Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 05, 2010, 20:55:30
-
ลองสังเกตดูแล้วว่าฟอร์ดทำการตลาดแบบปากต่อปากได้สำเร็จ ไม่เชื่อลองดูยอดของคนที่ดูกระทู้เกี่ยวกับเจ้าเฟียสต้าเยอะมากๆ ผมว่าเกิดแน่เจ้าเฟียสต้าที่รัก
-
จะผลิตทันไหมอะ จอง9ตุลาได้ประมาณเดือนไหนอะครับ
-
จอง 9 ตุลา ผมว่าซักเดือน2เดือนมั่งตามสไตล์ฟอร์ด ที่ใช้อยู่2คัน ก็ประมาณนี้ ปล ฟอร์ด เอเวอเรส กับ เรนเจอร์ ไม่รู้ว่าเฟียสต้ารอเหมือนกันมั้ย
-
ดู ยอดขาย มากมาย ที่ มาสด้า 2 สร้างไว้ ล่วงหน้า เกือบปี
ก็ แน่ใจ ได้ 100% เลยครับ ว่า ฟอร์ด เฟียสต้า แจ้ง เกิด ได้จริง
งานที่ คนฟอร์ดไทย ควรทำ คือ ทำให้ เฟียสต้า ขึ้นแท่น ขายมาก เป็น อันดับ 1 ใน ตลาดซับคอมแพ็ก ครับ
เฟียสต้า นะ ฟอร์ด ไม่ได้สร้าง ให้มี ยอดขาย อยู่ อันดับ 2 นะ
แค่ เปิดใจ ยอม ขาย เฟียสต้า 1.4 TDCI ดีเซล คอมมอนเรล เท่านั้นเอง
เฟียสต้า ก็ ขึ้นแท่น อันดับ 1 ได้ใน ชั่ว ข้าม คืน
ยุโรป ขาย เฟียสต้า ดีเซล ได้
อินเดีย ขาย เฟียสต้า ดีเซล ได้
เมืองไทย แตกต่าง จาก ยุโรป อินเดีย อย่างไร หรือ ครับ จึง จะ ขาย เฟียสต้า ดีเซล ไม่ได้
ทั้งที่ เมืองไทย มี ยอดขาย กระบะเล็ก ดีเซล อันดับ 1 ของ โลก ค้ำประกันอยู่
คนไทย รัก เครื่องดีเซล มากกว่า ที่ คนฟอร์ดเก๋ง คิดกันนะครับ
แค่ บอกว่า เฟียสต้า ดีเซล กินน้ำมัน เฉลี่ย ที่ 25-30 กม/ลิตร
วันเดียว เท่านั้น
ยอดขายก็ พุ่ง เป็น หมื่น คันแล้ว
-
ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงที่เค้าไม่อยากเอาดีเซลเข้ามาขายหรอกครับ
แต่... ปัญหาคือที่ยุโรป เครื่องดีเซลนั้นจะจับคู่เฉพาะกับเกียร์ธรรมดาเท่านั้น ทำให้ยังไม่รู้ว่าทำอย่างไรดี ว่าจับจับคู่ดีเซลกับ Dual-Clutch ยังไง เพราะไม่เคยทำในเจ้า Fiesta
-
แหม อ.traveller ครับ ผมว่าใครๆก็อยากเป็นที่ 1 ครับ
แต่สิ่งหนึ่งที่คนไทยส่วนหนึ่งคิดตอนซื้อรถปัจจุบันนี้ คือ การนำรถไปติดแกส เมื่ออายุการใช้งานเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพลังงานทางเลือก ซึ่งการติดแกสกับเครื่องดีเซลทำได้ค่อนข้างยาก และในไทยก็ยังไม่มีใครกล้าบุกเบิกเครื่องดีเซลอย่างจริงจัง (เห็นบอกว่าราคาภาษีจะแพง อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ อยากรุ้เหมือนกันว่าราคาจะซักเท่าไหร่) และผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนที่ไม่ได้เล่นอินเตอร์เนด กับคนที่เล่นอินเตอร์เนด ความคิดจะเหมือนกันหรือเปล่า คนที่เล่นเนด ผมว่าเค้า ok กับรถดีเซลนะ แต่กับคนที่ไม่ได้เล่นล่ะ
และปัจจุบัน รถดีเซลของเฟียสต้าที่ ตปท ยังไ่ม่มีตัวที่จับคู่กับ powershift ถ้าเอามาขายในราคาซัก 7.5-8 แสน ผมว่าคนซื้ออาจจะมีลังเลกับตัว PS นะ(ถ้า PS ดีจริง)
-
อ่าวผมนึกว่ามีแต่เกียร์ธรรมดาที่จับคู่กับดีเซลตอนนี้
-
@Bluedoft แก้ไขแล้วครับ พลาดๆ 555
ทั้ง 1.4 และ 1.6 tdci ของ fiesta จับคู่กับ 5 spd MT ครับ
-
ผมว่ากระทู้นี้น่าจะทำให้คนที่อยากได้เฟียสต้า 1.4 TDCi คงล้มเลิกความหวังไปนะครับ เพราะชัดเจนว่าไม่มีรุ่นที่จับคู่กับ Dual clutch มีแต่ MT ซึ่งตลาดแคบมากๆ ซึ่งผมก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่เอาดีเซลมา เพิ่งบางอ้อเองว่าจริงๆ Ford Thailand ก็อยากขายทำยอดสูงๆ เพียงแต่มันมีแค่ MT อ่ะ.....
-
ผมว่า ถ้า Ford เอา Fiesta 1.4 TDCi มาขายในไทย "ตอนนี้" คงหงายท้องเป็นแน่ครับ
ด้วยนิสัยคนไทย ตัวเลขการประหยัดน้ำมัน 25-30 กิโล/ลิตร แทบไม่มีความหมาย เพราะ
- ม้าน้อย 67 bhp แม้จะเป็นม้าดีเซล แต่จะมี "คนไทย"สักกี่คน ที่รู้นิสัยม้าดีเซล
- เกียร์ธรรมดาเท่านั้น
- ค่าตัว ที่ผมคิดว่า น่าจะอยู่ระดับ 5 แสนกลางๆ เป็นอย่างน้อย เพราะ
....-ไม่ได้รับการลดหย่อนค่าตัว เหมือนยุโรป ที่ดูอัตราการบริโภค และก่อไอเสียด้วย
....- ต้นทุนดีเซล ที่แพงกว่า ดีเซล อยู่แล้ว
ผมคิดว่า คนที่เลือก Fiesta 1.4 TDCi
- คงจะเอามาใช้ในเมืองเป็นหลัก ด้วยม้าน้อย
- ม้าน้อย เอามาใช้ในเมือง แต่มีแต่เกียร์ธรรมดา :-\
ด้วยเหตุผลสำคัญที่สุดคือ เป็นรถที่เหมาะกับเมือง
แต่ว่า มีแต่เกียร์ธรรมดา เห็นทีจะไปไม่รอดครับ (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/JFBQ00163070213B.gif)
-
ขอเข้ามายืนยัน นอนยัน และยันยันยันว่า
คนที่ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องรถธรรมดา กับคนที่สนใจเรื่องรถ
ต่างกันมาก ราวฟ้ากับเหว คับ!
ติดโตโยต้ามาแต่เด็ก โตไปมีตังก็ซื้อแต่โตโยขับ แต่พอได้ลองเปิดใจอยู่ยี่ห้ออื่น ก็ลืมโตโยไสนิท ก็มี!
ชอบฮอนด้ามาแต่เด็ก กี่ปีกี่ชาติก็นั่งแต่ฮอนด้า โตไปมีตังซื้อรถ เคยไปนั่งยี่ห้ออื่น ก็ลืมฮอนด้าไปสนิท ก็มี!
รักมากมายนิสสันสุดทน รถดีเพราะมีช่างนอก ศูนย์ห่วยแตกบรมพินาศคาลัย แต่สุดท้ายก็ยังซื้อมาใช้ ก็มี!
ฟอร์ดรู้แค่อะไหล่มันแพง รถประกอบดีช่วงล่างดีแต่แดกน้ำมัน พอลองได้นั่ง TDCI เก๋ง..... จอง! ก็มี!!
ปุ่มเล็กๆบนเกียร์.... เอาไว้ทำอะไรอ่ะ แร่งแซงหร๋อ... ก็กดไปหน่อยมันก็แซงได้ มีไว้ทำไมหรอ ก็มี!!
แม่จะเอาโตโย ลูกจะเอาฮอนด้า พ่อจะสอยนิสสัน พี่ชายเีชียร์ฟอร์ต สุดท้าย---> VW ก็มี!! เอ๊าะ
ฉะนั้น รถในความคิดบางคนคำว่าแบรนที่ติดปากติดหูกันมานาน ก็มีผลต่อไปชั่วลูกชั่วหลาน
แต่ถ้าบริษัทรถอยากจะทำอะไรเพื่อแก้ข่าวสมัยก่อนๆที่ทำทิ้งไว้ ก็คือการประชาสัมพันธ์ที่ดี
หากแต่วันนี้แต่หละบริษัทที่ต้องการจะทำสิ่งเหล่านี้ มีหรือยัง!! ทำหรือยัง!!
ผมว่ารถทุกคนมีข้อดีของมันหมด อยู่ที่ระดับความรับได้ของคนมากกว่าที่เป็นตัวตัดสินใจว่ารถคันนี้ ดียังไง?
บางคนที่ว่ารถคันนี้จุกจิก แต่กับอีกเจ้าของบอก เฉยๆนะ... ปรกติดีนิ.... ทั้งๆที่รถคันเดียวกัน ก็มี! (หมายถึงคันเดียวกันจริงๆไม่ได้เปลี่ยนคัน)
และอีกประเด็นก็คือ... ทรัพย์ของเจ้าของรถ นั้นหละครับ ที่จะเป็นตัวบอกความจุกจิกของรถได้ดีที่สุด
ทรัพย์น้อยซ่อมมากก็บ่น
ทรัพย์มากซ่อมมากก็ระแคะระคายหน่อยแต่ไม่บ่น
รวยล้นฟ้าซ่อมบีเอ็มคันเดียวเฉยๆนะ ซ่อมไปสิ อะไรเสียก็เปลี่ยนรถมัน 10 ปีแล้วนิ รักอยู่เลย (แน๊ะ!!~)
ฉะนั้นอย่างไีรก็ตาม ผู้ที่มีความรู้เรื่องรถก็มีโอกาศตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ตนคิดว่าดีที่สุด ได้มากกว่าคนที่เลือกรถแต่ความรู้สึกและลมปากจาก เซล เท่านั้นจริงๆ ^^
บ่นซะยาว 555
ขอตัวหละครับ อิอิ
-
ผมว่า มาสด้า 2.0 ซีวิค 2.0 อัลติส 2.0 และ โฟกัส 2.0 TDCi 4ตัวนี้ก้สามารถบอกอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะครับ
-
ผมจะเล่าให้ฟังว่ากว่าที่บ้านผม เค้าจะยอมรับ การที่ผมเลือกเฟียสต้านี้ลำบากแค่ไหน
ในวันแรกที่ผมเห็นรถคันนี้ และรู้ข่าวว่าจะเข้ามาทำตลาดในปี 53 ผมหยุดโครงการที่จะถอยแจสไว้เลย หันมาดูตัวนี้แทน
โดยตอนนั้นยังไม่รู้สเปคในไทย ก้เลยดูจากเวป ตปท เอา รู้แ่ค่ว่าตัวนี้เป็นเกียร์ Powershift
เอาล่ะ ก็ตัดสินใจเอารูปรถให้พ่อดู เอาให้แม่ดู
คำแรกที่ได้ยิน คือ "ทำไมไม่เอาโตโยต้าล่ะ"
"ทำไมต้องเอาโตโยต้าอะ"ผมถามกลับ
สารพัดเหตุผลซึ่งเป้นความหวังดีจากผู้ใหญ่มาเพียบเลยครับ "ขายต่อได้ราคา อะไหล่ถูก เป็นรถยอดนิยม เสียซ่อมง่าย ไม่จุกจิก"
อื้ม ผมก็เข้าใจนะ แต่ก็ไม่อยากเถียงเขา ผมเองเป็นคนสนใจในเทคโนโลยี ครั้งแรกที่ไดเห็นเฟียสต้านี้ ก็ตัดสินใจเลยว่าจะเอา
ถ้าจะเสีย จะซ่อม จะจุกจิกยังไง ก็ขอให้ผมได้เป็นบทเรียนไปแล้วกัน เตรียมใจไว้แล้ว เพราะเงินเราก็ออกเองทั้งหมด ทั้งดาวน์และผ่อน ที่ถามที่บ้าน เพราะอยากได้ความเห็น
ก็คิดสิ จะทำยังไงดี ก็เริ่มจากเริ่มสอนให้พ่อเล่นอินเตอร์เนต ว่างๆก็ชวนพ่อมานั่งคุยหน้าคอม แล้วก็เปิดเกี่ยวกับเจ้ารถคันนี้ให้เค้าได้รู้ (พ่อผมเป็นคนชอบเทคโนโลยีอยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องรถ บ้านผมทำธุรกิจส่วนตัว เครื่องจักรทุกเครื่อง พ่อและลุงประกอบเองทั้งหมด)
หลังจากนั้นไม่นาน พ่อก็เริ่มชอบเจ้านี่ขึ้นมาเช่นกัน
ส่วนแม่ หลังจากได้เห็นรถที่งานมอเตอร์เอกซ์โปปีที่แล้ว แม่ก็ชอบมันทันที
ที่ผมจะบอกไม่มีอะไรมากหรอกครับ
อินเตอร์เนตเป็นสื่อหนึ่งซึ่งให้ความรู้กับเราได้มาก บางคนที่เขาไม่ได้เล่น เข้าไม่รู้หรอกครับ ว่ามันเป็นอย่างไร สื่อที่เขาจะได้รับคือการบอกต่อเท่านั้น ว่ามันดี มันขายได้ราคา มันจุกจิก ไม่จุกจิก
อย่างรถดีเซล พูดถึงสิ่งแรกที่คนไม่ได้รู้จักรถเล็กเครื่องดีเซล คือ เสียงดัง แน่นอนทุกคนต้องคิดแบบนี้
แต่ถ้าเค้าได้รู้ว่า BMW BENZ ได้ทำรถดีเซลออกมาจำหน่าย เค้าก็จะรับได้ในอีกระดับนึง
แล้วถ้าเค้าได้รู้ว่า รถดีเซลมีข้อดีอย่างไรบ้าง ทั้งทน ทั้งประหยัด เค้าก็จะบอกว่ารถนี้ดีจริงๆ แต่คนที่ไม่รู้ล่ะ ก็ยังคิดแบบเดิม คือเสียงดังอะแหละครับ
-
จริงๆ ใอ้ ดีเซล เสียงดัง นี่ผมว่า ต้องโทษ อีผุผุ มังกรทองอ่ะ
อันนั้นนี่ ดังตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอย
-
ผมเชื่อว่า Ford จะยังไม่มีทาง พา Fiesta ประสบความสำเร็จ ขึ้นแท่นเป็นที่ 1 ของ ซับคอมแพกต์ เซ็กเมนต์ในเมืองไทยได้แน่ๆ
แต่ถ้าที่ 3 ละก็ โอกาสได้ มีเห็นๆ
เหลือแต่ว่า แผนการตลาดจะออกมาเป็นอย่างไร
เพราะที่ผ่านมา ฟอร์ด ก็เป็นอย่างที่เราเห็นกันมาช้านาน
พูดได้เต็มปาก โดยไม่เกรงใจด้วยว่า ตอนนี้ ฟอร์ดจะ ลง แบนเนอร์ ขนาดเบ้อเร่อ กับเราอย่างต่อเนื่องนับจากนี้ไปนี่แหละ!!
สิ่งที่ฟอร์ด ควรจะทำ คือ ปรับวิสัยทัศน์ นายฝรั่ง ปรับวิธีคิดของคนไทย
ถ้าแบรนด์รถยนต์ คนทำงานมาแทบตาย หลายปี แต่กลับไม่มีใคร "อิน" กับแบรนด์ ที่ทำ
แบรนด์ นั้น ควรดูปัญหา แล้วหันมาสร้างอะไรๆ รองรับไว้ในระยะยาวดีกว่าครับ
-
ผมว่า มาสด้า 2.0 ซีวิค 2.0 อัลติส 2.0 และ โฟกัส 2.0 TDCi 4ตัวนี้ก้สามารถบอกอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะครับ
คิดเหมือนกันเลยครับ!
-
ไม่รู้แฮะ.. จะคนที่เล่นเน็ต หรือไม่เล่นเน็ต.. มันก็มีความคิดต่างกัน แต่ก็ไม่มีความคิดไหน ที่ผิดหรอกครับ..
ที่บ้านผม พ่อผม ไม่เล่นเน็ต แต่ท่านอ่านหนังสือรถ อ่านหนังสือพิมพ์ ส่วนผมเล่นเน็ตตลอด
ตอนนี้เลยมีทั้ง Toyota Honda และ Isuzu
และปีหน้า ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ก็จะมีเจ้า Fiesta นี่แหล่ะ จะมาจอดอีกคัน..
แต่ยังไงๆซะ ผมก็คิดว่า Fiesta ก็คงไม่ขึ้นอันดับ 1 ในซับคอมแพ็คอ่ะครับ..
-
เมื่อก่อนผมก็อ่านนะครับ หลังๆผมไม่ค่อยอ่านแล้วอะครับ หนังสือ
ผมว่าหวังสือให้ข้อมูลทางวิชาการดีนะ แต่ถ้าอยากได้เนื้อหาจากการบอกเล่าจากผู้ใช้จริง ผมว่ายังไงก็สู้เข้าไปอ่านตามเวปคลับไม่ได้อะครับ
ส่วนเรื่องอันดับ ผมคิดว่ายังไงอันดับ 1 ก็แจสอีกนานล่ะครับ ทั้งสวยและอเนกประสงค์(ยอมรับว่าปัจจุบันนี้ผมยังชอบอยุ่เลย)
นอกเสียจากว่า ฟอร์ดจะทำศูนย์ให้ได้มาตรฐานได้โตโยต้า ฮอนด้า ซึ่งยาก และไม่มีทางเป็นไปได้ในเร็ววันครับ
-
ผมว่า มาสด้า 2.0 ซีวิค 2.0 อัลติส 2.0 และ โฟกัส 2.0 TDCi 4ตัวนี้ก้สามารถบอกอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะครับ
คิดเหมือนกันเลยครับ!
+1 ตามนี้เลยครับ (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/103.gif)
ขนาด Focus ประหยัด + เกียร์คลัชคู่ + แรง + ฯลฯ
ยังไปไม่ค่อยจะเป็นเลย
Fiesta 1.4 TDCi คงไม่ง่ายขนาดนั้นกระมังครับ
-
ฟอร์ดจะสู้จริงหรือสู้หลอกๆคอยดูกันยาวๆเลยทีนี้
-
เครื่องดีเซลถ้าจะเข้ามา โดยปกติแล้วเครื่องดีเซลจะแพงกว่าเบนซิน+ภาษีที่แพงกว่าเครื่องเบนซิน(เนื่องจากเครื่องเบนซินได้ลดภาษีจาก E20) 2ข้อนี้ อาจทำให้ เครื่องดีเซล 1.4 ราคา = ราคาเครื่องเบนซิน powershift 1.6 ได้ ford คงคิดดูแล้วว่า เอามาขายราคานี้ ไปไม่รอดชัว
-
อย่าไปคาดหวังอะไรกับยอดคนดูเลยครับ ดูอย่าง lancer EX เป็นไง เงียบแทบจะสนิท แต่ผมก็หวังว่า เฟียสต้า จะเดินตามลอย มาสด้า 2 นะครับเอาใจช่วย
-
ดีเซล 1.4 อย่าเอามาขายเลยครับ ถ้าคิดจะเอาตัวดีเซลมาขายจริงเอาตัว 1.6 มาดีกว่า เติมเต็มถังเหยียบทิ้งเหยียบขว้างยังได้เกือบ 550 โล ครับ (140-150 ตลอดทาง) แถมพอเติมไปถึงรู้ว่าน้ำมันยังเหลือในถังอีก 6 ลิตรอ่ะครับ วิ่งจนไฟขึ้นถึงเติมครับ
ปล.ผมทำ Test Drive อยู่ครับ
-
แม้รถจะดีกระแสจะดีแต่ถ้าศูนย์บริการยังเลวร้ายเหมือนเดิมก็ล้มเหลวครับ :'(
-
"ผมว่า มาสด้า 2.0 ซีวิค 2.0 อัลติส 2.0 และ โฟกัส 2.0 TDCi 4ตัวนี้ก้สามารถบอกอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะครับ"<-- เอ่อ.. แล้ว Lancer EX 2.0 หล่ะครับ...
"ผมเชื่อว่า Ford จะยังไม่มีทาง พา Fiesta ประสบความสำเร็จ ขึ้นแท่นเป็นที่ 1 ของ ซับคอมแพกต์ เซ็กเมนต์ในเมืองไทยได้แน่ๆ แต่ถ้าที่ 3 ละก็ โอกาสได้ มีเห็นๆ"<-- เห็นด้วย 100% เลยครับ องค์ประกอบหลายๆอย่างยังแย่มากๆ หวังแค่ที่ 3 ยังเป็นไปได้มากกว่า
-
ขึ้นแท่นที่ 3 ในตลาดซับคอมแพคท์
ผมว่ายากเหมือนกันนะ
จังหวะการลอนช์ Fiesta นั้นมันเปิดตัวพร้อมกันทั้ง 4 และ 5 ประตู
ส่วนมาสด้า 2 เขาพยายามสร้างความแตกต่างทั้ง 5 และ 4 ประตูซึ่งคันหลังเขาพยายามหา positioning ใ้ห้ต่างออกไป
ยอดขายมันยังกินกันเองเลย เพราะหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ
เท่ากับว่า Ford Fiesta ต้องขายให้ได้มากกว่า 3,000 คันต่อเดือนรวม 2 ตัวถัง
มันก็จะแซงมาสด้าไปได้
-
ผมว่า มาสด้า 2.0 ซีวิค 2.0 อัลติส 2.0 และ โฟกัส 2.0 TDCi 4ตัวนี้ก้สามารถบอกอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะครับ"<-- เอ่อ.. แล้ว Lancer EX 2.0 หล่ะครับ...
ถ้าจะเอา EX มารวมด้วย มันก็จะอยู่กลุ่มเดียวกับ TDCi นี่ละ ไม่ได้ไปอยู่กับ 3 คันแรก 5555
ไม่รู้ TDCi + EX จะเท่ากับซีวิคหรืออัลติสหรือเปล่าเลย
ถ้าถามผม ผมคิดว่าอาจจะแรงแค่แรกๆ ซักพักก็ตกไปเป็นรอง แจส มาสด้า2 และยาริสเหมือนเดิม หรือไม่ก็อาจจะอยู่ที่ 4 ตั้งแต่เปิดตัวก็ได้ เพราะฟอร์ดยังมีเรื่องต้องให้พัฒนาอีกเยอะ อย่างน้อยถ้าอยากขึ้นที่ 3 ก้ต้องมีพรีเซนเตอร์ที่เป้นที่รู้จักของสังคมก่อนละครับ
-
ผมว่าฟอร์ดไม่ต้องไปแข่งกับใครหรอก
แข่งกับตัวเองนี่แหละ ทำยอดให้ได้เพิ่มขึ้น แล้วไปเน้นศุนย์บริการที่ทุกคนกลัวดีกว่า
ปล. ติดตามอยู่เคสนึงที่ไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วงานเข้า ไม่รู้จะจบไง รอดูอยู่
-
.......
ถ้าฟอร์ดเอาตัวดีเซลคู่กับเกียร์ธรรมดามา
เผลอๆ อาจจะขายผมได้คันเดียวนะเนี่ย ;D
แต่มาจริง ก็ซื้อจริงๆ นะครับ ยิ่งถ้าเอา 1.6 + เกียร์ธรรมดามาเลย
ออพชั่นครบๆ (ขอแค่มี Airbag คู่หน้า + ABS ก็พอแล้ว)
ผมจะแอบไปซื้อ โดยไม่สนคำคัดค้านของคนที่บ้านเลยครับ
(แต่ต้องขอลองขับดีๆ ก่อนนะครับ อิอิ)
ผมพบโชว์รูมใกล้บ้านแล้ว (แต่จะดีรึเปล่านั่นอีกเรื่องนึง :D)
-
ตาโจ ของเรา เอาอีกแล้ว
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
-
ข้อเสียอย่างเดียว
คือ ศูนย์บริการ
ต่อให้มีรถใหม่
แต่ศูนย์ห่วยเหมือนเดิม
ยังไงก็ไม่เกิด
-
เฟียสต้า ดีเซล ไม่ได้ จับตลาด เดิม ที่ รถเก๋งเล็ก ออโต้ ขายกันอยู่ครับ
ยังมี ตลาด กระบะที่ไม่ได้ใช้ ขนของ อยู่ แสนกว่า คัน ต่อ ปี
เฟียสต้า ดีเซล เกียร์ธรรมดา สามารถ แทรก เข้าไป เกิดใหม่ ใน ตลาดนี้ได้อย่างสบาย
คิดถึง เคส จักรยานยนต์ ยามาฮ่า ออโต้ ซิครับ
ยามาฮ่า จาก กลุ่มท้ายแถว ด้านยอดขาย
พลิก กลับมา เปิด ตลาด รถออโต้ และ กลายเป็น ผู้เล่นรายใหญ่ได้
ทั้งๆที เจ้าตลาด อย่าง ฮอนด้า ปฎิเสธ รถุจักรยานยนต์ ออโต้ มาโดยตลอด
ฮอนด้า อ้างว่า ศึกษาแล้ว ว่า ความต้องการน้อย ไม่คุ้ม เปิด ไลน์ รถออโต้
แล้ว เป็น ไง ล่ะ ครับ
ตอนนี้ ฮอนด้า ต้อง ทิ้งงานศึกษาการตลาดของตัวเอง ที่เคยมั่นใจ ลง ถังขยะ
แล้ว วิ่งไล่ ตาม กวด ยามาฮ่า ใน ตลาด ออโต้
ฟอร์ด เฟียสต้า ดีเซล 1.4 TDCI เกียร์ธรรมดา ก็ เช่นเดียวกัน ครับ
68 แรงม้า ที่ 4000 รอบต่อนาที
160 นิวตัน-เมตร ที่ 2000 รอบต่อนาที
ตัวนี้แหละครับ ที่ จะมา แทนที่ อีซูซุ มังกรทอง ขวัญใจ คนรัก ดีเซล ประหยัด ทั่วประเทศ
ตลาด กระบะที่ไม่บรรทุก แสนกว่า คันต่อปี
เป็น ตลาดของ เกียร์ธรรมดา นะครับ
ฟอร์ด เฟียสต้า ดีเซล เสียบ ได้ พอดี เลย
และ ตลาดกระบะที่ไม่บรรทุกนี้ มี เซ็กเม้นท์ หนึ่ง ที่ มีคนนั่งในรถ แค่ 1-3 คน เกือบทั้งปี
คนขับเป็น ผู้ใหญ่ คนนั่งเป็น เด็ก
ก็ พ่อแม่ ขับรถ ไปส่งลูก เรียน เช้า-เย็น ตาม โรงเรียน ต่างจังหวัด นั่นแหละครับ
มี เด็ก นักเรียนระดับ ประถม ในประเทศไทย เกือบ ล้าน คน
รถตู้ รถสองแถว เหมา รับเด็ก ส่วนใหญ่ ไป
แต่ ที่ พ่อแม่ รับ-ส่ง ลูกเอง ก็ ใช่น้อย
ถ้า ได้ รถเก๋ง ดีเซล ราคาไม่แพง
ประหยัดกว่ากระบะ และ เก๋งเล็ก ปลอดภัยกว่า มอเตอร์ไซด์
มีคนจำนวนมาก ยินดี ซื้อ เก๋ง ดีเซล ครับ
ราคา เฟียสต้า ดีเซล 1.4 ไม่ได้แพงอะไร
ที่ อินเดีย ก็ ขายกัน ห้าแสน กว่า
ภาษีรถเบนซิน อี20 ก็ ลดไปแค่ ไม่กี่หมื่น จาก รถเบนซิน ธรรมดา
เฟียสต้า ดีเซล 1.4 TDCI เกียร์ธรรมดา ขายในไทย ไม่เกิน หกแสนบาท ได้แน่นอน ครับ
เครื่องดีเซล ตัวนี้ สร้างใน อินเดีย โรงานใหม่ กำลังการผลิต สองแสนเครื่องต่อปี
ถ้าจะ เปิดไลน์ประกอบ เครื่องในไทย ก็ทำได้ไม่แพง
เพราะ จะได้ ชิ้นส่วน จาก อินเดีย ที่ ต้นทุน สุดถูก
ดังนั้น ปัญหา เรื่อง เครื่องดีเซลในเฟียสต้า จะไม่ใช่ ปัญหา แบบ โฟกัส ดีเซล ที่ หาเครื่อง ยาก แน่ ครับ
เฟียสต้า ดีเซล 4 ประตู ราคา ไม่ถึง หกแสน บาท
ราคา ใกล้เคียง กระบะแค็ป และ ถูกกว่า กระบะ สี่ประตู
ดังนั้น เฟียสต้า ดีเซล สามารถ ชิง ส่วนแบ่ง ตลาดกระบะไม่บรรทุก ได้แน่นอน ครับ
ถ้า ตัดเค้กก้อนนี้ได้ 20%
ก็ ขาย เฟียสต้า ดีเซล ได้ สามหมื่นกว่า คัน ต่อปี แล้ว
มากกว่า ฟอร์ดไทย ขาย รถยนต์ ทุกชนิด ทั้งปี เชียว นะครับ
ผม อยากได้ เฟียสต้า ดีเซล มาก ขนาด ลงสมอง คิดให้ ฟอร์ดไทย ฟรีๆ เช่นนี้
ถ้า ฟอร์ดไทย ยังไม่เห็นทางสว่าง
จะ รอให้ รถเก๋งเล็กญี่ปุ่น ลงเครื่องดีเซล เบนซินไฮบริด ดีเซลไฮบริด ปูพรม ทั่วเมืองไทย ก่อน
ค่อย คิดได้ เรื่อง เก๋งเล็กดีเซล หรือ ครับ
น้ำมัน ดีเซล ในไทย ถุกว่า เบนซิน ลิตรละ 4-6 บาทกว่า
ถ้า เฟียสต้า ดีเซล เกียร์ธรรมดา วิ่งตามหัวเมืองต่างจังหวัด ได้ 25-30 กม/ลิตร
คนใช้ เขา ไม่คิด ติดแก๊ส กับ เก๋งเล็กเบนซิน กัน หรอกครับ
เพราะ คิดแล้ว ภาพรวม ระยะยาว เก๋งเล็กดีเซล ประหยัดกว่า ทนกว่า รถติด แก๊ส ทุกชนิด แน่นอน ครับ
แต่ ต้อง ยกเว้น เฟียสต้า แก๊ส lpg นะครับ
เพราะ ติดมาจาก โรงงาน
คุ้นๆ ว่า เห็น ขายใน ยุโรป ด้วย
-
อิอิ เป้นแนวทางที่เยี่ยมไปเลยครับ ถ้าฟอร์ดเอามาทำจริงๆคงดี หรือไม่ก็ให้เจ้าตลาดได้ลองดูก็ดี
แต่ ผมเชื่อว่าคนต่างจังหวัดที่ซื้อกระบะส่วนใหญ่เพราะว่า "จะเผื่อได้ใช้บรรทุกของได้ด้วย"มากกว่านะครับ
คนกทม อาจจะไม่คิดแบบนั้น แต่ผมคิดว่าคน ตจว เค้าน่าจะคิดเป้นส่วนใหญ่
พนักงาน บ ผม มีทั้งหมด 4 พันกว่าคน ระดับ operator หรือคนที่ทำงานที่ไม่ใช่ระดับ Eng. ขึ้นไป มันจะถอยรถกระบะทั้งนั้น
พวกเค้าล้วนมีความคิดว่า ซักวันนึงถ้ามีเงินก้อนนึง ก็อยากกลับไปทำอะไรที่บ้านมากกว่าครับ เพราะฉะนั้นผมถึงเชื่อว่า ที่เขาซื้อกระบะมา เพื่อที่จะใช้ประโยชน์ในอนาคต(หรืออาจจะไม่ได้ใช้ก้ตาม)
ดังนั้น ผมว่า ดีเซล จะตอบโจทย์คนเมืองมากกว่า แล้วผมก้คิดว่า คนใช้เกียร์ MT ก็ไม่เยอะเท่า AT หรอกครับ
คนใช้ AT ก็อยากขับ MT เพราะว่ามัน
ส่วนผมตอนนี้ก็ใช้ MT อยู่ ถามว่า ชอบมั๊ย ชอบนะ ชอบมากด้วย ได้อารมณ์ในการขับรถดี แต่ถ้ามีรถเกียร์ AT ที่มีระบบ Tripstronic ดีๆ ผมขอเลือกเป็น AT ดีกว่าครับ
อันนี้ขอยืมข้อความจากพี่ banch มานะครับ อิอิ
เครื่องดีเซล เสียเปรียบทั้งเรื่อง ภาษีสรรพสามิตร และ ราคาตัวเครื่องยนต์เองแพงกว่า
ภาษีสรรพสามิตร
ดีเซลเสีย 30 %
เบนซิน E20 เสีย 25 %
จากที่ดูก็น่าจะเป้นไปตามที่ อ Traveller บอกแหละครับ
ผมเห้นด้วยนะ ที่จะให้มี fiesta ดีเซล แต่จะคุ้มกับการลงทุนหรือไม่ก็ต้องรอดูครับ
แต่ผมคิดว่าอนาคตน่าจะมีน้อออออ
-
ผมว่า มาสด้า 2.0 ซีวิค 2.0 อัลติส 2.0 และ โฟกัส 2.0 TDCi 4ตัวนี้ก้สามารถบอกอะไรบางอย่างได้แล้วล่ะครับ
คิดเหมือนกันเลยครับ!
+1 ตามนี้เลยครับ (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/103.gif)
ขนาด Focus ประหยัด + เกียร์คลัชคู่ + แรง + ฯลฯ
ยังไปไม่ค่อยจะเป็นเลย
Fiesta 1.4 TDCi คงไม่ง่ายขนาดนั้นกระมังครับ
โฟกัสเครื่องดีเซลเสียเปรียบทั้งเรื่องภาษีสรรพสามิตร และ ต้นทุนเครื่องยนต์ที่แพงกว่า
ทำให้ราคามันโดดจากคู่แข่งไปเป็นแสน
ผมว่าเราต้องแปลกใจกันมากกว่า ที่มันยังพอขายได้
แสดงว่ามันมีดีพอ
ส่วนเฟียตต้า ดีเซล นั้นถ้ามาครบๆ ราคาคงวิ่งไปแตะ เจ็ดแสนปลาย
ถ้ามาไม่ครบ เจ็ดแสนห้าน่าจะได้
หลายๆคนอาจคิดว่าแพงเกินสำหรับรถขนาดนี้
แต่หลายๆคนที่อยากได้เก๋งดีเซล แต่ไม่อยากจ่ายแพงหลักล้านหรือหลายล้าน ก็พอมี
อยู่ที่ว่าฟอร์ดจะมองมุมไหน
-
ผมคิดว่า ประชากรกระบะไม่บรรทุก คงจะเปลี่ยนเป็น เก๋งดีเซล ได้ไม่เกิน 10% หรอกครับ
เพราะ คนที่ไม่ได้บรรทุก แต่เลือกกระบะ ไม่ได้มีเหตุผล แค่ "ดีเซล" และ "ประหยัด"
และตลาดกระบะไม่บรรทุก น่าจะอยู่นอกเมือง ซะเป็นส่วนใหญ่
เรื่องสำคัญ คือ ความทนทาน, ซ่อมบำรุง และประโยชน์ใช้สอย
เรื่องพวกนี้ เก๋ง ยังไงก็ไม่มีทางสู้ กระบะ บ้านเราได้อยู่แล้ว
ทั้งความชำนาญของช่าง ราคาอะไหร่ เก๋งจุกจิกกว่ามาก
และนิสัยคนไทยนอกเมือง น้อยมากครับ ที่จะออกรถเก๋ง ถ้าไม่มีกระบะอยู่แล้ว
ถึงแม้จะไม่ได้ใช้งาน แต่ก็จะคิดเผื่อโน่น เผื่อนี่ อย่างที่ท่าน gdhsatanic บอก
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ ที่ประชากรกระบะไม่บรรทุก จะเปลี่ยนมาเป็น เก๋งดีเซล ครับ (http://i658.photobucket.com/albums/uu306/IncarRus/JFBQ00163070213B.gif)
-
ผมไม่ได้อ่านละเอียดนะ อ่านแบบข้ามๆ
แค่จะมาบอกว่า หลายคนมองเข้าข้าง Fiesta เกินเหตุ
ในโลกของความเป็นจริง ยอดขายในตลาดจริงๆ
ผมคิดว่า Fiesta คงทำยอดได้เป็นอันดับ 4-5 รองจาก Vios , City , Jazz , 2 อยู่วันยังค่ำครับ
เพราะถ้ายอดขาย Ford จะดี มันน่าจะส่อแววตั้งแต่ Focus แล้ว แต่ของจริง คือ เงียบเชียบมากๆ
คู่แข่งรายอื่นเค้าไม่โง่ ปล่อยให้รุ่นใหม่ มากวาดยอดเอาไปได้ง่ายๆ หรอกครับ ถ้าไม่ทำการบ้านมาดีจริงๆ
อย่าง 2 ผมว่า อานิสงค์จาก Mazda 3 และการสร้าง Image Zoom Zoom มายาวนานหลายปี ส่งผลครับ
รอดูปลายปีกันดีกว่าว่า จะเป็นยังไงบ้าง
-
คนไทยต้องลองเปิดใจลองรถคันนี้ดู เหมือนตอนที่พ่อผมจะออก ford tdci ผมไม่ได้ศึกษาเลย โอ้ว fordฦ ดีเซล? ศูนย์ก็น้อยราคาก็ตกไม่ใช่รถตลาด จะดีหรอ พอไปลอง ต่างจากทีนึกไว้เยอะเลย ทั้งอัตตราเร่ง และหลายๆอย่าง ช่างมันเถอะราคาขายต่อ เป็นไงช่างมัน รถดีเก็บไว้สิจะขายทำไม
ขอแค่FORD กล้าเพิ่มศูนย์บริการมากขึ้น โฆษณาเยอะหน่อย
-
เห็นด้วยครับ FORD ต้องปรับปรุงเรื่องศูนย์บริการอย่างจริงจัง
ผมเป็นคนนึงที่ตัดสินใจซื้อ Focus TDCi เพราะว่าลงตัวทุกอย่าง เรื่อง performance และ option ของรถ
ทั้งๆที่ราคาแพงกว่าเยอะ....แต่สุดท้ายก็ยังมา ตกม้าตายที่ศูนย์จนได้
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=6379.0
-
นั่นซินะ
ขอยืม คำที่คนญี่ปุ่น ชอบพูดกัน มาใช้ขึ้นต้น ครับ
ผม มีอาการ อยากได้ เฟียสต้า ดีเซล มากไปหน่อย
และ ก็ ตาลาย จาก ข้อมูล ที่อ่านบทความ ใน เวป แห่งนี้แหละครับ ว่า
รถที่ ขายมากที่สุด ปีก่อน คือ โคโรล่า
อันดับ 2 และ 3 เป็น เฟียสต้า และ โฟกัส
หวังว่า คง จะ จำไม่ผิด นะ
ศูนย์บริการ นี่ เป็น จุดสลบ ของ ฟอร์ด จริงๆ นั่นแหละ
คนใช้ฟอร์ด ก็ ยืนยัน บ่นยัน กัน ยาวนาน หลายปีแล้ว
เคยอ่าน ข่าว ทั่วไป ที่ไหน สักแห่งว่า ฟอร์ด แต่งตั้งให้ คนจบกฎหมาย มาดูแล ดีลเล่อร์ ศูนย์บริการ
สงสัย จะ เก่ง เอกสาร มากกว่า เก่ง จัดการ ให้ ช่างเก่ง และ มี อะไหล่ จัดหา ได้คุณภาพ ถูกต้อง ตาม รุ่นรถ
ถ้า ผมจำผิดพลาด ไป ก็ขอโทษครับ
เพราะ อาจเป็น จีเอ็ม เชฟโรเล็ต ก็ได้ ที่ทำเช่นนี้
แต่ เป็น รถฝรั่ง ในไทย นี่แหละ ครับ
ผม เคยไปสมัคร ตัวแทนจำหน่าย จะเปิด ศุนย์บริการรถมิตซูบิชิ
เจอ เงื่อนไข ลงทุน 50 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน
เลย ถอยสุดตัว ครับ
ไม่รู้ว่า การเปิดศูนย์บริการฟอร์ด นี่ จะใช้เงิน ลงทุน เท่าไร
คงพอพอ กับ มิตซู
ดังนั้น แม้ใจ จะอยากทำ ศูนย์บริการฟอร์ด ที่ดี ด้วยตัวเอง มันซะเลย
แต่ ก็ คง ไม่อยาก เสียอารมณ์ กับ เรื่อง ไม่เป็น เรื่อง แบบ ที่ เจอ กับ มิตซู
คน พอมี หัวการค้า เขา ดูออกครับ ว่า ตั้งเงินลงทุนสูง เพื่อ กินหัวคิว ค่า ก่อสร้าง นั่นเอง
เถ้าแก่ ปัมน้ำมัน เจอ กันมาเยอะ แล้ว แบบ นี้
สร้างตาม แบบนะ ทำได้
แต่ ตั้งแง่ ใช้ ผุ้รับเหมา ที่ บริษัทรับรอง เพื่อ ให้ได้มาตรฐาน
และ ผู้รับเหมา พวกนั้น เขี้ยวยาว เปิดปาก ออกกว้าง
ราคา แพงกว่า รับงาน ราชการเยอะ
คน จะเปิด ศูนย์บริการ บ่นไป ก็ เท่านั้นแหละครับ
เพราะ คนใช้รถ เขา อยากได้ หรู
คนที่ คิดจะเปิด ศูนย์บริการ ไม่หรู แต่ ช่างเก่ง เลย ต้อง ตาค้าง กับ เงินลงทุน 50 ล้านบาท ในเรื่องไม่เป็น เรื่อง
เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการ ซ่อมรถ สำหรับ ศูนย์บริการเล็กๆ
ซื้อของ เยอรมัน ทั้งหมด
ซื้ออย่างไร ยัง ไม่ถึง 10 ล้านเลย
จ้าง ช่างหัวหน้าระดับ เทพ ให้ ไปเลย เดือนละ แสน
ลูกน้อง ระดับฝีมือให้ไป เดือน ละ สามหมื่น
ลูกน้อง ระดับหน้าใหม่ เดือน ละ หมื่น
โบนัส ถ้า ทำงานดี อีกต่างหาก สิ้นปี
พนักงาน ประกอบ ที่ไม่ต้อง สวย แต่ต้อง มีใจ บริการ อีก ไม่มาก
เงินสด หมุนเวียน เดือนหนึ่ง ค่า ลุกน้อง ไม่เกิน ล้าน บาท
ก็ จะได้ ศุนย์บริการ รถ ที่ ดีมากมาก แล้ว
ขายรถตลาด กำไร น้อย
ยิ่งไป ลงทุน ค่า อาคาร ป้าย ห้องโถง ห้องรับรองหรู
ยิ่ง คืนทุนช้า
แต่ ต้อง ลงทุน ในเรื่องหน้าตา ต้อนรับ ลูกค้ารักความสบาย แข่งกับ เจ้าตลาด
แล้ว ไป ตัด ใน สิ่งที่ ลูกค้า ผู้ จะ ซื้อรถ มองไม่เห็น
นั่น คือ คุณภาพ ช่าง
คุณภาพ อะไหล่
ยอมเสี่ยง ให้ ลูกค้าผู้ซื้อรถไปแล้ว ด่า
แต่ ลูกค้า จะทำอะไร ได้
ด่า ก็ ด่าไป
เถ้าแก่ เจ้าของศูนย์ เขา มี บัญชีแดง หนี้เพียบ
เพราะ ไป ลงทุน หน้าตา ล่อ ลูกค้า ให้เข้ามาซื้อไว้มาก
ก็ ต้อง ฟัน คืน ช่วงหลัง
ผม พยายาม ต้าน ความต้องการ หน้าตา ใน สังคมไทย
แต่ คงต้าน ไม่ไหว
ก็ สรุป ดื้อๆ นะครับ ว่า
ฟอร์ดไทย ก็ คงจะมี ศูนย์บริการสวยงาม แต่ บริการไม่ดี ไปอีกนาน
ยังไม่ได้อ่าน บทความ มาร์ช ของคุณจิมมี่ ทั้งๆที่ อยากอ่านมากมาก
เพราะ ต้องรีบ ออกจากบ้าน แต่เช้า ส่งลูกไปโรงเรียน ครับ
ผม อยู่ ลำปาง ลูกชาย เรียนที่ ลำปาง
ก็ ขับ กระบะอีซูซุสี่ประตู ทุก เช้า-เย็น ไปโรงเรียนลูก เส้นทางประจำ
ผม เป็น อีกหนึ่ง คน ที่ ใช้กระบะไม่บรรทุก
ก็ เห็นหน้า พ่อแม่ ที่ ใช้ กระบะไม่บรรทุก มากมาย ตามต่างจังหวัด ครับ
เมื่อไร ฟอร์ด อยากจะมี ศูนย์บริการโทรมๆ แต่ บริการด้วยช่างเก่งๆ ที่ จังหวัดตาก
รถกวน ช่วย บอกผม ด้วย นะครับ
-
ผม เคยไปสมัคร ตัวแทนจำหน่าย จะเปิด ศุนย์บริการรถมิตซูบิชิ
เจอ เงื่อนไข ลงทุน 50 ล้านบาท ไม่รวมค่าที่ดิน
เลย ถอยสุดตัว ครับ
ไม่รู้ว่า การเปิดศูนย์บริการฟอร์ด นี่ จะใช้เงิน ลงทุน เท่าไร
คงพอพอ กับ มิตซู
ดังนั้น แม้ใจ จะอยากทำ ศูนย์บริการฟอร์ด ที่ดี ด้วยตัวเอง มันซะเลย
แต่ ก็ คง ไม่อยาก เสียอารมณ์ กับ เรื่อง ไม่เป็น เรื่อง แบบ ที่ เจอ กับ มิตซู
คน พอมี หัวการค้า เขา ดูออกครับ ว่า ตั้งเงินลงทุนสูง เพื่อ กินหัวคิว ค่า ก่อสร้าง นั่นเอง
เถ้าแก่ ปัมน้ำมัน เจอ กันมาเยอะ แล้ว แบบ นี้
สร้างตาม แบบนะ ทำได้
แต่ ตั้งแง่ ใช้ ผุ้รับเหมา ที่ บริษัทรับรอง เพื่อ ให้ได้มาตรฐาน
และ ผู้รับเหมา พวกนั้น เขี้ยวยาว เปิดปาก ออกกว้าง
ราคา แพงกว่า รับงาน ราชการเยอะ
คน จะเปิด ศูนย์บริการ บ่นไป ก็ เท่านั้นแหละครับ
เพราะ คนใช้รถ เขา อยากได้ หรู
คนที่ คิดจะเปิด ศูนย์บริการ ไม่หรู แต่ ช่างเก่ง เลย ต้อง ตาค้าง กับ เงินลงทุน 50 ล้านบาท ในเรื่องไม่เป็น เรื่อง
เครื่องมือ เครื่องใช้ ในการ ซ่อมรถ สำหรับ ศูนย์บริการเล็กๆ
ซื้อของ เยอรมัน ทั้งหมด
ซื้ออย่างไร ยัง ไม่ถึง 10 ล้านเลย
จ้าง ช่างหัวหน้าระดับ เทพ ให้ ไปเลย เดือนละ แสน
ลูกน้อง ระดับฝีมือให้ไป เดือน ละ สามหมื่น
ลูกน้อง ระดับหน้าใหม่ เดือน ละ หมื่น
โบนัส ถ้า ทำงานดี อีกต่างหาก สิ้นปี
พนักงาน ประกอบ ที่ไม่ต้อง สวย แต่ต้อง มีใจ บริการ อีก ไม่มาก
เงินสด หมุนเวียน เดือนหนึ่ง ค่า ลุกน้อง ไม่เกิน ล้าน บาท
ก็ จะได้ ศุนย์บริการ รถ ที่ ดีมากมาก แล้ว
ขายรถตลาด กำไร น้อย
ยิ่งไป ลงทุน ค่า อาคาร ป้าย ห้องโถง ห้องรับรองหรู
ยิ่ง คืนทุนช้า
แต่ ต้อง ลงทุน ในเรื่องหน้าตา ต้อนรับ ลูกค้ารักความสบาย แข่งกับ เจ้าตลาด
แล้ว ไป ตัด ใน สิ่งที่ ลูกค้า ผู้ จะ ซื้อรถ มองไม่เห็น
นั่น คือ คุณภาพ ช่าง
คุณภาพ อะไหล่
ยอมเสี่ยง ให้ ลูกค้าผู้ซื้อรถไปแล้ว ด่า
แต่ ลูกค้า จะทำอะไร ได้
ด่า ก็ ด่าไป
เถ้าแก่ เจ้าของศูนย์ เขา มี บัญชีแดง หนี้เพียบ
เพราะ ไป ลงทุน หน้าตา ล่อ ลูกค้า ให้เข้ามาซื้อไว้มาก
ก็ ต้อง ฟัน คืน ช่วงหลัง
ผม พยายาม ต้าน ความต้องการ หน้าตา ใน สังคมไทย
แต่ คงต้าน ไม่ไหว
ก็ สรุป ดื้อๆ นะครับ ว่า
ฟอร์ดไทย ก็ คงจะมี ศูนย์บริการสวยงาม แต่ บริการไม่ดี ไปอีกนาน
เมื่อไร ฟอร์ด อยากจะมี ศูนย์บริการโทรมๆ แต่ บริการด้วยช่างเก่งๆ ที่ จังหวัดตาก
รถกวน ช่วย บอกผม ด้วย นะครับ
ที่คุณ Traveller พูดมานี่จริงทุกอย่าง
เงื่อนไขที่รับไม่ได้มากที่สุดเลยคือ ก่อสร้างศูนย์บริการต้องให้คนของฟอร์ดเป็นคุมและรวมถึงเลือกผู้รับเหมา
ข้ออ้างก็คือ มาตรฐาน
เจ้าของศูนย์ทำได้แค่จ่ายเงิน 20 ล้านค่าก่อสร้างศูนย์บริการ ไม่รวมเครื่องมืออุปกรณ์ โต๊ เก้าอี้ ที่บวกหัวคิวไ้ว้มหาศาล :-X
ระบบนี้คือ มาตรฐานครับ
เพื่อนผมทำ PTT Life Station ครับ ของทุกอย่างแพงหมด เจ้าของคิดทำอะไรที่ดีกว่า แต่ถูกกว่า ก็เจอคำว่ามาตรฐานกีดกันเอาไว้
มันบ่นต่อว่า ขนาดโต๊เก้าอี้ในร้านกาแฟ ของเหมือนกับในร้านเฟอร์นิเจอร์เจ้าดังทุกประการ ราคาถูกกว่า ปตท.ครึ่งนึง :o
-
ก็ทุกที่ล่ะครับ
เพื่อนผมเปิดศูนย์เบนซ์ที่สุพรรณ ต้องมีเงินในบัญชี 100 ล้านถ้าผมจำไม่ผิด
ได้ยินแล้วหนาวเลย แต่ตอนนี้ปิดไปแล้ว เหลือแต่ศูนย์เชฟที่ชัยนาทกับโรงสีอย่างเดียว มันบอกทำแล้วขาดทุนหนักเลยล่ะ