Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: @guy ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:24:55

หัวข้อ: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: @guy ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:24:55
ก่อนหน้านี้ ผมตั้งกระทู้ข้อความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกรุ่นรถของ BMW.
ทีนี้พอพิจารณา อย่างถี่ถ้วน สมองเริ่มสั่งการมีผลเหนือใจ เลย เริ่มเกิดการลังเล เรื่องสถานะทางการเงิน

ถ้ารายได้ต่อเดือนหลังหักภาษี แล้วเหลือประมาณ 85k ไม่มีหนี้สินใดๆ แล้วถ้าต้องผ่อนรถ ประมาณ 40k ต่อเดือน
พี่ๆ คิดว่าเกินตัวมากไปไหมครับ.

BMW เป็นรถในฝันของผมแต่เด็ก แต่ ตอนนี้กำลังคิดว่าหรือควรจะเปลี่ยนใจไปเลือก  accord / camry แทนดี.
🙏🙏🙏 ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกความเห็นและคำแนะนำครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Sit: ) ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:31:15
ถ้าไม่มีภาระอะไรเลยก็ลุยครับ
คนแต่ละคนคาดหวัง ทุ่มเทให้รถไม่เท่ากัน
ถ้าคิดว่าลังเล ลองผ่อนใส่กระปุกไว้สิครับ
ถ้าทำแล้วการเงินไม่อึดอัด ก็ไปต่อได้

ผมพยายามไม่อยากขัดใจ แต่จริงๆแล้วอยากบอกว่า
อย่าเพิ่งเลยครับ ไม่อยากให้เหนื่อยกับรถคันเดียว ชีวิตมีอะไรให้ทำอีกเยอะ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: kez ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:32:50
 ถ้าไม่มีภาระ และอยากได้ก็จัด

 แต่ก็ดูความจำเป็นด้วย ว่าจะต้องใช้รถหรูเพื่อ หน้าตา ทางสังคมด้วยหรือเปล่า

 เพราะรถไม่ใช่เพียง ยานพาหนะ   แต่เป็นการแสดงฐานะทางสังคมด้วย
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: gorilla ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:34:21
คหสต. ไม่น่าซื้อครับ อย่างต่ำควร 2 เท่าของตอนนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: YenChar ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:41:45
รายได้ต่อเดือนเป็นส่วนหนึ่งครับ

แต่เงินสำรอง (เงินเย็นๆ) ก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาครับ
ถ้าผ่อนไหว แต่เงินเย็นไม่พอ ก็เสี่ยงครับ

เป็นผม ถ้าจะซื้อรถซักคัน (แบบผ่อน) ควรสำรองเงินไว้เผื่อซัก 5-6 งวดครับ
พูดง่ายๆคือ ก่อนจะเริ่มผ่อน เก็บเงินรอไว้ก่อน ถ้าอนาคตรายได้ไม่แน่ไม่นอน จะได้ไม่เสี่ยงจนเกินไป
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: gobank01 ที่ ธันวาคม 17, 2017, 21:51:41

เคยได้ยินมานานแล้ว ที่คนชอบพูดว่า

อยากได้รถเท่าไร เอารายได้ 2 ปี มาดู

ถ้า มากกว่าราคา รถก็ซื้อได้

ผมว่าใช้ได้เลยนะครับ

แต่ก็อย่างว่า บางคนรายได้ 1 ล้าน เหลือเก็บ ไม่ถึง 50k ก็มีเยอะไป

ส่วนตัวคิดว่า เหลือๆ 100k++ กำลังสบายๆครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: CJ. ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:00:04
รายได้หลังหักภาษีเหลือเท่านั้น แล้วหักค่าใช้จ่ายอื่นๆหรือยังครับ (ถ้าค่าใช้จ่ายอื่นๆไม่ต้องรับผิดชอบก็สบายไป)
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าดูแต่รายได้ อยากให้ดูเงินในบัญชีด้วยนะครับ ผมมองว่างบผ่อนเท่านั้นจะได้รุ่นล่างๆ คงไม่น่าครอบครองในฐานะรถในฝันมั้งครับ

ปล.ตอบหัวข้อกระทู้ ผมถือว่ารถเป็นขที่มูลค่าลดลง+มีค่าใช้จ่ายตามมาเป็นระยะ
     ดังนั้นผมจะคิดเป็นประมาณ 5-10% จากเงินในบัญชี (ไม่เอาทรัพย์สินอื่นมารวมนะครับ)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: เต๋า AV ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:04:58
ก็แค่พาหนะ อำนวยความสะดวกในการเดินทาง

คนรวยที่รู้จักกัน (ทรัพย์สินระดับ 100ล้าน+)
ชีวิตประจำวันขับ Fortuner ภรรยาขับ C Segment
แต่มี RX7 200SX เดิมๆ จอดเก็บไว้

ฉะนั้น คิดจะซื้อรถ ถามตัวเองจะดีกว่า
จะซื้อมาใช้ หรือซื้อมาอวด
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: nest@cm ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:05:36
มีรายได้เหลือ ๘๕,๐๐๐ บาท ส่วนตัวผมมองว่า ไม่ควรเอานะครับ ค่าผ่อนรถ ๔๐,๐๐๐ บาท ค่าน้ำมัน ๑๐,๐๐๐ บาท  ต้องเผื่อภาษี และประกันอีกปีละ ๔ - ๕ หมื่นบาท หากว่า หักรายได้ กับค่าผ่อนรถ ค่าน้ำมัน เหลือประมาณ ๓๕,๐๐๐ บาท นิดเดียวนะครับ เงิน ๓๕,๐๐๐ บาท สมัยนี้ มันไม่ได้มากเหมือนสมัยก่อนเลย  เปลี่ยนใปเล่น พวก Camry Accord (รอโฉมใหม่)  หรือ พวก Cx5 จะดีกว่าครับ  อนึ่ง ถ้ามีรายได้หลักหักภาษีซัก ๑๕๐,๐๐๐ ผมว่า โอเคกว่านะ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: bodin ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:10:39
หนักไปครับ แค่พวก camry ก็ลากเลือดแล้ว

เก็๋บซื้อสดไปเลย จบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: aun ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:16:53
ขึ้นอยู่กับภาระครับ ถ้าไม่มีภาระอะไรอื่นๆเลยแค่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั่วๆไป (กิน เดินทาง โทรศัพท์ เน็ต) สูตรรายได้ต่อปี *2 ก็พอไหวแต่แปลว่าเราผ่อนรถด้วยรายได้ 50% เลย(กรณีผ่อน 4 ปี ถ้า 5 ปีก็เบาลงหน่อยแต่แนะนำเป็นไปได้ผ่อน 4 ปีพอครับกำลังดีไม่เบื่อ จะขายต่อหรืออะไรก็ไม่ติดผ่อนแล้ว) แต่ผมว่าถ้าไม่มีภาระอะไรเลย แล้วเอาแบบสบายๆก็รายได้ ต่อปี *1 หรือ 1.5 กำลังดี กรณีผ่อนสี่ปี จะใช้เงินเป็นสัดส่วนประมาณ 25-37% จะได้เหลือไว้เป็นค่าใข้จ่ายอื่นๆเผื่อฉุกเฉิน+เงินเก็บ
กรณีมีภาระนี่ขึ้นอยู่กับรายได้หลังหักคชจ.ต่อเดือนเลยครับว่าเหลือเท่าไหร่ หรือถ้าสูตรผม  รายได้ - รายจ่ายต่อเดือน = รายได้คงเหลือ
/2 = ยอดผ่อนต่อเดือน เช่นรายได้ 100,000 มีแค่คชจ.ส่วนตัว 20,000 คงเหลือ 80,000/2 ก็ผ่อนได้ไม่ควรเกิน 40,000 แบบเต็มที่ ถ้ามีภาระ 50,000 ก็เหลือยอดผ่อนไม่ควรเกิน 25,000 ต่อเดือน คิดแบบมนุษย์เงินเดือนนะครับอาจจะเสี่่ยงนิดนึง

ปล. บีเอ็มยังได้เปรียบตรงที่มี BSI + warantee (ถ้าซื้อเพิ่ม 5 ปี) ที่ช่วยลดคชจ.ต่อเดือนที่ต้องกันไว้ได้เยอะ เหลือแค่ยาง แบ็ต ประกันฯ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:33:24
10 เท่าของค่าผ่อนต่อเดือนครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: View ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:36:09
ลองเล่นรุ่นล่างๆ ที่ผ่อนประมาณ 25,xxx ก่อนน่าจะดีกว่ามั้ย ถ้าอยากได้ BMW จริงๆ
ถ้าผ่อนประมาณ 4 หมืนควรจะเหลือ 15x,xxx +

ครึ่งนึงของเงินเดือนโหดไปครับ ไหนจะค่าน้ำมันอีก

ประกันภัยอีกรถพวกนี้ประกันปีเป็นแสน เฉลี่ยก็เดือนละเกือบๆ หมื่นอยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: mentos ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:37:18
ถ้าตามเหมาะสมก็ เงินเก็บ 1 ปีสามารถซื้อป้ายแดงได้

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Untouchable ที่ ธันวาคม 17, 2017, 22:46:40
ถ้าไม่มีภาระอะไรเลย บ้านไม่ต้องเช่า ไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย ไม่เที่ยวไม่กินดื่มบ่อย มีการวางแผนค่าใช้จ่าย ไม่มีครอบครัว ซื้อได้ครับ

แต่ถ้าเอาแบบไม่เดือดร้อนเลยราคารถไม่เกิน1,400,000กำลังสวยครับ เอาเงินไปลงทุนอย่างอื่นได้อีกครับ

รออีกหน่อยเงินเดือนมากขึ้น มั่นคงขึ้น ซื้อตอนนั้นไม่สายครับ

ที่บริษัทผมรายได้ต่อเดือน7หลัก มีf10ให้ป๊านั่งคันเดียวที่เป็นยุโรป นอกนั้นกระบะ ตู้กับอีโค่คาร์ครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคั
เริ่มหัวข้อโดย: bobsan ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:11:35
เมื่อประมาณเกือบสิบปีที่แล้วผมก็เจอสถานการณ์แบบนี้
รายได้ก้พอๆกัน แต่ผมมีเงินเย็นๆเก็บไว้อีกก้อนนึง
ตอนนั้นผมไปซื้อมือสองยุโรปอีกยี่ห้อแทน

ตอนแรกๆก็คิดว่าแทนๆกันได้
แต่สุดท้ายมันไม่ใช่

มาถึงตอนนี้แม้เงินเก็บจะมากกว่าเดิม รายได้ต่อเดือนก็สูงขึ้น
แต่ก็ยังไม่ได้ซื้อยี่ห้อนี้ป้ายแดงมาใช้ เพราะภาระอื่นมันมีมากขึ้นตามมา
ทุกวันนี้ก็แอบเสียดายตลอดครับ

สรุปสั้นๆเลยครับ ซื้อเลยแต่ดาวน์เยอะหน่อยครับ

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: TONYP ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:25:54
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:31:28
คิดเอาเองครับว่าถ้าซื้อได้แล้วไม่เดือดร้อนแล้วทำไมจะไม่ซื้อ มันเป็นความฝันตั้งแต่เด็กๆ เมื่อมีโอกาสทำไมจะทำให้เป็นจริงไม่ได้ ชีวิตเราจะเหลือเวลาให้ทำตามฝันอีกซักกี่วันกัน ถ้าโอกาสมาถึงแล้วไม่ทำให้เป็นจริง วันหน้ามานั่งเสียดายแล้วจะเหลืออะไร
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Gine ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:33:34
จัดไปเหลือๆ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Kris.J ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:41:19
ผมขี้กลัว รายได้ระดับนี้อย่าพึ่งเลยครับ ยกเว้นมีเงินเย็นเก็บสัก 10 ล้าน อันนี้ไม่ว่ากัน อย่าลืมชีวิตมันไม่แน่นอน พรุ่งนี้อาจบาดเจ็บจนทำงานไม่ได้ ,บ.ที่ทำงานอยู่ลูกค้ารายใหญ่เจ๊งติดๆกัน, อีก3เดือน อาจตรวจเจอโรคร้าย หรือ ใครสักคนที่เราต้องดูแลต้องการใช้เงิน อย่าเสี่ยงเลยครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: OXYGEN2 ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:52:45
ถ้าไม่รู้สึกว่าผ่อนมากอะไรก็ซื้อเลยครับ แต่ถ้าต้องประหยัดการใช้จ่ายมาเพื่อผ่อนรถ มันจะเป็นทุกข์มากกว่าครับ

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: OHMMY ที่ ธันวาคม 17, 2017, 23:59:40
ส่วนตัวคิดว่า ควรดาว์น 50% ผ่อน ไม่เกิน 20%ของรายได้ ไม่ว่าจะรถยี่ห้อไหนก็ตาม
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: HappyCar ที่ ธันวาคม 18, 2017, 00:05:58
ถึงจะผ่อนไหว แต่ถ้าเอาให้ชัวร์ ควรมีทรัพย์สินติดตัวรวมแล้วประมาณ 10-20 ล้าน ครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: bluelawn ที่ ธันวาคม 18, 2017, 00:33:22
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

+1 ครับ,  ถูกใจอยากได้ ไม่มีภาระ ซื้อเลยครับ  มัวแต่จะรอรวยๆรายได้เป็นสิบเป็นร้อยเท่าของค่าผ่อนรถ  ผมคงชาตินี้จะได้ขับแต่อีโค่คาร์ละครับ
คนเราตายวันไหนไม่มีไครรู้ครับ  ที่รู้ๆวันนี้ขอขับก่อน.
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Nikle_pk ที่ ธันวาคม 18, 2017, 00:40:54
เชื่อผมมั้ย ถ้ากล้าซื้อ จะมีรายได้มากขึ้นครับ มันจะขยันเองเลย

ถ้ามีภาระต้องจ่าย ความพยายามมันจะตามมาเอง

ได้ทั้งรถ ได้ทั้งรายได้ ที่มากขึ้น

แต่เป้าหมายต้องชัด และ ต้องหนักแน่นนะครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Vipvipvip ที่ ธันวาคม 18, 2017, 01:02:43
รายได้ไม่สำคัญเท่าเงินที่เหลือหลังหักภาระต่างๆครับ ถ้าเงินเดือน85k ละตอนนี้มีเหลือเก็บทุกเดือนสัก60k ก็แบ่ง30k ไปผ่อนรถได้ครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: GoatGoat ที่ ธันวาคม 18, 2017, 01:51:36
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

+1 ครับ,  ถูกใจอยากได้ ไม่มีภาระ ซื้อเลยครับ  มัวแต่จะรอรวยๆรายได้เป็นสิบเป็นร้อยเท่าของค่าผ่อนรถ  ผมคงชาตินี้จะได้ขับแต่อีโค่คาร์ละครับ
คนเราตายวันไหนไม่มีไครรู้ครับ  ที่รู้ๆวันนี้ขอขับก่อน.

+1 ครับ
คนรวยที่ใช้รถถูกๆ เค้าแค่ไม่ได้ชอบหรือคิดมากอะไรกับเรื่องรถครับ อย่าใช้เป็นข้ออ้างอันชอบธรรมว่าต้องเหลือเป็นสิบๆล้านเพื่อซื้อรถดีๆสักคันเลย ป่านนั่นคุณอาจจะแก่จนไม่สนุกกับมันแล้วแหละ
ลองประเมินตัวเองดูเผื่ออนาคตไว้สัก 2-3 ปี คิดว่าไหวก็จัดครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: dekdemo ที่ ธันวาคม 18, 2017, 02:39:59
พรุ่งนี้กำเงินไปถอย bmw ที่คุณชื่นชอบ มาขับให้มันมีความสุข อยู่กินนอนกับมันทุกวันให้ชื่นใจ แล้วตั้งใจทำงานหาเงิน หารายได้เสริมเพิ่มก็ได้ครับ ผมหวังว่า ทุกๆวันคุณจะได้นอนอิ่ม ไม่คิดผิดที่เลือกครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: koko86 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 04:46:41
ผ่อนครึ่งนึงของเงินเดือนนี่maximum rate เลยนะครับ

....จริงอยู่ bmมันรถในฝัน
แต่ครึ่งนึงของเงินเดือนนี่ผมว่ามันเยอะไปจริงๆ
คุณอาจจะใช้จ่ายได้ แต่คงตึงมือมากๆ
ซึ่งมันจะตัดโอกาสตัวเอง ลงทุน หรือทำธุระกิจในช่วงอีกหลายปีที่คุณผ่อนรถ ไปเลย
รวมถึงโอกาส ดาวน์บ้าน งานแต่ง อะไรต่างๆด้วย

ลองทำสถิติ รายรับ รายจ่ายจ่ายย้อนหลังหกเดือนที่ผ่านมาดูครับ ว่าใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่ ถ้าเกินสี่หมื่น หรือมีเงินเก็บ/ลงทุน น้อยกว่าเดือนละสี่หมื่น ช่วงที่ผ่อนรถคุณตึงมือแน่นอน เพราะต้องรวมค่าประกัน กับน้ำมันเข้าไปอีก
อีกอย่าง ถ้ารายได้ของคุณมาจากเงินเดือนเป็นหลัก อย่าลืมหัก ค่า ltfสำหรับลดหย่อนภาษีด้วย เพราะคุณเสีย40(1/2)ltfมันหักได้เยอะมาก

และลองวางแผนงบดุล ชีวิตในอนาคตดูนะครับ (ทรัยย์สิน-หนี้สิน) งบดุล มันจะเป็นลบทันที เพราะมูลค่ารถมันลดเร็วมากๆ

ผมเองเคยมีโจทย์แบบคุณมาก่อนเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนนี้นึกขอบคุณตัวเองตอนนั้นที่ไม่ซื้อรถแพงเพราะทำให้ ผมเอาเงินส่วนต่างไปลงทุนจนวันนี้มีเงินเก็บพอควร

ถ้าผมเป็นคุณ อยากได้ จริงๆ คงกัดฟันซื้อมือสองสภาพดี ที่ยังมีbsi เหลือ แล้วซื้อจากศูนย์ไปเลย น่าจะเป็นคำตอบ เพราะ
1. ประหยัดเงินต้นไปอย่างน้อย30-40%
2. ประหยัดดอกเบี้ยก้อนโตที่ต้องผ่อนผมว่าเป็นแสน
3. ค่าเสื่อมต่อกิโล [(เงินที่ซื้อ-เงินที่ได้คืนตอนขายต่อ)/กิโลเมตรที่ใช้งาน]  ลดลงไปมากๆ
4. ยังมีbsi เสียอะไรก็เคลม

กำไรสี่ต่อในแง่ความคุ้ม มันคุ้มสุดๆครับ น่าจะประหยัดไปเป็นล้านเลยทีเดียว แล้วมีเงินใช้สบายๆด้วย ลองเดินไปดูก่อน ไม่เสียหลาย ไม่มีใครมาถามหรอกครับว่ารถมือหนึ่ง หรือมือสอง เท่ห์เหมือนกัน

ตอนนี้ มีรายได้ขนาดนี้ คุณรวยอยู่แล้ว แต่คุณเลือกได้ครับว่าอนาคตจะรักษาความรวยนี้ไว้ได้อย่างไร

ถ้าจำไม่ผิด เคยมีคนตั้งกระทู้ อายุน้อย รายได้สองทาง ดาวน์สามแสน แฟนอยู่ ตจว ไม่รู้ใช่คุณรึเปล่า แต่ถ้าใช่ถ้าคุณซื้อ bm น่าจะตึงๆมือเหมือนตอนที่ซื้อvolvo แหละครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Nerdys ที่ ธันวาคม 18, 2017, 06:30:05
ถ้าจะใช้รถยุโรปพรีเมี่ยมพวก E/C class หรือ 5/3 series ผมว่าควรมีเงินสด 25-30 ล้าน ครับ

รถพวกนี้ใช้ไปแล้วอาจจะไม่อยากกลับไปใช้รถญี่ปุ่นอีกเลย เพราะติดใจในเรื่องสมรรถนะ การเก็บเสียง ผิวสัมผัสวัสดุภายใน

แต่อายุใช้งานถ้ามากกว่า 5 ปีจะเริ่มรวน ทยอยเสียไปเรื่อยๆ

ดังนั้น สมมติถ้าอายุสัก 35 และจะเปลี่ยนรถทุกๆ 5-6 ปี เป็นจำนวน 5 คันไปจนเกษียร หรืออายุประมาณ 60 จะหยุดซื้อรถควรจะมีเงินสัก 30 ล้าน

ที่จริงมีสัก 5-10 ล้านก็ซื้อได้ แต่จะซื้อได้แค่ 1-2 คัน แล้วต้องกลับมาขับ Camry Accord Civic Altis เหมือนเดิม

ถ้าจะผ่อนก็ต้องดาวน์เยอะมากๆ ถึงจะผ่อนต่อเดือนไม่หนัก ซึ่งไปๆมาๆ ก็ต้องมีเงินสดในบัญชีสำรองไว้เยอะๆอยู่ดี
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 06:54:48
ส่วนตัวผมคิดว่าซื้อได้ครับ
แต่ถ้าต้องการมือ 1 ป้ายแดงผมมองว่าน่าจะลดรุ่นลงมาหน่อย
อาจจะเอาตัวเริ่มต้นพวก 320D  Iconic ที่ราคา 2.3 ล. น่าจะส่งไม่เครียดครับ
เท่าที่อ่านเจอดาว 5 แสน ผ่อน 26,000 * 60 เดือนครับ (ราคาเปลี่ยนแปลงตามส่วนลด และโปร)
ส่วนตัวผมก็ชอบตัวนี้ ติดตรงตอนนี้อยากได้รถ 7 ที่นั่งมากกว่า
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 07:05:10
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

+1 ครับ,  ถูกใจอยากได้ ไม่มีภาระ ซื้อเลยครับ  มัวแต่จะรอรวยๆรายได้เป็นสิบเป็นร้อยเท่าของค่าผ่อนรถ  ผมคงชาตินี้จะได้ขับแต่อีโค่คาร์ละครับ
คนเราตายวันไหนไม่มีไครรู้ครับ  ที่รู้ๆวันนี้ขอขับก่อน.

+1 ด้วยครับ
ตอนผมออกรถ city รายได้ 35,000/เดือน
ส่ง 9,000 ต่อเดือน ถ้าเอาตามสูตรบางท่าน ต้องรอให้มี 90,000/เดือน ณ วันนี้ผมคงขี่แต่มอไชค์ละครับ
ก็ส่งหมดนะไม่มีปัญหาแม้แต่งวดเดียว ไม่ได้ทำอาชีพเสริมด้วย
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: AnUt^_^ ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:00:59
เป็นผมเงินเดือนขนาดนี้ไม่มีภาระก็ต้องทำตามฝันล่ะครับ  คนเราจะตายวันไหนยังไม่รู้เลยครับ  ดีกว่ามาเสียดายภายหลัง (อันนี้คิดแบบตามใจอยากล้วนๆ)

แต่ถ้าห่วงอนาคตเรื่องผ่อนเรื่องอื่นๆ ตามมาก็ต้องวางแผนการเงินให้ดีล่ะครับ ถ้าอนาคตมีครอบครัว มีบ้าน มีลูกก็ต้องเผื่อตรงนี้ด้วย



หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: ภูมิใจไหม? ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:14:09
อย่าถามคนอื่นครับ พวกเราไม่รู้จักคุณเลย

ถามตัวเอง และครอบครัวดีกว่าครับ

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: tvm ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:31:48
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ
เห็นด้วยครับ
จริงๆ มันคือรสนิยม ความชอบ ความพอใจส่วนตัว
คนรวยมาก ใช้รถถูกก็ไม่ได้เป็นเรื่องต้องชมเชย เช่นกันกับคนรวมมากใช้รถแพง

รายได้พอไหม คุณหาเอง ใช้เอง ต้องรู้ว่าพอไหม ถ้ายังลังเล ผมว่าอย่าเพิ่ง เพราะซื้อมาเกิดมีอะไรคุณอาจจะจะเสียใจได้
แต่ถ้าคิดว่าไหว ยังไงก็สู้ ซื้อมาก็น่าจะมีความสุข เจอปัญหาอะไรก็ยังน่าจะมีกำลังใจลุยนะ (คหสต.)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: panjap ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:32:26
สัก 1.5 แสน ถึงจะสบายใจกว่านะ มีเงินเหลือๆ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:36:03
ผมยืนยันประโยคเดิมๆ ส่วนใหญ่ถ้าตั้งคำถามแบบนี้ตามเว็บบอร์ดนะ ไม่เคยได้ซื้อสักราย

ประกันรถพวกนี้เดือนละแสน - ชัดเจนว่าคนนั้นไม่เคยซื้อ ฟังเขามาตลอดชีวิต จะบอกว่าหากคุณขับรถดี คุณได้ส่วนลดเบี้ยประกันเป็นหมื่นๆ ครับ งงไหม ส่วนลด 20% - 50% เทียบรถที่จ่ายเบี้ย 20,000 กับรถที่จ่ายเบี้ย 60,000 ส่วนลดที่ได้ต่อ % แตกต่างกันเท่าตัว เบ็ดเสร็จจ่ายจริงราว 4 หมื่นกว่าๆ

ค่าใช้จ่ายเดือนละ 5 หมื่นถึงเป็นแสน - นี่ก็ได้ยินมาบ่อยรายจ่ายและค่าน้ำมันทั้งหมดอยู่ที่การใช้งานของคุณครับ ขับมากก็ต้องดูแลรักษามาเป็นเรื่องธรรมดา ยิ่งคุณเล็ง BMW ซึ่งมี BSI นี่อย่างน้อยก็ชิวได้ระดับหนึ่งแล้ว

ซื้อแล้วเกิดอีก 2-3 เดือนเป็นโรคร้ายจะทำยังไง - คำพูดของคนขี้กลัว ถ้ากลัวขนาดนั้น ปกติสินเชื่อเขามีประกันการผ่อนนี่ครับ ซื้อประกันความเสี่ยงเพิ่มเดือนละราวๆ พันเดียวมั้ง แค่นี้ถ้าคุณเจอเหตุการณ์ฉุกเฉินจนจ่ายไม่ได้ ประกันสินเชื่อก็จ่ายให้คุณทั้งหมด

รายได้ 8x,xxx ต้องถามว่าคุณใช้จ่ายเดือนละเท่าไร ต้องการผ่อนรถ 4x,xxx ครึ่งนึงแบบไม่กินเที่ยวเฮฮา วันๆ กินข้าวบ้านหรือไม่ได้รสนิยมกินข้าวห้างตลอดๆ ครอบครัวยังไม่มี แบบนี้สบายๆ ครับ แต่อย่าผ่อนเกิน 5 ปีนะ จบได้ 4 ปียิ่งดี อึดอัดหน่อยในบางเดือนที่อาจอยากซื้อของแพงๆ แต่ถ้าคุณมีวินัยและรู้ตัว ผมว่าสบาย

ของพวกนี้คนเคยซื้อเขาจะรู้ครับว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง ในขณะนี้ "เขาว่า" "เขาบอกว่า" แทบกว่าละ 80% ไม่เคยซื้อเลยทั้งชีวิต คำนวณให้ดีครับ วิ่งใช้งานเดือนละเท่าไร ค่าน้ำมัน ค่าประกันสิ้นปี ค่าภาษีรายปีตาม CC รถ และเผื่อค่าดูแลรักษาไว้หน่อย +20%

แต่ผมก็แนะนำว่า ควรมีเงินเก็บสำรองสักก้อนนึง ก่อนจะผ่อนรถนะ ยังไงก็มีทุนไว้ดีกว่า เครียดน้อยกว่าเยอะ จะหวังน้ำบ่อหน้าบางทีอะไรๆ มันก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน ขอให้ได้ตามความฝันครับ ผมไม่ชอบขัดความฝันใคร แต่ผมจะพยายามหาทางออกที่เหมาะสมให้แทน
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:53:05
เข้ามาดูคนมีเงินเค้าคุยกันฮะ ....
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Teera ที่ ธันวาคม 18, 2017, 08:53:26
โจทย์  หรือ ความคิด ในการมองความคุ้มค่า ของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ
ไม่งั้น คนมีเงินเดือนเหลือเท่าคุณ ก้คงต้อง ไปซื้อ civic หรือ altis เต็มที่คงได้ Cammry หรือ Accord กันหมด โลกมันคงน่าเบื่อนะ และรถยุโรปคงมาขายเมืองไทยไม่ได้
เพื่อนผม บางคนมีความสุขกับการเก็บเงิน บางคน ไม่ซื้อรถมือ 1 เพราะรับราคาตกไม่ได้ บางคนขับรถคันเดิมมา 10 กว่าปี ไม่เปลี่ยน ทุกคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง
แล้วเหตุผลของคุณล่ะ มันไม่ได้อยู่แค่ เงิน 85000 บาทต่อเดือน และ ไม่มีหนี้ครับ

ถ้าอยากได้ ไม่เดือดร้อน ดูแล้วการงานมั่นคง ซื้อได้ครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: BigCat ที่ ธันวาคม 18, 2017, 09:01:40
ผมก็ยังยืนแบบเดิม โจทย์ไม่เหมือนกัน ตัวแปรต่างกัน พูดยาก ในแต่ละคน

แต่ผมให้ความสุขกับชีวิต และรถเป็นตัวเติมความสุขผม ไม่อยากให้ญาติเผากงเต็กไปให้ เลยจัดตามฝัน

แต่ก่อนจัดก็มีเงินลงทุนระดับนึง มีเงินเย็นไว้สักหน่อย ภาระไม่เยอะ ผมก็จัด (เจ็บ แต่ จบ )

สุดท้ายผมก็มีความสุขมาก นั่งดู นั่งขัด ขับทีก็ฟินมาก ฟังเสียงเครื่อง เสียงท่อ เติมเต็มให้หัวใจเบิกบาน

 มันคือMan toy ครับ 8)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: mxmx ที่ ธันวาคม 18, 2017, 09:36:59
อยู่ที่ใจละคับ อย่าไปฟังคนอื่นมากเรารู้ตัวเราเองดีที่สุดว่ามีเงินเท่านี้ซื้อแล้วไหวไหม เดือดร้อนเปล่า
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: stm ที่ ธันวาคม 18, 2017, 10:25:23
อยู่ที่ใจคุณล้วนๆเลยครับ แต่ผมเห็นคุณลังเล แสดงว่าใจยังไม่พร้อมครับ
ผมก็เคยคิดแบบนี้ครับ และเชื่อว่าใครหลายคนก็คิดแบบนี้ครับ แต่ผมไม่ได้ทำเพราะกว่าจะมีเงินเก็บมีรายได้ อายุเริ่มมาก
และมีครอบครัวต้องรับผิดชอบ ต้องใช้เหตุผลมากกว่าความอยากครับ
สรุปถ้าคุณอายุไม่เกิน 35 ยังไม่มีครอบครัว จัดได้ครับ เอาให้หายอยาก เป็นประสบการณ์ชีวิต เอาใว้สอนลูกหลาน คนใกล้ชิดได้
แต่ถ้าเป็นคนตระหนี่ คิดมาก ไปรถญี่ปุ่นล้านกลางๆเหมาะสมครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: paeybu ที่ ธันวาคม 18, 2017, 10:34:16
มีเพิ่มแล้วค่อยซื้อ สบายใจกว่าซื้อแล้วต้องมานั่งทุกข์หาเพิ่มครับ

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: godzodiac ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:15:06
ผมผ่อน 320D มาได้3ปีแล้ว หักทุกอย่างแล้ว

เหลือใช้เดือน3หมื่น ทุกวันนี้ ก็ไม่ตึงนะครับ

สบายๆ ประหยัดน้ำมัน ขับสนุก ผมถือคติขับตั้งแต่อายุน้อยดีกว่าครับ ไม่รู้อยู่ถึงแก่ป่าว

555555

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: chaithawat ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:25:50
สมัยก่อนผมก็คล้ายๆเจ้าของกระทู้ ได้แต่ฝันแล้วก็เล่นแต่มือสองมาตลอด จับคันไหนเจ็บคันนั้นซ่อมจนชินศึกษาจนชำนาญ รื้อเองก็บ่อย มันเป็นความสุขอย่างนึงครับ จนไม่กี่ปีจัดป้ายแดงไปตามใจมากกว่าตามสมองคิด มารู้ทีหลังว่ารู้งี้กัดฟันซื้อตั้งนานแล้ว ไม่ต้องไปเสียเวลาซ่อมเสียสุขภาพจิต ไปไหนมาไหนสบายขับสนุกมาก ไม่เหนื่อย ได้แต่หาเรื่องเที่ยวกับครอบครัวไปเรื่อย
ชีวิตคนเราจะขับได้สักกี่คันเชียว อีกหน่อยพออายุมากคงอดขับรถแล้วหละครับเห็นกำลังจะร่างเป็นพรบ.จราจรใหม่กันแล้ว
ทำอะไรแล้วมีความสุขไม่เดือดร้อนใคร ไม่กระทบสถานะทางการเงินตัวเองทำไปเถอะครับ 
ปล. ฝากหลักการออมง่ายๆจากสถาบันการเงินให้พิจารณาดู หลักการออม คือ รายได้ไม่สำคัญเท่ากับการเก็บออม  รายได้ทั้งหมด หักค่าใช้จ่าย ค่าผ่อนทุกอย่างแล้ว ยังมีความสามารถออมได้ถึง 30% ก็จัดได้เลยครับ

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: charlse ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:36:27
ซื้อพวกที่ส่วนลดเยอะๆก็ได้ครับ โฉมเก่าหน่อยแต่การขับขี่ไม่ได้เก่าตาม แนะนำให้ดาวน์เยอะๆ แล้วหาโปรผ่อนดอกเบี้ยน้อยๆ 0% ยิ่งดี ผมเชื่อว่าแค่คุณมีความคิดจะซื้อ แต่กลัวไปซื้อรถญี่ปุ่น สักวันคุณก็ต้องมาซื้อ BMW  อยู่ดี กลายเป็นเสีย 2 ต่อ ;D
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:46:15
ดาวน์ซัก 50% ไหวไหม ถ้าไหววันนี้รีบไปหาเซลให้ไวเลยครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:17:57
ถ้ายังลังเลคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมลองดูมือสองไหมล่ะครับ?  :-X มือสองสภาพดีๆที่ขายต่อในหมู่คนใช้มีขายมากมายตามดูประวัติการใช้งานก็ง่ายด้วย  :D ความแตกต่างของรถยุโรปจากรถญี่ปุ่นอย่างนึงคือความปลอดภัยที่สูงกว่า ถ้าไม่ใช่รถญี่ปุ่นพรีเมี่ยมอย่างเล็กซัส ในการชนรุนแรงระดับที่ต้องพึ่งความเหนียวของเหล็กโครงสร้างในการรักษาชีวิตไม่ใช่แอร์แบกแล้วยังไงรถยุโรปที่ใช้เหล็กที่ทนแรงกระทำได้สูงกว่าก็ปลอดภัยกว่า มันเป็นการลงทุนด้านความปลอดภัยในชีวิตตัวเองด้านนึงเหมือนกันนะ  :)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:55:11
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

+1 ครับ,  ถูกใจอยากได้ ไม่มีภาระ ซื้อเลยครับ  มัวแต่จะรอรวยๆรายได้เป็นสิบเป็นร้อยเท่าของค่าผ่อนรถ  ผมคงชาตินี้จะได้ขับแต่อีโค่คาร์ละครับ
คนเราตายวันไหนไม่มีไครรู้ครับ  ที่รู้ๆวันนี้ขอขับก่อน.
จริงครับ แบบถ้าเรามีเงินเหลือ จากค่าใช้จ่ายเดือนนะ 85 k จัดได้เลยครับ ผมก็จัดมาแล้ว แต่ถ้าจะให้ดี ต้องมีเงินมากพอที่จะซื้อสดได้นะครับ ถึงจะสบายใจหน่อย
พอได้ฝันเร็ว เราก็จะไปต่อที่ฝันใหม่ที่ใหญ่ขึ้นได้เร็วครับ  มัวแต่จดๆ จ้องๆ ผ่านไปสิบปี ฝันก็ไม่ถึง ที่มีก็ไม่ต่างอีก มันเสียเวลาชีวิตไปเยอะเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:56:37
ตรรกะ มันคิดตายตัวไม่ได้ครับ ต่างคน ต่างความคิด ต่างความจำเป็น ต่างภาระ ไม่เหมือนกัน

ผมเล่าในมุมของผม
- ตอนเรียนไกล้ๆ จบ มีเงินเก็บหน่อย ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของรถคันแรก(ที่จ่ายเงินเอง)
- ราคารถ 9 แสนกลางๆ ดาวน์ 2.5 แสนบาท ผ่อนเดือน 1.2 หมื่น
- จบมา เริ่มงานเงินเดือน 1 หมื่นกกว่า  (หักผ่อนเหลือ 4-5 พัน ค่าหอ 2500 บาท โซนปทุมธานี)
- ไม่ได้ขับทุกวัน เพราะที่ทำงานไกล้ๆ น้ำมันจึงไม่ค่อยได้เติมบ่อย
- เอาโบนัส ไปเสียค่าประกันภัย ที่เหลือก็เก็บไว้ใช้
- ใช้จ่ายแต่ละเดือน ต้องประหยัดมาก เพราะเงินมีจำกัด ไม่พอใช้ขอคุณแฟนใช้นิดหน่อย  ::)

ผ่านไป 5-6 ปี ผ่อนหมด บอกเลยว่า โครตโล่งเลย ชีวิตไม่ต้องผ่อนรถ นี่มันสุดยอดจริงๆ อยากได้อะไรก็ได้ อยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากเที่ยวไหนก็ไป

ที่พร่ำเพ้อมาด้านบน จะบอกว่า ถ้าอยากได้ สู้ผ่อนและค่าใช้จ่ายไหว(แต่ละคนไม่เหมือนกัน) ซื้อเลย ย้ำว่า "ซื้อเลย!!!!" อย่าไปรอว่ามีเงินเก็บ มีเงินเหลือ รวยก่อนค่อยซื้อ บอกได้คำเดียวว่า รอไปรอมา พอมีครอบครัว มีลูก มีพ่อแม่ มีภาระเข้ามาเยอะๆ คุณจะไม่ได้ซื้อ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Odrecranon ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:58:33
มาให้กำลังใจครับ ตัวเองย่อมรู้การเงินตัวเองดีสุด

ถ้าไม่รีบมาก ลองหักเงินตัวเองออกเดิอนละ 4 หมื่นเข้าธนาคาร แบบไม่มี ATM ไว้สัก 3 - 6 เดือนครับ คิดว่าไม่มีบัญชีนี้ไปเลย
ถ้าอยู่ได้ ทีอิสระในการใช้เงินปกติ ผมว่าน่าจะผ่อนได้ครับ ยังได้เงินดาวน์เพิ่มจากการออมด้วย

อย่าลืมเก็บเงินออมเผื่ออนาคตด้วยนะครับ
เงินเดือน - เงินออม+/-เงินลงทุน = เงินที่เอามาใช้จ่าย
เผื่อเงินซื้อ LTF/RMF/ประกัน ด้วย

ถ้าทุกอย่างพร้อมก็ซื้อเลยครับ ขับ BMW ตอน 30 กับ 50 ความภูมิใจ และความสนุก น่าจะต่างกัน
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Eakkypoo ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:15:00
เดี๋ยวนี้ออกง่ายครับ
เท่าที่คุยๆกับคนรู้จักในแวววง
ใช้เงินดาวน์กันน้อยมาก แล้วก็ เล่น Balloon กันเสียส่วนใหญ่
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: ho-mannie ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:16:19
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

โดนใจเลยคับโดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคหลัง  ผมคิดแบบนี้เลย
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:57:59
อ๊ะ อ๊ะ อย่าผ่อนแบบบอลลูนเด็ดขาดนะครับ กรณีนี้ไม่สนับสนันเด็ดขาด ถ้าสภาพไม่พร้อมผ่อนแบบปกติก็แสดงว่าคุณยังรายได้ไม่พอที่จะจ่าย

เดี๋ยวนี้ออกง่ายครับ
เท่าที่คุยๆกับคนรู้จักในแวววง
ใช้เงินดาวน์กันน้อยมาก แล้วก็ เล่น Balloon กันเสียส่วนใหญ่
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Jae_156JR ที่ ธันวาคม 18, 2017, 14:34:44
ถ้าจะใช้รถยุโรปพรีเมี่ยมพวก E/C class หรือ 5/3 series ผมว่าควรมีเงินสด 25-30 ล้าน ครับ

รถพวกนี้ใช้ไปแล้วอาจจะไม่อยากกลับไปใช้รถญี่ปุ่นอีกเลย เพราะติดใจในเรื่องสมรรถนะ การเก็บเสียง ผิวสัมผัสวัสดุภายใน

แต่อายุใช้งานถ้ามากกว่า 5 ปีจะเริ่มรวน ทยอยเสียไปเรื่อยๆ

ดังนั้น สมมติถ้าอายุสัก 35 และจะเปลี่ยนรถทุกๆ 5-6 ปี เป็นจำนวน 5 คันไปจนเกษียร หรืออายุประมาณ 60 จะหยุดซื้อรถควรจะมีเงินสัก 30 ล้าน

ที่จริงมีสัก 5-10 ล้านก็ซื้อได้ แต่จะซื้อได้แค่ 1-2 คัน แล้วต้องกลับมาขับ Camry Accord Civic Altis เหมือนเดิม

ถ้าจะผ่อนก็ต้องดาวน์เยอะมากๆ ถึงจะผ่อนต่อเดือนไม่หนัก ซึ่งไปๆมาๆ ก็ต้องมีเงินสดในบัญชีสำรองไว้เยอะๆอยู่ดี

ขอแย้งครับประโยคนี้ครับ "รถพวกนี้ใช้ไปแล้วอาจจะไม่อยากกลับไปใช้รถญี่ปุ่นอีกเลย เพราะติดใจในเรื่องสมรรถนะ การเก็บเสียง ผิวสัมผัสวัสดุภายใน" ใช้นะครับ Lexus ครับ  :)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: zapdos191 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 15:18:14
ขออนุญาติแชร์ในกรณีของผมนะครับ ไม่รู้ว่าใช้ด้วยกันได้ไหม แต่ลองดูครับ

ย้อนหลังกลับไป 7-8 ปีที่แล้วครับ ผมจำได้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมใกล้จะเรียนจบ ผมก็หาเล็งละว่า เอ... เราตรากตรำเรียนมา 6 ปี เหนื่อยสายตัวแทบจะขาดออกจากกัน อยากหาอะไรซักอย่าง ที่เป็นเป้าหมายของเรา ให้เราขยันหมั่นเพียรเพื่อที่จะไปหามันให้ได้ ผมเองเป็นคนชอบรถแต่เด็กครับ และรักรถมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ศึกษามาเรื่อยๆ มาจนเจอะว่า ตัวเองโคตรชอบ Subaru ตอนช่วงนั้นก็เข้าเวป HLM นี่แหละครับ และเบ็ดเสร็จหลงจ๊งว่า จะซื้อ Subaru Impreza WRX STi โฉมหน้าแมวนี่แหละ (ผมเป็น fanboy subaru มานานละครับ ตั้งแต่สมัยซูยังวิ่ง WRC อยู่) พอจบมา ผมตั้งต้นแต่แรกเลยครับว่า "จะไม่เป็นหนี้อะไรใครที่ไหนเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม" ผมก็ทำได้มาตลอดครับ กลับบ้านทำงานตัวเอง ช่วยงานที่บ้าน เก็บเงินแบบเก็บล้วนๆ กินน้อยๆ ใช้น้อยๆ 5555+ มันก็มีหลงๆบ้างครับ ประปรายรายทาง ซื้อนู่นนี่มั่งสนอง want ตัวเอง แล้วเงินมันก็เยอะขึ้นเรื่อยๆตามลำดับที่ผมวางแผนไว้ครับ แล้วก็มาฮวบอีกทีตอนแต่งงาน 555555555+ หลังจากแต่งงาน ผมก็ยังคงใช้ Vios โฉมบริทนี่ ที่คุณพ่อซื้อให้ตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยปี 1 นั่นแหละครับ ก็ยังคงไม่ได้ซื้อซักที ต้องบอกอีกว่าผมโชคดี(มากๆ)อีกทางหนึ่งคือ ภรรยาผม ไม่ได้ขัดข้องอะไรเกี่ยวกับเป้าหมายของผมเลย ก็อดทนกันใช้ Vios นั่นแหละครับ มาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ ช่วยกันทำมาหาเงิน และก็มีหลายครั้งอีกนั้นแหละครับ ที่เป้าหมายมันเป๋ รถมันแพง (ตอนนั้น 3.98 ล้าน) ก็เคยคิดกันว่า BMW ดีไหม MB ดีไหม ยิ่งไปโดน Golf GTi เข้า เกือบอดทนไม่ไหว ตบะเกือบแตกเหมือนกันครับ ก็ยังดีที่ไปลองตอนนั้นหลายคนดึงสติไว้ ประกอบกับทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ 555+

และแล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปนาน... นานมากจน Subaru มันออกโฉมตัวปัจจุบันออกมานี่แหละครับ จนอิมหน้าแมวก็ตกรุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย (จริงๆ 2 รุ่นด้วยซ้ำ เพราะผมตั้งเป้าไว้เป็นอิม 5 ประตู จน 4 ประตูออกก็แล้ว จนมาเสือนี่แล้วใหญ่เลย) ซึ่งสุดท้ายโฉมเสือ STi ราคาออกที่ตัวเลข 3.45 ล้านบาท... ณ ตอนนั้นด้วยความที่ผมอดทนมานานนนนน และช่วงเวลาที่ผ่านมาคือผมตั้งใจมากๆ เงินสดที่มีทั้งหมด (หมดตัวจริงๆครับนะครับ) มีเยอะกว่าราคารถอยู่ไม่มากมายนัก ซึ่งถ้าทุ่มหมดเลย เงินสดผมจะเหลือน้อยถึงน้อยมากๆครับ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ "รถไม่ใช่แค่ยานพาหนะที่พาผมจากจุดไปอีกจุด มันเป็นมากกว่านั้น" ส่วนที่มากกว่านั้นผมไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ตรงนี้อาจจะไม่ตรงกับความคิดของสมาชิกหลายๆท่านนะครับ สุดท้ายสุด ผมวางเงินดาวน์ไป 3 ล้านบาท อีก 4แสนกว่าบาทนั้นผมทำเป็นยอดจัดผ่อน จริงๆผมจะวางสดหมดเลยด้วยซ้ำครับ แต่เงินสดในมือมันจะเหลือน้อยจนน่ากลัว นิสัยผมเองไม่ใช่คนชอบวางเงินผ่อน ไม่ชอบเป็นหนี้นานๆ การซื้อรถครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมผ่อนเอาครับ เหตุผลที่ผมเอา 4 แสนมาผ่อนเพราะว่าอย่างแรกคือ ดอกเบี้ยมันต่ำที่สุดเท่าที่ธนาคารจะรับได้ครับ ผ่อนสองปี เดือนนึงประมาณสองหมื่นกว่าบาท ไม่หนักมากเวลาผ่อน เงินสด 4 แสนผมไปปั่นไปลงทุนให้ดอกเบี้ยเยอะกว่าที่ธนาคารเอาจากผมไป และมันก็เป็นแบบนั้นครับ ประมาณปีกว่าๆ ผมก็โปะยอดจนหมด

ถามว่าที่ผมทำไปมีความเสี่ยงไหม มันมีครับ... แต่ผมไม่รู้สึกลำบากอะไรเลย เพราะผมไม่ได้เป็นหนี้ตั้งแต่เรียนจบ พยายามเก็บหอมรอมริบแบบสุดๆ ไม่ได้ลำบากใคร ในทางกลับกัน เวลาผมขับรถคันนี้ผมมีความสุขมากๆ มากจริงๆจนผมเสพติดกับมันไปแล้ว 555+ มันคือความสุขของผมอย่างนึงไปแล้วครับ ถามว่าคุ้มไหม... ถ้าเป็นคนอื่นมองอาจจะไม่ แต่สำหรับตัวผมเองแล้วผมว่าคุ้มครับ และไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจทำแบบนั้น ถ้าผมต้องรอให้ตัวเองมีเงินสดหลัก 10-20 ล้านแล้วค่อยซื้อคันนี้ (ซึ่งราคามันคงพอๆกับ BMW หรือแพงกว่าบางรุ่น) ผมคงไม่ได้ขับจนถึงทุกวันนี้ครับ และจนถึงวันนี้ผมก็ไม่ได้เป็นหนี้อะไรใคร ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความสุขดีครับ

ปล. ย้อนกลับไปที่คำถามต้นกระทู้ เงินเดือนผมรวมหมดเบ็ดเสร็จหลงจ๊งประมาณแสนกว่าบาทครับ และหลังแต่งงานมีภรรยาช่วยๆกันหาก็ประมาณสองแสนหน่อยๆ น่าจะพอเป็นประโยชน์นะครับ


หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Slipknot` ที่ ธันวาคม 18, 2017, 15:26:07
ไม่มีหนี้ก็สบายๆครับ อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตแบบไหนมากกว่า ถ้าคนธรรมดาทั่วไปยังไงก็พอ
ซื้อรถคิดเยอะได้แต่อย่าเยอะเกินไป เราผ่อนไหวแล้วชอบก็เอาเลย
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ ธันวาคม 18, 2017, 15:38:06
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

+1 ครับ,  ถูกใจอยากได้ ไม่มีภาระ ซื้อเลยครับ  มัวแต่จะรอรวยๆรายได้เป็นสิบเป็นร้อยเท่าของค่าผ่อนรถ  ผมคงชาตินี้จะได้ขับแต่อีโค่คาร์ละครับ
คนเราตายวันไหนไม่มีไครรู้ครับ  ที่รู้ๆวันนี้ขอขับก่อน.

+1 ด้วยครับ
ตอนผมออกรถ city รายได้ 35,000/เดือน
ส่ง 9,000 ต่อเดือน ถ้าเอาตามสูตรบางท่าน ต้องรอให้มี 90,000/เดือน ณ วันนี้ผมคงขี่แต่มอไชค์ละครับ
ก็ส่งหมดนะไม่มีปัญหาแม้แต่งวดเดียว ไม่ได้ทำอาชีพเสริมด้วย

10เท่าของเงินเดือนคือ ตามคำถามที่ถามคือ รถ BMW น่ะครับ  มันจะมีปัจจัยอื่นอีกมากมายตามมา..........แต่หากรถญี่ปุ่น ผมให้ 5 เท่าของเงินเดือนน่ะ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Stp ที่ ธันวาคม 18, 2017, 16:00:47
มาแนวเดียวกับผมเลย ตอนนั้นผ่อนโดยดาวน์มากที่สุดที่ทำได้ เหลือเงินเก็บมาลงทุน 6 แสน สุดท้ายเบื่อผ่อนแค่ปีครึ่งปิดยอดไปเลย มีส่วนต่างเงินลงทุนมาเป็นดอกเบี้ยด้วย ชิวละตอนนี้  :D

ขออนุญาติแชร์ในกรณีของผมนะครับ ไม่รู้ว่าใช้ด้วยกันได้ไหม แต่ลองดูครับ

ย้อนหลังกลับไป 7-8 ปีที่แล้วครับ ผมจำได้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมใกล้จะเรียนจบ ผมก็หาเล็งละว่า เอ... เราตรากตรำเรียนมา 6 ปี เหนื่อยสายตัวแทบจะขาดออกจากกัน อยากหาอะไรซักอย่าง ที่เป็นเป้าหมายของเรา ให้เราขยันหมั่นเพียรเพื่อที่จะไปหามันให้ได้ ผมเองเป็นคนชอบรถแต่เด็กครับ และรักรถมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ศึกษามาเรื่อยๆ มาจนเจอะว่า ตัวเองโคตรชอบ Subaru ตอนช่วงนั้นก็เข้าเวป HLM นี่แหละครับ และเบ็ดเสร็จหลงจ๊งว่า จะซื้อ Subaru Impreza WRX STi โฉมหน้าแมวนี่แหละ (ผมเป็น fanboy subaru มานานละครับ ตั้งแต่สมัยซูยังวิ่ง WRC อยู่) พอจบมา ผมตั้งต้นแต่แรกเลยครับว่า "จะไม่เป็นหนี้อะไรใครที่ไหนเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม" ผมก็ทำได้มาตลอดครับ กลับบ้านทำงานตัวเอง ช่วยงานที่บ้าน เก็บเงินแบบเก็บล้วนๆ กินน้อยๆ ใช้น้อยๆ 5555+ มันก็มีหลงๆบ้างครับ ประปรายรายทาง ซื้อนู่นนี่มั่งสนอง want ตัวเอง แล้วเงินมันก็เยอะขึ้นเรื่อยๆตามลำดับที่ผมวางแผนไว้ครับ แล้วก็มาฮวบอีกทีตอนแต่งงาน 555555555+ หลังจากแต่งงาน ผมก็ยังคงใช้ Vios โฉมบริทนี่ ที่คุณพ่อซื้อให้ตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยปี 1 นั่นแหละครับ ก็ยังคงไม่ได้ซื้อซักที ต้องบอกอีกว่าผมโชคดี(มากๆ)อีกทางหนึ่งคือ ภรรยาผม ไม่ได้ขัดข้องอะไรเกี่ยวกับเป้าหมายของผมเลย ก็อดทนกันใช้ Vios นั่นแหละครับ มาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ ช่วยกันทำมาหาเงิน และก็มีหลายครั้งอีกนั้นแหละครับ ที่เป้าหมายมันเป๋ รถมันแพง (ตอนนั้น 3.98 ล้าน) ก็เคยคิดกันว่า BMW ดีไหม MB ดีไหม ยิ่งไปโดน Golf GTi เข้า เกือบอดทนไม่ไหว ตบะเกือบแตกเหมือนกันครับ ก็ยังดีที่ไปลองตอนนั้นหลายคนดึงสติไว้ ประกอบกับทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ 555+

และแล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปนาน... นานมากจน Subaru มันออกโฉมตัวปัจจุบันออกมานี่แหละครับ จนอิมหน้าแมวก็ตกรุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย (จริงๆ 2 รุ่นด้วยซ้ำ เพราะผมตั้งเป้าไว้เป็นอิม 5 ประตู จน 4 ประตูออกก็แล้ว จนมาเสือนี่แล้วใหญ่เลย) ซึ่งสุดท้ายโฉมเสือ STi ราคาออกที่ตัวเลข 3.45 ล้านบาท... ณ ตอนนั้นด้วยความที่ผมอดทนมานานนนนน และช่วงเวลาที่ผ่านมาคือผมตั้งใจมากๆ เงินสดที่มีทั้งหมด (หมดตัวจริงๆครับนะครับ) มีเยอะกว่าราคารถอยู่ไม่มากมายนัก ซึ่งถ้าทุ่มหมดเลย เงินสดผมจะเหลือน้อยถึงน้อยมากๆครับ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ "รถไม่ใช่แค่ยานพาหนะที่พาผมจากจุดไปอีกจุด มันเป็นมากกว่านั้น" ส่วนที่มากกว่านั้นผมไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ตรงนี้อาจจะไม่ตรงกับความคิดของสมาชิกหลายๆท่านนะครับ สุดท้ายสุด ผมวางเงินดาวน์ไป 3 ล้านบาท อีก 4แสนกว่าบาทนั้นผมทำเป็นยอดจัดผ่อน จริงๆผมจะวางสดหมดเลยด้วยซ้ำครับ แต่เงินสดในมือมันจะเหลือน้อยจนน่ากลัว นิสัยผมเองไม่ใช่คนชอบวางเงินผ่อน ไม่ชอบเป็นหนี้นานๆ การซื้อรถครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมผ่อนเอาครับ เหตุผลที่ผมเอา 4 แสนมาผ่อนเพราะว่าอย่างแรกคือ ดอกเบี้ยมันต่ำที่สุดเท่าที่ธนาคารจะรับได้ครับ ผ่อนสองปี เดือนนึงประมาณสองหมื่นกว่าบาท ไม่หนักมากเวลาผ่อน เงินสด 4 แสนผมไปปั่นไปลงทุนให้ดอกเบี้ยเยอะกว่าที่ธนาคารเอาจากผมไป และมันก็เป็นแบบนั้นครับ ประมาณปีกว่าๆ ผมก็โปะยอดจนหมด

ถามว่าที่ผมทำไปมีความเสี่ยงไหม มันมีครับ... แต่ผมไม่รู้สึกลำบากอะไรเลย เพราะผมไม่ได้เป็นหนี้ตั้งแต่เรียนจบ พยายามเก็บหอมรอมริบแบบสุดๆ ไม่ได้ลำบากใคร ในทางกลับกัน เวลาผมขับรถคันนี้ผมมีความสุขมากๆ มากจริงๆจนผมเสพติดกับมันไปแล้ว 555+ มันคือความสุขของผมอย่างนึงไปแล้วครับ ถามว่าคุ้มไหม... ถ้าเป็นคนอื่นมองอาจจะไม่ แต่สำหรับตัวผมเองแล้วผมว่าคุ้มครับ และไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจทำแบบนั้น ถ้าผมต้องรอให้ตัวเองมีเงินสดหลัก 10-20 ล้านแล้วค่อยซื้อคันนี้ (ซึ่งราคามันคงพอๆกับ BMW หรือแพงกว่าบางรุ่น) ผมคงไม่ได้ขับจนถึงทุกวันนี้ครับ และจนถึงวันนี้ผมก็ไม่ได้เป็นหนี้อะไรใคร ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความสุขดีครับ

ปล. ย้อนกลับไปที่คำถามต้นกระทู้ เงินเดือนผมรวมหมดเบ็ดเสร็จหลงจ๊งประมาณแสนกว่าบาทครับ และหลังแต่งงานมีภรรยาช่วยๆกันหาก็ประมาณสองแสนหน่อยๆ น่าจะพอเป็นประโยชน์นะครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ธันวาคม 18, 2017, 17:48:23
ลุยเลยครับ แบบนี้สบายๆ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: nin122 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 18:01:30
เป็นผมถ้าเงินเดือน 85k จะเลือกผ่อนรถที่ไม่เกินเดือนละ 30000 บาทครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: tyong ที่ ธันวาคม 18, 2017, 18:18:16
ทำแล้วตัวเองมีความสุข และไม่เป็นทุกข์แก่ผู้อื่น ลุยเลยครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ ธันวาคม 18, 2017, 19:08:43
 ;) เงินเดือนเยอะจริมๆ   ;D
ผมผ่อนรถกับบ้านครึ่งนึงของเงินเดือน
อยากบอกเลยว่าให้ใจเย็นๆ ก่อนครับ

เสียดายกับเวลาที่ผ่านมามาก ถ้าไม่ผ่อนอะไรเยอะเกินไป
เอาเงินไปลงในกองทุนเรื่อยๆ นับเวลาก็ผ่านมาสามปีแล้วที่ไม่ได้ลงเพิ่มเลย
มูลค่าหน่วยลงทุนจาก 30 ขึ้นมา 37 แล้วตอนนี้ น้ำตาจะไหล เสียดาย

ผมว่าถ้าท่านยังอายุไม่เยอะ หรือยังไม่มีธุรกิจส่วนตัว ลองไปต่ออีกนิดดูไหมครับ
เผื่อกระโดดไป Ferrari เลย  ;D
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Nott1959 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 19:15:00
ถ้ามือ1ไม่ไหว ก็ดูเป็นมือสองก็ได้นี่ครับ

ส่วนค่าบำรุงรักษา ถ้างบประมาณไม่พอก็จอดรถเอาไว้รองบประมาณเท่านั้นเองครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: O-ver-Late-Driver ที่ ธันวาคม 18, 2017, 20:43:04
อย่าคิดเยอะ คิดมากครับ ถ้าชอบรถ อยู่กับรถ ซื้อเลยครับ อย่ารอ จนกำเงินสดจนพอ ค่อยซื้อ คุณอาจจะไม่ได้ซื้อ ถ้า ไม่ไหว ก็ถอยออกมาครับ  ผมเองรักรถ ชอบ(แต่ง)รถ  ทั้งยกสูง โหลดเตี้ยทั้ง e34 e36 ส่วนe39 ขายไปแล้ว เงินเดือนรายได้ แปดหมื่นกว่า ผ่อนบ้าน (จ่ายเพิ่มที่กำลังสร้าง) ผ่อนรถ ค่าน้ำมัน เดือนๆ เหลือ สองหมื่น นิดๆ แต่มีสำรองเก็บไว้ลงทุนต่างๆ พอสมควร แต่ผมไม่เอามาใช้ ยังส่งไหวน่ะครับ  ถ้ารอมีเงินสด มีเงินเหลือเป็น สิบล้าน นี้ ชีวิตนี้คงไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบ  สำหรับผม รถเป็นมากกว่า พาหนะ เเต่มันเป็น ความสุข ที่ผมซื้อได้จับต้องได้ ทุกวันนี้ขับรถที่ตัวเองชอบ แล้วมีความสุขมาก คิดไม่ผิดที่ซื้อคันนี้F30..320d ล้อยาง ตอนนี้จองรอของเบรค M (ก่อนนี้ขับ G9 ได้ปีเศษๆ)  ถ้าคุณชอบรถ ชอบขับรถ แต่งรถ สวยๆ ล้อ งามๆ สีสวยๆ  ซื้อเลยครับ อย่าลังเล ถ้าไม่ไหว ก็ถอยออกมา แบ่งเงินเป็นส่วนๆ ส่วนผ่อน ส่วนลงทุน ส่วนใช้ประจำวัน ส่วนแต่งรถ  ถ้าคุณขับรถ ล้างรถ แต่งรถ ที่คุณชอบ คุณรัก คุณจะมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำในสิ่งที่คุณรัก  life is too short 
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: khunpan33 ที่ ธันวาคม 19, 2017, 09:41:34
ไม่ต้องไปฟังมากครับ บางคนรายได้เหลือเก็บเท่าคุณเปล่ายังไม่รู้เลย
มีเงินสดดาวน์สัก 30%-40% ที่เหลือผ่อนอย่าให้เกิน 5 ปี
ค่างวดไม่เกิน 40,000 ก็สบายแล้ว
(เพิ่มเติม เงื่อนไขไม่ได้ตามนี้ คุณเหนื่อยแน่นอน กรณีคือคุณไม่มีภาระอะไรนะ ถ้ามีภาระรายได้ให้เกินแสนก่อนค่อยมาคิด)

คนรู้จักผมหลายๆ คน รวยระดับหลายร้อยล้านขับ McLaren, Porsche มีครบครับ
มันก็แค่รสนิยม ชอบรถก็ซื้อรถ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอวดรวย ไม่อวดรวย

พอคนรวยขับรถถูกๆ มันถูกจริตคนไม่มีเงินเหมือนกันก็แค่นั้นแหล่ะ

ชอบเม้นนี้ ชีวิตคนเรา เกิดมาเสี่ยงตั้งแต่คลอดแล้ว กว่าจะโตมาจนใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้ อะไรทำแล้วมีความสุขก็ทำไป ใครจะว่าเราประมาทเก็ช่างเขาครับ ชีวิตเซฟๆมันไม่ได้สุขเสมอไปหรอก อย่าไปนั่งมองคนอื่น ใช้รถที่ตัวเองอยากได้ ขณะที่อยู่ในรถที่ตัวเองต้องทนขับเลยครับ ฝันแล้วก็ต้องทะยานไปให้ถึงครับ แค่ได้มาแล้วต้องทำงานหาเงินให้หนักกว่าเดิมเท่านั้นเอง  8)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: chat_eg3d ที่ ธันวาคม 19, 2017, 10:00:27
เงินเดือน 85000 ถ้าไฟแนนท์ เค้าให้ผ่าน ก็ลุยได้เลยครับ
ผมจอง 520d g30 ที่งาน motor Expo ส่งหลักฐานเงินเดือน 100000 ไฟแนนท์ยังขอหลักฐานเพิ่ม
เลยส่งบุ็คแบงค์เงินเย็น และบุ็คแบงค์เงินหมุนเวียน ถึงจะผ่านครับ ไฟแนนท์บอกว่าผ่านไม่ผ่านอยู่ที่เงินหมุนเวียนมากสุด นอกนั้นส่วนประกอบ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: dragonlance ที่ ธันวาคม 19, 2017, 11:32:42
ขออนุญาติแชร์ในกรณีของผมนะครับ ไม่รู้ว่าใช้ด้วยกันได้ไหม แต่ลองดูครับ

ย้อนหลังกลับไป 7-8 ปีที่แล้วครับ ผมจำได้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมใกล้จะเรียนจบ ผมก็หาเล็งละว่า เอ... เราตรากตรำเรียนมา 6 ปี เหนื่อยสายตัวแทบจะขาดออกจากกัน อยากหาอะไรซักอย่าง ที่เป็นเป้าหมายของเรา ให้เราขยันหมั่นเพียรเพื่อที่จะไปหามันให้ได้ ผมเองเป็นคนชอบรถแต่เด็กครับ และรักรถมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ศึกษามาเรื่อยๆ มาจนเจอะว่า ตัวเองโคตรชอบ Subaru ตอนช่วงนั้นก็เข้าเวป HLM นี่แหละครับ และเบ็ดเสร็จหลงจ๊งว่า จะซื้อ Subaru Impreza WRX STi โฉมหน้าแมวนี่แหละ (ผมเป็น fanboy subaru มานานละครับ ตั้งแต่สมัยซูยังวิ่ง WRC อยู่) พอจบมา ผมตั้งต้นแต่แรกเลยครับว่า "จะไม่เป็นหนี้อะไรใครที่ไหนเด็ดขาด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม" ผมก็ทำได้มาตลอดครับ กลับบ้านทำงานตัวเอง ช่วยงานที่บ้าน เก็บเงินแบบเก็บล้วนๆ กินน้อยๆ ใช้น้อยๆ 5555+ มันก็มีหลงๆบ้างครับ ประปรายรายทาง ซื้อนู่นนี่มั่งสนอง want ตัวเอง แล้วเงินมันก็เยอะขึ้นเรื่อยๆตามลำดับที่ผมวางแผนไว้ครับ แล้วก็มาฮวบอีกทีตอนแต่งงาน 555555555+ หลังจากแต่งงาน ผมก็ยังคงใช้ Vios โฉมบริทนี่ ที่คุณพ่อซื้อให้ตั้งแต่เข้าเรียนมหาลัยปี 1 นั่นแหละครับ ก็ยังคงไม่ได้ซื้อซักที ต้องบอกอีกว่าผมโชคดี(มากๆ)อีกทางหนึ่งคือ ภรรยาผม ไม่ได้ขัดข้องอะไรเกี่ยวกับเป้าหมายของผมเลย ก็อดทนกันใช้ Vios นั่นแหละครับ มาเรื่อยๆๆๆๆๆๆ ช่วยกันทำมาหาเงิน และก็มีหลายครั้งอีกนั้นแหละครับ ที่เป้าหมายมันเป๋ รถมันแพง (ตอนนั้น 3.98 ล้าน) ก็เคยคิดกันว่า BMW ดีไหม MB ดีไหม ยิ่งไปโดน Golf GTi เข้า เกือบอดทนไม่ไหว ตบะเกือบแตกเหมือนกันครับ ก็ยังดีที่ไปลองตอนนั้นหลายคนดึงสติไว้ ประกอบกับทุนทรัพย์ไม่เพียงพอ 555+

และแล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปนาน... นานมากจน Subaru มันออกโฉมตัวปัจจุบันออกมานี่แหละครับ จนอิมหน้าแมวก็ตกรุ่นไปเป็นที่เรียบร้อย (จริงๆ 2 รุ่นด้วยซ้ำ เพราะผมตั้งเป้าไว้เป็นอิม 5 ประตู จน 4 ประตูออกก็แล้ว จนมาเสือนี่แล้วใหญ่เลย) ซึ่งสุดท้ายโฉมเสือ STi ราคาออกที่ตัวเลข 3.45 ล้านบาท... ณ ตอนนั้นด้วยความที่ผมอดทนมานานนนนน และช่วงเวลาที่ผ่านมาคือผมตั้งใจมากๆ เงินสดที่มีทั้งหมด (หมดตัวจริงๆครับนะครับ) มีเยอะกว่าราคารถอยู่ไม่มากมายนัก ซึ่งถ้าทุ่มหมดเลย เงินสดผมจะเหลือน้อยถึงน้อยมากๆครับ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ "รถไม่ใช่แค่ยานพาหนะที่พาผมจากจุดไปอีกจุด มันเป็นมากกว่านั้น" ส่วนที่มากกว่านั้นผมไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ตรงนี้อาจจะไม่ตรงกับความคิดของสมาชิกหลายๆท่านนะครับ สุดท้ายสุด ผมวางเงินดาวน์ไป 3 ล้านบาท อีก 4แสนกว่าบาทนั้นผมทำเป็นยอดจัดผ่อน จริงๆผมจะวางสดหมดเลยด้วยซ้ำครับ แต่เงินสดในมือมันจะเหลือน้อยจนน่ากลัว นิสัยผมเองไม่ใช่คนชอบวางเงินผ่อน ไม่ชอบเป็นหนี้นานๆ การซื้อรถครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผมผ่อนเอาครับ เหตุผลที่ผมเอา 4 แสนมาผ่อนเพราะว่าอย่างแรกคือ ดอกเบี้ยมันต่ำที่สุดเท่าที่ธนาคารจะรับได้ครับ ผ่อนสองปี เดือนนึงประมาณสองหมื่นกว่าบาท ไม่หนักมากเวลาผ่อน เงินสด 4 แสนผมไปปั่นไปลงทุนให้ดอกเบี้ยเยอะกว่าที่ธนาคารเอาจากผมไป และมันก็เป็นแบบนั้นครับ ประมาณปีกว่าๆ ผมก็โปะยอดจนหมด

ถามว่าที่ผมทำไปมีความเสี่ยงไหม มันมีครับ... แต่ผมไม่รู้สึกลำบากอะไรเลย เพราะผมไม่ได้เป็นหนี้ตั้งแต่เรียนจบ พยายามเก็บหอมรอมริบแบบสุดๆ ไม่ได้ลำบากใคร ในทางกลับกัน เวลาผมขับรถคันนี้ผมมีความสุขมากๆ มากจริงๆจนผมเสพติดกับมันไปแล้ว 555+ มันคือความสุขของผมอย่างนึงไปแล้วครับ ถามว่าคุ้มไหม... ถ้าเป็นคนอื่นมองอาจจะไม่ แต่สำหรับตัวผมเองแล้วผมว่าคุ้มครับ และไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจทำแบบนั้น ถ้าผมต้องรอให้ตัวเองมีเงินสดหลัก 10-20 ล้านแล้วค่อยซื้อคันนี้ (ซึ่งราคามันคงพอๆกับ BMW หรือแพงกว่าบางรุ่น) ผมคงไม่ได้ขับจนถึงทุกวันนี้ครับ และจนถึงวันนี้ผมก็ไม่ได้เป็นหนี้อะไรใคร ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความสุขดีครับ

ปล. ย้อนกลับไปที่คำถามต้นกระทู้ เงินเดือนผมรวมหมดเบ็ดเสร็จหลงจ๊งประมาณแสนกว่าบาทครับ และหลังแต่งงานมีภรรยาช่วยๆกันหาก็ประมาณสองแสนหน่อยๆ น่าจะพอเป็นประโยชน์นะครับ

ชอบเลยครับ ตอนนี้กำไรในธุรกิจผมหลังหักใช้จ่ายต่างๆแล้วเหลือประมาณ150k+-นิดหน่อยในแต่ละเดือน เงินเก็บประมาณ6ล้าน แฟนอยากได้ E-Class แต่ยังไม่กล้าซื้อ คงต้องลองเอาแนวคิดกับการวางแผนแบบนี้ไปใช้บ้างครับ ว่าแต่เงื่อนไขการดาวน์นี่เค้าจะยอมให้เราดาวน์ได้สูงสุดประมาณเท่าไหร่ครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: XL_SiZe ที่ ธันวาคม 19, 2017, 13:13:42
มันอยู่ที่เงินเย็น เป็นสำคัญ
เงินเก็บมีไหมครับ ต้องผ่อนได้ซัก 6 เดือน ถ้าหยุดทำงาน ก็สบายครับ(แต่เราก็ทำงานทุกวันด้วย)

บางคนต้องมี 20-30 ล้าน ถึงจะซื้อ
ถ้าแบบนี้ ป่านนี้ BMW คงขายได้เดือนละ 10 คันทั้งประเทศ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: zapdos191 ที่ ธันวาคม 19, 2017, 20:44:49
ชอบเลยครับ ตอนนี้กำไรในธุรกิจผมหลังหักใช้จ่ายต่างๆแล้วเหลือประมาณ150k+-นิดหน่อยในแต่ละเดือน เงินเก็บประมาณ6ล้าน แฟนอยากได้ E-Class แต่ยังไม่กล้าซื้อ คงต้องลองเอาแนวคิดกับการวางแผนแบบนี้ไปใช้บ้างครับ ว่าแต่เงื่อนไขการดาวน์นี่เค้าจะยอมให้เราดาวน์ได้สูงสุดประมาณเท่าไหร่ครับ

ของผมเงื่อนไขธนาคารคือ ยอดจัดเท่าไหร่ก็ได้ครับ ที่ธนาคารเค้าได้กำไรสองหมื่นบาทขึ้นไป ยอดที่ผมโพสนั่นคือเค้าได้กำไรสองหมื่นพอดีครับ ตอนโปะ ดอกเบี้ยที่เหลือลดลง 50% ด้วยครับ สรุปว่าผมเสียดอกไม่ถึงสองหมื่นแน่นอน

ปล.แนวคิดผมนี่สำหรับคนบ้ารถจริงๆนะครับ เพราะถ้าไม่ชอบมันจริงๆ ซื้อมามันจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับมันครับ แต่ถ้ารักจริงๆก็ลองดูลู่ทางครับ ถ้าปลอดภัยไปไหวก็จัดได้เลยครับ  :) :) :)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: veronic ที่ ธันวาคม 19, 2017, 21:21:38
รายได้เท่าไหร่ไม่สำคัญ คุณควรจะมีเงินเก็บส่วนจะที่ซื้อรถให้พอก่อนแล้วค่อยซื้อครับ ส่วนจะผ่อนหรือไม่ค่อยเลือกอีกที กรุณาอย่าลืมเงินเก็บสำหรับค่าพยาบาลคนในครอบครัวด้วย ผมโดนมาแล้วหลายล้านหายไปในเวลา 2 เดือน

หลักการคิดของผมคือ จะซื้อ 4 ล้าน ต้องมี 40 ล้านเงินเก็บ เท่านี้ชีวิตจะไม่เครียด แล้วก็ไม่เป็นภาระครอบครัว

หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: กด9เพื่อกลับสู่เมนูหลัก ที่ ธันวาคม 20, 2017, 01:50:20
บอกตามตรง ผมไม่เคยเข้าใจคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงกับเงินในกระเป๋าของตัวเอง
ต้องคอยมาถามคนอื่น ว่าจะซื้ออันนั้น อันนี้ ควรมีรายได้เท่าไร 
มันคนละกรณี กับการมาถามว่า การใช้รถยุโรป1ปี มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และเป็นเงินเท่าไร 

แต่การที่คุณอยากได้ bmw แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวเองควรซื้อรึป่าว ซื้อไหวรึป่าว 
ขนาดตัวเองยังไม่รู้  แล้วใครคนอื่นที่ไหนเขาจะรู้ครับ  ในเมื่อปัจจัยในชีวิตของคุณมีอะไรบ้าง  ภาระในชีวิตมีอะไรบ้าง แผนการใช้เงินระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวเป็นยังไง  ไม่มีใครรู้เลย นอกจากคุณ  แล้วคนอื่นจะตอบคำถามนี้แทนคุณได้ยังไงครับ

ผมตอบแบบนี้ไม่ได้กวนนะครับ  แต่คำถามนี้ มีแต่คุณเท่านั้นที่ต้องตอบตัวเอง ไม่มีใครตอบให้คุณได้
คนนอกที่มาตอบให้คุณ เขาก็ตอบตามความเห็นเขา  ซึ่งไม่ใช่ในสถานการณ์ของชีวิตคุณจริงๆ

การที่คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ โดยทำตามความเห็นของคนอื่น (ซึ่งไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรในชีวิตคุณ) ถือเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากๆ

ในโลกนี้ มีทั้งคนที่มีเงินเป็นพันล้าน แต่ยังขับรถญี่ปุ่นเก่าๆ  และก็มีคนที่เอาเงินเก็บทั้งหมดในชีวิต บริจาคให้วัด 
คือมันไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆทั้งนั้นในเรื่องของการใช้เงิน  มันไม่มีผิด และไม่มีถูก

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณเองล้วนๆ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: หมีขับสี่ ที่ ธันวาคม 20, 2017, 03:33:41
รายได้เหลือขนาดนี้ จัดเลยครับ แทบไม่ต้องคิด
ขนาดแม่ค้า คนขายของไม่มีรายได้มั่นคง แถวบ้านผมยังออกกันเต็ม
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: vatmee ที่ ธันวาคม 20, 2017, 10:23:10
ถ้าเจ้าของกระทู้คิดว่าไหวก็จัดไปครับผมเชียร์ :)
ได้ลองขับแล้วจะติดใจ ส่วนตัวซื้อมาแล้วซื้อสดครับ
ผมขี้เกียจผ่อน ไม่ได้ว่าคนที่ผ่อนนะครับ คนเราภาระต่างๆ
ความจำเป็นในหลายๆเรื่องของชีวิต ไม่เหมือนกันครับ
ขยันหาเงิน + ใช้ชีวิตไปด้วยครับ จะได้สุข สุดๆ
ส่วนตัว เสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดยาวๆ ยังออก
แว้น Big bike เที่ยวกัน เพื่อน อีก2-3 คัน เลย
ใช้ชีวิตอย่างที่ชอบ ก่อนแก่ครับ เอาใจช่วยทุกๆท่าน :)
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: tincubus ที่ ธันวาคม 21, 2017, 15:49:28
ลอง simulate การผ่อนสัก 3 เดือน ได้เงินเดือนมาเอาเงินก้อนนี้เก็บไว้แล้วลองใช้ชีวิตตามปกติ ถ้าไม่รู้สึกขัดสนลำบากอะไรก็จัดเลยครับ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Asu ที่ ธันวาคม 22, 2017, 10:16:53

ถ้าขับรถหรู แล้วมีความสุขกาย สุขใจ เพราะเป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันมานานแล้ว ถือเป็นรางวัลขั้นนึงของชีวิต

ผมก็ สนับสนุนให้ซื้อนะครับ เพราะน่าจะคุ้มค่า แถมคงไม่ได้ลำบากมากนัก

แต่ถ้าซื้อแล้วดีใจไม่นาน แล้วก็เฉยๆ หรือเริ่มกังวลกับการเงินในอนาคตหรืออะไรก็ตามแต่ ที่จะเป็นภาระภายภาคหน้า

ผมว่า อดใจไว้หน่อยก็ดีครับ  ของแบบนี้ก็รอกันได้นะ เงินก็อยู่ในบัญชีเราแหละ ไม่ไปไหนเสีย

***เรื่องแบบนี้ ไม่มีบรรทัดฐานของจำนวนเงินที่ต้องมีก่อนซื้อรถหรอกครับ เป็นอารมณ์และเหตุผลส่วนตัวล้วนๆ
หัวข้อ: Re: ควรมีรายได้เท่าไหร่กับการซื้อ BMW สักคัน
เริ่มหัวข้อโดย: Asu ที่ ธันวาคม 22, 2017, 10:34:38
บอกตามตรง ผมไม่เคยเข้าใจคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำยังไงกับเงินในกระเป๋าของตัวเอง
ต้องคอยมาถามคนอื่น ว่าจะซื้ออันนั้น อันนี้ ควรมีรายได้เท่าไร 
มันคนละกรณี กับการมาถามว่า การใช้รถยุโรป1ปี มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และเป็นเงินเท่าไร 

แต่การที่คุณอยากได้ bmw แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่าตัวเองควรซื้อรึป่าว ซื้อไหวรึป่าว 
ขนาดตัวเองยังไม่รู้  แล้วใครคนอื่นที่ไหนเขาจะรู้ครับ  ในเมื่อปัจจัยในชีวิตของคุณมีอะไรบ้าง  ภาระในชีวิตมีอะไรบ้าง แผนการใช้เงินระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาวเป็นยังไง  ไม่มีใครรู้เลย นอกจากคุณ  แล้วคนอื่นจะตอบคำถามนี้แทนคุณได้ยังไงครับ

ผมตอบแบบนี้ไม่ได้กวนนะครับ  แต่คำถามนี้ มีแต่คุณเท่านั้นที่ต้องตอบตัวเอง ไม่มีใครตอบให้คุณได้
คนนอกที่มาตอบให้คุณ เขาก็ตอบตามความเห็นเขา  ซึ่งไม่ใช่ในสถานการณ์ของชีวิตคุณจริงๆ

การที่คุณจะซื้อหรือไม่ซื้อ โดยทำตามความเห็นของคนอื่น (ซึ่งไม่ได้รู้รายละเอียดอะไรในชีวิตคุณ) ถือเป็นเรื่องที่ไร้สาระมากๆ

ในโลกนี้ มีทั้งคนที่มีเงินเป็นพันล้าน แต่ยังขับรถญี่ปุ่นเก่าๆ  และก็มีคนที่เอาเงินเก็บทั้งหมดในชีวิต บริจาคให้วัด 
คือมันไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆทั้งนั้นในเรื่องของการใช้เงิน  มันไม่มีผิด และไม่มีถูก

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับคุณเองล้วนๆ



บางทีความคิดเห็น ประสบการณ์ที่เจอมาก่อน มุมมอง หรือคำแนะนำที่มีเหตุผลของหลายๆคน อาจมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจของเจ้าของกระทู้ครับ