Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: NarongritL ที่ กันยายน 11, 2017, 17:22:14
-
ผลวิจัยชี้รถที่ใช้น้ำมันจะถึงจุดจบภายใน 8 ปี บริษัทน้ำมันจะล้มระเนระนาด
18 พฤษภาคม 2560
petrol-car-end-1
จะไม่มีการขายรถยนต์ รถบัส และรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันโซลาร์หรือดีเซลในทุกแห่งทั่วโลกภายใน 8 ปี การขนส่งทางบกทั้งหมดจะเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นำไปสู่การลดลงของราคาน้ำมันอย่างรุนแรงและการสิ้นสุดของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมที่ยืนยงมานับศตวรรษ
นั่นคือคำทำนายอนาคตของ Tony Seba นักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ที่แพร่หลายในหมู่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและได้สร้างความวิตกกังวลอย่างรุนแรงต่อวงการธุรกิจน้ำมัน
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือผู้คนจะเลิกขับรถเอง พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
จะเหลือเจ้าของรถไม่มากนักที่ยังจมอยู่กับอดีตและยึดติดการใช้รถแบบเก่า ที่เหลือจะเปลี่ยนไปใช้รถที่ทันสมัย ในอนาคตจะหาปั๊มน้ำมัน อะไหล่ รวมทั้งช่างซ่อมเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ยาก ผู้แทนจำหน่ายรถแบบเก่าจะหดหายไปภายในปี 2024
หน่วยราชการจะสั่งห้ามไม่ให้คนขับรถเมื่อมีข้อมูลยืนยันถึงอันตรายที่มีมากกว่าระบบขับอัตโนมัติ ราคารถมือสองจะตกต่ำรุนแรง คุณอาจต้องจ่ายเงินเพื่อเอารถคันเก่าของคุณไปทำลายทิ้ง
มันเป็นเกลียวมรณะ (Death Spiral) ของทั้งกลุ่มบริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ และยังเกี่ยวพันไปถึงบริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นที่ปรับตัวไม่ทันอีกด้วย
ราคาน้ำมันดิบจะลดลงถึง 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลอย่างยาวนาน สกอตแลนด์จะสูญเสียแหล่งขุมทรัพย์ในทะเลเหนือ รัสเซีย, ซาอุดิอารเบีย, ไนจีเรีย และเวเนซุเอลาจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบาก
มันจะเป็นภัยคุกคามต่อบริษัทฟอร์ด, จีเอ็ม และบริษัทผลิตรถยนต์ในเยอรมัน พวกเขาจะต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำไรต่ำมากหรือผันตัวเองไปเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ไร้คนขับแบบ Uber และ Lyft
รถยนต์ยุคถัดไปจะเป็น คอมพิวเตอร์ติดล้อ Google, Apple, และ Foxconn มีเทคโนโลยีที่พร้อมจะเข้าไปยึดครอง และ Silicon Valley จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจรถยนต์ไม่ใช่ Detroit, Wolfsburg หรือ Toyota City อีกต่อไป
petrol-car-end-2
เรากำลังอยู่ในจุดที่เป็นการแตกสลายของการขนส่งที่เร็วที่สุดลึกล้ำที่สุดอย่างต่อเนื่องมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์ Seba กล่าว ยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะเข้าสู่วัฏจักรอันเลวร้ายของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
จุดเปลี่ยนจะมาถึงภายในสองสามปีข้างหน้า เมื่อแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้เกิน 320 กิโลเมตร และราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2022 รุ่นต่ำสุดราคาจะเหลือเพียง 20,000 ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถล่มทลาย
ภายในปี 2025 รถใหม่ทั้งหมดจะเป็นรถไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ รถบัส รถแทรกเตอร์ รถแวน ทุกอย่างที่มีล้อจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก Seba กล่าว
ข้อมูลและภาพจาก financialpost, stuff.co.nz
เอามาเเบ่งปันครับ อยากทราบว่าท่านอื่นคิดยังไงครับกับบทความนี้
ทราบว่าถ้ารถยนต์ที่นั่งเเนวโน้มสูงเเน่นอน เเต่ถ้าเป็นรถใหญ่ รถบรรทุก ที่ต้องกำลังอัดมากๆ ดีเซล เป็นต้น จะเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าได้หรอครับ
บ้านผมทำ Logistic ซะด้วย
-
คงเร็วไปที่โลกจะถึงตอนนั้น รถไฟฟ้านะมาแน่แต่ค่อย ๆ มา คืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ไม่ไ่ด้เร็วขนาด 10 ปีนี้ที่จะทำให้รถน้ำมันหายไปแน่นอน
-
เยี่ยม! เปลี่ยนรถพอดี ::)
-
ณ.วันนี้ Tesla model3 ที่ต้องจองกันข้ามปี ราคาอยู่ที่ $35,000 -$44,000
-
สมมุติถ้าถึงเวลานั้นบริษัทน้ำมันล้มระเนระนาด เศรษฐกิจโลกเราจะเป็นยังไงครับ
ไม่น่าจะเร็วอย่างนั้นมั้งครับ อาจจะค่อยๆเปลี่ยน ค่อยๆปรับตัวกันไปเรื่อยๆ
-
8 ปีนั้นเร็วไป 18 ปี ผมก็ยังว่าเร็วไปเลยครับ
น้ำมันหมด สูบไม่ขึ้นแล้วนั่นล่ะครับเรียกว่าถึงจุดจบ
นักวิจัยก็บอกแนวโน้มได้ แต่ความจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้นเป๊ะ ๆ
อีก 8 ปีข้างหน้า ประเทศด้วยพัฒนาทั้งหลาย ก็ยังใช้น้ำมันกันอยู่ อย่างประเทศไทยเป็นต้นครับ 5555
-
คงหมายถึงประเทศพัฒนาแล้วล่ะมั้งครับ
ณ จุดนั้น ราคาน้ำมันคงลง รถสันดาปในทั่วไปคงแพร่หลายขึ้นในประเทศด้อยพัฒนา กว่าจะตามกันทันคงอีกนาน
อ่อ รถไฟฟ้านี่มันถูกกว่ารถใช้น้ำมัน และมันทกว่าจริงๆ ใช่ไหม? แบตมันไม่เสื่อมหรอ ระบบอีเล็กทรอนิคมันทนทานนานสิบๆ ปี?
อ่านแล้วก็น่าสนใจปนตลกๆ และสัมผัสถึงนัยยะบางอย่างครับ
เอาที่สบายใจละ 55
-
มันไม่นานจะใช้นะผมว่าเร็วเกินไปหน่อย อย่างหน่อยๆผมว่ารถที่คันบนโลกควรเป็นรถลูกผสมอย่างไฮบริดให้หมดก่อน แล้วเราถึงจะข้ามไปเป๋นยุครถไฟฟ้าล้วนๆ
มันเป็นได่ยากมากที่ภายใน 8 ปีจะเปลี่ยนแหลขนาดนั้น อย่างน้อยๆผมว่าต้องดิน 10 ปีขี้นอ่ะ
-
คงยาก...รถไฟดีเซลลรางบ้านเราใช้มาจะร้อยปีแร้วววว ;D
-
อ่านแล้วสนุก ตื่นเต้นดีครับ เป็นจริงได้ก็ดี แต่คิดว่าคงไม่เร็วขนาดนั้น................จะเตรียมให้ลูกทำขนส่งและโซล่าฟาร์ม
-
ไม่มีทางครับ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
-
เมื่อตอน 10 กว่าปีที่แล้ว ก็ได้ยินข่าวแบบนี้แหละ อีก 12 ปี น้ำมันหมดโลก เวลามาถึงตอนนี้ ไหนงะ??? ไม่เห็นมีไรเลย??? ข่าวมโนบ้างก็บอก 30ปี 20ปี 15ปี 10ปี นี้มา 8ปี ตกลงจะเอากี่ปีถึงจะหมด ไร้สาระ อ่านไปเปลืองลูกตา
-
อันนี้แน่นอน เป็นไปได้สูงมาก
ราคาน้ำมันลดลงอย่างรุนแรง + คอมพิวเตอร์ติดล้อ
อันนี้ไม่เชื่อ อาจมีสัดส่วนที่ลดลง แต่ไม่หายไปทั้งหมด
รถบัส รถบรรทุก เลิกใช้น้ำมันดีเซลทั้งหมด
-
เป็นไปไม่ได้จริงๆ เพราะทั้งโลกไม่ได้มีแค่ยุโรป หรืออเมริกัน
-
สงสัยว่าแล้ว classic cars จะมีอนาคตยังไงครับ
ผมกำลัง restoration รถยุค 60-70 จะเอามาใช้อยู่เลย :-X
-
ไม่มีทาง แต่ถ้าสัก 20 ปี น่าจะเป็นไปได้
-
เค้าเป็นสายโด่งดังด้านสิ่งแวดล้อม ก็ต้องออกมาให้ข่าวทำนองนี้ไว้ก่อนละครับ
ผมว่านะดีไม่ดี พวกเวปคลิ๊กเบต แต่งเรื่องเอาเอง ดร.คนนั้นไม่รู้เรื่องโดนอ้างชื่อด้วยซ้ำ
ลักษณะคำพูดเหมือนที่ลุงๆ ป้าๆ ชอบฟอร์เวิร์ดในกรุ๊ปไลน์มากๆ ครับ
-
Old school forward mail
มาแนวนี้ ตามไลน์บ้าง เฟซบ้าง
ฝันไปเถอครับ แบตเตอรี่ทำลายสิ่งแวดล้อมกว่ารึเปล่า ต้นทุนสูงกว่า ค่าบำรุงรักษาก็ไม่ธรรมดาขนาด hybrid ยังร้องจ๊าก แล้วถ้าเป็น EV ไม่ร้องไห้หรือครับ
-
เค้าเป็นสายโด่งดังด้านสิ่งแวดล้อม ก็ต้องออกมาให้ข่าวทำนองนี้ไว้ก่อนละครับ
ผมว่านะดีไม่ดี พวกเวปคลิ๊กเบต แต่งเรื่องเอาเอง ดร.คนนั้นไม่รู้เรื่องโดนอ้างชื่อด้วยซ้ำ
ลักษณะคำพูดเหมือนที่ลุงๆ ป้าๆ ชอบฟอร์เวิร์ดในกรุ๊ปไลน์มากๆ ครับ
+1.........555
-
จีนจะเป็นประเทศที่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ครับ
บริษัทน้ำมันจะล่มสลาย เพราะไม่คุ้มทุนในการนำมาใช้ประโยชน์ ค่าขุด ค่าขนส่ง ในคณะที่ไฟฟ้าไม่มีค่าขนส่ง
ทำให้รถยนต์สันดาปไม่สามารถหาน้ำมันมาเติมได้ หรือไม่คุ้มค่า ในการซื้อมาเติม
แต่จะมีคนไปยึดครองบริษัทผลิตไฟฟ้าแทน แต่เรามีโซล่าเซลล์ เป็นทางเลือกครับ เมื่อบริษัทผลิตไฟฟ้าถูกยึดครองโดยเอกชน
เราอาจจะได้เห็นการขาย กฟผ ในรูปแบบการร่วมทุน หรือเข้ามามาเพิ่มทุนโดยเอกชน ในอนาคตก็ได้
-
สนุกดี.....ฝันกลางวัน...
-
บางอย่างมันค่อยๆเปลี่ยนผ่าน เช่นวิถีชีวิต กับพื้นฐานสังคม
ถึงเทคโนจะปุบปับเกิดก็ตาม
คืออีก 8 ปีทุกบริษัทมีรถ ev กันหมดผมว่าเป็นไปได้
แต่คนเปลี่ยนเอาแค่เกิน 1 ใน 3 ของผู้ใช้รถ ผมว่ายังยากเลย :-\
-
ใครเป็นเจ้าตลาดน้ำมันตัวจริง ? และเจ้าของตลาดน้ำมันอยากขายน้ำมันต่อหรือไม่ ? ถ้าอยากขายต่อก็ต้องทำอะไรกับรถไฟฟ้าที่จะมาแทนน้ำมัน รถไฟฟ้าจุดอ่อนหลักอยู่ที่เทคโนโลยีแบต พัฒนาแบตแบบใหม่ ออกข่าวหรือก่อนออกข่าว ก็มีหน้าม้า วิ่งมาซื้อ แล้วดองไว้ ไม่วิจัยต่อ ที่ทำการวิจัยต่อ ก็ถูกซื้อบริษัทไป
ถ้าแบตแบบใหม่ถูกวิจัยสำเร็จ ชาร์ท 2 นาทีเต็ม วิ่งได้ 1000 km.UP ปลอดภัยสูง น้ำหนักเบา เปลี่ยนง่าย ซ่อมง่าย ทนทานมาก ลูกหนึ่งใช้ได้เกิน 20 ปี ราคาถูก ๆ สักลูกละ 20,000 บาทพอ
ระบบเบรคแบบใหม่ ใช้ระบบแนวต้านแม่เหล็ก ยิ่งเหยียบเบรคลึก แรงต้านเยอะ เปลี่ยนพลังงานกลเป็นไฟฟ้ากลับเข้าแบตได้เยอะ ฯลฯ
มอเตอร์แบบใหม่ ประหยัดพลังงานมากขึ้น แรงมากขึ้น ดูแลรักษาง่าย ทนทาน มีชุดเปลี่ยน เช่น เปลี่ยนรถน้ำมันเป็นรถไฟฟ้าได้ทันที เหมือนไปติดก๊าช
Software ฉลาด ๆ มาก ๆ รถไฟฟ้าเกิดแน่ครับ
-
อีก 8 ปี ค่อยกลับมาคอมเมนท์กระทู้นี้ ก็ยังน่าจะทันถ้ากระทู้นี้ไม่ปลิวหายไปไหน :D :D :D :D
-
ที่ตกใจคือ search เน็ตเจอว่าอินเดียตั้งเป้าให้ใช้รถไฟฟ้า 100% ในปี 2025 (ก่อนอังกฤษที่ตั้งไว้ปี 2530 ซะอีก) ซึ่งดูสภาพแล้ว...จะไหวเหรอ
ปล. เคยได้ยินเรื่องคำทำนายว่าใน 10 ปี น้ำจะแพงกว่าน้ำมัน แต่ไม่รู้ว่าน้ำมันถูกลงหรือขาดแคลนน้ำจนน้ำแพงขึ้น
-
เปรียบเหมือนการพูดว่า "อีก 10 ปีขางหน้าจะมีแต่คนใช้ Smart Phone" เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
ใช่ครับ มันฮิตจริง แต่ไม่ใช่ว่าจะใช้สะทั้งหมด
แล้วรถยนต์ไฟฟ้าคันละเป็นล้าน มันไม่น่าจะแทนกันได้เร็วขนาดนั้นครับ
-
ไม่มีทางครับ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
+1
-
เป็นไปได้ครับ ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าหลายยี่ห้อออกมาขายให้เห็นอยู่ แล้ว จะยังหวังกับเครื่องยนต์สันดาปอีก ผมว่าเมืองไทยเองก็อีกไม่นานครับรถไฟฟ้าก็จะเข้ามาและจะมีคนซื้อใช้มาขึ้นเรื่อยๆ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ามีข่าวออกมาเป็นรายสัปดาห์เลยก็ว่าได้
-
ปัญหาอันดับหนึ่ง
ปัจจุบันหลายประเทศยังมีกำลังผลิตไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ และอีกหลายประเทศที่ได้แค่ระดับพอดี
หากทุกบ้านมีการใช้รถไฟฟ้า ซึ่งรวมไปถึงภาคขนส่งที่ต้องใช้กำลังไฟฟ้ามากกว่า เราจะเอาไฟจากไหนมาใช้
ถ้าจะสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าเพิ่ม ก็จะเจอกับกลุ่มคนปกป้องสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันรถต้องชาร์ตกันอย่างต่ำก็เป็นชั่วโมง ขณะที่น้ำมันเติมไม่ถึง 5 นาที อืมอนาคตจริงๆ
-
สงสัยว่าแล้ว classic cars จะมีอนาคตยังไงครับ
ผมกำลัง restoration รถยุค 60-70 จะเอามาใช้อยู่เลย :-X
รถ classic เครื่องใหญ่คงสนุกหละครับ
กดกันเต็มที่
ถ้าราคาน้ำมันลงขนาดนั้น ผมจะเอาแก่ของผมลง 2.8
แล้วหาเครื่อง 5500/6300 มาลงอีกคัน กดกันมันเลยครับ
-
http://www.thaipost.net/?q=node/34137
ใครขยับตัวช้า จะตามหลังทันที
BCP คงไม่มองอนาคตกันแค่ 4-5 ปี
-
ถ้าหันมาใช้ไฟฟ้าขนาดนั้น
เรามีกำลังการผลิตพอแล้วรึครับ การสร้างโรงไฟฟ้าที่เร็วที่สุดคือพวกพลังงานแสง หรือลม
สร้างโรงไฟฟ้านิวเคลีย์ก็รอไปเถอะครับอีกกี่ปีเสร็จ พลังงานถ่านหินก็สร้างกันอย่างเร็ว 5-8 ปี หรือเปลี่ยนแนวคือสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำมันเลย
:D :D
-
ผมว่ายุคน้ำมันอาจจะไม่ถึงกับจบทันที แต่ว่าคนที่ใช้จะค่อยๆน้อยลงจนหมดไปเองซะมากกว่า
-
ผมทายเล่นๆนะครับ(ขออภัยล่วงหน้า) กลางปีหน้า80USD
-
เห็นด้วยกับหลายคำตอบครับ
ส่วนตัวผมว่าเราไม่มีทางรู้
ดูอย่างกล้องฟิล์มซิครับ พอดิจิตอลเข้ามา กล้องฟิล์มก็เหมือนสูญพันธุ์โดยทันที
บริษัทอย่าง Kodak ใครจะเชื่อว่าจะเจอเหตุการณ์เเบบนี้ครับ หรืออย่าง Nokia ก็ตาม
ผมว่าตอนนี้เราอาจจะยังไม่เห็นทาง เเต่สุดท้ายถ้ามีเทคโนโลยีไฟฟ้าใหม่เข้ามาอีกขั้น คงอาจจะเปลี่ยนได้รวดเร็วจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
-
เพ้อเจ้อครับ
-
หลายคนอาจไม่รุ้ รถในเมืองไทย ไฟฟ้า 100% วิ่งเทสกันให้วุ่น ระยะ 300km+
มันเร็วมาก เร็วกว่าที่พวกเราคิดไว้เยอะ 5 ปีนี้คือรอบการเปลียนรถของคนส่วนใหญ่ 8 ปีนี้ถือว่าเยอะมากสำหรับเวลาการพัฒนารถและ Battery,
น้ำมัน คงไม่ได้หมดไปใน 8 ปี แต่ 8 ปีนี้จะมีประเทศปลอดรถน้ำมัน
จีนเป็นตลาดใหญ่ ที่แนวโน้มไฟฟ้า 100% จีนคือตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีผลต่อทิศทางตลาด...
-
ถึงตอนนั้น พี่ไทยจะไปเอาไฟฟ้าจากไหนหนอ
พี่ลาว พี่กัม ก็ต้องใช้ไฟฟ้าเหมือนเรา
พม่าก็เริ่มเจริญ เวียดนามก็ไม่ขายให้เราใช้...
มาเลย์? ถ้าเหมือนตอนนั้นที่โจรใต้บึมเสาไฟ
ไฟก็มาไม่ถึง
ครั้นสร้างเขื่อนก็ค้าน นิวเคลียร์ก็ค้าน ถ่านหินก็ค้าน
แต่ถ้าได้สร้างจริงๆ...
บ้านเราก็รู้ๆกันอยู่ครับ
จีนมันสร้างของสำคัญเสร็จใน 2-4 ปี
แต่รัฐบาลไทย 8-10 ปี
ทุกอย่างมีแต่คำว่า จะ จะ จะ
อุโมงค์
สะพานข้ามแยก ลอกแยก
อะไรที่เป็นของหน่วยงานราชการ สร้างช้าหมด
ตอนนี้ผม45 15ปีไม่รู้จะเป็นยังไง
แต่ที่แน่ๆ ผมไม่เห่อเท่าไหร่ครับ เพราะผมใช้พวกยานพาหนะไฟฟ้ามาค่อนข้างนานแล้ว
แต่เป็นห่วงคนที่เห่อ ออกหน้าออกตา
ถ้าไม่ซีเรียสอะไร ไปลองขับโกคาร์ทไฟฟ้าที่เมืองทองแก้กลุ้มกันเถอะครับ 5555
-
ถ้าถึงเวลานั้นแล้วมันไม่จริง อยากได้ยินว่าแกจะพูดยังไง เช่น เพราะคนไทยทำบุญจุดตะเกียงน้ำมันกันเยอะหรือเปล่า เลยช่วยต่ออายุอุตสหกรรมน้ำมันได้ สาธุ กด 99 ด้วย ;)
-
ตัดประเด็นเรื่อง range ในการใช้งาน / ต้นทุน / การบำรุงรักษาไปก่อน
เรา (มนุษยชาติ .... ไม่ต้องพูดถึงไทยนะ) มีความยืดหยุ่นในการผลิตไฟฟ้าขนาดนั้นจริงๆหรือ ?
พลังงานจากการใช้น้ำมันที่หายไป ครึ่งหนึ่งต้องกลายเป็นการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น (assume ว่ารถไฟฟ้ามี efficiency ดีกว่ารถสันดาปภายในราวๆเท่าตัว) เราสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าได้เร็วขนาดนั้นจริง ?
ยุครถไฟฟ้ามาแน่ แต่ ใน 8 ปี ? น่าจะเร็วไปหน่อย
ปล Tony Seba ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ นะครับ เป็นอาจารย์แสตนฟอร์ดจริง (น่า จะ)พูดเรื่องนี้จริง แต่แกเป็นอาจารย์ด้าน Entrepreneurship กับ Clean energy เรียนมาด้าน Computer science และ MBA
-
ไม่ใช่ในไทยแน่ๆ 5555
-
ไม่เป็นไรครับ ยกเครื่องยนต์ออก ยกมอเตอร์ไฟฟ้าใส่แทน ช่างไทยทำได้
-
อาจจะไม่ถึงกับจุดจบภายใน 8 ปีครับ แต่รถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 8 ปีนี้แน่นอน เพราะภาครัฐเริ่มให้การสนับสนุนแบบเป็นรูปธรรมแล้ว และถ้ายังให้การสนับสนุนแบบนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง รถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหนจะข่าวว่าบริษัท Tesla Motors ก็กำลังจะเข้ามาเปิดโรงงานที่บางปะกงอีก แม้แต่บริษัทรถยนต์ที่ขายอยู่ในประเทศไทยก็กำลังเริ่มต่อยอดโครงการรถไฟฟ้ากันมากขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งโลกของเรากำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตทางสิ่งแวดล้อม ดังนั้นพลังงานสะอาดจะถูกผลักดันให้แทนที่พลังงานที่ก่อมลภาวะโดยเร็วที่สุดอย่างแน่นอน
-
โจมย์มันอยู่ที่ราคา กับค่าบำรุงรักษาล่ะครับ
เหมือน สมาร์ทโฟน พอมีรุ่นราคาหลักพันลงมา มือถือปุ่มกด ก็แทบจะหายไปเลย เหลือแค่ไม่กี่รุ่น เอาจริงๆ ปัจจุบันผมแทบไม่เจอคนใช้แล้วนะ
กล้องถ่ายรูป พอกล้องดิจิตอลออกมา และราคาไม่ต่างจากกล้องฟิลม์ กล้องฟิลม์ก็จบเลย
ร้านขายแผ่นซีดี ทั้งถูกลิขสิทธ์ และละเมิดลิขสิทธ์ พอเน็ตแรงระดับดูหนัง โหลดหนังสบายๆ ก็ทยอยปิดกันระนาว
ทั้งหมดมันใช้ระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น รถบนตร์พลังงานไฟฟ้า ถ้าราคาและค่าบำรุงรักษา เท่าๆกับรถใช้น้ำมัน ผมว่า ไม่ถึง 8 ปี บริษัทรถยนตร์ ก็เลิกทำรถยนตร์ใช้น้ำมันกันล่ะ ก็จะเหลือแต่อะไหล่ให้รถรุ่นเดิมๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไป คงเหมือนกล้องฟิลม์ ที่ใช้แค่ตั้งโชว์กับ เล่นในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
-
โจมย์มันอยู่ที่ราคา กับค่าบำรุงรักษาล่ะครับ
เหมือน สมาร์ทโฟน พอมีรุ่นราคาหลักพันลงมา มือถือปุ่มกด ก็แทบจะหายไปเลย เหลือแค่ไม่กี่รุ่น เอาจริงๆ ปัจจุบันผมแทบไม่เจอคนใช้แล้วนะ
กล้องถ่ายรูป พอกล้องดิจิตอลออกมา และราคาไม่ต่างจากกล้องฟิลม์ กล้องฟิลม์ก็จบเลย
ร้านขายแผ่นซีดี ทั้งถูกลิขสิทธ์ และละเมิดลิขสิทธ์ พอเน็ตแรงระดับดูหนัง โหลดหนังสบายๆ ก็ทยอยปิดกันระนาว
ทั้งหมดมันใช้ระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น รถบนตร์พลังงานไฟฟ้า ถ้าราคาและค่าบำรุงรักษา เท่าๆกับรถใช้น้ำมัน ผมว่า ไม่ถึง 8 ปี บริษัทรถยนตร์ ก็เลิกทำรถยนตร์ใช้น้ำมันกันล่ะ ก็จะเหลือแต่อะไหล่ให้รถรุ่นเดิมๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไป คงเหมือนกล้องฟิลม์ ที่ใช้แค่ตั้งโชว์กับ เล่นในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
พูดจาดี มีเหตุผลครับ
-
ต้องชาร์ตบ่อย วิ่งได้ไม่กี่ร้อยโล จะมาแทนเลยหรอ มโนแล้ว
-
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือ
-ผู้คนจะเลิกขับรถเอง
-พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติ
-ซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
สมุติฐานมีงานวิจัยหรืออะไรมารองรับไหมครับ เหมือนนั่งมโนอะ
เอาแค่โครงสร้างพื้นฐานที่จะผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอเพื่อรองรับแนวคิดนี้ใน8ปีจะมีซักกี่ประเทศที่ทำได้
จะเอาอะไรมาผลิตไฟฟ้า ในเมื่อโรงไฟฟ้าบางแห่งก็ยังต้องใช้เชื้อเพลงปิโตรเลียมพวกแก้สธรรมชาติกันอยู่เลย
แถมราคารถไฟฟ้าขับขี่อัตโนมัติ จะถูกกว่าน้ำมัน10เท่า แค่นี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วครับ
สมมุติรถน้ำมัน1ล้าน ถูกกว่า10เท่าคือขายแค่แสนเดียว ??
ก็แล้วแต่วิจารณญาณในการเสพสื่อฮะ
-
โจมย์มันอยู่ที่ราคา กับค่าบำรุงรักษาล่ะครับ
เหมือน สมาร์ทโฟน พอมีรุ่นราคาหลักพันลงมา มือถือปุ่มกด ก็แทบจะหายไปเลย เหลือแค่ไม่กี่รุ่น เอาจริงๆ ปัจจุบันผมแทบไม่เจอคนใช้แล้วนะ
กล้องถ่ายรูป พอกล้องดิจิตอลออกมา และราคาไม่ต่างจากกล้องฟิลม์ กล้องฟิลม์ก็จบเลย
ร้านขายแผ่นซีดี ทั้งถูกลิขสิทธ์ และละเมิดลิขสิทธ์ พอเน็ตแรงระดับดูหนัง โหลดหนังสบายๆ ก็ทยอยปิดกันระนาว
ทั้งหมดมันใช้ระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น รถบนตร์พลังงานไฟฟ้า ถ้าราคาและค่าบำรุงรักษา เท่าๆกับรถใช้น้ำมัน ผมว่า ไม่ถึง 8 ปี บริษัทรถยนตร์ ก็เลิกทำรถยนตร์ใช้น้ำมันกันล่ะ ก็จะเหลือแต่อะไหล่ให้รถรุ่นเดิมๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไป คงเหมือนกล้องฟิลม์ ที่ใช้แค่ตั้งโชว์กับ เล่นในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
รถยนต์บางทีมันก็ไม่เร็วเหมือนอุตสาหกรรมอื่นนะครับ
ผมเห็นรถยนต์มี4ล้อ ใช้โช๊คอัพ มีไฟหน้า ไฟท้าย กระจกมองข้าง มาตรวัดเข็ม(สมัยนั้นอยากเป็นดิจิตอลมาก แต่มาจริงไปไม่รอด)
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าเองก็มีมานานแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่า nissan leaf เคยเปิดตัวรุ่นแรกไว้ปีไหน
ผมว่า 8ปี มีให้เลือก แต่ ไม่มาทั้งตลาดแน่นอน
ลองดู hybrid ครับ ผมจำได้ว่าเคยจะซื้อ camry hybrid ปีนั้นคือ 2009 ปีนี้ 2017 สภาพ hybrid ดีขึ้นเช่น premium แต่บางตลาดตายไปแล้ว
-
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือ
-ผู้คนจะเลิกขับรถเอง
-พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติ
-ซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
สมุติฐานมีงานวิจัยหรืออะไรมารองรับไหมครับ เหมือนนั่งมโนอะ
เอาแค่โครงสร้างพื้นฐานที่จะผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอเพื่อรองรับแนวคิดนี้ใน8ปีจะมีซักกี่ประเทศที่ทำได้
จะเอาอะไรมาผลิตไฟฟ้า ในเมื่อโรงไฟฟ้าบางแห่งก็ยังต้องใช้เชื้อเพลงปิโตรเลียมพวกแก้สธรรมชาติกันอยู่เลย
แถมราคารถไฟฟ้าขับขี่อัตโนมัติ จะถูกกว่าน้ำมัน10เท่า แค่นี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วครับ
สมมุติรถน้ำมัน1ล้าน ถูกกว่า10เท่าคือขายแค่แสนเดียว ??
ก็แล้วแต่วิจารณญาณในการเสพสื่อฮะ
นั่นสิ คนเขียนเอาหลักฐานอะไรมาอ้างอิงว่าจะเป็นแบบนั้น เพราะรถขับอัตโนมัติหลายประเทศไม่อนุญาต เพราะเป็นกฎหมายแลมีแนวโน้มว่ายังไม่อนุญาตไปอีกนาน แถมห้ามนำมาทดลองวิ่งบนถนนอีกด้วย
รถไฟฟ้าอายุทนทานกว่ารถน้ำมัน และราคาถูกกว่าเป็น 10 เท่า ข้อนี้เอาหลักฐานตรงไหนมาในเมื่อปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แบบที่กล่าวมาเลยซักข้อ รถไฟฟ้าอายุไม่ทนทานเท่ากับรถเครื่องยนต์สันดาป ไม่ใช่แค่แบตเตอรี่แต่มันมีส่วนอื่นอีก ราคาซ่อมอะไหล่ส่วนอื่นที่ไม่ใช่แบตก็แพง มาก ๆ ทั้งอายุของรถและราคารถ รวมถึงราคาซ่อมไม่มีอะไรถูกกว่าเลย แต่กลับนำมาอ้างเฉย ๆ ว่าถูกกว่า
-
อยากรู้ครับ ถ้าเกิดเป็นรถไฟฟ้าแล้ว
รถยังต้องมีท่อไอเสียไหมครับ แบบจะมีเสียงเครื่องยนต์เร้าๆเหมือนที่เราๆใช้กันอยู่ไหมครับ แล้วถ้าไม่มีเสียงเร้าๆ รถแข่งในสนามก็คงจะเซ็งกันตายเลยครับ แหะๆ
-
โจมย์มันอยู่ที่ราคา กับค่าบำรุงรักษาล่ะครับ
เหมือน สมาร์ทโฟน พอมีรุ่นราคาหลักพันลงมา มือถือปุ่มกด ก็แทบจะหายไปเลย เหลือแค่ไม่กี่รุ่น เอาจริงๆ ปัจจุบันผมแทบไม่เจอคนใช้แล้วนะ
กล้องถ่ายรูป พอกล้องดิจิตอลออกมา และราคาไม่ต่างจากกล้องฟิลม์ กล้องฟิลม์ก็จบเลย
ร้านขายแผ่นซีดี ทั้งถูกลิขสิทธ์ และละเมิดลิขสิทธ์ พอเน็ตแรงระดับดูหนัง โหลดหนังสบายๆ ก็ทยอยปิดกันระนาว
ทั้งหมดมันใช้ระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น รถบนตร์พลังงานไฟฟ้า ถ้าราคาและค่าบำรุงรักษา เท่าๆกับรถใช้น้ำมัน ผมว่า ไม่ถึง 8 ปี บริษัทรถยนตร์ ก็เลิกทำรถยนตร์ใช้น้ำมันกันล่ะ ก็จะเหลือแต่อะไหล่ให้รถรุ่นเดิมๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไป คงเหมือนกล้องฟิลม์ ที่ใช้แค่ตั้งโชว์กับ เล่นในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
รถยนต์บางทีมันก็ไม่เร็วเหมือนอุตสาหกรรมอื่นนะครับ
ผมเห็นรถยนต์มี4ล้อ ใช้โช๊คอัพ มีไฟหน้า ไฟท้าย กระจกมองข้าง มาตรวัดเข็ม(สมัยนั้นอยากเป็นดิจิตอลมาก แต่มาจริงไปไม่รอด)
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าเองก็มีมานานแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่า nissan leaf เคยเปิดตัวรุ่นแรกไว้ปีไหน
ผมว่า 8ปี มีให้เลือก แต่ ไม่มาทั้งตลาดแน่นอน
ลองดู hybrid ครับ ผมจำได้ว่าเคยจะซื้อ camry hybrid ปีนั้นคือ 2009 ปีนี้ 2017 สภาพ hybrid ดีขึ้นเช่น premium แต่บางตลาดตายไปแล้ว
ก็มันยังตอบโจทย์เรื่องราคา และค่าบำรุงรักษาไม่ได้ไงครับ ถ้าตอบโจทย์ตรงนี้ได้เมื่อไหร่ ผู้บริโภคก็เปลี่ยนแน่นอน
-
โจมย์มันอยู่ที่ราคา กับค่าบำรุงรักษาล่ะครับ
เหมือน สมาร์ทโฟน พอมีรุ่นราคาหลักพันลงมา มือถือปุ่มกด ก็แทบจะหายไปเลย เหลือแค่ไม่กี่รุ่น เอาจริงๆ ปัจจุบันผมแทบไม่เจอคนใช้แล้วนะ
กล้องถ่ายรูป พอกล้องดิจิตอลออกมา และราคาไม่ต่างจากกล้องฟิลม์ กล้องฟิลม์ก็จบเลย
ร้านขายแผ่นซีดี ทั้งถูกลิขสิทธ์ และละเมิดลิขสิทธ์ พอเน็ตแรงระดับดูหนัง โหลดหนังสบายๆ ก็ทยอยปิดกันระนาว
ทั้งหมดมันใช้ระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นเอง
เพราะฉะนั้น รถบนตร์พลังงานไฟฟ้า ถ้าราคาและค่าบำรุงรักษา เท่าๆกับรถใช้น้ำมัน ผมว่า ไม่ถึง 8 ปี บริษัทรถยนตร์ ก็เลิกทำรถยนตร์ใช้น้ำมันกันล่ะ ก็จะเหลือแต่อะไหล่ให้รถรุ่นเดิมๆ ซึ่งพอเวลาผ่านไป คงเหมือนกล้องฟิลม์ ที่ใช้แค่ตั้งโชว์กับ เล่นในกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น
รถยนต์บางทีมันก็ไม่เร็วเหมือนอุตสาหกรรมอื่นนะครับ
ผมเห็นรถยนต์มี4ล้อ ใช้โช๊คอัพ มีไฟหน้า ไฟท้าย กระจกมองข้าง มาตรวัดเข็ม(สมัยนั้นอยากเป็นดิจิตอลมาก แต่มาจริงไปไม่รอด)
ส่วนเรื่องรถไฟฟ้าเองก็มีมานานแล้ว นานจนผมลืมไปแล้วว่า nissan leaf เคยเปิดตัวรุ่นแรกไว้ปีไหน
ผมว่า 8ปี มีให้เลือก แต่ ไม่มาทั้งตลาดแน่นอน
ลองดู hybrid ครับ ผมจำได้ว่าเคยจะซื้อ camry hybrid ปีนั้นคือ 2009 ปีนี้ 2017 สภาพ hybrid ดีขึ้นเช่น premium แต่บางตลาดตายไปแล้ว
ก็มันยังตอบโจทย์เรื่องราคา และค่าบำรุงรักษาไม่ได้ไงครับ ถ้าตอบโจทย์ตรงนี้ได้เมื่อไหร่ ผู้บริโภคก็เปลี่ยนแน่นอน
ผมเห็นด้วยกับทั้งพี่นิวและพี่ไน้ซ์ว่ามันขึ้นอยู่กับราคาและค่าใช้จ่าย และในส่วนของ
อุตสาหกรรมรถยนต์นั้น ราคารถไฟฟ้าคงไม่ลงเร็วและค่าใช้จ่ายก็คงไม่ได้ถูกกว่า
รถน้ำมันแบบเป็นเท่าตัวหรอกครับ
เรื่องราคานั้นคงเอาไปเทียบว่ามันจะลงเร็วเหมือนกับพวก Gadget ที่ต้นทุนวัสดุต่ำ
มากไม่ได้หรอกครับ ใครที่ชอบพูดว่าราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าลงเร็วก็ลองไปดูพวก
ตู้เย็นหรือเครื่องซักผ้าก็ได้ รถยนต์มันจะประมาณนั้นอ่ะครับ
-
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือ
-ผู้คนจะเลิกขับรถเอง
-พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติ
-ซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
สมุติฐานมีงานวิจัยหรืออะไรมารองรับไหมครับ เหมือนนั่งมโนอะ
เอาแค่โครงสร้างพื้นฐานที่จะผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอเพื่อรองรับแนวคิดนี้ใน8ปีจะมีซักกี่ประเทศที่ทำได้
จะเอาอะไรมาผลิตไฟฟ้า ในเมื่อโรงไฟฟ้าบางแห่งก็ยังต้องใช้เชื้อเพลงปิโตรเลียมพวกแก้สธรรมชาติกันอยู่เลย
แถมราคารถไฟฟ้าขับขี่อัตโนมัติ จะถูกกว่าน้ำมัน10เท่า แค่นี้ก็ไม่มีทางเป็นไปได้แล้วครับ
สมมุติรถน้ำมัน1ล้าน ถูกกว่า10เท่าคือขายแค่แสนเดียว ??
ก็แล้วแต่วิจารณญาณในการเสพสื่อฮะ
นั่นสิ คนเขียนเอาหลักฐานอะไรมาอ้างอิงว่าจะเป็นแบบนั้น เพราะรถขับอัตโนมัติหลายประเทศไม่อนุญาต เพราะเป็นกฎหมายแลมีแนวโน้มว่ายังไม่อนุญาตไปอีกนาน แถมห้ามนำมาทดลองวิ่งบนถนนอีกด้วย
รถไฟฟ้าอายุทนทานกว่ารถน้ำมัน และราคาถูกกว่าเป็น 10 เท่า ข้อนี้เอาหลักฐานตรงไหนมาในเมื่อปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แบบที่กล่าวมาเลยซักข้อ รถไฟฟ้าอายุไม่ทนทานเท่ากับรถเครื่องยนต์สันดาป ไม่ใช่แค่แบตเตอรี่แต่มันมีส่วนอื่นอีก ราคาซ่อมอะไหล่ส่วนอื่นที่ไม่ใช่แบตก็แพง มาก ๆ ทั้งอายุของรถและราคารถ รวมถึงราคาซ่อมไม่มีอะไรถูกกว่าเลย แต่กลับนำมาอ้างเฉย ๆ ว่าถูกกว่า
เดาว่าเฮียแกใช้แนวๆ Moore's law ที่ ชาว tech ชอบใช้กันครับ แนวๆว่า ทุกๆ X ปี ประสิทธิภาพจะเป็นเท่าตัว โดยที่ต้นทุนเหลือครึ่งเดียว ... ซึ่งมันพอจะใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ แต่กับรถ ... ไม่น่า
-
อยากรู้ครับ ถ้าเกิดเป็นรถไฟฟ้าแล้ว
รถยังต้องมีท่อไอเสียไหมครับ แบบจะมีเสียงเครื่องยนต์เร้าๆเหมือนที่เราๆใช้กันอยู่ไหมครับ แล้วถ้าไม่มีเสียงเร้าๆ รถแข่งในสนามก็คงจะเซ็งกันตายเลยครับ แหะๆ
แนะนำไปลองขี่โกคาร์ที่ทะเลสาบเมืองทองดูครับ ^^
ถ้าไม่มีเวลาลองฟังเสียงหวานๆจากโกคาร์ทต่างประเทศไปพรางๆ เร้าใจพอตัวครับ
https://youtu.be/2ruIiBtuTp8
-
ใครพอจะรู้บ้างครับ ว่าค่าไฟฟ้าที่โรงงานประกอบรถยนต์ใช้ต่อเดือน ประมาณเท่าไหร่
-
ราคาน้ำมันไทยอ้างอิงตลาดโลกได้หรอคับ? ;D
-
ทำไม ชอบ ไป เทียบ กับ มือ ถือ
iPhone รุ่นแรกเปิดตัวเท่าไรครับ 2 หมื่น กว่า
แล้ว ทุก ปี ราคา มันลง ไหม ครับ ไม่ ครับ
แพงขึ้นทุกปี
Iphone8 จะเปิดตัวเร็วนี้ ราคา ประมาณ 3-4 หมื่น
ไม่ เห็น จะ ถูก ลง เลย
ดังนั้นรถไฟฟ้าจะถูกกว่า 10 เท่า
แค่นี้ผมก็เลิกอ่านต่อละ
-
คาดการณ์แนวโน้ม ณ ตอนนี้ ใครจะพูดอะไรก็ได้ครับ
ถ้าของมันถ้าจะเกิดจริง เมื่อถึงเวลาจะมาแบบเร็วจนเหลือเชื่อ จนหลายๆคนปรับตัวไม่ทัน หรือไม่ก็จะกลายเป็นเพียงข่าวโคมลอยเป็นกระแสชั่วขณะแล้วหายไป
ผมว่าไอ้ข่าวพวกคาดการณ์อนาคตแบบนี้ อ่านเอาฮาไม่ก็ประดับหัวไว้เล่นๆ ไม่ต้องจริงจังกับมันมากหรอกครับ
-
ผมไม่เชื่อ เพราะขนาดเมื่อหลายปีก่อน ผมดูรายการ Top Gear Jeremy Clarkson บอกว่าเครื่องยนต์ 12 สูบจะไม่มีอีกต่อไป (ตอนนั้นรถรุ่นอะไรไม่รู้บอกว่าเป็นรุ่นสุดท้าย) สุดท้ายทุกวันนี้ยังมีอยู่เพียบเลย W12 ที่ประจำการอยู่ใน Bently ก็ยังอยู่ซะด้วยซ้ำ
-
มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นหรอกครับ
จะเลิกใช้รถเครื่องยนต์น้ำมัน ไปใช้รถไฟฟ้า ... แล้วกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งโลก ทุกวันนี้ มีอยู่แค่ไหน ?
จะสร้างโรงไฟฟ้า (ผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชนิดอื่น) ซักโรงสมัยนี้ ง่ายเหรอ ???
แล้ว วัตถุดิบพลังงานของโรงไฟฟ้าโรงใหม่ จะมาจากอะไร ???
นิวเคลียร์ ? / ถ่านหิน ? / โซล่าร์เซลล์ ? / น้ำมัน ? / ก๊าซธรรมชาติ ?
เคยมีคนๆ ไหน คิดบ้างมั้ยว่า จะเปลี่ยนรถใช้น้ำมันทุกคันบนโลกวันนี้ ไปเป็นรถพลังงานไฟฟ้าหมด ทั่วทั้งโลก
ต้องสร้างโรงไฟฟ้า กี่โรง ???
-
ถ้าถึงขั้นบริษัทน้ำมันล้ม 8 ปีมันเร็วเกินไป
อย่าลืมว่าปิโตเลียม ไม่ได้ใช้ในรถยนต์เท่านั้น
และรถยนต์ยังมีบางชิ้นส่วนที่ต้องใช้สารหล่อลื่นอยู่
คิดว่า 20 ปีประเทศที่เจริญแล้วจะใช้รถไฟฟ้าหรืออื่นๆทั้งหมด
แต่ประเทศล้าหลังจะต้องมีรถที่ใช้เครื่องยนต์ขายอยู่
-
Tesla ก่อตั้งปี 2004 ตอนนีี้ก็ 13 ปีเรายังเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย อีก 10 ปีข้างหน้าประเทศเราก็คงมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก (ถ้าไม่เกิดสงครามหรือภัยพิบัติซะก่อน)
เห็นข่าวว่าจะมี Tesla model Y ราคาจะถูกกว่า model 3 อีก ต่อไปเราคงเข้าถึงรถไฟฟ้ากันได้มากขึ้น
-
ใครจะคิดว่ามือถือจะเข้ามามีบทบาทในชีวิต มากมายขนาดนี้ เชคเมล์ ส่งงาน vdo call ฯลฯ
ระบบ E-commerce ที่คิดว่าไม่รอดก็กลับบูมแบบไม่คาดคิด อยู่บ้านรอของมาส่ง
ระบบ auto ต่าง ๆ ที่ทำให้พนักงานเริ่มหดหายมาแทนด้วย Robot - software
- รถไฟฟ้าผมว่าไม่นานถ้ามีคนเข้ามาบุกเบิก แค่วันใดรถไฟฟ้า MA ถูกกว่ารถสันดาป น่าจะเห็นภาพชัดเลย
-
ไม่ใช่สำหรับบ้านเราแน่ๆครับ
-
ประเทศพัฒนาแล้ว อเมริกา ยุโรป อาจจะใช่
แต่บ้านเรา รถใช้น้ำมันต้องอยู่อีกอย่างต่ำๆ 30 ปี แน่นอนครับ
-
ยังเร็วเกินไป บ้านเราความพร้อมรับมือยังน้อยครับ
-
คหสต.นะครับ สำหรับบ้านเราคงอีกนานเรื่องนั้น บางประเทศไม่แน่ แต่ 8 ปีเร็วไปหน่อยครับ และกำลังซื้อรถของคนไทยจะซื้อรถไฟฟ้าแบบนั้นไหวยังไง แค่กึ่งไฟฟ้าหลักล้าน ถ้าไฟฟ้ามาเต็มคงเหนื่อยน่าดู ภาษีนำเข้ารถเราสูงเกินไป ราคารถในประเทศเลยแพง...(ในความรู้สึก)
-
ใน 8 ปีผมว่าไม่มีทางหรอกเนื่องจากรถไฟฟ้าต้องใช้ในที่ที่มีความเจริญเข้าไปถึงเท่านั้น
กลางป่าเขา รถน้ำมันยังคงครองความได้เปรียบอยู่ในด้านการขนส่งพลังงานที่มีความยืดหยุ่นกว่า
ส่วนเรื่องรถยนต์ไร้คนขับนั้นคาดว่ามาเร็วกว่าที่คิดแน่ๆเนื่องจากระบบคอนโทรลในรถทุกอย่างเป็นระบบ drive by wire หมดแล้ว
แค่ติดตั้งระบบ auto เพิ่มก็จบ ยกเว้นใช้งานในท้องที่ไร้ถนนเช่นกลางทะเลทรายหรือป่าเขา ทางนั้นยังต้องการความชำนานเฉพาะด้านอยู่