Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Darkart ที่ เมษายน 25, 2018, 22:19:27
-
เข้ม! ซิ่งบนทางด่วน เกิน 80 กม./ชม. โดนแน่ กล้องจับความเร็วอื้อ
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ขอความร่วมมือผู้ใช้ทางพิเศษโปรดขับรถด้วยความระมัดระวัง
ปฏิบัติตามกฎจราจรและป้ายเตือน ป้ายสัญญาณต่างๆ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ควรใช้ความเร็วไม่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนด คือ ทางพิเศษในเขตเมือง ไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง
และทางพิเศษนอกเขตเมืองไม่เกิน 110 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่านตลอดจนผู้ร่วมทาง
ทั้งนี้ กทพ. ได้มีการติดตั้งกล้องตรวจจับความเร็วอัตโนมัติไว้บนทางพิเศษทุกสายทาง เพื่อคุมเข้มเรื่องความเร็ว
เพื่อความปลอดภัยในการใช้ทางพิเศษ โดยกล้องดังกล่าวจะบันทึกภาพรถยนต์ที่ใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด
แล้วจึงประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วน เพื่อจัดส่งภาพการกระทำผิดพร้อมด้วยใบสั่งเสียค่าปรับจราจรให้กับผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถต่อไป
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/799897 ครับ
-
รออ่านคอมเม้น
-
ตอนนี้บอกตรงๆ เลยครับ
ถ้าจะให้ขับแค่นี้ช่วยเอารถ Eco car 1.0 ลิตร หรือ Kei car มาขายเลยครับ
ให้วิ่งแค่นั้นทางด่วน คือ ผมจะขึ้นทำไมครับ
ขอบคุณ จขกท ที่เอาข้อมูลมาแจ้งครับ ผมคงจะวิ่งแค่นั้นครับ
-
ถ้าคนทำตามจริงๆรถคงติดกว่านี้เยอะมาก
-
+1 ครับเห็นด้วยมากๆเลย และยินดีที่จะทำตามครับ
เมื่อก่อนผมก็คิดนะไอ้ทางด่วนจำกัดความเร็วเนี่ย มันจะมาควบคุมอะไรนัก พอโตมาก็เห็นอะไรเยอะขึ้น หลังๆมานี่เลิกขับเร็วละครับ กลัวตายครับ
ทางด่วนมันไม่ได้แปลความหมายว่าทางที่สามารถใช้ความเร็วได้สูงๆครับ
ทางด่วน = Expressway มันคือทางที่เป็น Shortcut จากจุด A > B ให้สะดวกที่สุดโดยไม่ต้องไปติดไฟแดงหรือขับผ่านเมืองแค่นั้นเอง
-
เปลี่ยนชื่อเป็น ทางไม่ด่วน +
รบกวนกล้องให้ตรวจจับการขับช้าแช่ขวาด้วยนะครับ
-
เคยลองขับ แบบ จะประหยัดน้ำมัน แช่80 ตลอดทาง
ง่วงมากจะหลับให้ได้ ผมว่าถ้าห้ามเกิน 80 จริง อันตรายกว่าเดิมอีกนะครับ
-
เคยลองขับ แบบ จะประหยัดน้ำมัน แช่80 ตลอดทาง
ง่วงมากจะหลับให้ได้ ผมว่าถ้าห้ามเกิน 80 จริง อันตรายกว่าเดิมอีกนะครับ
+++++++++ ::)
-
เคยลองขับ แบบ จะประหยัดน้ำมัน แช่80 ตลอดทาง
ง่วงมากจะหลับให้ได้ ผมว่าถ้าห้ามเกิน 80 จริง อันตรายกว่าเดิมอีกนะครับ
+++++++++ ::)
จริงครับ นอกจากจะง่วงแล้ว สมาธิยังไม่ค่อยจดจ่อกับถนนข้างหน้าอีกครับ
-
ถึงโดนแอบถ่ายแล้วไม่ไปจ่ายเงินก็ต่อทะเบียนได้ตามปกตินะ แล้วจากนั้นทั้งคนแอบถ่ายและคนที่โดนถ่ายจะทำยังไงต่อไปล่ะ ?
-
ถ้าผู้รักษากฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทำได้ ทหารทำได้
ผมประชาชนก็พร้อมจะทำครับ
-
เหมือนแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนะครับ เพ่งเล็งแต่เรื่องความเร็ว
ไม่ได้สนใจเรื่องจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ขับขี่เลย
-
หากมันเป็น กม. ก็พร้อมจะทำตาม
แต่ถ้ายกเหตุผลแห่งความไม่ปลอดภัย ต้องไม่ลืมว่า ขับช้าแช่ขวาเนิบๆ ก็คือต้นเหตุของความไม่ปลอดภัยอย่างนึง นี่ก็คือเหตุผลเหมือนกัน
-
ขับแบบเดิมไม่โดนอยู่ดีแจ้งวัฒนะ - สุวรรณภูมิ มีกล้องบางวัน :) หรือไม่มีเลย
วิ่งๆไปเหอะครับ ไม่ได้ติดเพิ่มหรอก กล้องน่ะที่เตือนคงกล้อง 4 ตัวบนทางด่วนสายใหม่อ่ะว่าแอคทีฟแล้ว
-
เหมือนว่าจะเป็นแคมเปญ "ลดเร็ว ลดเสี่ยง" นะฮะ
http://www.thaihealth.or.th/Content/36343-%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7%20%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87.html
https://www.facebook.com/toyotamotor.th/videos/890173104502799/
-
ถ้าวิ่งไม่เกิน 80 กม./ชม. อย่าเรียกว่าทางด่วนให้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ทางไม่ด่วน"
-
ผมวิ่งข้างล่างตลอดครับบสะดวกและประหยัดค่าทางด่วน บางทีขึ้นทางด่วนใช่ว่าจะวิ่งสะดวกเสมอไปบางทีก็ติดกว่าข้างล่างอีก
เส้นที่วิ่งประจำผมใช้เส้นทางลัดตลอดครับเร็วดี ทางด่วนใช้เฉพาะวันที่ออกตจว.เท่านั้น
-
ครับ
พอโพล้เพล้ เกิน 110 กล้องพี่ก็จับไม่ทันแล้วครับ :P :P
เมื่อวานโดนแบบยิงแฟลช ก็รอลุ้นเหมืิอนกัน ::) ::)
-
จะระบายรถช้าลงหรือเปล่าครับ :-\
ส่วนตัวไม่ได้ใช้ทางด่วน และก็ขับไม่เกิน 80 อยู่แล้ว ...... ก็มันไปเร็วได้แค่นี้ :'(
-
ทางด่วนในเมืองตอนเช้าเย็นก็ขับได้ไม่เกิน 80 อยู่แล้วนะครับ 55555
-
ถ้าผู้รักษากฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทำได้ ทหารทำได้
ผมประชาชนก็พร้อมจะทำครับ
+10
อีกอย่าง 80 กม/ ชั่วโมง นี้ กฎหมาย กี่สิบปีมาเเล้วครับ
อีโค่คาบ้านๆ ปัจุจุบัน ขับเพลินๆไม่กด ก็ 100++ เเล้ว
อย่าโลกสวย ว่ากฎหมาย ก็คือกฎหมาย เราเป็นประชาชนมีหน้าที่เเค่ทำตาม
ถ้าหาก กฎหมายมันล้าหลังจริง เราประชาชน ก็มีสิทธิ์ เรียกร้องให้เเก้ไข ได้
เช่น พวกโจร ปล้นฆ่าข่มขืน ติดคุกจริงไม่กี่ปีก็ออกมาก่อเหตุซ้ำได้
เราจะอยาก ก้มหน้ายอมรับกรรมไป ว่าบ้านเมืองเรามันเป็นเช่นนี้ ทนอยู่กับ อาชญากรไปเรื่อยๆ
หรืออยากให้เเก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษให้มันเเรงขึ้น เหมาะสมกับความผิดที่ผู้ร้ายกระทำมากขึ้นหละครับ
ดูเเค่ในห้องนี้มีใครกล้าการันตีบ้างครับ ว่าตนเองไม่เคยขับเร็วเกิน 80กม./ ชม.
ขนาด เเอดมินหลายๆท่านทดสอบรถ หาข้อดีข้อเสียรถ ทำคลิป ทำบทความ ให้เราชม ยังขับกันไปเร็วตั้งเท่าไร ถ่าเเอดมินเหล่านั้น ไม่ยอมขับเกิน 80 เราๆผู้อ่านก็คงไม่ได้รับสาระประโยชน์ ข้อดีข้อเสียของรถเเต่ละคัน ได้เต็มที่
-
ด่าไปก็ไม่สะเทือน
คิดไปได้ สติปัญญามีแค่นั้น
ความเร็ว ไม่ได้เป็นต้นเหตุของทุกเรื่อง
คนมีปืน ไม่ได้จ้องจะยิงคนอยู่ร่ำไป
-
ผมคิดว่าไปเข้มกับการออกใบอนุญาติขับขี่จะดีกว่ามากเลยครับ ยกเลิกพวกซื้อใบ หรืออบรมแล้วได้ใบแน่ๆไปเถอะครับ คนพวกนี้เป็นภาระบนถนนมากกว่าคนขับเร็วอีก
-
ถ้ามันบังคับใช้ได้กับทุกคน เห็นด้วย ถามว่า ถ้าเป็นรถนักการเมือง รถรัฐมนตรี วิ่ง 80 ไหม
-
มีเทคนิคหลบกล้องบนทางด่วน ให้วิ่งซ้ายสุดๆผ่านตลอดเพราะกล้องมันจับโฟกัสที่ช่องขวาสุด (แค่ขำๆนะ) ::) ::)
-
มีเทคนิคหลบกล้องบนทางด่วน ให้วิ่งซ้ายสุดๆผ่านตลอดเพราะกล้องมันจับโฟกัสที่ช่องขวาสุด (แค่ขำๆนะ) ::) ::)
ถ้าหลบไม่ทันแล้ว เบี่ยงๆเยื้องๆกับรถอีกเลนครับ ;) ;) ;) แต่กล้องทางด่วนส่วนใหญ่จะติดไม่ซ้ายสุดสูงๆ ก็เกาะกลางถนน
-
ถ้ารวมตัวกันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเยอะๆเหมือนตอนสั่งห้ามนั่งท้ายกระบะ
เดี๋ยวก็ยกเลิก 555
-
ผมโดนกล้องจับความเร็วหลายใบครับ ที่ความเร็ว 109, 111 , 112 ผมใช้รถ 2 คัน ทั้งเก๋งและกระบะ โดนทั้งสองคัน ยังไม่ได้ไปจ่ายเลยสักใบ ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา กะว่าจะจ่ายตอนต่อภาษี แล้วต่อไม่ได้ แต่มันกลับต่อภาษีได้ ทุกปี ... เลยทิ้งเป็นขยะไป
** ไม่ได้ส่งเสริมให้ขับเร็วเกินกฏหมาย และฝ่าฝืนกฏหมายหมายนะครับ แต่ในเมื่อโดนกล้องจับแล้วยังบังคับที่จะอายัดการต่อภาษีได้ มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไร เพราะตำรวจจับแต่ขนส่งไม่เอาด้วย ตอนไปต่อภาษีขนส่งได้เงินครับ แล้วขนส่งจะอายัดเพื่อ..? ผลประโยชน์ต่อหน่วยงานไม่เกิด
** ขอย้ำ ไม่ได้แนะนำนะครับ เป็นการปฏิบัติส่วนตัว หากท่านใดไม่สบายใจเวลาโดนจับแล้วก็จ่ายไปตามระบบครับ แล้วแต่ความสบายใจ
-
เอาให้มันสอดคล้องกับความจริงหน่อยสิครับ
90-120กม/ชม แล้วแต่ช่วง แล้วแต่สภาพก็ยังดี + - สัก10กม/ชม
แช่ขวา กับอย่างอื่นอีก เอาให้หนักแบบ ตปท เลย
ใบสั่งเคยไม่กลัวครับ แต่ผมเคยโดนแบบ เช่ารถขับ จาก กทมไป ชลบุรี โดนกล้อง ใบสั่ง ปรับ500
แต่บริษัทเช่าปรับ 3,000 ยื่นเรื่องไป ลดให้เหลือ1,500 เซงเลย
-
ขับเร็วเกิน80ปรับคนขับ ถ้ารถติดทำความเร็วเฉลี่ยต่ำกว่า30คืนเงินหรือชดเชยคนขับด้วยได้ไม๊
-
ไม่เป็นไรครับ ปรับก็จ่าย ผมโดนแทบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว อยากให้มีเหมาจ่าย ติดสติ๊กเกอร์หน้ากระจกรถไปเลย ;)
-
จริงๆๆผมว่าควรจะกำหนดความเร็วเป็นช่วงๆๆให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรน่าจะดีกว่านะครับ จะทางด่วนทางราบก็ควรจะกำหนดให้เหมาะสมเหมือนกัน
-
ถ้าขึ้นทางด่วนแล้วมันช้ากว่าทางปกตินี่มีคืนเงินมั้ยครับ
ทางขึ้นโล่งเชียว แต่พอขึ้นถึงข้างบนเบรคตัวโก่งเชียว โทรลเวย์ตัวดีเลย
-
ก็ขอแสดงความเห็นเหมือนเดิมให้กำหนดเป็นช่วงๆไป เช่นตรงยาว ให้ 100-120 พอเข้าทางโค้งอันตราย ทางแยก ทางร่วม เขตชุมชน ก็ทำป้ายเตือนก่อนถึงทางพวกนี้ แล้วก็ตั้งกล้องปรับเข้มๆ ไปเลย มันจะช่วยลดอุบัติเหตุได้มากกว่า อีกอย่างพวกจอดในที่ห้ามจอด นี่ควรกวดขันหนักๆ เพราะเป็นตัวทำรถติด และสามารถทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
แต่กำหนดความเร็วที่ 80 ผมว่าเร็วไป คุณเคยเห็นจักรยานแม่บ้านขับชนกันไหม? หรือถ้าชนก็ไม่ถึงบาดเจ็บ ดังนั้นผมจอเสนอให้กำจัดความเร็วที่ 20-30 ก็พอครับ 80 มันเร็วไป อันตราย
-
รู้ละทำไมทุกวันนี้รถถึงติดเพราะขับกันช้านี่เอง ถ้าขับเร็วๆ คงไม่ติด 555
คนที่ไม่เห็นด้วย กล้าขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนดในประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ยุโรป ไหมครับ
แล้วทำไมคนในประเทศเหล่านั้น ถึงขับกันได้ครับ สงสัยมากๆ
-
80 กม./ชม. มันก็เกินไปครับ
อย่างขี้เหร่ก็ซัก 100 กม./ชม. ก็ยังดี
-
รถ ขับขวา ขับคุยเล่นๆ กับ คันเลนกลาง จู๋จี่ดูดิ๋ คู่ๆ กันไปเรื่อยๆ พอใกล้ๆ จะเลี้ยวลง ปั๊บ แรงมันมาเฉยเลย แต่ว่า มันไปได้คันเดียวนะ คันตามหลัง อดแซง
-
จับวิ่งเร็ว ก็อยากให้จับวิ่งช้าด้วยครับ วิ่ง 60 ก็อย่ามาวิ่งขวา คนแซงซ้ายก็เกิดอุบัติเหตุได้เหมือนกัน
ให้ขับ 80km/hr ผมไม่ม่ปัญหา หากรถหน้าผมก็วิ่ง 80 เหมือนกัน
-
ควรจำกัดเป็นช่วงเวลาด้วยครับ ถ้าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนก็ปล่อยให้ทำความเร็วได้
-
ทางด่วนในเมืองตอนเช้าเย็นก็ขับได้ไม่เกิน 80 อยู่แล้วนะครับ 55555
ก็จริงน่ะครับ ไม่น่าจะสะเทือน ปกติในเมืองตามท่านว่าเห็นคลานแค่เกียร์1 5555555+
-
ถ้าผู้รักษากฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทำได้ ทหารทำได้
ผมประชาชนก็พร้อมจะทำครับ
เช่นกันครับ ถ้ากฏหมายบังคับเท่าเทียมัน ผมก็พร้อมเหมือนกัน
-
ต้องถามว่าเพื่ออะไร 80 กม/ชม สำหรับทางด่วน
และความเร็วในทางปกติ ควรปรับปรุงแก้ไขใหม่ ให้มันเหมาะกับสภาพปัจจุบัน และ Thailand Lifestyle
ถ้าแก้ไขเพื่อความปลอดภัยของ ปชช. อย่าอ้างเลย
รถมันวิ่งได้ 200 ก็ไม่เห็นมีใครวิ่งแช่ 200 เขาก็วิ่งในแค่ระดับหนึ่งที่ ตัวเองรู้สึกมันปลอดภัย
ถ้าจะห่วงไปห่วงพวก รมต. สส. นายกฯ ดีกว่า น่าเป็นห่วงจริงๆ วิ่งเร็วกันเกินทั้งนั้น ไม่เห็นมีวิ่งตาม กม. เลย
รถนำขบวนอีกไล่เบียด ปชช. ไปทั่ว
เอ๊ะ หรือว่า กม. มันมีข้อยกเว้นเฉพาะ!!!!!?????
กม.ไทย มันต้องบังคับใช้กับทุกคนที่อาศัยอยู่ในไทย ไม่ว่าคนผู้นั้นจะทำอาชีพใดๆ หรือมีตำแหน่งใดๆ เชื้อชาติใดๆ สัญชาติใดๆ ก็ตาม
ถ้าจะเล่นในจุดนี้ ไปหาพัฒนา ปท. ในทิศทางอื่นเถอะ เพลียจริงๆ
-
ถ้ามันบังคับใช้ได้กับทุกคน เห็นด้วย ถามว่า ถ้าเป็นรถนักการเมือง รถรัฐมนตรี วิ่ง 80 ไหม
พวกรถข้าราชการ เจ้าใหญ่นายโตด้วยนะครับ
-
81km/h ก็ถือว่าซิ่งละชะมะ ;D ;D ;D ;D
-
รู้ละทำไมทุกวันนี้รถถึงติดเพราะขับกันช้านี่เอง ถ้าขับเร็วๆ คงไม่ติด 555
คนที่ไม่เห็นด้วย กล้าขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนดในประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ยุโรป ไหมครับ
แล้วทำไมคนในประเทศเหล่านั้น ถึงขับกันได้ครับ สงสัยมากๆ
เคยเห็นพี่ยุ่นกับยุโรปเบรคตัวโก่งไหมละครับ เขาขับกันได้ครับ ขับกัน 140 150 แล้วค่อยไปเบรคเอาตอนถึงกล้อง
นิวซีแลนด์ก็ขับก็ได้ครับ กฎหมายตั้งไว้ 100 แต่ขับกันแค่ 80 ก็ดันไปตั้งไว้ถนนภูเขา โค้งเยอะ วิ่งแค่ 80 ก็แทบจะอยู่บนลิมิตของการเกาะถนนของรถแล้ว เขาตั้งเอาไว้เพื่อความปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อหาเงิน พอขึ้นทางด่วนได้ ก็ขับกันเกินอยู่ดี ไปเบรคเอาตอนถึงกล้อง
แถมพวกขับรถง่าวในประเทศเหล่านี้ มันก็เยอะพอๆกับประเทศไทยนี่แหละครับ
ถ้าเกิดการลดการจำกัดความเร็วมันทำให้สถิติอุบัติเหตุและการตายบนท้องถนนลดลงจริงๆ อินโดนีเซียก็คงจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ถนนมีความปลอดภัยที่สุดในโลกแล้วละครับ ทางด่วนจำกัดไว้ 100 ขับกันจริงๆ 90 ช้าเหมือนกับที่หลายคนอยากให้เป็น เป็น ideal เลย
แล้วผมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับคนที่จะยอมรับได้ ถ้าการบังคับใช้จะใช้อย่างเท่าเทียมนะครับ กฎหมายหลายข้อมันไม่ได้สร้างขึ้นมาโดยอิงจากหลักความจริงหรือเกิดเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เรียกเป็นภาษาบ้านๆคือกฎหมายบางข้อมันก็ใช้หัวแม่ตีนคิด เราไม่ได้จำเป็นที่จะต้องก้มหน้ายอมรับนะครับ ผมเข้าใจนะ ประเทศเราไม่ได้มีวัฒนธรรมที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรมาเป็นทุนเดิม และในปัจจุบันประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมกับการกำหนดนโยบายจริงๆ ก็ยอมรับไปเถอะครับ กฎหมายโง่ๆมันไม่ได้มีแค่เรื่องนี้หรอกครับ อันนี้มันแค่ตัวอย่างเดียวที่เล็กน้อยมากๆ แต่มันบอกอะไรได้มากกับสังคมไทยนี้
ถ้าเริ่มมีการบังคับใช้จริงๆ ผมแนะนำมีทางเลือกให้สองทาง ซึ่งจะใช้ได้ผลทั้งคู่ครับ
1. ทุกคนขับให้เร็วจนกล้องจับไม่ได้ไปเลย อันนี้ยากหน่อยเพราะว่ารถไม่ได้แรงทุกคัน
2. ทุกคนขับให้เร็วด้วยความเร็วที่เหมาะสม แต่มันเกินที่กฎหมายและกล้องตั้งไว้เพราะคนคิดเขาแก้ปัญหาแบบส่งๆ แล้วเราไปโต้เถียงอย่างมีเหตุผลไม่ว่าจะในศาล หรือออกมาดำเนินกิจกรรมเรียกร้องเสีย ว่ากฎหมายที่ตั้งขึ้นมามันไม่สมเหตุสมผล แต่อันนี้ก็ยากเหมือนกัน เพราะทุกคนไม่ได้เห็นด้วย แต่ผมเชื่อครับ ว่าการไตร่ตรองใช้เหตุผล จะทำให้ทุกคนเปลี่ยนใจได้ครับ
ผมจะรอวันที่อุบัติเหตุบนท้องถนน มีการสืบสวนสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงกันอย่างละเอียดนะครับ ไม่ใช่สรุปสาเหตุไปใส่สถิติด้วยคำของตำรวจที่ไปดูจุดที่เกิดเหตุคนเดียว แล้วสรุปเอาง่ายๆโดยไม่หาเหตุผลแบบที่มันเป็นอยู่ในตอนนี้
แล้วผมจะรอวันที่กฎหมายจำกัดความเร็วไว้แค่นี้จริงๆ แล้วสถิติอุบัติเหตุไม่ได้ลดลงแม้แต่นิดเดียวด้วย
ผมจะรอ
-
เห็นด้วยครับ. ความปลอดภัยชองชีวิตและทรัพย์สินของ ครอบครัวและเพื่อร่วมทางนะครับ
คนที่เคยได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุหนักๆมาก่อน จะรู้ว่า. ขับรถช้าๆดีกว่าเร็วแน่นอน
ดีใจมากครับที่ออกระเบียบแบบนี้...
หากอยากไปซิ่งกัน ก้อต้องยอมเสียค่าปรับกันนะ และเพิ่มความเสี่ยงกับครอบครัวและเพื่อนร่วมทาง
อีกอย่าง พอญี่ปุ่นหรือประเทศเจริญแล้วออกระเบียบแบบนี้ กลับชื่นชมยินดี พอเราจะทำบ้างกลับคิดแย้งซะ
น่าคิด
-
ตามสบายเลยครับ น่าจะกำหนด 40 km/h ด้วย จับปรับเข้มๆ เลยนะ แล้วดูว่าอุบัติเหตุลดลงได้จริงแค่ไหน
-
หาเรื่องรีดไถอีกแล้ว
เปรตพวกนี้ไม่ได้ห่วงความปลอดภัยประชาชนอย่างพวกคุณหรอก ห่วงแต่ว่าแดกยังไงกอบโกยยังไงให้ได้เยอะที่สุดรวยไวที่สุด
-
ถามตรงนี้ว่าโดนใบสั่งไม่เสียค่าปรับเลย ปีนึงเป็นกำมือ เห็นบางคนไปเสียภาษีได้อยู่ ไม่เสียค่าปรับ
ฐานข้อมูลกรมขนส่งกับกรมตำรวจทางหลวงไม่ได้ใช้ข้อมูลเดียวกันหรอ?
ยังไม่นับคนที่ขายรถไปหลายปีแต่มีใบสั่งของคนซื้อรถเราส่งกลับมาบ้านหน้าตาเฉย คืออะไร?
ปล. อย่าเอาความง่วงมาอ้างความชอบธรรมในการขับรถเร็ว มันน่าอนาถเกินไป
กลับไปบ้าน คืนนี้ ก็นอนให้มันพอซร้าา 8)
-
ในสังคมนี้มีคนรักสนุก ชอบขับรถเร็วมากมาย
หลายคนในนั้นก็รวย และท้าทายด้วยว่า
มีตังค์จ่ายค่าปรับน่ะ จะทำไม???
แต่.... หลายๆ คดีดังๆ ที่คนรวยๆ ก่อเหตุ
ทำไมถึงไม่ยอมจ่ายค่าเสียหายแต่โดยดี
กลับกระบิดกระบวน สู้คดี ต่อรอง ขอจ่ายถูกๆ
วิ่งไปหาผู้หลักผู้ใหญ่ให้ช่วยเหลือคดี
เวลาเราเห็นคดีพวกนี้ก็รุมประณาม ทั้งคนก่อเหตุ
ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และแล้วก็ทวงถามว่าเมื่อไหร่จะเข้มงวด
กับผู้กระทำผิด
แต่พอเจ้าหน้าที่รัฐจะเข้มงวด ก็ออกมาร้องกระจองอแง
ไม่ได้ดั่งใจ รวมตัวเอากฏหมู่มาสู้กฏหมาย
แล้วสุดท้ายมันก็วนลูปไปที่จุดเริ่มต้นตอนที่มีอุบัติเหตุ
สะเทือนใจ...
ไม่ใช่เหรอฮะ
-
ผมว่าลองดูได้ครับ
แต่น่าจะสรุปด้วยว่าช่วยได้จริงไหม
จะได้เห็นผลขัดเจนกันไป
-
เห็นด้วยครับ. ความปลอดภัยชองชีวิตและทรัพย์สินของ ครอบครัวและเพื่อร่วมทางนะครับ
คนที่เคยได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุหนักๆมาก่อน จะรู้ว่า. ขับรถช้าๆดีกว่าเร็วแน่นอน
ดีใจมากครับที่ออกระเบียบแบบนี้...
หากอยากไปซิ่งกัน ก้อต้องยอมเสียค่าปรับกันนะ และเพิ่มความเสี่ยงกับครอบครัวและเพื่อนร่วมทาง
อีกอย่าง พอญี่ปุ่นหรือประเทศเจริญแล้วออกระเบียบแบบนี้ กลับชื่นชมยินดี พอเราจะทำบ้างกลับคิดแย้งซะ
น่าคิด
ใช่เลยครับพี่
ผมอยากให้มองอะไรมากเกินกว่าแค่จะมองว่าถูกจำกัดสิทธิ อดสนุก อดมันส์ อดสะใจ
แต่ให้ไปคิดถึงเรื่องความปลอดภัยชองชีวิตและทรัพย์สินของ ครอบครัวและเพื่อร่วมทาง
ด้วยครับ
พี่ที่มีลูกๆ แล้วลองคิดสิครับว่า ถ้าลูกสาววัยมหาวิทยาลัย ขับรถกลับบ้านตอนดึกๆ แล้ว
ต้องเจอกับเพื่อนร่วมทางที่ขับเร็วๆ เต็มไปหมด
หรือเพื่อนๆ ที่มีคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องขับรถกลับบ้านหลังเลิกงานดึกๆ ดื่นๆ แล้วต้องเจอกับ
พวกที่ชอบจะบรถเร็ว ๆ ทุกวี่ทุกวัน
ใจคอพี่ๆ เพื่อนๆ จะไม่ห่วงคนใกล้ตัวพวกนั้นของพี่ ๆ เลยเหรอครับ
-
เมื่อไหร่หนอที่จะมีการใช้งบประมาณแผ่นดินแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ทุกวันนี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดบนทางด่วนและที่เสียชีวิตเยอะๆ ไม่ใช่บนทางด่วนอีกเช่นกัน ในความเห็นของผมปัญหาหลักคือจิตสำนึกของผู้ขับขี่มากกว่าโดยเฉพาะผู้ขับขี่มอเตอร์ไซ มีทั้งเลี้ยววงใน วิ่งย้อยศร โผล่มาในจุดที่ไม่ควรจะโผล่ บิ๊กไบท์ขี่เร็วจี๋แล้วแทรกไปตามช่องระหว่างรถเก๋ง ผู้ขับขี่รถยนต์ก็มีแทรกปาดไม่เปิดไม่เลี้ยวกลับรถในที่ห้ามกลับ นอกจากนี้ยังมีถนนที่ออกแบบมาไม่เหมาะสมอีก ป้ายจำกัดความเร็วและกล้องจำกัดความเร็วมันควรจะมีอยู่ในจุดที่อันตรายเอาไว้ช่วยลดอุบัติเหตุ เช่นโค้งอันตราย ทางแยกที่มีอุบัติเหตุบ่อย
-
ก่อนอื่นทำให้มันวิ่งได้มากกว่า 50กม./ชม.ก่อนครับ เมื่อวานนี้ ติดหนึบ 50 บาทตรู
-
แสดงว่า เขาสำรวจข้อมูลมาถูกต้องแล้วว่า ที่เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนส่วนใหญ่ นี่คือความเร็วตั้งแต่ 81 km/hr ขึ้นไปใช่ไหมครับ
-
ผมว่าข่าวเดี๋ยวนี้เชื่อถือไม่ค่อยจะได้
-
ผมว่านะหาทางให้คนที่โดนใบสั่งไปจ่ายให้ครบดีกว่านะ
เพราะทุกวันนี้ก็ไม่เห็นไปจ่ายค่าปรับกันเลย แต่ต่อทะเบียนได้สบาย
แล้วใครมันจะไปกลัว ระบบการทำงานโง่ๆแบบนี้ มีแต่ประเทศนี้แหละ
-
ไม่เป็นไรครับ ปรับก็จ่าย ผมโดนแทบทุกอาทิตย์อยู่แล้ว อยากให้มีเหมาจ่าย ติดสติ๊กเกอร์หน้ากระจกรถไปเลย ;)
555+ เหมาจ่ายก็มา คิดได้นะท่าน
-
จำกัดทำไมครับ 80/km เมื่อวานตอนเช้าขึ้นแถวพัฒนาการ ขับได้ถึง 60/km นี่เป็นบุญหัวอย่างมากแล้วครับ
-
ผมว่าบนทางด่วน มันน่าจะวิ่งได้อย่างน้อยสัก 100 นึงนะครับ
80 มันช้าไปนะ คิดว่าเลนขวาสุดวิ่ง 80 ซ้ายสุดคงวิ่งสัก 40 ล่ะมั๊งครับ 5555
-
ทำยังกะอุบัติเหตุบนทางด่วนจะเยอะ ทางด่วนที่เกินอุบัติเหตุส่วนใหม่เพราะขับมาเร็วๆแล้วมีรถช้าอ่ะ พวกงงทาง เลี้ยวผิด ปาดหน้า
เชื่อสิ กล้องจะไปตั้งตรงที่ขับได้เร็วแล้วปลอดภัย ตรงที่อันตรายคนขับระวังกันไม่ไปตั้งหรอก...หาแดรกชัดๆ
-
ยินดีครับ
แต่ช่วยแก้ไขเรื่องวิธีการระบายรถตรงทางร่วมด้วยนะครับ ประเภทโบกเปิดเลนให้วิ่งออกซ้าย แล้วไปดักเข้าข้างหน้า
มันทำให้รถในแถวปกติช้าลง ช้าลง สรุปเลนซ้ายกลายเป็นช่องทางเอาเปรียบคนอื่น?
-
นับว่ายังดีที่ ทางด่วนนอกเมือง (เข้าใจว่าหมายถึง อุดรรัตยา บูรพาวิถี โทลเวย์) ให้วิ่งถึง 110 ทุกวันนี้เห็นปักป้าย 80-90 ตัวเบ้อเริ่ม คือแบบ ไร้สาระมาก :-\
สำหรับในเมือง ผมมองว่า 80 ก็ช้าเกินไป ควรจะให้ขับ 100-110 เพื่อให้รถไหลตัวได้ดี ในช่วงที่รถเยอะ แต่ไม่ถึงกับติด เพราะจะในเมือง หรือนอกเมือง มันก็คือทางด่วน ที่คุณภาพถนนอยู่ในมาตรฐานเท่ากัน
กฎหมายนี้ คงจะมาพร้อมๆ กับ การเพิ่มความเร็วนอกเมือง จาก 90 เป็น 110 (คนที่กำหนดความเร็ว 90 อยากจะไปบอกเขาเหมือนกันว่า รถสมัยนี้ มี Abs แล้ว มีกระจกไฟฟ้าแล้ว เลิกใช้เครื่องยนต์หัวดูดแล้ว)
จะว่าไป ทางด่วน Low emission zone ใน London ก็จำกัดแค่ 80 เหมือนกัน แล้วดูเหมือนจะตรวจเข้มมากๆ เลนขวาอาจจะมีวิ่ง 85-90 บ้าง ประปราย ไม่ค่อยมีคนเหยียบตามใจชอบเหมือนทางด่วนกรุงเทพ
-
จริงๆมี speed limit มันดีนะครับ มันทำให้ flow บนถนนเหมาะสม ไปได้ด้วยความเรียบร้อย ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วสูงในเขตเมืองที่มีทางเข้าออกระหว่าง expressway กับ freeway ถ้า limit ที่ 80 คนก็วิ่งกัน 80 เป๊ะๆจริงๆในต่างประเทศ เลนนอกสุด เป็นเลนใช้แซง แต่ความเป็นจริงคุณสามารถวิ่งแช่ได้ แต่ถ้ามีรถที่เร็วกว่า (ถึงรถคันนั้นจะวิ่งเกิน speed limit) คุณก็ต้องหลบอยู่ดี ให้คันนั้นมันวิ่งไวแล้วไปโดนค่าปรับเอง คุณไม่มีสิทธิวิ่งแช่ แม้คุณจะวิ่งตาม speed limit ก็ตาม
แต่ปัญหาของคนไทยคือ มันมีพวกวิ่งแช่ขวาแล้วไม่ขับตาม speed limit เนี่ยสิ ถ้าออกกฎให้วิ่ง 80 จริง ผมเชื่อว่ามันจะมีพวกแช่ขวา วิ่ง 60 ทำให้เลนนอกสุดที่ใช้แซงใช้ทำความเร็วไม่สามารถไปเร็วได้ สุดท้ายแล้วคนก็จะปาดไปมาในเลนกลาง เลนซ้ายสุดอยู่ดี อันนี้เป็นประสบการณ์จริงของผมจากการใช้ tollway ทางด่วน วงแหวน motorway ตลอด
ดังนั้น san-dal ของคนไทยบางกลุ่มบนทางด่วน มันไม่สามารถทำให้เราสามารถ apply เอาสิ่งที่เมืองนอกปฏิบัติแล้วมันได้ผล มันมีประสิทธิภาพจริงๆ มาใช้กับสิ่งแวดล้อมแบบไทยๆได้ครับ
-
ไม่มีความเห็นเรื่องจับความเร็วนะครับ แค่อยากแชร์ประสพการณ์ต่างแดน
ที่ Shenyang ทางด่วนเค้าก็ด่วนจริงๆ โล่งมาก มี 4 เลน วิ่งสบาย ไม่มีรถบรรทุกหรือรถทัวร์ มากวนใจ
ต่อให้ช่วงเช้าวันทำงาน ยังไงก็โล่ง แถมราคายังถูกด้วย
ขึ้นจากถนน Nanjing ไปสนามบิน Taoxian ระยะทาง 15 กม. แค่ 5 หยวนเอง
แต่ ..... จำกัดความเร็วที่ 120 กม/ชม. มีกล้อง 4 ตัว ทั้งหน้าและหลัง คอยจับความเร็วอยู่ตลอด
เคยถามเจ้าหน้าที่สายการบินตัวเองที่เค้าขับรถมาทำงานว่า
ถ้าขับรถเกินความเร็วที่กำหนดแล้วกล้องจับได้ เช่น เกินกว่า 120 กม/ชม. จะเกิดอะไรขึ้น
- เค้าบอกว่าถ้าเกิน 1 กม/ชม. ก็ปรับ 100 หยวน แต่มากสุดไม่เกิน 1000 หยวน หรือ 130 กม/ชม.
และก็ถามต่อว่า ถ้าซัด 200 มาเลย เค้าจะจับไหม
- ไม่จับครับ แต่จะตามถึงบ้านแล้วยึดรถไปเลย แถมยกเลิกใบขับขี่ทันที
และที่สำคัญคือ ตำรวจบ้านเค้าแรง ไม่สนว่าลูกหลานใคร กฏคือกฏ คนถึงกลัวกันมาก
เห็นบางคันเวลาวิ่งเร็วๆ พอใกล้กล้องก็เบรคกันตัวโก่ง ไม่มีใครอยากลองดีครับ
-
.
.
ผมไปขับรถที่อังกฤษเอาจริงๆไม่มีใครขับตามกฏหมายเรื่องความเร็วเลย
พอไม่มีกล้องก็ซัดกันเลนส์ขวานี่เกือบ 200 ด้วยซ้ำ ตอนแรกผมบ้าจี้
ขับความเร็วตามกฏหมาย ขนาดอยู่ซ้ายสุดยังโดนบีบแตรไล่
ความเร็ว 80 นี่ปัญญาอ่อนเกินไปจริงๆ อย่างน้อยควรจะ 100-110
-
คนบ้านนอกอย่างผมยังเข้าใจผิดว่าทางด่วนจะต้อง 120+ มาตลอด
-
คนดื่มเหล้า บางคนก็อายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ทั้งที่เหล้ามีผลเสียต่อสุภาพ
คนที่ชอบออกกำลังกาย บางคนก็อายุสั้นกว่าคนที่ไม่ชอบออกกำลังกาย
คนขับรถเร็ว บางคนก็เกิดอุบัติเหตุน้อยกว่าคนที่ขับรถไม่เร็ว
ผมไม่ได้บอกให้ทุกคนมาดื่มเหล้า
ไม่ได้บอกให้ทุกคนเลิกออกกำลังกาย
ไม่ได้บอกให้ขับรถเร็วเกินกำหนด
แต่อยากจะบอกว่า อุบัติเหตุไม่ได้เกิดจากสาเหตุขับรถเร็ว เพียงสาเหตุเดียวครับ
-
ต่อภาษีได้ แต่ระวังจะโดนตอนขายรถ มันโอนไม่ได้ต้องไปจ่ายค่าปรับ + ค่าจ่ายล่าช้าก่อน เสียเงินไม่เท่าไหร่ แต่ยุ่งยากมาก ต้องไป พื้นนั้นๆ ที่ขับเร็ว
ถ้าส่งไปรษณีก็เสียเวลามากมาย
80 ช้าไปจริงๆ ควรจะซัก 100 ในเมือง นอกเมือง 120
-
คนมันไร้ซึ่งความสามารถ ต่อให้ขับ 60-70 มันก็เกิดอุบัติเหตุอยู่ดี
จู่ๆเปลี่ยนเลยกระทันหัน ทำให้รถคันข้างๆหมุนตกทางด่วน มันก็เกิดการตายอยู่ดี
ผมไม่อยากให้คนที่เอาความกลัวหรือความสามารถของตัวเองมากำหนดเลย
เรื่องบางเรื่องน่าทำประชามติมากๆ
ผมจะน้อมรับเสียงของประชามติครับ
แต่ผมจะไม่น้อมรับคนที่เอาความสามารถ หรือความกลัวของตัวเองมาตัดสิน
-
เหมือนแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนะครับ เพ่งเล็งแต่เรื่องความเร็ว
ไม่ได้สนใจเรื่องจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ขับขี่เลย
+1
เห็นด้วยกับเมนต์นี้ รบกวนจับพวกเปลี่ยนเลนไม่เปิดไฟเลี้ยวด้วย, ช้าแช่ขวา, ช้ากว่าความเร็วเฉลี่ยกระแสรถโดยไม่สนใจคนอื่นแบบไร้จิตสำนึก
-
ถ้าผู้รักษากฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทำได้ ทหารทำได้
ผมประชาชนก็พร้อมจะทำครับ
ใช่ครับ ทุกคนไม่มีใครมาขับรถเล่นเที่ยงๆ บนทางด่วนหรอกครับ รีบและมีงานสำคัญกันทุกคน
ที่เปิดไฟ เอา สห มาไล่รถอื่นลงซ้ายให้ข้าไปก่อน เพราะข้ารีบ ฟังไม่ขี้นครับ
-
ก่อนหน้านี้เห็นว่ามีจะจับเรื่องเปลี่ยนเลนเส้นทึบด้วยนะครับ
จะทำก็ทำให้ต่อเนื่อง ไม่งั้นก็รณรงค์กันให้เปลืองงบไปอีก
แล้วก็อย่า 2 มาตรฐานด้วยนะครับ
-
จำกัดความเร็วผมเข้าใจได้นะ แต่ช่วยทำให้มันเป็นโซนแทนเหมายกเส้นได้ไหม เช่น ถ้าอยู่ในเขตชุมชน หรือใกล้ถึงทางร่วมทางแยก ถึงเริ่มมีจำกัดความเร็ว แต่ถ้าถนนที่เป็นไฮเวย์ต่างจังหวัด น่าจะไม่ต้องมาจำกัดความเร็วไปเลย (ยกเว้นแค่พอใกล้ๆถึงทางแยกสัก 3 โลข้างหน้า ก็จำกัดความเร็วเหลือ 90 ไรงี้ หรือถ้ามีก่อสร้างทาง หรือรถติดสะสม ก็ติดป้ายไฟแจ้งความเร็วที่จำกัดตามสภาพการจราจรได้) แบบที่ผมบอกนี่คือทางหลวงในอังกฤษเท่าที่เคยไปใช้ชีวิตอยู่มา
การจำกัดความเร็ว เป็นการลดความแตกต่างของความเร็วระหว่างรถและยานพาหนะทุกคันที่วิ่งบนถนน เพราะจริงๆแล้ว สาเหตุของรถติดเกิดจากความเร็วที่แตกต่างกันมากนั่นเอง (สมมติให้ทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีในการขับขี่ก่อนนะ) ตัวอย่างเช่น หากมีการจำกัดความเร็วไปตลอดทั้งช่วงถนนแบบประเทศไทย เวลามีรถวิ่งช้าแช่ขวา เราถึงบ่นกัน เพราะมันเป็นสาเหตุทำให้ปริมาณรถที่ถนนจะระบายได้มันลดลงนั่นเองครับ (และอาจเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นด้วย) แต่พอถึงทางร่วม ทางแยก เขตชุมชน ที่ต้องมีจำกัดความเร็วน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องความปลอดภัย แต่มันเป็นการระบายจำนวนรถให้ได้มีประสิทธิภาพ มันจะจำกัดไม่ให้รถที่พยายามจะวิ่งเร็ว เข้ามาป่วนทำให้ถนนระบายรถได้ช้าลง คงพอนึกภาพกันออก
ดังนั้นเวลาที่ไปขับรถในยุโรปหลายๆประเทศ จะพบว่า รถขับกันเร็วมากๆถ้าไม่มีจำกัดความเร็ว อย่างเนเธอแลนด์ ผมขับตั้ง 110 mph นอกเขตจำกัดความเร็ว คันข้างๆยังแซงผมเลย กลายเป็นขับไม่เร็วไป แต่พอเจอช่วงที่มีทำถนน หรือใกล้ทางแยก จะมีป้ายไฟ LED เห็นชัดเจนว่าให้ชะลอ รถทุกคันก็พร้อมใจกันชะลอ แล้วขับตามๆกันไป จนเรียกได้ว่า รถเราสามารถขับได้เท่ากับที่เขาจำกัดความเร็ว (เช่นจำกัด 60mph ก็ขับได้ที่ 50-60mph จริงๆ) ไม่ใช่ติดแหง็กแบบบ้านเรา (เพราะมีพวกไม่เคารพกฎชอบแทรกปาดไปๆมาๆ)
บ้านเรายังอีกห่างไกลครับเรื่องวินัยจราจร เอาแค่วิสัยทัศน์คนออกกฎหมายจราจรเองยังต้องปรับปรุงเยอะเลย
-
ตั้งกล้องจับพวกเปิดเลนพิเศษไหล่ทางดีกว่ามั้ยครับ
ตัวดีเลยพวกเนี้ย เบียดชาวบ้านเข้าทำรถติดอีก
-
แก้ปัญหาที่ปลายเหตุนี่เก่งนัก ที่เยอรมันบางถนนเป็นautobahn ไม่จำกัดความเร็ว คนเยียบกัน200+ กันเต็มไปหมด ไม่เห็นมีอุบัติเหตุบ่อยอย่างประเทศที่ห้ามขับเกิน80
วินัย ทักษะ สมอง ล้วนๆ
-
:-* ตามนี่ละกันเนอะ
-
ผมคิดว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดบนทางด่วน อุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ อุบัติเหตุร้ายแรงมักเกิดจากการดื่มแอลกอฮอร์ก่อนขับรถ
โดยส่วนตัวผมใช้ความเร็วให้สัมพันธ์กับสภาพการจราจร ถนนโล่งถ้ามีกิจธุระก็ขับเร็วหน่อย ถ้ามีรถเยอะก็ขับช้าหน่อย เพราะก็รักชีวิตตัวเองเหมือนกัน และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็รู้สึกเหมือนกัน จะมีสักกี่คนที่ตะบี้ตะบันขับเร็วแบบไร้สาระ รถใช้น้ำมันไม่ได้ใช้น้ำ ไม่ได้มีคนมาออกค่าน้ำมันให้ ฉะนั้นอย่าเหมาว่าการขับรถเร็วเป็นการซิ่งด้วยความคึกคะนองขาดสติ แต่ละคนก็มีเรื่องราวในชีวิต มีกิจธุระที่จะต้องไปทำ ไม่ใช่พวกเช้าชาม-เย็นยาม ที่ไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร
ปัญหาที่แท้จริงไม่ใช่เรื่องความเร็ว แต่ประกอบไปด้วย
1. วุฒิภาวะในการขับขี่ เรามีระบบทดสอบวุฒิภาวะก่อนออกใบขับขี่ที่เหมาะสมแล้วหรือยัง อย่าใช้เพียงอายุเป็นตัวกำหนดตวามพร้อม วุฒิภาวะทำให้ผู้ขับขี่สำนึกรู้ในสถานการณ์ สำนึกรู้ในความปลอดภัย
2. ทักษะในการขับรถ ซึ่งแต่ละคนมีความชำนาญไม่เท่ากัน
3. มีผู้ใช้รถจำนวนมากไม่มีใบอนุญาตขับขี่ โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ทำให้ไม่รู้กฏจราจร
4. ดื่มเหล้าแล้วขับรถ ทำให้วุฒิภาวะและความสามารถในการขับขี่ลดลง และเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงตามมา
การจำกัดความเร็วสามารถกระทำได้ เพียงแต่ต้องพอดีเหมาะสมแก่สถานการณ์และสภาพการณ์ การบังคับใช้กฏหมายที่ไม่เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง เป็นสาเหตุทำให้คนไม่ยอมรับไม่ปฏิบัติตาม คนส่วนใหญ่สามารถคิดได้ว่าความปลอดภัยอยู่ตรงไหน
ผู้ออกกฏหมายและผู้บังคับใช้กฏหมายต้องมีทัศนะคติเปิด ยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง หาข้อสรุปที่ตกผลึกทางสังคม และโฟกัสไปยังกลุ่มเสี่ยงมากกว่าการเหวื่ยงแหบังคับใช้กฏหมายแบบเหมารวม แบบมีผลประโยชน์แอบแฝงทับซ้อน เช่น ส่วนแบ่งค่าปรับ การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ตวรจจับความเร็ว เป็นต้น
การแก้ปัญหาที่ถูกจุดจะสามารถลดอุบัติเหตุที่ได้ผลและมีประสิทธิภาพมากกว่าในปัจจุบัน หากมองไม่เห็นต้นเหตุของปัญหา ต่อให้จำกัดความเร็วที่ 60 กม/ชม. ปัญหาอุบัตืเหตุก็ไม่ลดลง และอาจจะสร้างปัญหาสังคมด้านอื่นๆตามมา เช่น ปัญหารถเคลื่อนตัวช้าสะสมบนท้องถนนนานขึ้น ความเครียดและความเหนื่อยล้าจากการอยู่บนท้องถนนที่นานขึ้น ทัศนคติที่ไม่ดีและความเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่ การไม่ยอมรับ-กระด้างกระเดื่องต่อกฏหมาย เป็นต้น
-
ผมเห็นด้วยนะ ผมใช้ทางด่วนทุกวันเห็นตั้งแต่ Ecocar ยัน รถหรู 6สูบ ขับแซงด้วยความเร็วหวาดเสียวมาก
อีกอย่างนึง ติดกล้องจับรถวิ่งไหล่ทาง กับ รถวิ่งแช่เลนขวา ด้วยนะครับ
-
ถ้าออกกฎมาจริง กรมตำรวจคงมีรายได้ขึ้นอีกเยอะ บริษัทที่ขายกระดาษ A4 ให้คงมียอดขายเพิ่มขึ้น
....เกี่ยวกันไหมเนี้ย
ถ้าออกกฎมาจริง ถ้าผมขับเกิน 80 km/h แล้วมีเอกสารมาถึงบ้าน ก็ยินดีจ่ายแฟร์ๆกันไป ถือว่าผมละเมิดกฎ
-
ถ้าผู้รักษากฏหมายเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีทำได้ ทหารทำได้
ผมประชาชนก็พร้อมจะทำครับ
+1 ครับ
-
.
.
ผมไปขับรถที่อังกฤษเอาจริงๆไม่มีใครขับตามกฏหมายเรื่องความเร็วเลย
พอไม่มีกล้องก็ซัดกันเลนส์ขวานี่เกือบ 200 ด้วยซ้ำ ตอนแรกผมบ้าจี้
ขับความเร็วตามกฏหมาย ขนาดอยู่ซ้ายสุดยังโดนบีบแตรไล่
ความเร็ว 80 นี่ปัญญาอ่อนเกินไปจริงๆ อย่างน้อยควรจะ 100-110
Benz Sprinter แช่ 160 เลนขวายาวๆ แต่ Golf Gti ทะเบียนเยอรมัน ขับ 110 เป้ะ
-
ถ้าออกกฎมาจริง กรมตำรวจคงมีรายได้ขึ้นอีกเยอะ บริษัทที่ขายกระดาษ A4 ให้คงมียอดขายเพิ่มขึ้น
....เกี่ยวกันไหมเนี้ย
ถ้าออกกฎมาจริง ถ้าผมขับเกิน 80 km/h แล้วมีเอกสารมาถึงบ้าน ก็ยินดีจ่ายแฟร์ๆกันไป ถือว่าผมละเมิดกฎ
รายได้เท่าๆเดิมเพราะคนส่วนใหญ่ไม่จ่ายครับ ถ้าไปฟ้องศาลก็ต้องเสียเวลาและยุ่งยากพอสมควร ค่าปรับที่ได้ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย
-
จำกัดความเร็วเป็นแค่ปลายเหตุ
แก้ปัญหามอไซค์ฝ่าไฟแดงให้ได้ก่อนเถอะ
-
เรื่องโง่นี่ถนัดจริงๆ พอๆกับพวกที่คิดว่าวิ่งเร็วจะเกิดอุบัติเหตุเลย
ถ้าให้วิ่ง speed limit 120 - 140 แต่ทุกคนเคารพกฏจราจร ไม่แช่ขวา ไม่ปาดซ้ายปาดขวา รับรองอุบัติเหตุน้อยกว่าแน่นอน
-
เรื่องโง่นี่ถนัดจริงๆ พอๆกับพวกที่คิดว่าวิ่งเร็วจะเกิดอุบัติเหตุเลย
ถ้าให้วิ่ง speed limit 120 - 140 แต่ทุกคนเคารพกฏจราจร ไม่แช่ขวา ไม่ปาดซ้ายปาดขวา รับรองอุบัติเหตุน้อยกว่าแน่นอน
ทำให้ทุกคนเคารพกฏจราจรนี่ทำยังไงครับ
-
ที่บอกขับช้ากว่า 80 หลับนี่ไม่จริงครับ ไม่เห็นจะง่วงเลย
เกิดอะไรมาหลบทันดีจะตาย
ส่วนขับเร็วๆ สิ วูบเดียวหลับยาวครับ ข้างทาง
-
จำกัดความเร็วผมเข้าใจได้นะ แต่ช่วยทำให้มันเป็นโซนแทนเหมายกเส้นได้ไหม เช่น ถ้าอยู่ในเขตชุมชน หรือใกล้ถึงทางร่วมทางแยก ถึงเริ่มมีจำกัดความเร็ว แต่ถ้าถนนที่เป็นไฮเวย์ต่างจังหวัด น่าจะไม่ต้องมาจำกัดความเร็วไปเลย (ยกเว้นแค่พอใกล้ๆถึงทางแยกสัก 3 โลข้างหน้า ก็จำกัดความเร็วเหลือ 90 ไรงี้ หรือถ้ามีก่อสร้างทาง หรือรถติดสะสม ก็ติดป้ายไฟแจ้งความเร็วที่จำกัดตามสภาพการจราจรได้) แบบที่ผมบอกนี่คือทางหลวงในอังกฤษเท่าที่เคยไปใช้ชีวิตอยู่มา
การจำกัดความเร็ว เป็นการลดความแตกต่างของความเร็วระหว่างรถและยานพาหนะทุกคันที่วิ่งบนถนน เพราะจริงๆแล้ว สาเหตุของรถติดเกิดจากความเร็วที่แตกต่างกันมากนั่นเอง (สมมติให้ทุกคนมีจิตสำนึกที่ดีในการขับขี่ก่อนนะ) ตัวอย่างเช่น หากมีการจำกัดความเร็วไปตลอดทั้งช่วงถนนแบบประเทศไทย เวลามีรถวิ่งช้าแช่ขวา เราถึงบ่นกัน เพราะมันเป็นสาเหตุทำให้ปริมาณรถที่ถนนจะระบายได้มันลดลงนั่นเองครับ (และอาจเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นด้วย) แต่พอถึงทางร่วม ทางแยก เขตชุมชน ที่ต้องมีจำกัดความเร็วน่ะถูกแล้ว ไม่ใช่แค่เรื่องความปลอดภัย แต่มันเป็นการระบายจำนวนรถให้ได้มีประสิทธิภาพ มันจะจำกัดไม่ให้รถที่พยายามจะวิ่งเร็ว เข้ามาป่วนทำให้ถนนระบายรถได้ช้าลง คงพอนึกภาพกันออก
ดังนั้นเวลาที่ไปขับรถในยุโรปหลายๆประเทศ จะพบว่า รถขับกันเร็วมากๆถ้าไม่มีจำกัดความเร็ว อย่างเนเธอแลนด์ ผมขับตั้ง 110 mph นอกเขตจำกัดความเร็ว คันข้างๆยังแซงผมเลย กลายเป็นขับไม่เร็วไป แต่พอเจอช่วงที่มีทำถนน หรือใกล้ทางแยก จะมีป้ายไฟ LED เห็นชัดเจนว่าให้ชะลอ รถทุกคันก็พร้อมใจกันชะลอ แล้วขับตามๆกันไป จนเรียกได้ว่า รถเราสามารถขับได้เท่ากับที่เขาจำกัดความเร็ว (เช่นจำกัด 60mph ก็ขับได้ที่ 50-60mph จริงๆ) ไม่ใช่ติดแหง็กแบบบ้านเรา (เพราะมีพวกไม่เคารพกฎชอบแทรกปาดไปๆมาๆ)
บ้านเรายังอีกห่างไกลครับเรื่องวินัยจราจร เอาแค่วิสัยทัศน์คนออกกฎหมายจราจรเองยังต้องปรับปรุงเยอะเลย
อยากให้เป็นแบบนี้ครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
-
บ้านเราชอบตามประเทศAmerica
ทำไมไม่ตามGermanบ้าง
ขนาดสารคดีของเมกา ยังบอกเลยว่า ถนนไม่จำกัดความเร็วของเยอรมัน มันปลอดภัยเป็นอันดับต้นของโลก
-
บ้านเราชอบตามประเทศAmerica
ทำไมไม่ตามGermanบ้าง
ขนาดสารคดีของเมกา ยังบอกเลยว่า ถนนไม่จำกัดความเร็วของเยอรมัน มันปลอดภัยเป็นอันดับต้นของโลก
ถนนใครก็สร้างได้ครับ แต่วินัยคนสร้างยากกว่าครับ :-[
-
ไม่ค่อยได้ขึ้นทางด่วน
พอขึ้นทีไร มันก็วิ่งได้ไม่เกิน80กม/ชม. ;D
-
80 นี่.... เฮ้อ..... :-X
ไม่ออกกฏฯใหม่เลยล่ะ ว่าให้มีกล่องควบคุมความเร็วรถไม่เกิน 120 ไปเลย
บางทีขับทางด่วน บางคันขับ 60 แช่ เลนขวาหน้าโล่ง (จนเราต้องแซงซ้าย) ควรออกกฏ จับพวกขับช้าไปด้วยนะครับ ??
อยู่บนทางด่วน ผมแซงซ้ายบ่อยมากกกก เพราะเลนกลาง กับ เลนขวา บางทีมันชอบขับความเร็วเสมอกัน 70-90 :P