Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Lockjung ที่ กุมภาพันธ์ 06, 2018, 13:38:07
-
[รถมือสอง] mazda 2 ดีเซล กับ เบนซิล เลือกอะไรดีครับซื้อเงินสด ระหว่าง
1. m2 เบนซิล 2015 ตัวสแตนดาร์ต ไมล์ 5x,xxx (รวมชุดแต่งรอบคัน) ราคาประมาณ ไม่เกิน 4 แสน
2. m2 ดีเซล 2016 ตัวท็อป ไมล์ 2x,xxx (รวมชุดแต่งรอบคัน) ราคาตัดสด 4.5 แสน
ตัวดีเซลก็มีห่วงเรื่องเครื่องสั่น
ตัวเบนซิลก็มีห่วงเรื่องอัตราเร่ง
ผมใช้งานประจำวันไป-กลับที่ทำงาน กัลปพฤกษ์-วิทยุ (วิ่งสาธรทั้งเส้น) และมีออก ตจว บ้าง เดือนละ ครั้ง 2 ครั้ง
ขอบคุณครับ :D
-
ขับ 1.3 เบนซินอยู่ครับ ผมวาอัตราเร่งก็ไม่ได้แย่มากครับ เสียงเครื่องตอนเร่ง(เค้น) ก็มันส์อยู่ครับ
ว่าแต่ตัวดีเซล ปีใหม่กว่า เป็นตัว TOP อีกต่างหาก ราคาแพงกว่า 5หมื่นเองหรือครับนี่
-
ขับ 1.3 เบนซินอยู่ครับ ผมวาอัตราเร่งก็ไม่ได้แย่มากครับ เสียงเครื่องตอนเร่ง(เค้น) ก็มันส์อยู่ครับ
ว่าแต่ตัวดีเซล ปีใหม่กว่า เป็นตัว TOP อีกต่างหาก ราคาแพงกว่า 5หมื่นเองหรือครับนี่
ครับ เจ้าของขายเปลี่ยนสัญญา ผ่อนต่อ แต่ถ้าตัดสด ก็ยอดตามที่แจ้งไว้นะครับ
1.3 อัตราเร่งพอไหวไมครับ
ใช้ในเมือง แบบผม จะกินประมาณไหร่หรอครับพี่
-
ห่วงอัตราเร่งไป 1.5 เลยครับ ต่าง 5หมื่นเอง
-
กัลปพฤกษ์-วิทยุ (วิ่งสาธรทั้งเส้น) และมีออก ตจว บ้าง เดือนละ ครั้ง 2 ครั้ง
--ส่วนมากจะอยู่บนถนนรถติด เบนซิล ก็น่าจะเมาะสม
ดีเซลขับรถติดๆ ผมว่ามันอึดอัด และรถมันอยากจะไป (ผมใช้ดีเซลอยู่ 1คัน)
ปล.ปัญหาดีเซล ในการขับในเมืองมีข้อมูลเก่าๆลองหาดูผมจำมิได้
-
ห่วงอัตราเร่งไป 1.5 เลยครับ ต่าง 5หมื่นเอง
นิดนึงครับ เพราะเดิมขับ มิตซู ท้ายเบนซ์ เก่าๆ เครื่องมัน 1.8 นะครับ
และเคยขับมิราจ ของน้อง ก็อึดอัดตอนจอดแล้วออกตัว และพอลอยตัวก็ออกจะไม่มั่นใจอะครับ
และก็เคยเช่าสวิฟท์ขับ ก็ออกตัวอึดๆหน่อย เลยไม่มั่นใจกับ 1.3 นะครับ
กัลปพฤกษ์-วิทยุ (วิ่งสาธรทั้งเส้น) และมีออก ตจว บ้าง เดือนละ ครั้ง 2 ครั้ง
--ส่วนมากจะอยู่บนถนนรถติด เบนซิล ก็น่าจะเมาะสม
ดีเซลขับรถติดๆ ผมว่ามันอึดอัด และรถมันอยากจะไป (ผมใช้ดีเซลอยู่ 1คัน)
ปล.ปัญหาดีเซล ในการขับในเมืองมีข้อมูลเก่าๆลองหาดูผมจำมิได้
ครับ ส่วนใหญ่ 5 วันทำงาน ก็ไป-กลับ 10 กว่าโล ขาละ ชม. ครึ่ง เป็นอย่างน้อย
ปัญหาดีเซลในเมืองมีอะไรหรอครับ มีิลิงค์ให้ผมตามไปดูไมครับ
-
ดีเซล ราคาดีมาก น่าสนใจนะครับ
-
ลองเข้าคลับดูครับ แล้วจะไม่อยากซื้อดีเซล Defect มันโหดมาก แก้ไม่หายด้วย
ต่อให้ราคาเท่ากันจริงๆ ผมก็ไม่เอาดีเซล
-
ลองเข้าไปดูปัญหาในคลับก่อนตัดสินใจนะครับ มันเกิดจากการออกแบบระบบเครื่องยนต์เลย โอกาสเจอเยอะมากครับ ผมสนใจ CX5 ยังไม่กล้าซื้อเลยครับ
-
ส่วนตัวคิดว่า รถรุ่นนี้ไม่น่าสนใจ ถ้าไม่ซื้อเครื่องดีเซลค่ะ
ถ้าจากสองตัวเลือกนี้ เราคงเลือก Diesel และจูนปิด EGR + อุด EGR ค่ะ ส่วนตัวตอนแรกก็ไม่คิดจะทำเหมือนกัน แต่สุดท้ายความกลัวสั่นมันมากกว่า ตัดสินใจจูนปิดไปตอน 8,000 กิโลเมตร และเพิ่งมาอุดตอน 15,000 กิโลเมตรค่ะ
เราเองก็วิ่งในเมืองเหมือนกัน เติม Shell V-Power มาตั้งแต่ถังแรก ตอนที่จูนเนอร์อุด EGR ให้ คราบเขม่าข้างนอกยังดูไม่แย่มาก (จูนเนอเร์บอกว่าสะอาด ถ้าเทียบกันคันอื่นๆ) แต่ข้างในก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ
แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ส่วนตัวคงไปตัวเลือกอื่นค่ะ เบนซินเองก็ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาเลย :)
-
ถ้าไม่กลัวรถสั่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น และต้องหมั่นเผาเขม่า ก็จัดดีเซลไปครับ ดีกว่าแน่นอน
แต่ถ้าเน้นขับแบบประหยัด อัตราเร่งไม่ได้ขี้เหร่อะไรมาก ใช้ยาวๆ ก็เบนซินครับ
ผมใช้เบนซินอยู่ ขับออกต่างจังหวัดก็สบายๆครับ บางครั้งวิ่ง 150-160 ก็ไม่รอดครับ โดน ฮ่าฮ่า
-
ไม่ได้ตามปัญหาดีเซลของ2ว่าเป็นแบบไหน
ถ้าไม่ร้ายแรงไปดีเซลเลย ซัดมันบ้างถ้ามีจังหวะหรือช่วงรถไม่ติด
-
ดีเซล ราคาดีมาก น่าสนใจนะครับ
ราคาดี แต่กลัวผลตามมาอะครับ
ลองเข้าคลับดูครับ แล้วจะไม่อยากซื้อดีเซล Defect มันโหดมาก แก้ไม่หายด้วย
ต่อให้ราคาเท่ากันจริงๆ ผมก็ไม่เอาดีเซล
เห็นเยอะเหมือนกันครับ แต่ถ้าเอามา จูน - อุด egr พอหมดประกัน ไปทำท่อแทน และจูนปิด DPF อะครับ ที่คิดๆไว้
ส่วนตัวคิดว่า รถรุ่นนี้ไม่น่าสนใจ ถ้าไม่ซื้อเครื่องดีเซลค่ะ
ถ้าจากสองตัวเลือกนี้ เราคงเลือก Diesel และจูนปิด EGR + อุด EGR ค่ะ ส่วนตัวตอนแรกก็ไม่คิดจะทำเหมือนกัน แต่สุดท้ายความกลัวสั่นมันมากกว่า ตัดสินใจจูนปิดไปตอน 8,000 กิโลเมตร และเพิ่งมาอุดตอน 15,000 กิโลเมตรค่ะ
เราเองก็วิ่งในเมืองเหมือนกัน เติม Shell V-Power มาตั้งแต่ถังแรก ตอนที่จูนเนอร์อุด EGR ให้ คราบเขม่าข้างนอกยังดูไม่แย่มาก (จูนเนอเร์บอกว่าสะอาด ถ้าเทียบกันคันอื่นๆ) แต่ข้างในก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ
แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ส่วนตัวคงไปตัวเลือกอื่นค่ะ เบนซินเองก็ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาเลย :)
ครับ กะได้มาก็เอาไปอุด และจูนปิดเลย
ถ้าไม่กลัวรถสั่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น และต้องหมั่นเผาเขม่า ก็จัดดีเซลไปครับ ดีกว่าแน่นอน
แต่ถ้าเน้นขับแบบประหยัด อัตราเร่งไม่ได้ขี้เหร่อะไรมาก ใช้ยาวๆ ก็เบนซินครับ
ผมใช้เบนซินอยู่ ขับออกต่างจังหวัดก็สบายๆครับ บางครั้งวิ่ง 150-160 ก็ไม่รอดครับ โดน ฮ่าฮ่า
เบนซิน ไม่รอด นี้ อะไรไม่รอดหรอครับ 5555
-
ดีเซล ราคาดีมาก น่าสนใจนะครับ
ราคาดี แต่กลัวผลตามมาอะครับ
ลองเข้าคลับดูครับ แล้วจะไม่อยากซื้อดีเซล Defect มันโหดมาก แก้ไม่หายด้วย
ต่อให้ราคาเท่ากันจริงๆ ผมก็ไม่เอาดีเซล
เห็นเยอะเหมือนกันครับ แต่ถ้าเอามา จูน - อุด egr พอหมดประกัน ไปทำท่อแทน และจูนปิด DPF อะครับ ที่คิดๆไว้
ส่วนตัวคิดว่า รถรุ่นนี้ไม่น่าสนใจ ถ้าไม่ซื้อเครื่องดีเซลค่ะ
ถ้าจากสองตัวเลือกนี้ เราคงเลือก Diesel และจูนปิด EGR + อุด EGR ค่ะ ส่วนตัวตอนแรกก็ไม่คิดจะทำเหมือนกัน แต่สุดท้ายความกลัวสั่นมันมากกว่า ตัดสินใจจูนปิดไปตอน 8,000 กิโลเมตร และเพิ่งมาอุดตอน 15,000 กิโลเมตรค่ะ
เราเองก็วิ่งในเมืองเหมือนกัน เติม Shell V-Power มาตั้งแต่ถังแรก ตอนที่จูนเนอร์อุด EGR ให้ คราบเขม่าข้างนอกยังดูไม่แย่มาก (จูนเนอเร์บอกว่าสะอาด ถ้าเทียบกันคันอื่นๆ) แต่ข้างในก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ
แต่ถ้าให้เลือกจริงๆ ส่วนตัวคงไปตัวเลือกอื่นค่ะ เบนซินเองก็ไม่ใช่ว่าไม่มีปัญหาเลย :)
ครับ กะได้มาก็เอาไปอุด และจูนปิดเลย
ถ้าไม่กลัวรถสั่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น และต้องหมั่นเผาเขม่า ก็จัดดีเซลไปครับ ดีกว่าแน่นอน
แต่ถ้าเน้นขับแบบประหยัด อัตราเร่งไม่ได้ขี้เหร่อะไรมาก ใช้ยาวๆ ก็เบนซินครับ
ผมใช้เบนซินอยู่ ขับออกต่างจังหวัดก็สบายๆครับ บางครั้งวิ่ง 150-160 ก็ไม่รอดครับ โดน ฮ่าฮ่า
เบนซิน ไม่รอด นี้ อะไรไม่รอดหรอครับ 5555
ไม่รอดครับ คือ โดนใบสั่งครับ
-
ตามโจทย์และตัวเลือกที่ให้มา
ผมเชียร์ดีเซล แนะนำเติมน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมเท่านั้น ถ้าเลือกยี่ห้อที่ได้ euro5 ได้ ก็น่าจะดีครับ
ซื้อมือ 2 เงินสด ราคา 4.5 แสน ถ้าใช้ไปแล้วเกิดปัญหา จนไม่อยากใช้ต่อ ก็ขายทิ้ง คิดว่าคงเจ็บตัวไม่หนักจนเกินจะรับได้ครับ
-
ขับ 1.3 เบนซินอยู่ครับ ผมวาอัตราเร่งก็ไม่ได้แย่มากครับ เสียงเครื่องตอนเร่ง(เค้น) ก็มันส์อยู่ครับ
ว่าแต่ตัวดีเซล ปีใหม่กว่า เป็นตัว TOP อีกต่างหาก ราคาแพงกว่า 5หมื่นเองหรือครับนี่
ครับ เจ้าของขายเปลี่ยนสัญญา ผ่อนต่อ แต่ถ้าตัดสด ก็ยอดตามที่แจ้งไว้นะครับ
1.3 อัตราเร่งพอไหวไมครับ
ใช้ในเมือง แบบผม จะกินประมาณไหร่หรอครับพี่
ผมใช้ ตจว ครับ แต่ก็มีแยกเยอะ ติดไฟแดงบ่อย (แต่ไม่นานมาก) เหยียบตามใจ ก็ได้ประมาณ 15km/l ครับ
-
ชม นี้ เบนซิลสบายใจกว่าครับ
-
กลัวดีเซล ก้ไปเบนซินสิครับ
ใช้รถ เน้นสบายใจไว้ก่อนดีกว่าครับ
-
กำลังเลือก 2 ตัวนี้อยู่เลยครับ แต่กะจะซื้อมือหนึ่ง ไปลองขับมาแล้วก็ไม่รู้สึกว่าเบนซินจะอืดมากนักนะครับ แต่ช่วงล่างผมคิดว่าตัวดีเซลเฟิรม์กว่าเยอะเลยและอัตราเร่งก็ดีกว่า แต่ผมขับรถไม่เร็วก็เลยไม่รู้สึกต่างกันมากเท่าไหร่ ดูค่าตัวของตัวท้อปต่างกันเกือบ 120,000 อยากได้ดีเซลนะ แต่หวั่นกับปัญหาที่มีข่าวออกมา มีเพื่อนที่ทำงานใช้ดีเซลอยู่ 2 คัน เขาก็ยังไม่เจอปัญหาเครื่องสั่นอะไรกันนะ ยังช่างใจอยู่เหมือนกันเลย
-
ดีเซลเลยครับ ผมใช้อยู่ไม่พบเจอปัญหาใดๆเลย ไม่ได้อุด egr ด้วย แต่ผมว่างเป็นอัดนะครับขับรถไว ตอนนี้ก้อจะ 4 หมื่นโลละ
-
ถ้าเป็นผม คงดีเซลลล