Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nl2br ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 18:31:08

หัวข้อ: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 18:31:08
ช่างพอเหมาะกับข่าวที่มาสด้ามีการเรียกคืนรถตามลิงค์นี้ http://www.headlightmag.com/news-diesel-2-2-skyactiv-d-recalled/

รถผมออกเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2015 กำลังจะครบ 2 ปี ระยะทางรวม 70000 กิโลเมตร อัตราเร็วเฉลี่ย 25km/h
อัตราสิ้นเปลืองรวมเฉลี่ยน 4.9/100km
 รถมีอาการคือ กดคิกดาวน์แล้วไปที่ความเร็วหนึ่ง ประมาณ 120 แล้วผ่อนคันเร่ง แล้วกดต่อ กระตุกทันที แต่ยังพอกดเร่งไปสักพักหายกระตุก
เมื่อเข้าแฟนขับไปทำบุญที่วัด เร่งไม่ขึ้น กระตุก
ขอใ้ห้มาสด้าหาทางแก้ไขให้เจอนะครับ

#เสียงจากติ่งมาสด้าคนหนึ่ง


23 ก.ค. 60 อัปเดทแก้ปัญหาเบื้องต้น

อัปเดทปัญหาครับ เนื่องจากวันอาทิตย์ไม่มีศูนย์ไหนเปิด เพราะรถอยู่ที่ ตจว. สุรินทร์ ประจวบกับแฟนต้องใช้รถมาทำธุระแถวโคราช ทำให้ผมต้องลงจากกทมเข้ามาดูรถ
โดยลองขับดู ที่ความเร็ว 80km สั่นเป็นเจ้าเข้าไม่กล้ากดต่อ ผมเลยลากเกียร 3 เพื่อให้รอบสูงและเพื่อให้รถเผ่าเขม่าโดยความเร็วขณะนั้นยังไม่ถึง 80 ลากอยู่ประมาณ 10 นาทีแล้วตบขึ้นเกียร 4 ความเร็วประมาณ 100 รอบประมาณ 3000 รถหายสั่น จากนั้นเปลี่ยนมาขับ D กดไปที่ 120 สั่นแบบเดิม แล้วผมก็ลากลากเกียร 4 ต่ออีก 5-10 นาทีแล้วกดให้ถึง 120 อาการสั่นหายไป
จากนั้นจอดแล้วเริ่มขับแบบปกติ D จาก 0-170 อาการหาย แล้วเติมน้ำมัน 500 ขับเล่นทั้งวันไป 300 กิโล ยังไม่เจออาการอีกครับ ส่วนตัวผมว่าเป็นที่ระบบเขม่า อาทิตย์หน้าจะเอาเข้า 0 เพราะเห็นมีบางท่านในคลับได้รับจดหมายให้เข้าไปอัปเดทซอร์ฟแวร์
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: The Mechanics of Emotions ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 18:37:16
ในคลับ CX-5 กำลังรวมตัวผู้ใช้เครื่องดีเซลที่พบปัญหาน้ำหล่อเย็นดันพุ่งขึ้นมาทำให้ฝาสูบโก่งครับ ส่วนเบนซิลยังไม่เจอปัญหาหนักๆ ขอให้มาสด้าแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภคอย่างเหมาะสมด้วยครับ คนสนใจเค้าจะได้กล้าซื้อ ลูกค้าเก่าก็ไม่หนีไปไหน
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 19:42:18
ตอนนี้คงทำได้เพียงเอารถเข้า 0 เคลมชิ้นส่วนที่มีปัญหา อัพเดตซอฟแวร์ ECU ใหม่ แล้วรอดูแนวทางการแก้ไขอีกทีครับ

เฮ้ออออ ชักเสียวของตัวเองแล้ว 2x,xxx โล
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 20:49:59
 :( :( :( :(
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 21:03:25
รถลูกค้าผม 2.2D CX-5 วิ่งไปแสนกว่า
พังครับ เปลี่ยนเครื่่องไปทั้งยวง ฟังไม่ผิดครับ
แต่ศูนย์ดูแลให้เป็นอย่างดีดี เปลี่ยนเครื่องให้
ทั้งที่หมดประกันไปแล้ว ที่ถามดูแกบอกมีตามมา
อีกหลายคัน เฉพาะดีเซลนะครับ

ปล.ศูนย์แถวภาคกลางตอนบน
 
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nut_K ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 21:59:53
รถลูกค้าผม 2.2D CX-5 วิ่งไปแสนกว่า
พังครับ เปลี่ยนเครื่่องไปทั้งยวง ฟังไม่ผิดครับ
แต่ศูนย์ดูแลให้เป็นอย่างดีดี เปลี่ยนเครื่องให้
ทั้งที่หมดประกันไปแล้ว ที่ถามดูแกบอกมีตามมา
อีกหลายคัน เฉพาะดีเซลนะครับ

ปล.ศูนย์แถวภาคกลางตอนบน

เพื่อนผม 70,000 โลเครื่อง + เกียร์ไปเรียบร้อยแล้วครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Sacrifice ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 22:07:33
รู้สึกผิดที่เคยแนะนำหลายคนว่าเครื่องยนต์ ดีเซลทนทานไม่จุกจิก

แต่เวลาผ่านไปทำให้รู้ว่า ถ้าออกแบบไม่ดี ยิ่งไปรวมกับ มอเตอร์ไฟฟ้ายิ่งแย่
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: amnartmek ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 22:20:52
      ผมคิดว่าน่าติดตาม การแก้ปัญหาของ mazda ไทยนะครับ ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น
      mazda เค้าเปลี่ยนเครื่องใหม่ให้ก็จริง แต่คนที่เจอปัญหาหนักแบบนี้เค้าก็อยากขาย  ปัญหาต่อมาก็คือราคาขายต่อตกมาก เนื่องจากรถถูกเปลี่ยนเครื่องมา และอีกปัจจัยนึง คือ cx5 ป้ายแดง ตอนนี้กำลังทำโปรลดแสนนึง   :'(
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: meeuwarn ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 22:23:01
เครื่องยนต์และเกียร์ รุ่นที่แล้วๆมาของมาสด้า มีชื่อเสียงด้านความทนถึก :) :) :) :)

ส่วนรุ่นใหม่ สกายแอ็คทีฟ นี่ปัณหา เรื่มมีหนาหูขึ้นเรื่อยๆ หรือเป็นเพราะมันใหม่มากๆ เลยไม่อยู่ตัว ต้องรอรุ่นถัดๆไป

อีกเรื่องคือเรื่องเก็บเสียงแย่ลงชัดเจน โดยเฉพาะ  mazda 3 >:( >:( >:(

ขับดีขึ้น กินน้ำมันน้อยลง แต่ข้างหลัง แคบเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 22:34:24

กำ เจอ สกัดดาวรุ่ง
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 22:34:48
เหตุผลที่โตโยต้าไม่อยากทำเครื่องดีเซลหรือเปล่า

และเหตุผลที่ทำไมค่ายพี่โตถึงมักจะพรางตัววิ่งเป็นปีๆ

ยิ่ง JAPAN TAXI เห็นวิ้งมาชาตินึงแล้ว

.
.
.
อากาศเมืองไทยและแถบซาอุมันท้าทายมากๆครับ
สมมติว่า crv เอาดีเซลโละจากยุโรปมาใช้ อาจได้ตามมาสด้าไปในอนาคตอีก2-3ปีนี้

บางครั้ง เทคโนโลยีที่ใช้กับภูมิภาคนึง ก็ไม่สามารถใช้กับอีกภูมิภาคนึงได้

รถ ev เองที่หลายคนในเว็ปนี้กำลังรอการมา ก็น่ากลัวในระดับนึงนะครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Zachary C ที่ กรกฎาคม 22, 2017, 22:46:14
รอติดตามวิธีการแก้ไขปัญหา และดูแลลูกค้า ของ Mazda, Thailand ครับ

ส่วนตัว ผมคิดว่า ค่ายนี้เป็นค่ายดาวรุ่ง ที่น่าจับตามอง
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 06:07:34
ของแบบนี้ต้องเจอกับตัว

ดีนะที่ผมอ่านมาเยอะ รู้ว่าถ้าเจอเหนื่อยแน่ ออกเบนซินไป
เบื่อกับการซื้อรถมาแก้แล้ว

ขอให้เจอทางแก้ไวๆครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Barracuda ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 06:54:16
มีผลกับราคามือ 2 แน่ๆ แบบนี้
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 06:57:43
ไว้เป็นความรู้เลย
เคยคิดว่าดีเซลทนถึกเหมือนกัน แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว
ต้นทุนเครื่องดีเซลสูง ไม่ได้ทน บำรุงรักษาเยอะ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: rojsak2021 ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 07:09:10
จขกท น่าจะมีปํญหาที่เกียร์เหมือนกันหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: renew ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 07:19:06
มองไปที่ crv ดีเซล ใครจะซื้ออาจต้องรอดูให้สักคัน

วิ่งใด้แสนโลก่อน เหรียนมีสองด้านเสมอ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 07:25:08
จขกท น่าจะมีปํญหาที่เกียร์เหมือนกันหรือเปล่า
ผมว่าไม่น่าใช่ครับ ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับพวกเขม่า
ก่ิอนหน้านี้รถใช้ที่กทม ขึ้นทางด่วน ได้อัดความเร็วสูง 130-140 บนทางด่วนทุกวัน
แต่แฟนเอามาใช้ที่ตจว 2 เดือนแบ้ว ขับกินลมชมไม้ ไม่เกิน 100 แถมขับแปปๆจอดครับ น่าจะเป็นป็นกา dpf กับพวกวาวล์มากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ยิ้มละไม ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 07:56:29
เอาใจช่วยให้เจ้าของกระทู้ หาสาเหตุเจอ แก้ปัญหาได้ แล้วมาแบ่งปันประสบการณ์กัน
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 08:19:20
สุดท้ายวีออสก็มาวินด้านความทนทาน
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 08:20:48
เริ่มมีปัญหาเรื่ิอยๆ ทั้งที่กำลังจะไปได้สวยอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 08:24:12
ดีเซลทนอยู่แล้วครับ แต่ดีเซลมันออกแบบมาให้บรรทุก
เฟืองเกียรใหญ่ๆ เกียรลูกโตๆ น้ำมันถึง ขนาดใหญ่เพียงพอ
พอมาเจอเกียรลูกเล็ก แต่แรงบิดเครื่องเยอะและมาเร็ว ไม่แปลกที่มันจะเอ๋อ

ดูเกียรออโต้ของกระบะดีเซล ออโต้บ้านๆ
เปลี่ยนเกียรไม่ได้หวือหวา แต่เกียรลูกใหญ่ ใช้กันจนลืม

ส่วนเรื่องเขม่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของเครื่องดีเซล
เพียงแต่ดีเซลบล๊อคเล็กๆ พื้นที่ให้เขม่าเกาะน้อย (รูเล็ก) แปปเดียวก็ตัน
ดูพวกวีโก้ เขม่าเกาะเหมือนกัน แต่เครื่องมันใหญ่ ท่ออากาศใหญ่
บางคันเขม่าหนาเกือบนิ้ว แต่มันก็ยังวิ่งได้เพราะอากาศยังไหลได้อยู่
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 08:46:54
ไว้เป็นความรู้เลย
เคยคิดว่าดีเซลทนถึกเหมือนกัน แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว
ต้นทุนเครื่องดีเซลสูง ไม่ได้ทน บำรุงรักษาเยอะ
   จริง ๆ ผมเคยให้ความรู้มานานแล้วในเวป 2.7   เบนซิน        คือปัจจุบันนี้ดีเซลมันไมไ่ด้ทนถึกแบบเครื่องดีเซลสมัยก่อน ๆ     เพราะเครื่องดีเซลสมัยก่อนที่ว่าทนถึกไม่จุกจิกเพราะมันเป็นระบบดีเซลปกติแบบรุ่นพระเจ้าเหาไม่ใช่คอมมอนเรล  แรงม้าและแรงบิดน้อย ไม่ได้เยอะมากเหมือนรถสมัยนี้            และไม่ไ้ด้มีระบบไฟฟ้าและเซนเซอร์ตรวจจับมากมายแบบทุกวันนี้ต่างหาก               แต่คนส่วนใหญ่นั้นไปเข้าใจกันผิดมากมายยกเอาคำพูดเดิม ๆ   เอาทฤษฎีเดิม ๆ มาใช้โดยไม่มีการประยุกต์เลย      แถมไปบอกอีกต่างหากว่าเครื่องดีเซลลุยน้ำได้ดีกว่าเบนซิน  นั่นมันคำพูด  30 ปีที่แล้วต่างหาก ไม่น่าเชื่อว่ายังเอามาพุดกันในปัจจุบันนี้อีก

   ดีเซลนะทนจริงแต่เฉพาะตัวเครื่องยนต์นะครับไม่เกี่ยวกับอุปกรณ์ส่วนควบอื่น  ๆ    อันนี้ต้องคิดเฉพาะตัวเครื่องเปล่า ๆ เปลือย  ๆ   ไม่เกี่ยวกับ อ๊อพชั่นอื่นที่เข้ามา    เช่นเซนเซอร์ สายพาน ปั๊มน้ำ ปั๊มดีเซล หัวฉีด เทอร์โบ เกียร์ กล่องควบคุม      อันนี้ต้องแยกออกจากตัวเครื่องเพราะของเหล่านี้ไม่ไ่ด้แตกต่างจากรถที่มีอุปกรณ์อื่น ๆ แบบสมัยใหม่เลย                      ตอนนี้ขนาด New Fortuner  ที่ว่าอดีตรุ่นก่อนทนทานไม่จุกจิกรุ่นใหม่ที่เป็น New Fortuner  ค่อนข้างจุกจิกกว่ามาก   ไฟโชว์เครื่องขึ้นบ่อยมาก  หลายคนต้องเอารถกลับไปเข้าศูนย์แก้ไข           
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 09:06:43
พวกที่โมเครื่องนี่ เริ่มจะนอนไม่หลับกันแล้ว 5555 แซวเล่นนะครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 09:28:28
ไว้เป็นความรู้เลย
เคยคิดว่าดีเซลทนถึกเหมือนกัน แต่ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้ว
ต้นทุนเครื่องดีเซลสูง ไม่ได้ทน บำรุงรักษาเยอะ
   จริง ๆ ผมเคยให้ความรู้มานานแล้วในเวป 2.7   เบนซิน        คือปัจจุบันนี้ดีเซลมันไมไ่ด้ทนถึกแบบเครื่องดีเซลสมัยก่อน ๆ     เพราะเครื่องดีเซลสมัยก่อนที่ว่าทนถึกไม่จุกจิกเพราะมันเป็นระบบดีเซลปกติแบบรุ่นพระเจ้าเหาไม่ใช่คอมมอนเรล  แรงม้าและแรงบิดน้อย ไม่ได้เยอะมากเหมือนรถสมัยนี้            และไม่ไ้ด้มีระบบไฟฟ้าและเซนเซอร์ตรวจจับมากมายแบบทุกวันนี้ต่างหาก               แต่คนส่วนใหญ่นั้นไปเข้าใจกันผิดมากมายยกเอาคำพูดเดิม ๆ   เอาทฤษฎีเดิม ๆ มาใช้โดยไม่มีการประยุกต์เลย      แถมไปบอกอีกต่างหากว่าเครื่องดีเซลลุยน้ำได้ดีกว่าเบนซิน  นั่นมันคำพูด  30 ปีที่แล้วต่างหาก ไม่น่าเชื่อว่ายังเอามาพุดกันในปัจจุบันนี้อีก

   ดีเซลนะทนจริงแต่เฉพาะตัวเครื่องยนต์นะครับไม่เกี่ยวกับอุปกรณ์ส่วนควบอื่น  ๆ    อันนี้ต้องคิดเฉพาะตัวเครื่องเปล่า ๆ เปลือย  ๆ   ไม่เกี่ยวกับ อ๊อพชั่นอื่นที่เข้ามา    เช่นเซนเซอร์ สายพาน ปั๊มน้ำ ปั๊มดีเซล หัวฉีด เทอร์โบ เกียร์ กล่องควบคุม      อันนี้ต้องแยกออกจากตัวเครื่องเพราะของเหล่านี้ไม่ไ่ด้แตกต่างจากรถที่มีอุปกรณ์อื่น ๆ แบบสมัยใหม่เลย                      ตอนนี้ขนาด New Fortuner  ที่ว่าอดีตรุ่นก่อนทนทานไม่จุกจิกรุ่นใหม่ที่เป็น New Fortuner  ค่อนข้างจุกจิกกว่ามาก   ไฟโชว์เครื่องขึ้นบ่อยมาก  หลายคนต้องเอารถกลับไปเข้าศูนย์แก้ไข         

+1

ใช่เลยครับ  อีกปัจจัยที่ทำให้ดีเซลโบราณที่ทนถึกเพราะพื้นฐานเครื่องที่ไม่ต้องการหัวเทียน แต่ใช้กำลังอัดสูง ๆ ให้น้ำมันดีเซลจุดระเบิดเองในกระบอกสูบ
แรงระเบิดจึงเยอะ เครื่องก็ให้แรงบิดเยอะ  แต่แรงระเบิดเยอะทำให้เสียงเครื่องดัง แรงสั่นสะเทือนสูง และตัวต้องหนาและหนัก (มันจึงทน)

แต่ดีเซลไฮเทค ลดแรงอัดลงเหลือ 14:1 ทำให้เสียงเงียบ แรงสั่นสะเทือนลดลง แล้วตัวเครื่องและชิ้นส่วนต่าง ๆ ต้องหนาและหนักไปทำไม (ความทนถึกก็ลดลง)
และกำลังอัดขนาดนี้ไม่พอจะทำให้น้ำมันดีเซลระเบิดเอง จึงต้องมีหัวเผาเซรามิคในการช่วยให้ติดเครื่องได้ใน loop แรก ๆ ของการทำงาน
และต้องมีกลไกการนำเอากาซไอเสียร้อน ๆ วนกลับมาในกระบอกสูบเป็นตัวล่อเพิ่มอุณหภูมิให้น้ำมันดีเซลจุดระเบิดเองได้ใน loop ถัด ๆ ไป

การทำงานของเครื่องดีเซลไฮเทคพวกนี้ต้องการความแม่นยำสูง และไม่ใช่กลไกลแบบง่าย ๆ ทนถึกเหมือนพวกดีเซลโบราณสมัยก่อนครับ 
ดูแล้วจะซับซ้อนกว่าเครื่องเบนซินอีก

แต่อย่างว่าล่ะครับ ได้อย่างเสียอย่าง ต้องทำความเข้าใจและยอมรับมันเพราะข้อดีมันก็เยอะอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ps000000 ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 09:50:01
เอาใจช่วยผู้บริโภค
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Aleister TJ ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 10:27:31
มองๆ 2 ดีเซลอยู่ เจอแบบนี้...บรั๊ยย
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 10:37:44
ถ้าต้องให้ขับแบบอัดบ้าง ผมว่า คงไม่ถูกต้องนักสำหรับการใช้รถยนต์ทั่วๆไป มีหลายคนที่เขาไม่ได้ขับรถเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและขับไปทำงาน แค่ไม่กี่กิโลเมตร ก็คงจะไม่สามารถใช้ มาสด้า 2 ดีเซลได้ใช่หรือไม่ เพราะก็จะทำให้เจอปัญหาเหมือนหลายๆ ท่านใช่ไหมครับ  ถ้าจะซื้อคงไปตัวเบนซินที่ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่ง ราคาก็ถูกว่าด้วย
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 10:45:35
มาลุ้นต่อเป็นเพื่อน....ของผม 5หมื่นกว่าโล
ตอนนี้ใครถามว่ารถดีไหม ก็ยังตอบว่าดี .... แต่ซื้อเบนซินเหอะ
ถ้าเท้าหนัก ไปหายี่ห้ออื่นแล้วเอาส่วนต่างไปทำช่วงล่างนะ
......................
ถ้า mazda แก้ปัญหาไม่จบเนี่ย จะเสียดายมากเลย
รถมันดีมากครับ แต่ถ้ารถดีแล้วปัญหาเยอะ ก็ไม่กล้าแนะนำให้ใครใช้เหมือนกัน ครูช เป็นตัวอย่างให้เห็นแล้วนะ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 11:19:24
ลุ้นๆ  8)
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 11:28:45
ถ้าต้องให้ขับแบบอัดบ้าง ผมว่า คงไม่ถูกต้องนักสำหรับการใช้รถยนต์ทั่วๆไป มีหลายคนที่เขาไม่ได้ขับรถเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและขับไปทำงาน แค่ไม่กี่กิโลเมตร ก็คงจะไม่สามารถใช้ มาสด้า 2 ดีเซลได้ใช่หรือไม่ เพราะก็จะทำให้เจอปัญหาเหมือนหลายๆ ท่านใช่ไหมครับ  ถ้าจะซื้อคงไปตัวเบนซินที่ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่ง ราคาก็ถูกว่าด้วย
   จะว่ายังงั้นก็ได้   คือขับน้อยไม่ค่อยไ้ด้ใช้รถเยอะ   หรือต้องการพละกำลังแรงบิดช่วงต้น ๆ ขนาดนั้น  ไม่จำเป็นต้องซื้อดีเซลเลย  เก็บเงินส่วนต่างหลักแสนไปเติมน้ำมันดีกว่า   

   ปิคอัพก็เหมือนกันแต่ปิคอัพวัสดุใหญ่กว่าและไม่ซับซ้อนเท่านี้      พวกที่ผมเห้นรีวิวการใช้งานหลายคนวิ่งกันเยอะมาก   บางคนวิ่งเยอะมากเครื่องยนต์ไม่พังกันง่าย  ๆ  นะครับ ปิคอัพวิ่งทะลุ 1 ล้านกิโลเมตรมีเยอะไป     แต่รถดีเซลที่จอดไว้ไม่ค่อยได้ใช้มักไปเจออู่ซ่อมเร็วกว่า   
   ตัวผมเองใช้ Fortuner2.7 เบนซินเป็นหลัก    10 ปีแล้วรถวิ่ง 245,000 กิโลเมตรเท่านั้นเอง            หลายคนบอกว่าเอาดีเซลดีกว่ารถ PPV  ขึ้นเขาแรงบิดดีดีกวว่ากำลังเหลือเฟือกว่า         แต่ผมใช้ตัวเบนซิน 2.7 มันก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร   ทำความเร็วได้ดีแรงบิดดีกว่าเครื่องเบนซินรถเก๋งเล็ก  ๆ  และดีเซลปิคอัพสมัยก่อนอีก  แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะขึ้นเขาขึ้นดอยระดับภูทับเบิก หรือดอยตามภาคเหนือผมว่าสบายทีเดียวเทียบกับแรงบิดรถเก๋ง             ตอนผมซื้อสมัย 10 ปีที่แล้วระหว่างดีเซล 3.0 กับเบนซิน 2.7   ผมเลือกเบนซิน 2.7 เพราะเหตุผลเลยคือ
1. ดีเซลแพงกว่าตัวเบนซิน 1 แสนบาท
2.ไม่มีเงินค่าน้ำมันดีเซล   ตกโลล่ะ 3 บาทคำณวนราคาน้ำมันตอนนั้น  เีทียบกับเอา 2.7 เบนซินมาติดแก๊สถูกกว่ากัน 1 บาท
3.ผมเป็นคนใช้รถน้อยแบบนี้ละ ไม่เยอะเกินไป    กลัวค่าซ่อมเครื่องดีเซล  ตอนนั้นเงินเดือนไม่มาก   ถ้าซ่อมเทอรโบ หัวฉีด คอมมอนเรลคิดว่าแพงเกินความจำเป็๋น    เลยเอาเบนซิน 2.7 ดีกว่าภาระค่าซ่อมน้อยกว่า

  แต่ตอนนี้ถ้าเลือกได้คงจะเลือกดีเซลครับ   เหตุผลหลัก ๆ เลย ตอนนี้มีเงินครับ  เลยไม่กลัวทั้งค่าน้ำมันและค่าซ่อมสำหรับรถตลาดคิดว่ารับไหว ซื้อดีเซลมาเพื่ออินเทรนด์โดยเฉพาะ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 12:15:15
ถ้าต้องให้ขับแบบอัดบ้าง ผมว่า คงไม่ถูกต้องนักสำหรับการใช้รถยนต์ทั่วๆไป มีหลายคนที่เขาไม่ได้ขับรถเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและขับไปทำงาน แค่ไม่กี่กิโลเมตร ก็คงจะไม่สามารถใช้ มาสด้า 2 ดีเซลได้ใช่หรือไม่ เพราะก็จะทำให้เจอปัญหาเหมือนหลายๆ ท่านใช่ไหมครับ  ถ้าจะซื้อคงไปตัวเบนซินที่ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่ง ราคาก็ถูกว่าด้วย
   จะว่ายังงั้นก็ได้   คือขับน้อยไม่ค่อยไ้ด้ใช้รถเยอะ   หรือต้องการพละกำลังแรงบิดช่วงต้น ๆ ขนาดนั้น  ไม่จำเป็นต้องซื้อดีเซลเลย  เก็บเงินส่วนต่างหลักแสนไปเติมน้ำมันดีกว่า   

   ปิคอัพก็เหมือนกันแต่ปิคอัพวัสดุใหญ่กว่าและไม่ซับซ้อนเท่านี้      พวกที่ผมเห้นรีวิวการใช้งานหลายคนวิ่งกันเยอะมาก   บางคนวิ่งเยอะมากเครื่องยนต์ไม่พังกันง่าย  ๆ  นะครับ ปิคอัพวิ่งทะลุ 1 ล้านกิโลเมตรมีเยอะไป     แต่รถดีเซลที่จอดไว้ไม่ค่อยได้ใช้มักไปเจออู่ซ่อมเร็วกว่า   
   ตัวผมเองใช้ Fortuner2.7 เบนซินเป็นหลัก    10 ปีแล้วรถวิ่ง 245,000 กิโลเมตรเท่านั้นเอง            หลายคนบอกว่าเอาดีเซลดีกว่ารถ PPV  ขึ้นเขาแรงบิดดีดีกวว่ากำลังเหลือเฟือกว่า         แต่ผมใช้ตัวเบนซิน 2.7 มันก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร   ทำความเร็วได้ดีแรงบิดดีกว่าเครื่องเบนซินรถเก๋งเล็ก  ๆ  และดีเซลปิคอัพสมัยก่อนอีก  แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะขึ้นเขาขึ้นดอยระดับภูทับเบิก หรือดอยตามภาคเหนือผมว่าสบายทีเดียวเทียบกับแรงบิดรถเก๋ง             ตอนผมซื้อสมัย 10 ปีที่แล้วระหว่างดีเซล 3.0 กับเบนซิน 2.7   ผมเลือกเบนซิน 2.7 เพราะเหตุผลเลยคือ
1. ดีเซลแพงกว่าตัวเบนซิน 1 แสนบาท
2.ไม่มีเงินค่าน้ำมันดีเซล   ตกโลล่ะ 3 บาทคำณวนราคาน้ำมันตอนนั้น  เีทียบกับเอา 2.7 เบนซินมาติดแก๊สถูกกว่ากัน 1 บาท
3.ผมเป็นคนใช้รถน้อยแบบนี้ละ ไม่เยอะเกินไป    กลัวค่าซ่อมเครื่องดีเซล  ตอนนั้นเงินเดือนไม่มาก   ถ้าซ่อมเทอรโบ หัวฉีด คอมมอนเรลคิดว่าแพงเกินความจำเป็๋น    เลยเอาเบนซิน 2.7 ดีกว่าภาระค่าซ่อมน้อยกว่า

  แต่ตอนนี้ถ้าเลือกได้คงจะเลือกดีเซลครับ   เหตุผลหลัก ๆ เลย ตอนนี้มีเงินครับ  เลยไม่กลัวทั้งค่าน้ำมันและค่าซ่อมสำหรับรถตลาดคิดว่ารับไหว ซื้อดีเซลมาเพื่ออินเทรนด์โดยเฉพาะ

ผมเคยไปเที่ยวภาคเหนือกับบ้านแฟน ผมขับ For sportivo 2 ส่วนพี่ชายแฟนขับ For 2.7 ขับสี่ที่ซื้อ
มือสองมาติดแก๊ส ตอนแรกหลงคิดว่าเราเจ๋งกว่าแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ตามเขาไม่ทัน 555
ทางที่ไปก็ขึ้นเขา ลงเขาตลอด มันอยู่ที่สกิลด้วยอะไรด้วย  ผมถึงได้ถึงบางอ้อว่า
ที่เขาชมว่า 2.7 ขับสี่มันเยี่ยมยังไง แต่โตไม่ขายแล้ว
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: CookiE ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 12:17:18
ที่พังๆ กันนี่คือปัญหาของรถจากกระบวนการผลิต ชิ้นส่วนต่างๆ หรือเหยียบกันจนพังอ่ะครับ ?
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Abzolute ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 13:02:19
มาสด้ายังทำดีเซลไม่ดีพอ เครื่องดีแต่ระบบยังเอ๋อ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dekdemo ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 13:31:12
โชคดีของผมที่เข้าไปส่องดูปัญหาในคลับก่อน ก่อนเลือกซื้อรถ แต่ทางมาสด้าออกมายอมรับผิดชอบแบบนี้ ผมโอเคนะครับ ขึ้นกับมาสด้าในไทยแล้วครับ จะประกาศและรีบเร่งแก้ไขโดยเร็วไหม?
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 14:30:52
ดีเซลยุคใหม่ๆที่พังๆกันผมว่านะ ระบบที่ต้องบำบัดไอเสียน่ะตัวดีเลย ทำให้เครื่องซับซ้อน
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 14:31:10
ที่พังๆ กันนี่คือปัญหาของรถจากกระบวนการผลิต ชิ้นส่วนต่างๆ หรือเหยียบกันจนพังอ่ะครับ ?
น่าจะมาจากปัญหาที่มองไม่เห็นในการใช้งานระยะสั้นๆครับ
ประมาณว่าเป็นเครื่องบล็อกใหม่ แล้วน่าจะเทสไม่เจอตอนวิ่งทดสอบ พอมีคนใช้งานจริงยาวๆ ปัญหาก็เริ่มเจอขึ้นมาครับ
เหมือนพวกเคสพัดลมหม้อน้ำนิสสันพวกนั้น วิ่งสัก 2-3หมื่นโลยังไม่ค่อยเจอ พอวิ่งนานๆ รถเก่าหน่อยเริ่มมากันครับ
.....
ถ้ามองกันจริงๆ ก็คงต้องโทษผู้ผลิต เพราะน่าจะเทสจนมั่นใจแล้วค่อยเอามาขายครับ สภาพอากาศ ถนน การใช้งานของประเทศไทยนี่ ปราบเซียนมากที่สุดที่นึงในโลกแล้วครับ
จะมีที่ไหนละ รถติดเป็นชั่วโมง น้ำท่วม ฝนตกหนัก ขับเร็วเว่อร์ (Bseg ขับ 140กันเป็นขนม) อากาศร้อนจัด ขึ้นเขาลงห้วย นั่งรถอัดกัน 6-7คนในรถ eco car ที่ว่ามาพี่ไทยทำหมด
ถ้าเอามาวิ่งทดสอบไม่ถึงจริงๆ ยังไงก็มีดีเฟคครับ....
แล้วมาสด้ายุค sky ดันมีนโยบายว่า เปิดตัวรถในไทย หลังเมืองนอก 6เดือน โอกาสวิ่งเทสจริงก็น้อยครับ จำได้ว่าเห็นสปายช็อต 2 เทสในไทย ไม่ถึง6เดือนก่อนเปิดตัวในไทย เลยไม่แน่ใจว่า เครื่องรุ่นนี้จะได้เทสระยะยาวหรือไม่ครับ
แต่มาสด้าเอง ตั้งแต่ sky มาก็เจอปัญหาเครื่องเป็นครั้งที่สองแล้ว ตอนแรกก็ 2.0skyG กับเรื่อง E85 (ที่บางคนแม้ไม่เติมก็มีปัญหา)ยังไงละครับ
รอดูกันไปครับ....(ส่วนผมก็รอลุ้นไม่ให้ถูกหวย - -")
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 14:34:51
ถ้าต้องให้ขับแบบอัดบ้าง ผมว่า คงไม่ถูกต้องนักสำหรับการใช้รถยนต์ทั่วๆไป มีหลายคนที่เขาไม่ได้ขับรถเร็วเกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและขับไปทำงาน แค่ไม่กี่กิโลเมตร ก็คงจะไม่สามารถใช้ มาสด้า 2 ดีเซลได้ใช่หรือไม่ เพราะก็จะทำให้เจอปัญหาเหมือนหลายๆ ท่านใช่ไหมครับ  ถ้าจะซื้อคงไปตัวเบนซินที่ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ซึ่ง ราคาก็ถูกว่าด้วย
   จะว่ายังงั้นก็ได้   คือขับน้อยไม่ค่อยไ้ด้ใช้รถเยอะ   หรือต้องการพละกำลังแรงบิดช่วงต้น ๆ ขนาดนั้น  ไม่จำเป็นต้องซื้อดีเซลเลย  เก็บเงินส่วนต่างหลักแสนไปเติมน้ำมันดีกว่า   

   ปิคอัพก็เหมือนกันแต่ปิคอัพวัสดุใหญ่กว่าและไม่ซับซ้อนเท่านี้      พวกที่ผมเห้นรีวิวการใช้งานหลายคนวิ่งกันเยอะมาก   บางคนวิ่งเยอะมากเครื่องยนต์ไม่พังกันง่าย  ๆ  นะครับ ปิคอัพวิ่งทะลุ 1 ล้านกิโลเมตรมีเยอะไป     แต่รถดีเซลที่จอดไว้ไม่ค่อยได้ใช้มักไปเจออู่ซ่อมเร็วกว่า   
   ตัวผมเองใช้ Fortuner2.7 เบนซินเป็นหลัก    10 ปีแล้วรถวิ่ง 245,000 กิโลเมตรเท่านั้นเอง            หลายคนบอกว่าเอาดีเซลดีกว่ารถ PPV  ขึ้นเขาแรงบิดดีดีกวว่ากำลังเหลือเฟือกว่า         แต่ผมใช้ตัวเบนซิน 2.7 มันก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร   ทำความเร็วได้ดีแรงบิดดีกว่าเครื่องเบนซินรถเก๋งเล็ก  ๆ  และดีเซลปิคอัพสมัยก่อนอีก  แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เพราะขึ้นเขาขึ้นดอยระดับภูทับเบิก หรือดอยตามภาคเหนือผมว่าสบายทีเดียวเทียบกับแรงบิดรถเก๋ง             ตอนผมซื้อสมัย 10 ปีที่แล้วระหว่างดีเซล 3.0 กับเบนซิน 2.7   ผมเลือกเบนซิน 2.7 เพราะเหตุผลเลยคือ
1. ดีเซลแพงกว่าตัวเบนซิน 1 แสนบาท
2.ไม่มีเงินค่าน้ำมันดีเซล   ตกโลล่ะ 3 บาทคำณวนราคาน้ำมันตอนนั้น  เีทียบกับเอา 2.7 เบนซินมาติดแก๊สถูกกว่ากัน 1 บาท
3.ผมเป็นคนใช้รถน้อยแบบนี้ละ ไม่เยอะเกินไป    กลัวค่าซ่อมเครื่องดีเซล  ตอนนั้นเงินเดือนไม่มาก   ถ้าซ่อมเทอรโบ หัวฉีด คอมมอนเรลคิดว่าแพงเกินความจำเป็๋น    เลยเอาเบนซิน 2.7 ดีกว่าภาระค่าซ่อมน้อยกว่า

  แต่ตอนนี้ถ้าเลือกได้คงจะเลือกดีเซลครับ   เหตุผลหลัก ๆ เลย ตอนนี้มีเงินครับ  เลยไม่กลัวทั้งค่าน้ำมันและค่าซ่อมสำหรับรถตลาดคิดว่ารับไหว ซื้อดีเซลมาเพื่ออินเทรนด์โดยเฉพาะ

ผมเคยไปเที่ยวภาคเหนือกับบ้านแฟน ผมขับ For sportivo 2 ส่วนพี่ชายแฟนขับ For 2.7 ขับสี่ที่ซื้อ
มือสองมาติดแก๊ส ตอนแรกหลงคิดว่าเราเจ๋งกว่าแน่ๆ แต่ที่ไหนได้ ตามเขาไม่ทัน 555
ทางที่ไปก็ขึ้นเขา ลงเขาตลอด มันอยู่ที่สกิลด้วยอะไรด้วย  ผมถึงได้ถึงบางอ้อว่า
ที่เขาชมว่า 2.7 ขับสี่มันเยี่ยมยังไง แต่โตไม่ขายแล้ว

เห็นปัญหาเครื่องดีเซลแล้ว เบนซินติดชุด kit turbo เลยน่าลองขึ้นมาพรวดพราดเลย  ;D

เหมือนคุณ auto เลยครับที่เลือกเบนซินเพราะกลัวค่าซ่อมหัวฉีดดีเซลจริงๆตอนนั้น(โดนกระแสกล่อมมา  :P)
พอเจอค่าใช้จ่ายๆจริงๆช่วง 10 ปีมานี่ happyเลยที่เลือกรถตลาด ถูกมากหลักหมื่นต้นๆไม่ถึงกลางแสนเลย
หลายๆอันไปรู้ราคาซ่อมพรรคพวกนี่คือโดนฟันแล้วก็ยังพอรับได้
เลือกดีเซลก็ยังไหว คันต่อไปเลยไม่กลัวดีเซลหละ(มั้ง?)สำหรับรถตลาด  :) :) :)

ขึ้นดอยทั้งหลายก็ไปมาหมดแล้วครับ ส่วนตัวยังรู้สึกเค้นนิดๆเครื่องเบนซิน
พวกดอยทั้งหลาย ภาคเหนืออีสาน ภูๆทั้งหลาย ไปทีแค่ 5-9 คนก็ยังเค้นๆ(9 นี่เยอะหน่อย)
เลยมโนว่าถ้าดีเซลอาจจะไม่เค้นเท่านี้มั้ง ลางเนื้อชอบลางยา ฮา
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 15:38:25
จุดอ่อน ของเครื่องดีเซลยุคใหม่ โดยเฉพาะ ดีเซลใน M2 เนี่ย ผมเห็นเครื่องในวันเปิดตัว แรกๆผมก็พอจะเดาปัญหาได้ครับ ...

มันมีทางแก้ แต่บางคนไม่ยอมรับ ......

ถ้าเราหันไปหน้าเครื่อง เราจะเห็นท่อเงินๆ ซึ่งนั่นคือท่อ EGR ที่ลำเรียงไอเสีย ไหลกลับเข้าไปในท่อ ID ใหม่ ... ซึ่ง Mazda2 นั้น ที่แย่ที่สุดคือการนำ Intercooler เข้าไปไว้ในท่อ ไอดี  ซึ่งเป็นศุนย์รวมเขม่า และนั้น จะเป็นจุดบกพร่องในระยะยาว เพราะ เขม่า มันจะตกค้างอยู่ในแผงรังผึ้ง เป็นจำนวนมาก ...

และผลตามมาคือ  interฯ รั่ว จากการกัดกร่อนของเขม่า ที่ผสมกับความชื้นในอากาศจนเป็นคราบเนียว พอ interฯ รั่ว รถก็จะกระตุก เวลาเร่ง หรือไม่มีแรงวิ่งในบางจังหวะ .....

ถามว่าทำไง ... เพื่อนๆ น้องๆ ที่ซี้ๆ ที่ผมพอจะแนะนำได้ ผมจะบอกเค้าว่า ให้อุด EGR ซะ ถ้ายังรักรถ และอยากใช้มันนานๆ .....

-ขอนะครับ นี่เป็นคำแนะนำ หวังว่าคงไม่มีดราม่า เรื่อง อุอ ไม่อุด EGR นะ ..ผมแค่นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนครับ ...
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nl2br ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 15:42:25
อัปเดทปัญหาครับ เนื่องจากวันอาทิตย์ไม่มีศูนย์ไหนเปิด เพราะรถอยู่ที่ ตจว. สุรินทร์ ประจวบกับแฟนต้องใช้รถมาทำธุระแถวโคราช ทำให้ผมต้องลงจากกทมเข้ามาดูรถ
โดยลองขับดู ที่ความเร็ว 80km สั่นเป็นเจ้าเข้าไม่กล้ากดต่อ ผมเลยลากเกียร 3 เพื่อให้รอบสูงและเพื่อให้รถเผ่าเขม่าโดยความเร็วขณะนั้นยังไม่ถึง 80 ลากอยู่แระมาณ 10 นาทีแล้วตบขึ้นเกียร 4 ความเร็วประมาณ 100 รอบประมาณ 3000 รถหายสั่น จากนั้นเปลี่ยนมาขับ D กดไปที่ 120 สั่นแบบเดิม แล้วผมก็ลากลากเกียร 4 ต่ออีก 5 นาทีแล้วกดให้ถึง 120 อาการสั่นหายไป
จากนั้นจอดแล้วเริ่มขับแบบปกติ D จาก 0-170 อาการหาย แล้วเติมน้ำมัน 500 ขับเล่นทั้งวันไป 300 กิโล ยังไม่เจออาการอีกครับ ส่วนตัวผมว่าเป็นที่ระบบเขม่า อาทิตย์หน้าจะเอาเข้า 0 เพราะเห็นมีบางท่านในคลับได้รับจดหมายให้เข้าไปอัปเดทซอร์ฟแวร์
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 16:05:23
จุดอ่อน ของเครื่องดีเซลยุคใหม่ โดยเฉพาะ ดีเซลใน M2 เนี่ย ผมเห็นเครื่องในวันเปิดตัว แรกๆผมก็พอจะเดาปัญหาได้ครับ ...

มันมีทางแก้ แต่บางคนไม่ยอมรับ ......

ถ้าเราหันไปหน้าเครื่อง เราจะเห็นท่อเงินๆ ซึ่งนั่นคือท่อ EGR ที่ลำเรียงไอเสีย ไหลกลับเข้าไปในท่อ ID ใหม่ ... ซึ่ง Mazda2 นั้น ที่แย่ที่สุดคือการนำ Intercooler เข้าไปไว้ในท่อ ไอดี  ซึ่งเป็นศุนย์รวมเขม่า และนั้น จะเป็นจุดบกพร่องในระยะยาว เพราะ เขม่า มันจะตกค้างอยู่ในแผงรังผึ้ง เป็นจำนวนมาก ...

และผลตามมาคือ  interฯ รั่ว จากการกัดกร่อนของเขม่า ที่ผสมกับความชื้นในอากาศจนเป็นคราบเนียว พอ interฯ รั่ว รถก็จะกระตุก เวลาเร่ง หรือไม่มีแรงวิ่งในบางจังหวะ .....

ถามว่าทำไง ... เพื่อนๆ น้องๆ ที่ซี้ๆ ที่ผมพอจะแนะนำได้ ผมจะบอกเค้าว่า ให้อุด EGR ซะ ถ้ายังรักรถ และอยากใช้มันนานๆ .....

-ขอนะครับ นี่เป็นคำแนะนำ หวังว่าคงไม่มีดราม่า เรื่อง อุอ ไม่อุด EGR นะ ..ผมแค่นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนครับ ...

ไม่มีดราม่าครับ
แต่ทำให้ลูกค้าใหม่เลิกสนใจไปเลยครับ
ต้นเหตุของปัญหาขนาดนี้ Mazda ควรจะ recall นะครับ
ถ้าไม่อุด EGR แล้วพัง อันนี้ซีเรียสเลย

หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 16:22:04
อัปเดทปัญหาครับ เนื่องจากวันอาทิตย์ไม่มีศูนย์ไหนเปิด เพราะรถอยู่ที่ ตจว. สุรินทร์ ประจวบกับแฟนต้องใช้รถมาทำธุระแถวโคราช ทำให้ผมต้องลงจากกทมเข้ามาดูรถ
โดยลองขับดู ที่ความเร็ว 80km สั่นเป็นเจ้าเข้าไม่กล้ากดต่อ ผมเลยลากเกียร 3 เพื่อให้รอบสูงและเพื่อให้รถเผ่าเขม่าโดยความเร็วขณะนั้นยังไม่ถึง 80 ลากอยู่แระมาณ 10 นาทีแล้วตบขึ้นเกียร 4 ความเร็วประมาณ 100 รอบประมาณ 3000 รถหายสั่น จากนั้นเปลี่ยนมาขับ D กดไปที่ 120 สั่นแบบเดิม แล้วผมก็ลากลากเกียร 4 ต่ออีก 5 นาทีแล้วกดให้ถึง 120 อาการสั่นหายไป
จากนั้นจอดแล้วเริ่มขับแบบปกติ D จาก 0-170 อาการหาย แล้วเติมน้ำมัน 500 ขับเล่นทั้งวันไป 300 กิโล ยังไม่เจออาการอีกครับ ส่วนตัวผมว่าเป็นที่ระบบเขม่า อาทิตย์หน้าจะเอาเข้า 0 เพราะเห็นมีบางท่านในคลับได้รับจดหมายให้เข้าไปอัปเดทซอร์ฟแวร์
แบบนี้น่าจับอุด EGR  อย่างที่ว่าจริง ๆ    เกิดจากขับขี่ทำให้มีมลพิษเขม่าไปสะสมอยู่เยอะ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: peterW ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 17:59:14
อ่านปัญหา ของ diesel
แล้วตัว เบนซิน skyactiv ต่อไป จะมีปัญหาไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Yeahyeahs ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 19:39:18
ขอก๊อปคำตอบจากกระทู้เรื่องนี้ครั้งที่แล้วมาแปะใหม่(อาจมีแก้ไขบ้างตามเวลา) จนกว่าทางเว็บ ที่เรียกตัวเองว่าสื่อ จะเริ่มทำตัวเหมือนเป็นสื่อจริงๆสักที ไม่ใช่เป็นแค่เซลล์ขายรถ..

เนี่ย จุดอ่อนของเว็บนี้ก็คือพอมีปัญหาแบบนี้ ไม่เห็นมีใครที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเข้าไปหาคำตอบมาให้ประชาชนรู้เลยอ่ะ
เห็นไปงานเปิดตัวมาไม่รู้กี่งาน ผู้บริหารค่ายนู้นค่ายนี้ยืนกันเต็มไปหมด ไม่มีความคิดที่จะถามเรื่องปัญหาพวกนี้แล้วมานำเสนอบ้างเลยหรอครับ?

ทั้งเรื่องเกียร์ฟอร์ดที่ต้องติดตามข่าวจากสื่อหลักแทนที่สื่อด้านรถโดยตรงจะติดตามให้
ไหนจะสโกด้าจดทะเบียนไม่ได้ที่ตกลงตอนนี้ก็ไม่รู้จบยังไง ไหนจะเรื่องถุงลมทากาตะระเบิดเวลาที่มีอยู่ไม่รู้กี่หมื่นคันในไทย
แล้วยังมีไฟหน้าฟอร์จูนเนอร์แยงตาที่ต้องให้ถามในบอร์ดแล้วถึงจะตอบได้ว่าแก้แล้ว (มีข้อมูลอยู่แล้วทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรกหว่า)

ไปรอบสื่อมันทุกงาน ทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ครบๆหน่อยก็ดีครับ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นเซลล์ขายรถให้เค้า
คุณควรจะเป็นฝ่ายเดียวกับผู้บริโภคไม่ใช่ไปตีซี้กับค่ายรถ เข้าใจว่าอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าแต่ก็อยากให้คิดในมุมคนทั่วไปบ้างว่าเวลาจะซื้อรถเขาก็อยากรู้ปัญหา
ไม่ได้ขอว่าแบบรถใครพังคนนึงก็ต้องทำข่าว แต่ปัญหาแบบยกรุ่นขนาดนี้แล้วยังเฉยอยู่นี่ ผมว่าพิจารณานิดนึงเนอะ

วิธีทำข่าวปัญหาแบบที่ไม่เสี่ยงโดนฟ้องมันมีเยอะแยะครับ อย่าลืมว่าค่ายรถถ้าไม่มีสื่อเค้าก็มีผลเหมือนกัน
คนรู้จักผมทำงานอยู่บริษัทรถหลายค่าย เขาง้อ Headlightmag จะตาย ทำไมผมจะไม่รู้
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Disk™ ที่ กรกฎาคม 23, 2017, 23:01:09
กำลังเล็งๆอยู่ เบรคแทบไม่ทันเลยครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jame894561 ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 00:29:38
เห็นเเล้วเสียวเลย mz2 ดีเซลวิ่งมาหมื่นโลแล้ว จะเจอเหมือนกันไหมเนี่ย  :-\ :-\
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 01:13:20
2.2นี่ขึ้นชื่อเลย ได้ยินมาพอสมควร ไปเร็วเกิ๊น
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: TrentXWB ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 08:45:00
จุดอ่อน ของเครื่องดีเซลยุคใหม่ โดยเฉพาะ ดีเซลใน M2 เนี่ย ผมเห็นเครื่องในวันเปิดตัว แรกๆผมก็พอจะเดาปัญหาได้ครับ ...

มันมีทางแก้ แต่บางคนไม่ยอมรับ ......

ถ้าเราหันไปหน้าเครื่อง เราจะเห็นท่อเงินๆ ซึ่งนั่นคือท่อ EGR ที่ลำเรียงไอเสีย ไหลกลับเข้าไปในท่อ ID ใหม่ ... ซึ่ง Mazda2 นั้น ที่แย่ที่สุดคือการนำ Intercooler เข้าไปไว้ในท่อ ไอดี  ซึ่งเป็นศุนย์รวมเขม่า และนั้น จะเป็นจุดบกพร่องในระยะยาว เพราะ เขม่า มันจะตกค้างอยู่ในแผงรังผึ้ง เป็นจำนวนมาก ...

และผลตามมาคือ  interฯ รั่ว จากการกัดกร่อนของเขม่า ที่ผสมกับความชื้นในอากาศจนเป็นคราบเนียว พอ interฯ รั่ว รถก็จะกระตุก เวลาเร่ง หรือไม่มีแรงวิ่งในบางจังหวะ .....

ถามว่าทำไง ... เพื่อนๆ น้องๆ ที่ซี้ๆ ที่ผมพอจะแนะนำได้ ผมจะบอกเค้าว่า ให้อุด EGR ซะ ถ้ายังรักรถ และอยากใช้มันนานๆ .....

-ขอนะครับ นี่เป็นคำแนะนำ หวังว่าคงไม่มีดราม่า เรื่อง อุอ ไม่อุด EGR นะ ..ผมแค่นำข้อมูลมาแลกเปลี่ยนครับ ...

ไม่ดราม่าครับ
เพราะผมเองก็เห็นข้อมูลตรงนี้เช่นกัน แต่ของผมคือตั้งแต่ขั้นตอนก่อนที่รถจะวางตลาดจริงหลายเดือน ตอนนั้นก็ได้แต่สงสัยและก็เอาความกังวลนี้ไปถามพวกวิศวะ ว่าแบบนี้จะดีหรอ ในระยะยาว ปัญหามันจะไม่ลุกลามใช่ไหม แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรมากนะครับ ไอ้เราก็เอ้า เขาไม่พดอะไรมาก แสดงว่ามีวิธีรับมือ แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะลามมาถึงขนาดนี้

ขั้นตอนช่วงท้ายๆ ก่อนเปิดตัวนี่ พูดถึงทีไรละคันปากอยากเล่ามากๆ  ;D
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 09:19:38
สบายใจมานิดนึงตรงที่เป็นเคสเกี่ยวกับเขม่าเหมือนเดิม ขอบคุณ จขกท. ที่ update ครับ แต่ก็ยังขอให้มาสด้าประกาศชัดเจนมากกว่านี้อีกสักหน่อยนะ
............
เรื่อง EGR ผมก็เข้าใจทั้งสองฝั่งนะ มาสด้า ถ้าไม่ออกแบบแบบนี้ อัตราสิ้นเปลือง การปล่อยมลพิษ และขนาดของเครื่องอาจจะยัดลงมาสด้า2 แล้วทำให้ผ่านกฎ eco2 ไม่ได้
อีกอย่างคือ คนคิดคือญี่ปุ่นหนะ เค้าอาจจะประเมินว่า ไม่มีใครซื้อมารถติดที 2-3 ชม. บ่อยๆ กลางสภาพฝนตกน้ำท่วม เหมือนพี่น้องชาวไทยนี่ละครับ
ส่วนคนที่จะไปอุด ผมยังแนะนำเหมือนเดิมว่า ทนๆ หาเวลาเอารถไปอัด(บ้าง)ก่อน ไว้ครบสามปีหมดประกันค่อยว่ากัน คราวนี้แล้วแต่คุณละกัน ถ้ามาสด้ายังไม่มีอะไรชัดเจน ก็แก้กันไปตามความเชื่อส่วนบุคคลละกันนะ จะแบบไหนก็ว่ากันไป
เพราะถ้าอุดก่อนประกันหมด แล้วอยู่ๆมีปัญหา หรืออยู่ดีๆ มาสด้าเรียก recall แล้วแก้ปัญหาได้หมดเนี่ย ..... จะมานั่งคิดว่าตรูพลาดไปแล้วหนะครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: mamaman ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 09:32:47
สบายใจมานิดนึงตรงที่เป็นเคสเกี่ยวกับเขม่าเหมือนเดิม ขอบคุณ จขกท. ที่ update ครับ แต่ก็ยังขอให้มาสด้าประกาศชัดเจนมากกว่านี้อีกสักหน่อยนะ
............
เรื่อง EGR ผมก็เข้าใจทั้งสองฝั่งนะ มาสด้า ถ้าไม่ออกแบบแบบนี้ อัตราสิ้นเปลือง การปล่อยมลพิษ และขนาดของเครื่องอาจจะยัดลงมาสด้า2 แล้วทำให้ผ่านกฎ eco2 ไม่ได้
อีกอย่างคือ คนคิดคือญี่ปุ่นหนะ เค้าอาจจะประเมินว่า ไม่มีใครซื้อมารถติดที 2-3 ชม. บ่อยๆ กลางสภาพฝนตกน้ำท่วม เหมือนพี่น้องชาวไทยนี่ละครับ
ส่วนคนที่จะไปอุด ผมยังแนะนำเหมือนเดิมว่า ทนๆ หาเวลาเอารถไปอัด(บ้าง)ก่อน ไว้ครบสามปีหมดประกันค่อยว่ากัน คราวนี้แล้วแต่คุณละกัน ถ้ามาสด้ายังไม่มีอะไรชัดเจน ก็แก้กันไปตามความเชื่อส่วนบุคคลละกันนะ จะแบบไหนก็ว่ากันไป
เพราะถ้าอุดก่อนประกันหมด แล้วอยู่ๆมีปัญหา หรืออยู่ดีๆ มาสด้าเรียก recall แล้วแก้ปัญหาได้หมดเนี่ย ..... จะมานั่งคิดว่าตรูพลาดไปแล้วหนะครับ

เอารถไปอัดคือ
เอาไปขับในถนนโล่ง กดให้ทำงาน แบบ EGR ปิด ให้อากาศดีผ่านไปล้างระบบเหรอครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 09:50:39
สบายใจมานิดนึงตรงที่เป็นเคสเกี่ยวกับเขม่าเหมือนเดิม ขอบคุณ จขกท. ที่ update ครับ แต่ก็ยังขอให้มาสด้าประกาศชัดเจนมากกว่านี้อีกสักหน่อยนะ
............
เรื่อง EGR ผมก็เข้าใจทั้งสองฝั่งนะ มาสด้า ถ้าไม่ออกแบบแบบนี้ อัตราสิ้นเปลือง การปล่อยมลพิษ และขนาดของเครื่องอาจจะยัดลงมาสด้า2 แล้วทำให้ผ่านกฎ eco2 ไม่ได้
อีกอย่างคือ คนคิดคือญี่ปุ่นหนะ เค้าอาจจะประเมินว่า ไม่มีใครซื้อมารถติดที 2-3 ชม. บ่อยๆ กลางสภาพฝนตกน้ำท่วม เหมือนพี่น้องชาวไทยนี่ละครับ
ส่วนคนที่จะไปอุด ผมยังแนะนำเหมือนเดิมว่า ทนๆ หาเวลาเอารถไปอัด(บ้าง)ก่อน ไว้ครบสามปีหมดประกันค่อยว่ากัน คราวนี้แล้วแต่คุณละกัน ถ้ามาสด้ายังไม่มีอะไรชัดเจน ก็แก้กันไปตามความเชื่อส่วนบุคคลละกันนะ จะแบบไหนก็ว่ากันไป
เพราะถ้าอุดก่อนประกันหมด แล้วอยู่ๆมีปัญหา หรืออยู่ดีๆ มาสด้าเรียก recall แล้วแก้ปัญหาได้หมดเนี่ย ..... จะมานั่งคิดว่าตรูพลาดไปแล้วหนะครับ

เอารถไปอัดคือ
เอาไปขับในถนนโล่ง กดให้ทำงาน แบบ EGR ปิด ให้อากาศดีผ่านไปล้างระบบเหรอครับ
ประมาณนั้นละครับ
แก้ปัญหาชั่วคราว รอมาสด้าว่า จะว่าไงก่อนละกันครับ
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: BOBBY_7 ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 15:28:02
ผู้ใช้ชุดแรกๆ ก็น่าจะสองปีกว่าๆแบบผม (50,000-70,000 กม.)
พูดกันตามตรง เรื่องขับดี ช่วงล่างมั่นใจ ประหยัดน้ำมัน ทั้งหมดมันใช่แน่นอน

แต่... ผมว่าเรื่องความทนทานของอะไหล่ต่างๆ มันไปเร็วกว่าหลายยี่ห้องที่ใช้มา
"ความทนทาน" อาจจะเป็นปัญหามากขึ้นให้เห็น เมื่ออายุผู้ใช้งานเริ่มนานขึ้น

MAZDA SPEEDLINE ผมก็ได้แจ้งปัญหาต่างๆไป และเรื่องแบตเตอรี่ ที่เสื่อมสภาพเร็วมาก
ถ้าพัฒนา ขอให้ไปให้สุดครับ เอาใจช่วย... ขอให้จริงใจต่อกัน ไม่ย้อม..พวกเรา :)
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 16:13:05
Mazda จะออกมาแก้ไขยังไง ขอให้ทำให้ไวด้วยนะครับ

บอก ญี่ปุ่นหน่อยว่า รอเป็นปีๆ ไม่ไหวนะ ลูกค้าจะหายไปหมด หรืออยากขายได้แต่ตัว 2.0????

ไม่งั้นเอาตัว 2.5 กลับมาขายแทนตัว ดีเซล ดีกว่า
หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ToRo ที่ กรกฎาคม 24, 2017, 20:43:06
เรื่องนี้ผมก็อยากให้Mazdaรีบออกมาแก้ไข
เพราะมันเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น

ปัญหาผมดูในคลับทั้งcx5ที่น้ำดัน กับ2ที่กระตุก
ผมมองว่าเป็นเรื่องการออกแบบระบบที่ผิดพลาดของMazdaเองทั้งนั้น

อีกอย่างที่อยากให้ปรับปรุงคือคุณภาพของวัสดุนะครับ
Cx5ผมใช้มา2ปีกว่า ปั๊มติ๊กพังที่6หมื่นโล
ยังงงเลยว่า ทำไมรถเรามันพังเร็วขนาดนั้น
แต่ดีที่ศูนย์บริการดีและรอpartกับซ่อมไม่กี่วัน


หัวข้อ: Re: มันมาแล้ว mazda2 1.5D 70000 โล กระตุกแล้วจ้า!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Ponthakorn ที่ กรกฎาคม 25, 2017, 18:57:54
ขอก๊อปคำตอบจากกระทู้เรื่องนี้ครั้งที่แล้วมาแปะใหม่(อาจมีแก้ไขบ้างตามเวลา) จนกว่าทางเว็บ ที่เรียกตัวเองว่าสื่อ จะเริ่มทำตัวเหมือนเป็นสื่อจริงๆสักที ไม่ใช่เป็นแค่เซลล์ขายรถ..

เนี่ย จุดอ่อนของเว็บนี้ก็คือพอมีปัญหาแบบนี้ ไม่เห็นมีใครที่เรียกตัวเองว่าสื่อมวลชนเข้าไปหาคำตอบมาให้ประชาชนรู้เลยอ่ะ
เห็นไปงานเปิดตัวมาไม่รู้กี่งาน ผู้บริหารค่ายนู้นค่ายนี้ยืนกันเต็มไปหมด ไม่มีความคิดที่จะถามเรื่องปัญหาพวกนี้แล้วมานำเสนอบ้างเลยหรอครับ?

ทั้งเรื่องเกียร์ฟอร์ดที่ต้องติดตามข่าวจากสื่อหลักแทนที่สื่อด้านรถโดยตรงจะติดตามให้
ไหนจะสโกด้าจดทะเบียนไม่ได้ที่ตกลงตอนนี้ก็ไม่รู้จบยังไง ไหนจะเรื่องถุงลมทากาตะระเบิดเวลาที่มีอยู่ไม่รู้กี่หมื่นคันในไทย
แล้วยังมีไฟหน้าฟอร์จูนเนอร์แยงตาที่ต้องให้ถามในบอร์ดแล้วถึงจะตอบได้ว่าแก้แล้ว (มีข้อมูลอยู่แล้วทำไมไม่บอกกันให้รู้ตั้งแต่แรกหว่า)

ไปรอบสื่อมันทุกงาน ทำหน้าที่สื่อมวลชนให้ครบๆหน่อยก็ดีครับ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเป็นเซลล์ขายรถให้เค้า
คุณควรจะเป็นฝ่ายเดียวกับผู้บริโภคไม่ใช่ไปตีซี้กับค่ายรถ เข้าใจว่าอยู่กันแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าแต่ก็อยากให้คิดในมุมคนทั่วไปบ้างว่าเวลาจะซื้อรถเขาก็อยากรู้ปัญหา
ไม่ได้ขอว่าแบบรถใครพังคนนึงก็ต้องทำข่าว แต่ปัญหาแบบยกรุ่นขนาดนี้แล้วยังเฉยอยู่นี่ ผมว่าพิจารณานิดนึงเนอะ

วิธีทำข่าวปัญหาแบบที่ไม่เสี่ยงโดนฟ้องมันมีเยอะแยะครับ อย่าลืมว่าค่ายรถถ้าไม่มีสื่อเค้าก็มีผลเหมือนกัน
คนรู้จักผมทำงานอยู่บริษัทรถหลายค่าย เขาง้อ Headlightmag จะตาย ทำไมผมจะไม่รู้
เห็นด้วยครับ ไม่ใช่ผมไม่ชอบเว็บนี้นะครับวันหนึงผมเข้ามาอ่านมากว่าสิบครั้งต่อวัน อยากให้ทางเว็บเชิญทางค่ายรถที่มีปัญหามาตอบบ้างว่าปัญหานี้มันเกิดจากอะไร แนวทางที่จะแก้ไขคืออะไร ได้มีการปรับปรุงแล้วหรือยัง มันเป็นผลดีกับคนที่ใช้รถรุ่นๆนั้นนะครับว่าจะต้องทำอย่างไร จะแนะให้คนอื่นซื้อมั้ย อยากให้ทำนะครับข้อมูลจะได้ครบในเว็บเดียว