยตรงจะติดตามให้
ไหนจะสโกด้าจดทะเบียนไม่ได้ที่ตกลงตอนนี้ก็ไม่รู้จบยังไง ไหนจะเรื่องถุงลมทากาตะระเบิดเวลาที่มีอยู่ไม่รู้กี่หมื่นคันในไทย
แล้วยังมีไฟหน้าฟอร์จูนเนอร์แยงตาที่ต้องให้ถามในบอร์ดแล้วถึงจะตอบได้ว่าแก้แล้ว (มีข้อมูลอยู่แล้วทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรกหว่า)

ไปรอบสื่อมันทุกงาน ทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ครบๆหน่อยก็ดีครับ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นเซลล์ขายรถให้เค้า
คุณควรจะเป็นฝ่ายเดียวกับผู้บริโภคไม่ใช่ไปตีซี้กับค่ายรถ เข้าใจว่าอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าแต่ก็อยากให้คิดในมุมคนทั่วไปบ้างว่าเวลาจะซื้อรถเขาก็อยากรู้ปัญหา
ไม่ได้ขอว่าแบบรถใครพังคนนึงก็ต้องทำข่าว แต่ปัญหาแบบยกรุ่นขนาดนี้แล้วยังเฉยอยู่นี่ ผมว่าพิจารณานิดนึงเนอะ

วิธีทำข่าวปัญหาแบบที่ไม่เสี่ยงโดนฟ้องมันมีเยอะแยะครับ อย่าลืมว่าค่ายรถถ้าไม่มีสื่อเค้าก็มีผลเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 18:23:39
เนี่ย จุดอ่อนของเว็บนี้ก็คือพอมีปัญหาแบบนี้ ไม่เห็นมีใครที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเข้าไปหาคำตอบมาให้ประชาชนรู้เลยอ่ะ
เห็นไปงานเปิดตัวมาไม่รู้กี่งาน ผู้บริหารค่ายนู้นค่ายนี้ยืนกันเต็มไปหมด ไม่มีความคิดที่จะถามเรื่องปัญหาพวกนี้แล้วมานำเสนอบ้างเลยหรอครับ?

ทั้งเรื่องเกียร์ฟอร์ดที่ต้องติดตามข่าวจากสื่อหลักแทนที่สื่อด้านรถโดยตรงจะติดตามให้
ไหนจะสโกด้าจดทะเบียนไม่ได้ที่ตกลงตอนนี้ก็ไม่รู้จบยังไง ไหนจะเรื่องถุงลมทากาตะระเบิดเวลาที่มีอยู่ไม่รู้กี่หมื่นคันในไทย
แล้วยังมีไฟหน้าฟอร์จูนเนอร์แยงตาที่ต้องให้ถามในบอร์ดแล้วถึงจะตอบได้ว่าแก้แล้ว (มีข้อมูลอยู่แล้วทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรกหว่า)

ไปรอบสื่อมันทุกงาน ทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ครบๆหน่อยก็ดีครับ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นเซลล์ขายรถให้เค้า
คุณควรจะเป็นฝ่ายเดียวกับผู้บริโภคไม่ใช่ไปตีซี้กับค่ายรถ เข้าใจว่าอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าแต่ก็อยากให้คิดในมุมคนทั่วไปบ้างว่าเวลาจะซื้อรถเขาก็อยากรู้ปัญหา
ไม่ได้ขอว่าแบบรถใครพังคนนึงก็ต้องทำข่าว แต่ปัญหาแบบยกรุ่นขนาดนี้แล้วยังเฉยอยู่นี่ ผมว่าพิจารณานิดนึงเนอะ

วิธีทำข่าวปัญหาแบบที่ไม่เสี่ยงโดนฟ้องมันมีเยอะแยะครับ อย่าลืมว่าค่ายรถถ้าไม่มีสื่อเค้าก็มีผลเหมือนกัน

เห็นด้วยมากๆครับ

ถ้ามันชัดเจนและมีการแก้ไขแล้ว ก็ถือว่าใครที่จะซื้อไม่ต้องลังเล แต่ถ้าไม่ยอมแก้ไขก็ยอมรับชะตารนไม่กล้าซื้อต่อไป ผมว่าไม่มีอะไรเสียหายถ้าจะยืดอกรับว่ารถเคยมีปัญหาแต่แก้ไขไปแล้ว ดีกว่าปิดข่าวแก้ตัวไปเรื่อย
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 18:28:35
เนี่ย จุดอ่อนของเว็บนี้ก็คือพอมีปัญหาแบบนี้ ไม่เห็นมีใครที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเข้าไปหาคำตอบมาให้ประชาชนรู้เลยอ่ะ
เห็นไปงานเปิดตัวมาไม่รู้กี่งาน ผู้บริหารค่ายนู้นค่ายนี้ยืนกันเต็มไปหมด ไม่มีความคิดที่จะถามเรื่องปัญหาพวกนี้แล้วมานำเสนอบ้างเลยหรอครับ?

ทั้งเรื่องเกียร์ฟอร์ดที่ต้องติดตามข่าวจากสื่อหลักแทนที่สื่อด้านรถโดยตรงจะติดตามให้
ไหนจะสโกด้าจดทะเบียนไม่ได้ที่ตกลงตอนนี้ก็ไม่รู้จบยังไง ไหนจะเรื่องถุงลมทากาตะระเบิดเวลาที่มีอยู่ไม่รู้กี่หมื่นคันในไทย
แล้วยังมีไฟหน้าฟอร์จูนเนอร์แยงตาที่ต้องให้ถามในบอร์ดแล้วถึงจะตอบได้ว่าแก้แล้ว (มีข้อมูลอยู่แล้วทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรกหว่า)

ไปรอบสื่อมันทุกงาน ทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ครบๆหน่อยก็ดีครับ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นเซลล์ขายรถให้เค้า
คุณควรจะเป็นฝ่ายเดียวกับผู้บริโภคไม่ใช่ไปตีซี้กับค่ายรถ เข้าใจว่าอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าแต่ก็อยากให้คิดในมุมคนทั่วไปบ้างว่าเวลาจะซื้อรถเขาก็อยากรู้ปัญหา
ไม่ได้ขอว่าแบบรถใครพังคนนึงก็ต้องทำข่าว แต่ปัญหาแบบยกรุ่นขนาดนี้แล้วยังเฉยอยู่นี่ ผมว่าพิจารณานิดนึงเนอะ

วิธีทำข่าวปัญหาแบบที่ไม่เสี่ยงโดนฟ้องมันมีเยอะแยะครับ อย่าลืมว่าค่ายรถถ้าไม่มีสื่อเค้าก็มีผลเหมือนกัน

เห็นด้วยมากๆครับ

ถ้ามันชัดเจนและมีการแก้ไขแล้ว ก็ถือว่าใครที่จะซื้อไม่ต้องลังเล แต่ถ้าไม่ยอมแก้ไขก็ยอมรับชะตารนไม่กล้าซื้อต่อไป ผมว่าไม่มีอะไรเสียหายถ้าจะยืดอกรับว่ารถเคยมีปัญหาแต่แก้ไขไปแล้ว ดีกว่าปิดข่าวแก้ตัวไปเรื่อย

ครับ ข้อดี ข้อเสีย ดีเฟคท์ ควรทำให้ถึงกึ๋นครับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: Noncyclopedia ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 18:41:08
เนี่ย จุดอ่อนของเว็บนี้ก็คือพอมีปัญหาแบบนี้ ไม่เห็นมีใครที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเข้าไปหาคำตอบมาให้ประชาชนรู้เลยอ่ะ
เห็นไปงานเปิดตัวมาไม่รู้กี่งาน ผู้บริหารค่ายนู้นค่ายนี้ยืนกันเต็มไปหมด ไม่มีความคิดที่จะถามเรื่องปัญหาพวกนี้แล้วมานำเสนอบ้างเลยหรอครับ?

ทั้งเรื่องเกียร์ฟอร์ดที่ต้องติดตามข่าวจากสื่อหลักแทนที่สื่อด้านรถโดยตรงจะติดตามให้
ไหนจะสโกด้าจดทะเบียนไม่ได้ที่ตกลงตอนนี้ก็ไม่รู้จบยังไง ไหนจะเรื่องถุงลมทากาตะระเบิดเวลาที่มีอยู่ไม่รู้กี่หมื่นคันในไทย
แล้วยังมีไฟหน้าฟอร์จูนเนอร์แยงตาที่ต้องให้ถามในบอร์ดแล้วถึงจะตอบได้ว่าแก้แล้ว (มีข้อมูลอยู่แล้วทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรกหว่า)

ไปรอบสื่อมันทุกงาน ทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ครบๆหน่อยก็ดีครับ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นเซลล์ขายรถให้เค้า
คุณควรจะเป็นฝ่ายเดียวกับผู้บริโภคไม่ใช่ไปตีซี้กับค่ายรถ เข้าใจว่าอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าแต่ก็อยากให้คิดในมุมคนทั่วไปบ้างว่าเวลาจะซื้อรถเขาก็อยากรู้ปัญหา
ไม่ได้ขอว่าแบบรถใครพังคนนึงก็ต้องทำข่าว แต่ปัญหาแบบยกรุ่นขนาดนี้แล้วยังเฉยอยู่นี่ ผมว่าพิจารณานิดนึงเนอะ

วิธีทำข่าวปัญหาแบบที่ไม่เสี่ยงโดนฟ้องมันมีเยอะแยะครับ อย่าลืมว่าค่ายรถถ้าไม่มีสื่อเค้าก็มีผลเหมือนกัน

เห็นด้วยมากๆครับ

ถ้ามันชัดเจนและมีการแก้ไขแล้ว ก็ถือว่าใครที่จะซื้อไม่ต้องลังเล แต่ถ้าไม่ยอมแก้ไขก็ยอมรับชะตารนไม่กล้าซื้อต่อไป ผมว่าไม่มีอะไรเสียหายถ้าจะยืดอกรับว่ารถเคยมีปัญหาแต่แก้ไขไปแล้ว ดีกว่าปิดข่าวแก้ตัวไปเรื่อย

ครับ ข้อดี ข้อเสีย ดีเฟคท์ ควรทำให้ถึงกึ๋นครับ
ครับ.   หากไม่แก้ผมก้อขายแล้วไปจัดAltis
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: wa330 ที่ พฤษภาคม 21, 2017, 23:16:49
เอาจริงๆเรื่องนี้เรื่องเล็กมากแก้ง่ายๆอยู่ที่เจ้าของรถจะซีเรียสมากหรือป่าวแค่นั้นเอง
ทำทีเดียวไม่ต้องมาคอยกังวลลืมโน้นนี้หรือป่าว
แค่ไฟรูปเครื่องโชว์แล้วจบปัญหา รถวิ่งดีกว่าเดิมชัดเจน เพลงไม่ต้องฟัง ฟังเสียงท่อแหบๆแทน
กดทีควันไหลสวยๆ ถ้าได้ลองจะติดใจ แค่นี้ละคับ พูดจริงไม่ได้ล้อเล่นนะ
ดูjazzป้ายแดงเซ็ทโบสิเป็นไรไหมไฟเครื่องโชว์ วิ่งกันให้เต็มเมือง
โดยเฉพาะย่านดอนเมือง สรงประภา ถ้าเห็นไฟแล้วไม่สบายใจแนะนำเอาอะไรมาปังไปแค่นั้นก็จบแล้ว
เชื่อผม รถป้ายแดงไปจูนกล่องเซ็ทโบ ให้ไฟเครื่องมันโชว์วิ่งกันอยู่ตอนนี้หลายร้อยเป็นพันคันคับ
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ พฤษภาคม 22, 2017, 02:54:21
รู้สึกว่าจะแก้ได้นะครับ ตามนี้
1. อุด EGR
2. ถอด DPF ออก เดินท่อใหม่
3. Reflash ปิดการทำงาน DPF
4. Reflash ecu เพิ่มแรงม้าและแรงบิด

ผลรถวิ่งดีขึ้นมาก อาการวูบหายไป ถ้าอยู่ในประกันต้องยอมรับว่าประกันศูนย์ขาดเพราะไปถอด DPF แต่ถ้าเทียบกับความปลอดภัยเวลาเร่งแซงไม่เจออาการวูบผมว่าคุ้มค่าครับ  :D

https://www.facebook.com/feeliqthailand/posts/1103480369737273

แรงม้า/แรงบิด ก่อน reflash
103.48 / 262.19 
แรงม้า/แรงบิด หลัง reflash
138.68 / 313.87
https://www.facebook.com/feeliqthailand/photos/pcb.1103480369737273/1103479956403981/?type=3&theater
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: sith(สิทธิ์) ที่ พฤษภาคม 22, 2017, 07:21:29
รู้สึกว่าจะแก้ได้นะครับ ตามนี้
1. อุด EGR
2. ถอด DPF ออก เดินท่อใหม่
3. Reflash ปิดการทำงาน DPF
4. Reflash ecu เพิ่มแรงม้าและแรงบิด

ผลรถวิ่งดีขึ้นมาก อาการวูบหายไป ถ้าอยู่ในประกันต้องยอมรับว่าประกันศูนย์ขาดเพราะไปถอด DPF แต่ถ้าเทียบกับความปลอดภัยเวลาเร่งแซงไม่เจออาการวูบผมว่าคุ้มค่าครับ  :D

https://www.facebook.com/feeliqthailand/posts/1103480369737273

แรงม้า/แรงบิด ก่อน reflash
103.48 / 262.19 
แรงม้า/แรงบิด หลัง reflash
138.68 / 313.87
https://www.facebook.com/feeliqthailand/photos/pcb.1103480369737273/1103479956403981/?type=3&theater

จริงๆมันแก้แบบนี้ได้ครับ แต่หลายคนกลัวเรื่องประกัน แต่ที่ผมห่วงคือ มีบางคนชอบหลงประเด็น ชอบคิดแต่ว่าทำแล้วต้องจูนให้ควันดำ กดทีควันดำคิดว่าสวย คิดว่าตัวเองแรง มีอยู่คนเดียวพยายามโยงแต่ทำนองนี้ อยากบอกว่า หากจูนเนอร์เก่งจริงๆ เค้าจูนให้ไม่ดำและก็แรงได้ครับ กดทีสบายใจได้ว่า ไม่ก่อกวน ไม่รบกวนเพื่อนร่วมทางแน่นอน จะมีปัญหาแต่กับคนชอบขับรถเดิมๆ ก็คงหวังให้มาสด้าแก้ไขให้
สำหรับคนไม่ชอบแบบตามลิงค์คงต้องพึ่งตัวเอง เท่าที่หาเจอคือ
1.วิ่งขับรถปกติ กดเร่งเล่นรอบบ้าง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานถึงระดับ
2.เติมน้ำมันสะอาด (น้ำมันบ้านเราสะอาดจริงไหม) ยูโรไฟร์ คิดว่าน่าจะช่วยได้ ส่วนน้ำมันดีเซลในไทยผมไม่ค่อยมั่นใจว่าสะอาดจริงๆ ใครมีรถดีเซลถอดกรองมาดูได้ ลองเทียบกันตอนเปลี่ยนใหม่ๆ กับเติมน้ำมันดีเซลไปแล้ว สามสี่ถัง และเปิดดูตอนถัง ที่เจ็ดที่แปด จะเห็นความต่างชัด ไม่รู้ปั้มไหนสะอาดสุด บางปั้มใหม่แต่ถังเก็บน้ำมันเก่าหรือเปล่า
3.น้ำมันเครื่องเปลี่ยนทุกห้าพัน (ผมว่าเปลืองเงิน) รถใช้ในเมืองภาวะรถติด ผมว่าอายุน้ำมันเครื่องจะไปก่อน ทำให้ประสิทธิภาพน้ำมันเครื่องที่แท้จริงทำงานด้อยลง มาสด้าคงต้องลดราคาน้ำมันเครื่อง แล้วเรียกเปลี่ยนทุกห้าพันกิโลแทน น่าจะพอช่วยได้
ผมว่าคนใช้งานรถยนต์ คงต้องรู้ตัวเองดีสุดละครับ ว่า ตัวเองขับรถเจอสภาวะแบบไหนมากสุด ต้องดูแลตัวเองแล้วละ ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ใช้งานรถในรูปแบบไหน เพราะมาหวังให้ค่ายรถแก้ปัญหาให้แบบจบ ผมว่า คนใช้งานเครียดตายก่อน ส่วนมากผมปรับตัวให้เข้ากับรถนะ ไม่งั้น ผมเครียดตายกับมิตซู ถ้าแก้จบผมก็โครตยินดี แต่ช้ามาก ผมก้หาทางของผมเอง จะมาเครียดทำไม แค่นี้คนไทยก็เครียดพอละ เจออะไรขัดใจบนถนนก็จ้องจะตีจะฆ่ากันละ ผมเลือกที่จะทำตัวไม่เครียด ทางออกมันมีแหละ เราคือคนเลือกเองว่า จะไปแนวไหน กลัวหมดประกันก็ใช้แบบสูตรผมดู ไม่กลัวหมดประกันก็ขับหาจูนเนอร์เลย ขอให้ใช้รถให้มีความสุขครับ ขอตอบในมุมมองส่วนตัวนะครับ มองจากข้างนอก เพราะไม่ได้ใช้มาสด้าสองดีเซล

หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: wa330 ที่ พฤษภาคม 22, 2017, 14:43:09
ที่ผมบอกไปนี้ไม่ต้องจูนเพิ่มเลยนะ เดินท่อ อุดegr แค่นั้้น
คุณไปไกลถึงจูนหนักๆเอาควันละ MZ2D เดิมๆถอดdpf กดทีควันก็ออกเป็นลูกแล้ว
อย่าหลงประเด็นอะไรก็จะดึงผมไปกับกระบะดันรางจูนหนักๆละ
ผมยังไม่ได้พูดเรื่องจูนกล่องอะไรเลย
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: J_Serie5 ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 04:07:42
รู้สึกว่าจะแก้ได้นะครับ ตามนี้
1. อุด EGR
2. ถอด DPF ออก เดินท่อใหม่
3. Reflash ปิดการทำงาน DPF
4. Reflash ecu เพิ่มแรงม้าและแรงบิด

ผลรถวิ่งดีขึ้นมาก อาการวูบหายไป ถ้าอยู่ในประกันต้องยอมรับว่าประกันศูนย์ขาดเพราะไปถอด DPF แต่ถ้าเทียบกับความปลอดภัยเวลาเร่งแซงไม่เจออาการวูบผมว่าคุ้มค่าครับ  :D

https://www.facebook.com/feeliqthailand/posts/1103480369737273

แรงม้า/แรงบิด ก่อน reflash
103.48 / 262.19 
แรงม้า/แรงบิด หลัง reflash
138.68 / 313.87
https://www.facebook.com/feeliqthailand/photos/pcb.1103480369737273/1103479956403981/?type=3&theater

จริงๆมันแก้แบบนี้ได้ครับ แต่หลายคนกลัวเรื่องประกัน แต่ที่ผมห่วงคือ มีบางคนชอบหลงประเด็น ชอบคิดแต่ว่าทำแล้วต้องจูนให้ควันดำ กดทีควันดำคิดว่าสวย คิดว่าตัวเองแรง มีอยู่คนเดียวพยายามโยงแต่ทำนองนี้ อยากบอกว่า หากจูนเนอร์เก่งจริงๆ เค้าจูนให้ไม่ดำและก็แรงได้ครับ กดทีสบายใจได้ว่า ไม่ก่อกวน ไม่รบกวนเพื่อนร่วมทางแน่นอน จะมีปัญหาแต่กับคนชอบขับรถเดิมๆ ก็คงหวังให้มาสด้าแก้ไขให้
สำหรับคนไม่ชอบแบบตามลิงค์คงต้องพึ่งตัวเอง เท่าที่หาเจอคือ
1.วิ่งขับรถปกติ กดเร่งเล่นรอบบ้าง เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานถึงระดับ
2.เติมน้ำมันสะอาด (น้ำมันบ้านเราสะอาดจริงไหม) ยูโรไฟร์ คิดว่าน่าจะช่วยได้ ส่วนน้ำมันดีเซลในไทยผมไม่ค่อยมั่นใจว่าสะอาดจริงๆ ใครมีรถดีเซลถอดกรองมาดูได้ ลองเทียบกันตอนเปลี่ยนใหม่ๆ กับเติมน้ำมันดีเซลไปแล้ว สามสี่ถัง และเปิดดูตอนถัง ที่เจ็ดที่แปด จะเห็นความต่างชัด ไม่รู้ปั้มไหนสะอาดสุด บางปั้มใหม่แต่ถังเก็บน้ำมันเก่าหรือเปล่า
3.น้ำมันเครื่องเปลี่ยนทุกห้าพัน (ผมว่าเปลืองเงิน) รถใช้ในเมืองภาวะรถติด ผมว่าอายุน้ำมันเครื่องจะไปก่อน ทำให้ประสิทธิภาพน้ำมันเครื่องที่แท้จริงทำงานด้อยลง มาสด้าคงต้องลดราคาน้ำมันเครื่อง แล้วเรียกเปลี่ยนทุกห้าพันกิโลแทน น่าจะพอช่วยได้
ผมว่าคนใช้งานรถยนต์ คงต้องรู้ตัวเองดีสุดละครับ ว่า ตัวเองขับรถเจอสภาวะแบบไหนมากสุด ต้องดูแลตัวเองแล้วละ ว่าจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้ใช้งานรถในรูปแบบไหน เพราะมาหวังให้ค่ายรถแก้ปัญหาให้แบบจบ ผมว่า คนใช้งานเครียดตายก่อน ส่วนมากผมปรับตัวให้เข้ากับรถนะ ไม่งั้น ผมเครียดตายกับมิตซู ถ้าแก้จบผมก็โครตยินดี แต่ช้ามาก ผมก้หาทางของผมเอง จะมาเครียดทำไม แค่นี้คนไทยก็เครียดพอละ เจออะไรขัดใจบนถนนก็จ้องจะตีจะฆ่ากันละ ผมเลือกที่จะทำตัวไม่เครียด ทางออกมันมีแหละ เราคือคนเลือกเองว่า จะไปแนวไหน กลัวหมดประกันก็ใช้แบบสูตรผมดู ไม่กลัวหมดประกันก็ขับหาจูนเนอร์เลย ขอให้ใช้รถให้มีความสุขครับ ขอตอบในมุมมองส่วนตัวนะครับ มองจากข้างนอก เพราะไม่ได้ใช้มาสด้าสองดีเซล

ถ้าใครทนอาการวูบได้ ไม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเวลาเร่งแซงก็รอให้หมดประกันแล้วค่อยทำ แต่ความเห็นส่วนตัวถ้าผมเป็นเจ้าของรถ ผมเลือกที่จะทำเลย เพราะชีวิตมีค่ามากกว่าแค่ประกันตัวรถ ส่วนเรื่องควันดำมากๆ tuner บางท่านจูนแบบไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ผมไม่ค่อยเห็นด้วย ถ้าใครอยากได้ควันน้อยๆก็บอก tuner ว่าไม่ต้องเอาแรงสุด เอาแค่แรงกลางๆขอควันน้อยๆเป็นพอ  :D
หัวข้อ: Re: Mazda 2 diesel เเก้ปัญหา DPF ได้หรือยังครับ?
เริ่มหัวข้อโดย: teeraponko ที่ พฤษภาคม 23, 2017, 13:18:06
รู้สึกว่าจะแก้ได้นะครับ ตามนี้
1. อุด EGR
2. ถอด DPF ออก เดินท่อใหม่
3. Reflash ปิดการทำงาน DPF
4. Reflash ecu เพิ่มแรงม้าและแรงบิด

ผลรถวิ่งดีขึ้นมาก อาการวูบหายไป ถ้าอยู่ในประกันต้องยอมรับว่าประกันศูนย์ขาดเพราะไปถอด DPF แต่ถ้าเทียบกับความปลอดภัยเวลาเร่งแซงไม่เจออาการวูบผมว่าคุ้มค่าครับ  :D

https://www.facebook.com/feeliqthailand/posts/1103480369737273

แรงม้า/แรงบิด ก่อน reflash
103.48 / 262.19 
แรงม้า/แรงบิด หลัง reflash
138.68 / 313.87
https://www.facebook.com/feeliqthailand/photos/pcb.1103480369737273/1103479956403981/?type=3&theater

รถผมเองก้อออกวันแรกที่เปิดตัวเลย2015 ตัวดีเซล ใช้ปกติมาประมาณ1ปีครึ่ง 5 หมื่นโล วิ่ง ตจว.ประจำขับ 100-120 ไม่มีอาการผิดปกติเว้นแต่ออกตัวช่วงแรกคันเร่งจะหน่วงๆ หลังจากนั้นไปรีแฟลช อุด egr ปิด dpf อาการสั่นไม่เคยเป็น ขับสนุกกว่าเดิมเยอะ แฟลช เอาแรงม้าเพิ่มขึ้นนิดเดียวจากเดิม 105 เป็น 124 ผลคือขับสนุกขึ้นมากอาการหน่วงลดลงไปเยอะ ทุกวันนี้เรถก้อยังมีการเผ่าเขม่าอยู่แต่ว่าไม่บ่อยเหมือนตอนที่ยังไม่นำไปรีแฟลช ผมเลยไม่แน่ใจว่าเพราะผมนำรถไปทำมันเลยไม่เจอปัญหา แบบที่คนอื่นเป็นหรือเปล่า