Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 09:23:15

หัวข้อ: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 09:23:15
เทคโลยีเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้กับรถเยอรมันสมัยใหม่ ไม่สนใจว่าออพชั่นมากน้อยแค่ไหนเอาแค่เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ระบบไฟฟ้าเกียร์ ถ้าใข้ไม่เป็นพังเร็วกว่าแน่นอน (เฉพาะรถยี่ห้อเยอรมัน เท่านั้นนะครับ เช่ส Benz BMW VW group)

1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 09:29:20
2. น้ำมันเครื่องแบบLong Life ใช้ไม่ควรเกิน100ชั่วโมงทำงาน เพราะพวกน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนตัวเป็นกรดเพียงเล็กน้อยไม่เหมาะกับซีลในรถที่ออกแบบมาทนกับอากาศหนาวๆเวลาดับเครื่อง มันจะสูญเสียความยืดหยุ่น และทำให้ซีบรั่วซึม อย่าไปโทษว่าเครื่องไม่ดีเวลากินน้ำมันเครื่องหรือซีลรั่วซึมทั้งๆที่รถอายุไม่ถึงแสนโล หรืออย่าไปโทษตารางการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่มันไม่ได้สนใจสภาพการใช้งายจริงของเรา เพราะเขาสนแค่ให้คุณพ้นประกันไปโดยเครื่องไม่พังเท่านั้นเอง สาวก VAG น่าจะเข้าใจดี ว่าน้ำมันเครื่อง 15000โล ถ่ายทีมันมีผลเสียขนาดไหน เพราะยี่ห้อ Benz BMW เขาลดเหลือ 10000มาแล้ว
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 09:34:18
3. ถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งแรก80,000กม(หรือเร็วกว่านี้ก็ดี แล้วแต่การขับขี่) และครั้งต่อๆไป 3-40,000กม  อย่าได้หลงเชื่อ Lifetime stickerที่มันแปะอยู่ข้างเกียร์ คือ มันเขียนบอกว่า lifetime หมายถึงกรูขี้เกียจเติม หมดประกันพังไม่ใช่เรื่องของบริษัท มันเป็นแค่แผนการลดต้นทุนของพวกยี่ห้อที่มีService ฟรีปีแรกๆ แค่นั้นเอง

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: BigCat ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 09:41:32
ขอบคุณครับ มาปักธง รออ่านต่อครับ 8)
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: Dr.Jones ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:08:21
 ???

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว
--------------------------------

W204 เข้า Service B ครั้งที่ 2 (รถเกินประกันไปแล้ว)
ศุนย์(อย่างเป็นทางการ) ก็ออกโพยมาแจ้งให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์แล้ว
(โดยไม่ได้คำนึงถึงเลขกิโลด้วยซำ้ไป)
ไม่เห็น Benz จะเคลมนำ้มันเกียร์ว่า "ตลอดอายุรถ" แบบ BMW เลย
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:30:09
???

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว
--------------------------------

W204 เข้า Service B ครั้งที่ 2 (รถเกินประกันไปแล้ว)
ศุนย์(อย่างเป็นทางการ) ก็ออกโพยมาแจ้งให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์แล้ว
(โดยไม่ได้คำนึงถึงเลขกิโลด้วยซำ้ไป)
ไม่เห็น Benz จะเคลมนำ้มันเกียร์ว่า "ตลอดอายุรถ" แบบ BMW เลย

Benz ไม่มีสติ๊กเกอร์ แต่มีในคู่มือครับ
Benz ไม่มี  Inclusive Service แบบ BMW ทำให้การถ่ายน้ำมันเกียร์ เป็นการสร้างรายได้ให้บริษัท ดังนั้นจะถ่ายน้ำมันเกียร์ก็เป็นการดีกับบริษัท แน่นอนว่ามีคนที่เชื่อแต่คู่มืิออยู่
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:33:44
4. อย่าถ่าย/เติมน้ำมันเกียร์ขณะเครื่องร้อน ลองดูคู่มือผู้ผลิตเกียร์ ZF Aisin ดูจะระบุชัดเจนครับว่าถ้าเกียร์ร้อนจัดห้ามถ่าย เหตผลง่ายๆครับ การขยายตัวและหดตัวจองวัสดุภายในเกียร์โดยเฉพาะหน้าคลัทช์ร้อนๆ กับน้ำมันเกียร์เย็นๆ

หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:35:54
5.ล้างห้องเครื่องด้วยของเหลวแรงดันสูงๆ หรือ เคมีพวก Solvent  อุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องเครื่อง แม้แต่ขั้วปลั๊ก หากถูกฉีดอัดด้วยน้ำหรือเคมีใดๆ ด็สามารถเข้าไปสร้งปัญหากับอุปกรณ์เหล่านั้นได้ครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:40:53
6. ใข้น้ำมันเครื่องให้เหมาัสมกับอุณหภูมิทำงาน เทรนด์น้ำมันเบอร์บางกำลังมาแรงแต่ก็ควรดูความเหมาะสมด้านอุณหภูมิเครื่องยนต์และชนิดน้ำมันที่ใช้ด้วยครับ เครื่องเทอร์โบที่ใช้น้ำมันเครื่องหล่อเลี้ยง เผาน้ำมันนาทีละ10-20ccเอาง่ายๆหากคุณสมบัติไม่ดีพอเกิดการสะสมอุดตันในทางเดินน้ำมันและบางเกินกว่าจะแยกโลหะออกจากกัน ิ

อันนี้ Mobil เขียนไว้ได้ดี แอบโฆษณาโม้เข้าข้างตัวเองไปบ้างแต่ก็ไม่น่าเกลียด แวะไปอ่านกัน ผมไม่ได้สนับสนุนยี่ห้อนี้อย่างเป็นทางการ ยี่ห้ออื่นทนความร้อนดีๆ เบอร์หนาพอก็ยังมีครับ

https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://mobiloil.com/en/article/why-the-mobil-advantage/mobil-1-performance/mobil-1-turbocharged-engines&ved=0ahUKEwiB8IW-gqnXAhVBLI8KHeg7D3kQFgirATAY&usg=AOvVaw1QFL7kI9JvReujXXNxVI0d
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:48:23
8. เกียร์ไฟฟ้า รถไม่นิ่งจริงๆ ไม่หยุดสนิท อย่ากดปุ่มP ดับเครื่อง ระบบไฟฟ้าอันแสนเบราะปางของรถพวกนี้ ถ้าเผลอรถไหลแม้เพียงเล็กน้อย แล้วกดP หรือดับเครื่อง นั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณได้ขับมันอย่างมีความสุข ลุ้นยิ่งว่ากดปุ่มบนเครื่อง Slotmachine ิีกว่าจะพังไม่พัง
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: e:smart Hybrid ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 10:56:38
สอบถามคับ คุณ Jae

ทางที่ดีที่สุด ชัวร์สุด คือ อย่าซื้อรถยุโรป ใช่ไหมคับ (ใช้รถยี่ปุ่นต่อไป)

อ่านแล้ว...ปวดหัวมากคับ...แลดูต้องใส่ใจยุบยับเลย
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: supercat ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 11:07:45
2. น้ำมันเครื่องแบบLong Life ใช้ไม่ควรเกิน100ชั่วโมงทำงาน เพราะพวกน้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนตัวเป็นกรดเพียงเล็กน้อยไม่เหมาะกับซีลในรถที่ออกแบบมาทนกับอากาศหนาวๆเวลาดับเครื่อง มันจะสูญเสียความยืดหยุ่น และทำให้ซีบรั่วซึม อย่าไปโทษว่าเครื่องไม่ดีเวลากินน้ำมันเครื่องหรือซีลรั่วซึมทั้งๆที่รถอายุไม่ถึงแสนโล หรืออย่าไปโทษตารางการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่มันไม่ได้สนใจสภาพการใช้งายจริงของเรา เพราะเขาสนแค่ให้คุณพ้นประกันไปโดยเครื่องไม่พังเท่านั้นเอง สาวก VAG น่าจะเข้าใจดี ว่าน้ำมันเครื่อง 15000โล ถ่ายทีมันมีผลเสียขนาดไหน เพราะยี่ห้อ Benz BMW เขาลดเหลือ 10000มาแล้ว

นับชั่วโมงการทำงานนี่คือ
สตาร์ทรถปุ๊ป กดปุ่มจับเวลาปั๊บเลยใช่มั้ยครับ  แล้วเอาเวลาที่จับได้ไปเขียนลงตาราง
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: tatum0022 ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 11:09:03
ใช้ w204fl มาจะ 6 ปีล่ะ ตอนนี้ของพังใหญ่ๆ ยังไม่เจอ ผมมีวิธีดูแลแบบนี้ครับ
1.หลีกเลี่ยงจอดรถตากแดด
2. ก่อนดับรถ ปิดแอร์ ปิดวิทยุก่อน
3. เปลี่ยนน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายทุก 5 หมื่นโล
4. รถต้องใช้ไม่ควรจอดนาน
5. อะไหล่ใดเริ่มเสียหาย จะต้องเปลี่ยน เพราะถ้าปล่อยไว้จะลามไปที่ชิ้นอื่น
6. ถ้าขับอัดๆ หรือเดินทางไกลมา แนะว่าถึงบ้านแล้วควรเปิดฝากระโปรงเพื่อระบายความร้อน

* และที่สำคัญสำหรับอาการ w204FL ที่ชอบเกียร์มีปัญหา ผมพบว่า มักจะเกิดขึ้นกับตัวหลังๆ ที่มีระบบ Auto start/Stop ซึ่งรถผมไม่มี
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: ped ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 11:15:35
ผมทำเกือบทุกข้อเลยครับ w211 เกือบสองแสนกม.แล้ว ยังโชคดีใช้ได้ปกติอยู่
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: NoName__??? ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 11:27:22
เข้ามาอ่าน
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: meeuwarn ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 11:47:21
ไม่เห็นด้วยข้อที่ว่าให้เปลื่ยนน้ำมันเกียร์หนแรกที่ แปดหมื่น :-X

หนแรก สองปี สี่หมื่นโล
ครั้งถัดๆไปจะถ่างเป็น ห้า หก หมื่นก็ยังพอไหว

คหสต เศษสิ่งสกปรกโลหะที่เสียดสีกันจะมากตอนมันยังใหม่ๆ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: oth999 ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 12:02:38
3. ถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งแรก80,000กม(หรือเร็วกว่านี้ก็ดี แล้วแต่การขับขี่) และครั้งต่อๆไป 3-40,000กม  อย่าได้หลงเชื่อ Lifetime stickerที่มันแปะอยู่ข้างเกียร์ คือ มันเขียนบอกว่า lifetime หมายถึงกรูขี้เกียจเติม หมดประกันพังไม่ใช่เรื่องของบริษัท มันเป็นแค่แผนการลดต้นทุนของพวกยี่ห้อที่มีService ฟรีปีแรกๆ แค่นั้นเอง

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว

เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ครั้งต่อไปที่ 3-40000 กม. จำเป็นต้องเปลี่ยนกรองเกียร์ทุกครั้งมั้ยครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: Peet Sayumpoo ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 12:46:35
???

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว
--------------------------------

W204 เข้า Service B ครั้งที่ 2 (รถเกินประกันไปแล้ว)
ศุนย์(อย่างเป็นทางการ) ก็ออกโพยมาแจ้งให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์แล้ว
(โดยไม่ได้คำนึงถึงเลขกิโลด้วยซำ้ไป)
ไม่เห็น Benz จะเคลมนำ้มันเกียร์ว่า "ตลอดอายุรถ" แบบ BMW เลย

ไม่ใช่เฉพาะรถยุโรปหรอกครับ Camry ก็ติดไว้ตรงก้านวัดน้ำมันเกียร์ครับ ว่าไม่ต้องเปลี่ยน (จะบ้าเหรอ  :-X )
แล้วน้ำมันเกียร์ที่ติดมากับรถญี่ปุ่นมันไม่ใช่สังเคราะห์เหมือนของยุโรปด้วย อายุสั้นกว่าแน่นอน เต็มที่คง 40,000 โล
แต่ทางฝั่งยุโรปเคยเห็นแจ้งไว้ว่า 120,000โล แต่ใช้ในบ้านเราผมว่าไม่ควรเกิน 80,000โล พอ อย่างท่าน จขกท ว่าแหละครับ

แล้วจริงๆที่กล่าวมาในกระทู้ทั้งหมด มันเป็นเรื่องที่ควรทำตาม ไม่ใช่เฉพาะรถยุโรปหรอกครับ ไม่ว่าจะรถของชาติไหน
จะ ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ ถ้าไม่ดูแลตามที่ จขกท แนะนำมา ก็พังพอๆกันหมดครับ จากประสบการณ์ส่วนตัว.
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: nat1532 ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:18:58
???

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว
--------------------------------

W204 เข้า Service B ครั้งที่ 2 (รถเกินประกันไปแล้ว)
ศุนย์(อย่างเป็นทางการ) ก็ออกโพยมาแจ้งให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์แล้ว
(โดยไม่ได้คำนึงถึงเลขกิโลด้วยซำ้ไป)
ไม่เห็น Benz จะเคลมนำ้มันเกียร์ว่า "ตลอดอายุรถ" แบบ BMW เลย

Benz ไม่มีสติ๊กเกอร์ แต่มีในคู่มือครับ
Benz ไม่มี  Inclusive Service แบบ BMW ทำให้การถ่ายน้ำมันเกียร์ เป็นการสร้างรายได้ให้บริษัท ดังนั้นจะถ่ายน้ำมันเกียร์ก็เป็นการดีกับบริษัท แน่นอนว่ามีคนที่เชื่อแต่คู่มืิออยู่

"เงิบ"
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: newclear ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:27:36

1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก

เครื่องชาร์จ CTEK ใช้ได้มั้ยครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:31:44
9. เปลี่ยนกล่องไฟฟ้ามา ต้องทำ aligned, synchronize, or learn ให้ครบระบบ

อันนี้ขอยกตัวอย่างเฉพาะที่เพิ่งเจอมา
เกียร์ 7 สปีด ที่มีก้านคอพวงมาลัยของเบนซ์ W212 แผงวงจรเกียร์พัง เปลี่ยนแล้วไม่ได้LEARN ช่างเปลี่ยนเสร็จ จ่าย 7 หมื่น เอามาใช้ สักพัก เกียร์พังสิ รื้อออกมา คลัทช์หมด ไม่รู้แสนนึงจะจบรึเปล่า เจ้าของเงินเยอะคงไม่ค่อยน่ากลัวครับ

เกียร์ตัวเดียวมีกล่องควบคุม 3 ส่วน ไม่นับValvebody นะครับ

รถ MINI Cooper S R56 เปลี่ยน DSC Module ใส่เซียงกงเอาไปวิ่ง ปีเดียว ผ้าเบรคจานเบรคหลังหมดไปสองชุด กว่าจะรู้สาเหตขับรถลากเบรคอยู่นาน
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:35:27
10. ห้ามใช้ Silicone Wax และกลุ่ม Solvent ที่ละลาย Silicone ทั้งภายในภายนอกรถ อันนี้น่าจะเป็นอีกอย่างที่พอจะเชื่อคู่มือได้นอกจากวิธีใช้ทั่วไป ขอบยางต่าง ๆ คิ้ว แม้กระทั่งสีเคลือบภายในจะหลุดออกครับ Oil base cleaner ทั้งหลายนี่แหละตัวดีเลย

Carnuba wax เท่านั้นจ้า ถ้าใช้อย่างอื่น เวลาขอบคิ้วมันกรอบมันแตกอย่ามาโทษว่ารถมันห่วยนะครับ เข้าใจตรงกันนะ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:36:53
11. อย่าปล่อยน้ำมันหมดถัง หรือต่ำๆ บ่อย ๆ ปั๊มติ๊กในถังน้ำมัน มักจะOverheat และเสียหายได้ง่าย อย่าลืมว่าเราอยู่เมืองร้อน ไอ้ที่ฝรั่งเมืองหนาวเขาไม่เจอปัญหา เรามีปัญหา
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:37:50
9. เปลี่ยนกล่องไฟฟ้ามา ต้องทำ aligned, synchronize, or learn ให้ครบระบบ

อันนี้ขอยกตัวอย่างเฉพาะที่เพิ่งเจอมา
เกียร์ 7 สปีด ที่มีก้านคอพวงมาลัยของเบนซ์ W212 แผงวงจรเกียร์พัง เปลี่ยนแล้วไม่ได้LEARN ช่างเปลี่ยนเสร็จ จ่าย 7 หมื่น เอามาใช้ สักพัก เกียร์พังสิ รื้อออกมา คลัทช์หมด ไม่รู้แสนนึงจะจบรึเปล่า เจ้าของเงินเยอะคงไม่ค่อยน่ากลัวครับ

เกียร์ตัวเดียวมีกล่องควบคุม 3 ส่วน ไม่นับValvebody นะครับ

รถ MINI Cooper S R56 เปลี่ยน DSC Module ใส่เซียงกงเอาไปวิ่ง ปีเดียว ผ้าเบรคจานเบรคหลังหมดไปสองชุด กว่าจะรู้สาเหตขับรถลากเบรคอยู่นาน
  ผมแก้ปัญหาด้วยวิธีการไม่ซื้อรถยุโรปใช้ดีกว่า       
           สรุปผมใช้รถญี่ปุ่นอย่างเดิมต่อไปดีแระ  สมฐานะคนเิงินน้อยดีครับไม่ปวดหัว มากมายขนาดนี้กับการใช้รถ   
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:39:01
12. Oil Pan Blanket ถอดออกเถอะครับ ถ้าเปิดแผ่นปิดใต้ท้องวิ่งได้ ก็ควรจะทำ ยกเว้น Porsche Audi ที่ห้ามถอดถาด เพราะชุดขับเคลื่อนเตี้ย ๆ อาจจะเจอสิ่งสกปรกเข้าไปปั่นได้

Oil Pan Blanket คือ ผ้าห่มที่มีลักษณะเป็นสักหลาด แปะติดก้นอ่างโลหะไว้กันหิมะครับ  อาจจะมีทั้งอ่าง หรือเฉพาะด้านหน้า พบได้ในรถนำเข้าประกอบนอกบางรุ่น เช่น W204 ปีแรก ๆ , RL Evouque 

ถาดใต้ท้อง ที่มีผ้าห่มแปะอยู่ กันหิมะเช่นกัน มันช่วยสะสมความร้อนมากพอที่หิมะจะไม่เข้ามาทำให้น้ำมันเครื่องหนืดจนไหลไม่ได้ ใครอยู่เมืองหนาวจัด ๆ วิ่งแล้วเครื่องชาฟท์ละลายคงจะเข้าใจ

ทั้งสองชิ้นนี้ถอดออกรับลม ลดอุณหภูมิน้ำมันเครื่อง ยืดอายุได้อีกครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: tom46 ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 13:57:24
มันเขียนบอกว่า lifetime หมายถึงกรูขี้เกียจเติม หมดประกันพังไม่ใช่เรื่องของบริษัท มันเป็นแค่แผนการลดต้นทุนของพวกยี่ห้อที่มีService ฟรีปีแรกๆ แค่นั้นเอง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


อันนี้ ชอบๆ โดนใจดีครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 14:15:28
สอบถามคับ คุณ Jae

ทางที่ดีที่สุด ชัวร์สุด คือ อย่าซื้อรถยุโรป ใช่ไหมคับ (ใช้รถยี่ปุ่นต่อไป)

อ่านแล้ว...ปวดหัวมากคับ...แลดูต้องใส่ใจยุบยับเลย

เน้นว่ารถรุ่นใหม่ๆ
ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าถ้าขายรถที่ใช้อยู่ตอนนี้ จะไปหารุ่นไหนใช้ทน ๆ ดูแลง่าย ๆได้อีก ผมยังติดกับรถรุ่นเก่า ๆเทคโนโลยี 10 ปีมาแล้วอยู่เลย เจอรุ่นใหม่ ๆ เปราะเกิน ไม่กล้า


1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก

เครื่องชาร์จ CTEK ใช้ได้มั้ยครับ

ผมไม่แนะนำ ถ้าลองแล้วไม่เสีย ก็แล้วไปครับ

หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: coolcarrera ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 16:46:26
ATF-WS เพิ่งรู้ว่าไม่ใช่ synthetic เลยครับเนี่ย
ผมตะหงิดตั้งแต่ราวๆปี 2007 ที่น้ำมันตัวนี้เริ่มเข้ามาใช้ในไทยและบอกว่าไม่ต้องเปลี่ยน ผมเองก็ไม่เชื่อครับ จนถึงคันปัจจุบันก็ยังถ่ายทุก 2 ปีหรือ 40000 กม ตลอดเพราะ ATF-WS ก็ไม่ได้แพงอะไรมากมาย


???

จะยี่สิบปีแล้วที่สติ๊กเกอร์นี้ติดมากับรถ Benz BMW ถามจริง ยังมีคนเชื่อมันอยู่อีกเหรอครับ? พังกันไปกี่คันแล้ว
--------------------------------

W204 เข้า Service B ครั้งที่ 2 (รถเกินประกันไปแล้ว)
ศุนย์(อย่างเป็นทางการ) ก็ออกโพยมาแจ้งให้เปลี่ยนนำ้มันเกียร์แล้ว
(โดยไม่ได้คำนึงถึงเลขกิโลด้วยซำ้ไป)
ไม่เห็น Benz จะเคลมนำ้มันเกียร์ว่า "ตลอดอายุรถ" แบบ BMW เลย

ไม่ใช่เฉพาะรถยุโรปหรอกครับ Camry ก็ติดไว้ตรงก้านวัดน้ำมันเกียร์ครับ ว่าไม่ต้องเปลี่ยน (จะบ้าเหรอ  :-X )
แล้วน้ำมันเกียร์ที่ติดมากับรถญี่ปุ่นมันไม่ใช่สังเคราะห์เหมือนของยุโรปด้วย อายุสั้นกว่าแน่นอน เต็มที่คง 40,000 โล
แต่ทางฝั่งยุโรปเคยเห็นแจ้งไว้ว่า 120,000โล แต่ใช้ในบ้านเราผมว่าไม่ควรเกิน 80,000โล พอ อย่างท่าน จขกท ว่าแหละครับ

แล้วจริงๆที่กล่าวมาในกระทู้ทั้งหมด มันเป็นเรื่องที่ควรทำตาม ไม่ใช่เฉพาะรถยุโรปหรอกครับ ไม่ว่าจะรถของชาติไหน
จะ ญี่ปุ่น อเมริกา ฯลฯ ถ้าไม่ดูแลตามที่ จขกท แนะนำมา ก็พังพอๆกันหมดครับ จากประสบการณ์ส่วนตัว.
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: Tedjung84 ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 16:47:10
กระทู้นี้ดีมากเลยครับ :) 
ขอบคุณ จขกท ครับ ที่แนะนำเรื่องดูแลรถดีๆแบบนี้ครับ ;)
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: coolcarrera ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 16:48:43
ตามไปอ่านแล้วอยากลองใช้ขึ้นมาทันที ติดแต่ว่าของ turbo diesel pickup ราคา 8 ลิตรมันแพงเหลือเกิน ยังไม่กล้ากัดฟันซื้อมาใช้ครับ


6. ใข้น้ำมันเครื่องให้เหมาัสมกับอุณหภูมิทำงาน เทรนด์น้ำมันเบอร์บางกำลังมาแรงแต่ก็ควรดูความเหมาะสมด้านอุณหภูมิเครื่องยนต์และชนิดน้ำมันที่ใช้ด้วยครับ เครื่องเทอร์โบที่ใช้น้ำมันเครื่องหล่อเลี้ยง เผาน้ำมันนาทีละ10-20ccเอาง่ายๆหากคุณสมบัติไม่ดีพอเกิดการสะสมอุดตันในทางเดินน้ำมันและบางเกินกว่าจะแยกโลหะออกจากกัน ิ

อันนี้ Mobil เขียนไว้ได้ดี แอบโฆษณาโม้เข้าข้างตัวเองไปบ้างแต่ก็ไม่น่าเกลียด แวะไปอ่านกัน ผมไม่ได้สนับสนุนยี่ห้อนี้อย่างเป็นทางการ ยี่ห้ออื่นทนความร้อนดีๆ เบอร์หนาพอก็ยังมีครับ

https://www.google.co.th/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://mobiloil.com/en/article/why-the-mobil-advantage/mobil-1-performance/mobil-1-turbocharged-engines&ved=0ahUKEwiB8IW-gqnXAhVBLI8KHeg7D3kQFgirATAY&usg=AOvVaw1QFL7kI9JvReujXXNxVI0d
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: voyager ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 18:05:10
8. เกียร์ไฟฟ้า รถไม่นิ่งจริงๆ ไม่หยุดสนิท อย่ากดปุ่มP ดับเครื่อง ระบบไฟฟ้าอันแสนเบราะปางของรถพวกนี้ ถ้าเผลอรถไหลแม้เพียงเล็กน้อย แล้วกดP หรือดับเครื่อง นั่นอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณได้ขับมันอย่างมีความสุข ลุ้นยิ่งว่ากดปุ่มบนเครื่อง Slotmachine ิีกว่าจะพังไม่พัง

อันนี้ผมเผลอตอนติดฟิลม์ใหม่ ปล่อยรถไหล เปิดประตูเพื่อรับบัตร  รถเปลี่ยน Pให้ทันที กระชากหัวทิ่มหยุดกึก
มันก็ไม่มีอะไรผิดปกติครับ

2. น้ำมันเครื่องแบบLong Life ใช้ไม่ควรเกิน100ชั่วโมงทำงาน หมายถึงอะไรครับ ทำไมน้อยนัก
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: Cheercheers ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 21:58:17

1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก

เครื่องชาร์จ CTEK ใช้ได้มั้ยครับ

ผมใช้ ctek mxs 5.0 ชาร์จกับรถจอดซะส่วนใหญ่
เห็นต่างประเทศเอามาชาร์จกับ M3 E92 เปิดวาร์ปให้ครับ :D
http://www.e46thailand.com/index.php?topic=24429.0
ใช้ได้นะครับไม่มีปัญหา แต่ใช้เฉพาะโหมด recond
เพราะไม่แน่ใจว่าแบตที่เปลี่ยนใหม่เป็น AGM รึเปล่า
ปล.ชาร์จนานมากกก ประมาณ 20 ชั่วโมงได้ 
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: HappyCar ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 22:47:22
อ่านแล้วเริ่มอยากไปคบหาดูใจกับ Lexus ขึ้นมาทันทีเลย  ;D

กระทู้ดีมากๆครับ สาระเน้นๆ รอฟังต่อ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ พฤศจิกายน 06, 2017, 23:09:26
ความรู้ล้วนๆ  8) 8) 8) 8)
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: GoatGoat ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 01:08:39
1 ในกระทู้ดีแห่งปีครับ บางคนอ่านแล้วอาจไม่อยากใช้รถเยอรมันอีกต่อไป ส่วนตัวผมอยากกลับไปใช้อีกรอบนะ
เมื่อก่อนก็ผมพังประมาณนี้แหละ ถามศูนย์หรืออู่ก็บอกรถเก่าแล้วพังเป็นเรื่องปกติ แล้วก็เรียกไปจ่ายเงิน เจ็บตัวกันไป
จริงๆแล้วหลายอาการเกิดจากบำรุงรักษาไม่ถูกเอง
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: PKS8 ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 06:48:13
ไม่ใช่เฉพาะรถยุโรปหรอกนะครับ แต่มันคือรถทุกประเภทเลยครับ

น้ำมันเกียร์ครั้งแรก ผมคิดว่าเปลี่ยน 40,000 ดีกว่าครับ

ส่วนตัว XV กับ Pajero ผมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตั้งแต่ 25,000 เลยครับ เพราะผมขับทางไกล ขับทางเขา ลากรอบสูงเกือบตลอดเลยครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: aunn2515 ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 07:06:38
กระทู้ดีมีสาระ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: V221 ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 07:23:05

1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก

เครื่องชาร์จ CTEK ใช้ได้มั้ยครับ

ผมใช้ ctek mxs 5.0 ชาร์จกับรถจอดซะส่วนใหญ่
เห็นต่างประเทศเอามาชาร์จกับ M3 E92 เปิดวาร์ปให้ครับ :D
http://www.e46thailand.com/index.php?topic=24429.0
ใช้ได้นะครับไม่มีปัญหา แต่ใช้เฉพาะโหมด recond
เพราะไม่แน่ใจว่าแบตที่เปลี่ยนใหม่เป็น AGM รึเปล่า
ปล.ชาร์จนานมากกก ประมาณ 20 ชั่วโมงได้
ใช้โหมดธรรมดาก็ได้ครับ CTekจะตรวจสอบเองครับว่าเป็นแบตAGMหรือไม่ ปกติถ้าชาร์จทุกๆ2สัปดาห์ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ5-6ชั่วโมงก็เต็มแล้ว
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: SUN-PS ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 09:54:19
กระทู้ดีมีประโยชน์มากครับ
ผมว่า กรุงเทพไม่ใช่แค่อากาศร้อน รถมันติดหนักด้วยครับ
พวกชิ้นส่วนหลายๆจุด มันเลยเสียเร็วกว่าปกติ
ผมเลยเปลี่ยนใจไปออก lexusแทนรถยุโรปแล้วครับ
ไปเสิร์ชเรื่องปัญหาของเบนซ์กับbmwแล้ว ไม่อยากเสี่ยงครับ
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: Cheercheers ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 10:45:15

1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก

เครื่องชาร์จ CTEK ใช้ได้มั้ยครับ

ผมใช้ ctek mxs 5.0 ชาร์จกับรถจอดซะส่วนใหญ่
เห็นต่างประเทศเอามาชาร์จกับ M3 E92 เปิดวาร์ปให้ครับ :D
http://www.e46thailand.com/index.php?topic=24429.0
ใช้ได้นะครับไม่มีปัญหา แต่ใช้เฉพาะโหมด recond
เพราะไม่แน่ใจว่าแบตที่เปลี่ยนใหม่เป็น AGM รึเปล่า
ปล.ชาร์จนานมากกก ประมาณ 20 ชั่วโมงได้
ใช้โหมดธรรมดาก็ได้ครับ CTekจะตรวจสอบเองครับว่าเป็นแบตAGMหรือไม่ ปกติถ้าชาร์จทุกๆ2สัปดาห์ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ5-6ชั่วโมงก็เต็มแล้ว
ขอบคุณมากครับ ไว้ครั้งหน้าจะลองดูครับ :)
หัวข้อ: Re: วิธีใช้รถเยอรมันไม่ให้พังเร็ว
เริ่มหัวข้อโดย: newclear ที่ พฤศจิกายน 07, 2017, 11:32:04

1.ชาร์จแบตกับตัวรถโดยไม่ถอดแบตออก ด้วยเครื่องชาร์จไฟภายนอกรถ รถเยอรมันทุกยี่ห้อตอนนี้มาพร้อมกล่อง Battery Management เป็นกล่องทำงานตรวจสอบแรงดันไฟฟ้าและกระแสเข้าออกของแบต และไดชาร์จแบบVatiable หากเอาที่ชาร์จไฟที่ไม่จำกัดแรงดัน จะทำให้อุปกรณ์สองอย่างนี้ เสียหายได้ แถมพาลเอากล่องระบบไฟฟ้าอื่นๆเสียหายได้ด้วยอีก

เครื่องชาร์จ CTEK ใช้ได้มั้ยครับ

ผมใช้ ctek mxs 5.0 ชาร์จกับรถจอดซะส่วนใหญ่
เห็นต่างประเทศเอามาชาร์จกับ M3 E92 เปิดวาร์ปให้ครับ :D
http://www.e46thailand.com/index.php?topic=24429.0
ใช้ได้นะครับไม่มีปัญหา แต่ใช้เฉพาะโหมด recond
เพราะไม่แน่ใจว่าแบตที่เปลี่ยนใหม่เป็น AGM รึเปล่า
ปล.ชาร์จนานมากกก ประมาณ 20 ชั่วโมงได้
ใช้โหมดธรรมดาก็ได้ครับ CTekจะตรวจสอบเองครับว่าเป็นแบตAGMหรือไม่ ปกติถ้าชาร์จทุกๆ2สัปดาห์ใช้เวลาไม่นานครับ ประมาณ5-6ชั่วโมงก็เต็มแล้ว
ขอบคุณมากครับ ไว้ครั้งหน้าจะลองดูครับ :)

ขอบคุณพี่ทั้ง3ท่านมากครับ