Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ กรกฎาคม 01, 2017, 20:13:28
-
จากกระแสข่าวรถยนต์ Hybrid และไฟฟ้าที่มีอัตราภาษีเหลือเพียง 5 และ 2% นั้น
ถ้าท่านคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องซื้อรถในช่วง 1-3 ปีนี้ ท่าจะชลอการซื้อรถยนต์ใหม่กันหรือไม่ครับ
เพราะอะไรกันครับ
ส่วนตัวผม ที่บ้านรอดูว่าทิศทางจะไปในทางไหน อย่างคุณพ่อชอบ Note พอได้ข่าวมีจะมี E-power มาก็เลยซ่อมรถคันเก่า (Freed) ให้ใช้ได้ดีไปก่อน เพราะเชื่อว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้ารถไฟฟ้า (และ hybrid) จะเป็นรถหลักที่ เราใช้กัน Eco car ก็อาจจะเสื่อมลงไปเพราะรถไฟฟ้า และ hybrid ได้ภาษีที่ถูกกว่ามากๆ ชอบตรงจะมีกระบะ PPV (และ MPV แบบ innova) มาซึ่งรถพวกนี้สมัยก่อนไม่กล้าซื้อเพราะ รถสูงล้อใหญ่ กินน้ำมันมาก ภาษีสูง แต่ตอนนี้มี isuzu 1.9 มา แล้วอาจจะมี hybrid ซึ่ง innova hybrid ก็อาจมาไทย
ดีใจที่จะมีรถ Hybrid ในกลุ่มรถพวกนี้ครับ จริงๆ อยากให้รถกลุ่มนี้ทำภาษีในกลุ่ม 5% มากกว่า แบบเปิด line เป็นเก๋ง hybrid โดยทำโครงสร้างเป็น mpv ไปเลยครับ
ส่วนรถผมเอง ผมตอนนี้ก็ดูๆ Avanza ตัว 2015 มือสองอยู่ ถ้าปีหน้าไม่ได้ อาจจะตัดสินใจว่า ไปซื้อ Yaris sedan ตัวล่าง ไม่งั้นก็ใช้ March ต่ออีก 2 ปี ปี 2020-2021 เปลี่ยนเป็นรถ hybrid หรือรถไฟฟ้า ตัวเล็กๆ ที่ราคาไม่แพงมากนัก ไปเลยครับ
;)
มาแลกเปลี่ยนกันครับ
-
คาดหวังอะไรจากภาษีใหม่ครับ
ถ้าหวังเรื่องราคาให้ลดลง
ผมว่าไม่ลดครับ น่าจะเป็น
การเพิ่มอุปกรณ์มาซะมากกว่า
การลดราคารถลงจากภาษีมัน
กระทบไปหลายส่วน ทั้งรถมือสอง
ทั้งกำไรจากผู้ผลิต ซึ่งข้อหลังผมมอง
ว่ามันสำคัญมาก เพราะอย่างที่รู้
รายใหญ่ในไทยมีอิทธพลขนาดไหน
สามารถชี้กำหนดทิศทางของระบบเศรษฐกิจ
ได้เลยทีเดียว
แต่ถ้าคาดหวังเรื่องความหลากหลาย
ในรุ่นรถและรุ่นเครื่องยนต์ที่มีให้เลือก
เพื่อตอบโจทย์การใช้งานอันนี้มีแน่ๆครับ
ต่อไปผมว่าจะได้เห็น option ที่
เคยเห็นแต่ในรุ่นใหญ่ๆ ถูกใส่ลงมา
ในรุ่นเล็กลง (ในราคารถเท่าๆเดิม)
ถ้าจะตอบในคำถามว่าจะชะลอ
การซื้อรถไปมั้ย ผมคงไม่ครับ
เพราะคิดว่าราคามันไม่ปรับลงอยู่แล้ว
แต่ส่วนตัวยังคงไม่เอา
เครื่องยนต์ Hybrid อยู่ดี
เพราะมีประสบการณ์เลวร้าย
เกินจะรับได้ ขอใช้เครื่องยนต์
สันดาบไปจนกว่า จะไม่มีทางเลือกดีกว่าครับ
ปล.แชร์ความคิดเห็นส่วนตัวครับ
-
รถ Hybrid จริงๆ ไม่ได้แพงเลยครับ
แต่ ที่รถไทยแพง เพราะกำแพงภาษี รถ ส่วนบุคคล แบบโหดร้าย
เช่น รถ เก๋ง 1500 cc เติม E85 ไม่ได้ โดน TAX 30 % และ เอาราคาไป รวม VAT อีก ประสาทๆๆๆ
Hybrid จะแพงกว่า รถน้ำมัน ใน ระดับเดียวกัน ราวๆ 25 %
นั่นก็แปลว่า ราคา รถ จะเท่าเดิม ครับ 55555 แต่ รัฐ ได้เงินน้อยลงนั่นละ
เราจะได้ รถ Hybrid ราคา ๆ เท่าๆ รถน้ำมัน เดิม ในปจจุบันครับ แต่ EV จะถูกกว่า Hybrid แน่ๆ
-
รถ Hybrid จริงๆ ไม่ได้แพงเลยครับ
แต่ ที่รถไทยแพง เพราะกำแพงภาษี รถ ส่วนบุคคล แบบโหดร้าย
เช่น รถ เก๋ง 1500 cc เติม E85 ไม่ได้ โดน TAX 30 % และ เอาราคาไป รวม VAT อีก ประสาทๆๆๆ
Hybrid จะแพงกว่า รถน้ำมัน ใน ระดับเดียวกัน ราวๆ 25 %
นั่นก็แปลว่า ราคา รถ จะเท่าเดิม ครับ 55555 แต่ รัฐ ได้เงินน้อยลงนั่นละ
เราจะได้ รถ Hybrid ราคา ๆ เท่าๆ รถน้ำมัน เดิม ในปจจุบันครับ แต่ EV จะถูกกว่า Hybrid แน่ๆ
เอาจริงๆ ผมอยากได้รถไฟฟ้าแบบมี เครื่องเล็กๆ ขยายระยะทางแบบ I3 ครับ แต่คงยากที่จะต่ำกว่าล้าน 555
-
ถ้าต้องใช้คงไม่รอครับ
การลดภาษีไม่เคยทำให้รถ ราคาลดลง มีแต่จะทำให้บริษัทรถกำไรมากขึ้นดึงดูดให้ผลิต
Altis E85 ตอนนี้ แพงกว่าAltis สมัยก่อนได้E85
ECO Car ราคาไปเบียดB Seg สมัยก่อน
..
-
ไม่นะครับ กลับกลายเป็นว่า อยากจะเก็บเกี่ยวเครื่องยนต์สันดาปให้มากที่สุด เช่น เครื่องเทอร์โบคู่
-
ถ้าต้องใช้คงไม่รอครับ
การลดภาษีไม่เคยทำให้รถ ราคาลดลง มีแต่จะทำให้บริษัทรถกำไรมากขึ้นดึงดูดให้ผลิต
Altis E85 ตอนนี้ แพงกว่าAltis สมัยก่อนได้E85
ECO Car ราคาไปเบียดB Seg สมัยก่อน
..
คงต้องดู ต้นทุน ณ ปัจจุบัน เอา ราคา ขาย ต่างประเทศมาเทียบครับ
จะให้ ต้นทุนรถมันเท่า 20 ปีก่อนก็ไม่ใช่
Eco car สมัยนี้ ใส่อะไรละ ครับ Airbag ABS VSC เครื่องก็แรงเท่า 1.5 สมัยก่อนนะ
จริง Eco car โดนภาษี TAX ก็
ตอน รัฐบาล ยกเว้นภาษี รถคันแรก บริบัทรถ ก็ได้ กำไรเท่าเดิมนะครับ ที่มันลดปนะรายได้ รัฐบาล
-
ถาม จขกท ว่า e-power จะมาจริงๆ หรือครับ
-
มีผลครับ พอดีผมกำลังดูรถใหม่ ( เล็งรถ D segment อยู่พอดีซะด้วย )
ดูก่อนว่าค่ายรถจะมาแนวไหน ลดราคา หรือ ราคาเดิมแต่ให้ออพชันเพิ่ม
เท่าที่ดูสถานการณ์ตอนนี้ Camry อาจไม่ปรับอะไรแล้ว เพราะน่าจะเปิดตัวรุ่นใหม่แล้วจัดออพชันไปเลยทีเดียว ( โอกาสที่จะ ไมเนอร์เชนจ์ส่งท้ายน้อยมาก)
ส่วน Accord hybrid ไม่แน่อาจจะมีไมเนอเชนจ์ เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มนี้ต่อไป (ยอมรับว่าใจสั่นกับ Privilege Package มาก :-* :-*)
ดังนั้นก็เลยใช้ Altis mc 2010 ต่อ รอดูทิศทางลมต่อไป :-X :-X
ปล แอบชำเลือง Teana L33 อยู่เหมือนกันนะ 5555
-
ไม่ครับ ยังไงก็ไม่เอาไฮบริด
-
ส่วนตัวไม่รอ เพราะไม่สน Hybrid ครับผม
-
ถ้าต้องใช้คงไม่รอครับ
การลดภาษีไม่เคยทำให้รถ ราคาลดลง มีแต่จะทำให้บริษัทรถกำไรมากขึ้นดึงดูดให้ผลิต
Altis E85 ตอนนี้ แพงกว่าAltis สมัยก่อนได้E85
ECO Car ราคาไปเบียดB Seg สมัยก่อน
..
ดูดี ๆ ครับพี่ จริง ๆ ที่เกรดเท่า ๆ กัน ออปชั่นเท่า ๆ กัน รถถูกลงนะ
Altis หน้าหมู 1.8E เบาะผ้า ปี 2002 ป้ายแดงราคา 91x,xxx.-
Altis 1.8 Esport ปี 2017 ป้ายแดงราคา 939,000.-
ผ่านไป 15 ปี แพงขึ้นเท่านี้แต่ได้ข้าวของเยอะกว่าเดิมมากกกกกกก
Civic FD 1.8S AT AS ปี 2010 ป้ายแดงราคา 83x,xxx.-
Civic FC 1.8E ปี 2017 ป้ายแดงราคา 869,000.-
ผ่านไป 2 เจน รถคันใหญ่ขี้นเยอะ ข้าวของก็มากขึ้น ราคาขยับแค่นี้
ถ้าบนโชว์รูมมีรถใหม่ทั้ง 2 คันและแปะป้ายราคาเท่านี้ ผมเอา FC นะ
ถ้าเอามาเทียบกับอาหารตามสั่งข้างทางล่ะก็จะเห็นชัดเลยว่ารถถูกลงคับ
-
การปรับ option คงเกิดขึ้นกับรถ hybrid เพราะ บ.รถ คงไม่ปรับราคาลง
คราวนี้ก็ต้องมาดูว่า รถ non-hybrid จะได้ปรับอะไรด้วยหรือไม่
ถ้าใครจะซื้อรถ ต้องตามกันต่อไปครับ
-
แม้จะลดภาษี แต่เทคโนโลยีแบตยังกั๊กอยู่ครับ ราคาตัวแบตแพงมาก ๆ ผมจะรอจนเป็นรถไฟฟ้าแบบ FULL จริง ๆ แล้วซื้อให้ลูกใช้ครับ ตอนนี้จึงใช้แบบเครื่องเบนซินไปก่อน
ภาษีที่ลดลงมา เพื่อจูงใจบริษัทรถให้ได้กำไรมากขึ้น เผื่อจะมาลงทุนเพิ่ม ส่วนผู้บริโภค ต้องทำใจ
-
คงไม่มีส่วนเพราะผมซื้อรถตามความจำเป็นและความอยากได้ ซึ่งต้องชั่งน้ำหนักให้ดีแล้วจึงจะซื้อ
-
คงไม่รอครับ. ตลาดตอนนี้ยังไม่ไว้ใร hybrid ดูจากราคามือสองได้ และราคามือ1 โดดไปจากรุ่นธรรมดาหลักแสนซึ่งไม่คุ้มกับความประหยัดที่ได้ ซึ่งผมก็ไม่ได้รักษ์โลกขนาดนั้น ขอไปปลูกต้นไม้แทนดีก
แต่สัก 5-10 ปี อาจจะได้ใช้เพราะรถในตลาดอาจจะครึ่งนึงคงเป็น hybrid ถึงเวลานั้นราคาลงมาอีกหน่อยและเต็นท์จะบอกว่าใครๆก็ใช้กัน. เรื่องแบตไม่ห่วงเพราะคงไม่ใช้ยาวเกินประกันแบต10ปี
-
ผมว่าอย่างน้อยคนที่เล็งฟอร์จูนเนอร์ หรืออินโนว่าใหม่อยู่บางส่วนคงชะลอออกไปก่อนเพื่อดูราคาตัวไฮบริดนะ
-
"เพราะเชื่อว่าอีก 3-5 ปีข้างหน้ารถไฟฟ้า (และ hybrid) จะเป็นรถหลักที่ เราใช้กัน Eco car ก็อาจจะเสื่อมลงไปเพราะรถไฟฟ้า และ hybrid ได้ภาษีที่ถูกกว่ามากๆ "
แต่ราคารถ+ค่าบำรุงรักษา มันจะไม่ได้ถูกไปด้วย
ต้นทุนรถก็แพงขึ้น ค่าแบตอาจถูกลงแต่เป็นไปอย่างช้าๆ
คือถ้าจะซื้อตอนนี้ก็ซื้อได้เลยนะ บางทีรวมตลอดอายุการใช้งาน ค่าน้ำมันที่ต้องจ่าย คิดว่ายังไงรถสันดาบแบบปกติก็ยังคุ้มกว่า
แถมราคาขายต่อยังดีกว่าด้วย
แต่ถ้าเป็นคนรักโลกจริงๆ คงถูกใจกับภาษีใหม่
-
Hybrid จะมาแต่ตัวท๊อปนะสิครับ ยอดขายคงไม่ได้สูงมากด้วย เหมือนเอา Hybrid มาขายเสริมภาพลักษณ์มากกว่าครับ
ดูแล้วไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจอะไรขนาดนั้น ถ้างบถึง เงินถึง ก็จัดตัวท็อป Hybrid
-
ส่วนตัว แล้วแต่การใช้รถครับ เพราะ
- บางคนก็ไม่ได้ต้องการ hybrid
- บอกว่ากระบะ hybrid ในไทย ผมยังว่าเร็วไป 30 ปี เพราะกระบะเน้นใช้งานแบบไหน ทุกคนรู้ดี ขนาดรถดี ตอบโจทย์ สวย แค่รถจุกจิก คนยังไม่ใช้ ไม่ซื้อ เลย ถ้าจะอยู่ ppv อันนี้อาจเป็นไปได้
- ถ้าจะเอา hybrid แบบไม่เทียบราคา และไม่สนใจความชอบในตัวรถ เลือก accord hybrid
- คนที่ฝั่งใจ กลัว เกร็งๆ กับ hybrid ยังมีอยู่เยอะ แล้วค่าย nissan เอา e-power มา(ถ้ามาจริง) อาจจะเป็นหมัดสุดท้ายที่ nissan ประเทศไทยจะทำ
- เลือกซื้อรถ ณ วันนี้ ก็ยังเลือกเครื่องยนต์สันดาย นี่ล่ะครับ
-
ไม่หละครับรอดูกระแสอีกซัก 5 ปี 10 ปี ครับ
รถไฮบริดอย่าง Prius ที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้ผม ผมยังหาอู่นอกที่กล้ารับซ่อมไม่มีเลยครับ
เข้าศูนย์อย่างเดียว เพราะฉะนั้นมันฮิตเมื่อไหร่ค่อยตัดสินใจอีกทีครับ
-
ไม่เคยอยู่ในหัว
-
ไม่ชะลอครับ จำเป็นต้องใช้ยังไงก็ซี้อรถใหม่อยู่ดี
E-power มุมมองผมคือยังไงก็ขายไม่ได้ ไม่ใช่ว่าตัวรถไม่ดี แต่คนไทยยังยึดติดกับภาพลักษณ์เดิมๆอยู่
ขนาดแจ๊ส Hybrid รุ่นก่อนขาย 740k คนยังไม่เอาเลยครับ
-
เหมือน Jazz Hybrid IMA ดูคนดูแคลนไว้เยอะด้วยครับ
ว่าเป็น Hybrid ชั้นสองสู้ Toyota ไม่ได้ ภาพลักษณ์อะไรก็ไม่ได้ จบข่าว
รถ Hybrid เปิดตลาดมาด้วยภาพลักษณ์เพราะกลุ่มคนรวยใช้พวกรถ
นำเข้าจากญี่ปุ่นเป็น Hybrid มาหลายปี Jazz, Civic ไม่ตอบโจทย์ตรงนี้
ผมว่าไม่น่าซื้อเลย แต่ในความเป็นจริง มันประหยัดดีและราคาไม่แพง แต่มันไม่ได้แรงกว่ารุ่น
ปกติ นี่คือจุดด้อยด้วย เหมือนรักษ์โลกอย่างเดียวบู้ไม่ได้
-
ไม่รอครับ
เพราะยังมีปัจจัยอื่น (นอกจากราคา) ให้กังวลอยู่
-
มีผลครับ ปีนี้จะหารถมาเสียบแทนคันนึงที่บ้านที่ครบสี่ปีพอดี
ถ้านิสสันเอา e power มาจริงก็จะเป็นช้อยส์แรกครับที่จะเลือกครับ
ส่วนตัวคือรอได้
-
ไม่นะครับ กลับกลายเป็นว่า อยากจะเก็บเกี่ยวเครื่องยนต์สันดาปให้มากที่สุด เช่น เครื่องเทอร์โบคู่
+10
-
Tesla model 3!
-
ถ้าค่าบำรุงรักษาถูกก็น่าใช้นะครับ ผมใช้จักรยานไฟฟ้า เปลี่ยนแบตทีเป็นหมื่น ก็เลยไปซื้อมอเตอร์ไซต์น้ำมันมาใช้ดีกว่า
-
ผมก็คงไม่รอเช่นกัน หลักๆไม่สนใจ hybrid แต่สนใจ ev มากกว่าครับ
ถ้าจำเป็นต้องใช้ ev จริงๆ ผมรอดู Tesla นี่แหละ
-
ผมรอครับ แจ๊สที่ใช้อยู่ตอนนี้อายุ2ปีครึ่ง อีก3-4ปีผมจะเปลี่ยนเป็นรถ Hybrid หรือ ev แน่นอนครับ
-
ผมรอครับ แจ๊สที่ใช้อยู่ตอนนี้อายุ2ปีครึ่ง อีก3-4ปีผมจะเปลี่ยนเป็นรถ Hybrid หรือ ev แน่นอนครับ
ผมก็เคยคิดแบบนี้ ;D
-
ในฐานะที่เคยใช้รถ Hybrid มาก่อน ผมไม่รอครับ ยังไงๆก็ไม่ซื้อใช้แน่ๆครับ
-
ขอบคุณทุกความเห็นครับ สรุป ผมรอๆ ครับ
-
เฉพาะรุ่นที่สนใจครับ
เช่น โน้ตซัง อีพาวเวอร์
หยุดรอเป็นกรณีเฉพาะเลย ;D
-
ถ้าเป็น ev ไม่รอครับ
แต่ถ้าเป็น hybrid ญี่ปุ่น อาจรอครับ
ถ้าประกาศชัดๆว่าลดภาษี ผู้ผลิตจะหน้าด้านไม่ลดราคาก็ให้มันรู้กันไป แต่ถ้ารานไหนกำลังจะออกรุ่นใหม่ก็อาจจะมีพริ้วว่ารุ่นใหม่ราคาเดิมซะงั้น
ต้องแบบปี 2008 ที่มีภาษี e20 รถส่วนมากเป็นรุ่นเดิม ก็ลดราคาทั่วหน้า