Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ มิถุนายน 18, 2017, 08:23:57
-
จุดเด่นของฟอมม์คือ ต้นทุนต่อหน่วยการวิ่งถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 10 เท่า และค่าดูแลรักษาระหว่างการใช้งานถูกกว่า 100 เท่า สามารถวิ่งบนน้ำได้
https://www.vihoknews.com/17212/
ชวนคุยครับ ชาว HML คิดว่าไงครับ
-
รถหลักๆ มันมีแค่ระบบควบคุมส่งกำลังด้วยอุปกรณ์อิเลตทรอนิคส์ + มอเตอร์ไฟฟ้า + แบตเตอรี่
การใช้พลังงานจึงคุ้มค่า และ ไม่จำเป้นต้องดูแล อะไรมาก อนาคตยังงัยก็มาทางนี้ ติดบางข้อทีต้องแก้ไข
- ระยะเวลาการชาร์จต้องเร็วกว่านี้ และ อายุใช้งานแบตเตอรี่ต่อราคาต้องลงมาอีก คนกลัวกันตอนนี้คือราคาแบต
- เทคโนโลยีขั้นสูง เวลามีปัญหา ไกลศูนย์ แก้ปัญหาอย่างไร manual ได้หรือเปล่า อันนี้กลัวเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลามีอุบัติเหตุ
-
ถ้าราคา 5.5 แสน ไปอีโคคาร์ก็จะได้ตัวท๊อป ไม่ก็ b segment ดีกว่าเยอะครับ ไม่เสี่ยงด้วย
(https://www.img.in.th/images/80adb46e9fa3b561fa2b16da12755527.jpg)
-
น่าสนครับ. แต่ควรออกแบบน่ารักกว่านี้
-
EV spec นี้ยังราคาเท่านี้ แล้ว EV spec เทียบเท่ารถน้ำมันที่รองรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
พร้อมทั้งวิ่งทางไกลได้ในบางโอกาสสำหรับครอบครัวที่มีรถได้แค่คันเดียวจะมีราคาขนาดไหนนะ
รถไฮบริด คันละ 2 ล้าน แบตลูกละแสนยังเป็นปัจจัยหลักที่เราจะไม่เอาไฮบริด
แล้ว EV คันละ 5.5 แสน แต่แบตราคา 2 แสน (ลูกละ 5 หมื่น) จะรับได้หรือ....
ผมเคยพูดไว้นานแล้วว่าแบตรถไฮบริดลูกเล็กมากเมื่อเทียบกับ EV ราคายังขนาดนี้
แล้วแบต EV จะขนาดไหน ถ้าเราหวังหว่า 10 ปีข้างหน้าแบตจะถูกลง แบตรถไฮบริดมันก็ถูกลงด้วย
และมันก็ถูกกว่าแบตลูกใหญ่อยู่ดีครับ
ถึงยังไงผมยังคิดว่า ค่ายรถใหญ่ ๆ ยังมองเทรนด์ถูกอยู่ดี และมันน่าจะไปทาง EV ที่มีเครื่องยนต์ไว้ปั่นไฟ
ตอนที่แบตหมด ซึ่งนั่นก็คือ Plug-in Hybrid หรือ Plug-in e-power ก็ว่ากันไป เพราะมันก็คือ
EV นั่นแหละ แต่เซฟกว่า EV ที่ว่าตอนแบตหมดแล้ว EV จะหยุดสนิทกลางทาง แต่ Hybrid พวกนั้น
จะยังไปต่อได้จนถึงสถานีชาร์จไฟครับ
-
น่าสนอ่ะ จริงๆนะ
คันเท่านี้ก็น่าจะแบบนี้แหละครับ
คือติดใจอย่างเดียวววว มันลุยน้ำท่วมล้อมิดได้จริงๆหรอไม่ค่อยเชื่อเลยอ่ะ (ดูจากภาพแล้ว มันก็น่าจะทะลักเข้ามาในรถ)
-
ไอ่นี่นี่เอง เมื่อวานเห็นมาจอดชาร์จแบตอยู่ที่อเวนิว แจ้งวัฒนะ
-
ผมว่ากลุ่มเป้าหมายคือคนมีตังนะ ไม่ใช่คนที่ซื้อ eco car
แต่ดีไซน์นี่ไม่ไหวจริง
-
(https://i.ytimg.com/vi/5U9mcrRsqAk/hqdefault.jpg)
ถ้าทำหน้าดำแบบตัวจริงในรูปก็พอสวยอยู่ครับ
ผมคิดว่าที่เขาไม่ตั้งโรงงานในญี่ปุ่นเพราะไม่ผ่านมาตรฐาน
การชนรึเปล่า เพราะตัวรถพอดีตัวคนนั่งมาก
แต่คิดว่าถ้าใช้ในเมืองและระวังหน่อยคงพอใช้ได้
ก็ดีกว่ามอเตอร์ไซค์
ถามว่าสนใจมั้ย ก็นสนอยู่นะครับ เหมือนเป็นรถทางเลือกคันที่สอง
ต้นแบบคันนี้ก็โอเคนะ
(https://img.kapook.com/u/2016/thachapol/zzzz99/fa4.jpg)
-
(https://i.ytimg.com/vi/5U9mcrRsqAk/hqdefault.jpg)
ถ้าทำหน้าดำแบบตัวจริงในรูปก็พอสวยอยู่ครับ
ผมคิดว่าที่เขาไม่ตั้งโรงงานในญี่ปุ่นเพราะไม่ผ่านมาตรฐาน
การชนรึเปล่า เพราะตัวรถพอดีตัวคนนั่งมาก
แต่คิดว่าถ้าใช้ในเมืองและระวังหน่อยคงพอใช้ได้
ก็ดีกว่ามอเตอร์ไซค์
ถามว่าสนใจมั้ย ก็นสนอยู่นะครับ เหมือนเป็นรถทางเลือกคันที่สอง
ต้นแบบคันนี้ก็โอเคนะ
(https://img.kapook.com/u/2016/thachapol/zzzz99/fa4.jpg)
หรือdesign แบบsmart ก้อยังดีนะครับ
-
น่าสนอ่ะ จริงๆนะ
คันเท่านี้ก็น่าจะแบบนี้แหละครับ
คือติดใจอย่างเดียวววว มันลุยน้ำท่วมล้อมิดได้จริงๆหรอไม่ค่อยเชื่อเลยอ่ะ (ดูจากภาพแล้ว มันก็น่าจะทะลักเข้ามาในรถ)
มันไม่ใช่ให้น้ำท่วมตัวมันแล้วลุยไปอย่างงั้น แต่มันลอยน้ำตะหาก
คือขับลงไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยายังได้เลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=VjQJGSxXyDg
ส่วนตัวคิดว่า ราคา 5.5 แสนบาทมันแพงไป ถ้า 3 แสนค่อยน่าสน และวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุดต้องซัก 120 กม./ชม.
-
น่าสนอ่ะ จริงๆนะ
คันเท่านี้ก็น่าจะแบบนี้แหละครับ
คือติดใจอย่างเดียวววว มันลุยน้ำท่วมล้อมิดได้จริงๆหรอไม่ค่อยเชื่อเลยอ่ะ (ดูจากภาพแล้ว มันก็น่าจะทะลักเข้ามาในรถ)
ส่วนตัวคิดว่าตั้งราคาเผื่อไว้ก่อน เพราะค่าการตลาดเวลาจะขายต้องมาวิแคะกันอีกที
ถ้าแพงแล้วลดราคามา คนจะได้ยังสนใจ แต่ถูกแล้วขึ้นราคา อันนี้ฝืดทันทีครับ :-\
มันไม่ใช่ให้น้ำท่วมตัวมันแล้วลุยไปอย่างงั้น แต่มันลอยน้ำตะหาก
คือขับลงไปลอยในแม่น้ำเจ้าพระยายังได้เลยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=VjQJGSxXyDg
ส่วนตัวคิดว่า ราคา 5.5 แสนบาทมันแพงไป ถ้า 3 แสนค่อยน่าสน และวิ่งได้ที่ความเร็วสูงสุดต้องซัก 120 กม./ชม.
-
เอาจริงๆ กลุ่ม ตลาด คนละกลุ่ม กับ รถ ยนต์ ทั่วไปอยู่ครับ
150 กิโล คงเป้น รถ ส่งลูกไป เรียน กับ รถในเมือง วิ่งใกล้ ๆ
-
เอาจริงๆ กลุ่ม ตลาด คนละกลุ่ม กับ รถ ยนต์ ทั่วไปอยู่ครับ
150 กิโล คงเป้น รถ ส่งลูกไป เรียน กับ รถในเมือง วิ่งใกล้ ๆ
ถ้าใช้ส่งลูกนี่ ต้องคิดเรื่องรถติดไว้ด้วย นอกเมือง ชานเมือง ตจว. ปัญหาไม่มี แต่ในเมืองนี่ นถคงจะติดจนแบตหมดก่อน
-
ยังรู้สึกไม่ค่อยน่าไว้ใจ
-
เอามาใช้ขับไปจ่ายตลาดปากซอยแทนรถกอล์ฟได้อยู่นะ
แต่อยากได้หน้าตาสวยๆน่ารักๆกว่านี้ครับ
-
ในอนาคตหวังว่า EV จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆครับ :D
-
เอาจริงๆ กลุ่ม ตลาด คนละกลุ่ม กับ รถ ยนต์ ทั่วไปอยู่ครับ
150 กิโล คงเป้น รถ ส่งลูกไป เรียน กับ รถในเมือง วิ่งใกล้ ๆ
ถ้าใช้ส่งลูกนี่ ต้องคิดเรื่องรถติดไว้ด้วย นอกเมือง ชานเมือง ตจว. ปัญหาไม่มี แต่ในเมืองนี่ นถคงจะติดจนแบตหมดก่อน
เวลารถติด มอเตอร์กับระบบไฟฟ้าไม่ได้สูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำครับ
-
เอาจริงๆ กลุ่ม ตลาด คนละกลุ่ม กับ รถ ยนต์ ทั่วไปอยู่ครับ
150 กิโล คงเป้น รถ ส่งลูกไป เรียน กับ รถในเมือง วิ่งใกล้ ๆ
ถ้าใช้ส่งลูกนี่ ต้องคิดเรื่องรถติดไว้ด้วย นอกเมือง ชานเมือง ตจว. ปัญหาไม่มี แต่ในเมืองนี่ นถคงจะติดจนแบตหมดก่อน
เวลารถติด มอเตอร์กับระบบไฟฟ้าไม่ได้สูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำครับ
นั่นสิครับ รถไม่วิ่งมันไม่ใช้ไฟฟ้า เอ...แต่ระบบแอร์หล่ะครับ ลืมหรือเปล่า
อากาศเมืองไทยเราไม่เบานา ทำไมจะสูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำไม่ได้ครับ
-
ผมยังเข้าใจว่ามันคือ รถวิ่งสนามกอล์ฟอยู่เลยคับ :-[ :-[ :-[
-
คงคันเท่าๆกับพวก smart นะครับ
-
ติดตามดูอยู่เหมือนกันครับผม ^^
-
ผมยังเข้าใจว่ามันคือ รถวิ่งสนามกอล์ฟอยู่เลยคับ :-[ :-[ :-[
ถูกครับ เพราะเข้าใจว่ามันไม่น่าอิงการปกป้องผู้โดยสารแบบรถปกติได้เลย
แต่ดีนะครับ รัฐน่าสนับสนุนรถประเภทนี้สำหรับการวิ่งในเมืองแบบกรุงเทพ
หนึ่งคือมันเล็กๆ สองคือมันไม่ก่อมลภาวะ ถ้าคนขับเข้ามาในเมืองแทนที่จะใช้
Fortuner มันจะดีขนาดไหน เวลาจอดรถติดกันนานๆ อากาศก็เป็นพิษไปหมด
ทุกวันนี้เราถึงต้องหนีไปเที่ยวนอกเมืองทุกอาทิตย์เพื่อหาอากาศบริสุทธิ์
-
ถ้ารัฐช่วยยกสารพัดภาษี แล้วทำราคาเท่าแมงไซด์ใหญ่ รถยังพอไปได้
3-4แสน กับเกรดของเล่นที่ใส่ กันแดดกันฝน หรือมีกะบะท้ายจะได้เป็นสองแถวไฟฟ้า
ตีป้ายเหลืองได้ จะได้มาแทนกระป้อ ตุ๊กๆ แอร์ไม่มียังขายได้
แล้วไปรษณีย์ ไฟฟ้า ราชการช่วยซื้อสนับสนุน มหามิตรหน่อย คนจะได้ซื้อตาม
ไปไหนอัดไฟฟรี รถก็ขายได้
หลังคาน่าจะติดแผงโซล่าแบบม้วนได้ ถึงไฟไม่มากแต่ยังดีว่าไม่มี ราคาหลักหมื่นเอง
มีประโยชน์กว่าหลังคาแก้ว ทั้งบาน หรือเจาะเป็นช่องไว้เผาหัวเล่น
ถ้ารถลุยน้ำได้ลึกหรือเสริมทุ่นเป็นเรือได้ง่ายๆ ราคานี้คุ้มกว่าซื้อยกสูง ล้อโตมาก
ประกันราคารับซื้อที่บ.ลง ทำจริงได้ดีมาก แต่ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์ แบต อินเวอเตอร์ รุ่นใหม่ๆแทนได้
ลูกค้าเก่าจะได้มาเปลี่ยนไส้ใหม่ มือสองก็ขายดี ป้ายแดงก็ขายได้ เพราะรถไม่มีอะไรซับซ้อน
ขนาดรถเล็ก ยาวไม่เกิน4ม.หรือสั้นกว่า แบบนี้มีอนาคต ใช้ในเมืองคล่องตัวที่สุด ลุยน่าท่วมได้
คุ้มกว่าซื้อแมงไซด์ แต่ขนาดไม่ต่างกันมาก นั่งได้4คน ถ้าระยะได้300โล วิ่ง120กม.นั่ง4คนได้
อัดไฟ 3 ชม. หรือ ชม.ละ100กม.ราคา5แสน ขายไม่ยาก ดีไม่ดี จะมีถ่านพ่วงขาย
ขอให้ทำรถแบบเปิดให้คนนอกมีส่วนร่วม ไม่ปิดกั้นแบบอารยธรรมโซนี่ แอปเปิ้ล
อะไหล่ไม่แพง มีชุดซ่อม หรือเทียบได้ เน้นขายรถพร้อมทะเบียนเยอะๆ ไม่ต้องเน้นเข้าศูนย์
ที่เหลือให้เจ้าของมาแต่งข้างนอก แบบนี้มีอนาคต เพราะโมไว้แข่งก็ไม่ยากมากและถูกด้วย
รถใส่ถ่านโตไม่ง่าย คนสนใจแต่ซื้อน้อย น้ำมันแน่นอนกว่า ถ้าไม่มีสิทธิพิเศษเกิดยาก
ถ้ารัฐให้บัตรวิ่งบัสเลน brt แบบที่เมกาสนับสนุนนไฮบริดยุคแรกๆ ขายได้แน่
เพราะรถจิ๋วไฟฟ้าควรวิ่งแทนแมงไซด์ เก๋งในเมืองได้แล้ว ไอเสียไม่มี ขยะพิษไว้แก้ทีหลัง
ยิ่งห้างต่างๆควรมีที่จอดรถไฟฟ้าจิ๋วพร้อมแท่นอัดไฟ ได้ประโยชน์กว่า จอดรถได้มากกว่า
และการไฟฟ้าควรให้ไฟฟรี กับแท่นอัด เพื่อนำร่องด้วย หรือลดค่าft สำหรับคนมีรถไฟฟ้า
-
เอาจริงๆ กลุ่ม ตลาด คนละกลุ่ม กับ รถ ยนต์ ทั่วไปอยู่ครับ
150 กิโล คงเป้น รถ ส่งลูกไป เรียน กับ รถในเมือง วิ่งใกล้ ๆ
ถ้าใช้ส่งลูกนี่ ต้องคิดเรื่องรถติดไว้ด้วย นอกเมือง ชานเมือง ตจว. ปัญหาไม่มี แต่ในเมืองนี่ นถคงจะติดจนแบตหมดก่อน
เวลารถติด มอเตอร์กับระบบไฟฟ้าไม่ได้สูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำครับ
นั่นสิครับ รถไม่วิ่งมันไม่ใช้ไฟฟ้า เอ...แต่ระบบแอร์หล่ะครับ ลืมหรือเปล่า
อากาศเมืองไทยเราไม่เบานา ทำไมจะสูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำไม่ได้ครับ
จาก http://fomm.co.jp/wordpress/research_en.html
มอเตอร์หลัก Fomm ใช้ขนาด 5kw * 2 (ติดที่ล้อหน้า 2 ตัว) เท่ากับ 10 kw หรือเท่ากับ 13.596 แรงม้า (เมตริก) ซึ่งตรงกับข้อกำหนดรถขนาดเล็ก
กฏหมายกำหนดว่าความเร็วสูงสุดต้องมากกว่า 45 กม./ชม ขึ้น ซึ่งถ้าแปลงเป็นระยะเวลาวิ่งจากระยะทาง 150 กม.แล้วน่าจะได้ชั่วโมงวิ่งที่ 3.3 ชม.
อนึ่ง แอร์บ้านขนาด 12000 btu ใช้มอเตอร์รวมที่ 1 kw โดยประมาณ (อิงข้อมูลจากฉลากเบอร์ 5 ปีล่าสุด) ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดมอเตอร์หลักแล้ว
แอร์บ้าน 12000 btu ต้องใช้เวลา 33 ชั่วโมงในการสูบแบตรถให้เกลียง โดยแอร์ขนาดนี้ใช้ในห้องขนาด 16 ตรม.ได้สบาย ซึ่งนับว่าใหญ่กว่ารถ Fomm มาก
ดังนั้นจึงอนุมาณได้ว่ารถ Fomm นั้นไม่มีทางแบตหมดเนื่องจากถูกแอร์รถสูบไฟจนเกลี้ยง
-
มันคงเป็นรถ Fasion ไปพักนึงหล่ะครับ อาจมีกลุ่มอยากได้รถขับเล่นในหมู่บ้าน หรือที่ใกล้ๆแล้วตังเหลือ ซื้อมา เอาคาม chick มากกว่าอรรถประโยชน์ ไม่เน้นขับออกถนนใหญ่ แล้วคงขายแต่ที่ กทม. รถคันนี้มันญี่ปุ่นจ๋ามาก ซึ่งไม่ค่อยเกิดในไทยนะ จะดีเด่นหน่อยที่ลอยน้ำ กับไฟฟ้า มีแค่นั้นริงๆ
ต้นทุนต่อ กม.ไม่ใช่จุดขายหรอกครับ Variable ต่ำแต่ Fix สูงนะ
-
เอาจริงๆ กลุ่ม ตลาด คนละกลุ่ม กับ รถ ยนต์ ทั่วไปอยู่ครับ
150 กิโล คงเป้น รถ ส่งลูกไป เรียน กับ รถในเมือง วิ่งใกล้ ๆ
ถ้าใช้ส่งลูกนี่ ต้องคิดเรื่องรถติดไว้ด้วย นอกเมือง ชานเมือง ตจว. ปัญหาไม่มี แต่ในเมืองนี่ นถคงจะติดจนแบตหมดก่อน
เวลารถติด มอเตอร์กับระบบไฟฟ้าไม่ได้สูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำครับ
นั่นสิครับ รถไม่วิ่งมันไม่ใช้ไฟฟ้า เอ...แต่ระบบแอร์หล่ะครับ ลืมหรือเปล่า
อากาศเมืองไทยเราไม่เบานา ทำไมจะสูบแบตจนแห้งเหมือนอูฐกินน้ำไม่ได้ครับ
จาก http://fomm.co.jp/wordpress/research_en.html
มอเตอร์หลัก Fomm ใช้ขนาด 5kw * 2 (ติดที่ล้อหน้า 2 ตัว) เท่ากับ 10 kw หรือเท่ากับ 13.596 แรงม้า (เมตริก) ซึ่งตรงกับข้อกำหนดรถขนาดเล็ก
กฏหมายกำหนดว่าความเร็วสูงสุดต้องมากกว่า 45 กม./ชม ขึ้น ซึ่งถ้าแปลงเป็นระยะเวลาวิ่งจากระยะทาง 150 กม.แล้วน่าจะได้ชั่วโมงวิ่งที่ 3.3 ชม.
อนึ่ง แอร์บ้านขนาด 12000 btu ใช้มอเตอร์รวมที่ 1 kw โดยประมาณ (อิงข้อมูลจากฉลากเบอร์ 5 ปีล่าสุด) ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดมอเตอร์หลักแล้ว
แอร์บ้าน 12000 btu ต้องใช้เวลา 33 ชั่วโมงในการสูบแบตรถให้เกลียง โดยแอร์ขนาดนี้ใช้ในห้องขนาด 16 ตรม.ได้สบาย ซึ่งนับว่าใหญ่กว่ารถ Fomm มาก
ดังนั้นจึงอนุมาณได้ว่ารถ Fomm นั้นไม่มีทางแบตหมดเนื่องจากถูกแอร์รถสูบไฟจนเกลี้ยง
ข้อมูลเยี่ยมครับ
ถ้ารัฐช่วยยกสารพัดภาษี แล้วทำราคาเท่าแมงไซด์ใหญ่ รถยังพอไปได้
3-4แสน กับเกรดของเล่นที่ใส่ กันแดดกันฝน หรือมีกะบะท้ายจะได้เป็นสองแถวไฟฟ้า
ตีป้ายเหลืองได้ จะได้มาแทนกระป้อ ตุ๊กๆ แอร์ไม่มียังขายได้
แล้วไปรษณีย์ ไฟฟ้า ราชการช่วยซื้อสนับสนุน มหามิตรหน่อย คนจะได้ซื้อตาม
ไปไหนอัดไฟฟรี รถก็ขายได้
หลังคาน่าจะติดแผงโซล่าแบบม้วนได้ ถึงไฟไม่มากแต่ยังดีว่าไม่มี ราคาหลักหมื่นเอง
มีประโยชน์กว่าหลังคาแก้ว ทั้งบาน หรือเจาะเป็นช่องไว้เผาหัวเล่น
ถ้ารถลุยน้ำได้ลึกหรือเสริมทุ่นเป็นเรือได้ง่ายๆ ราคานี้คุ้มกว่าซื้อยกสูง ล้อโตมาก
ประกันราคารับซื้อที่บ.ลง ทำจริงได้ดีมาก แต่ถ้าเปลี่ยนมอเตอร์ แบต อินเวอเตอร์ รุ่นใหม่ๆแทนได้
ลูกค้าเก่าจะได้มาเปลี่ยนไส้ใหม่ มือสองก็ขายดี ป้ายแดงก็ขายได้ เพราะรถไม่มีอะไรซับซ้อน
ขนาดรถเล็ก ยาวไม่เกิน4ม.หรือสั้นกว่า แบบนี้มีอนาคต ใช้ในเมืองคล่องตัวที่สุด ลุยน่าท่วมได้
คุ้มกว่าซื้อแมงไซด์ แต่ขนาดไม่ต่างกันมาก นั่งได้4คน ถ้าระยะได้300โล วิ่ง120กม.นั่ง4คนได้
อัดไฟ 3 ชม. หรือ ชม.ละ100กม.ราคา5แสน ขายไม่ยาก ดีไม่ดี จะมีถ่านพ่วงขาย
ขอให้ทำรถแบบเปิดให้คนนอกมีส่วนร่วม ไม่ปิดกั้นแบบอารยธรรมโซนี่ แอปเปิ้ล
อะไหล่ไม่แพง มีชุดซ่อม หรือเทียบได้ เน้นขายรถพร้อมทะเบียนเยอะๆ ไม่ต้องเน้นเข้าศูนย์
ที่เหลือให้เจ้าของมาแต่งข้างนอก แบบนี้มีอนาคต เพราะโมไว้แข่งก็ไม่ยากมากและถูกด้วย
รถใส่ถ่านโตไม่ง่าย คนสนใจแต่ซื้อน้อย น้ำมันแน่นอนกว่า ถ้าไม่มีสิทธิพิเศษเกิดยาก
ถ้ารัฐให้บัตรวิ่งบัสเลน brt แบบที่เมกาสนับสนุนนไฮบริดยุคแรกๆ ขายได้แน่
เพราะรถจิ๋วไฟฟ้าควรวิ่งแทนแมงไซด์ เก๋งในเมืองได้แล้ว ไอเสียไม่มี ขยะพิษไว้แก้ทีหลัง
ยิ่งห้างต่างๆควรมีที่จอดรถไฟฟ้าจิ๋วพร้อมแท่นอัดไฟ ได้ประโยชน์กว่า จอดรถได้มากกว่า
และการไฟฟ้าควรให้ไฟฟรี กับแท่นอัด เพื่อนำร่องด้วย หรือลดค่าft สำหรับคนมีรถไฟฟ้า
สนับสนุนครับ
แต่รัฐนี่...ไม่ค่อยสนเรื่องนี้รึเปล่าครับ
-
คันเล็กกว่า eco car เรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างตัวรถ = ?
อัตราเร่ง = ?
ศูนย์บริการ = ?
การทรงตัว สมรรถนะ คันเล็กกว่า eco car ไม่ต้องหวังเลยว่าจะเกาะกว่า = ?
ราคารับซื้อคืนเมื่อผ่านไป5ปี เหลือแค่ 1.5 แสน
Form มารูปแบบนี้ไม่ผ่านครับ ถ้าจะเอาแบบดีๆมีอนาคตก็ต้องแนว Prius prime ครับ
-
คันเล็กกว่า eco car เรื่องความปลอดภัยของโครงสร้างตัวรถ = ?
อัตราเร่ง = ?
ศูนย์บริการ = ?
การทรงตัว สมรรถนะ คันเล็กกว่า eco car ไม่ต้องหวังเลยว่าจะเกาะกว่า = ?
ราคารับซื้อคืนเมื่อผ่านไป5ปี เหลือแค่ 1.5 แสน
Form มารูปแบบนี้ไม่ผ่านครับ ถ้าจะเอาแบบดีๆมีอนาคตก็ต้องแนว Prius prime ครับ
มันจะผ่านครับ ถ้า ราคา ต่ำกว่า Eco car มาเหนือกว่ารถ กลอฟ เป็น รถ จ่ายตลาด ไปเลย 555
ขนาดรถ ไม่มา ขาย เรา ชาว HLM ยำซะเละ ไม่ต้อง บอก อนาคต ยอดขาย เลย
แล้ว BEV หรือ PHEV ที่ ลง B-segment บ้านเรา ยังไม่น่าจะได้ หรือนิยมง่ายๆ
รอรัฐบาล ปลดล๊อค พันธนการ ห่วงโซ่ รถยนต์สันดาป กับ ราคาขาย กรีดเลือกประชาชน อยู่นะครับ
-
ดูเล็กเหมือนรถกอล์ฟเลยครับ :'(