Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Partarajarin ที่ กุมภาพันธ์ 02, 2018, 00:20:38
-
พอดีผมเป็นคนชอบรถอยู่แล้ว(ปล.เคยคุยกับแม่เล่นๆ ว่าอยากเป็นเซลล์ขายรถแล้วแม่ไม่ว่าด้วย)
อยากทราบเป็นความรู้ครับว่า
1. เซลล์ขายรถทั่วไป (Ford Toyota MG Mitsubishi ) เงินเดือน และ คอม เท่าไร
2. Premium cars (Mercedes BMW Audi Lexus Volvo) เงินเดือน และ คอม เท่าไร
3. Ultimate car (Porsche Rolls-Royce Bentley Ferrari) เงินเดือน และ คอม เท่าไร
4. ต้องอบรม ด้านอะไรบ้างนอกจากการขาย
5. ส่วนใหญ่จบอะไรขั้นต่ำครับ
อยากรู้เพราะมีความฝันอยากเป็นผู้จำหน่ายรถ
-
เงินเดือน 4000 คอม 6000+ ตามส่วนลดครับ
-
คุยกับเซลล์ขายบีเอ็ม เห็นบอกว่าเงินเดือน แปดหรือเก้าพันนี่แหละครับ จำไม่ได้ ค่าคอมฯ ต่างหาก และศูนย์กำหนดยอดขั้นต่ำเดือนละ 3 คัน อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าได้คันละเท่าไหร่ แต่เพื่อนผมเป็น HR อยู่ที่ศูนย์เดียวกันนี้ ผมเคยถามเล่นๆ ว่าเป็นเซลล์ขายบีเอ็มรายได้ดีมั้ย มันบอกว่า โอ๊ย ดีสิแก พวกนี้รายได้หกหลักกันทั้งนั้น ไม่รู้มันตอบจริงๆ หรือตอบเล่นๆ แต่ผมเดาว่าน่าจะเป็นเดือนๆ ไปมากกว่า เดือนไหนขายดีก็สบาย เดือนไหนขายไม่ได้ก็กินแกลบ
การศึกษา มาตรฐานก็ ป.ตรี นั่นแหละครับ แล้วก็ต้องไปอบรมอัพเดทผลิตภัณฑ์ใหม่ โปรโมชั่นใหม่ตลอด
สังคมในหมู่เซลล์ด้วยกัน โหดร้ายนะครับ อยู่ไม่ง่าย ผมซื้อบีเอ็มจากศูนย์เดิมมา 4 คันแล้ว เซลล์ไม่ซ้ำคนเลย เซลล์คนล่าสุดที่เพิ่งขายรถให้ผมเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว พอส่งมอบรถเสร็จ อีกไม่ถึงเดือนก็ออกเลย ฟังปัญหาที่น้องเค้าเล่าแล้วก็ได้แต่เห็นใจครับ
แต่ถ้าคิดว่าใจรักจริงและ tough พอ ก็ลุยเลยครับ
-
ถ้าได้ หกหลักจริง คงไม่ออกครับ ปีนึง ได้ 3 ครั้ง ดีกว่าทำงานเดือนละหมื่นทั้งปี
-
อยากทราบเรื่องราวสังคมของเซลนี่ละครับ เคยหาอ่านมีอต่คนเค้าว่าโหดร้าย ลับลวงพราง 555
-
ขนาดเซลล์ฮอนด้าที่ผมรู้จัก ก็มีปัญาที่ศูนย์เลยครับ เลยต้องย้ายไปสาขาอื่นแทน
คงน่าจะขัดผลประโยชน์แหละครับ สวยกว่า ขายได้มากกว่า ลดโปรเยอะกว่า พูดดีกว่า ลูกค้าติดมากกว่า
-
สังคมเซลล์มือใหม่
ได้มาก ใช้มาก เดือนไหนขายไม่ได้ก็ตาย
เอารายได้เดือนที่มากสุดเป็นฐานการใช้ชีวิต
เซลล์มือเก๋าๆ
ใช้จ่ายอย่างพอตัว บางเดือนได้เยอะ ก็อย่าใช้หมด
บางซีซั่นมันขายไม่ได้ จะได้ไม่เดือดร้อน
-
ในมุมลูกค้า
ผมไม่ได้ต้องการเซลล์ที่ ต้องรู้เรื่องรถไปซะหมด เอาแค่เบื้องต้นก็พอ
แต่ผมต้องการเซลล์ที่ ตรงไป ตรงมา จริงใจ อันไหนได้ ก็บอกว่า ได้ อันไหนไม่ได้ ก็บอกมาตรงๆ ไม่ใช่รับปากหมด ถึงเวลา ทำไม่ได้ อันนี้ผมจัดหนัก เหมือนกับที่ เทพารักษ์ เจอผมมา
เซลล์ดีๆ ไว้ใจได้ อย่างคนที่ผมออก civic FD กับเค้า ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ ผมแนะนำลูกค้าให้เค้าเกิน 20 คันแล้วมั้ง ผมจะคนที่แนะนำไปว่า คนนี้ไม่ได้แถมเยอะสุด แต่คนนี้ไว้ใจได้ ไม่ลีลา ครับ
เค้าเคยมาจะเสนอค่าคอมให้มั้ง ... ผมบอก ผมไม่เอาหรอก บาทเดียวก็ไม่เอา เอาตรงนั้นไปลดให้พวกที่แนะนำไปดีกว่า
-
base โตต้า 9000 มาสด้า 5000 และแล้วแต่ดีลเลอร์ด้วย
Premium car เป็นได้ยากกว่าถ้ายังไม่มีประสบการณ์ (ต้องไต่)
ลองดูสักตั้งคงไม่เสียหาย
-
เซล toyota เงินเดือน 5-6000
ค่าคอมไม่ได้ถามแต่ต้องมียอด เดือนละ 7 คันup
-
เรื่องรายละเอียดงานด้านนี้ผมไม่ทราบ แต่อยากเสริมว่าถ้าเป็นเซลล์อยากให้คุณนำความชอบเรื่องรถไปต่อยอดพูดคุยกับลูกค้าอย่างที่คุณคุยกับเพื่อน บริการลูกค้าเหมือนบริการคนรู้จัก ทุกวันนี้ผมมีความคิดฝังหัวว่าอนาคตจะซื้อ Volvo ไม่ใช่เพราะตัวรถแต่เพราะทุกครั้งที่เดินเข้าบูธ Volvo เวลามีงานแสดงรถทุกฝ่ายดูแลดีมาก ตั่งแต่เซลล์,หัวหน้าเซลล์ไปยันผู้ที่นั่งไปกับเราตอน Test drive ทุกส่วนดีงามมากจริงๆ
อีกอย่างนึงผมคิดว่า ถ้าคุณมีความชอบเรื่องรถอยู่แล้ว ลองสมัครงานในแบรนด์ที่ลูกค้าส่วนใหญ่มีแนวโน้มเป็นคนชอบเรื่องรถเหมือนกันดีไหมครับ
คุยถูกคอ ไม่ฮาร์ดเซลล์ ลูกค้าชอบแน่นอน ส่วนแบรนด์ที่คนชอบรถจะเลือกซื้อเป็นพิเศษก็อย่างเช่น Subaru , BMW , Mazda เป็นต้นครับ
ยอดอาจจะไม่ได้เยอะเท่า Toyota แต่คุณน่าจะสนุกไปกับงานที่ได้เจอคนที่มีความชอบเหมือนๆกันครับ ^^
-
หลายคนขู่ซะ เดียวเจ้าของกระทู้เค้าก็ไม่กล้าหรอกครับ ....
ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มละกัน จากที่ผมคลุกคลีกับเซลขายรถมา 5 ปี หลายๆแบรนด์นะ ....
ตอนนี้เงินเตือนขึ้นต่ำ 9000 เกือบหมดแล้วครับ มีแต่บางดีลเลอร์ที่ยังดันทุรังจ่ายที่ 5000-6000 อยู่บ้าง
เป็นเซลรถอะไรดี ... ต้องบอกว่า ถ้าเป็นค่ายญี่ปุ่น ทุกค่ายถ้าสนใจทำให้ลองไปคุยเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน เงื่อนไขยอดขาย และกฏระเบียนการทำงานครับ ซึ่งแต่ละดีลเลอร์มีกฏของตัวเองไม่เหมือนกัน ... ยกตัวอย่าง เซลโตโยต้า แต่ละโชว์รูมจะมีเซลเฉลี่ยน 60-100 คน /โชรูม ดังนั้นการจ่ายค่าตอบแทนต่างๆรวมถึงเงื่อนไข ก็จะต่างจากเซล ฮอนด้าที่โชรูมมีเซลไม่เกิน 30 คน ....
ส่วนรถค่ายยุโรป รู้สึกจะจ่ายกันที่ 10000 บาทนะครับ ส่วนคอมมิชชั้น ก็แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ช่วงเวลา ไม่ตายตัว แนะนำลองไปสมัครและศึกษาการจ่ายผลประโยชน์ก่อน
ส่วนรถหรู Ultimate car ที่เคยคุยจ่ายแพงครับ เงินเดือน 3หมื่นบาท++ แต่เงือนไขคือต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี และบางยี่ห้อรับวุฒิปริญาโทครับ ....
ทีนี้ มาดูรายได้เฉลี่ย ถามว่าเซลขายรถรายได้ดีไหม ....
ผมเห็นน้องๆเซลมีรถ หลายคัน มีบ้านหลังละ 3-4 ล้านบาทได้
เซลบางคนแต่งรถแพงกว่าราคารถที่ซื้อ
เซลหลายๆคนใช้กระเป๋าแพงกว่าลูกค้าหลายเท่า
เซลขายรถบางคนขับรถแพงกว่า รถผจกฝ่ายขายก็มี รวมถึงรถลูกค้าเองด้วย ....
รายได้เซล ขึ้นชื่อว่าเซลครับ ขายได้เยอะ ลูกค้าติด คือคุณรวยได้ ไม่ต่างกับอาชีพอื่นๆ งานบริการของฝ่ายขายอย่าคิดว่าต่ำต้อย ให้นึงถึง แอร์โฮสเตท ที่เป็นงานบริการบนเครื่องบินแต่รายได้สต๊าทครึ่งแสน
ที่สำคัญ ถ้าน้องรักในงานขาย รักในการบริการลูกค้าจริงๆ อย่าท้อครับไม่มีใครขายดีใน 3 เดือนแรก เซลแต่ละคน กว่าจะมีวันนี้เค้าสู้กันมาหลายปี ยั่งยืนก็มี ล้มหายเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นก็เยอะ อยู่ที่ตัวเรา ....
มีท๊อปเซลฮฮนด้าคนนึง อยู่โชรูมย่านรัชโยธิน รายได้เดือนละ 3-5แสนต่อเดือน โดยที่ไม่ต้องไปนั่งขายรถที่โชว์รูม เซลคนนี้ยังขายอยู่ ทำมาจะ20ปี และ และเป็นท๊อปเซล ฮอนด้าตลอดกาล ....
ประสบความสำเร็จได้ครับ ถ้าเราคิดจะทำ ...
เป็นกำลังใจให้ครับ ....
-
เหล่าให้ฟัง เคยอยู่มาหลายเจ้า จนเป็นผู้บริหารแล้วออกมา
เงินเดือน เซลล์ เริ่มที่ 5000-9000 แค่นี่ แล้วแต่ที่ แล้วแต่ดีลเลอร์ *บางที่ 3500
ค่าคอม แล้วแต่ดีลเลอร์ วิธีคิดไม่เหมือนกัน
อย่างค่ายโต รถกระบะ/เล็ก คันละ 5000 คัมรี่ 2000 +มาร์จิ้นที่เหลือแล้วหักเปอร์เซน + ค่าคอมไฟแนนซ์ ทั้งนี้แล้วแต่ ดีลเลอร์เหมือนกันว่า จะมีคอมไฟแนนซ์ให้คิดรึเปล่า หรือมาร์เหลือให้เราเต็มหรือไม่
แล้วจะมีสเต็ปขั้นต่ำ ถ้าไม่ได้ตามเป้า ก็โดนหักนะครับ
ค่าย Ford คันละ 2000 +มาร์จิ้นที่เหลือแล้วหักเปอร์เซน + ค่าคอมไฟแนนซ์ แต่ถ้าเป็นโปร ลูกค้าสิทธิพนง.หรือเกินมาร์จิ้น ไม่ได้อะไรเลยนะครับ ได้ยอดอย่างเดียวมาดันเป้า
ค่าย ISUZU เชื่อไหม กระบะแค๊ป คัน 800 4 ประตู 2000 4*4 5000 Mu-x 7000 ทำได้ 3 คัน ได้ค่าน้ำมันเพิ่ม 2000 + ค่าโทรศัพท์ 500 แค่นี้ครับ แต่อยู่ได้เพราะมีค่าอุปกรณ์ตกแต่ง
ส่วนพวกรถหรูเด่วจะแยกให้ฟัง
MB + Volvo + Bmw - ถ้าเซลล์รุ่นใหม่เค้าดูบุคลิกหน้าตา + น้ำหนักส่วนสูง + จบ ป.ตรี ใช้ภาษาอังกฤษได้ เงินเดือน 9000 ส่วนค่าคอม ระบบมาร์จิ้น + คอมไฟแนนซ์ คันนึงจะได้ประมาณ 10000-50000 แล้วแต่รุ่น บางรุ่น เกือบ แสนก็มี
เซลล์ทุกที่มีรายได้อื่นๆอีก เช่น
1. รายได้จากค่าคอมรถเก่า ขั้นต่ำ 1หมื่น บางคัน 5หมื่นก็มี * ส่วนต่างจากที่ลูกค้าไม่เอา
2. รายได้จ่ายของตกแต่ง (อันนี้เฉพาะรถตลาด) ลูกค้าอยากได้ของแต่จบจากใน 0 แต่เราก็ซื้อจากของนอกมาติดละครับ แล้วก็ + ลูกค้ากันไป เช่น เบ้ากันรอย ขายๆกัน 4 อัน 500 ใน 0 ขายกัน 4อัน 2000
เรื่องการอบรม แต่ละเจ้าเค้ามีหลักสูตรอบรมอยู่แล้ว แต่ละดีลเลอร์ก็ต้องส่งเซลล์ไปอบรม แต่ส่วนใหญ่ดีลเลอร์จะส่งไปหลังจากที่ขายได้ประมาณ 3-6 เดือน เพราะดีลเลอร์จะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเองครับ แต่ในเบื้องต้น ดีลเลอร์เค้าจะมีครูฝึกสอนใหอยู่แล้ว แต่อยู่ไปนานๆ เค้าจะส่งเราไปอบรมสกิลสูงขึ้นเรื่อยๆครับ
ผมจะแนะนำเพิ่มเติม รายได้เซลล์ไม่แน่นอนครับ สิ่งที่สำคัญคือการเก็บออมครับ เพราะบางที่เค้าไม่เอารายได้ค่าคอมมาลงในสลิปเงินเดือนนะครับ
จะซื้ออะไรก็ลำบาก และสังคมด้วยนะครับ สังคมวงการเซลล์เด่วนี้อยู่ยากครับ
-
เซลล์ทุกที่มีรายได้อื่นๆอีก เช่น
1. รายได้จากค่าคอมรถเก่า ขั้นต่ำ 1หมื่น บางคัน 5หมื่นก็มี * ส่วนต่างจากที่ลูกค้าไม่เอา
2. รายได้จ่ายของตกแต่ง (อันนี้เฉพาะรถตลาด) ลูกค้าอยากได้ของแต่จบจากใน 0 แต่เราก็ซื้อจากของนอกมาติดละครับ แล้วก็ + ลูกค้ากันไป เช่น เบ้ากันรอย ขายๆกัน 4 อัน 500 ใน 0 ขายกัน 4อัน 2000
การที่เสนอมุมนี้ ผมรู้สึกว่ามันไม่ดีนะครับ สำหรับคนที่เคยทำตรงนี้มาก่อน ผมไม่รู้ว่า คุณเคยเป็นเซลมากี่ที่และเคยทำอะไรแบบนี่กับลูกค้ามากี่ราย แต่ข้อมูลตรงนี้ผมรู้สึกว่ามันทำให้คนที่อ่านจะรู้สึกแย่กับอาชีพเซลขายรถมากไปอีก .... (จากเดิมที่รู้สึกแย่กันอยู่แล้ว)
อย่าทำลายอาชีพที่คุณเคยทำเลย ทุกวันนี้การแข่งขันกันเองก็เยอะพอแล้ว
-
ผมคิดว่ากระทู้นี้ ท่านสมาชิกที่ชื่อ "เซลขายรถ" จะมาตอบ
แต่ก็ไม่เห็นมา สงสัยไปตามหาหมายเลข 18 อยู่ครับ
-
เคยคุยกับเซลล์หลายๆแบบ เซลล์เก่งๆที่เคยคุยจะพยายามตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการได้ดี เช่น พูดในมุมมองข้อดีของตัวสินค้าโดยไม่โจมตีคู่แข่ง ข้อเสนอเป็นที่น่าพอใจบางคนไม่ได้ต้องการดอกถูกแต่ต้องการของแถมเยอะ ส่วนลดเยอะ ออกรถง่าย ของแต่งครบ หรือบริการดีอันนี้ต้องหาทางเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไรเพราะไม่มีใครบอกความต้องการตัวเองได้หมดหรอก บางคนจับมือสองมาขายด้วยก็เอารถที่ลูกค้ามาเทิร์นนั่นแหละมาจอดตั้งป้ายขายข้างถนนหน้าโชว์รูมเลยได้ 5000 - 10000 ก็ปล่อยแล้ว
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเทคนิคการขายของแต่ละคนแต่ที่สำคัญที่คนที่ขายเก่งๆต้องจำไว้คือ ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน และคนที่ขายเก่งๆอยู่ได้นานๆไม่ใช่คนที่ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุดแต่เป็นบริการที่น่าพอใจที่สุด
-
รอผู้รู้มาตอบเช่นกัน สนุกดี ได้อยู่ได้เรียนรู้กับสิ่งที่ตัวเองรัก ดีมากเลยครับ
-
ขออนุญาตสอบถามในนี้เลยนะครับ พอดีผมสนใจจะสมัครเป็นเซลล์ขายรถเหมือนกันครับ อยากทราบว่าถ้าเป็นเด็กจบใหม่พวกดีลเลอร์ต่างๆจะรับเราเข้าทำงานไหมครับ หรือต้องมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน แล้วระหว่างไปสมัครพวก Honda, Mazda กับ Benz, Volvo, Audi ที่ไหนจะรับเด็กจบใหม่ง่ายกว่าครับ
-
ขออนุญาตสอบถามในนี้เลยนะครับ พอดีผมสนใจจะสมัครเป็นเซลล์ขายรถเหมือนกันครับ อยากทราบว่าถ้าเป็นเด็กจบใหม่พวกดีลเลอร์ต่างๆจะรับเราเข้าทำงานไหมครับ หรือต้องมีประสบการณ์การทำงานมาก่อน แล้วระหว่างไปสมัครพวก Honda, Mazda กับ Benz, Volvo, Audi ที่ไหนจะรับเด็กจบใหม่ง่ายกว่าครับ
เด็กจบใหม่ไม่ใช่ประเด็นครับ ขอเพียงมีทักษะการพูดการนำเสนอ ทักษะการโต้ตอบและตอบคำถามที่ดี เท่านี้พอครับ และที่สำคัญต้องมีใจบริการด้วย
ผมเคยสัมภาษณ์งานเด็กจบใหม่ เป็นผู้หญิง ไม่รู้เรื่องรถยนต์กลไกไดๆเลย รู้แต่เพียงว่า อยากทำงานขายอยากมีเงิน ... แต่ที่สำคัญน้องเค้ามีทักษะการพูดและการจูงใจที่ดี ....
น้องคนนี้ประสบความสำเร็จเป็นท๊อปเซลของโชรูมได้ในเวลาแค่ 4 เดือน เธอขายของได้โดยที่ไม่ต้องอธิบายสเป็กรถอะไรมากมาย และที่สำคัญลูกค้าที่ออกรถไปแล้ว ล้วนแนะนำเพื่อนให้มาออกกับน้องคนนี้เท่านั้น ... และทุกวันนี้น้องคนนี้เป็น ผจกฝ่ายขายรถยนต์โชวรูมที่มียอดขายสูงต้นๆของประเทศไปแล้ว ...
ทักษะการขายสำคัญกว่าความรู้ครับ ประสบการจะสอนให้เรารับมือและแก้ปัญหาได้ .... ถ้าอยากทำ อย่าไปกลัวไป ถ้าน้องมีทักษะด้านนี้ลองไปสมัครดูครับ เริ่มจากโชรูมไกล้บ้านก่อนเลย หรือชอบรถยี่ห้อไหนเป็นการส่วนตัวไปสมัครยี่ห้อนั้นแล้วเริ่มเลยครับ
------ ทุกอาชีพมีทั้งที่คนทำแล้วประสบความสำเร็จและล้มเหลว แต่ถ้าหากเรามัวแต่ฟังสิ่งที่ล้มเหลว เราก็จะกลัวจนไม่กล้าที่จะทำให้สำเร็จครับ -----
-
โดนกดดันด้วย จำนวนยอดขายทุกเดือนๆ
-
หลายคนขู่ซะ เดียวเจ้าของกระทู้เค้าก็ไม่กล้าหรอกครับ ....
ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มละกัน จากที่ผมคลุกคลีกับเซลขายรถมา 5 ปี หลายๆแบรนด์นะ ....
ตอนนี้เงินเตือนขึ้นต่ำ 9000 เกือบหมดแล้วครับ มีแต่บางดีลเลอร์ที่ยังดันทุรังจ่ายที่ 5000-6000 อยู่บ้าง
เป็นเซลรถอะไรดี ... ต้องบอกว่า ถ้าเป็นค่ายญี่ปุ่น ทุกค่ายถ้าสนใจทำให้ลองไปคุยเงื่อนไขการจ่ายค่าตอบแทน เงื่อนไขยอดขาย และกฏระเบียนการทำงานครับ ซึ่งแต่ละดีลเลอร์มีกฏของตัวเองไม่เหมือนกัน ... ยกตัวอย่าง เซลโตโยต้า แต่ละโชว์รูมจะมีเซลเฉลี่ยน 60-100 คน /โชรูม ดังนั้นการจ่ายค่าตอบแทนต่างๆรวมถึงเงื่อนไข ก็จะต่างจากเซล ฮอนด้าที่โชรูมมีเซลไม่เกิน 30 คน ....
ส่วนรถค่ายยุโรป รู้สึกจะจ่ายกันที่ 10000 บาทนะครับ ส่วนคอมมิชชั้น ก็แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ช่วงเวลา ไม่ตายตัว แนะนำลองไปสมัครและศึกษาการจ่ายผลประโยชน์ก่อน
ส่วนรถหรู Ultimate car ที่เคยคุยจ่ายแพงครับ เงินเดือน 3หมื่นบาท++ แต่เงือนไขคือต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี และบางยี่ห้อรับวุฒิปริญาโทครับ ....
ทีนี้ มาดูรายได้เฉลี่ย ถามว่าเซลขายรถรายได้ดีไหม ....
ผมเห็นน้องๆเซลมีรถ หลายคัน มีบ้านหลังละ 3-4 ล้านบาทได้
เซลบางคนแต่งรถแพงกว่าราคารถที่ซื้อ
เซลหลายๆคนใช้กระเป๋าแพงกว่าลูกค้าหลายเท่า
เซลขายรถบางคนขับรถแพงกว่า รถผจกฝ่ายขายก็มี รวมถึงรถลูกค้าเองด้วย ....
รายได้เซล ขึ้นชื่อว่าเซลครับ ขายได้เยอะ ลูกค้าติด คือคุณรวยได้ ไม่ต่างกับอาชีพอื่นๆ งานบริการของฝ่ายขายอย่าคิดว่าต่ำต้อย ให้นึงถึง แอร์โฮสเตท ที่เป็นงานบริการบนเครื่องบินแต่รายได้สต๊าทครึ่งแสน
ที่สำคัญ ถ้าน้องรักในงานขาย รักในการบริการลูกค้าจริงๆ อย่าท้อครับไม่มีใครขายดีใน 3 เดือนแรก เซลแต่ละคน กว่าจะมีวันนี้เค้าสู้กันมาหลายปี ยั่งยืนก็มี ล้มหายเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นก็เยอะ อยู่ที่ตัวเรา ....
มีท๊อปเซลฮฮนด้าคนนึง อยู่โชรูมย่านรัชโยธิน รายได้เดือนละ 3-5แสนต่อเดือน โดยที่ไม่ต้องไปนั่งขายรถที่โชว์รูม เซลคนนี้ยังขายอยู่ ทำมาจะ20ปี และ และเป็นท๊อปเซล ฮอนด้าตลอดกาล ....
ประสบความสำเร็จได้ครับ ถ้าเราคิดจะทำ ...
เป็นกำลังใจให้ครับ ....
พนักงานทั้งศูนย์ยังไม่ถึงเลยครับ
:-\
-
สังคมเซลล์เด๋วนี้อยู่ยากครับตัดราคาส่วนลดของแถมกันสนั่นขนาดอยู่ศูนย์เดียวกัน ขอแค่ให้ได้ยอดขาย :( :(
-
รู้แต่ Subaru ครับเงินเดือนไม่ทราบ
-แต่ค่าคอมพวก XV , Forester ได้ประมาณ 5000-10,000
-พวกนำเข้าจากญี่ปุ่น เช่น WRX,BRZ ได้ 30,000
ส่วนใหญ่เขาเน้นขายกันได้แต่ XV/Forester ช่วงปรับราคาขึ้น คนไม่ซื้อ เขาก็อยู่ได้เพราะนำเข้า หรือ รับหิ้วพวกของแต่ง Subaru จากญี่ปุ่น หรือ แม้แต่ของเทียบด้วย เช่นค้ำโช๊ค ถาดท้าย ชุดแต่ง STi เป็นต้น แล้วก็มีอาชีพเสริมต่างๆ เช่นขายครีม แต่เขาก็เล่าว่าบางคนก็ไม่ไหว ย้ายไปขายยี่ห้ออื่นก็มี
เท่าทีดูสังคมในโชว์รูม Subaru ผมว่าพวกเซลล์ด้วยกัน หรือ คนแผนกต่างๆ ก็ดูสนิมสนมกันดีนะครับ ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ครับ
-
ขอตอบในฐานะเซลล์รถกึ่งพรีเมียม (รึเปล่า)
และอยากแนะนำให้คุณ Partarajarin ขายรถ Premiumครับ เดินไปสมัครเลย หาข้อมูลจากเว็บสมัครงานและ Walk in ไปสมัครครับ
เงินเดือนเซลล์รถ Premium มีตั้งแต่ 9000+ แล้วแต่นโยบายโชว์รูม
ค่าคอมก็เช่นกันครับ บางที่ใส่ค่าคอมรวมมาจิ้น มาจิ้นการขายเหลือ เซลล์ได้ บางที่ได้หมด บางที่คืนโชว์รูมครึ่งนึง
บางที่ก็เก็บค่าคอมไว้ให้ต่างหาก
อบรมอะไรบ้าง การขาย ผลิตภัณฑ์ บางที่มีฝึกบุคลิกภาพ
จบอะไรบ้าง ปวช ปวส ป.ตรี (อันหลังได้ยิ่งดี) ภาษา ถ้าได้จะถือเป็นข้อได้เปรียบของเราครับ
ส่วนข้างล่างขอแนะนำจากใจเซลล์นะครับ
1. ต้องรับให้ได้และรู้วิธีจัดการกับความผิดหวังที่จะเกิดหากลูกค้ามาคุยกับเราและไม่ซื้อ จากตัวเราและสิ่งรอบข้าง
เช่น ลูกค้าต้องการของแถมเยอะๆ เราต้อนรับ พาเทส ลูกค้าชอบในตัวเรา บริการ และรถเรา แต่ไม่ซื้อเพราะโปรฯ เราไม่ดีเท่าอีกศูนย์
2. ถ้าอยากจะเป็นเซลล์รถพรีเมี่ยม ขายแล้วต้องดูแลลูกค้าให้ดี ไม่ใช่ปล่อยรถแล้วทิ้งลูกค้า ดูแลเรื่องความพึงพอใจหลังซื้อ
จวบจนการเปลี่ยนป้ายขาว การนัดเช็คระยะหลังการขาย ทักทายลูกค้าสอบถามความเป็นไป เรื่องอื่นๆ และเรื่องรถ ให้ลูกค้าไว้ใจว่า
เหมือนได้เลขาส่วนตัว ลูกค้าที่ซื้อกลุ่มรถหรูหลายคน ต้องการบริการที่ดี ดูแลเอาใจใส่ แลกกับเม็ดเงินที่เสียไป
พยายามรักษาฐานลูกค้า อย่าย้ายยี่ห้อบ่อย พยายามอยู่ให้นาน เมื่อเราดูแลดี เค้าไว้ใจเรา เค้าจะแนะนำคนดีๆมาซื้อรถกับเราเรื่อยๆ
และต่อไปไม่ว่าเราจะไปอยู่ยี่ห้อไหน ถ้าลูกค้าไว้ใจเราส่วนนึงแล้ว Product เป็นเรื่องรองได้ครับ
3. ต้องรับมือจากแรงกดดันจาก ผจก และจากลูกค้า เราเหมือนคนกลาง ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดในข้อจำกัดที่เรามี แน่นอนว่ายาก
ถ้าเราเลือกเอาตัวไปทางลูกค้ามากกว่า ผจกก็จะเขม่นเรา แล้วเราจะรักษาตัวเองอย่างไร ด้วยยอดเท่านั้นครับ เพื่อนร่วมงาน
แน่นอน มีแอบแทงเราแย่งลูกค้าแน่นอน ต้องระวัง
4. รู้ข้อมูลรถที่เราขายอย่างดี และยี่ห้อคู่แข่งก็ต้องรู้อย่างดี แต่เวลาเปรียบเทียบ อย่าให้ลูกค้ารู้สึกว่า เราพูดข้อเสียของยี่ห้ออื่น
ลูกค้าหลายคนทำการบ้านมาดี ดีจนกระทั่งมากกว่าเซลล์หลายคน เพราะฉะนั้น พูดในแง่บวกแง่ดี และสิ่งดีๆจะมาหาเรา
ถ้าอยากแลกเปลี่ยนข้อมูลมากกว่านี้ Inbox มาถามได้นะครับ ยินดีตอบ ตอนนี้นึกออกแค่นี้ครับ :D
-
เงินเดือนตอบยากครับ แล้วแต่ดีลเลอร์ด้วย อีกอย่าง รายได้แน่นอนครับว่าขึ้นกับยอดขาย แต่ก็ขึ้นกับความเขี้ยวก็คุณด้วย รายได้จากการขายรถ มีหลายทางครับ ลองไปศึกษาดูดีกว่าครับ บางอย่างไม่เหมาะกับการมาลงในที่เปิดแบบนี้
-
ผมเป็นเซส์ครับ พึ่งกลับมาเข้าวงการ เดือนธันวาที่ผ่านมา เดือนแรก 6 หลักครับ เดือน ม.ค. 5หลัก ส่วนตัวเคยเป็นหัวหน้าทีมขายเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว แล้วออกมาช่วยกิจการที่บ้านอยู่ 3 ปีครับ
เงินเดือน 9000 ไม่ได้เป้า หักรายคันครับ
คุณสมบัติการเป็นเซลส์ที่ดี
1. มีความรับผิดชอบต่อตัวเอง ต่อบริษัท ต่อลูกค้า
2. ซื้อสัตว์ ต่อตนเอง ต่อบริษัท ต่อลูกค้า รับปากอะไรก็ทำให้ได้ตามนั้นครับ
3. ใจเย็นครับ หลายๆครั้งคุณต้องเจอกับลูค้า ที่ไม่เข้าใจโปรเสสงานแล้วเกิดความไม่พอใจมาลงใส่คุณ คุณก็ต้องใจเย็นรับฟังแล้วชี้แจงนะครับ
4. ต้องใจป๋า ในองค์กรการทำงานขายรถตัวคุณต้องทำงานร่วมกับบุคลากรที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับคอมมิชชั่นของคุณ หลายๆครั้งที่บุคลากรเหล่านั้นไม่ใส่ใจกับรถของลูกค้าของคุณเท่าตัวคุณเอง เพราะงั้นเลยต้องให้ทิปบุคคลากรเหล่านั้นบ้าง
5. คุณต้องอดทนครับ เส้นทางอาชีพนี้การทำงานหลายครั้งต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่คาดคิด ปัญหาต่างๆมากมาย มีเซลส์มากมายที่ท้อแล้วถอยไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็มีอีกมากที่ประสบความสำเร็จครับ
6. อาชีพเซลส์อยุ่ได้ด้วยฐานลูกค้าเก่าบอกต่อครับ ด้วยการแข่งขันทั้งภายใน และภายนอกองค์กรณ์ ถ้าคุณดูแล และ บริการลูกค้าดี ไม่ว่าจะย้ายไปอยุ่แบรนด์ไหน เวลาผ่านไปเท่าไหร่ ลูกค้าเหล่านั้นก็จะกลับมาซื้อรถกับคุณ ไม่ก็แนะนำ ญาติๆ ให้มาซื้อกับคุณครับ (เดือนนี้ผ่านไป 3 วัน ตัวผมไม่ได้รับเจอลูกค้าใหม่ๆเลยแต่ก็มีจองเข้ามา 3 คันแล้วครับ จากลูกค้าเก่าๆ ที่แนะนำบอกต่อกันมา)
ปล.เส้นทางอาชีพนี้ถ้าคุณตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่ และทำให้ถูกต้อง มันก็มีผลตอบแทนที่ค่อนข้างเยอะอยู่นะครับ โดยยิ่งถ้าคุณได้เลื่อนขั้นไปเป็นระดับหัวหน้านี้ รายได้รวมต่อปีมี 7 หลักแน่นอนครับ
-
รุ่แต่ว่า เซลล์ BMW mini ทำการบ้านมาดี ติดตาม และมีความตั้งใจจริงใจบริการ
ดีกว่าBenz ที่เป็นลุกค้าเดิมซะอีก. น่าจะprofile ดีกว่า รายได้น่าจะดีกว่า
หากวัดความน่ารัก ยกให้เซลล์Honda สมัยปี12 :)
ไม่รุ่รายได้ แต่น่ารัก
-
มาเก็บข้อมูลด้วยครับ สนใจอาชีพนี่อยุ่เหมือนกัน
-
อยากเป็นเซลส์ แนะนำให้เรื่มต้นที่ Honda ครับ
ที่นั่นเป็นแหล่งอนุบาลเซลส์ที่ดี
-
กำลังจะย้ายสายงานเลยครับ