Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ กันยายน 22, 2017, 19:55:24
-
เอาเฉพาะรุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มbenz owner thailand มีโพสท์ใหม่ๆไม่เว้นสัปดาห์ ปัญหาแบบขึ้นยานแม่ คอมแอร์พัง ภายในแตกหักกับรถใหม่ๆ เสียสารพัดอาการ ..
คนที่ไม่โพสท์ ไม่เล่นเว็บนี่มีอีกเยอะนะครับ อีกเท่าไหร่ไม่รู้
ทำไมเบนซ์ถึงได้มาตรฐานต่ำลงแข่งกับFord เยี่ยงนี้ครับ
ใครทำอะไรพลาดในการผลิต? หรืออกแบบ?
หมดยุกแล้วจริงๆกับเบนซ์ทน?
ขออภัยที่ไม่สามารถเอามาลงได้หมด ปัญหามันเยอะจริงๆ รถหมดประกันขายเป็นมือสองปุ๊ปเข้าอู่ปั๊ป จอดจะล้นอู่แล้ว อู่แทบแตก...
-
ผมว่าอาการคล้ายนิสสันคือลดต้นทุนชิ้นส่วนหลายอย่างลงจนมันพังไวขึ้น ชนิดคนใช้รุ่นเก่าๆยังงงว่ามันพังง่ายกว่าคันเก่าจัง
-
ทุกรุ่นที่มีปัญหาผลิตจากโรงงานในไทยใช่หรือไม่
-
อะไรก็ไม่น่ากลัวเท่าเบรคค้างเนี่ยแหละ เมื่อก่อนผมเลี่ยง e class ตัวที่มีระบบเบรคประหลาดมาทีละกลัว นี่มาโผล่รุ่นที่เราใช้อีก55 กรรม
-
แอบสงสัย
คือ ได้ยินมาว่า Benz กับ กลุ่ม Nissan (และเรโนว์) ถือหุ้นไขว้กัน (เล็กน้อย)
นโยบายเรื่องลดต้นทุน จาก Nissan คงลามมาที่ Benz ด้วยหรือเปล่าคับ
เพราะมีการ joint หุ้น และน่าจะเรื่องอื่นๆ ด้วย บุคลากร แนวคิดคับ
-
เบรคค้างผมเคยเจอทีนึง น่ากลัวมาก ส่วนใหญ่คนใช้เบ๊นซ์ใน กทม. โชคดีตรงที่มันค้างตอนคลานๆในเมืองตอนรถติดๆ เบี่ยงเข้าข้างทางได้
ไม่อยากคิด ถ้าไปค้างตอนซัดอยู่ 140 นี่ คงได้ด่าไปถึงเยอรมัน
-
อีกปัญหานึงเจอกันบ่อยเหมือนระเบิดเวลา หมดประกันปุ้ปสมองคุมเกียร์เสียปั้ป ราคาแพงมาก
-
ทุกรุ่นที่มีปัญหาผลิตจากโรงงานในไทยใช่หรือไม่
เมืองนอกก็บ่นกันเยอะครับ ไม่ใช่แค่ที่ไทย เคยหาข้อมูลผ่านๆอยู่ ใน MBWORLD ก็ชะตากรรมไม่ต่างกัน
เห็นคอมเม้นนึงใน Youtube ใน Review Lexus LS500 ว่า เขาก็จะย้ายไป Lexus เหมือนกัน อ่านคร่าวๆได้ว่า รถ S Class ที่ใช้ บางทีก็ขึ้นไฟแปลกๆ หรือแม้แต่เคยนอนจอดศูนย์เดือนนึง ถึงจะมีประกัน แต่รถที่ซื้อมามันไม่ได้ใช้ รถไม่ได้ให้ความรู้สึก ปลอดภัย อุ่นใจในการเดินทาง (ว่ามันจะไม่เสียกลางทาง)
โพสมาจัดหนักจัดเต็มพอดูเลย :-\
หมดยุครถยุโรปทนทานนานแล้วละผมว่า หลังจาก W124 ผมว่าคงเป็นรุ่นสุดท้ายที่มันทนทานละ เท่าที่ชอบอ่านตาม Club รถนี่เห็นชัดเลย
BMW Benz หรือวอลโว่ เหมือนจะมีคำถามเกี่ยวกับรถเสียได้ทุกวัน :-\
-
ทุกรุ่นที่มีปัญหาผลิตจากโรงงานในไทยใช่หรือไม่
ถ้าตามที่เจ้าของกระทู้โพสก็ใช่ครับ
-
ผมนี่ก็สังเกตมาสักระยะแล้ว ดูจากในเว็บพันดิ๊ฟ
-
ผมยังจำภาพที่เศรษฐีเกาหลีเอาไม้กอล์ฟฟาดกระหน่ำ mb ไก้ติดตาเลย
คงลามไปทั่วโลกแล้วล่ะ
-
ของผม e200 kom w211 ตอนใช้ได้3ปี ขึ้นยานแม่มาแล้วครับ ปัญหาจะเฟืองแอดวานซ์ ดีที่ตอนนั้นได้ good view claim เลยไม่เสียเงิน
-
พี่คนรู้จักมี C200 w205 ขึ้นเช็คไฟหน้า ช่างเช็คบอกว่าตัวคอนโทรลไฟหน้าเสีย แล้วเจอรอยคราบน้ำตรงตัวกล่องอีกจะไม่เคลมให้ ราคาหลายหมื่นคุยไปคุยมาก็เคลมให้จนได้ครับ รวมทั้งโช้คมีเสียงเวลาขึ้นลงลูกระนาดอีก ช่างบอกว่าหยอดน้ำมันเอา จากที่ฟังเขาเล่ามาก็จุกจิกเหมือนกันนะเนี่ย ถ้าเคลมได้ง่ายๆ ก็แล้วไป ถ้าหมดประกันล่ะก็......
-
ต่อให้ไม่ต้องขึ้นยานแม่ ค่าอะไหล่นี่ก็โหดเอาการ
-
ไม่นานมานี้ขับไปแถวอโศกเห็น s-class กำลังขึ้นยานแม่
ภายนอกไม่เห็นเป็นอะไรเลย งงเหมือนกันครับ :-\
-
ทุกรุ่นที่มีปัญหาผลิตจากโรงงานในไทยใช่หรือไม่
ตัวประกอบนอกก็มีปัญหาหลายอย่างครับ แต่ส่วนใหญ่ post กันไปนานแล้ว
-
เบนซ์ตั้งแต่ Bluetech Hybrid นี่น่ากลัวจริงๆ
แต่เรื่องขึ้นยานแม่ รถผมแค่ยางรั่วก็โทรเรียก Star Asist ให้มาแบกไปร้านยางแล้วครับ ของฟรีต้องใช้ให้คุ้ม
-
ทุกรุ่นที่มีปัญหาผลิตจากโรงงานในไทยใช่หรือไม่
ผมติดตามดูอยู่เรื่อยๆในกรุ๊ปนี้ W213 E220d ตัวประกอบนอก เกียร์เสียไปสองคันแล้วครับ อยู่ในประกันเคลมฟรี แต่ใช้เวลาตรวจสอบครึ่งเดือน รอเกียร์จากเมืองนอกอีก1เดือน
แม้จะฟรี แต่เสียเวลา เสียความรู้สึก ขยาดกันไปหลายคนแล้วครับ
แต่ส่วนมากก็ไม่ได้เสียหรอกมั้งครับ เพราะตามเวป ตามเพจ ก็มักจะลงแต่ปัญหาทั้งนั้น คันที่ไม่เสียก็ใช้ไปแบบเงียบๆ
-
ML250 ที่พ่อผมใช้อยู่ ก็ปัญหาเยอะ รถอายุ 3 ปี
ปัญหาไฟเครื่องโชว์เร่งไม่ขึ้น เป็นซ้ำมา 3 รอบแล้ว
พวงมาลัยปรับได้บ้างไม่ได้บ้าง 2 รอบ
ช่องปรับลมแอร์ตรงกลางหัก
จริงๆ ไม่อยากโพสปัญหาสักเท่าไหร่ กลัวตอนขายราคาตก 555
-
คงต้องทำใจ หมดประกันขาย ขาดทุนก็ต้องรับสภาพ :'(
-
ผมนี่ไงก็เป็นอีกคนที่เจอปัญหาจุกจิกมาก รถไม่ถึงปี ยิ่งไม่ถึง 2หมื่นโล
ตอนนี้รู้สึกว่าจะไม่คบกับ Benz อีกแล้ว คิดผิดที่ซื้อจริงๆ ศูนย์บริการก็แย่ลง
-
เอ
เท่าที่ผมเข้าใจตอนนี้ลูกค้าของ Benz ส่วนมาก คือ ลูกค้าใหม่หรือเปล่าครับ
เห็นเพื่อนๆ ญาติผม ที่ใช้รถญี่ปุ่น พวก D-car C-cross up grade ขึ้นไปใช้กันเยอะ
เช่นพวก CLA GLA C-class ตัวล่าง
เทาาที่ฟังดูคนเข็ดขยายกันมากจริงๆ ครับ
-
ลุง Jeremy ก็เคยพูดถึงคุณภาพของรถเบ๊นซ์ไว้คร่าวๆเหมือนกันครับ เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
ฟังๆดู ก็ลดต้นทุนนั่นแหละ
https://www.facebook.com/CHandMTopGearVideos/videos/1426416530787275/
7.17-8.10
-
BENZเค้าเป็นมานานแล้วครับสำหรับเรื่องจุกจิกเนี่ย ที่เคยใช้แล้วไม่ค่อยจุกจิกก็มีW124 W210รุ่นก่อนFaceครับ ถัดจากนั้นก็มีปัญหาประจำรุ่นกันตลอด เพื่อนผมถอยS300 Hybridมาได้ไม่ถึงปีก็บอกว่าคอมแอร์พัง ผมถามSAก็ได้คำตอบว่า ซ่อมกันเกือบทุกวันสำหรับรุ่นนี้ครับ
-
เอ
เท่าที่ผมเข้าใจตอนนี้ลูกค้าของ Benz ส่วนมาก คือ ลูกค้าใหม่หรือเปล่าครับ
เห็นเพื่อนๆ ญาติผม ที่ใช้รถญี่ปุ่น พวก D-car C-cross up grade ขึ้นไปใช้กันเยอะ
เช่นพวก CLA GLA C-class ตัวล่าง
เทาาที่ฟังดูคนเข็ดขยายกันมากจริงๆ ครับ
ลูกค้าใหม่ลูกค้าเก่าบ่นยับกันหมดครับ
-
W124 ยุคที่เป็น E หน้า ตอนป้ายแดง มันก็ไม่เบานะ เรื่องชุดสายไฟในห้องเครื่องแตกกรอบ น่ะครับ ตอนนั้นมี W202 ร่วมชะตากรรมอีกคัน เคลมกันสนุกเลยครับ
-
เอระบบ Hybrid มาใส่ โดยที่ขาดองค์ความรู้ รุ่นแรกๆก็เป็นหนูดลองกันไป >:(
ลดต้นทุนชี้นส่วน >:(
-
แล้วถ้าเทียบกับ BMW ละครับ เท่าที่เคยผ่านตาบนท้องถนนจะเจอแต่เบนซ์จอดเทียบยานแม่แต่ไม่ค่อยเห็นบีเอ็มเท่าไหร่นะครับ มี BSI 5 ปีด้วยก็น่าจะอุ่นใจกว่าด้วยมั้ย?
-
ระบบอิเล็กทรอนิกส์เยอะๆเต็มรถ ต้องระมัดระวังให้มากครับ มันพร้อมที่จะเสียได้ทุกเวลา
-
แล้วถ้าเทียบกับ BMW ละครับ เท่าที่เคยผ่านตาบนท้องถนนจะเจอแต่เบนซ์จอดเทียบยานแม่แต่ไม่ค่อยเห็นบีเอ็มเท่าไหร่นะครับ มี BSI 5 ปีด้วยก็น่าจะอุ่นใจกว่าด้วยมั้ย?
เท่าที่ดูๆBMW หลังหมด BSI ก็มีนะครับ แต่มันจะมาจากรถเก่าไม่ใช่รถใหม่ๆในประกัน
มีเกียร์พังเพราะไม่ถ่ายน้ำมันกียร์ เครื่องรั่ว คอมแอร์ ไดชาร์จ เพราะอายุรถมากกว่า
-
ระบบมันต่อพ่วงโยงกันไปหมด อย่างเช่นเครื่องยนต์มีปัญหา ระบบก็จะสั่งงานให้เบรครถล้อหยุดไม่ให้ขับต่อเพื่อความปลอดภัย
หรือระบบเบรค ABS มีปัญหา ระบบก็จะตัดเข้าเซนเซอร์ที่ Save Mode ไฟโชวืขึ้นเครื่องยนต์ไม่ทำงานสตาร์ทไมไ่ด้ หรือเข้าเกียร์แล้วรถไม่วิ่ง คือระบบมันมีการต่อพ่วงถึงกันแบบนี้ ถ้าระบบใดระบบนึงมีปัญหา ก็จะไม่ให้ขับรถคันนี้ต่อ
เรื่องเิกิดอะไรขึ้นคงต้องย้อนไปดูว่าตั้งแต่สมัยปี 2000 ขึ้นมา เบนซ์ก็ออกแบบรถด้วยแนวคิดอีกแบบนึงพัฒนาในแบบประเทศที่เจริญแล้ว วัสดุรีไซเคิ้ล อายุการใช้งาน + กับมลพิษและระบบต่าง ๆ ที่ต้องเติมเข้าไป ทั้งดีเซล มันจุกจิก หรือ Plug in Hybrid ที่มันจุกจิกเพิ่มมากขึ้น การใช้งานในเมืองร้อนการจราจรติดขัด
-
เป็นครับไม่ต้อง hybrid
ของผมเป็นเยอะมากไว้ค่อยเล่า
BMW หลังbsiก็เสียครับ
-
อย่าให้เป็นแนวคิดของบริษัทรถยนต์ที่ต้องการให้ลูกค้าเปลี่ยนรถบ่อยๆ เพราะบ้านเรารถมันแพง
-
เครื่องเบนซินล้วน ปี2010มา หลักๆปัญหาก็มี เฟืองแอดวานซ์ สมองเกียร์ ปั้มน้ำ แต่ผมใช้มา2คันในช่วง 6 ปี ไม่เคยซ่อมอะไรเลย จะมีจุกจิกบ้างก็ speed sensor ล้อที่เสียแล้ว abs esp ไม่ทำงาน อันตรายนะครับ(เพราะเอาไปวัดทางเข้าต้องลุยทางลูกรังหลายกิโล) r172
ถามว่าเรื่องพวกนี้เป็นปกติมั้ย ถ้าสำหรับคนที่มีรถสำรองก็ปกติครับเพราะมันเสียกันได้ แต่ถ้าใช้เป็นรถหลักหงุดหงิดแน่ครับถ้ามันเสีย
>>>>> ส่วนตัวผม จะเลี่ยง hybrid เบนท์ ครับ ฝั่งญี่ปุ่นใช้ก็ยังไม่เคยเสียครับ
คันล่าสุด glc43 coupe มี โลโก้ม่าน airbag เสาa มีเกือบหลุดเพราะใส่มาไม่ดี มันก็มีดีเฟคเล็กๆน้อย รับได้ก็รับกันไปครับ
มันก็แล้วแต่คัน แล้วแต่ดวง แล้วแต่ปล่อยวางครับ อีกเรื่องคือไฟหน้าครับ ฝนตกหนักๆไอเกาะข้างในเต็ม แต่จะหายไปเอง>> ที่พิมพ์ๆมาจุกจิกเยอะเหมือนกันนะครับ
-
สมัยก่อนบ้านผมขับ w212 e200 โชคดีตรงที่ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว วิ่งไปได้เกือบแสนโลครับ ตอนนี้ขายทิ้งซื้อ 520d f10 จะแสนโลแล้วเหมือนกัน ก็ยังไม่มีปัญหาอะไรเลย
---
แต่เท่าที่ดูตอนนี้ ให้ซื้อเบนซ์ใหม่ คงต้องเว้นกันซักพักหละครับ กลัวจริงจัง
-
แล้วถ้าเทียบกับ BMW ละครับ เท่าที่เคยผ่านตาบนท้องถนนจะเจอแต่เบนซ์จอดเทียบยานแม่แต่ไม่ค่อยเห็นบีเอ็มเท่าไหร่นะครับ มี BSI 5 ปีด้วยก็น่าจะอุ่นใจกว่าด้วยมั้ย?
เท่าที่ผมใช้มาหลายคันคิดว่า BMW รุ่นใหม่ๆ defect น้อยกว่า Benz ครับ ช่วงที่รถยังใหม่ BMW ไม่มีต้องเครมจุกจิกอะไรส่วน Benz นี่โช๊คดังเร็วมาก เรื่องการประกอบรถ BMW ที่ประกอบในก็ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนครับ
-
เอ
เท่าที่ผมเข้าใจตอนนี้ลูกค้าของ Benz ส่วนมาก คือ ลูกค้าใหม่หรือเปล่าครับ
เห็นเพื่อนๆ ญาติผม ที่ใช้รถญี่ปุ่น พวก D-car C-cross up grade ขึ้นไปใช้กันเยอะ
เช่นพวก CLA GLA C-class ตัวล่าง
เทาาที่ฟังดูคนเข็ดขยายกันมากจริงๆ ครับ
ลูกค้าใหม่ลูกค้าเก่าบ่นยับกันหมดครับ
แต่ก็แปลกนะที่เบนซ์ยังขายดีมาก หรือเพราะว่าลูกค้าหน้าใหม่อยากซื้อเบนซ์กับลูกค้าเก่ายังเชื่อมั่น มีกำลังซื้อก็เลยซื้อเบนซ์
-
ผมไม่ได้เป็นติ่งเบ๊นซ์ แต่ก็ใช้มา 3 คันแระ รุ่น 124 ก็เคยโดนมาครับ รถแค่ 3 เดือน ecu พัง รุ่น 211 พอหมดประกันก็มีปัญหาเรื่องปั๊ม sbc มาเป็นระยะ เคยใช้บีเอ็มกับวอลโว่ก็ปัญหาจุกจิก ล่าสุดอัลพาร์ดตัวปัจจุบัน วิ่งแค่ 3 หมื่นโลเกียร์ยังพังเลยครับ ทั้งหมดทั้งมวลมันอยู่ที่การออกแบบและต้นทุนวัสดุทั้งนั้น
-
W204 ซื้อมา 1 เดือน เวลาจอดเหยียบเบรคแล้วรถสั่นทั้งรถ
W205 350e (ของเพื่อน ) ซื้อมา 2 อาทิตย์ ยางรั่วและแบน ( ไม่มีสาเหตุ )
แต่ที่ซาวเสียงมา ถ้ามีรถหลายคันจะฮาๆกันไป ถ้ามีรถคนเดียวนี่ด่าระงม :(
-
ไฟน้าฝ้าขึ้น ถ้าไม่ขึ้นไม่ใช่ของแท้555
-
ดูตามสภาพ ที่บ้านเคยมี BENZ แต่ขายไปแล้ว ไปซื้อยุ่นแทน
ผมว่าปัญหามีทุกค่าย อยู่ที่ว่าจะ focus กับรุ่นไหน คันไหน หรือค่ายไหน
ปัจจุบัน social มันเร็ว นิดหน่อย หนักหนา ลง social แปปเดียว ถึงครูอังคนา แต่สมัยก่อน แทบจะเผารถทิ้ง ทุบรถประจาน ก็ไม่ค่อยเห็น ยกเว้นจะเป็นข่าว
รุ่นเก่าๆ ไช่จะทน อย่างที่พูดๆ (ทนจริง เป็นบางรุ่น) ลองไปดู S ตัวเก่าๆ ดูครับ มือสอง บางคนไม่มองเลย ระบบไฟฟ้ารวน ข้อเข่าทรุด ซ่อมไม่จบ บลาาา
รถที่คนว่าดูมีราศรี จ่ายแพง ความคาดหวังก็เยอะ ยิ่งคนที่เพิ่งได้เป็นเจ้าของครั้งแรก คันแรก มีรถคันเดียว ยอมควักเงินเก็บเพื่อได้มา ย่อม เจ็บหนัก แค้นแรง เป็นเรื่องธรรมดา ครับ
ปล.ค่ายนี้เมืองนอก คือ แท็กซี่ ครับ (สมัยเรียนอยู่ Italy ค่ายนี้ถือว่าธรรมดา ไม่ได้ดูไฮ อะไรเลย)
-
W124 ยุคที่เป็น E หน้า ตอนป้ายแดง มันก็ไม่เบานะ เรื่องชุดสายไฟในห้องเครื่องแตกกรอบ น่ะครับ ตอนนั้นมี W202 ร่วมชะตากรรมอีกคัน เคลมกันสนุกเลยครับ
รถมัน20กว่าปีแล้วนะครับ ยี่ห้ออื่นนี่ก็กรอบแตกเหมือนกันต่างกันที่ตัดรถย่อยไปแล้ว
-
เป็นบุญของคนจนอย่างผมจริงๆ ....
ขับกระบะ ท้นทน .... วิ่งมา 1.2แสนโลแล้ว ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ...
-
Bmw ก็ขึ้นนะครับอิๆ
x3 ผมเพิ่งส่งขึ้นยานแม่ไปเข้า0
มีสองรายการ
Abs show/flat tyre monitor failure
วิ่งมา75,000โล ลุ้นอยู่ว่าจะเป็นไงน้อ
ไม่รู้เพราะขับโหดเกินไปป่าว มุดมันมากคันนี้ กระทืบไม่ยั้ง
ส่วนอีกคัน528i จะสามปียังไม่มีอาการใดๆเลย
เพิ่งเจออาการครั้งแรก ปรกติใช้งานดีไม่มีปัญหาใดๆครับ
-
โดนกันเพียบเลยแฮะ ไม่เคยใช้รุ่นใหม่ๆ แต่เห็นคนแถวบ้านบ่นอยู่ e250 7 speed 2 ปี โดนสไลด์ไปศูนย์ 3 รอบ เอือมระอาเลย อยู่สุพรรณไปตายกลางทางงี้ จอดไว้หน้าบ้าน สตาร์ทไม่ติดเลยงี้
-
ที่บ้านใช้BMWพอหมดBSIก็มาตามนัดเหมือนกันครับ
-
ถ้าจะเอา Reliability ก็ต้องรถญี่ปุ่นเท่านั้นครับ ยุคนี้อยากได้ภาพลักษณ์ก็ต้องเสี่ยงกันหน่อย
-
ตอนนี้ MB ยังไม่เจอปัญหา แต่ก็หวั่นๆว่าจะไปเจอตอนหมดประกัน
ล่าสุดเจอตอน F02 หมดประกันได้แปบเดียว ฝาท้ายไฟฟ้าเสียเลยครับ
-
ราคาเบนซ์รุ่นใหม่ ราคาถูกน่าซื้อ แต่ถ้ามีปัญหาแบบนี้ก็น่ากลัวเหมือนกัน
-
แล้วจะให้มั่นใจกับรถไฮบริดได้ยังไงกัน :'( :'( :'(
-
แล้วถ้าเทียบกับ BMW ละครับ เท่าที่เคยผ่านตาบนท้องถนนจะเจอแต่เบนซ์จอดเทียบยานแม่แต่ไม่ค่อยเห็นบีเอ็มเท่าไหร่นะครับ มี BSI 5 ปีด้วยก็น่าจะอุ่นใจกว่าด้วยมั้ย?
เท่าที่ผมใช้มาหลายคันคิดว่า BMW รุ่นใหม่ๆ defect น้อยกว่า Benz ครับ ช่วงที่รถยังใหม่ BMW ไม่มีต้องเครมจุกจิกอะไรส่วน Benz นี่โช๊คดังเร็วมาก เรื่องการประกอบรถ BMW ที่ประกอบในก็ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจนครับ
เห็นด้วยครับ ผมว่า bmw ตอนนี้พวกดีเซล ค่อนข้างทนนะ ไม่จุกจิก
-
.
.
.
ผมใช้ CLA250 ตัวประกอบนอก มา 4 ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย
และได้โปรดอย่าเอาไปเทียบกับ BM เลย
จำนวนที่ขายออกไปมันก็ต่างกันประมาณนึงอยู่แล้วครับ
รถเยอะกว่าก็เจอปัญหาเยอะกว่าเป็นธรรมดา
-
ใช้ C-Coupe W204 มาเข้าปีที่5 แล้ว ยังไม่เจอปัญหาหนักครับ มีคนเตือนว่า อีกไม่นานจะโดน เฟืองแคม กับชุดคอนโทรลเกียร์ 2จุดนี้รวมกันแสนกว่าบาท ส่วนตัวคิดว่า ถ้าชิ้นส่วนที่เปลี่ยนกลับไปยืนอายุได้ไม่น้อยกว่า part เดิมจากรถ แล้วดูแลดีๆ ก็ถือว่ายอมรับได้ครับ
-
e300 hb fl ผมก็เป็นตอนหกหมื่น ไฟรันแฟลตขึ้นพร้อม ESP โชว์ แล้วเบรควืดเหมือนจะจม ขณะเลี้ยวขึ้นเขาอยู่ด้วย น่ากลัวมาก ขายทิ้งไปแล้ว ไม่กลับไปคบเบนซ์อีก บริการหลังการขายก็แย่ ตอนนั้นที่ซื้อคงเป็นค่านิยมเก่าๆที่เราได้สะสมมา
-
ซื้อแต่โครงเอาภาพลักษณ์ ไส้ในจับเปลี่ยนเป็นของญี่ปุ่นดีไหมครับ ;D
-
เพื่อนที่ย้ายจากMB Thailandไปอยู่BMW Thailandแต่ทำงานอยู่Customer Serviceเหมือนกันบอกกับผมว่าเสียจุกจิกทั้ง2ยี่ห้อพอๆกันครับ ส่วนตัวมองว่ารถฝรั่งระบบไฟฟ้าและช่วงล่างซับซ้อนมากทำให้โอกาสเสียมีเยอะครับ Volvoก็ไม่เบาเหมือนกัน พอใช้สักแสนโลก็มาเป็นชุดเลย ไม่นับรวมอาการเสียประจำรุ่นครับ รุ่นพี่ที่ทำงานกับบริษัทญี่ปุ่นตั้งแต่จบจนเกษียณเคยบอกผมว่า บริษัทญี่ปุ่นกว่าจะตัดสินใจได้ต้องเห็นด้วยกันทุกคน ตรงนี้คิดว่าน่าจะทำให้รถญี่ปุ่นส่วนใหญ่จุกจิกน้อยกว่ารถฝรั่งแต่ก็ทำให้นวัตกรรมใหม่ๆเอามาใช้ช้ากว่าเช่นกันครับ
-
ที่บ้านใช้อยู่ 4 คัน ไม่มีปัญหาอะไรหนักหนามาก เหมือนรถทั่วไป อะไหล่ก็ไม่ได้แพงอะไรมาก แต่ถ้าเป็น hybrid นี่เห็นว่าปัญหาเยอะจริงจัง
-
ตั้งแต่ W212 มาเหมือนจะพังง่ายขึ้นมากๆๆๆ คนรอบข้างบ่นทุกคน
-
bmwพวกเชื่อศูนย์มากเกินหลังหมดbsiเกียร์ลาโลกเครื่องเร่งไม่ออก
น้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยน น้ำมันเครื่องลากใช้กันยาวๆ เครื่องพังหลายคันแล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องรถเสียบปลั๊กของฝรั่งกับญี่ปุ่น เหมือนฝั่งหยุ่นจะดูน่าลงทุนกว่านะ
8)
-
:-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X :-X
-
นับว่าในเว็บนี้มีคนใช้รถเบนซ์โดนไม่มีปัญหาอะไรเลยเยอะจริงๆครับ
ดีแล้วครับ
-
bmwพวกเชื่อศูนย์มากเกินหลังหมดbsiเกียร์ลาโลกเครื่องเร่งไม่ออก
น้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยน น้ำมันเครื่องลากใช้กันยาวๆ เครื่องพังหลายคันแล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องรถเสียบปลั๊กของฝรั่งกับญี่ปุ่น เหมือนฝั่งหยุ่นจะดูน่าลงทุนกว่านะ
8)
ขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ยครับ bmw เครื่องดีเซล เกียร์ ZF 8 speed ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ กี่กม. ดี ได้ยินว่าค่าเปลี่ยนนมก.รอบนึงแพงเอาเรื่อง
-
bmwพวกเชื่อศูนย์มากเกินหลังหมดbsiเกียร์ลาโลกเครื่องเร่งไม่ออก
น้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยน น้ำมันเครื่องลากใช้กันยาวๆ เครื่องพังหลายคันแล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องรถเสียบปลั๊กของฝรั่งกับญี่ปุ่น เหมือนฝั่งหยุ่นจะดูน่าลงทุนกว่านะ
8)
ขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ยครับ bmw เครื่องดีเซล เกียร์ ZF 8 speed ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ กี่กม. ดี ได้ยินว่าค่าเปลี่ยนนมก.รอบนึงแพงเอาเรื่อง
2ปี/4หมื่นโล แล้วแต่ระยะไหนถึงก่อนครับ
-
bmwพวกเชื่อศูนย์มากเกินหลังหมดbsiเกียร์ลาโลกเครื่องเร่งไม่ออก
น้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยน น้ำมันเครื่องลากใช้กันยาวๆ เครื่องพังหลายคันแล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องรถเสียบปลั๊กของฝรั่งกับญี่ปุ่น เหมือนฝั่งหยุ่นจะดูน่าลงทุนกว่านะ
8)
ขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ยครับ bmw เครื่องดีเซล เกียร์ ZF 8 speed ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ กี่กม. ดี ได้ยินว่าค่าเปลี่ยนนมก.รอบนึงแพงเอาเรื่อง
2ปี/4หมื่นโล แล้วแต่ระยะไหนถึงก่อนครับ
4หมื่นโล ถือว่าโอเคเลยครับ เพราะเปลี่ยนที่ 0 ราคาแพงมาก ผมเปลี่ยน ZF 8speed ทั้งเบนซิน, ดีเซล ไม่เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยซ้ำ ราคา ประมาณ 18,000 +- ทั้งคู่ครับ
แต่ถ้าอยากลากยาว แนะนำว่าไม่ควรเกิน 80,000 โลครับ เกินนี้จะเสี่ยงมากแล้ว กับรถวิ่งในบ้านเรา
อันนี้จากข้อความจากเว็บ ZF นะครับ
All ZF transmissions are filled as standard with semi-synthetic or fully synthetic premium grade oil ZF-LIFEGUARDFLUID. Optimized lubrication properties reduce fuel consumption and, in turn, CO2 emissions. Under normal conditions, the oil lasts a vehicle's entire life cycle, but it can age prematurely in case of excessive loads such as from frequent use of trailers or quick, sporty driving. An oil change should therefore be recommended after 80,000 to 120,000 kilometers or eight years.
ZF Aftermarket also makes the OEM quality of ZF transmission oils available to the free spare-parts market.
-
ขอบคุณคุณ Arm และคุณ Bingoman ครับ ผมมีประสบการณ์เรื่องเกียร์มาจาก Captiva แล้วครับ เรื่องน้ำมันเกียร์ lifetime กับรถเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ๆ นี่ลืมไปได้เลย แถมรถรุ่นใหม่ๆ นี่แหละตัวดี น้ำมันเกียร์มีผลต่อประสิทธิภาพของเกียร์มากขึ้นกว่าเกียร์อัตโนมัติสมัยก่อนเยอะเลย
เปลี่ยนน้ำมันเกียร์อย่างเดียวไม่เกินสองหมื่นยังพอรับได้ครับ ดีกว่าเกียร์พังแน่นอน แต่กะว่าจะรอเปลี่ยนตอนรอบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องรอบที่ 4 (48,000km) น่าจะพอได้อยู่นะ ;D
bmwพวกเชื่อศูนย์มากเกินหลังหมดbsiเกียร์ลาโลกเครื่องเร่งไม่ออก
น้ำมันเกียร์ไม่เคยเปลี่ยน น้ำมันเครื่องลากใช้กันยาวๆ เครื่องพังหลายคันแล้ว
ส่วนประเด็นเรื่องรถเสียบปลั๊กของฝรั่งกับญี่ปุ่น เหมือนฝั่งหยุ่นจะดูน่าลงทุนกว่านะ
8)
ขอคำแนะนำหน่อยได้มั้ยครับ bmw เครื่องดีเซล เกียร์ ZF 8 speed ควรเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทุกๆ กี่กม. ดี ได้ยินว่าค่าเปลี่ยนนมก.รอบนึงแพงเอาเรื่อง
2ปี/4หมื่นโล แล้วแต่ระยะไหนถึงก่อนครับ
4หมื่นโล ถือว่าโอเคเลยครับ เพราะเปลี่ยนที่ 0 ราคาแพงมาก ผมเปลี่ยน ZF 8speed ทั้งเบนซิน, ดีเซล ไม่เปลี่ยนกรองเกียร์ด้วยซ้ำ ราคา ประมาณ 18,000 +- ทั้งคู่ครับ
แต่ถ้าอยากลากยาว แนะนำว่าไม่ควรเกิน 80,000 โลครับ เกินนี้จะเสี่ยงมากแล้ว กับรถวิ่งในบ้านเรา
อันนี้จากข้อความจากเว็บ ZF นะครับ
All ZF transmissions are filled as standard with semi-synthetic or fully synthetic premium grade oil ZF-LIFEGUARDFLUID. Optimized lubrication properties reduce fuel consumption and, in turn, CO2 emissions. Under normal conditions, the oil lasts a vehicle's entire life cycle, but it can age prematurely in case of excessive loads such as from frequent use of trailers or quick, sporty driving. An oil change should therefore be recommended after 80,000 to 120,000 kilometers or eight years.
ZF Aftermarket also makes the OEM quality of ZF transmission oils available to the free spare-parts market.