Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mamaman ที่ มิถุนายน 13, 2017, 10:55:38
-
คือ ผมใช้ ทั้ง เก๋ง และ กะบะ
พบว่า เก๋ง จะมีปัญหา ความร้อน จาก เรื่อง ง่ายๆ คือ พัดลม หม้อน้ำ ที่เป็นไฟฟ้าหมด อายุ
นอกจาก เกียร์กะบะ ที่เป็น เกียร์ MT ที่ แสนจะทนแล้ว
เครื่อยนต์ ไม่มี ปัญหา ความร้อน จากเรื่องง่ายๆ พัด ลม หม้อน้ำพัง จน เครื่อง ฮีท แบบ รถเก๋ง
เลย น่าจะเป็น สาเหตุนึง ที่ รถ กะบะ ทน ถึก กว่ารถเก๋ง
-
ปรัชญาการออกแบบมันมองต่างมุมกับคนใช้ครับ พัดลมไฟฟ้ามันง่ายในแง่การออกแบบเงื่อนไขการทำงาน ลดภาระให้เครื่องยนต์ ใช้ได้ทั้งเครื่องวางขวางและตามยาว แต่ทั้งหมดนี้มันสมบูรณ์แบบมันต้องทำงานปกติ ถ้าพังคุณมีหน้าที่ต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งานเท่านั้นเอง
ในทางกลับกัน พัดลมฟรีปั๊มถ้าน้ำมันเสื่อมคุณก็มีโอกาสเจอปัญหาเครื่องฮีทได้ไม่ต่างจากพัดลมไฟฟ้าเหมือนกัน
-
กระบะเก่าๆ หม้อน้ำล้างทุก 2 ปี
ผุทะลุทุก 8-10 ปี
ทุกครั้งที่ล้างหม้อน้ำ อัดฟรีปั๊มให้หนืดขึ้น ทุก 2 ปี
หลายๆคันที่บ้านผมทำแบบนี้
ไม่เคยมีเรื่องความร้อนเลย
-
พัดลมระบายความร้อนของรถกระบะก็มีโอกาสพังได้ ถ้าใช้แบบไม่ดูแลอะไรเลย
เช่น ถ้าไม่ยอมไม่อัดฟรีปั้มจนใบพัดตักลมไม่ดี ก็มีโอกาสเครื่องฮีทได้เหมือนกันครับ
-
T6 ผมใช้สายพาน เส้นเดียว สำหรับทุกอย่าง
พอมันขาด ก็ขับได้นะ ค่อยประคองไป 0 ไม่ให้เครื่องฮีท เช็ค OBD ตลอดทาง แอร์ไม่เย็น พวงพาวเวอร์ไม่ทำงาน บลาๆๆๆ
ไปถึง 0 ลำลูกกา รอคิว ซ่อม 2 เดือน (เรื่องปกติ) ถาม 0 อื่นละแวก นั้นก็พอๆกัน
เลยเบิกอะไหล่ สายพาน และ ลูกรอก ไปเปลี่ยนเอง ข้างนอก เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง
-
พัดลมไฟฟ้าดีครับลดภาระเครื่อง ความสึกหรอต่ำ เปลี่ยนง่าย เสียงเงียบ แต่ต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งานดีที่สุดครับ อย่างไปมองสภาพภายนอกครับ
-
หลักในการออกแบบมันมีดังนี้
1. ถ้าเป็นเครื่องยนต์วางขวางขับหน้า มันใช้พัดลมฟรีปั๊มไม่ได้อยู่แล้วเพราะข้อจำกัดด้านพื้นที่ และทิศทางของลม จึงต้องวางพัดลมไฟฟ้าด้านหน้าแทน
2. รถเก๋งส่วนใหญ่มักออกบแบบให้ลดภาระเครื่องยนต์ เพื่อประหยัดน้ำมัน ลดภาระเครื่อง ไม่ให้สูญเสียกำลัง จึงใช้พัดลมไฟฟ้าแทน
3.พัดลมไฟฟ้าสามารถกำหนดความเร็วรอบของพัดลมได้ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันคืออายุแรงถ่านของพัลมทำให้ความเร็วรอบเปลี่ยนไป เมื่อเก่าเสื่อมสภาพพัดลมหมุนไม่เต็มที่
- ถ้าเป็นปิคอัพเครื่องวางตามยาว ไม่จำเป็นต้องใช้พัดลมไฟฟ้าเพราะทิศทางลมก็ได้อยู่แล้วเพียงพอ
- กำลังเครื่องยนต์ของปิคอัพไม่ว่าปิคอัพเบนซิน ดีเซลมันมีแรงบิดและกำัลังเครื่องมาเีพียงพออยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียกำลังถ้าใช้พัดลมฟรีปั๊ม
- การใช้พัดลมขนาดใหญ่ทำได้ง่ายกว่าให้แรงลมมากกว่า สำหรับพัดลมแบบฟรีปั๊ม เพราะกำลังเครื่องยนต์เหลือเฟือ
- ตัดปัญหาเรื่องระบบไฟฟ้าออกไป เพราะรถปิคอัพบางทีต้องใช้สมบุกสมบันลุยโคลน หรือ4x4 มันต้องขับข้ามลำธาร พัดลมแบบฟรีปั๊มดีกว่าพัดลมไฟฟ้าคือมันจะไม่เสียหายได้ง่าย ๆ ยามเจอฝุุ่น โคลน หรือวิ่ง ผ่านน้ำท่วม
-
สมัยผมใช้ e30 e34 กับ w123
ผมนี่สยองจนไข้จับเลยครับ
สยองจนผมรู้วิธีอัดน้ำมันที่ปั๊มพัดลมเลย 5555
-
พัดลมไฟฟ้าดีครับลดภาระเครื่อง ความสึกหรอต่ำ เปลี่ยนง่าย เสียงเงียบ แต่ต้องเปลี่ยนตามอายุการใช้งานดีที่สุดครับ อย่างไปมองสภาพภายนอกครับ
ถ้า ศูนย์เปลี่ยน ให้ก็ดี
แต่ หลาย ศูนย์ ๆ ไม่เปลี่ยน นี่สิ
พัดลมไฟฟ้า พัง ที่ ไม่ได้พังแค่ พัดลมนะ เครื่องฮีท พังหมด
-
ไม่มีฟรีปั๊มก็ไม่พังครับ แค่อัดรอบสูงไม่ได้แค่นั้นเอง แค่มันหมุนได้ไม่เร็วตามรอบเฉย แต่ยังไงมันก็หมุน ขับประคองข้ามจังหวัดได้เลย :D :D
พัดลมหน้าเครื่องเคยเห็นของเบนซ์เก่าๆไหมครับใช้ระบบพัดลมไฮดรอลิค กินกำลังเครื่องน้อยกว่าฟรีปั๊ม ทำงานตามรอบเครื่องพังยากด้วย :P :P
-
เบี่อพัดลมไฟฟ้าตรงที่อยู่ดีๆอยากหยุดก็หยุด จอดข้างทางเเทบไม่ทัน
-
พัดลมไฟ้า ตรวจเช็คปีละครั้ง เพื่อความชัวร์ จะได้ไม่กินข้าวลิงข้างทาง
พัดลมฟรีปั๊ม ตรวจเช็คทุกๆ 5 ปี สังเกตสิ่งผิดปกติขั้นต้นได้ แอร์ไม่เย็นเมื่อจอดนิ่งๆ ครับ
-
เบี่อพัดลมไฟฟ้าตรงที่อยู่ดีๆอยากหยุดก็หยุด จอดข้างทางเเทบไม่ทัน
ส่วนใหญ่ถ้าจอด ติดเครื่อง พัดลมไม่ติด นี่ หายนะ เลยนะครับ
รถวิ่งๆ มันยังมี ลมปะทะ
รถจอด เดินเบา มี ฝาโก่งๆๆ
-
รถอีโค่คาร์ อย่างที่ผมใช้ อัลเมร่า พัดลมตัวเดียว เสี่ยงมากๆ ส่วนมากก็เสียง่ายด้วย จะเลี่ยงก็ต้องติดพัดลมไฟฟ้าเพิ่มอีกตัว
ทางที่ดีควรทำหมดเลยครับ สำหรับรถที่ใช้พัดลมไฟฟ้าตัวเดียวแล้วระยะเกิน 1แสนกิโลฯ บางรุ่นอย่างที่ยกมาเกือบ 4หมื่นโลฯ ตัวนึงก็มีครับ อาจจะเพราะใช้งานในกรุงเทพฯ จำนวนชั่วโมงในการใช้งานก็สูงพอสมควร แอร์ก็ทำงาน ทุกอย่าง ภาระคือ "ตัวเดียวอันเดียว" ขาด หลุด จบชีวิตทั้งเครื่องยันเกียร์CVT
ส่วนมากแก้ปัญหาด้วยการ ติดเพิ่ม ไม่เหมือนบางรุ่นมีมาให้ 2ตัว ซึ่งก็ใช้แยกกับแอร์ก็มี แต่นั่นก็ช่วยให้มันอายุยาวขึ้น และถ้าอีกตัวเสียแม้จะ อยู่ในมุมที่ไม่ช่วยเท่าไร แต่ก็ยังดีกว่าที่มีลมดูดเข้าเป่าออก ผ่านแถวนั้น อาจจะเกือบ 1องศา ก่อนฮีตพังกลางทาง
-
ผมสายรถแต่ง แต่มีวิธีแก้สำหรับรถบ้านๆทั่วไป
- อยากใช้รถสบายใจ ประหยัดน้ำมัน = ถอดพัดลมหน้าเครื่องออก(สำหรับรถรุ่นเก่า) แล้วไปใส่หม้อน้ำอลูมิเนียม+แผงบังลมหลังหม้อน้ำ+พัดลมไฟฟ้าแบบดูด2ตัว) จบง่าย อุณหภูมิลงเห็นๆ แอร์เย็นขึ้น ประหยัดน้ำมัน รถมีอัตราเร่งดีขึ้นเพราะโหลดน้อยลง win win win :) :) :) :) :)