Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: punn ที่ กรกฎาคม 29, 2017, 15:55:09
-
คุยกันเล่นๆ อยากรู้ความคิดความเห็นของทุกท่านครับ :)
โจทย์พยายามสมมุติให้ทุกท่านได้มีอารมณ์ร่วมจากเหตุการณ์ปกติธรรมดา
(แต่ตัวเลขทั้งหลายผมอ้างอิงจากน้องจูนโฉมแรกเบนซินนะครับ)
ถ้าท่านมีรถที่ยังรักในตัวถังกับคุณงามความดีในการขับบางอย่าง
แต่อยากให้มันขับสนุกขึ้นอีก..
ข้ออ้าง ไม่อยากเป็นตัวถ่วงบนท้องถนนในบางกรณี
เช่น ตบขวาแซงพร้อมกับคันหลัง ก็จะรีบแซงรีบหลบซ้ายให้
แต่มันก็จะเหมือนไปปิดทาง แม้รถบ้านๆทั่วไป เพราะรถเราอืดกว่า
(เหตุผลจริงคือคันครับผม :-[
ขับมา 10 ปีแล้วชาวบ้านคงชินกับความอืดมันหละ)
ผมยอมรับอยู่อย่าง ว่าอัตราเร่งของรถมันด้อยกว่าชาวบ้านไป(เยอะ)หน่อย ถ้า
1.ติดกล่องคันเร่ง คงกระฉับกระเฉงขึ้นบ้าง อาจจะสนุกขึ้นแล้ว
2.ทำท่อ ก็เห็นว่าตัวเลขบนไดโนมาราวๆ 10 ตัว ไม่รู้จะสนุกขึ้นแค่ไหน
3.ทำท่อ + กล่อง ได้เพิ่มม้า 20 กว่าตัว ในวงการคนแต่งรถถือว่าคุ้มมั้ยครับกับราคา
3 ข้อนี้ดีตรง ทำนิดเดียว ยังรักษาเดิมๆส่วนใหญ่ไว้ เวลาซ่อมหรือเมนเทนก็ยังปกติดี
แต่ยังสงสัยว่า ม้าเพิ่มมาแล้วแรงบิดจะเพิ่มขึ้นบ้างมั้ยครับ มีใครอธิบายให้ฟังที
ส่วนที่เหลือ กำลังอันยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมความเสี่ยงอันใหญ่ยิ่ง
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมเสนอความเห็นครับ ;D ;D ;D
-
ถ้างบพอ ผมขายแล้วซี้อคันใหม่ครับ
สมัยก่อนเอาอัลติสหน้าหมูไปเปลื่ยนเฮดเดอร์ทั้งเส้นที่ TRD ศรีนครินทร์ หัวเทียนอิรีเดียม และกรองอากาศแบบ Hi-Flow
อัตราเร่งดีกว่าเดิม แต่สุดท้ายก็โดน Civic ES 1.7 VTEC เดิมๆสวนช่วงความเร็วปลายอยู่ดี เลยถึงสัจธรรมว่า เปลื่ยนรถดีกว่าครับ
-
ลองรีเฟรชดู มีแต่คนตอบขายซื้อคันใหม่ :'(
รถที่ยังรักและผูกพันนี่ขายได้ลงคอหรือครัช
* ซื้อคันใหม่นี่เงินก้อนโตเลยนะครัช ถ้าผ่อนก็เศรษฐีเงินผ่อนไปอีก 4-5 ปีเชียว :P
ผมอุตส่าห์ให้ตอบกันสัก 2 ข้อแล้ว กลัวข้อเดียวจะไปลงขายซื้อใหม่กันหมดจริงๆ ;D ;D ;D
-
ถ้างบพอ ผมขายแล้วซี้อคันใหม่ครับ
สมัยก่อนเอาอัลติสหน้าหมูไปเปลื่ยนเฮดเดอร์ทั้งเส้นที่ TRD ศรีนครินทร์ หัวเทียนอิรีเดียม และกรองอากาศแบบ Hi-Flow
อัตราเร่งดีกว่าเดิม แต่สุดท้ายก็โดน Civic ES 1.7 VTEC เดิมๆสวนช่วงความเร็วปลายอยู่ดี เลยถึงสัจธรรมว่า เปลื่ยนรถดีกว่าครับ
ทำแค่นี้แล้วสนุกขึ้นบ้างมั้ยครับนี่ เร่งดีขึ้นแบบผิดหูผิดตามั้ยครับ
คือรู้สกคุ้มมั้ยครับที่ทำมา หรือรู้งี้ไม่ทำดีกว่า :-[
-
เป็นผม วางเครื่องใหม่ครับ 2jz gte ขับเล่นๆ :-*
รถเป็นสิบปี ขับมันไปไหนมาไหน เที่ยวไปด้วยกัน มีแต่ความทรงจำดี แต่ต้องคอยซ่อมบำรุงมันให้ดีด้วยครับ
-
ไม่ได้โหวต แต่มาออก คห.
รถพอสมควร ไม่เก่ามาก ถ้าคนขับใจถึงจริงๆ รถที่จะสามารถแซงได้ก็น้อย
รถปัจจุบัน ที่ขับเดินทางปกติจริงๆ วิ่งกันอยู่ที่ 120-140 แช่ยาวๆ คงมีเพียงส่วนน้อยที่วิ่งแช่ยาว 160+
อัตราเร่งห่างกันไม่กี่วิ นี่บนถนนหลวง ไม่ใช่สนามแข่งทั้งเซอร์กิต หรือแด๊ก กดมิดๆ ใจๆ กล้ามุด กล้าโยก ยังไงก็ทัน
เอาเงินไปทำช่วงล่างให้มันดีๆ เกาะถนน นั่งสบาย เบรคดี ระบบบันเทิงให้ครบๆ ดีกว่าไหม
สบายและปลอดภัยกว่าเยอะ
แต่ถ้าอยากเล่น ลองมาดูตัวเลือกที่ให้มา
1. ติดกล่องคันเร่ง .. (~4000)
- เหยียบให้มันลึกขึ้น เวลายกคันเร่ง อย่า ยกหมด อมๆ ไว้ กดกระแทกส่งต่อได้ ไม่ต้องจ่ายอีก สี่พัน
2. ทำท่อ header เพิ่มม้าสัก 10 ตัว ..(~16,000)
- ถ้าร้านทำ เป็นมวยก็น่าจะได้ซัก 5% ของแรงม้าเดิม แต่ร้านห่วยน่าจะลดลงไม่มากก็น้อย
ส่วนใหญ่เสียงที่มันดังขึ้น เช่น เปลี่ยนแค่หม้อพักปลายอย่างเดียว อาจจะไม่แรงขึ้น แต่มันจะจูงใจแรงจากใจ ไปสู่ตีน ได้เยอะ (~2000+)
3. ทำท่อ header + ลงกล่องจูน เรียกม้าได้ 20 กว่าตัว (~40,000)
- ถ้าร้านทำ เป็นมวยก็น่าจะได้อีกพอควร แต่ความทนทานไม่รู้จะมากน้อยแค่ไหน เงินขนาดนี้ทำช่วงล่าง ออกมาได้ค่อนข้างดี
4. ติด turbo (+ กล่องจูน + header ) (~70,000)
- Step นี้เริ่มจะเป็นรถติดอู่มากขึ้น พอติด Turbo มันต้องคุยอีกเยอะ เรื่องจะยาวมากกกกก
ทั้ง Boost, น้ำมัน, ระบบเกียร์, ความร้อน, สภาพของเครื่องยนต์
Boost น้อย ก็ไม่แรง แต่น้ำมันกับเกียร์และเครื่องยนต์ อาจจะรับไหว แต่ก็รู้สึกไม่คุ้มค่าเงิน
Boost มาก หายนะมาเยือนเร็ว ขับไกลก็เสียว ขับใกล้ก็กลัวร้อน กระแทกมากก็ลื่น ความร้อนวิ่งหรือเปล่า กระเดื่องวาว์ลจะคดไหม ฯลฯ
ไปรถเพื่อน หรือรถทัวร์ดีกว่า เอาไว้ขับหล่อ(มั้ง) ระยะสั้น แฟ๊ตตต แช่....
5. วางเครื่องใหม่ (+ header ) (~220,000)
- ถ้าวางจบ นับว่าบุญที่ทำ แต่ครั้งปางก่อนมาช่วยหนุนไว้
สมมุติว่าวางจบ ช่วงล่างรับได้ไหม ใน (หลายคัน) ที่ผมเคยขับ ตอนเร่งดึงซ้าย ตอนยกดึงขวา!!! และอื่นๆ อีกมากมาย
สมมุติว่า ถ้าไม่จบนี่บรรลัยเกิด ทั้งค่าเครื่อง ค่าทำ ตัวรถที่โดนบรรเลง ราคาที่จะส่งต่อ คนที่จะมาซื้อ คิดแล้วกลุ้ม!!
ไม่รวมถึง เวลา service ต้องวิ่งกลับไปทำ ที่อู่เดิมใช่ไหม
ต้องคอยพินอบพิเถา คนทำ เจ้าของอู่ ที่เราเอาเงินไปให้ใช่ไหม
เวลารถไปพังที่อื่น นี่ต้องทำยังไง slide กลับไปหาเจ้าเดิมใช่ไหม
ฯลฯ
คิดแล้วเหนื่อยนะ ตัวเรา กระเป๋าตังค์เรา เวลาของเรา และอื่นๆ ที่เป็น เรา
6. ขาย .. ซื้อคันใหม่ (~NA)
- เป็นทางออกที่ดี และ (น่าจะ) จบ ถ้ารู้จักเลือกและพอเป็น
อยากได้รถแรง มองหารุ่นที่แรง และพอตรงความต้องการ ทั้งแรงม้า แรงบิด ระบบขับเคลื่อน เบรค ฯลฯ
และต้องพอเป็น ไม่ใช่เจอสวนมาที คันมาที ต้องโมเพิ่ม
"พอไม่เป็น เย็นไม่ได้"
-
ในเว็บ overclockzone
ท่าน twk. กล่าวไว้นานแล้วในการแต่งคอมแรงๆ
"เลิกแรงเลิกจน" 555
-
คันยิกๆด้วย
มันต้องแล้วแต่ด้วยว่ารถเดิมนั้นคืออะไร ไปต่อทางไหน "ลงตัว" กว่ากันครับ
กรณีผม Subaru Outback ... ยกเครื่อง + แพ Legacy GT (ฝาแฝดเครื่องเทอร์โบที่ไม่ยกสูง) มาลง ... จบง่ายๆ ไม่ต้องลุ้น ตั้งแต่วันแรกที่วาง จนถึงวันนี้ 2 ปี แล้ว เจอปัญหาแค่ MAP sensor เสียทำให้บูสท์มาไม่เต็มหนเดียว
แต่กับอีกคัน MX5 NB จะวางเครื่องคงไม่ใช่ทางเลือก มีคนวางเหมือนกันนะ แต่ต้องข้ามพันธุ์กระจุย (พิมพ์นิยมคือ K20) แต่หนทางโหดร้ายมาก ในขณะที่เซ็ตโบ/ซุปมีบริษัททำชุดคิตขาย
-
ขายคันเดิม ซื้อคันใหม่ หรือเก็บคันเดิม ซื้อคันใหม่ ก็ได้ครับถ้าเสียดายคันเดิม
-
หากเป็นผม ไม่ทำอะไรเพิ่มได้ไหมครับ ไม่อยากทำอะไรกับมัน สงสาร......
คือประมาณว่า ขอแค่เอารถสุด love ขับชมวิวไปจ่ายตลาด แค่นั้นพอ
เอาไปวิ่งบนทางหลวง หรือ ทางด่วน คงวิ่งซ้ายสุดไปเรื่อยๆ haha
( Peugeot 505 อายุ 30 เศษๆ ของคุณพ่อ รถที่พ่อขับส่งผมไปโรงเรียนตอนประถม)
-
ไม่ได้โหวต แต่มาออก คห.
รถพอสมควร ไม่เก่ามาก ถ้าคนขับใจถึงจริงๆ รถที่จะสามารถแซงได้ก็น้อย
รถปัจจุบัน ที่ขับเดินทางปกติจริงๆ วิ่งกันอยู่ที่ 120-140 แช่ยาวๆ คงมีเพียงส่วนน้อยที่วิ่งแช่ยาว 160+
อัตราเร่งห่างกันไม่กี่วิ นี่บนถนนหลวง ไม่ใช่สนามแข่งทั้งเซอร์กิต หรือแด๊ก กดมิดๆ ใจๆ กล้ามุด กล้าโยก ยังไงก็ทัน
เอาเงินไปทำช่วงล่างให้มันดีๆ เกาะถนน นั่งสบาย เบรคดี ระบบบันเทิงให้ครบๆ ดีกว่าไหม
สบายและปลอดภัยกว่าเยอะ
แต่ถ้าอยากเล่น ลองมาดูตัวเลือกที่ให้มา
1. ติดกล่องคันเร่ง .. (~4000)
- เหยียบให้มันลึกขึ้น เวลายกคันเร่ง อย่า ยกหมด อมๆ ไว้ กดกระแทกส่งต่อได้ ไม่ต้องจ่ายอีก สี่พัน
2. ทำท่อ header เพิ่มม้าสัก 10 ตัว ..(~16,000)
- ถ้าร้านทำ เป็นมวยก็น่าจะได้ซัก 5% ของแรงม้าเดิม แต่ร้านห่วยน่าจะลดลงไม่มากก็น้อย
ส่วนใหญ่เสียงที่มันดังขึ้น เช่น เปลี่ยนแค่หม้อพักปลายอย่างเดียว อาจจะไม่แรงขึ้น แต่มันจะจูงใจแรงจากใจ ไปสู่ตีน ได้เยอะ (~2000+)
3. ทำท่อ header + ลงกล่องจูน เรียกม้าได้ 20 กว่าตัว (~40,000)
- ถ้าร้านทำ เป็นมวยก็น่าจะได้อีกพอควร แต่ความทนทานไม่รู้จะมากน้อยแค่ไหน เงินขนาดนี้ทำช่วงล่าง ออกมาได้ค่อนข้างดี
4. ติด turbo (+ กล่องจูน + header ) (~70,000)
- Step นี้เริ่มจะเป็นรถติดอู่มากขึ้น พอติด Turbo มันต้องคุยอีกเยอะ เรื่องจะยาวมากกกกก
ทั้ง Boost, น้ำมัน, ระบบเกียร์, ความร้อน, สภาพของเครื่องยนต์
Boost น้อย ก็ไม่แรง แต่น้ำมันกับเกียร์และเครื่องยนต์ อาจจะรับไหว แต่ก็รู้สึกไม่คุ้มค่าเงิน
Boost มาก หายนะมาเยือนเร็ว ขับไกลก็เสียว ขับใกล้ก็กลัวร้อน กระแทกมากก็ลื่น ความร้อนวิ่งหรือเปล่า กระเดื่องวาว์ลจะคดไหม ฯลฯ
ไปรถเพื่อน หรือรถทัวร์ดีกว่า เอาไว้ขับหล่อ(มั้ง) ระยะสั้น แฟ๊ตตต แช่....
5. วางเครื่องใหม่ (+ header ) (~220,000)
- ถ้าวางจบ นับว่าบุญที่ทำ แต่ครั้งปางก่อนมาช่วยหนุนไว้
สมมุติว่าวางจบ ช่วงล่างรับได้ไหม ใน (หลายคัน) ที่ผมเคยขับ ตอนเร่งดึงซ้าย ตอนยกดึงขวา!!! และอื่นๆ อีกมากมาย
สมมุติว่า ถ้าไม่จบนี่บรรลัยเกิด ทั้งค่าเครื่อง ค่าทำ ตัวรถที่โดนบรรเลง ราคาที่จะส่งต่อ คนที่จะมาซื้อ คิดแล้วกลุ้ม!!
ไม่รวมถึง เวลา service ต้องวิ่งกลับไปทำ ที่อู่เดิมใช่ไหม
ต้องคอยพินอบพิเถา คนทำ เจ้าของอู่ ที่เราเอาเงินไปให้ใช่ไหม
เวลารถไปพังที่อื่น นี่ต้องทำยังไง slide กลับไปหาเจ้าเดิมใช่ไหม
ฯลฯ
คิดแล้วเหนื่อยนะ ตัวเรา กระเป๋าตังค์เรา เวลาของเรา และอื่นๆ ที่เป็น เรา
6. ขาย .. ซื้อคันใหม่ (~NA)
- เป็นทางออกที่ดี และ (น่าจะ) จบ ถ้ารู้จักเลือกและพอเป็น
อยากได้รถแรง มองหารุ่นที่แรง และพอตรงความต้องการ ทั้งแรงม้า แรงบิด ระบบขับเคลื่อน เบรค ฯลฯ
และต้องพอเป็น ไม่ใช่เจอสวนมาที คันมาที ต้องโมเพิ่ม
"พอไม่เป็น เย็นไม่ได้"
ต้องออกตัวก่อนครับ ว่าผมใช้แค่คำว่าสนุกขึ้น
ผมไม่ได้เอาไปแข่งซุปคาร์นะครับ :)
การตัดสินใจ ก็คิดว่าเราก็เพอร์เฟคในระดับนึง ;D
คนที่การตัดสินใจระดับขับซุปคาร์มาหลายคันแล้ว
มาขับรถบ้านๆใกล้ๆกันทิ้งผมไม่ได้นะเออ
(แน่นอน ผมเน้นปลอดภัยสุดๆ ขับมาตั้งแต่ 2543 ไม่เคยเฉี่ยวไม่เคยชน แม้แต่ครั้งเดียว)
ใจจริงต้องการตีนต้นแค่นั้น เพราะรถมันหนัก
ออกตัวจากรถติดขอไม่ถ่วงชาวบ้าน(เก๋งเก่าๆ กระบะกลางๆ)
แต่ไม่แน่ใจว่าอะไรจะพอในเบื้องต้น และผมขับตามกฏหมายลิมิตครับ
(ติดขอบบนสุดเลย :-[ แต่เพราะเป็นความเร็วที่สบายที่สุดที่ผมไม่เหนื่อย มีแรงลุยกิจกรรมต่อแล้ว ::) )
จึงได้ลิสต์ช้อยส์มาถามเหล่าผู้กล้าในวงการที่เคยทำมาก่อนที่มีมากมายในเวบบอร์ดนี้ครับ :)
ขอบคุณที่แนะนำครับ
ช่วงล่างผม ผมไปจูนเบรคมาแล้ว
สปริงโด กับโช้ค procomm ทั้งเซ็ทแล้ว
ถ้าทำด้านบนข้อต้นๆ ก็เล็งไว้ไปเพิ่มขนาดดิสก์หน้า
ทำข้อหลังๆ ขยายดิสก์ และเต็มดิสก์ 4 ล้อแน่นวล
แต่ขอถามทีละส่วนครับ ทู้นี้ขอแค่ส่วนนี้ก่อน
-----------
ส่วนตัวเลือกกล่องคันเร่ง ที่ใส่มานี่เพราะสงสัยครับ
กดเองได้ทุกแบบที่รถมันตอบสนองอยู่แล้ว
เพียงแต่งงๆกับบางครั้งที่กลางวันติดหน่วงๆ กลางคืนคล่องตัวในบางครั้ง
ถ้ามันคล่องตัวในสภาพท็อปฟอร์มตลอด ผมจะไม่เหลียวเลย กล่องคันเร่งเนี่ย
ดีไม่ดี ก็อาจจะพอด้วยซ้ำถ้ามันทำให้รถท็อปฟอร์มตลอด
แต่ก็แอบสงสัยกับอุณหภูมิการท็อปฟอร์ม ร้อนเย็น ว่าจะเกี่ยวกับเฮดเดอร์มั้ย
เลยไปศึกษาเพิ่ม ก็เลยมาเป็นอีกตัวเลือก
ร้านเฮดเดอร์ก็แนะนำกล่องจูน ก็เลยเพิ่มอีก แค่นี้หละครับที่มา ;D ;D ;D
-
รักเก่า รักมือ 2 ไม่ค่อยจะใช่แนวผมครับ
บอกเลิกแล้ว คบคันใหม่(ถ้างบพอ)
-
ในเว็บ overclockzone
ท่าน twk. กล่าวไว้นานแล้วในการแต่งคอมแรงๆ
"เลิกแรงเลิกจน" 555
สุดยวดครัช ;D
คันยิกๆด้วย
มันต้องแล้วแต่ด้วยว่ารถเดิมนั้นคืออะไร ไปต่อทางไหน "ลงตัว" กว่ากันครับ
กรณีผม Subaru Outback ... ยกเครื่อง + แพ Legacy GT (ฝาแฝดเครื่องเทอร์โบที่ไม่ยกสูง) มาลง ... จบง่ายๆ ไม่ต้องลุ้น ตั้งแต่วันแรกที่วาง จนถึงวันนี้ 2 ปี แล้ว เจอปัญหาแค่ MAP sensor เสียทำให้บูสท์มาไม่เต็มหนเดียว
แต่กับอีกคัน MX5 NB จะวางเครื่องคงไม่ใช่ทางเลือก มีคนวางเหมือนกันนะ แต่ต้องข้ามพันธุ์กระจุย (พิมพ์นิยมคือ K20) แต่หนทางโหดร้ายมาก ในขณะที่เซ็ตโบ/ซุปมีบริษัททำชุดคิตขาย
เพราะรักมากนี่หละ เลยอยากดูแลให้มันขับน่ารักอยู่ตลอด อยากที่หาให้ลงตัวในเบื้องต้นก่อนครับ
วางเครื่องจบ แปลว่าบุญเก่าดี ;)
หากเป็นผม ไม่ทำอะไรเพิ่มได้ไหมครับ ไม่อยากทำอะไรกับมัน สงสาร......
คือประมาณว่า ขอแค่เอารถสุด love ขับชมวิวไปจ่ายตลาด แค่นั้นพอ
เอาไปวิ่งบนทางหลวง หรือ ทางด่วน คงวิ่งซ้ายสุดไปเรื่อยๆ haha
( Peugeot 505 อายุ 30 เศษๆ ของคุณพ่อ รถที่พ่อขับส่งผมไปโรงเรียนตอนประถม)
ความเห็นนี้คลาสสิคสุดๆ ใจนึงก็อยากแบบนี้เหมือนกันครับ :-*
แต่ของเล่นมันเยอะไปหน่อย เลยอยากลองสักนิดนึงครับ แหะๆ
-
เป็นผม วางเครื่องใหม่ครับ 2jz gte ขับเล่นๆ :-*
รถเป็นสิบปี ขับมันไปไหนมาไหน เที่ยวไปด้วยกัน มีแต่ความทรงจำดี แต่ต้องคอยซ่อมบำรุงมันให้ดีด้วยครับ
วางเครื่องนี่แล้วขับเล่นๆ :-*
รักเก่า รักมือ 2 ไม่ค่อยจะใช่แนวผมครับ
บอกเลิกแล้ว คบคันใหม่(ถ้างบพอ)
งบไม่ใช่ปัญหา แต่ความเป็นช่างของผมสิครับปัญหา :-\
ผมประเภท loyalty สุดๆ เพราะคันนี้มันไม่เคยทุรยศผมเลย ขับดีตลอด
ดูแลอย่างดีมาตลอด นมค.สังเคราะห์แท้ ตั้งแต่ 1,000 โลแรก
ขัดเคลือบสีเองตลอด รถไปรับเจ้าสาวด้วย คู่บารมีเลยครัช
ขายคันเดิม ซื้อคันใหม่ หรือเก็บคันเดิม ซื้อคันใหม่ ก็ได้ครับถ้าเสียดายคันเดิม
คือคิดแล้วมันแปลกๆนะครับ เพราะติดใหญ่ๆ ถ้าจะมีรถใหญ่ๆ 2 คันในบ้าน
ถ้าถอยคันเล็ก ความคล่องจากกำลังเครื่องมันสนุกกว่าคันใหญ่อยู่แล้ว
เลยกลัวคันใหญ่จะน้อยใจ จึงเป็นที่มาของการคันอยากปรับแต่งครั้งนี้ครัช
-
เป็นผมถ้ารักรถมากๆ ผมจะไม่ทำอะไรเพิ่มเยอะครับ
ผมชอบรถที่เมื่อ 30 ปีที่แล้วเป็นยังไง มันก็ยังเป็นแบบนั้นในทุกวันนี้ เหมือนเพิ่งถอยลงมาจากโชว์รูม
แนวทางการแต่งรถของผมจึงพยายามทำให้รถมันไม่ดูเลอะ พยายามทำให้ดูเป็น OEM และไม่แต่งเครื่องเลยครับ ถนอมเค้าไว้กับเรานานๆ
ในช้อยส์นั้นผมจึงเลือกเป็นให้ไปซื้อคันใหม่แทนครับ (แต่ผมอาจจะเก็บคันเดิมไว้ ถ้าไม่มีปัญหาในการดูแลมัน)
-
เป็นผมถ้ารักรถมากๆ ผมจะไม่ทำอะไรเพิ่มเยอะครับ
ผมชอบรถที่เมื่อ 30 ปีที่แล้วเป็นยังไง มันก็ยังเป็นแบบนั้นในทุกวันนี้ เหมือนเพิ่งถอยลงมาจากโชว์รูม
แนวทางการแต่งรถของผมจึงพยายามทำให้รถมันไม่ดูเลอะ พยายามทำให้ดูเป็น OEM และไม่แต่งเครื่องเลยครับ ถนอมเค้าไว้กับเรานานๆ
ในช้อยส์นั้นผมจึงเลือกเป็นให้ไปซื้อคันใหม่แทนครับ (แต่ผมอาจจะเก็บคันเดิมไว้ ถ้าไม่มีปัญหาในการดูแลมัน)
บางความสัมพันธ์มันซับซ้อน .. ผมก็ไม่ชอบให้มันเลอะเหมือนกันครับ :-[
แค่ใส่ header ผมยังไม่รู้เลยว่ามีแบบไหน แต่ก็รู้สึกกลัวจะเลอะไปบ้างซะแล้ว
นี่ก็ส่วนนึงถึงมีตัวเลือกกล่องคันเร่งอย่างเดียวครับ มีมั้ยลองแล้วถ้าไม่ชอบก็ไม่เอา :'(
-
ยุคนี้ ด้านความแรง ขอแค่รีแมฟก็พอครับ
ผมอาจจะ"คัน" เรื่องช่วงล่างและเบรคมากกว่า
บังเอิญผมสายกระบะ & PPV แค่เขี่ยรีแมฟนิดหน่อยก็ได้ 30+ ม้า
แต่ช่วงล่างนี่ บันเทิงครับ บางคนหมดไปเป็นแสน เปลี่ยน 3-4 ชุดก็ไม่จบ
-
ถ้างบพอ ผมขายแล้วซี้อคันใหม่ครับ
สมัยก่อนเอาอัลติสหน้าหมูไปเปลื่ยนเฮดเดอร์ทั้งเส้นที่ TRD ศรีนครินทร์ หัวเทียนอิรีเดียม และกรองอากาศแบบ Hi-Flow
อัตราเร่งดีกว่าเดิม แต่สุดท้ายก็โดน Civic ES 1.7 VTEC เดิมๆสวนช่วงความเร็วปลายอยู่ดี เลยถึงสัจธรรมว่า เปลื่ยนรถดีกว่าครับ
ทำแค่นี้แล้วสนุกขึ้นบ้างมั้ยครับนี่ เร่งดีขึ้นแบบผิดหูผิดตามั้ยครับ
คือรู้สกคุ้มมั้ยครับที่ทำมา หรือรู้งี้ไม่ทำดีกว่า :-[
ขับสนุกครับ
ต้นจัดขึ้น ช่วงกลางจากเดิมแรงบิดห้อยก็ดีขึ้น ส่วนปลายจาก 130 ยัน 180 ขึ่้นเร็วครับ
แต่หลังจาก 180 นั้นแรงบิดหมด ต่อให้ลาก 3 จนสุด แล้วตบ 4 ก็ไม่ขึ้น เคยสุดๆที่ 195 ก็หมดลมแล้ว
ยุคนั้น 2546 Reflash ยังไม่เกิดครับ จูนบนไดโน่ถือเป็นสิ่งที่เกินเอี้อมจริงๆ เพราะแพงมาก
-----------------------------
ค่าเฮดทั้งเส้นรวมปลาย / หัวเทียนอิรีเดียม / กรองอากาศ / สเกิรต์รอบคัน TRD / พวงมาลัยแดงดำแบบ Airbag / หัวเกียร์ TRD / ฝาน้ำมันเครื่อง TRD / โช้คและสปริงของ TRD Sportivo กระบอกฟ้า ทำญี่ปุ่น แม็กซ์ Volk + ยาง Bridgestone Potenza G-III
ทั้งหมดลงไปเกือบ 250k จากราคาตัวรถ 980k (ราคาเปิดตัวปี 2544 ถ้าเทียบค่าครองชีพในปัจจุบันก็ล้านหน่อยๆ)
แต่สามารถเปลื่ยนบุคลิคจากเดิมรถบ้านๆย้วยๆ ก็กลายเป็นรถสไตล์ WTCC เอาไว้วิ่งทางไกล กรุงเทพ-จันทบุรีโดยเฉพาะ ก็ถือว่าคุ้มครับ
-
ยุคนี้ ด้านความแรง ขอแค่รีแมฟก็พอครับ
ผมอาจจะ"คัน" เรื่องช่วงล่างและเบรคมากกว่า
บังเอิญผมสายกระบะ & PPV แค่เขี่ยรีแมฟนิดหน่อยก็ได้ 30+ ม้า
แต่ช่วงล่างนี่ บันเทิงครับ บางคนหมดไปเป็นแสน เปลี่ยน 3-4 ชุดก็ไม่จบ
เครื่องดีเซลนี่ดีจังนะครับ รีแมพกันสนุกไปเลย ;D
มีเทอร์โบของตัวเอง
ของผมเบนซิน na หาไม่เจอเลย มีแต่เจ้ารับรี แต่คนที่รีแล้วมาบอกนี่หาไม่เจอเลยครัช :'(
ช่วงล่างผมพอหละ ยอมให้ติดแข็งหน่อยๆดีกว่าย้วย
ข้างหลังเลยเลือก สปริงโด เบอร์แข็งกันเลย ;D
แต่ลูกระนาดยางในห้าง max value
ถ้าเอียงผ่านทีละล้อนี่รถแทบไม่สะเทือนเลยครับพอใจเลย
-
ถ้างบพอ ผมขายแล้วซี้อคันใหม่ครับ
สมัยก่อนเอาอัลติสหน้าหมูไปเปลื่ยนเฮดเดอร์ทั้งเส้นที่ TRD ศรีนครินทร์ หัวเทียนอิรีเดียม และกรองอากาศแบบ Hi-Flow
อัตราเร่งดีกว่าเดิม แต่สุดท้ายก็โดน Civic ES 1.7 VTEC เดิมๆสวนช่วงความเร็วปลายอยู่ดี เลยถึงสัจธรรมว่า เปลื่ยนรถดีกว่าครับ
ทำแค่นี้แล้วสนุกขึ้นบ้างมั้ยครับนี่ เร่งดีขึ้นแบบผิดหูผิดตามั้ยครับ
คือรู้สกคุ้มมั้ยครับที่ทำมา หรือรู้งี้ไม่ทำดีกว่า :-[
ขับสนุกครับ
ต้นจัดขึ้น ช่วงกลางจากเดิมแรงบิดห้อยก็ดีขึ้น ส่วนปลายจาก 130 ยัน 180 ขึ่้นเร็วครับ
แต่หลังจาก 180 นั้นแรงบิดหมด ต่อให้ลาก 3 จนสุด แล้วตบ 4 ก็ไม่ขึ้น เคยสุดๆที่ 195 ก็หมดลมแล้ว
ยุคนั้น 2546 Reflash ยังไม่เกิดครับ จูนบนไดโน่ถือเป็นสิ่งที่เกินเอี้อมจริงๆ เพราะแพงมาก
-----------------------------
ค่าเฮดทั้งเส้นรวมปลาย / หัวเทียนอิรีเดียม / กรองอากาศ / สเกิรต์รอบคัน TRD / พวงมาลัยแดงดำแบบ Airbag / หัวเกียร์ TRD / ฝาน้ำมันเครื่อง TRD / โช้คและสปริงของ TRD Sportivo กระบอกฟ้า ทำญี่ปุ่น แม็กซ์ Volk + ยาง Bridgestone Potenza G-III
ทั้งหมดลงไปเกือบ 250k จากราคาตัวรถ 980k (ราคาเปิดตัวปี 2544 ถ้าเทียบค่าครองชีพในปัจจุบันก็ล้านหน่อยๆ)
แต่สามารถเปลื่ยนบุคลิคจากเดิมรถบ้านๆย้วยๆ ก็กลายเป็นรถสไตล์ WTCC เอาไว้วิ่งทางไกล กรุงเทพ-จันทบุรีโดยเฉพาะ ก็ถือว่าคุ้มครับ
ใจไม่รักนี่ทำไม่ได้ขนาดนี้เลยนะครับเนี่ย :-*
ทั้งห้องเครื่องห้องคนช่วงล่างครบเลย
คิดตามแล้วกิเลสมาทันที เฮด หัวเทียน รี/กล่อง (ช่วงล่างผมทำมาบ้างแล้ว) ;D ;D ;D
-
ถ้าเป็นผม เริ่มจากคันเร่งไฟฟ้าซึ่งรถก็แรงเท่าเดิมแค่มีคนช่วยชิงจังหวะกระทืบคันเร่ง ไม่พอแล้วค่อยไปจูนกล่อง ส่วนท่อถ้าไม่ทำกล่องก็เห็นผลน้อยกับรถเดิมมีแต่ผลทางใจตรงเสียงงเพราะๆ จะเล่นจริงๆคงกล่อง+ท่อ ม้าเพิ่มขนาดนนี้ก็วิ่งเห็นผลพอสมควรนะครับน่าจะคุ้มสุด รถไม่ค่อยช้ำ
ส่วน ทำโบนี่ผมว่ารถที่พื้นฐานเดิมเป็นnaแล้วไปทำโบถ้าเครื่องใช้มานาน จูนหนักก็ไมไ่ด้จูนน้อยคงไม่คุ้ม กับงบ
วางเครื่องใหม่เป็นผมคงไม่ทำ เพราะมันใช้งบเยอะแปลงรถเยอะ แต่มันก็คงแรงสุดจิง เช่นวาง2jโบแรงสะใจสุด แต่มันคงเกินไปมากับรถบ้านใช้งาน
ผมก็เป็น แบบจขกท นะ คือรถเริมมีอายุอยากให้ขับดีเท่ารถรุ่นใหม่ป้ายแดงดีกว่าได้ยิ่งดี แต่ของผมเป็นกระบะดีเซล ลงกล่อง+ท่อ ขับก็มีความสุขมากแล้วครับ
-
โจทย์กว้างไป คือไม่รู้ว่าหมายถึงรถอะไรเลยแนะนำไม่ถูก ถ้าเป็นรถอีโค่ก็จะแนะนำซื้อใหม่ กระบะก็พอรีแมพช่วยได้ หรือรถเก่ามันพอจะวางเครื่องอะไรได้บ้าง ผมว่า จขกท ระบุมาดีกว่าครับว่ารถอะไร
-
ที่ว่าวางเครื่องแล้วจบแสดงว่า "บุญเก่าดี" นั้น
ผมขอแย้งแบบนี้นะครับ การวางเครื่องใหม่นั้น แม้ว่าดวงจะมีผลอยู่บ้าง แต่การตัดสินใจของเราก็สำคัญครับ อย่างในเคสนั้น ผมตัดสินใจหลายอย่างที่หลายคนอาจจะว่า "มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย" เช่น
- ผมเลือกวางเครื่องตรงบอดี้ แม้ว่าเครื่องไมาตรงบอดี้หาง่ายกว่า จะได้ตัดปัญหาเรื่องตัดต่อสายไฟ
- ผมเลือกสั่งหัวตัดโดยสั่งประมูลรถคันที่ไม่มีอุบัติเหตุ เพื่อจะได้มั่นใจว่าอะไหล่ทุกชิ้นจะไม่มีอะไรเสียหาย สามารถย้ายสามารถเราได้ทั้งหมด
- ผมสั่งให้อู่เปลี่ยนอะไหล่สึกหรอทั้งหมด เช่น สายพานไทม์มิ่ง วาวล์น้ำ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายทีหลัง
- สุดท้ายผมเลือกทำกับอู่ที่แพงกว่าอู่อื่น แต่มีประสบการณ์วางเครื่องรถรุ่นนี้มากกว่าอู่อื่นๆ
อย่ากลัวการวางเครื่องครับ ถ้าทางนี้เหมาะกับรถเราจริงๆ (มีรุ่นพี่ที่เครื่องแรงกว่าให้เอามาลงได้ง่ายๆ) ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ
เดาว่ารถ จขกท เป็น C segment ญี่ปุ่น ... เช่น ถ้าเป็น Civic เอาเครื่อง type r มาลง ถ้าไม่บีบงบ+เลือกอู่ดีๆ จบสบายๆครับ
แต่ที่ว่ามานั้น ไม่ได้แปลว่าผมเชียร์วางเครื่องนะครับ
- หากว่า รถท่านไม่มีรุ่นพี่ให้หยิบยืมเครื่อง + อู่ที่เก่งๆน้อย (เช่น เปอร์โย 406 ?? ) ก็ไม่น่า "ฝืน" มาทางนี้ครับ ... อันที่จริง ถ้ามาแนวนี้ "เก็บไว้แบบเดิม" น่าจะดีที่สุด
- หรือหากว่ารถรุ่นท่าน เค้าเซ็ตเทอร์โบกันทั่วบ้านทั่วเมือง (เช่น Jazz GE??) แนวทางเซ็ตเทอร์โบ ก็ไม่แย่นัก แค่ว่าต้องทำการบ้านดีๆ คล้ายๆกับวางเครื่องใหม่ แต่อาจต้องทำการบ้านมากกว่าหน่อย >>> อันนี้เป็นเคสรถอีกคันของผม MX5 คนใช้ซุป/โบ กันเยอะ แต่ไม่มีคนใช้กับเกียร์ออโต้ (เพราะรถรุ่นนี้ไม่ค่อยมีคนออกเกียร์ออโต้ คนที่ออกเกียร์ออโต้ก็กะจะขับหวานเย็น) เลยยังแหยงๆ+หาข้อมูลเพิ่มอยู่
-
NA เดิมๆ ทำไรกับมันมาก ก็ไม่ขึ้นครับ
ผมทั้ง จูนเอง ลองทุก step ละ ทั้งเปลี่ยน Head ตัดแคท เดินท่อใหม่ ได้มาไม่เท่าไหร่เอง
ประหยัดสุดก็ จูน
NA ไม่ต้องการระบบ ไอเสีย อะไรนักหนาเพราะมันดูดอากาศเอง OEM เค้ารีดพลังมามาเหมาะสมละในบางรุ่น
สำหรับผมตอนนี้ ไปยัดโบให้พังไปเลย ก็ขายทิ่งซื้อใหม่
-
ถ้าเป็นผม เริ่มจากคันเร่งไฟฟ้าซึ่งรถก็แรงเท่าเดิมแค่มีคนช่วยชิงจังหวะกระทืบคันเร่ง ไม่พอแล้วค่อยไปจูนกล่อง ส่วนท่อถ้าไม่ทำกล่องก็เห็นผลน้อยกับรถเดิมมีแต่ผลทางใจตรงเสียงงเพราะๆ จะเล่นจริงๆคงกล่อง+ท่อ ม้าเพิ่มขนาดนนี้ก็วิ่งเห็นผลพอสมควรนะครับน่าจะคุ้มสุด รถไม่ค่อยช้ำ
ส่วน ทำโบนี่ผมว่ารถที่พื้นฐานเดิมเป็นnaแล้วไปทำโบถ้าเครื่องใช้มานาน จูนหนักก็ไมไ่ด้จูนน้อยคงไม่คุ้ม กับงบ
วางเครื่องใหม่เป็นผมคงไม่ทำ เพราะมันใช้งบเยอะแปลงรถเยอะ แต่มันก็คงแรงสุดจิง เช่นวาง2jโบแรงสะใจสุด แต่มันคงเกินไปมากับรถบ้านใช้งาน
ผมก็เป็น แบบจขกท นะ คือรถเริมมีอายุอยากให้ขับดีเท่ารถรุ่นใหม่ป้ายแดงดีกว่าได้ยิ่งดี แต่ของผมเป็นกระบะดีเซล ลงกล่อง+ท่อ ขับก็มีความสุขมากแล้วครับ
ตามเสต็ปเลยสินะครัช :)
อิจพวกดีเซลเลยบ่องตง
โจทย์กว้างไป คือไม่รู้ว่าหมายถึงรถอะไรเลยแนะนำไม่ถูก ถ้าเป็นรถอีโค่ก็จะแนะนำซื้อใหม่ กระบะก็พอรีแมพช่วยได้ หรือรถเก่ามันพอจะวางเครื่องอะไรได้บ้าง ผมว่า จขกท ระบุมาดีกว่าครับว่ารถอะไร
Fortuner 2.7 โฉมแรกสีสุดเจ็บ 4x4 ครับพ้ม ;D
NA เดิมๆ ทำไรกับมันมาก ก็ไม่ขึ้นครับ
ผมทั้ง จูนเอง ลองทุก step ละ ทั้งเปลี่ยน Head ตัดแคท เดินท่อใหม่ ได้มาไม่เท่าไหร่เอง
ประหยัดสุดก็ จูน
NA ไม่ต้องการระบบ ไอเสีย อะไรนักหนาเพราะมันดูดอากาศเอง OEM เค้ารีดพลังมามาเหมาะสมละในบางรุ่น
สำหรับผมตอนนี้ ไปยัดโบให้พังไปเลย ก็ขายทิ่งซื้อใหม่
อันนี้ฝั่งดาร์คไซด์ 8)
เรื่องของเรื่องที่ห้าวอยากยัดโบ เพราะถ้าเบนซินพังจะได้วาง 1gd 2.8 อย่างถูกต้องตามหลักการ
ไม่ใช่เครื่องยังไม่พัง แล้วไปรื้อออกเพื่อวาง บ้านผมเรียกสิ้นเปลือง :'(
ตอนนี้ฝ่ายเจไดตีกับดาร์คไซด์ในหัวอยู่ครัช ;D ;D ;D
ที่ว่าวางเครื่องแล้วจบแสดงว่า "บุญเก่าดี" นั้น
ผมขอแย้งแบบนี้นะครับ การวางเครื่องใหม่นั้น แม้ว่าดวงจะมีผลอยู่บ้าง แต่การตัดสินใจของเราก็สำคัญครับ อย่างในเคสนั้น ผมตัดสินใจหลายอย่างที่หลายคนอาจจะว่า "มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย" เช่น
- ผมเลือกวางเครื่องตรงบอดี้ แม้ว่าเครื่องไมาตรงบอดี้หาง่ายกว่า จะได้ตัดปัญหาเรื่องตัดต่อสายไฟ
- ผมเลือกสั่งหัวตัดโดยสั่งประมูลรถคันที่ไม่มีอุบัติเหตุ เพื่อจะได้มั่นใจว่าอะไหล่ทุกชิ้นจะไม่มีอะไรเสียหาย สามารถย้ายสามารถเราได้ทั้งหมด
- ผมสั่งให้อู่เปลี่ยนอะไหล่สึกหรอทั้งหมด เช่น สายพานไทม์มิ่ง วาวล์น้ำ จะได้ไม่ต้องวุ่นวายทีหลัง
- สุดท้ายผมเลือกทำกับอู่ที่แพงกว่าอู่อื่น แต่มีประสบการณ์วางเครื่องรถรุ่นนี้มากกว่าอู่อื่นๆ
อย่ากลัวการวางเครื่องครับ ถ้าทางนี้เหมาะกับรถเราจริงๆ (มีรุ่นพี่ที่เครื่องแรงกว่าให้เอามาลงได้ง่ายๆ) ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดครับ
เดาว่ารถ จขกท เป็น C segment ญี่ปุ่น ... เช่น ถ้าเป็น Civic เอาเครื่อง type r มาลง ถ้าไม่บีบงบ+เลือกอู่ดีๆ จบสบายๆครับ
แต่ที่ว่ามานั้น ไม่ได้แปลว่าผมเชียร์วางเครื่องนะครับ
- หากว่า รถท่านไม่มีรุ่นพี่ให้หยิบยืมเครื่อง + อู่ที่เก่งๆน้อย (เช่น เปอร์โย 406 ?? ) ก็ไม่น่า "ฝืน" มาทางนี้ครับ ... อันที่จริง ถ้ามาแนวนี้ "เก็บไว้แบบเดิม" น่าจะดีที่สุด
- หรือหากว่ารถรุ่นท่าน เค้าเซ็ตเทอร์โบกันทั่วบ้านทั่วเมือง (เช่น Jazz GE??) แนวทางเซ็ตเทอร์โบ ก็ไม่แย่นัก แค่ว่าต้องทำการบ้านดีๆ คล้ายๆกับวางเครื่องใหม่ แต่อาจต้องทำการบ้านมากกว่าหน่อย >>> อันนี้เป็นเคสรถอีกคันของผม MX5 คนใช้ซุป/โบ กันเยอะ แต่ไม่มีคนใช้กับเกียร์ออโต้ (เพราะรถรุ่นนี้ไม่ค่อยมีคนออกเกียร์ออโต้ คนที่ออกเกียร์ออโต้ก็กะจะขับหวานเย็น) เลยยังแหยงๆ+หาข้อมูลเพิ่มอยู่
อันนี้บุญใหม่เกื้อหนุนสุดๆ ละเอียดตั้งแต่ขั้นจัดหา เตรียมการ กระทำการพร้อมเลย
สุดยอดจนบรรยายไม่ถูก :-*
ของผมน้องจูน 2.7 พอดีมีร้านที่มาซ่อมให้ที่บ้านประจำ ร้านไม่ใหญ่
แต่วางเครื่องมานักต่อนัก พวกเครื่องญี่ปุ่นใส่เบนซ์ ตอง 1 ใส่เครื่องวีออส
ตัว 2.7 ใส่ 1gd งานละเอียด ฝีมือดี ราคาวางใจได้ ทำจบมาทุกคัน ก็เลย ... :-[
ยิ่งช่างบอกว่าแค่เปลี่ยนบางอย่างเพราะรูน๊อตตำแหน่งเดียวกัน
ไม่ต้องแปลงด้วยแล้ว เพราะฝาแฝดกัน มันเลยยิ่ง... เร้าใจ ;D
-
ฟอร์เก่า 2.7 โอเคครับ มาแบบนี้จับยัดเทอร์โบ จบเลยครับ ผมเคยลองเครื่องตัวนี้เซ็ทเทอร์โบในวีโก้ ใช้ได้เลยวิ่งไล่พวกยุโรปตัวล่างๆที่ไม่ถึง 200 ม้าได้ ไม่ต้องไปอิจฉาดีเซลครับ ผลไดโน่ออกมาม้าแยอะ แต่วิ่งจริงยังสู้เบนซินไม่ได้ครับ รอบมันหมด ยังไงถ้ารถมีหอยเหมือนกันยังไงเบนซินก็ได้เปรียบ ข้อแนะนำคือหากล่องคุมที่คุณภาพโอเค จูนเนอร์โอเค อยากให้เครื่องทนใช้ e85 ก็พอ ไม่ต้องไปติดแก๊ส
-
ฟอร์เก่า 2.7 โอเคครับ มาแบบนี้จับยัดเทอร์โบ จบเลยครับ ผมเคยลองเครื่องตัวนี้เซ็ทเทอร์โบในวีโก้ ใช้ได้เลยวิ่งไล่พวกยุโรปตัวล่างๆที่ไม่ถึง 200 ม้าได้ ไม่ต้องไปอิจฉาดีเซลครับ ผลไดโน่ออกมาม้าแยอะ แต่วิ่งจริงยังสู้เบนซินไม่ได้ครับ รอบมันหมด ยังไงถ้ารถมีหอยเหมือนกันยังไงเบนซินก็ได้เปรียบ ข้อแนะนำคือหากล่องคุมที่คุณภาพโอเค จูนเนอร์โอเค อยากให้เครื่องทนใช้ e85 ก็พอ ไม่ต้องไปติดแก๊ส
พอจะรู้มั้ยครับ ว่า e85 นี่ vigo คันนั้นกินประมาณไหนครับ :-*
ติดโบแล้ว ถ้ากิน e85 สัก 7 - 9 โลลิตรขึ้นนี่ผมเพ้อไปมั้ยครับ แหะๆ
ถ้าวิ่ง 110 รอบจะต่ำลงมั้ยครับ เพราะเครื่องแรงขึ้น?
ขอสัมภาษณ์ผู้ที่สัมผัสมาแล้วนิดนึงครับ :-* :-* :-*
-
ฟอร์เก่า 2.7 โอเคครับ มาแบบนี้จับยัดเทอร์โบ จบเลยครับ ผมเคยลองเครื่องตัวนี้เซ็ทเทอร์โบในวีโก้ ใช้ได้เลยวิ่งไล่พวกยุโรปตัวล่างๆที่ไม่ถึง 200 ม้าได้ ไม่ต้องไปอิจฉาดีเซลครับ ผลไดโน่ออกมาม้าแยอะ แต่วิ่งจริงยังสู้เบนซินไม่ได้ครับ รอบมันหมด ยังไงถ้ารถมีหอยเหมือนกันยังไงเบนซินก็ได้เปรียบ ข้อแนะนำคือหากล่องคุมที่คุณภาพโอเค จูนเนอร์โอเค อยากให้เครื่องทนใช้ e85 ก็พอ ไม่ต้องไปติดแก๊ส
พอจะรู้มั้ยครับ ว่า e85 นี่ vigo คันนั้นกินประมาณไหนครับ :-*
ติดโบแล้ว ถ้ากิน e85 สัก 7 - 9 โลลิตรขึ้นนี่ผมเพ้อไปมั้ยครับ แหะๆ
ถ้าวิ่ง 110 รอบจะต่ำลงมั้ยครับ เพราะเครื่องแรงขึ้น?
ขอสัมภาษณ์ผู้ที่สัมผัสมาแล้วนิดนึงครับ :-* :-* :-*
หืม 2.7 เบนซิน NA เดิมๆ นี่ สูบมหาประลัยนะครับ ปกติ ไม่ถึง 10 โลลิตรอยู่แล้วใน Vigo
-
ฟอร์เก่า 2.7 โอเคครับ มาแบบนี้จับยัดเทอร์โบ จบเลยครับ ผมเคยลองเครื่องตัวนี้เซ็ทเทอร์โบในวีโก้ ใช้ได้เลยวิ่งไล่พวกยุโรปตัวล่างๆที่ไม่ถึง 200 ม้าได้ ไม่ต้องไปอิจฉาดีเซลครับ ผลไดโน่ออกมาม้าแยอะ แต่วิ่งจริงยังสู้เบนซินไม่ได้ครับ รอบมันหมด ยังไงถ้ารถมีหอยเหมือนกันยังไงเบนซินก็ได้เปรียบ ข้อแนะนำคือหากล่องคุมที่คุณภาพโอเค จูนเนอร์โอเค อยากให้เครื่องทนใช้ e85 ก็พอ ไม่ต้องไปติดแก๊ส
พอจะรู้มั้ยครับ ว่า e85 นี่ vigo คันนั้นกินประมาณไหนครับ :-*
ติดโบแล้ว ถ้ากิน e85 สัก 7 - 9 โลลิตรขึ้นนี่ผมเพ้อไปมั้ยครับ แหะๆ
ถ้าวิ่ง 110 รอบจะต่ำลงมั้ยครับ เพราะเครื่องแรงขึ้น?
ขอสัมภาษณ์ผู้ที่สัมผัสมาแล้วนิดนึงครับ :-* :-* :-*
มันก็พูดยากนะเรื่องความประหยัด หลักๆมันก็ขึ้นอยู่กับเท้าเรามากกว่า แต่ถ้าวิ่งลอยๆ ช่วง 110 แล้วอยากได้ประหยัด ขอยืมสูตรพี่แพนละกัน เลือกเทอร์โบที่ลูกใหญ่นิดนึง บูสให้มันช้าหน่อย ให้ช่วงความเร็ว 110 บูสติดน้อย รถมันก็พอประหยัดไหว ทำแบบนี้จะได้ช่วงรอบปลาย คุณต้องการรถแบบไหนละ แบบนี้กินดีเซลสบายๆ แต่ว่ามันคงให้แรงช่วงต้นสู้ดีเซลไม่ได้ ผมขับรถก็ไม่เคยสนใจวัดต้นถึงกลางกับรถคันอื่นเลย เล่นหลัง 150+ ตลอด ช่วงต้นอาศัยเครื่องใหญ่บวกรอบจัดเอา ฟีลรถแบบนี้หาในป้ายแดงสมัยนี้ไม่ได้แล้ว ดึงสะใจ แต่อย่างที่บอกทำแบบนี้ภาระมันจะไปตกที่ช่วงล่างมากกว่าเพราะที่ความเร็ว 200+ คงอาศัยใจล้วนๆ คันที่ผมลองได้ 230+ ยังไงดีเซลก็ไม่มีวันทำได้
พอตอบแบบนี้แล้วกลับไปดูโจทย์คุณ บางทีคุณอาจเหมาะกับเครื่องดีเซลมากกว่าก็ได้ ยังไงลองตัดสินใจดูเองครับ
-
ฟอร์เก่า 2.7 โอเคครับ มาแบบนี้จับยัดเทอร์โบ จบเลยครับ ผมเคยลองเครื่องตัวนี้เซ็ทเทอร์โบในวีโก้ ใช้ได้เลยวิ่งไล่พวกยุโรปตัวล่างๆที่ไม่ถึง 200 ม้าได้ ไม่ต้องไปอิจฉาดีเซลครับ ผลไดโน่ออกมาม้าแยอะ แต่วิ่งจริงยังสู้เบนซินไม่ได้ครับ รอบมันหมด ยังไงถ้ารถมีหอยเหมือนกันยังไงเบนซินก็ได้เปรียบ ข้อแนะนำคือหากล่องคุมที่คุณภาพโอเค จูนเนอร์โอเค อยากให้เครื่องทนใช้ e85 ก็พอ ไม่ต้องไปติดแก๊ส
พอจะรู้มั้ยครับ ว่า e85 นี่ vigo คันนั้นกินประมาณไหนครับ :-*
ติดโบแล้ว ถ้ากิน e85 สัก 7 - 9 โลลิตรขึ้นนี่ผมเพ้อไปมั้ยครับ แหะๆ
ถ้าวิ่ง 110 รอบจะต่ำลงมั้ยครับ เพราะเครื่องแรงขึ้น?
ขอสัมภาษณ์ผู้ที่สัมผัสมาแล้วนิดนึงครับ :-* :-* :-*
หืม 2.7 เบนซิน NA เดิมๆ นี่ สูบมหาประลัยนะครับ ปกติ ไม่ถึง 10 โลลิตรอยู่แล้วใน Vigo
พอดีเห็นคันที่รีวิวที่ใช้แก๊ส จากเดิมกิน 6กลางๆ โลต่อลิตร(พอๆกับที่ผมใช้อยู่)
หลังติด kit bo แล้วก็ยังกินแค่ 6 พอดีๆ หายไปนิดหน่อย
ถ้าใช้ e85 ซึ่งค่าอ๊อกเทนสูงกว่าปกติ แต่ต้องขยันใช้ให้หมดเร็วๆก่อนระเหย ฮา
เลยคิดว่าถ้าใกล้ๆเดิมนี่ผมจะไปถอดแก๊สทิ้งเลยนะครับเนี่ย ;D
ฟอร์เก่า 2.7 โอเคครับ มาแบบนี้จับยัดเทอร์โบ จบเลยครับ ผมเคยลองเครื่องตัวนี้เซ็ทเทอร์โบในวีโก้ ใช้ได้เลยวิ่งไล่พวกยุโรปตัวล่างๆที่ไม่ถึง 200 ม้าได้ ไม่ต้องไปอิจฉาดีเซลครับ ผลไดโน่ออกมาม้าแยอะ แต่วิ่งจริงยังสู้เบนซินไม่ได้ครับ รอบมันหมด ยังไงถ้ารถมีหอยเหมือนกันยังไงเบนซินก็ได้เปรียบ ข้อแนะนำคือหากล่องคุมที่คุณภาพโอเค จูนเนอร์โอเค อยากให้เครื่องทนใช้ e85 ก็พอ ไม่ต้องไปติดแก๊ส
พอจะรู้มั้ยครับ ว่า e85 นี่ vigo คันนั้นกินประมาณไหนครับ :-*
ติดโบแล้ว ถ้ากิน e85 สัก 7 - 9 โลลิตรขึ้นนี่ผมเพ้อไปมั้ยครับ แหะๆ
ถ้าวิ่ง 110 รอบจะต่ำลงมั้ยครับ เพราะเครื่องแรงขึ้น?
ขอสัมภาษณ์ผู้ที่สัมผัสมาแล้วนิดนึงครับ :-* :-* :-*
มันก็พูดยากนะเรื่องความประหยัด หลักๆมันก็ขึ้นอยู่กับเท้าเรามากกว่า แต่ถ้าวิ่งลอยๆ ช่วง 110 แล้วอยากได้ประหยัด ขอยืมสูตรพี่แพนละกัน เลือกเทอร์โบที่ลูกใหญ่นิดนึง บูสให้มันช้าหน่อย ให้ช่วงความเร็ว 110 บูสติดน้อย รถมันก็พอประหยัดไหว ทำแบบนี้จะได้ช่วงรอบปลาย คุณต้องการรถแบบไหนละ แบบนี้กินดีเซลสบายๆ แต่ว่ามันคงให้แรงช่วงต้นสู้ดีเซลไม่ได้ ผมขับรถก็ไม่เคยสนใจวัดต้นถึงกลางกับรถคันอื่นเลย เล่นหลัง 150+ ตลอด ช่วงต้นอาศัยเครื่องใหญ่บวกรอบจัดเอา ฟีลรถแบบนี้หาในป้ายแดงสมัยนี้ไม่ได้แล้ว ดึงสะใจ แต่อย่างที่บอกทำแบบนี้ภาระมันจะไปตกที่ช่วงล่างมากกว่าเพราะที่ความเร็ว 200+ คงอาศัยใจล้วนๆ คันที่ผมลองได้ 230+ ยังไงดีเซลก็ไม่มีวันทำได้
พอตอบแบบนี้แล้วกลับไปดูโจทย์คุณ บางทีคุณอาจเหมาะกับเครื่องดีเซลมากกว่าก็ได้ ยังไงลองตัดสินใจดูเองครับ
อ๋อมีสูตรแบบนี้ด้วย มิน่าช่างที่วางเครื่องผม เห็นบอกเปลี่ยนโบของอิสุมาลง 1gd เพราะใหญ่กว่าโตด้วย ขับแจ่มขึ้นอีกนิด :)
รอบปลายนี่ชินกับรถแล้วครับ ตอนออกคันนี้มาบอกไว้ว่าล็อคความเร็ว 160 นี่ที่บ้านชอบใจเลย
เคยป้วนเปี้ยน(ในอดีตนะ) 140-160 กรุงเทพไปสุราษ 6 ชมครึ่ง ผมก็ค่อนข้างพอรับได้หละครับ
เดี๋ยวนี้ขับเรื่อยๆ กินลมชมวิว ไม่แข่งกับใครครับ แค่ตามกฎหมาย ไม่เหนื่อยดีลุยกิจกรรมได้ทันที ;D
ที่อยากแรงนี่คือคล่องตัว ในเมือง ขึ้นเนินลงเขาสนุกขึ้นตามประสาเฉยๆ
เห็นของมันเยอะเลยอยากแคะแกะเกาดูบ้าง ขอบคุณมากครับ
-
ถ้ามีเวลาดูแลรถ มีอู่ประจำที่ไว้ใจได้ ชอบไปอู่ดูรถตัวเองบ่อยๆ โดยที่ทางบ้านไม่บ่น ยัดหอยครับ
แต่ถ้าเน้นง่าย ไม่จุกจิก เน้นอัตราเร่งดีขึ้นนิดหน่อย flashrom เปลี่ยนกรอง เดินท่อใหม่ ก็พอครับ
-
รถที่ผมผูกพันจริงๆคือคันแรกที่ผมหัดขับเมื่อหลายสิบปีก่อนครับ ตอนนั้นมีความสุขกับมันมาก ถึงสภาพจะไม่ค่อยดีก็ยังมีความสุขกับการขับไปอู่ซ่อม ไปทำนั่นนี่
ตอนที่บ้านขายคันนี้เกือบน้ำตาไหลครับ
แต่ ตั้งแต่คันนั้นเป็นต้นมาผมก็ไม่รู้สึกผูกพันกับคันไหนอีกเลย มีแต่ 3-4 ปีจะเริ่มคันอยากขายละ เปลี่ยนใหม่ดีกว่าอะไรแบบนั้น แต่ก็ยังใช้ไปครับ 3-5 ปีสำหรับผมถือว่ายังเอ๊าะๆอยู่เลย
-
ถ้ามีเวลาดูแลรถ มีอู่ประจำที่ไว้ใจได้ ชอบไปอู่ดูรถตัวเองบ่อยๆ โดยที่ทางบ้านไม่บ่น ยัดหอยครับ
แต่ถ้าเน้นง่าย ไม่จุกจิก เน้นอัตราเร่งดีขึ้นนิดหน่อย flashrom เปลี่ยนกรอง เดินท่อใหม่ ก็พอครับ
นี่หละครับปัญหานึงตอนนี้ ต้องเดินสายออกงานช่วงนี้เยอะหน่อย ไม่สะดวกอยู่อู่นานๆ
แต่ถ้าทำพกไม่จุกจิกนี่ทำได้เลยด้วย :-*
รถที่ผมผูกพันจริงๆคือคันแรกที่ผมหัดขับเมื่อหลายสิบปีก่อนครับ ตอนนั้นมีความสุขกับมันมาก ถึงสภาพจะไม่ค่อยดีก็ยังมีความสุขกับการขับไปอู่ซ่อม ไปทำนั่นนี่
ตอนที่บ้านขายคันนี้เกือบน้ำตาไหลครับ
แต่ ตั้งแต่คันนั้นเป็นต้นมาผมก็ไม่รู้สึกผูกพันกับคันไหนอีกเลย มีแต่ 3-4 ปีจะเริ่มคันอยากขายละ เปลี่ยนใหม่ดีกว่าอะไรแบบนั้น แต่ก็ยังใช้ไปครับ 3-5 ปีสำหรับผมถือว่ายังเอ๊าะๆอยู่เลย
แปลว่าหัวใจด้านชาแล้ว แซวเล่นนะครับ ;D
สนุกกับความใหม่อยู่ตอนนี้ แต่บั้นปลายน่าจะอยากหาที่พักใจนะผมว่า รอดูต่อไป อิอิ
-
เซ็ตโบ จบยากกว่า วางเครื่องตรงรุ่น ครับ
ถ้าเน้น จบง่าย + reliable ... เซ็ตโบตอบโจทย์ข้อนี้ได้น้อยสุดครับ
-
เซ็ตโบ จบยากกว่า วางเครื่องตรงรุ่น ครับ
ถ้าเน้น จบง่าย + reliable ... เซ็ตโบตอบโจทย์ข้อนี้ได้น้อยสุดครับ
เป็นข้อมูลที่น่ากลัวมากครัช แหะๆ ขอบคุณค้าบ :-[
-
ผมเอาติดกล่องคันเร่ง กับวางเครื่องใหม่ครับ
แต่ต้องขึ้นอยู่กับรุ่นด้วยนะครับ
คือวางเครื่องใหม่น่ะ ผมฝันมานานแล้วว่าอยากจะทำให้ eco car ตัวเบาๆ น่ะ
มันเร่งแรงแซงฉิว เป็น sleeper 555
ส่วนกล่องคันเร่งสำหรับติดให้รถที่เหยียบแล้ว delay เยอะๆ
เปลี่ยน header ทำท่อ ส่วนตัวเคยทำมาแล้ว ไม่ประทับใจอย่างแรง
1 แรงไม่จริง 2 แรงโม้คนทำเยอะ 3 อืดกว่าเดิม 4 ดังอิ๊บอ๋าย
ไม่เหมาะกับสาย sleeper อย่างแรง
ดังนั้น choice ที่ผมมองคือไปทางสาย sleeper ทั้งคู่ครับ
-
ผมหลุดพ้นจากวงการแล้ว...
เลยเลือก ขาย ซื้อใหม่ครับ ;D
-
ผมเอาติดกล่องคันเร่ง กับวางเครื่องใหม่ครับ
แต่ต้องขึ้นอยู่กับรุ่นด้วยนะครับ
คือวางเครื่องใหม่น่ะ ผมฝันมานานแล้วว่าอยากจะทำให้ eco car ตัวเบาๆ น่ะ
มันเร่งแรงแซงฉิว เป็น sleeper 555
ส่วนกล่องคันเร่งสำหรับติดให้รถที่เหยียบแล้ว delay เยอะๆ
เปลี่ยน header ทำท่อ ส่วนตัวเคยทำมาแล้ว ไม่ประทับใจอย่างแรง
1 แรงไม่จริง 2 แรงโม้คนทำเยอะ 3 อืดกว่าเดิม 4 ดังอิ๊บอ๋าย
ไม่เหมาะกับสาย sleeper อย่างแรง
ดังนั้น choice ที่ผมมองคือไปทางสาย sleeper ทั้งคู่ครับ
เท่าที่อ่านๆมาคิดว่ากล่องคันเร่งมันก็คือกล่องจูนมินิมั้งครับ
เอาไว้ปรับบางอย่างเกี่ยวกับการขับจาก ecu นิดนึง
sleeper นี่ผมชอบครับ แต่อีกพวกนี้ไม่รู้เรียกอะไร
ผมเรียก พวกโอเวอร์ได้มั้ยเนี่ย ดูจากรถ แต่งเต็มมีโรลบาร์
แต่ขอโทษขับคลานแช่ขวาอีก ;D
ผมหลุดพ้นจากวงการแล้ว...
เลยเลือก ขาย ซื้อใหม่ครับ ;D
ยินดีด้วยครัช ท่านบรรลุแล้ว..
ว่าแต่ในสมัยอยู่วงการนี่ท่านประทับใจวิธีไหนบ้างมั้ยครับเนี่ย ;D