Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ กรกฎาคม 01, 2017, 08:45:22
-
Honda CR-V Gen5 : 1.6 i-DTEC 9AT 4WD (Diesel)
1,699,000 บาท
เครื่องยนต์ดีเซล i-DTEC Commonrail 4 สูบแถวเรียง ขนาด 1.6 ลิตร
1,597 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 76.0 x 88.0
มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.0 : 1 กำลังสูงสุด 160 แรงม้า (PS)
ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ZF ขับเคลื่อน 4 ล้อ Real-time 4WD
(https://www.uppic.org/image-7B76_5956FE31.jpg) (https://www.uppic.org/share-7B76_5956FE31.html)
อัตราเร่ง 0 - 100 km/h (เกียร์ D)
#1 11.21 sec
#2 11.27 sec
#3 11.25 sec
#4 11.24 sec
อัตราเร่ง 0-100 km/h ทำได้เฉลี่ย 11.24 วินาที
อัตราเร่ง 80 - 120 km/h (เกียร์ D)
#1 8.39 sec
#2 8.39 sec
#3 8.37 sec
#4 8.36 sec
อัตราเร่ง 80-120 km/h ทำได้เฉลี่ย 8.37 วินาที
Top Speed แต่ละเกียร์ (เหมือนกันทั้งโหมด D และ S)
เกียร์ 1 30 km/h @ 3,750 rpm
เกียร์ 2 50 km/h @ 4,000 rpm
เกียร์ 3 80 km/h @ 4,100 rpm
เกียร์ 4 115 km/h @ 4,150 rpm
เกียร์ 5 160 km/h @ 4,200 rpm
เกียร์ 6 198 km/h @ 4,100 rpm
เกียร์ 7 204 km/h @ 3,750 rpm
Top Speed บนมาตรวัด 204 km/h @ 3,750 rpm (ที่เกียร์ 7)
(https://www.uppic.org/image-0105_5956FE31.jpg) (https://www.uppic.org/share-0105_5956FE31.html)
ความเร็ว @ รอบเครื่องยนต์ (ณ เกียร์สูงสุด)
80 km/h @ 1,450 rpm ทึ่ เกียร์ 8 (ไม่สามารถตัดเป็นเกียร์ 9 ได้)
100 km/h @ 1,500 rpm ที่ เกียร์ 9
110 km/h @ 1,700 rpm ที่ เกียร์ 9
ความเร็ว บนมาตรวัด 100 km/h GPS 96 km/h
ความเร็ว บนมาตรวัด 110 km/h GPS 106 km/h
Fuel Consumption อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
ระยะทางบน Trip Meter A 93.0 กิโลเมตร
เติมน้ำมัน Diesel Techron เต็มถังแบบไม่เขย่ารถ 5.54 liters
เฉลี่ยที่ความเร็ว 110 km/h เปิดแอร์ นั่ง 2 คน
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ทำได้เฉลี่ย 16.78 km/l
ตารางเปรียบเทียบกับคู่แข่งใน Segment เดียวกัน
(https://www.uppic.org/image-6B4C_59570024.jpg) (https://www.uppic.org/share-6B4C_59570024.html)
-
อัตราเร่งไม่จัดจ้าน แต่อัตราสิ้นเปลืองดีกว่าไฮบริด
-
เป็นไปตามคาดกับดีเซลบล็อคเล็ก อัตราเร่งพอตัว แต่เด่นมากเรื่องประหยัดน้ำมัน
ใครอยากแรงเชิญ 2.4 ครับ
-
อัตราเร่งทำได้เท่ารถ PPV ที่ต้องใช้เครื่องถึง 2.8 ลิตร
อันนี้ใช้แค่ 1.6
ถึงน้ำหนักจะเบากว่า แต่ก็ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ดีเลย
ถ้าไม่ห่วงเรื่อง DPF ก็ไม่ต้องคิดมากแล้ว
-
0-100 ไม่น่าเกลียดเลย เมื่อดูจากความจุเครื่อง
-
อัตราเร่งใช้ได้เลยสำหรับพ่อบ้านแม่บ้าน
-
เน้นประหยัดน้ำมันเป็นหลัก แนวทางรถ cr-v คือเน้นขับขี่ชิวๆ รถครอบครัว
ผมถือว่าฮอนด้าทำได้ตอบโจทย์ดี แนวทางชัดเจน
-
ถือว่าใช้ได้กับเครื่อง 1.6
-
จับดันราง น่าจะไปได้อีกไกลเลยนะครับ
-
ไม่สมราคา
-
เร็วกว่า crv 2.4 5a/t แต่ช้ากว่า cvt
ถ้าได้ต่ำกว่า 10 จะไม่มอง new cx-5 เลย
-
ผมนึกว่าจะประหยัดกว่านี้ (ประมาณ 18 โลลิตร)
-
ราคากับสมรรถนะ ยังไม่ใช่ ราคาแรงไปนิดแต่ได้มาแค่ รถธรรมดาๆเกิน จับ 2.0D turbo ลง น่าจะพอฟัดกับ เจ้าอื่นได้ดีกว่านี้ แบบนี้เพื่อนล้อแย่เลย
-
ก็ถือว่าใช้ได้กับ1.6d แต่น่าจะขยายสัก2.0d
-
เทียบตัวเลขอัตราเร่งกับราคาผมว่าอืดไป แต่ถ้าเทียบกับความจุเครื่องยนต์ ถือว่าโอเค
เรื่องความประหยัดเห็นสื่ออีกเจ้าเอามาเทียบกันในยูทูป ดีเซลประหยัดกว่าแต่ต้องวิ่งอย่างน้อยสองแสนกิโลเมตร ถึงจะคุ้มราคาค่าตัว
-
ดูจากราคาที่เพิ่ม อัตราเร่งที่ได้
ไปเบนซิน ติดแก๊สคุ้มกว่า
-
จับดันราง น่าจะไปได้อีกไกลเลยนะครับ
ตัวนี้เดิมๆ ก็บูสต์ 30 ปอนด์ แล้วครับ
คงดันเพิ่มไม่ได้มากแล้ว
-
เครื่อง 2.4 ช้ากว่ากินกว่าอีกแฮะ แต่ดีเซลชอบทาง cx-5 มากกว่า อัตราเร่งดีกว่าประหยัดไม่ต่างกันมาก แต่รอดู cx-5 ใหม่ เผื่อตัวเลขดีขึ้น
-
สรุปไปเล่นตัวเบนซิลแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย เอาส่วนต่างของราคากับค่าดอกตอนผ่อน ไว้เป็นค่าน้ำมันคุ้มกว่า เพราะกว่าจะคืนทุนต้องประมาณ 1-1.5 แสนกิโล
-
ผมว่ามันจะไปคล้ายๆกับ CX3 คือเครื่องดีเซลเล็กกว่าตัวไปนิดนึง กลายเป็นว่ารุ่นดีเซลแพงกว่าแต่อัตราเร่งด้อยกว่า ไปดีกว่าแค่ตรงประหยัดน้ำมันครับ ต้องเป็นคนที่อยากได้เครื่องดีเซลกับไม่เอา CVT จริงๆล่ะ
-
ราคานี้ อัตราเร่งเท่านี้ ไป 2.4 ดีกว่าครับ
-
ไม่สมกับราคาเลย โถๆๆ
-
สมเหตุสมผลกับขนาดเครื่องและแรงม้าแรงบิดนะครับ
แต่ไม่ค่อยสมราคาเท่าไหร่ เพิ่มจาก 2.4 มากไป
-
ถ้าน้ำมันเบนชินยังราคานี้อยู่ ก็คงไม่เลือกรุ่นนี้แน่นอนอัตราเร่งสูสี แต่กับราคาไม่สมกันเลย
-
ถ้าได้ option เหมือนอินโดฯ ก็คงไม่โดนบ่น 5555
-
น่าชื่นชมเรื่องอัตราสิ้นเปลืองมากครับ พอๆกับ X-trail Hybrid เลย
-
ยังไงผมก็ยกให้ Mazda CX-5 2.2d เป็น Compact SUV ที่น่าใช้ที่สุดในเรทราคานี้
-
CX5 2.2D ราคาสมเหตุสมผกว่า สิ้นปีนี้เจอโฒเดลใหม่ ศึกหนักแน่ๆ ถ้า CX5 จัดออพชั่นมาเต็ม
-
แล้วถ้าเครื่องนี้ไปอยู่ใน Hr-V minorchange ล่ะ จะเป็นยังไงน้า :-X
-
แล้วถ้าเครื่องนี้ไปอยู่ใน Hr-V minorchange ล่ะ จะเป็นยังไงน้า :-X
คิดเหมือนกันครับ
จับ 1.6 ลงแอคคอร์ด ซีวิค HRV เป็นเครื่องสหกรณ์ไปเลย
ดูจากสมรรถนะแล้วไม่ขี้เหร่นะ
รถหนัก 1.6 ตันบวกน้ำหนักบรรทุก ล้อยางใหญ่ ตัวรถต้านลม
สมรรถนะแบบนี้ หนี PPV รุ่น low power ได้สบายๆ
ระยะยาวต้องมาดูกันว่าทนไม่ทน อึดไม่อึด แต่กับฮอนด้าคงไม่น่าห่วง
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
เครื่องโบคู่ได้แค่นี้ เฉยๆไม่ว๊าว ไม่คุ้มราคาเท่าไหร่
รอ all new cx5 มารับน้องได้เลย
-
ถ้าเทียบกับคู่แข่งที่เป็น ppv เครื่องใหญ่ๆ อัตราเร่ง กับอัตราสิ้นเปลือง ผมว่าไม่น่าเกลียดเลย
ออกจะดีด้วยซ้ำ แต่พอเทียบกับ 2.4 ในรุ่นเดียวกัน ถ้าไม่ได้รับชอบดีเซลจริงๆ
ไป 2.4 คุ้มกว่าแน่นอนครับ
-
น่าจะสัก 20 โลต่อลิตรนะ แอบผิดหวัง
-
ขับในสภาวะจริงจะอยู่ที่ประมาณ 13 km/l
เวลากดคันเร่งเสียงเครื่องจะดังมาก เข้ารถมาแถวๆแป้นเหยียบ
ผมว่าเครื่องมันเล็กเกินแล้วใช้เกียร์ช่วยทดเอา
2.4ยังน่าสนใจกว่าครับ
-
ดีงามแล้วล่ะครับ แบ่งยอดขายให้ยี่ห้ออื่นได้บ้าง :D
-
เทียบกับเครื่อง ตัวเลขก็สมเหตุสมผล ทั้งอัตราเร่ง และประหยัดน้ำมัน
แต่เทียบกับราคาแล้ว บ็ายบาย
-
คล้ายข้อมูลต่างประเทศ
อัตราเร่ง ดีเกินตัว
แต่อัตราสิ้นเปลืองก็ไม่ได้ประหยัดอย่างที่คิด
-
หากเทียบกับ CX-5 ตัวใหม่ เรื่องสมรรถนะ CRV คงสู้ไม่ได้ แต่ถ้าดูโดยรวมเช่น การให้บริการของศูนย์บริการ /ความพร้อมเรื่องอะไหล่ HONDA ก็คงขายดีกว่าอยู่ดี อยากให้ MAZDA Thailand ลองพิจารณาเรื่องนี้ดูนะครับ
-
ผมว่าก็โอเคสำหรับรถ Young family นะครับ ขับไม่เร็ว เก็บของเยอะๆ
ศูนย์เยอะ ขายต่อราคาดี ข้อเสียก็คงเป็นการเก็บเสียงลมเสียงฝน ขับเร็วแล้วเสียวเป็นต้น
ยังไงตัว 2.4 ก็ขายดีแน่ๆ เพราะชื่อเสียง CR-V ที่สั่งสมมานานในไทย
-
ไป 2.4 เบนซิน อย่างไม่ต้องลังเล กว่าจะได้ค่าประหยัดน้ำมันจากดีเซล วิ่งเป็นแสนโลเลย ไอ้เราขับรถน้อยด้วย... ที่ดูสมน้ำสมเนื้อ คือ New cx-5 คัวใหม่ แต่ไม่รู้ยังรออะไหล่กันนานอยู่มั้ย ?
-
cx 5 แรงกว่า forester xt อีกเหรอ แม่เจ้า > <
-
ประหยัด น้ำมันมากเลย
แต่ก็จ่ายเงินซื้อรถเยอะกว่าเยอะอะ
ไม่น่าคุ้ม
ไปเล่น เบนซิล น่า ตอบโจทย์กว่า
ยกเว้น อยากโชว์ว่ารถข้าเกียร์กดปุ่มนะ ^^
-
พอใช้ได้คับ ประหยัดพอไหวอยู่นะ
-
สุดยวดแล้วครับ น้ำหนักตัว ขนาดเครื่อง อัตราเร่ง การกินน้ำมัน :)
-
เวลาจ่ายค่าน้ำมันถูกไปเรื่อยๆ สุขภาพจิตดีกว่านะครับ
แม้ตอนซื้อจะจ่ายแพงกว่า แต่เหมือนจ่ายเพื่อเอาค่าเทคโนโลยี่
CX5 2.2d ทำเวลาดีกว่ามาก แต่ก็เป็นแค่ตัวขับ 2 เอามาเทียบไม่ได้
X-Trail 2.5 นี่จบเห่เลย เร็วกว่าแค่ 1 วิ แต่ฟาดน้ำมันไปมากกว่า 4 กม/ลิตร
X-Trail hybrid ยังแพ้เรื่องความประหยัด แม้จะเร็วกว่า แต่บางคนไม่อยากเสี่ยงกับระบบ Hybrid
เทียบกับ CX5 CRV ก็น่านั่งสบายกว่า ผ่อนคลายกว่า
-
อัตราสิ้นเปลืองผมว่าดีงามเลยครับผม กับรถลักษณะนี้
เลือกยากเหมือนกันนะครับระหว่าง เบนซินกับดีเซล
เบนซินได้ CVT แต่ตัวนี้ได้ 9 Speed ถ้าดูเทคโนโลยีเกียกับของที่ได้ และความทนทานของเกียร์เครื่อง ตัวไหนน้อจะคุ้มกว่าครับ
-
จัดโบใหญ่สักลูกแค่นี้ก็ไม่อืดแล้วครับ
-
ครบเครื่อง All around ขนาดนี้ น่าซื้อกว่า CX-5 2.2 ตั้งเยอะ คงมีน้อยคนที่ซื้อรถเพราะ 0-100
-
ตามคาดนิ ทั้งแรงและความสิ้นเปลือง
คนที่บอกว่า น่าจะประหยัดกว่านี้....พี่จะเอาถึงไหนครับ CX3 ดีเซลที่ยัด 1.5ที่โครตประหยัดของ 2 ลงไป ยังได้ราวๆ 18 โลลิตรนะครับ
รถคันใหญ่กว่า 7 ที่นั่ง อัตราเร่งดีกว่าเยอะ พี่จะเอา 20โลลิตรเลยเหรอครับ
ความแรง พอกวด cx5 2.0 ได้ก็ตามคาดละ
............
แต่ผมก็เห็นด้วยกับคนอื่นนะ เอา 2.4 น่าจะจ่ายแล้วคุ้มกว่า เหมือนทำไม cx3 น่าซื้อเบนซินมากกว่าดีเซลนั่นละ...
ราคาค่าตัวมันแพงไป(เยอะ) นะ ถ้าไม่แคร์ 7ที่นั่ง ผมยอมไปเอา cx5 ที่เทกระหน่ำตอนนี้ หรือทนรอ cx5 ใหม่ละกัน(แต่ก็ไม่หวังว่า cx5 ใหม่ตัวเลขจะสวยกว่าตัวเก่าเยอะ ผมคิดว่ามันแค่เปลื่ยนโฉมแต่ใส้ในยังคล้ายๆ เดิมมากกว่านะ)
-
ถ้าไม่ดูราคา นี่จัดว่าเป็นรถที่ดีมากรุ่นนึง 8)
-
รถอะไรที่ราคาต้นเกิน1.5 ล้านตอนนี้ยังหาสิ่งที่เรียกว่า สมราคาไม่เจอแหะ
-
ถามในเชิงวิศวกรรมนะครับ ว่า 1.6 D ตัวนี้ ทำไมให้แรงม้าต่างจาก 1.5 D ของ Mazda ลิบลับ
แถมยังขึ้นไปไล่กับพิกัด 2.2 D ของ Mazda ได้อีก (แม้ตัวเลขต่างกัน 2 วินาทีก้อตาม) รวมถึงว่าแรงม้าได้พอๆกับ PPV 2.4-2.5 ลิตร
เพราะบูส เพราะเกียร์หรือการออกแบบส่วนไหนหรอครับ
-
จับดันราง น่าจะไปได้อีกไกลเลยนะครับ
ตัวนี้เดิมๆ ก็บูสต์ 30 ปอนด์ แล้วครับ
คงดันเพิ่มไม่ได้มากแล้ว
ดันราง คือการเพิ่มแรงดันน้ำมัน ไม่ใช้ไปเพิ่มบูสต์นะคับ
-
นึกว่า 1.6D จะอัตราเร่งดีกว่า 2.4 ซะอีกครับ
แต่ความประหยัดดีมากจริงๆ ลอง 2.4 วิ่งในเมือง
ติดบ้างโล่งบ้างดีสุดตอนนี้ได้แค่ 10-12 km/l. เองครับ ตามจอรถ
-
ตามคาดนิ ทั้งแรงและความสิ้นเปลือง
คนที่บอกว่า น่าจะประหยัดกว่านี้....พี่จะเอาถึงไหนครับ CX3 ดีเซลที่ยัด 1.5ที่โครตประหยัดของ 2 ลงไป ยังได้ราวๆ 18 โลลิตรนะครับ
รถคันใหญ่กว่า 7 ที่นั่ง อัตราเร่งดีกว่าเยอะ พี่จะเอา 20โลลิตรเลยเหรอครับ
ความแรง พอกวด cx5 2.0 ได้ก็ตามคาดละ
............
แต่ผมก็เห็นด้วยกับคนอื่นนะ เอา 2.4 น่าจะจ่ายแล้วคุ้มกว่า เหมือนทำไม cx3 น่าซื้อเบนซินมากกว่าดีเซลนั่นละ...
ราคาค่าตัวมันแพงไป(เยอะ) นะ ถ้าไม่แคร์ 7ที่นั่ง ผมยอมไปเอา cx5 ที่เทกระหน่ำตอนนี้ หรือทนรอ cx5 ใหม่ละกัน(แต่ก็ไม่หวังว่า cx5 ใหม่ตัวเลขจะสวยกว่าตัวเก่าเยอะ ผมคิดว่ามันแค่เปลื่ยนโฉมแต่ใส้ในยังคล้ายๆ เดิมมากกว่านะ)
เห็นด้วยอย่างแรงครับ รถแบบนี้ ทั้งหนัก ทั้งสูง จะเอา 20 โล/ลิตรเลยหรอครับ
ในกลุ่ม eco car เครื่อง 1.2 (ไม่นับ mazda2 ที่ประหยัดเกินหน้าเกินตาคนอื่น)
เทสต์ตามมาตรฐานเว็บนี้ก็ยังอยู่ในช่วง 17-18 กม./ลิตร ทั้งที่เครื่องเล็กกว่า ตัวรถก็เบากว่าคนละเรื่อง
ลองคิดถึงหลักความเป็นจริงด้วยครับ ไม่ได้จะอวยฮอนด้า แต่อยากให้คิดกันในความเป็นจริงครับ
-
ราคา - ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ - ความประหยัด
ผมว่ามันยังไม่สัมพันธ์กันนักเทียบกับราคาที่จ่ายไป
-
ไม่คุ้มราคาเลยจริง ๆ เข้าใจเลยว่า คนจอง 2.4 เยอะมาก
-
อัตราสิ้นเปลืองด้อยกว่าที่คาดไว้หน่อย คิดว่า km/l น่าจะได้สัก 18km/l+
ส่วนอัตราเร่ง พอๆ กับที่คาดไว้
-
นั่นสิครับ ผมคาดว่าประหยัดกว่านี้เพราะ CRV ใช้เครื่อง 1.6 เทอร์โบคู่ และใช้เกียร์ตั้ง 9 สปีด แต่ CX-5 ดีเซลขับหน้าก็ประหยัดใช่ย่อยเครื่อง 2.2 โบคู่แรงกว่าเยอะแต่กินต่างกันแค่ 1 โลลิตรเอง
-
แค่นี้ก็ประหยัดสุดๆแล้วละ
แต่ถ้าแลกกับการประหยัดของ2.2CX-5 แล้วได้อัตราเร่งมาด้วย ผมยอมแลก
แต่ถ้าคนทั่วไป ขับชิวๆ ใช้ยาวๆ 1.6ดีเซลตอบโจทย์
-
ตอนนี้ใจอยู่กับ 2.4 2WD ติดแก๊สเลย เครื่องดูแลง่าย ราคาสบายกระเป๋า
-
รถตลาด เน้นประหยัด ;) ;) ;)
-
น่าจะจับเครื่องนี้ลง Ridgeline ขายในไทย เป็นคู่แข่ง Dmax 1.9 ได้เลย
-
ขอบคุณครับ
-
มีดีแค่เรื่องประหยัดน้ำมัน แต่ค่าตัวดันปาเข้าไป 1.5 ล้านเศษ ถ้าไม่แคร์ออพชั่นจบกับตัวถูกสุดคุ้มกว่ามากๆ
-
Ridgeline นี่เกิดมาเป็นปิคอัพพื้นฐานเก๋งนะครับ เป็นกระบะแค่กระดอง คิดเล่นๆก็ยืนอยู่คนละขั้วกับ ppv บ้านเราเลย
ถ้ามาคงจะใช้ฐานภาษีเก๋ง เครื่องเบนซิน v6 3.5 + ภาษีนำเข้า + บลาๆๆ ซึ่งราคาก็คงไปจบแถวๆ 3-4 m. :'(
ถ้าเอาเครื่องนี้ลง จะอืดกว่า crv นี้อีกพอสมควร
แต่ตัวรถน่าใช้ดีนะ
-
เครื่องยนต์ ความจุซีซี+เทอร์โบคู่ กับ น้ำหนักตัวรถ
0-100 ได้ใกล้ๆเลข 10 น่าจะดี แต่ได้อัตราเร่งขนาดนี้+ความประหยัดน้ำมัน พอไหวอยู่นะ
ค่าตัวรถ แพงไปหน่อยครับ
-
ถ้าดูแค่อัตราเร่งกับการประหยัดน้ำมัน
X-Trail 2.0 Hybrid ดูเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าเลยนะครับ
0-100 เร็วกว่า 2 วิ
อัตราการประหยัดน้ำมันเรียกว่าเท่ากันก็ว่าได้
-
ถ้าเอาเครื่องบล็อกนี้มาลงCity/Jazzเนาะ
-
ประหยัดพอตัวเลยนะครับ สำหรับขับ 4
ตัวขับ 2 น่าจะดีกว่านี้สัก 1 - 1.5 กม./ลิตร จะสวยเลย
ขับไปเรื่อยๆ สายสันติ
แต่ก็ยังรู้สึกว่าราคามันดุเดือดจริงๆ ครับ สำหรับ c-suv
ถ้าใช้เงินตัวเองซื้อนี่ คิดหนักจนหัวล้านแน่นอน
ถ้าเอาเครื่องบล็อกนี้มาลงCity/Jazzเนาะ
สัมผัสได้ถึงความสนุกสนาน
City i-DTEC
มาสด้า 2 ต้องมีหนาวๆ ร้อนๆ หลอนๆ กันบ้างหละ ;D
-
ทำไมหลายๆคนยังไม่พอใจกับตัวเลขประหยัดน้ำมันอีกครัช
ในเมื่อมันก็ทำได้ดีที่สุดในกลุ่มอยู่แล้ว
ดีกว่าCX5 2.2 ขับหน้า เสียอีก ทั้งที่เป็นขับ4
แพ้แค่อัตราเร่งเท่านั้น ก็เพราะคงจะเซทมาเพื่อประหยัดน้ำมันมากกว่า
ถ้าจะเอาตัวเลข18 คงต้องขับ90ล่ะครัช อาจจะได้
-
ผมอยากให้มีคนรีวิวจังครับว่าขับที่ 70-80-90 กินน้ำมันเท่าไหร่
ผมว่าก็สำคัญนะเพราะคนขับในย่านนี้ในเมือง ชานเมืองเยอะ
ถ้ามันได้ 20+ นี่ โอเคเลย
-
ส่วนตัวผมค่อนข้างผิดหวัง เครื่องใหม่บล๊อคเล็ก แถมเกียร์ลูกใหม่ 9 จังหวะ ขับเรื่อยๆมันน่าจะประหยัดกว่านี้
-
เกียร์ลูกใหม่ทำได้ดีจริงๆ
1.6 ดีเซล กับตัวถังอ้วนๆ ขับ4 วิ่งทะลุ 200 ประหยัดระดับ 15++โลลิตร ทำได้ขนาดนี้เทพแล้วครับ
แต่ 1.7 ล้าน แพงไปนิด
-
ผมอยากรู้ว่าถ้าวิ่งในเมืองรถติดหนักๆนี่จะกินซักกี่โล/ลิตรครับ จะประหยัดกว่าตัว 2.4 เยอะไม๊
-
Honda CR-V Gen5 : 1.6 i-DTEC 9AT 2WD
จากผู้ใช้งานจริงนะครับ
วิ่งนอกเมือง 19 กว่าๆ
วิ่งในเมือง 15 กว่าครับ
ประหยัดใช้ได้เลยครับ เสียงเครื่องความเร็วต่ำเงียบมากครับ แต่ความเร็วสูงมีดังเข้ามาจริงครับ
-
จับดันราง น่าจะไปได้อีกไกลเลยนะครับ
ตัวนี้เดิมๆ ก็บูสต์ 30 ปอนด์ แล้วครับ
คงดันเพิ่มไม่ได้มากแล้ว
ดันราง คือการเพิ่มแรงดันน้ำมัน ไม่ใช้ไปเพิ่มบูสต์นะคับ
ครับ
แต่คนที่ดันรางส่วนใหญ่ ก็ต่อด้วยปลดบูสต์ด้วย ทั้งนั้น