Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Auto ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:31:09

หัวข้อ: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Auto ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:31:09
     กวดขันนั่งท้ายกระบะ    แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
         ยังไงก็น่าจะมีการแก้ไขกฎหมาย  ผู้ปกครองมีหน้าที่ให้เด็กต้องนั่งคาร์ซีท       ผมว่าต้องค่อย ๆ ออกโรงเตือนกันก่อน แล้วค่อย ๆ เข้มงวดเรื่อย  ๆ   ถ้าไม่เริ่มทำ  ไม่รู้ปีไหนจะได้เริ่ม
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Mos37257 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 11:39:42
คือถ้าเริ่มทำมันเริ่มได้หมดครีบ เเต่เรื่องจะจริงจังไหมก็อย่างที่รู้กัน ทำอะไรไม่กี่วันก็หายเเล้ว เเต่เรื่อง คาซีทก็ต้องเริ่มจากผู้ปกครอง เป็นห่วงลูกหลานไหม เเต่คนรอบข้างผมให้เด็กนั่งคาชีทเเทบทุกคัน อยุ่ที่คนเเล้ว เหมือนนั่งท้ายกระบะ ชนทีนี่ไม่น่ามีโอกาสเเก้ตัว เเต่กฏหมายกับการบังคับใช้บ้านเรามันเเย่ บางทีคนทำผิดชนชินเป็นนิสัย พอกวดขันก็ต่อต้าน ข่าวที่ออกมาผมก็งง บอกหาว่ารังเเกคนจน เเต่พวกเขาลืมคิดถึงความปลอดภัย เเละความถูกต้องไป
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nismo De Alpina ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:00:34
คาร์ซีทสำหรับเมืองไทยผมว่ายากมากๆครับ แถมโดนด่ายับแน่นอน
เอาแค่บังคับให้คาดเข็มขัดคู่หน้ายังทำกันไม่ได้เลยครับ เคยเห็นพ่อขับ
 แม่เอาลูกนั่งหน้ากับแม่ ทุกคนไม่มีใครคาดเข็มขัดนิรภัยเลย สบายละ
เกิดอะไรขึ้นมาก็ครอบครัวคุณนะครับ อย่ามาโอดครวญ
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:10:33
ยากมากๆครับผมกลัวว่าจะเบื่อจนไม่กล้าทำอะไรอีก  :'( เรื่องกระบะนี่เป็นความปลอดภัยโดยตรงของคนนั่งเลยแล้วเกี่ยวกับคนอื่นๆด้วยเหมือนที่ขนต้องต้องมัดและคลุมผ้าใบไม่อย่างนั้นของ/คนหล่นลงมาทำให้รถคนอื่นเสียหาย แต่ดูกระแสที่ตอบกลับมาสิ มีแต่บอกรังแกคนจน ไม่ให้ทางออก ไม่ต้องมายุ่งกับชีวิตคนอื่น เผด็จการ สารพัดคำด่าต่างๆนาๆเพราะว่าตัวเองกำลัวขนย้ายคนด้วยกระบะหลังอยู่  :( ประเทศไทยจะออกกฏข้อบังคับอะไรแต่ละอย่างหรือบังคับใช้จริงจังแต่ละอันยากมากยากจริงๆครับ คนไทยมักง่ายและไม่มีความเคารพกฏหมายจนกลายเป็นสันดานลึกกันไปแล้ว เห็นแล้วนึกถึงตอนให้ใส่หมวกกันน็อกเลยใส่เพื่อตัวเองไม่ให้ตายแต่ก็ด่าว่ายุ่งกับชีวิตคนอื่น พอขี่ฉวัดเฉวียนรถล้มแล้วหัวฟาดตายกันขึ้นมาก็บอกการจราจรมันห่วยบ้าง ซวยบ้าง......ทำไมไม่มองดูตัวเองกันบ้าง?  ???  บางทีผมก็เริ่มคิดว่าที่ถนนประเทศไทยมันห่วยแบบนี้เป็นเพราะตำรวจมันแย่ หรือว่าเป็นเพราะตำรวจก็ตอบสนองสิ่งที่คนไทยต้องการกันแน่? ฝ่ากฏหมาย ห้ามกฏหมายมายุ่งกับตัวเองทั้งที่กำลังทำผิด อ้างเรื่องความจน อาศัยคนรู้จักมาเบ่งเพื่อทำผิดกฏหมาย น่าเก็บมาคิดกันนะครับว่ามันเป็นประชาชนเองรึเปล่าที่ทำให้ถนนและสังคมเละเทะแบบนี้?  :-\   

อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวแต่ผมอยากเล่าให้ฟัง เมื่อคืนผมดูช่อง paramount channel เค้ามีสารคดีเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กที่อเมริกาชื่อว่า waiting for superman เป็นเรื่องของการยกระดับคุณภาพการศึกษาของคนอเมริกันในประเทศเพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้วแห่งอื่นๆ ประเด็นหลักคือครูอเมริกันทุกวันนี้มีจำนวนมากที่พอตัวเองได้ทำอาชีพนี้แล้วแต่กลับไม่ยอมทำหน้าที่ ไม่เข้าสอน เวลาสอนกลับไปสปาแทนที่จะสอนหนังสือเพราะยังไงตัวเองก็ได้เงินเดือน และเทียบอัตราส่วนอล้วมีครูเพียง1ต่อ25000คนเท่านั้นที่โดนไล่ออกจากการทำตัวเละเทะแบบนี้ เลยมีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้กัน ส่วนของคนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการศึกษาก็พยายามรณรงค์และวางแผนการสอนที่มีคุณภาพสูงกว่าเดิมแม้จะเป็นในโรงเรียนรัฐบาลย่านที่ได้ชื่อว่าเสื่อมโทรมที่สุดก็ตาม แล้วก็มีคนในแวดวงการเมืองที่กล้าทำเรื่องที่ค้านกระแสสังคมทำให้คนเป็นแสนๆเกลียดตัวเองด้วยการปลดครูและครูใหญ่ร่วม3000คนออกฐานที่ไม่ทำหน้าที่ให้ดีแล้วปิดโรงเรียนไม่ได้คุณภาพไปอีกสามแห่งเพื่อกระตุ้นความตื่นตัวด้านการศึกษาด้วย จำชื่อไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไรแต่คุณเธอกล่าวไว้ว่า "ถ้าอยากให้มีคนจำนวนมากพากันเกลียดเพียงชั่วข้ามคืนก็ลองบริหารงานการศึกษาแล้วสั่งปลดงานครูที่ไม่ได้คุณภาพดูสิคะ"  ::)

ส่วนในด้านของผู้ปกครองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆกัน พ่อแม่ของคนที่ไม่ใช่ชนผิวขาวอย่างคนผิวดำและ hispanic จำนวนมากก็ไม่ได้ละเลยคุณภาพชีวิตลูกแม้ตัวเองจะอยู่ในย่านเสื่อมโทรม แม่คนนึงเลือกให้ลูกเรียนในโรงเรียนเอกชนที่ต้องจ่ายเดือนละ500ดอลล่ามากกว่าโรงเรียนรัฐบาลที่ค่าเรียนถูกกว่าแต่ครูไม่ได้คุณภาพ พอรู้ข่าวว่ามีโรงเรียนรัฐบาลที่มีการสอนที่มีคุณภาพที่เปิดรับเด็กนอกเขตที่อยู่อาศัยของตัวเองก็รีบพาลูกไปสมัคร แม้จะต้องตื่นตั้งแต่ตี5นั่งรถซับเวย์ไปส่งลูกเรียนตอน7โมงครึ่งก็ตาม คนไทยอาจมองว่าปกติแค่สำหรับประเทศเจริญแล้วถือว่าเดินทางไกลใช้เวลาสูงมาก  ??? โรงเรียนที่ว่าก็รับนักเรียนได้400คนแต่จำนวนคนที่มาสมัครเข้ามีเป็นพัน เทียบสัดส่วนคร่าวๆคือเด็ก5คนจะมีสิทธิได้เข้าเรียน1คนเท่านั้น คนที่จับฉลากไม่ได้ก็ร้องห่มร้องไห้หาที่เรียนใหม่กันไป  :'(

ที่เล่ามายืดยาวนั้นคือผมอยากจะชี้ให้เห็นว่าในประเทศเจริญแล้วเค้าไม่ต้องมาคอยบังคับว่าเอ็งต้องทำอย่างนี้แบบนี้นะ ระบบของเค้ามันทำให้คนส่วยใหญ่เดินถูกลู่ทางแล้วไม่ใช่ต้องมาคอยเป็นโคบาลถือแส้ไล่เฆี่ยนไล่ฟาดแทบทุกตัวแบบบ้านเราให้เดินตรงทาง เค้ามีเวลาไปพัฒนาเรื่องพื้นฐานสำคัญๆอย่างการศึกษาแล้ว แต่มาดูไทยเราล่ะ? เอาแค่การจราจรย่ำกับที่มากี่สิบปีแล้ว? ไม่เคยดีขึ้นแต่กลับแย่ลงๆจนเป็นประเทศที่การจราจรท้องถนนเลวที่สุดในโลกแล้ว แต่คนไทยทั้งหลายก็ยังเลือกที่จะสาปแช่งกฏหมายจราจรกัน....  :-\  ถ้าเอาประเด็นเรื่องความจนมาอ้าง คนจนในรายการที่ผมพูดถึงเค้าพยายามที่จะถีบตัวเองเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่เกิดมาจนแล้วก็ปล่อยให้ตัวเองไร้คุณภาพอยู่แบบนั้น ยิ่งคนจีนคนญี่ปุ่นนี่ตัวดีเลย ยิ่งจนมากเท่าไหร่ยิ่งมีแรงจูงใจที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตตัวเองให้ดีขึ้น ยิ่งถ้าจนแล้วชีวิตลำบากมากๆคนพวกนี้โตมาแล้วมีคุณค่าเจิดจรัสกว่าคนทั่วๆไปเสียอีก แต่ทำไมคนไทยกลับใช้คำว่าจนอ้างที่จะทำตัวมักง่ายและฝ่าฝืนกฏหมาย?  :-\  หลายๆเรื่องของเรามองแล้วสิ้นหวังมากไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องแข่งขันคุณภาพชีวิตกับใครเค้าเลย  :-\     

 
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ๐NoMoRE-LiKELY๐ ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:28:16
เห็นด้วยกับคาร์ชีทครับ
ไดโนเสาร์ที่บ้านจะได้เลิกบ่น สักที
โดนจับจะได้ให้เขาจ่ายค่าปรับ
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:35:25
ช่างเค้าสิครับ ชีวิตเค้าลูกเค้าแล้วไปยุ่งอะไรด้วย ของแบบนี้ถ้าไม่โดนเองไม่มีบทเรียนก็ไม่จำหรอก ขนาดลูกเค้าเองเค้ายังไม่ห่วงเลย คุณจะไปห่วงแทนได้ยังไง เอะอะอะไรก็จะใช้กฏหมายกันอย่างเดียว คนไม่เชื่อแล้วไปบังคับให้เชื่อ มันก็ทำได้แค่เปลือกนอกเพราะกลัวโดนปรับแค่นั้น แทนที่จะให้ความเข้าใจเห็นถึงความสำคัญของคาร์ชีท
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Krongbun ที่ ธันวาคม 18, 2017, 12:54:58
ช่างเค้าสิครับ ชีวิตเค้าลูกเค้าแล้วไปยุ่งอะไรด้วย ของแบบนี้ถ้าไม่โดนเองไม่มีบทเรียนก็ไม่จำหรอก ขนาดลูกเค้าเองเค้ายังไม่ห่วงเลย คุณจะไปห่วงแทนได้ยังไง เอะอะอะไรก็จะใช้กฏหมายกันอย่างเดียว คนไม่เชื่อแล้วไปบังคับให้เชื่อ มันก็ทำได้แค่เปลือกนอกเพราะกลัวโดนปรับแค่นั้น แทนที่จะให้ความเข้าใจเห็นถึงความสำคัญของคาร์ชีท

เอ๊า ถ้าคิดแบบนี้ทั้งประเทศ ก็ไม่ต้องมีกันเลยครับกฏหมายเนี่ย
จะ Freedom จะอิสระกันเกินไปมั้ง สนุกแน่หล่ะครับ

ทุกประเทศมีหมดน้ะครับกฏหมายบังคับให้ทำเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
แต่ต้องมีเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจจับ เป็นเรื่องปติครับ

ผมเมื่อก่อนก็ไม่ชอบใส่หมวกกันน๊อค และก็ยังไม่เคยล้มหัวกระแทก
แต่โดนปรับบ่อยๆ พอใส่ไปเรื่อยๆมันก็ขาดไม่ได้โดยอัตโนมัติเลยครับ หัวมันจะหวิวๆ
เหมือนเข็มขัดนิรภัย ผมเกิดทันยุคที่ไม่ต้องขาดเข็มขัด แต่พอมีการบังคับ มันก็ขาดไม่ได้เหมือนกัน  ::)
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mothsan ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:03:58
คาร์ซีท มันก็แล้วแต่พ่อแม่ ว่าเค้าห่วงลูกเค้าไหม อย่าไปบังคับเลย ผมว่าเอาคาดเข็มขัดทุกที่นั่งให้รอดก่อนดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องนั่งท้ายรถ ชีวิตใครชีวิตผมไม่สนหลอก อยากตายก็เรื่องของเค้า แต่เวลาคุณเทกระจาดมา คนอื่นๆ เค้าจะเดือดร้อนไปกับคุณด้วยนะสิ
เค้าถึงห้ามไม่ได้นั่ง
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BigCat ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:08:46
ผมว่าต้องจริงจังนะครับ เพราะการเอา เด็ก ขึ้นรถ โดยไม่มีคาร์ซีท ถือเป็นการกระทำที่ประมาท ต่อ เด็ก นะครับ

ต่อให้บอกว่า "ลูกเค้า เค้าผลิตมา มันเรื่องของเค้า มันไม่ได้นะครับ"

เพราะถ้าเด็กเลือกได้ ตัดสินใจเองได้ แล้วรู้ว่าไม่ปลอดภัย อาจจะตายหรือพิการได้ ผมว่าเด็กก็อาจจะเลือกไม่ขึ้นรถกับพ่อแม่ก็ได้นะครับ

แต่เด็กไม่รู้ พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ดังนั้น เรื่องคาร์ซีทมันจึงตกไปอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปกครอง

ถ้าผู้ปกครองไม่ทำ ก็ต้องถูกกฎหมายบังคับ ลงโทษ ก็ว่ากันไป
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:13:10
ผมว่าต้องจริงจังนะครับ เพราะการเอา เด็ก ขึ้นรถ โดยไม่มีคาร์ซีท ถือเป็นการกระทำที่ประมาท ต่อ เด็ก นะครับ

ต่อให้บอกว่า "ลูกเค้า เค้าผลิตมา มันเรื่องของเค้า มันไม่ได้นะครับ"

เพราะถ้าเด็กเลือกได้ ตัดสินใจเองได้ แล้วรู้ว่าไม่ปลอดภัย อาจจะตายหรือพิการได้ ผมว่าเด็กก็อาจจะเลือกไม่ขึ้นรถกับพ่อแม่ก็ได้นะครับ

แต่เด็กไม่รู้ พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ดังนั้น เรื่องคาร์ซีทมันจึงตกไปอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปกครอง

ถ้าผู้ปกครองไม่ทำ ก็ต้องถูกกฎหมายบังคับ ลงโทษ ก็ว่ากันไป

ประเทศที่เจริญแล้วถ้ามีคนแจ้งว่าพ่อแม่คนไหนมีปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูลูกเค้าส่งคนมาติดตามพฤติกรรมเลยนะครับ ถ้าเลี้ยงลูกไม่ได้มาตรฐานจริงเค้าพิจารณาให้เด็กหาผู้ปกครองใหม่และพ่อแม่เดิมมีความผิดด้วย เค้าถือว่าเด็กคือสมบัติของชาติที่มีค่า  :)
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: AboveGod ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:18:18
คาร์ซีทถ้ามีเงินซื้อ ก็ซื้อมาใช้เถอะ เห็นญาติใช้ racaro ให้ลูกนั้งเท่มาก  8)


(https://res.cloudinary.com/s8/image/fetch/c_scale,d_missing_imx2hb.png,f_auto,q_auto,w_350/http%3A%2F%2Fs7ondemand6.scene7.com%2F%2Fis%2Fimage%2FMothercareASE%2Flga328_1%3F%26%241200X1200%24)

(http://static.weloveshopping.com/shop/client/000060/up2mom/100028.jpg)
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: 5thAvenue ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:27:21
การศึกษา สำคัญพอๆกับกฏหมายครับ

การศึกษา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการให้ความรู้ผ่านโรงเรียนอย่างเดียวด้วย

แต่สื่อต่างๆ โดยเฉพาะละคร

ถ้าตัวละครยังอุ้มลูกนั่งรถอยู่ ชาวบ้านธรรมดาๆ จะไปรู้ได้ยังไงว่าสมัยนี้ เขามีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยขนาดไหน

นอกจากทำให้เห็นในละครไม่พอ ก็ยังต้องมีการ tie-in ด้วยว่าทำไมต้องนั่ง อาจมีการถกเถียงกันระหว่างลูกสะใภ้ กับ แม่ผัว

ให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมา

(จะว่าไปตัวละครเด็กในเรื่อง ดาวแต้มดิน ตอนนั้น Civic EG 3 ประตู ก็รอดตายเพราะนั่งคาร์ซีท แต่พ่อแม่เสียทั้งคู่

แต่ละครไม่ได้เน้นอะไรว่าทำไมถึงรอด แค่ไปเก็บลูกเค้ามาเลี้ยง)

ทุกการรณรงค์สามารถทำได้ ถ้าภาครัฐขอความร่วมมือกับผู้ผลิตละคร
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: h0661036 ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:48:29
...  ประเทศเราจริงจังกับการตั้งด่านตามถนนอย่างเดียวครับ     จะเขียนกฏหมายดียังไง ถ้าผู้ใช้รถ และผู้บังคับใช้กฏหมายไม่ปฏิบัติตาม มีกฏหมายไปก็เท่านั้น    แถวบ้านผมเคยมีสารวัตรจราจรที่เข้มงวดมาก  คนท้องที่ก็ไม่ชอบ ลูกน้องผู้ใต้บังคับเองก็ไม่ชอบ สุดท้ายก็พ่ายให้กับระบบ


      carseat   พวกแบรนด์ camera  ฟาร์ลีน  cool kid ก็ใช้ได้ครับ ราคาไม่กี่พันเอง  ของแบบนี้ซื้อกันไม่ได้ ที่แต่งรถแต่งเครื่องเสียงเสียได้
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SLuang ที่ ธันวาคม 18, 2017, 13:53:57
ไม่ว่าจะเรื่องใด อยู่ที่จิตสำนึก ของผู้ใช้ครับ
เรื่องคาร์ซีท แม้เมืองไทยไม่มีกฎหมายบังคับ แต่ผมและผู้ใช้หลายๆ ท่าน ก็ทำเองนะ
ขนาดของผมเรนเจอร์ T6 รุ่นแรก ไม่มีจุดยึด ISO FIX ผมก็หาซื้อมาใช้  ฝึกตั้งแต่เล็กๆ  ตอนนี้จะ 3 ขวบแล้ว ไปไหนมาไหน ก็ยอมนั่งแต่โดยดีครับ

เบาะมีหลายรุ่นหลายขนาด  ขึ้นอยู่กับน้ำหนักเด็ก  ตัวที่ผมซื้อ ก็รองรับน้ำหนักเด็ก 12 kg. ถึง 36 kg. หรือใช้จนเด็กอายุ 10 ขวบ 12 ขวบ แล้วแต่สรีระของเด็กแต่ละคน ถ้าน้ำหนักถึง ส่วนสูงถึง ก็ใช้เบลท์รถได้เลย
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Buffy ที่ ธันวาคม 18, 2017, 14:14:06
ผมยังจำได้ว่า แต่ก่อนไม่มีกฏหมายรัดเข็มขัด ไม่มีกฏหมาย สวมหมวกกันน๊อค

พอมีกฏหมายออกมา ก็หาว่า มายุ่งอะไรกับหัวกรู หรือ เสื้อผ้ายับเวลาคาดเข็มขัด

มันก็เหมือน กรณีนี้แหละครับ  สิ่งที่ควรจะส่งเสริมอย่างแรกคือ ความเข้าใจว่า รัดเข็มขัดดีอย่างไร สวมหมวกกันน๊อคปกป้องหัวคุณแค่ไหน    และ Carseat สำคัญต่อลูกคุณยังไร  ผมเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ อาจยังไม่เข้าใจ

ผมโคตรชอบตอนดู clip ที่ตำรวจจับคนไม่สวมหมวกกันน๊อค โดยเอาเงินค่าปรับไปซื้อหมวกกันน๊อคให้

กฏหมายไม่ได้บังคับให้คุณทำตาม หากไม่ทำตามเสียค่าปรับ แต่ กฏหมายมีไว้เพื่อให้คุณตระหนักถึงความปลอดภัย   
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ ธันวาคม 18, 2017, 16:05:40
คนประเทศนี้คงด่าล่ะครับ ขนาดดาราคนนึงยังโดนด่ามาแล้วเรื่องนี้คิดดู ไดโนเสาร์ขนาดไหน
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: fishfinger ที่ ธันวาคม 18, 2017, 16:08:42
อย่าว่าแต่ car seat เลยครับ มอเตอร์ไซด์นั่งกันเพียบหมวกกันน้อคไม่ใส่

สำหรับคนที่บอกว่าชีวิตใครชีวิตมันนี่คิด....ตื้นเลยครับ
เกิดอะไรขึ้นมาถ้าคนหนึ่งคนกระเด็นออกมาจากรถ ไม่นั่งcar seat , ไม่คาดเข็มขัด , นั่งกระบะท้าย
1. กู้ภัยไปช่วยชีวิตไปถึง รพ. ใช้กำลังเงินอุปกรณ์เท่าไหร่
2. หมอพยาบาลต้องช่วยชีวิต ผ่าตัด นอน รพ. ICU ต้องไปราวอีกกี่เดือน
3. หายแล้ว พิการหรือเปล่า ถ้าตายยกบ้านใครเลี้ยง ?
4. เสียทรัพยากรบุคคลที่จะไปช่วยประเทศพัฒนา 1 คน
เสียเงินเป็นแสนเป็นล้านครับ คนไม่ใช่สัตว์กระเด็นออกมาแล้วจะปล่อยเน่าข้างทาง
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: U9WS ที่ ธันวาคม 18, 2017, 16:12:42
ที่เห็นคนไทยเรายังให้เด็กเล็ก นั่งตักคนขับหรือคนนั่งหน้า นั่งระหว่างเกียร์ หรือยืนเกาะที่ท้าวแขนตรงกลางกันอยู่เลย บอกคำเดียวเด็กไม่ยอมมันร้อง

เบรคหนักหรือชนทีก็ทะลุกระจกไปไม่ทันได้ร้องกันเลย
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ธันวาคม 18, 2017, 17:51:28
จะเป็นเรื่องใหม่ที่จะมา รณรงค์ กันอีกมั๊ย ตำรวจไทย  :-\ :-\ :-\ :-\
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~BK นะแจ๊ะะะะะ~ ที่ ธันวาคม 18, 2017, 18:25:48
ถ้าผมมีลูกก็ติดตั้งคาร์ซีทอยู่แล้วครับ ถึงกฏหมายจะไม่จริงจัง แต่ลูกเราทั้งคนจะละเลยเรื่องความปลอดภัยไม่ได้หรอก
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sabuy ที่ ธันวาคม 18, 2017, 18:39:29
เรื่องคาร์ซีท เรื่องความปลอดภัย
ความเห็นส่วนตัวผมนะ ปัญหามันมาจากเรื่องวัฒนธรรมกันเลยครับ
คนในประเทศนี้ ขาดวัฒนธรรมความปลอดภัย

เคยได้ยิน Swiss cheese model มั้ยครับ
อุบัติเหตุจะเกิดได้ต้องมีรูรั่วจากทั้ง 4 ปัจจัย เกิดพร้อมกัน
ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง อาจไม่เกิดเหตุนะครับ
1.วัฒนธรรมความปลอดภัยที่เราไม่ค่อยสนใจกันเลย
2.การกำกับดูแลทั้งจากตำรวจ ทั้งจากกรมทางที่ทำถนน ได้ซ่อมมั้ย
3.สภาพถนน ในหลายจุด เป็นจุดเสี่ยง ฝนตก น้ำท่วม
4.คนขับ ไม่ทันระวัง หลบไม่ทัน

บ้านเรามีรูรั่วในประเด็นเหล่านี้อย่างครบถ้วน
เราเลยเป็นแชมป์ตายจากอุบัติเหตุ

ผมอยู่ต่างจังหวัด
เพื่อนในห้องเรียนลูกผม ไม่มีใครนั่งคาร์ซีทเลยครับ
ทั้งจังหวัดมีเด็กนั่งคาร์ซีท ไม่กี่คนครับ
แต่อย่างน้อยลูกๆผมก็นั่งครับ
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ ธันวาคม 18, 2017, 20:35:33
Car Seat เห็นถูกๆ 3-4 พันบาท ก็ไม่น่าจะเกินกำลังสำหรับคนมีเงินซื้อรถขับ และทำลูกได้
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ ธันวาคม 18, 2017, 21:34:40
เรื่องคาร์ซีท เรื่องความปลอดภัย
ความเห็นส่วนตัวผมนะ ปัญหามันมาจากเรื่องวัฒนธรรมกันเลยครับ
คนในประเทศนี้ ขาดวัฒนธรรมความปลอดภัย

เคยได้ยิน Swiss cheese model มั้ยครับ
อุบัติเหตุจะเกิดได้ต้องมีรูรั่วจากทั้ง 4 ปัจจัย เกิดพร้อมกัน
ถ้าขาดข้อใดข้อหนึ่ง อาจไม่เกิดเหตุนะครับ
1.วัฒนธรรมความปลอดภัยที่เราไม่ค่อยสนใจกันเลย
2.การกำกับดูแลทั้งจากตำรวจ ทั้งจากกรมทางที่ทำถนน ได้ซ่อมมั้ย
3.สภาพถนน ในหลายจุด เป็นจุดเสี่ยง ฝนตก น้ำท่วม
4.คนขับ ไม่ทันระวัง หลบไม่ทัน

บ้านเรามีรูรั่วในประเด็นเหล่านี้อย่างครบถ้วน
เราเลยเป็นแชมป์ตายจากอุบัติเหตุ

ผมอยู่ต่างจังหวัด
เพื่อนในห้องเรียนลูกผม ไม่มีใครนั่งคาร์ซีทเลยครับ
ทั้งจังหวัดมีเด็กนั่งคาร์ซีท ไม่กี่คนครับ
แต่อย่างน้อยลูกๆผมก็นั่งครับ

เห็นด้วยครับ สุดท้ายแล้วก็ย้อนกลับมาที่คนในประเทศครับ ต่อให้มีกฏหมายแต่ละเลยและไม่เห็นความสำคัญก็ไม่ต่างกับไม่มีครับ ทั้งความคิดประชาชนส่วนใหญ่ทั้งความจริงจังของผู้บังคับใช้กฏหมายเห็นได้ชัดเจนว่าต่างกันมากระหว่างบ้านเรากับประเทศที่พัฒนาแล้ว  :'(
หัวข้อ: Re: กวดขันนั่งท้ายกระบะ แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มจริงจังกับคาร์ซีทซักทีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: amnartmek ที่ ธันวาคม 18, 2017, 21:37:19
เวลาคุยกันเรื่องคาร์ซีท ผมงงว่า ไม่มีใครห่วงเด็กน้อย บนมอเตอร์ไซด์กันเลยหรอ น่าจะจัดการกับเรื่องนี้ก่อนครับ