Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: 0% ที่ สิงหาคม 28, 2017, 22:33:09
-
toyota lexus เป็นที่ยอมรับว่าเป็นรถยนต์ที่ ถึกทน ไม่จุกจิก ใช้งานได้ทนทาน มากกว่ายี่ห้ออื่นๆ
ผมคิดว่าคนส่วนใหญ่เห็นตรงกัน ไม่ใช่งานมโนหมู่แน่นอน
เลยสงสัยว่า
เขามีกระบวนการ ทดสอบ ตรวจสอบ คุณภาพ ก่อนออกขาย ที่ดีกว่า
หรือ
ใช้ของ สเปคดีกว่ารึเปล่า
-
ผมว่าเค้าอาจจะต้องคิดไว้ก่อนแล้วล่ะครับว่าชิ้นส่วนและอะไหล่ต่างๆที่ใช้ต้องใช้งานได้ยาวนานและทนทานจริงๆไม่จุกจิกและซับซ้อนจนเกินไป
และอีกอย่างเค้าต้องมีการทดสอบคุณภาพก่อนออกขายจริงอย่างแน่นอนครับ
-
เอาง่ายๆ นะครับ
ปีกนกของ march กับ Yaris
(https://i1.24x7th.com/df/0/ui/post/2017/06/12/2/b/de71fd0a-d8f8-4aea-93c7-72974138cce5)
ของ march เป็นบูทกลมข้างละ 2 ลูกเล็กกว่า vios
(https://www.chowjung.com/wp-content/uploads/2015/04/A3602-4-500x375.jpg)
ของ yaris เป็นแบบกลมอันเดียว อีกอันเป็นแบบตั้ง ซึ่งมันทนทานมากก
ขนาดก็ต่างกันของ yaris ใหญ่กว่า march มาก
ไม่แปลกใจทำไมของ toyota จะทนกว่าเจ้าอื่น (ในที่นี่ คือ nissan)
-
1.วัสดุดีกว่า เช่น พัดลมไฟฟ้าของโตโยต้านี่ แปรงถ่าน กับแกนคอม ไม่ค่อยสึกหรอ ความร้อนต่ำ แรงเสียดทานต่ำ มอเตอร์รถโตนี่ขายน้อยที่สุดละทั้งๆที่รถมียอดขายมากกว่าเขา หรือพวกท่อน้ำท่อลม ใช้เกรดดีๆ ไม่มีพวกท่อพลาสติกเกรดกรอบๆทำท่อ
2. เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เครื่อง4สูบแถวเรียงใช้เหอะ การวางตำแหน่งอุปกรณ์ของเครื่องยนต์มันง่ายต่อการดูแลรักษา การประกอบก็ง่าย เอาแค่ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ลองไปถอด Navara, Triton ตัวเบนซินและดีเซลดูสิครับ แต่พวกสูบเยอะของโตกลับไม่ทน ระบบน้ำแอบจุกจิกบ้าง
3. Low tech with improvement ลองดูเครื่อง 1NZ FE สิครับ แรกๆมีปัญหาบ้่าง มอเตอร์เดินเบา ไดชาร์จ พอใส่มาในรุ่นหลังๆ ทำได้ทนทานขึ้น ยกเว้นฝาวาวล์ที่ อ่อนลง เครื่อง VVTi แรกๆขายเมืองนอกปัญหามาก ขายไปขายมาพัฒนาต่อไม่ทิ้งรุ่นจนหายดี แต่ยี่ห้ออื่นถ้าปัญหาขนาดนี้เลิกใช้ไปแล้วเปลี่ยนรุ่นใหม่ไฮเทคแต่โลว์ควลิตี้
4. One part fits many. อะไหล่อย่างเดียว ใช้ได้ทุกรุ่น สกรูก้นอ่างเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด พี่โตมีน็อตขนาดเดียว M12*1.5 หัว14มม. แต่ถ้าไปดูฟอร์ด มาสด้า เชฟ ปวดหัวตาย กระบะกับเก๋งก็คนละขนาด เครื่องคนละรุ่นก็คนละแบบ กรองแอร์ VIOS, VIGo, altis พี่ใช้ได้ด้วยกันหมด ถ้ายี่ห้ออื่น รุ่นนึงอันนึง การทำอะไหล่ๆ ซ้ำๆ กันเยอะๆ ควบคุมการผลิตง่ายกว่า ได้ของดีกว่าแน่นอน
5. ปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ รถรุ่นไหนขายเมืองนอก ใส่Heater ไว้ รุ่นไหนขายไทยหรือเมืองร้อนถอดออก ไม่มีน้ำร้อนมาวนในคอยล์ร้อนๆ ในตู้แอร์ก็ไม่ร้อน สายไฟ เซนเซอร์ ก็ไม่ร้อน หรือดูจาดปีกผีเสื้อของ2.7 Vigo ท่อน้ำร้อนก็ถอดออกไป ไม่ต้องใช้ระบบละลายน้ำแข็งในปีกผีเสื้อ ปีกผีเสื้อเป็นไฟฟ้าไม่ต้องเจอความร้อนโดยไม่จำเป็น มันก็เสียช้ากว่าคนอื่น
-
ผมว่าเค้าอาจจะต้องคิดไว้ก่อนแล้วล่ะครับว่าชิ้นส่วนและอะไหล่ต่างๆที่ใช้ต้องใช้งานได้ยาวนานและทนทานจริงๆไม่จุกจิกและซับซ้อนจนเกินไป
และอีกอย่างเค้าต้องมีการทดสอบคุณภาพก่อนออกขายจริงอย่างแน่นอนครับ
แปลว่า บริษัทค่ายรถอื่น ไม่ได้
คิดไว้ก่อน หรือ ทดสอบคุณภาพก่อนออกขายจริง อย่างแน่นอน
ใช่ไหมครับ 55555555
ไม่ได้กวนนะ แต่อ่านแล้วก็อดคิดย้อนไม่ได้
-
เริ่มตั้งแต่ปรัชญาการทำรถเลย
โลโก้โตโยต้า เป็นสามห่วงเชื่อมกัน ห่วงแรกคือลูกค้า ห่วงสองคือคุณภาพสินค้า ห่วงสามเป็นห่วงใหญ่คือรวมสองอันเข้าด้วยกัน
และพี่โต ทำได้จริงๆ คือดูแลลูกค้าดี และมีสินค้าที่มีคุณภาพสูง
ใครใช้รถญี่ปุ่นมาหลายยี่ห้อเหมือนผม จะเห็นความแตกต่างเลย ทั้งคุณภาพวัสดุ ความทนทาน ค่าเฉลี่ยคุณภาพศูนย์บริการ เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น
-
ผมว่าเค้าอาจจะต้องคิดไว้ก่อนแล้วล่ะครับว่าชิ้นส่วนและอะไหล่ต่างๆที่ใช้ต้องใช้งานได้ยาวนานและทนทานจริงๆไม่จุกจิกและซับซ้อนจนเกินไป
และอีกอย่างเค้าต้องมีการทดสอบคุณภาพก่อนออกขายจริงอย่างแน่นอนครับ
แปลว่า บริษัทค่ายรถอื่น ไม่ได้
คิดไว้ก่อน หรือ ทดสอบคุณภาพก่อนออกขายจริง อย่างแน่นอน
ใช่ไหมครับ 55555555
ไม่ได้กวนนะ แต่อ่านแล้วก็อดคิดย้อนไม่ได้
ผมว่าจุดเน้นแต่ละค่ายอาจจะไม่เหมือนกันมากกว่านะครับ
ถ้าเทียบอย่างยี่ห้อ Rolls Royce ก็เน้นที่ความหรูหรา แต่ถ้าเป็น Lamborghini ก็อาจจะเน้นสมรรถนะและความเร็ว อะไรประมาณนี้
แต่ถ้าอยากได้คำตอบที่แน่นอนผมว่าต้องถามจากทางบริษัทโดยตรงแล้วล่ะครับ แหมม ;D
-
5. ปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ รถรุ่นไหนขายเมืองนอก ใส่Heater ไว้ รุ่นไหนขายไทยหรือเมืองร้อนถอดออก ไม่มีน้ำร้อนมาวนในคอยล์ร้อนๆ ในตู้แอร์ก็ไม่ร้อน สายไฟ เซนเซอร์ ก็ไม่ร้อน หรือดูจาดปีกผีเสื้อของ2.7 Vigo ท่อน้ำร้อนก็ถอดออกไป ไม่ต้องใช้ระบบละลายน้ำแข็งในปีกผีเสื้อ ปีกผีเสื้อเป็นไฟฟ้าไม่ต้องเจอความร้อนโดยไม่จำเป็น มันก็เสียช้ากว่าคนอื่น
ถ้าพูดถึง heater ตอนนี้เหลือแค่ B, C segment เท่านั้นนะครับ
Revo, Fortuner ใส่มาแล้ว และในอนาคตก็จะค่อยๆ
ใส่ใน C, B segment แน่นอน
ที่ตอนนี้ยังไม่ใส่เพราะ user ในตลาดกลุ่มนี้เองไม่ซีเรียสครับ
จึงเป็นการลดต้นทุนมากกว่า แต่สิ่งที่ไม่มีในสมัยก่อน ต่อไปก็
จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ให้ครบครับ heater ไม่น่าพลาด
เพราะมันเกี่ยวกับความสบายโดยตรง Revo, Fortuner ตอนนี้
ขึ้นเขาลงห้วย ขึ้นเหนือล่องใต้ ตอนนี้ก็สบายแล้วครับ ขับสบายๆ
อากาศเย็นๆ ฝ้าไม่ขึ้น หมอกไม่ขึ้นกระจก สบายคนขับสุดๆ แล้ว
-
Test แล้ว Test อีกมั้งครับ
Test ภายใต้สภาวะเงื่อนไขที่สุด
แล้วปรับให้เข้ากับประเทศนั้นๆ
https://www.maplewoodtoyota.com/new-car-testing.html
ลองอ่านรายละเอียดดูครับ Test โหดมาก
ใครว่างก็แปลได้
เช่น
-สุ่มเครื่องยนต์ทดสอบโดยเร่งให้สุดเป็นเวลา 180 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความทนทาน
-เครื่องยนต์ต้องผ่านการทดสอบเร่งจนถึง redline กว่า 2 แสนครั้ง
-วัสดุภายในต้องผ่านอุณหภูมิ -20 ถึง 120 องศา
-กระจกไฟฟ้าต้องใช้ได้เกิน 10 ปี
-ทีปัดน้ำฝนต้องใช้งานได้เกิน 1.5 ล้านครั้ง
-ฯลฯ
เทสร้อนจัด
https://www.youtube.com/watch?v=BEzKXoG8XK0
เย็นจัด
https://www.youtube.com/watch?v=JXREz27MyTM
น้ำท่วม
https://www.youtube.com/watch?v=C5v3xiRJFIE
-
ไม่งั้นจะได้เป็นเบอร์ 1 ของโลกได้ไง ::)
-
toyota คงทดสอบเพื่อให้ทนจริงๆ และดีไซน์มาเพื่อใช้งานจริงๆ สังเกตจากช่องเก็บของต่างๆ เหมือนที่ volvo ทดสอบว่ามันแข็งจิงๆละมั้ง
volkswagen ก็ถือเป็นรถราคาถูกถึกทนในยุโรป แต่พอเป็น audi กลับจุกจิกกว่าทั้งที่พาทก็เหมือนๆกันไม่ต่างจาก toyota lexus
อาจจะเรื่องเทคโนโลยีล่ะมั้ง แต่จิงๆ lexus เทคโนโลยีก็ไม่แพ้ยุโรปนะ อาจจะแพ้แค่พวกของเล่นเสริม อาทิ infotainment หรือเซนเซอร์แปลกๆ แค่ไม่สวยและใช้งานยาก interface คงต้องปรับปรุงอีกเยอะ
-
1.วัสดุดีกว่า เช่น พัดลมไฟฟ้าของโตโยต้านี่ แปรงถ่าน กับแกนคอม ไม่ค่อยสึกหรอ ความร้อนต่ำ แรงเสียดทานต่ำ มอเตอร์รถโตนี่ขายน้อยที่สุดละทั้งๆที่รถมียอดขายมากกว่าเขา หรือพวกท่อน้ำท่อลม ใช้เกรดดีๆ ไม่มีพวกท่อพลาสติกเกรดกรอบๆทำท่อ
2. เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน เครื่อง4สูบแถวเรียงใช้เหอะ การวางตำแหน่งอุปกรณ์ของเครื่องยนต์มันง่ายต่อการดูแลรักษา การประกอบก็ง่าย เอาแค่ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ลองไปถอด Navara, Triton ตัวเบนซินและดีเซลดูสิครับ แต่พวกสูบเยอะของโตกลับไม่ทน ระบบน้ำแอบจุกจิกบ้าง
3. Low tech with improvement ลองดูเครื่อง 1NZ FE สิครับ แรกๆมีปัญหาบ้่าง มอเตอร์เดินเบา ไดชาร์จ พอใส่มาในรุ่นหลังๆ ทำได้ทนทานขึ้น ยกเว้นฝาวาวล์ที่ อ่อนลง เครื่อง VVTi แรกๆขายเมืองนอกปัญหามาก ขายไปขายมาพัฒนาต่อไม่ทิ้งรุ่นจนหายดี แต่ยี่ห้ออื่นถ้าปัญหาขนาดนี้เลิกใช้ไปแล้วเปลี่ยนรุ่นใหม่ไฮเทคแต่โลว์ควลิตี้
4. One part fits many. อะไหล่อย่างเดียว ใช้ได้ทุกรุ่น สกรูก้นอ่างเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด พี่โตมีน็อตขนาดเดียว M12*1.5 หัว14มม. แต่ถ้าไปดูฟอร์ด มาสด้า เชฟ ปวดหัวตาย กระบะกับเก๋งก็คนละขนาด เครื่องคนละรุ่นก็คนละแบบ กรองแอร์ VIOS, VIGo, altis พี่ใช้ได้ด้วยกันหมด ถ้ายี่ห้ออื่น รุ่นนึงอันนึง การทำอะไหล่ๆ ซ้ำๆ กันเยอะๆ ควบคุมการผลิตง่ายกว่า ได้ของดีกว่าแน่นอน
5. ปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ รถรุ่นไหนขายเมืองนอก ใส่Heater ไว้ รุ่นไหนขายไทยหรือเมืองร้อนถอดออก ไม่มีน้ำร้อนมาวนในคอยล์ร้อนๆ ในตู้แอร์ก็ไม่ร้อน สายไฟ เซนเซอร์ ก็ไม่ร้อน หรือดูจาดปีกผีเสื้อของ2.7 Vigo ท่อน้ำร้อนก็ถอดออกไป ไม่ต้องใช้ระบบละลายน้ำแข็งในปีกผีเสื้อ ปีกผีเสื้อเป็นไฟฟ้าไม่ต้องเจอความร้อนโดยไม่จำเป็น มันก็เสียช้ากว่าคนอื่น
ข้อสองนี่ผมเคยเจอคนรู้จักที่ทำอู่กำลังเปลี่ยนพอดี Navara, Triton มันยากและใช้เวลา
แต่ Vigo เอาประแจล้วงนิดเดียวไขออกได้เลย เหมือนพี่โตเวลาทำอะไรเค้าคิดเพื่อคนใช้ไว้เยอะกว่ายี่ห้ออื่น
-
พี่โตเน้นปรับปรุงพัฒนาต่อยอดไปเรื่อยๆจากพื้นฐานที่ดี
ต้องลองไปอ่านหนังสือชื่อ Toyota Way, ปรัชญา Kaizen แล้วก็ Lexus The Relentless Pursuit ครับ
-
อ่านความคิดเห็นหลายๆท่านแล้ว อยากเปลี่ยนมาใช้เลยครับ
-
เคยเข้าไปดู line ผลิตอยู่ครับ ตอนทำ QC นี่ โหดจริงครับ
พวกเล่นเอาค้อนทุบสุดแรงไม่ยั้ง โหนประตูสุดตัว ผมเห็นแล้วอึ้ง ??? ??? ???
-
5. ปรับตัวให้เข้ากับพื้นที่ รถรุ่นไหนขายเมืองนอก ใส่Heater ไว้ รุ่นไหนขายไทยหรือเมืองร้อนถอดออก ไม่มีน้ำร้อนมาวนในคอยล์ร้อนๆ ในตู้แอร์ก็ไม่ร้อน สายไฟ เซนเซอร์ ก็ไม่ร้อน หรือดูจาดปีกผีเสื้อของ2.7 Vigo ท่อน้ำร้อนก็ถอดออกไป ไม่ต้องใช้ระบบละลายน้ำแข็งในปีกผีเสื้อ ปีกผีเสื้อเป็นไฟฟ้าไม่ต้องเจอความร้อนโดยไม่จำเป็น มันก็เสียช้ากว่าคนอื่น
ถ้าพูดถึง heater ตอนนี้เหลือแค่ B, C segment เท่านั้นนะครับ
Revo, Fortuner ใส่มาแล้ว และในอนาคตก็จะค่อยๆ
ใส่ใน C, B segment แน่นอน
ที่ตอนนี้ยังไม่ใส่เพราะ user ในตลาดกลุ่มนี้เองไม่ซีเรียสครับ
จึงเป็นการลดต้นทุนมากกว่า แต่สิ่งที่ไม่มีในสมัยก่อน ต่อไปก็
จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ ให้ครบครับ heater ไม่น่าพลาด
เพราะมันเกี่ยวกับความสบายโดยตรง Revo, Fortuner ตอนนี้
ขึ้นเขาลงห้วย ขึ้นเหนือล่องใต้ ตอนนี้ก็สบายแล้วครับ ขับสบายๆ
อากาศเย็นๆ ฝ้าไม่ขึ้น หมอกไม่ขึ้นกระจก สบายคนขับสุดๆ แล้ว
ที่ให้มาก็เฉพาะแอร์ออโต้นะ แอร์ธรรมดาหนาวแทบขาดใจเลยทีเดียว
แต่แอร์ธรรมดาค่ายอื่นที่ไม่มีฮีตเตอร์ไม่หนาวแบบนี้นะ ไม่น่าใช่ฮีตเตอร์อย่างเดียวมั๊งที่เป็นปัญหา
-
โตต้าไม่เค้นแรงม้ามากเกินไป
จูนกำลังดี อมพลังไว้ถนอมเกียร จูนซอร์ฟแวร์ค่อนข้างดี
พื้นฐานเครื่องยนต์ เอาจริงๆ มิตซู อิสุๆ หน่วยก้านดีกว่ามาก
ข้อเหวี่ยง ก้านลูกสูบใหญ่กว่าโตต้า บู๊สหนักกว่า แต่ทำได้ทนพอๆกับโตต้านั่นแหละ
งานประกอบ งานด้านวัสดุ เค้าทดสอบมาทุกสภาพอากาศ
เรื่องช่วงล่าง ผมว่าทนพอกัน โตต้าอะไหล่เยอะ ช่างตามศูนย์ตรวจละเอียด
ช่างนอกรู้จักดี มันก็แก้ปัญหาง่าย ไม่ซับซ้อน
-
เอาง่ายๆ นะครับ
ปีกนกของ march กับ Yaris
(https://i1.24x7th.com/df/0/ui/post/2017/06/12/2/b/de71fd0a-d8f8-4aea-93c7-72974138cce5)
ของ march เป็นบูทกลมข้างละ 2 ลูกเล็กกว่า vios
(https://www.chowjung.com/wp-content/uploads/2015/04/A3602-4-500x375.jpg)
ของ yaris เป็นแบบกลมอันเดียว อีกอันเป็นแบบตั้ง ซึ่งมันทนทานมากก
ขนาดก็ต่างกันของ yaris ใหญ่กว่า march มาก
ไม่แปลกใจทำไมของ toyota จะทนกว่าเจ้าอื่น (ในที่นี่ คือ nissan)
อะไหล่ตัวนี้ใน yaris คลับนี่กระหน่ำเคลมกันเลยนะครับ
-
โตโยต้า เขาทนจริงๆ การสร้างรถอยู่ใต้พื้นฐาน "สิ่งที่ดีอยู่แล้ว" เพิ่มโน่นนี่ แล้วมันจะไม่ทนได้ยังไง เหมือน ร้านเถ้าแก่ รุ่นอากง ทำมายังไง รุ่นลูก หลาน ถ้ายัง รักษามาตรฐานแล้ว ปรับจุดอ่อนออก เพิ่มจุดแข็งเข้าไปเรือ่ยๆ ........... อีกหน่อยก็มีแบรนด์ ปากต่อปาก แล้วมันจะไม่ทนได้อย่างไร ผ่าน R&D แบบถึงลูกถึงคนมาแล้ว
ใช้ของเดิมๆ ให้ดีที่สุด แล้วเพิ่มของใหม่ พัฒนาเข้าไป เก็บรายละเอียด ปรับปรุง ๆๆๆ ผ่านเวลาพิสูจน์ม้า= ทน ถึก
รถคันต่อไป คงเป็น โตโยต้า หรือฮอนด้า ละเนาะ ...
ผมพึ่งพูดกับเมีย ตอนที่นั่งอยู่ในรถยี่ปุ่นอีกยี่ห้อนึงเมื่อวานนี้ว่า ถ้าไม่ใช่รถยี่ห้อเดิมและ... ตัวท็อปของตลาดที่มีขาย (เพราะรถคันที่นั่ง อยู่ๆ แอร์ก็ไม่ออก โบว์เวอร์แอร์เสียซะงั้นทั้งๆที่ติดกรองแอร์เปลี่ยนทุกปีหรือบางปี เปลี่ยนตอนงานมอเตอร์โชว์ซื้อไว้เปลี่ยนเองเลย ปีละสองรอบ) วิ่งไปแค่ แสนเดียว เสียละ แล้วรถโตฯ ทีเป็นแทกซี่ของเพื่อน(เปิดอู่อยู่) ให้มันเปิดซ่อมให้ มันบอกว่า ของมันวิ่งไป เลยสองแสนแล้วทุกคันยังดีอยู่เลย ...(Altis)
รถคันต่อไป ไม่ โตโยต้า ก็ รถยุโรปที่มีการันตี ทำนอง BSI เยอะๆ (ซึ่งตัดออกซะแล้วด้วยเลยต้องเว้นวรรคดูท่าก่อน) งานนี้ คนที่ทำท่าจะใช้รถเยอะๆ วิ่งไล่ดูตามไชต์งานก่อสร้าง กับตรวจงานตามนิคมอุตฯ และโกดัง อย่างผม เวลาจะซ่อมบำรุง คือ จะเปลี่ยนยกชุดๆ ๆ ไม่ให้เกิดปัญหา แต่ถ้าปัญหาอื่นๆ เข้่าแทรก ผมรับได้แค่ 2-3ครั้งต่อ 1แสนกิโลฯ ไม่ใช่ ปาเข้าไป 5-6รอบ เหมือนยี่ห้อที่ใช้อยู่ เวลามันน้อยครับ รถที่จะใช้ ต้องไม่มีปัญหากลางทางบ่อยๆ เสียได้แต่ต้องเป็นปํญหาที่คนใช้ไม่ดูแล แต่ถ้าดูแลแล้ว ยังเสีย (เข้าศูนย์ไล่แล้วตอนแสนโล) ก็คือ ไม่ทน จุกจิก ช่างไม่เก่ง ดังนั้น ยี่ห้อเหล่านี้ไม่น่าจะเลือกใช้ต่อ สำหรับผมนะ
อีกอย่าง สำหรับโตโยต้า หาอุปกรณ์ มาตรฐาน และการซ่อมบำรุงรักษาเองด้วยตัวเอง ทั้งห้องเครื่องและช่วงล่างได้ง่ายกว่า (จริงๆแบบที่เขาว่ากัน )
BACK TO BASIC.... หาความเรียบง่าย ไร้ปวดหัว เพราะความจำเป็น รถต้องใช้งาน ทน ไม่ใช่ซื้อมาซ่อม แต่เมื่อเช้าเห็นข่าว FORD EVEREST ตัวท็อป ที่ออกข่าวซ่อม มา1 ปี แล้ว ไม่ได้ออกจากอู่ฯ ผมว่า ผมก็จะตัดยี่ห้อ ทำนองนี้ออกไปเหมือนกัน ดีนะครับ บริษัทรถ ทำให้ลูกค้า เลือกรถได้ง่ายขึ้นอีก อิๆ
**หวังว่า คงไม่เจอแจ๊กพ็อต จากค่ายโตโยต้าก็ละกันครับ ***
-
ตามข้างบนนั่นแหละ
เขาเลือก เรียบง่าย ถ้าไม่จำเป็นก็ตัดไป ทำให้ ดูแลง่าย ใช้โนฮาวด์ ไม่สูงมาก เพราะ ยิ่งสูงยิ่งจุกจิก...
-
ตามข้างบนนั่นแหละ
เขาเลือก เรียบง่าย ถ้าไม่จำเป็นก็ตัดไป ทำให้ ดูแลง่าย ใช้โนฮาวด์ ไม่สูงมาก เพราะ ยิ่งสูงยิ่งจุกจิก...
ไม่ใช่ครับ
TOYOTA กับบริษัทเครือข่าย รวมถึง YAMAHA ที่เป็นผู้ออกแบบและผลิตเครื่องยนต์ให้ Lexus ใช้งบประมาณโนฮาวด์ไปกับการลงทุนพวกนี้สูงมาก การออกแบบไม่ใช่บอกว่าเรียบง่ายอย่างที่ท่านเข้าใจแต่เป็นการทดลองในหลายสภาวะและมีการเก็บข้อมูลไปเรื่อย ข้อมูลจากรุ่นเดิมเอามาประยุกต์พัฒนาอ้างอิงกับรถตัวที่ขายใหม่ ปัญหาเดิม ๆ จะถูกนำมาแก้ไขในรุ่นถัดไป เรื่องพวกนี้จะมีการค้นคว้าวิจัยทำงานอยู่ตลอดทั้งในเมืองไทยและภูมิภาคอื่น ๆ
-
ผมว่ามันเป็นเหตุผลด้านธุรกิจนะ
เจ้าอื่นเค้าออกแบบรถมาให้ใช้แค่ 5-6 ปี ไปเน้นจุดขายอื่น สวย หรู ขับสนุก
ส่วนพี่โตความถึกทนมันเป็นจุดแข็งของสินค้าเค้าก็เลยต้องยืนพื้นจุดนี้
-
หลายๆบริษัทผุู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ให้กับ Toyota รักษามาตราฐานคุณภาพดีด้วยครับ
-
ผมว่าเค้าเอาต้นทุนไปลงกับpart มากกว่าไปลงกับoptionนะ
ดูจากราคาเทียบกับยี่ห้ออื่น โตจะoptionน้อยกว่ามาก แต่ราคามากกว่าหรือเท่ากัน
ยี่ห้ออื่นจะลดต้นทุนอะไหล่ความทนทาน เพื่อให้ใส่optionหวือหวาได้
จุดขายต่างกัน
-
ก็ปรัชญาการออกแบบรถเค้าตัวหลักคือต้องทนไม่จุกจิกไงครับ ของมาสด้าก็ต้องเน้นขับสนุกรถเลยไม่ทน
แล้วทำแบบทนๆแล้วขับสนุกด้วยไม่ได้เหรอ ทำได้ครับ แต่ต้นทุนเพิ่ม ราคาขายเพิ่ม
-
เขาเข้มงวดกับผู้ผลิตชิ้นส่วนมาก ชิ้นส่วนตัวไหนมีปัญหาหยุดไลน์ผลิตแล้วส่งคืนซัพพลายเออร์ทันทีเปลี่ยนยกล็อต แถมสุ่มตรวจบ่อยๆด้วย
-
อันนี้จริงยอมรับครับ ว่าเรื่องความทนทาน ซ่อมง่ายซ่อมจบ ไม่จุกจิก เหนือกว่ายี้ห้อแบบรู้สึกได้ ถึงแม้ตอนนี้บ้านผมจะไม่มีโตโยต้าแล้วแต่ก็อดคิดไม่ได้เวลาเอารถไปซ่อมไปศูนย์ทำไมไม่ง่ายเหมือนโตโยต้า
-
1JZGTE ที่ Yamaha ทำ กับ 2JZGTE นี้อย่างโหดสุดแล้ว
ส่วนของที่โตขายในไทย...
-
อ่านแล้วอยากใช้ toyota ขึ้นมาเลย
-
ผลบุญที่เค้าทำมาก็ส่งผลตอบรับแล้วครับ
ถึงผมจะไม่เคยเป็นเจ้าของโดยตรง
แต่ถ้าเพื่อนผมที่มาให้แนะนำรถให้
ผมก็เชียร์โตโยต้านะครับ
เพราะ คนไทย และอีกหลายๆประเทศในแถวอาเซียน เค้าใช้รถคันละ10ปี พี่โตก็เลยต้องตอบสนองแบบนั้น
ยิ่งวีโก้ที่ใช้ที่บริษัท 4 คัน 1 ในนั้นมีออกมาตั้งแต่เปิดตัว
คือมันถึกสุดยอด ถึกจนผมสงสารคนที่ทำอะไหล่รอขายมันเลยทีเดียว
บริษัทที่ผมทำงานเคยลากใช้ nissan frontier มา 8 ปี
แต่วีโก้ก็ได้ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
สุดยอดจริงๆครับ
ส่วนสาเหตุที่ส่วนตัวไม่มีโอกาศได้ใช้พี่โต ไม่ใช่ไม่ชอบ
แต่ทุกครั้งที่จะออกรถใหม่ มันมีตัวเลือกใหม่ๆมาให้เลือกเสมอๆ และพี่โตเองก็ไม่เคยมีรถที่ตรงกะ life style ของผมเท่าไหร่ ก็แค่นั้นเอง
-
ผมว่าเค้าเอาต้นทุนไปลงกับpart มากกว่าไปลงกับoptionนะ
ดูจากราคาเทียบกับยี่ห้ออื่น โตจะoptionน้อยกว่ามาก แต่ราคามากกว่าหรือเท่ากัน
ยี่ห้ออื่นจะลดต้นทุนอะไหล่ความทนทาน เพื่อให้ใส่optionหวือหวาได้
จุดขายต่างกัน
แต่ทุกวันนี้โตโยต้าก็โหดนะ eco car ตัวใหม่ 4แสนกว่า ถุงลม7ใบ ระบบ esp etc eba abs ba พร้อมเลย ทุกรุ่น
-
ผมว่าไปดูตามคลับดีกว่าครับว่าทนหรือไม่ทน ส่วนตัวผมคิดดังนี้นะครับ
1.รู้ถึงปัญหาและหาทางแก้ รวมไปถึงแลกเปลี่ยนปัญหาระหว่างกัน เช่น รถของฉันมีเสียงผิดปกติตรงนี้ รถของเธอมีเสียงไหม ?
2.รู้สึกถึงความผิดปกติ หาทางแก้ไขเองเช่น เข้าศูนย์ เข้าอู่บอกอาการ โดยไม่มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้ใช้รถรุ่นนั้นๆ
3.ไม่รู้ถึงความผิดปกติ คิดว่าออกจากศูนย์คือของแท้ ของดี ของใหม่
โดยส่วนตัวคิดว่า กรณีข้อ 3. ผมว่าเยอะที่สุด
ปล.บ้านผมมีวีออส2013 S มีเคลมบ้างคิดซะว่าเป็นล็อตแรก ส่วนวัสดุไม่ต้องพูดถึง ;D ;D
-
บ้านผมผ่านรถญี่ปุ่นมาหลายยี่ห้อแล้ว
โตโยต้า ทนจริง ศูนย์บริการมาตรฐานสูงกว่าค่ายอื่นๆ สำหรับคนที่ซื้อรถมาใช้งานขับจากจุด A ไปจุด B นี่เหมาะมาก
-
ผมเคยทำ Qualify new Model กะ Toyota เริ่มจากการ review โครงสร้างองค์กรณ์ ก่อนเลย
โรงงานอะไหล่เจ้าไหนที่มีคนในองค์กร อายุงานเยอะๆระดับ 20-30ปี นี่ก็ไม่ผ่านละ
ความเห็นเขาคือ คนที่อยู่มานานๆมีสองอย่าง
1. ปรับตัวได้ดีและทันต่อโลกเสมอ
2. หัวโบราณไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆง่ายๆ
สรุป โรงงานผม อยู่ข้อสอง เลยไม่ผ่าน Qualify และบอกเลยระบบ TS16949 เขาเข้มข้นจิงๆ ไม่ได้คือไม่ได้ทั้งตอนนี้และในอนาคตไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำเด็ดขาด
:-X
อ้อแต่บริษัทเก่าผม มีนิสสันถือหุ้นนะ เลยขายนิสสัน หลักๆเลย ที่เหลือ คิดต่อเองนะ
:-X
-
ไม่รู้ข้อมูลเทคนิคนะ แต่เห็นรถตู้โตโยต้ามันวิ่งกันข้ามวันข้าวคืนปีนึงแสนสองแสนโล มันสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเรื่องเครื่องยนต์กับเกียร์ได้มากนะครับ ไหนจะชื่อเสียงจากแท็กซี่โคโรล่าอีก กระบะวีโก้ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียว(เครื่อง+เกียร์)
-
ผมอยากให้มองอีกมุมมองนึง เอาจริงไม่ใช้โตโยต้าออกแบบได้ทนกว่าเจ้าอื่น หรือ spec เหนือกว่าเจ้าอื่นหรอกนะครับ
เท่าที่ได้ดู part จริงๆ ระดับคุณภาพ หรือ spec. ผมแบ่งตามนี้
Q : M>=H>T>>N>>>>M อันนี้ว่าตามระดับรถ A-B segment นะครับ
อะไรที่ทำให้ โตโยต้า ทำได้ทนกว่าคนอื่น ต้องบอกว่าจริงแล้ว คือใช้นานกว่าคนอื่น จึงเสถียรกว่าคนอื่นถึงจะถูก
หลายๆ ยี่ห้อ โดยเฉพาะค่ายคูู่แข่งนั้น ชอบออกแบบชิ้นส่วนใหม่เกือบทุกรุ่น เท่ากับอายุใช้งานแค่ 5 ปี ก็ออกแบบตัวใหม่แล้ว ดังนั้นในช่วง 5 ปีนั้น ก็มีการ ปรับปรุงคุณภาพ ตลอด ให้มันดีๆ ขึ้นไปอีก แต่พอครบ 5 ปี ก็ต้องใช้ชิ้นส่วนใหม่ ก็มาเริ่มนับ 1 ใหม่ตลอด สักเกตุได้ง่ายๆ คือ ไฟส่องป้ายทะเบียนของค่ายคู่แข่ง แทบจะออกแบบใหม่ทุกรุ่น ไม่เหมือนกันเลยด้วยซ้ำ
แต่สำหรับ โตโยต้า เค้าจะใช้มา 5 ปี อะไรที่ใช้ดี ไม่มีปัญหา ก็เอาไปใช้รุ่นอื่นๆ ไปเรื่อย จนมันเริ่มเชยหรือ ล้าสมัยมากๆ ก็ค่อยออกแบบใหม่ มันก็เลยเสถียรแล้ว จึงเป็นเหตุให้มองว่าทนกว่า ตัวอย่างเช่น ปุ่มปรับกระจกมองข้าง เหมือนกันตั้งแต่ วีโก้ยันเล็กซัส หรือไฟส่องป้ายทะเบียนที่เหมือนกันทุกรุ่นที่ขายเป็นต้น
จะเห็นว่าทีนี้ พอมีอะไรที่โตโยต้าออกแบบใหม่ หรือ เพิ่งนำมาใช้ ก็จะมีปัญหาคุณภาพ เหมือนเจ้าอื่นๆ เลยก็ต้องมาปรับปรุงคุณภาพเหมือนกัน
ทั้งที่ในความเป็นจริง ถ้าเทียบชิ้นต่อชิ้น ใน segment เดียวกัน ระดับของคุณภาพ หรือ cycle durability test สั้นกว่าเจ้าอื่นๆ ด้วยซ้ำ
อันนี้จากมุมมองคนที่สัมผัสชิ้นส่วน เทียบชิ้นต่อชิ้นมาตลอดนะครับ
-
เคยคุยกับเจ้าของโรงงานอะไหล่ใหญ่ ทำส่งหลายเจ้า ความเข้มงวดไม่แตกต่างกันจนอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่สูง ๆ มี H เลย สิ่งที่เจ้าของโรงงานอะไหล่พูดให้ฟังน่าคิดมาก การประกอบ พี่โตดีมาก ๆ แต่ H แม้ว่าจะเข้มงวดเรื่อง Spec มากกว่า แต่ประกอบได้ไม่ดีเท่า
เรื่องความทนทาน น่าจะไม่แตกต่างกันมาก แต่ MI ตัวเครื่องยนต์ออกแบบมาทนทานกว่ายี่ห้ออื่น แต่สิ่งที่ พี่โตมีมาเสมอคือ การที่ซ่อมแซมง่าย หาอะไหล่ง่าย ราคาถูก อะไหล่ก็ทนทานพอสมควร เลยได้เป็นที่นิยมกันมากในตลาดรถมือ 2 ส่งผลให้ดูน่าเชื่อถือ เวลามีปัญหาเรื่องตัวรถ พวกที่ทำหน้าที่อวย WORK มาก ๆ และแก้ปัญหาจบได้เร็วจริง
รถใน Class เดียวกัน หลัง ๆ ก็ออกแบบมาไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่ โดยเฉพาะ C&D Segment แพ้ H ขาดลอย แล้วในอดีตเรื่องชอบกั๊ก OPTION ไม่ค่อยยอมจัดเต็ม ๆ จริง ๆ เหมือน ATIV ก็ทำให้ลูกค้าหันไปซบ H+MA เยอะ
-
พูดเท่านี้ก็ถูกครับ. เพราะไม่ได้เทียบกับ function ที่ได้ และfeeling การขับขี่ รวมทั้งพื้นฐานความปลอดภัยที่มองไม่เห็นด้วยตา สัดส่วนกับราคาที่จ่ายไป...
และที่สำคัญผลิตภัณฑ์หนึ่งๆมักออกแบบให้มีอายุการใช้งานระดับนึง แตกต่างตามapproach ของแต่ละproduct
-
เป็นกระทู้ที่ดีครับ......เท่าที่ฟังมาและจากประสบการณ์แล้ว ชิ้นส่วนต่างๆถ้าเทียบ
ชิ้นส่วนต่อชิ้นนี่ ไม่มีอะไรที่แสดงถึงความทนทานเลยนะครับ ทั้ง spec การ test
ต่างๆ จำนวนชิ้น คือพี่ to ดูลดต้นทุนมาก แต่พอมาทดสอบมันก็ได้มาตรฐาน
แต่พอมาประกอบเป็นคันกลับเป็นเครื่องจักรชั้นยอด สเถียรมากๆ ทุกอย่างประสานกัน
ได้อย่างดี ผมว่าตรงนี้เป็น Know how นะ เลียนแบบกันยากมาก มันคือความต่างนะ
ของบริษัทผลิตชิ้นส่วน กับบริษัทผลิตรถยนต์ มันมี... gap.....กว้างมากกกกว่าที่เราคิด
จะว่าพี่ to จับตลาดกว้างเน้นทนทานก็ไม่ใช่นะ ตลาดบนที่เน้น handling การขัับขี่
ออกแบบซับซ้อน แบบ LEXUS เค้าก็ทำได้ดี
สรุปพี่ to มี know how ที่ไม่ธรรมดาในการสร้างรถยนต์ แต่ แกจะปล่อยมาแค่ไหนแล้ว
แต่ตลาด product positioning ของแก
-
อยากรู้ว่าจริงๆ แต่ละค่ายเป็นยังไง บริษัทจากญี่ปุ่น
ก็ต้องดูที่ญี่ปุ่นครับ ถ้ามองแค่ตลาดไทยเราก็มองเหตุแค่
Product ที่แปลงมาแล้วสำหรับตลาดไทย ซึ่งถ้ามองแค่นั้น
คนบางกลุ่มก็ดูถูกค่ายนี้ซะเยอะ แต่จริงๆ ที่เห็นมันแค่ผิวเผิน
คือเราอาจจะไม่ได้ spec เลอเลิศ เพราะเขาให้เรามาแค่นี้
เพราะเขาคิดว่า แข่งขันด้วย spec เท่านี้ ในตลาดนี้คือเพียงพอ
แต่เราก็ได้อานิสงค์เรื่อง reliability ที่เราเชื่อใจได้ว่ารถไม่งอแง
ซึ่งเป็นพื้นฐานของรถค่ายนี้
-
ผมเคยทำ Qualify new Model กะ Toyota เริ่มจากการ review โครงสร้างองค์กรณ์ ก่อนเลย
โรงงานอะไหล่เจ้าไหนที่มีคนในองค์กร อายุงานเยอะๆระดับ 20-30ปี นี่ก็ไม่ผ่านละ
ความเห็นเขาคือ คนที่อยู่มานานๆมีสองอย่าง
1. ปรับตัวได้ดีและทันต่อโลกเสมอ
2. หัวโบราณไม่ยอมรับอะไรใหม่ๆง่ายๆ
สรุป โรงงานผม อยู่ข้อสอง เลยไม่ผ่าน Qualify และบอกเลยระบบ TS16949 เขาเข้มข้นจิงๆ ไม่ได้คือไม่ได้ทั้งตอนนี้และในอนาคตไม่ยอมให้เกิดข้อผิดพลาดซ้ำเด็ดขาด
:-X
อ้อแต่บริษัทเก่าผม มีนิสสันถือหุ้นนะ เลยขายนิสสัน หลักๆเลย ที่เหลือ คิดต่อเองนะ
:-X
:-X :-X :-X :-X :-X :-X
-
ความทนทานก็น่าจะพอๆกับทุกยี่ห้อ
แต่การบำรุง รักษาดีกว่า ก็เหมือนคน สมัยนี้แข็งแรงสู้คนสมัยก่อนไม่ได้ แต่การรักษา เครื่องไม้เครื่องมือดีกว่า อายุเลยยืน
Toyota ก็เหมือนคนที่มี โรงพยาบาลดีๆ เครื่องมือพร้อมเยอะ หมอเก่งๆเยอะ ยาถูกๆ หาง่ายๆ
ที่บ้านมีกระบะ toyota อายุเกือบ 30 ปี ถามว่าเสียไหม มันก็เสียนะ แต่ซ่อม วันเดียวและจบตลอด
-
รู้แต่ว่าความทนทาน ก็เป็นต้นทุนต้องใช้เงินลงทุน ไม่ได้มาฟรีๆเปล่าๆ
เหตุนี้จึงมียอดขายอันดับต้นๆในโลก
-
เอาข้อมูลของรถที่ขายใน US จากเว็บ carcomplaints.com
จัด 20 อันดับรถแย่ที่มีปัญหา โดยใช้PainRank™ algorithm ที่เอาข้อมูลหลายตัวมาวิเคราะห์
รวมถึงระยะทาง ค่าซ่อม ฯลฯ
ดูตัวอย่างรถที่ผมใช้ในปัจจุบันด้วย 2012 Ford Focus
แล้วคลิกที่ชื่อจะแสดงกราฟรายละเอียด....ปัญหาของตัวนี้เกียร์มาอันดับหนึีงเลย :D :D
(รุ่น2.0L เครื่องยนต์ใช้คนละตัวกับที่ขายในบ้านเรา US-กำลังเครื่องน้อยกว่า เกียร์powershiftตัวเดียวกัน)
อ่านที่นี่ครับ..... http://www.carcomplaints.com/worst_vehicles/
-
ผมว่าเทคโนโลยีเขาเน้นไม่ซับซ้อน ใช้แบบง่าย เน้นทนทานมากกว่าครับ
รุ่นเทคโนโลยีเยอะ คันที่บ้านก็เข้าซ่อมเหนื่อยเหมือนกันนะครับ
ล่าสุดอัพพาร์ดก็ adaptive cruise control ไม่ทำงาน วิ่งจะชนคันหน้าเอา ก่อนหน้านั้นก็ระบบไฟฟ้า ระบบประตู ม่านไฟฟ้า ฯลฯ คันไหนยัดระบบซับซ้อนเยอะ ก็ซ่อมเยอะหน่อย
-
อ่านหัวข้อนึกว่าจุกจิกกว่ายี่ห้ออื่น เลยเข้ามาแบบงงๆครับ
เท่าที่ใช้ก็ตามนั้นครับ ทนและไม่จุกจิกเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น เดาว่ามีขั้นตอนการผลิตที่เอาใจใส่ด้วยล่ะมั้งครับตอนไปตรวจรับรถนี่อึ้งกับงานประกอบเลยเมื่อเทียบกับคนก่อนๆที่เคยใช้ และบางจุดที่มองไม่เห็นอาจใช้วัสดุที่ทนทานเข้ากับอากาศบ้านเราได้ดีกว่าก็เป็นได้
มันรู้สึกดีจริงๆนะเวลารถวิ่งแล้วไม่มีเสียงก๊อกๆแก๊กๆให้ได้ยินสักนิด ดูเสา A, B, C งานประกอบไม่มีช่องโหว่ให้น่าเกลียด เปิดท้ายไม่เห็นแผงบุมันย้วยออกมาเนี่ย
-
ขอยกตัวอย่าง Nissan Teana J 32 กับ Toyota Camry Acv 40 ครับ
- สำหรับ J 32 จอแสดงผลแอร์ กับ จอแสดงผลของเครื่องเสียง จะเป็นจอรวม ซึ่งมันดีตรงที่ความสวยงาม แต่มีข้อเสีย คือ เวลาจะดัดแปลงเครื่องเสียงหรือเปลี่ยนฟร้อนท์จะทำได้ยาก เพราะเป็นจอรวม ถ้าจะหาฟร้อนท์จอสัมผัสสักตัว (เพื่อให้สวยงาม) ก็จะต้องหาฟร้อนท์จอสัมผัสที่มีจอแสดงผลแอร์รวมอยู่ด้วย ซึ่งที่นิยมติดคือ ฟร้อนท์ (DVD GPS SPEED NAVI) หรือมีอีกทางนึงคือ คงจอเดิมไว้ (ให้เป็นแค่จอแสดงผลแอร์) ส่วนตัวเครื่องเล่นเดิมก็เอาออก และใส่ฟร้อนท์ 2 DIN เข้าไปแทน ซึ่งดีตรงที่ความทนทาน แต่ความสวยงามก็จะลดน้อยลงไป และเวลามองก็จะมองลำบากนิดนึง เพราะตัวฟร้อนท์ใหม่นั้น จะอยู่ต่ำกว่าระดับสายตา อีกอย่างต้องหาร้านเครื่องเสียงที่เก่งๆ และช่างเป็นงานด้วยครับ เพราะถ้าทำไม่ดีตัดต่อสายไฟผิดพลาด ระบบแอร์อาจจะเสียได้ ซึ่งเคยเกิดขึ้นแล้วสมัยที่ J32 ยังเป็นป้ายแดง และเข้ามาขายที่เมืองไทยใหม่ๆ ตอนนั้นมีคนใช้ J 32คนนึง อยากแปลงช่อง AUX ให้เป็นช่อง USB ช่างไปตัดต่อสายไฟผิด ทำให้ระบบเครื่องเสียงใช้งานไม่ได้ ระบบแอร์ก็เสีย ต้องเปลี่ยนชุดใหม่สถานเดียว ตอนนั้นเป็นประเด็นดราม่าอยู่ตั้งนาน กว่าร้านเครื่องเสียงจะยอมชดใช้ค่าเสียหายให้
- สำหรับ ACV40 ถ้าจะดัดแปลงเครื่องเสียงนั้น จะทำได้ง่ายกว่า J 32 มาก เพราะจอแสดงผลแอร์ กับ จอแสดงผลเครื่องเสียง เป็นจอแยก ถ้าอยากเปลี่ยนฟร้อนท์เครื่องเสียงก็ทำได้ง่าย ฟาฟร้อนท์ DVD 2 DIN รุ่นที่ดีๆ + ทนๆ ใส่เข้าไป แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ ไม่ยุ่งยาก
การออกแบบรถของโตโยต้า ผมว่าจะดัดแปลงได้ง่าย และไม่ยุ่งยากเหมือนนิสสันครับ
-
อันนี้จริงครับเรื่องความถึกทนของโตโยต้า ต้องให้เค้าจริงๆ ไม่ได้อุปทานแน่นอนอันยืนยันอีกเสียงว่าทึกทนจริง ใช้มา 3 คันแล้ว เก่าสุด 15 ปียังดีอยู่เลย และคิดว่าจะใช้ต่อไปอีก 5 ปีแน่ๆ