Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ลุง ที่ มีนาคม 31, 2018, 08:16:52
-
รุ่นน้องผมบอกว่า บริษัทรถจะตั้งโปรแกรมให้ใช้ motor ก่อน เพื่อลดมลพิษและประหยัดน้ำมัน มี2เงื่อนไขเท่านั้นที่จะ start เครื่องยนต์คือ 1. แรงม้าไม่พอ (มอเตอร์มีแรงบิดสูงอยู่แล้ว ปัญหาแรงบิดไม่พอไม่ค่อยมี) 2. ไฟในแบตไม่พอ
สำหรับปลั็กอินธรรมดา มอเตอร์เล็ก,แบตก็เล็ก ส่วนใหญ่เครื่องยนต์จะทำงานอยู่แล้ว
นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมบริษัทรถยนต์ยินดีรับประกัน แบตถึง 10 ปี ส่วนระบบไฮบริดจะรับประกัน 5ปีเหมือน BSI ทั่วไป
ปัญหาก็คือช่างไทยไม่เคยซ่อมมอเตอร์ อะไหล่เทียบ,อะไหล่เทียมก็ไม่มี ของมือสองก็ไม่มี เวลาเสียต้องรอซื้อยกชุดจากบริษัทรถอย่างเดีผมซื้อ Benz หรือ BMW เพราะชื่อเสียงของเครื่องยนต์ บริษ
-
อย่าลืมว่าHybridอยู่ในช่วงการพัฒนาครับ บริษัทรถยนต์ก็มีความชำนาญและKnow Howด้านเครื่องยนต์ทั้งนั้น แต่ระบบไฟฟ้ารวมถึงMotorปกติจะให้ทางSupplierเป็นผู้ผลิตส่งให้ทั้งนั้น ดังนั้นช่วงแรกๆก็ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน ถ้าไม่อยากมีปัญหาก็แนะนำให้ใช้รถที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในปกติไปก่อนครับ รอจนกว่าระบบHybridกลายเป็น Business as usual ตอนนั้นค่อยซื้อมาใช้ก็ได้ครับ
-
มอเตอร์เป็นอะไรที่พังยากมากนะ ชิ้นส่วนก็นิดเดียว มอเตอร์น่าจะทนกว่าเครื่องยนต์ด้วยซ้ำ ควรไปห่วงพวกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า เช่น invertor อะไรพวกนี้น่าห่วงกว่ามอเตอร์เยอะ อีกอย่างถ้ามันเสียพวกร้านไดนาโมมอเตอร์น่าจะซ่อมได้สบายๆ(เฉพาะมอเตอร์นะ)
-
มอเตอร์ก็ยังต้องการการบำรุงรักษาครับ เพราะต้องเปลี่ยนลูกปืนตามอายุการใช้งาน แต่กว่าจะถึงเวลาเปลี่ยนก็ใช้จนลืมครับ เพราะมอเตอร์ในรถยนต์ไม่ได้ทำงานหนักเหมือนมอเตอร์ที่อยู่ตามโรงงานอุตสาหกรรม