Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ ตุลาคม 22, 2017, 13:45:04
-
:) :) :) ก่อนหน้านี้ซัก 20 ปีที่แล้วถ้าเราตัดใจซื้อ MB หรือ BMW นอกจากได้ใช้รถที่ดีกว่ารถทั่วไปอย่างชัดเจนแล้ว ก็ยังมีหน้ามีตาในสังคม และการที่จ่ายเงินซื้อไปด้วยราคาที่แพง ผู้คนจำนวนมากก็หวังว่าจะดูแลรักษาและใช้กันไปนานๆเป็นสิบปี เพราะคิดว่ารถแพงก็ต้องมีความทนทานกว่ารถทั่วไปด้วยครับ
:o :o :o แต่ทุกวันนี้น่าเสียดายที่รถ Premium เดี๋ยวนี้กระแสโดยทั่วไปก็จะแนะนำให้ใช้กันประมาณ 4-5 ปีเอง เวลาคุยกับ เซล MB BMW ก็มักพูดแนะนำอย่างนี้เหมือนกันครับ 4-5 ปีก็เปลี่ยนได้แล้วครับ แล้วก็ผ่อนคันใหม่ดีกว่า. นึกไปก็น่าเสียดายนะครับ
-
ไม่ใช่แค่ของบ้านเราหรอกครับ
ทุบเบนซ์โชว์ ของต่างประเทศก็เยอะนะ ทุบ S Class เผา Series 7
ไม่เกี่ยวว่ารถมันซับซ้อนขึ้น ทำให้จุกจิกขึ้น (ดักบางคนไว้ก่อนเลย) แต่มันอยู่ที่การออกแบบที่ดีอย่างไร ที่จะทำให้รถมีอายุการใช้งานยาวนาน และสะดวกในการดูแลรักษา
ส่วนนี้ผมว่า BMW หรือ Benz ทำได้แย่ในช่วงหลังๆ ผมรอชมอยู่ว่า หลัง BSI ตัว f10 ,จะทนขึ้นกว่าสมัย e60 หรือเปล่า หรือต้องเจอปัญหาหลากหลายแบบเหมือนสมัยรุ่นพี่เหมือนเดิม
เห็นคลิปดูแลรักษา BMW E66 แล้ว ผมว่าตอนออกแบบ เขา น่าจะคิดว่าคนใช้ ใช้จนทำให้แบบสึกหรอหมดจนพังแล้วทิ้งนะผมว่า การออกแบบในการจะซ่อมแซมกลไกบางอย่างของรถ ส่วนมากจะต้องรื้อใหญ่เกือบทั้งคัน ไม่ได้ออกแบบมาเผื่อแกะซ่อมหรือไว้ดูแลรักษาเลย
https://youtu.be/Mh1sqnuJ0bQ
----- เพิ่มนิดนึง
เมืองนอก พอรถพังแล้วก็ทิ้งเป็นขยะ สุดท้ายก็ตัดหัวท้ายมาส่งเป็นอะไหล่ขายตามเซียงกงบ้านเรานี่ละครับ เคยดูพวก wheeler dealer บางทีไปหาอะไหล่จากกองขยะรถพวกนี้นี่ละ
พังจุดเดียว แกะรื้อทีหลายขั่วโมง สมมติค่าแรงช่างชั่วโมงหลายๆพันในเมืองนอก ทำสักสิบชั่วโมงแพงกว่าราคามือสองรถไปละ
สมมติ ค่าแรงช่างสัก 800 ต่อชั่วโมง ในไทย ทำยี่สิบชั่วโมงกับการรื้อ ก็ 16000 ละ เฉพาะค่าแรง ไม่รวมอะไหล่
ใช้ยุโรปมือสอง ไม่ใช่แค่ต้องมีเงินสดก้อนๆไว้เผื่อซ่อมรถ ต้องมีรถสำรองและมีเวลาด้วยนะผมว่า
-
ไม่ใช่แค่ของบ้านเราหรอกครับ
ทุบเบนซ์โชว์ ของต่างประเทศก็เยอะนะ ทุบ S Class เผา Series 7
ไม่เกี่ยวว่ารถมันซับซ้อนขึ้น ทำให้จุกจิกขึ้น (ดักบางคนไว้ก่อนเลย) แต่มันอยู่ที่การออกแบบที่ดีอย่างไร ที่จะทำให้รถมีอายุการใช้งานยาวนาน และสะดวกในการดูแลรักษา
ส่วนนี้ผมว่า BMW หรือ Benz ทำได้แย่ในช่วงหลังๆ ผมรอชมอยู่ว่า หลัง BSI ตัว f10 ,จะทนขึ้นกว่าสมัย e60 หรือเปล่า หรือต้องเจอปัญหาหลากหลายแบบเหมือนสมัยรุ่นพี่เหมือนเดิม
เห็นคลิปดูแลรักษา BMW E66 แล้ว ผมว่าตอนออกแบบ เขา น่าจะคิดว่าคนใช้ ใช้จนทำให้แบบสึกหรอหมดจนพังแล้วทิ้งนะผมว่า การออกแบบในการจะซ่อมแซมกลไกบางอย่างของรถ ส่วนมากจะต้องรื้อใหญ่เกือบทั้งคัน ไม่ได้ออกแบบมาเผื่อแกะซ่อมหรือไว้ดูแลรักษาเลย
https://youtu.be/Mh1sqnuJ0bQ
ไม่เผื่อระยะการซ่อมแซมเลย เห้อ
-
ของแพง
ของพรีเมี่ยม
ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีความทนทานใช้งานได้ยาวนานเสมอไปหรอกครับ
สินค้าอื่นที่เป็นของพรีเมี่ยมก็เหมือนๆกับรถนี่หล่ะครับ (บางอย่างนะครับไม่ใช่ทุกอย่าง)
-
มีโอกาสได้เดินไปดูตามเต้นท์รถ รถยุโรปแพงๆ ใช้มาประมาณ 4-5 ปี วางเต็มเลย เห็นแล้วเกิดกิเลส
-
ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยครับ ผมเองใช้รถยุค 90 ควบคู่ไปกับรถยุคปัจจุบัน มองว่ารถยุคใหม่ให้อะไรเยอะกว่ามากที่ราคาเดียวกันหลังหักเงินเฟ้อแล้วนะครับ
สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกซื้อรถในระดับที่เรามีกำลังจะเปลี่ยนได้ทุก 5-6 ปี หรือ วางแผนว่าจะซ่อมยังไงถ้าคิดจะใช้ต่อไปซักพัก แล้วเราจะมีความสุขกับรถยุคใหม่ครับ
-
ผู้ผลิตก็ต้องการขายสินค้าใหม่เรื่อยๆ คิดว่ารถญี่ปุ่นก็เช่นกัน
ถ้าจะให้ทนเหมือน 20 ปีก่อนคงยากแล้ว
-
ก็รอซื้อต่อซิครับ....
-
ของแพง
ของพรีเมี่ยม
ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมีความทนทานใช้งานได้ยาวนานเสมอไปหรอกครับ
สินค้าอื่นที่เป็นของพรีเมี่ยมก็เหมือนๆกับรถนี่หล่ะครับ (บางอย่างนะครับไม่ใช่ทุกอย่าง)
+1 ครับ
สินค้าหลายๆอย่าง (ส่วนมาก แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง) แบรนด์ที่พรีเมี่ยมมากกว่า ก็ไม่ได้หมายความว่าอายุการใช้งานจะมากกว่า
อายุการใช้งานไม่ได้ต่างกันมากเลย แต่ส่วนมากเป็นในเรื่องของคุณภาพวัสดุ คุณภาพขณะการใช้งาน ประสิทธิภาพ ภาพลักษณ์ ฯลฯ เสียมากกว่า
อย่างนาฬิกาเรือนละ หมื่น หรือ แสน หรือ เรือนละล้าน อายุการใช้งานก็พอๆกัน
หรือทีวีเครื่องละ หมื่น หรือ 5หมื่น หรือ เป็นแสนๆ อายุการใช้งานก็พอๆกันทั้งหมดครับ
ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยครับ ผมเองใช้รถยุค 90 ควบคู่ไปกับรถยุคปัจจุบัน มองว่ารถยุคใหม่ให้อะไรเยอะกว่ามากที่ราคาเดียวกันหลังหักเงินเฟ้อแล้วนะครับ
สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกซื้อรถในระดับที่เรามีกำลังจะเปลี่ยนได้ทุก 5-6 ปี หรือ วางแผนว่าจะซ่อมยังไงถ้าคิดจะใช้ต่อไปซักพัก แล้วเราจะมีความสุขกับรถยุคใหม่ครับ
ผู้ผลิตก็ต้องการขายสินค้าใหม่เรื่อยๆ คิดว่ารถญี่ปุ่นก็เช่นกัน
ถ้าจะให้ทนเหมือน 20 ปีก่อนคงยากแล้ว
+1 ครับ
ไม่เฉพาะรถยุโรปครับ ญี่ปุ่นก็พอๆกันครับ ไม่ทึกทนเท่าสมัยก่อนครับ เจอมากับตัว
-
ไม่ใช่แค่ของบ้านเราหรอกครับ
ทุบเบนซ์โชว์ ของต่างประเทศก็เยอะนะ ทุบ S Class เผา Series 7
ไม่เกี่ยวว่ารถมันซับซ้อนขึ้น ทำให้จุกจิกขึ้น (ดักบางคนไว้ก่อนเลย) แต่มันอยู่ที่การออกแบบที่ดีอย่างไร ที่จะทำให้รถมีอายุการใช้งานยาวนาน และสะดวกในการดูแลรักษา
ส่วนนี้ผมว่า BMW หรือ Benz ทำได้แย่ในช่วงหลังๆ ผมรอชมอยู่ว่า หลัง BSI ตัว f10 ,จะทนขึ้นกว่าสมัย e60 หรือเปล่า หรือต้องเจอปัญหาหลากหลายแบบเหมือนสมัยรุ่นพี่เหมือนเดิม
เห็นคลิปดูแลรักษา BMW E66 แล้ว ผมว่าตอนออกแบบ เขา น่าจะคิดว่าคนใช้ ใช้จนทำให้แบบสึกหรอหมดจนพังแล้วทิ้งนะผมว่า การออกแบบในการจะซ่อมแซมกลไกบางอย่างของรถ ส่วนมากจะต้องรื้อใหญ่เกือบทั้งคัน ไม่ได้ออกแบบมาเผื่อแกะซ่อมหรือไว้ดูแลรักษาเลย
https://youtu.be/Mh1sqnuJ0bQ
ผมติดตามตา Hoovers อยู่ครับ แกขาย S600 แล้วไปซี้อ Bentley
รถถูกส่งมาจากจากฟินแลนด์ แกสงสัยว่ารถอาจไปอยู่ในมือพวกแก๊งค์รัสเซีย เพราะชายแดนติดกัน แล้วสิ่งที่สงสัยดันกลายเป็นจริงซะด้วย
-
สมัยก่อนตอนจัดประกอบยังต้องใช้คนช่วยเยอะ
ทำให้การออกแบบเอื้อต่อการเข้าถึง เลยซ่อมง่ายเป็นผลพลอยได้
เดี๋ยวนี้ใช้หุ่นยนต์ การออกแบบก็เป็นโมดูลก้อนๆ เอามารวมๆกัน
คนเลยซ่อมยากขึ้น กับวิถีคนยุโรปเปลี่ยนรถได้บ่อยๆ ก็เลยยังถูไถไปได้เรื่อยๆด้วยมั้งครับเนี่ย :-\
-
ผมก็มีแผนใช้แค่ 4-5 ปี นะครับ
-
ก็รอซื้อต่อซิครับ....
ซ่อมไม่ไหวครับ ไม่งั้นผมก็ซื้อรถยุโรปไปนานแล้ว
-
รถพรีเมี่ยมที่ใช้ยาวๆแล้วปัญหาน้อยก็คงเป็น Lexus ล่ะครับ
แต่เค้าดันบวกราคาป้ายแดงไปเกินฝั่งเยอรมันมากไปซะจนมันไม่น่าซื้อเลย
แถมภาพลักษณ์ก็ยังเป็นรองเขาอยู่นิดๆ
-
ต้องเปลี่ยนไปตามยุคสมัยครับ ผมเองใช้รถยุค 90 ควบคู่ไปกับรถยุคปัจจุบัน มองว่ารถยุคใหม่ให้อะไรเยอะกว่ามากที่ราคาเดียวกันหลังหักเงินเฟ้อแล้วนะครับ
สิ่งสำคัญคือเราต้องเลือกซื้อรถในระดับที่เรามีกำลังจะเปลี่ยนได้ทุก 5-6 ปี หรือ วางแผนว่าจะซ่อมยังไงถ้าคิดจะใช้ต่อไปซักพัก แล้วเราจะมีความสุขกับรถยุคใหม่ครับ
+1ครับ
-
เรื่องซ่อมรถพวกนี้ต้องทำใจ ยุโรปสมัยใหม่ซ่อมทีต้องรื้อเยอะบางเคสที่ผมโดนก็ต้องถอดเครื่องออกมาซ่อม ยุ่งยาก เสียเวลา ประกอบกลับไม่ดี เซ็นเซอร์หลุดไปตัว ขับๆแล้วตายกลางทางเรียกยานแม่ก็เคยมาแล้ว รื้อทีเลยต้องเอาให้จบ ก็เลยแพง ฟังดูเป็นภาระ คนก็ขายทิ้ง
นาฬิกา Premium อย่าง AP, Rolex เสียขึ้นมาที ค่าซ่อมก็ 2-3 หมื่น++ ในขณะที่ Seiko ใส่ลุยแทบตายก็ยังเดินดีไม่มีเสีย แต่มันก็แทนกันไม่ได้หรอก หาเงินมาได้ก็จ่ายกันไป ถ้ารักจะเล่น
-
รถพวกนี้ ถ้าบำรุงรักษาดี ซ่อมถึง ไม่งกไร้สาระ ผมเชื่อว่าใช้ได้นาน ไม่ต่างกับสมัยก่อนครับ
แต่ขอเว้น plug-in hybrid กับ hybrid ไว้นะ เพราะอันนั้นซ่อมแพงจนน่ากลัว และแบตเตอร์รี่มันเสื่อมตามเวลา
-
เหมือนเทรนของผู้ผลิต ที่บังคับผู้บริโภคนิดๆ ว่าออกแบบมาให้ใช้ได้แบบไม่มีปัญหามากมายที่5ปี
อายุเกินนั้นเริ่มมีงอแง ทำให้พิจารณาผู้บริโภคพิจารณาเปลี่ยนคันใหม่มั้งครับ เมื่อคันใหม่มี
ทั้งเทคโนโลยี ทั้งหน้าตาที่ทันสมัยไปเรื่อย ทั้งค่าซ่อมคันเก่าที่เทียบกับผ่อนใหม่แล้ว เลยอยากถอยคันใหม่555
-
ผมใช้ยุโรปมาตลอด จนมาหยุดที่ E60 ครับ เพราะจับประวัติการซ่อมแล้วถึงรู้ว่ามันไม่ได้ทนเหมือน E34 E39 แล้วครับ
สุดท้ายก็ปรับตัวนิดหน่อยใช้ญี่ปุ่นป้ายแดง 4-5 ปีแล้วเปลี่ยนใหม่คุ้มกว่าครับ เพราะผมวิ่งปีล่ะ 50,000-60,000 โล BSI 2 ปี ผมก็ใช้ครบแล้วครับ
-
ผมว่า เทรนการใช้รถ ของคนรุ่นใหม่ก็เปลี่ยนไปนะครับ
เพื่อนๆที่ผมรู้จัก รุ่นๆเดียวกัน ใช้รถยุโรป ไม่เกิน 3-4 ปี ก็เปลี่ยนกันเยอะเลยนะครับ รุ่นใหม่มายั่วก็เปลี่ยนละ บางทีรถยังไม่เสียหนักๆ เลยครับ
-
ยอมรับว่าไม่ทนทานเหมือนรุ่นอายุ 20 ปีครับ อย่างคันที่มีอยู่ 10 ปีก็ทำไปเยอะ
และตามความรู้สึก รถที่เพิ่งซื้อช่วง 1-2 ปีนี้ยิ่งรู้สึกว่าอยู่ได้ไม่นาน ส่วนรถที่ไม่น่าเก็บผมเปลี่ยนก่อน 5 ปีทั้งนั้น
จริงๆแล้วผมเป็นประเภทที่อะไรเสียนิดหน่อย เริ่มออกอาการผมจะเปลี่ยนใหม่ครับ แบบนี้จะหนักค่าบำรุงรักษา และถ้าต้องการจะเก็บรถก็ยอมเสียครับ
อย่างที่บอก คันเก่าที่สุดของผม 10 ปี หมดค่าบำรุงรักษาไปมาก แต่ผมต้องการเก็บคันนี้ไว้ ถ้าเราดูแลให้ครบ รถก็ยังมีสภาพสมบูรณ์เหมือนรถใหม่ครับ
-
คงไม่มีแล้วล่ะครับ แบบทนๆ เพราะไม่งั้น บ.รถ ขายรถได้ไม่มาก กระทบไปถึง ผู้ผลิตชิ้นส่วนอีก
-
ของแพงและทนถึกยังมีอยู่นะครับ แต่ใช้แล้วไม่โก้หรูเหมือน รถยุโรปเท่านั้นเอง
รถที่ว่านั่นคือ lexusครับ พึ่งไปนั่งrx300รุ่นแรกมา ออกมายุคe39
ในขณะที่e39แทบจะศูนย์พันธุ์ไปจากถนนแล้ว แต่ rx300ยุคเดียวกัน วิ่งครองเมืองพนมเปญเลย
ถ้ารับได้กับเรื่องค่านิยม ผมว่ายี่ห้อนี้แหละ reborn w124
-
รถ MB BM รุ่นใหม่ๆ ไม่ค่อยทน ค่อนข้างจุกจิก โดยเฉพาะตระกูลเบนซิล และ hybrid plug-in
แต่จะพบหนาหูหนาตาใน MB มากกว่า
ถ้า MB ไม่ได้เรื่องค่านิยมในไทยนี่ เรียกได้ว่าน่าเป็นห่วง เพราะ เห็นพังตั้งแต่ป้ายแดง วิ่งในหลักพันต้นๆ น่าเป็นห่วงนะ
จริงๆ MBTH ควรจะเข้ามาดูแลและใส่ใจให้มากกว่านี้
ถ้าดูแลได้เหมือน BMW TH ที่มี BSI มาให้คลายความกังวลเรื่องซ่อมไปนี่
Premium brand อันไหนก็ ยากที่จะกินคุณ เพราะค่านิยม, ความเชื่อ และหลา่ยๆ สิ่งที่มีมาในไทย ทำให้คุณเป็นต่ออยู่หลายช่วง
ขนาดบางคนได้ศึกษามาแล้วรู้ว่า MB รุ่นใหม่ ปห. ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังอยากจะคว้ามาเป็นเจ้าของมากกว่ายี่ห้ออื่นๆ อีก
"รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง
รู้ว่าเหนื่อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง
ยังไงจะขอลองดูสักที"
Cr : เล่นของสูง - บิ๊กแอส
-
เอาจริงมันไม่ใช่แค่รถpremiumนะ รถยุโรปแบรนด์ธรรมดาก็เป็น volk ford โดยเฉพาะVolkบอกเลย พลาสติกภายในรถหลัง7ปีไปแล้วนี่เตรียมพร้อมย่อยสลายได้ทุกเมื่อคันก่อนใช้ Passat TDI 2004 พอครบ10ปีปุ๊ปนี่โดดแดดหน่อยพลาสติกเหนียวเลย ซักพักจับไปแตก โดดอะไรแรงหน่อยหัก
-
เอาจริงมันไม่ใช่แค่รถpremiumนะ รถยุโรปแบรนด์ธรรมดาก็เป็น volk ford โดยเฉพาะVolkบอกเลย พลาสติกภายในรถหลัง7ปีไปแล้วนี่เตรียมพร้อมย่อยสลายได้ทุกเมื่อคันก่อนใช้ Passat TDI 2004 พอครบ10ปีปุ๊ปนี่โดดแดดหน่อยพลาสติกเหนียวเลย ซักพักจับไปแตก โดดอะไรแรงหน่อยหัก
+1ครับ และจากที่เคยใช้จริง มันมีปัญหาแบบนี้มานานแล้วครับ ทั้ง.premium ก็ด้วย
-
งานออกแบบมันล้ำมากขึ้น. สวยมากขึ้น
W212 ผมว่าเอ้าท์ละก้ออยากเปลี่ยนอยู่
-
ลองจินตนาการถึงขยะโลหะขนาดชิ้นละหลายตันที่เกิดขึ้นปีละเป็นแสนเป็นล้านคันที่เกิดขึ้น.....ผมไม่แปลกใจที่ทำไมสภาพแวดล้อมโลกถึงมีแต่เสื่อมถอยลงทุกทีๆ เพราะมนุษย์เอาแต่คิดถึงการทำกำไรโดนไม่สนใจว่าโลกที่ตัวเองอยู่มันเลวร้ายลงไปอีกแค่ไหน โลกมนุษย์ที่คนอาศัยอยู๋ได้มีแค่ดวงเดียวเท่านั้นนะ....... :'(
-
ลองจินตนาการถึงขยะโลหะขนาดชิ้นละหลายตันที่เกิดขึ้นปีละเป็นแสนเป็นล้านคันที่เกิดขึ้น.....ผมไม่แปลกใจที่ทำไมสภาพแวดล้อมโลกถึงมีแต่เสื่อมถอยลงทุกทีๆ เพราะมนุษย์เอาแต่คิดถึงการทำกำไรโดนไม่สนใจว่าโลกที่ตัวเองอยู่มันเลวร้ายลงไปอีกแค่ไหน โลกมนุษย์ที่คนอาศัยอยู๋ได้มีแค่ดวงเดียวเท่านั้นนะ....... :'(
ที่เค้าให้มันไม่ทนเพราะต้องการให้เอาไปรีไซเคิลได้ง่าย มันไม่ได้เป็นขยะโลหะ พลาสติกภายในย่อยสลายเองได้ เหล็กเอาไปบดหลอมใหม่ แต่มันไม่ดีต่อผู้ใช้รถบ้านเราที่เน้นใช้กัน10-20ปีแบบบ้านเรา ที่เค้าทำมันดีต่อโลกไม่ได้แย่ลงครับ
-
Premiumญี่ปุ่นก็ซ่อมนะครับ
แหม พูดว่าไม่ต้องซ่อม ผมละห่วงแทนเพื่อนร้านขายอะไหล่รถญึ่ปุ่นเลย
Lexus ก็พังคาอู่ แต่รถมันน้อย ยอดขายไม่ได้เยอะ คนบ่นเลยยังน้อย อัตราพังพอๆกันนั่นแหละ คนยังๆม่พังก็ดีไปครับ
ลองไปหาดูครับ
เฟืองบาลานซ์
ABS/VSC Module
ชุดกระจกไฟฟ้า
กลอนไฟฟ้า
รีโมท อิโม สตาร์ทไม่ติด
วาวล์น้ำ ปั๊มน้ำ ท่อน่ำรั่วซึม
เบรคดังแก้ไม่จบต้องเปลี่ยนยกก้าม
ม่านหลังไฟฟ้า
ปุ่มกดต่างๆแตกหัก
คอนโซลลอก
บุชยางเสื่อมเร็ว
แท่นเครื่องเสื่อมเร็ว
ฯลฯ
ไอ้ที่คนว่าทนน่ะ คือคนใช้แล้วไม่มีปัญหาครับ คนที่ไม่ทน ขายรถทิ้งยังมีอยู่แต่ไม่ได้มาบ่นให้ฟัง
แต่ Benz รุ่นใหม่นี่ ผมยกให้ที่สุดเลย จุกจิกตั้งแต่ป้ายแดง รถถูกขายทิ้งมาก
BMW นี่ว่ากันไปตามรุ่น พวกขับหน้า ห้องเครื่องร้อนเทอร์โบร้อนๆก็เอาเรื่องไม่ใช่เล่น
-
ของแพงและทนถึกยังมีอยู่นะครับ แต่ใช้แล้วไม่โก้หรูเหมือน รถยุโรปเท่านั้นเอง
รถที่ว่านั่นคือ lexusครับ พึ่งไปนั่งrx300รุ่นแรกมา ออกมายุคe39
ในขณะที่e39แทบจะศูนย์พันธุ์ไปจากถนนแล้ว แต่ rx300ยุคเดียวกัน วิ่งครองเมืองพนมเปญเลย
ถ้ารับได้กับเรื่องค่านิยม ผมว่ายี่ห้อนี้แหละ reborn w124
เขมรใช้กันเยอะพอควรเลยครับ แล้วแต่ละคันขับแบบ เอ่อ..... :-X
-
รถ MB BM รุ่นใหม่ๆ ไม่ค่อยทน ค่อนข้างจุกจิก โดยเฉพาะตระกูลเบนซิล และ hybrid plug-in
แต่จะพบหนาหูหนาตาใน MB มากกว่า
ถ้า MB ไม่ได้เรื่องค่านิยมในไทยนี่ เรียกได้ว่าน่าเป็นห่วง เพราะ เห็นพังตั้งแต่ป้ายแดง วิ่งในหลักพันต้นๆ น่าเป็นห่วงนะ
จริงๆ MBTH ควรจะเข้ามาดูแลและใส่ใจให้มากกว่านี้
ถ้าดูแลได้เหมือน BMW TH ที่มี BSI มาให้คลายความกังวลเรื่องซ่อมไปนี่
Premium brand อันไหนก็ ยากที่จะกินคุณ เพราะค่านิยม, ความเชื่อ และหลา่ยๆ สิ่งที่มีมาในไทย ทำให้คุณเป็นต่ออยู่หลายช่วง
ขนาดบางคนได้ศึกษามาแล้วรู้ว่า MB รุ่นใหม่ ปห. ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังอยากจะคว้ามาเป็นเจ้าของมากกว่ายี่ห้ออื่นๆ อีก
"รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง
รู้ว่าเหนื่อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง
ยังไงจะขอลองดูสักที"
Cr : เล่นของสูง - บิ๊กแอส
เห็นด้วย