Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Coat145 ที่ พฤศจิกายน 05, 2017, 16:19:54
-
สวัสดีครับทุกท่าน
ผมใช้D-Segment มา3 เจนเเล้ว คือแคมรี่ พบว่าความจุกจิกไม่มีเรย เข้าเช็คระยะมาปกติ การประกอบใช้ได้ อัตราเร่งโอเค โดยรวมคือพอใจมาตลอดครับ พอมาวันนี้ เริ่มรู้สึกอยากได้ตราดาวมาประดับความฝันสักคัน ที่เล็งไว้คือ E350e ไปดูไปลองขับมาเป็นที่เรียบร้อย รู้สึกโอเครครับ พอใจภายนอกภายในครับ อยากทราบความเห็นท่านสมาชิกครับ ว่ารถยุโรปที่เค้าว่าจุกจิก ขึ้นยานเเม่ มันจริงมั้ยครับ ปัญหาเยอะจริงมั้ยครับ
โดยส่วนตัวผมไม่ซีเรียสกับราคาขายต่อมากนัก เพราะเเคมรี่ ACV50 ที่4ปีกว่าๆ ราคาก็ตกลงไปมาก ผมเป็นคนใช้รถวันละ100-200โลต่อวัน มีรถสำรองตามลายเซ็นด้านล่าง
ที่ใช้รถไฮบริดมาก็ประทับใจดีทุกอย่าง ทั้งอัตราเร่งเเเละความประหยัด เสียอย่างเดียวคือราคาตก ถ้าผมคิดในสไตร์นี้ E350e จะตอบโจทย์ผมได้หรือไม่ครับ
-
ถ้าเงินพร้อม ทั้งการซื้อ และ การดูแล ก็จัดเลย
-
คชจ. ดูแล อะไหล่ อย่างน้อยๆ ราคาคูณ 2 ถึง 2.5 จากของเดิม ถ้าไหว ก็จัดไปครับ ไม่รวมว่าราคาตกอีกเท่าไหร่ (เปอร์เซนต์เยอะไม่เยอะไม่รู้ แต่เงินที่ทำหล่นเยอะกว่าแน่ๆ)
-
ถ้าอยากได้ ไม่ขัดสน และ พร้อมที่จะเป็นเจ้าของแล้ว ก็จัดเบนครับ
ส่วนเหตุผล ก็แล้วแต่คน ครับ แต่ละคนโจทย์ไม่เหมือนกัน เหตุผลของหลายๆ คน
- อยากลองคบรถที่ดูดีกว่า แพงกว่า รถญึ่ปุ่นทั่วไป
- บางคนอยากซื้อเป็นรางวัลชีวิต
- บางคนอยากลองสมรรถนะ และ ออฟชั่น ที่รถญี่ปุ่นทั่วไป ให้ไม่ได้
- บางคนอายุ การงาน และทุนทรัพย์ มาบรรจบกันพอดี เลยอยากเป็นเจ้าของ
- บางคน คือ รถที่ไฝ่ฝัน
- บลาาาา
แต่ก่อนบ้านผมใช้ MB W211 แล้วมี PJS (ตัวก่อนหน้าอีกคัน) ส่วนมากแทบ 100% ที่บ้านใช้ (ผมมีรถของตัวเองอีกคัน) แต่ทุกวันนี้ขายไปแล้ว ซื้อ Camry มาขับ เพราะเวลามีปัญหา หรือ เวลาขับออกต่างจังหวัด เขาจะกลัวๆ ระแวงๆ ว่ามันจะปัญหากลางทางหรืออยุ่ ตจว. แล้วจะลำบาก พอมาใช้ Camry เขาอยากไปไหนก็ไป ขับสบายใจ ไปหลายๆ คนค่อยขับ PJS ไป เคยุามเขาว่าทำไมถึงขาย เขาบอกมาว่า ก็เอาสบายใจ ซื้อง่ายขายคล่อง ไม่ต้องลากใช้นาน ใช้ 4-5 ปี ซื้อคันใหม่ใช้ดีกว่า
-
ถ้าพร้อมก็ซื้อเหอะประสบการณ์ใหม่ครับ ผมใช้ c300 hb มา2ปีก็ยังไม่เคยขึ้นยานแม่ มีแต่รำคาญเสียงภายนอกและปัญหาเรื่องฝ้าขึ้นไฟหน้าตอนฝนตกแค่นั้น(แต่ตอนนี้เรื่องฝ้าจบล่ะ เข้าหน้าหนาวไม่มีฝนแล้ว55) ผมว่า 5 ปี น่าจะสบายๆใจได้อยู่นะ ยกเว้นจะแจ๊คพอร์ตจริงๆ
-
จัดเลยครับ ไม่งั้นไม่จบ มันจะยังติดค้างในความรู้สึก
สิ่งที่ค้องเตรียม คือ เงิน และใจ
อย่าไปคาดหวังมาก เจอแจ็คพอต ก็รับไป มันรักแล้ว ก็ต้องทำใจ
ผมก็เป็นแบบ จขกท ทุกวันนี้ใช้ทั้งd seg ,GLA250FL มีควทมสุขทุกครั้งที่ขับ แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงตามมา
ไม่สนครับ ความสุขทางใจ555
-
ขอเทียบแค่ดาวกับแคมรี่นะครับ
ถ้าต้องการความทนแบบพี่โต ตราดาวไม่น่าตอบโจทย์ ลองไปถามดูในกลุ่มคนใช้ดาวไฮบริดดูครับ
ราคาขายต่อแคมรี่หายหลายแสน ส่วนตราดาวไฟฟ้าหายเป็นล้าน
ภาพลักษณ์ ขับเบนซ์ยังไงก็ได้
ถ้าต้องการตามฝันและมีรถสำรองก็จัดครับ ประสบการณ์ตรงดีที่สุด
-
ไม่สนใจเรื่องราคาตก จัดไปเลยครับ
รุ่นนี้ปัญหาเยอะพอสมควรครับ ลองเข้าในคลับแล้วจะทราบ
ไม่ได้โจมตี Benz เพราะผมเองก็ใช้ Benz
แต่ผมเจอมากับตัวเลย ไม่เอารถ Hybrid อีกเลย
มันตกนี่ไม่ได้ตกตามความเป็นจริงที่มันควรจะเป็นนะครับ
ของผมนี่ 9 เดือน วิ่งไม่ถึงหมื่นโล ราคาตกไป 1.6 ล้าน (E300AMG)
เลยไม่เอาอีกเลยกับ Hybrid (ตอนนี้ผ่านมา 3 ปี จากซื้อ 4.1 ล้าน เหลือ ล้านปลายๆแล้วครับ)
-
ของแบบนี้ต้องลองสักคันครับ กำลังเงินไหวต้องลองครับ
แล้วจะได้ตอบตัวเองให้หายข้องใจว่า ควรจะไปต่อมั้ย
ของคุณ Nikkle_pk ที่ราคามันตกเยอะเพราะมันเป็นตัวท็อป
รถมือสองปีใหม่ๆ ตัวท็อปจะลงมากสุด เพราะมันต้องถูกกว่าตัวล่าง
ถึงจะขายได้ e300 ตัว amg สี่ล้านต้น ตัว e200 สามล้านสาม
จะขายมือสองมันก็ต้องถูกกว่า สามล้านสามไปอีก ตอนนั้น เต้นท์รับไม่ถึงสาม
จึงไม่แปลกครับ
-
ค่าบริการตามปรกติจะประมาณ 3-5 เท่านะครับ
รายการซ่อมเมื่อไม่มีประกันใดๆ จะประมาณ 5-10 เท่าครับ
ปัญาของเบนซ์มีตลอดครับ ลองหาข้อมูลดูได้ แม้รถเค้าจะมีปัญหาแต่คนไทยก็ยังซื้อ เหตุผลเดียวคืออยากมีไว้สักคัน ทั้งที่ premium มีหลายยี่ห้อมาก (ไม่เข้าใจ) หลังจากซื้อมาก็จะบ่นว่าเข็ดแล้ว เจอบทเรียนบ้างละ แต่หลังจากไม่มีสักพัก ก็จะซื้ออีก แล้วก็เริ่มวัตจักรนรกกันใหม่
จากใจคนอยู่ในวังวนนรกนี้
ถ้าใช้ toyota ทำไมไม่ไปลอง lexus ละครับ
ขอย้ำ มันไม่ใช่ toyota พูดจนหูฉีกปากฉีกเลยว่า มันไม่ใช่ toyota กรุณาลองก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ ลองมันให้ฟมดทุกยี่ห้อก่อน อย่าปิดทางเลือกตัวเอง
-
ของแบบนี้ฟังคนอื่นก็ไม่ได้คำตอบหรอก ยิ่งคาใจก็จะยิ่งไขว่คว้าหามัน ถ้าคิดว่าทุกอย่างพร้อมในการดูแล ใช้จริงแล้วจะได้ภูมิคุ้มกันเองแหละครับ ยังไงรถใหม่มันก็มีประกันคุณภาพ 3-5 ปี หาศูนย์บริการดีๆ ไว้ช่วยปรึกษาก็เบาใจได้เยอะ
ค่าบริการเขาว่าแพงๆ มันก็ตาม กม. ที่คุณใช้นั่นแหละ ใช้มากก็ดูแลรักษามากเป็นเรื่องธรรมดา จะให้ราคาเท่ารถญี่ปุ่นก็คงไม่ใช่ บางคนเคยใช้ก็บอกเท่านี้ บางคนไม่เคยใช้ฟังเขามาก็ตัวเลขเวอร์จนกลัวไปหมด
-
ไม่อยากให้ลองเลยครับ
-
โจทย์นี้ผมไป 520D หรือ 530i ครับ น่าจะโอเคกว่า
-
ค่าดูแลที่แพงกว่า ผมว่าจขกทน่าจะรับไหว
แต่ที่ไม่น่าจะเหมาะก็ความจุกจิกนี่หล่ะ
เสียทั้งเวลาและความสบายใจในการใช้รถครั้งต่อๆไป
จะเอาออกตจวก็กล้าๆกลัว เดี๋ยวไปกินข้าวลิง
-
ถ้างบไม่ใช่ปัญหา ก็ลองใช้ให้หายคาใจครับ อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่งในชีวิตครับ แล้วจะได้คำตอบเองครับว่าจะกลับไปใช้รถญี่ปุ่นหรือไม่ ไฮบริดหรือไม่ไฮบริด ของอย่างน้อยไม่ลองเองไม่รู้(ซึ้ง)ครับ
-
สวัสดีครับทุกท่าน
ผมใช้D-Segment มา3 เจนเเล้ว คือแคมรี่ พบว่าความจุกจิกไม่มีเรย เข้าเช็คระยะมาปกติ การประกอบใช้ได้ อัตราเร่งโอเค โดยรวมคือพอใจมาตลอดครับ พอมาวันนี้ เริ่มรู้สึกอยากได้ตราดาวมาประดับความฝันสักคัน ที่เล็งไว้คือ E350e ไปดูไปลองขับมาเป็นที่เรียบร้อย รู้สึกโอเครครับ พอใจภายนอกภายในครับ อยากทราบความเห็นท่านสมาชิกครับ ว่ารถยุโรปที่เค้าว่าจุกจิก ขึ้นยานเเม่ มันจริงมั้ยครับ ปัญหาเยอะจริงมั้ยครับ
โดยส่วนตัวผมไม่ซีเรียสกับราคาขายต่อมากนัก เพราะเเคมรี่ ACV50 ที่4ปีกว่าๆ ราคาก็ตกลงไปมาก ผมเป็นคนใช้รถวันละ100-200โลต่อวัน มีรถสำรองตามลายเซ็นด้านล่าง
ที่ใช้รถไฮบริดมาก็ประทับใจดีทุกอย่าง ทั้งอัตราเร่งเเเละความประหยัด เสียอย่างเดียวคือราคาตก ถ้าผมคิดในสไตร์นี้ E350e จะตอบโจทย์ผมได้หรือไม่ครับ
เลี่ยงเถอะครับพวกที่เป็น PLUG-IN HYBRID ขนาดผมใช้ E200 Coupe เครื่องสันดาปยังปวดหัวเลยมีหม้อน้ำรั่วมั้ง,แบต Eco start/stop เสื่อม, ยางรองแท่นเครื่องเสื่อม เชื่อว่าพออายุมากๆก็จะมาเพียบ
ถ้า PLUG-IN HYBRID ไม่ต้องพูด ถึงเขาจะรับประกันแบต 10ปี แต่ไอพวกตัวพ่วงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับแบตมันประกันแค่ 3 ปีเอง นี้ยังไม่รวมโช็ค Air-matic ด้วยน่ะครับ
อยากให้เลือกเครื่องสันดาปดีกว่าอย่าง 520d Sport ใช้ยาวๆสะบายใจกว่า
-
ถ้าชอบก็จัดดูเลยครับ มีรถสำรองหลายคันอยู่แล้วไม่น่าเป็นห่วง แต่ถ้าเป็นผมก็คงไม่เอาHybridครับ ถ้าเอาประหยัดผมจะใช้ดีเซลสบายใจกว่าครับ
-
ถ้าซื้อได้แบบไม่คิดอะไรมาก เช่น ราคาแพงไป หรือ ยอดผ่อนต่อเดือนเยอะเกิน ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ
เพราะค่าดูแล มันไม่แพงมากครับ Benz เข้าศูนย์ครั้งนึงประมาณ 10,000 ครับ ผมเข้าครั้งแรก 7,000 กว่าบาท ไม่ซีเรียสเลยครับ เพราะถ้ารถญี่ปุ่นถ่ายน้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ก็ 4 พันกว่าแล้วครับ
-
ของผมก็เป็น phev คันแรกครับ รวบรวมหาข้อมูลแล้วมาตัดสินใจสุดท้ายก็ซื้อมาลองใช้เองเลยครับ
ใช้มาจะเข้าเดือนที่2แล้วยังไม่เจอปัญหาอะไร(ก็แน่แหละรถใหม่อยู่5555)มีแต่ปัญหาเล็กน้อยประจำรุ่นท่ีแก้แล้วหายขาด แต่ถ้ามีปัญหาอื่นๆตามมาในอนาคตก็เรียนรู้และแก้ไขกันไปครับ ;)
-
ถ้ารับค่าใช้จ่ายได้ก็ลองดูครับ มันจะได้ไม่คาใจ บ้านผมก็ใช้ญี่ปุ่น,ยุโรปสลับกันไปเรื่อยๆแต่ช่วงหลังมาย้ายมาอยู่ตจว.เหลือแต่รถญี่ปุ่นแล้วใช้ยุโรปไม่สะดวกในหลายๆความหมาย แต่อนาคตก็ไม่แน่อาจจะกลับไปซื้ออีกครับ
-
คหสต.รถยุโรปน่าใช้กว่าทุกประการครับ แต่ไม่ใช่ hybrid
ยิ่งเคยใช้ hybrid ญี่ปุ่นแล้วประทับใจไม่จุกจิก (แถมเป็น hybrid toyota)
ก็เลยจะจับ hybrid ยุโรปด้วยความคิดนี้ ผมว่าคิดสไตล์นี้ไม่ได้ครับ ลองหาข้อมูลดีๆก่อน
ปล.ส่วนตัวผม นอกจาก Toyota Lexus ผมไม่ไว้ใจ hybrid ยี่ห้ออื่นเลยครับ
-
วันนี้ คุยกับรุ่นน้องคนหนึ่ง คนนี้มีความรู้เรื่องรถดีมาก ๆ อ่านเยอะ ทำการบ้านเรื่องรถเยอะ รู้จักช่าง รู้จักอู่เทพ ๆ หลายยี่ห้อ แล้วธุรกิจที่บ้านน้องคนนี้ จัดว่ารวยจัด ๆ บอกว่า BENZ ที่บ้านจุกจิกมาก ( ทั้ง S ทั้ง E ) โช๊ค Airmatic เสียทีซ่อมสองแสน UP แต่น้องเก่งครับ สามารถหาอะไหล่เทียบได้ ราคาสองหมื่นกว่าเอง แล้วให้ห่าง HB ไว้
ถ้าคิดว่า สามารถดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายได้ หาอะไหล่ราคาถูกเป็น มีอู่นอกซ่อมจบ เล่นได้ครับ
ปล. ค่าดูแล ไม่ธรรมดานะครับ น้อง ๆ ผมใช้ MB ทุกคนยังบ่นเลย เข้าศูนย์ทีละ 6-8000 บางทีก็ เกินหมื่น ถ้ามีเปลี่ยนอะไหล่บางที่ 5-6 หมื่น น้องชายโยนกุญแจ C200 มาให้ใช้ รถอายุ 5 ปีกว่า ให้ฟรี ๆ ผมยังไม่กล้ารับมาดูแลต่อเลย
-
เห็นใช้แคมรี่มาสามgenไม่จุกจิก
แต่มาhybridฝั่งเยอรมันตราดาว
อันนี้ไม่เหมือนที่เคยใช้แน่นอน
ดูจากเสียงบ่นในเว็บต่างๆได้
ตราดาวเลี่ยงhybridดีกว่าครับ
-
แนะนำครับ :-X
แนะนำว่าให้ระวัง
ระวังว่าจะไม่อยากกลับไปขับรถญี่ปุ่นอีกเลยครับ5555
-
ไม่เคยมีรถยุโรปเลย แล้วเริ่มต้นชีวิตรถเยอรมันด้วย E350e ผมว่าเยี่ยมเลย คุณได้ที่สุดของรถDซีดานดาวเยอรมันในทุกด้านของยี่ห้อนี้ รับได้ไม่ได้อยู่ที่เวลาและเงินในกระเป๋าแล้วครับ
จัดไปจะได้ไม่เสียใจที่ลองแล้ว อ่านดูเหมือนมีฐานะสร้างตัวมาแล้วคงผ่านชีวิตมามาก ผมว่าไม่น่าห่วง ดีหรือ ไม่ดีก็ได้ลองแล้วกับตัวเองครับ
-
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว Hybrid ยี่ห้ออื่นๆ มันไปเลยครับ อ่านแล้ว เหมือนอารมณ์เข้าป่าช้า แล้วฟังเพื่อนเล่าแต่เรื่องผีๆ ... ถ้าอยากลอง ลอง C350e ดูก่อนก็ได้ พอจะเจ็บน้อยลง(ถ้าจำเป็นต้องเจ็บขึ้นมา)
เป็นผมนะ เลี่ยงไปโดน LEXUS เลย อาจจะทนกว่า อย่างน้อยๆ ก็ดูอบอุ่นกว่าหน่อย ....ถ้ายังอยากจะไฮบริดก็ว่าไป แต่อย่าฟังแล้วเชื่อว่ามันเป็น "โตโยต้าพรีเมี่ยม" ไปทันทีละกัน อิๆ
-
จัดไปเลยครับตราดาว ส่วนค่าประกันที่ต้องจ่าย ความจุกจิกของรถเป็นเรื่องของอนาคตยังไม่ต้องคิดฮะ :P
-
อยู่ห่างๆ Hybrid ไว้ก่อนครับ เล่นพวก ดีเซลหรือ เบนซิลล้วนๆ 8)
PRIUSขายมาตั้งแต่ปี 2001 เทียบกับทางเยอรมันแล้วใครเป็นมือใหม่หัดทำ?
ดูบนถนนทุกวันก็รู้ใครขึ้นยานแม่บ่อยกว่ากัน พี่อู้ดโฉมล่าสุดนี่ผมยังไม่เคนเห็นบนยานแม่เลยครับ 8)
ลองเทียบราคาแบตหรืออะไหร่อื่นๆถ้าจำไม่ผิดเกือบสิบเท่าครับ :-X
-
ไฮบริดตราดาวเลี่ยงเถอะครับ ขึ้นยานแม่เป็นว่าเล่น บางคนอาจจะไม่เจอ แต่ถ้าพร้อมรับได้กับความจุกจิก ก็เลือกเลยครับ จะได้ไม่เสียดายภายหลัง ^^
-
ขอเทียบแค่ดาวกับแคมรี่นะครับ
ถ้าต้องการความทนแบบพี่โต ตราดาวไม่น่าตอบโจทย์ ลองไปถามดูในกลุ่มคนใช้ดาวไฮบริดดูครับ
ราคาขายต่อแคมรี่หายหลายแสน ส่วนตราดาวไฟฟ้าหายเป็นล้าน
ภาพลักษณ์ ขับเบนซ์ยังไงก็ได้
ถ้าต้องการตามฝันและมีรถสำรองก็จัดครับ ประสบการณ์ตรงดีที่สุด
จริงๆตามนั้นครับ
น้องใช้ ตราดาว หลังจากใช้ Camry มาก่อน
บ่นตราดาวจุกจิกกว่ามาก เสียง่ายเกิน ไม่ทนอึดแบบ camry
และถ้าไม่ได้ใช้สมรรถนะเต็มๆของตราดาวจริงๆ ก็ยิ่งไม่คุ้ม นอกจากสนองความต้องการ หรือ ใช้แสดงฐานะทางสังคมเท่านั้นครับ (ส่วนคนจะเชื่อหรือไม่ก็อีกเรื่องนึง 555)
ทุกวันนี้ไม่เห็นบอกว่าอยากได้ตราดาวอีกเลย คันนี้ใช้เพราะฐานะทางการงานเท่านั้น ซึ่งหลายคนก็ใช้เพราะการงานครับ
ส่วนต้วไม่มีความอยากมากขนาดนั้น เห็นคนรอบข้างใช้ยุโรปแล้ว เลือกใช้รถดีที่ไว้ใจได้ดีกว่า และ ความเชื่อถือในอาชีพก็อยู่ที่ตัว ไม่มีใครดูจากสิ่งของที่ใช้เลย ทำให้ต้นทุนใช้ชีวิตถูกลงเยอะ
-
มันมีรุ่นที่ไม่ใช่ ไฮบริดก็จิ้มๆไปตามงบครับ
320d
cla gla e220d(ถ้าหาได้)
glc
ไฮบริดผมเชื่อใจโตต้าเจ้าเดียวครับ :'(
-
ไม่รู้จะแนะนำอะไร ดูละใจท่านไปแล้วเต็มๆ แถมข้อเสียก็รับได้หมด จัดไปละกัน
-
ของแบบนี้ต้องลองครับ ผมก็ขยับจาก d seg ญี่ปุ่นครับ ก็รู้สึกไม่ผิดหวังนะครับ happy ส่วนเรื่อง hybrid เพื่อนผมหลายคนใช้ก็ได้ยินบ่นๆกันมาบ้างว่าจุกจิกครับ แต่ถ้าอยากลองเทคโนโลยีใหม่ก็จัดไปครับ !!!!!!!
:)
-
Benz Thailand เค้าจะรู้ตัวมั๊ยเนี่ยว่า feedback รถ Hybrid ของเขาเป็นแบบนี้ ::)
แต่รู้ไปก็เท่านั้น I don't care :-X
-
ลองดูก็ไม่เสียหายนะครับ คราวนี้จะได้รู้กันว่า จะติดใจ หรือ เข็ดขยาด ::) ::) ::) ::)
-
วันนี้ คุยกับรุ่นน้องคนหนึ่ง คนนี้มีความรู้เรื่องรถดีมาก ๆ อ่านเยอะ ทำการบ้านเรื่องรถเยอะ รู้จักช่าง รู้จักอู่เทพ ๆ หลายยี่ห้อ แล้วธุรกิจที่บ้านน้องคนนี้ จัดว่ารวยจัด ๆ บอกว่า BENZ ที่บ้านจุกจิกมาก ( ทั้ง S ทั้ง E ) โช๊ค Airmatic เสียทีซ่อมสองแสน UP แต่น้องเก่งครับ สามารถหาอะไหล่เทียบได้ ราคาสองหมื่นกว่าเอง แล้วให้ห่าง HB ไว้
ถ้าคิดว่า สามารถดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายได้ หาอะไหล่ราคาถูกเป็น มีอู่นอกซ่อมจบ เล่นได้ครับ
ปล. ค่าดูแล ไม่ธรรมดานะครับ น้อง ๆ ผมใช้ MB ทุกคนยังบ่นเลย เข้าศูนย์ทีละ 6-8000 บางทีก็ เกินหมื่น ถ้ามีเปลี่ยนอะไหล่บางที่ 5-6 หมื่น น้องชายโยนกุญแจ C200 มาให้ใช้ รถอายุ 5 ปีกว่า ให้ฟรี ๆ ผมยังไม่กล้ารับมาดูแลต่อเลย
เข้า0ครั้งนึงไม่ถึงหมื่นถือว่าถูกมากๆครับ เท่าท่ี่เจอมาทุกครั้งทุกรุ่นจะเกินหมื่นตลอดเลยครับ
-
เพื่อนผม ใช้ Cam 6 ปีแล้ว เล่าให้ฟังว่า ไม่มีอะไรจุกจิก เลย นอกจากเช็คระยะตามปรกติ ผมว่าเป็นข้อดีมากๆเลย ของ Toyota
แต่ ยังไงก็ตาม Benz ขับดีกว่าแน่ๆ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ สมรรถนะ ดีกว่า
ก็ต้องถามว่า ชอบขับรถ หรือ เสพความเฟริม อัตราเร่ง ของมันหรือเปล่า
เหตุผลในการตัดสินใจซื้อแต่ละคนต่างกันอ่ะ
-
มีงบดูแลมันได้ก็จัดเลยคับ เป็นรสชาติชีวิต
-
ผมใช้G9 ประมาณ ร่วม ๆ 2 ปีจึงเปลี่ยนมาใช้ F30 320D ได้9 เดือนนี้ ดีครับ เติมน้ำมันอย่างเดียว ประหยัดมาก มองว่า ไม่ได้มีอะไรน่ากลัว และมี E34 เตี้ย ๆ อีกคัน